SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
โครงงานคอมพิวเตอร์ 
เรื่องระบบปฏิบัติการ 
ผู้จัดทา 
นางสาว กนกรัตน์ เคราะห์ดีเลขที่ 1 พณ.1/12 
นางสาว พรพิพล ขันติกรม เลขที่ 14 พณ.1/12 
นางสาว อรอนงค์ ชาวกุดรัง เลขที่ 22 พณ.1/12 
สอนโดย 
อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ 
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 
ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ 
สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น 
ปีการศึกษา 2557
เรื่องระบบปฏิบัติการ 
ประเภทโครงงานโครงงานสื่อการศึกษา 
ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 
โดย นางสาว กนกรัตน์ เคราะห์ดีเลขที่ 1 
นางสาว พรพิพล ขันติกรม เลขที่ 14 
นางสาว อรนงค์ ชาวกุดรัง เลขที่ 22 
โรงเรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น 
สังกัด สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 
ครูที่ปรึกษา นางอุทุมพร สุภาระโยธิน 
ปีการศึกษา 2557 
บทคัดย่อ 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของราย วิชาระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ในการพัฒนาสื่อสารการเรียนรู้ 
ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ 
ในการจัดทา รายงานประกอบสื่อสารเรียนรู้ในครั้งนี้ ผู้จัดทา ขอขอบคุณ อาจารย์ ธิดารัตน์ 
พลพันธ์สิงห์ ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด 
ผู้จัดทา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะไห้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
กิตติกรรมประกาศ 
โครงงานนี้สา เร็จได้ด้วยความกรุณา อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ 
อาจารย์ประจา วิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น 
ที่ให้คา ปรึกษาในการแก้ไขและปรับปรุงโครงงานให้สา เร็จเป็นอย่างสูง
สารบัญ 
เรื่อง 
กิตติกรรมประกาศ ก 
บทคัดย่อ ข 
สารบัญ ค 
บทที่ 1 บทนา 1 
ที่มาและความสา คัญ 2 
วัตถุประสงค์ 3 
ขอบเขตการศึกษา 4 
ผลที่คาดว่าจะได้รับ 5 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 6 
ความสา คัญของระบบปฏิบัติการ 7 
ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ 8 
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 9 
บทที่ 3 อุปกรณ์และการดา เนินการ 10 
วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือการใช้ระบบปฏิบัติการ 11 
บทที่ 4 ผลการดา เนินโครงงาน 12 
ผลการใช้ระบบปฏิบัติการ 13
บทที่ 5 สรุปผลการดา เนินงานและข้อเสนอแนะ 14 
บทที่ 1 บทนา 
ที่มาและความสาคัญ 
ถ้ามีรถยนต์อยู่แต่ขับรถยนต์ไม่เป็นรถยนต์คันดังกล่าวก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยคอม 
พิวเตอร์ก็เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเพียงใดก็ตามถ้าหากเ 
ครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไม่มีระบบปฏิบัติการคอยควบคุมการทา งานซึ่งเปรียบได้กับรถยนต์ที่ 
ไม่มีคนขับเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวก็จะไม่มีประโยชน์เลยดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงมีความ 
สาคัญเปรียบเสมือนกับคนขับรถยนต์ที่จะต้องคอยควบคุมรถให้เดินทางไปถึงที่หมายอย่างถูกต้ 
องและปลอดภัยระบบปฏิบัติการก็จะต้องควบคุมการทา งานของคอมพิวเตอร์ให้ทา งานตามที่ต้อ 
งการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 
ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการไม่ได้นา มาใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมัย 
ใหม่ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเล่นเกมส์ หรือแม้กระทั่งเครื่องซักผ้า 
ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทา งานเช่นกันแต่จะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสา 
หรับอุปกรณ์นั้นๆโดยเฉพาะความเป็นมาของระบบปฏิบัติการOSวัตถุประสงค์ 
1.เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ2.เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจเรื่องระบบปฏิบั 
ติการขอบเขตการศึกษา1.ขอบเขตด้านเนื้อหาเรื่องระบบปฏิบัติการซึ่งประกอบด้วยหน่วยประม 
วลผลคา และคอมพิวเตอร์สารสนเทศ2.โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน2.1โปรแกรมMicrosoft 
Wordผลที่คาดว่าจะได้รับ 
1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ2.ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
3.สามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ไปใช้ในการศึกษา
บทที่ 2 
เอกสารที่เกี่ยวข้อง 
การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการนี้ผู้จัดทา ได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยว 
ข้องดังต่อไปนี้ 
1.ความหมายระบบปฏิบัติการ 
2.ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ 
3.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 
ความหมายของระบบปฏิบัติการ 
โปรแกรมระบบปฏิบัติการหรือOperating System เรียกสั้น ๆ ว่า OS เป็นโปรแกรม 
ควบคุมการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทา หน้าที่ควบคุมการทา งานต่างๆเช่นการแสดงผลข้อ 
มูลการติดต่อกับผู้ใช้โดยทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้คว 
บคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่างๆโดยทั่วไประบบคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 4 ส่วน 
คือ ฮาร์ดแวร์ระบบปฏิบัติการโปรแกรมประประยุกต์ และผู้ใช้ 
ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องระบบปฏิบัติการจึงเป็นเรื่องจา เป็นอย่างยิ่งเพราะจะทา ให้เราสามาร 
ถที่จะคัดเลือกระบบปฏิบัติการ เพื่ออประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
ระบบปฏิบัติการ(OperatingSystem)ระบบต่างๆ 
การทา งานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทา งานด้วยตัวเองได้แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้ค 
อมพิวเตอร์ทา งานซึ่งเรียกว่า“ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น2 ประเภท 
คือ
โปรแกรมสาเร็จรูปและโปรแกรมระบบปฏิบัติการซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ในการจัดกา 
รและควบคุมการทา งานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น 
การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ 
รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลการจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้มการติดตั้ 
งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ 
(User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ 
ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สา คัญ ๆ มีดังนี้ 
1.ระบบปฏิบัติการDOS(DiskOperatingSystem) 
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM 
เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการสา หรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรมDOS จะถูก Load 
หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจา ก่อน จากนั้น DOS 
จะไปทา หน้าที่เป็นผู้ประสานงานต่างๆระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมั 
ติ โดยที่ DOS 
จะรับคา สั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้วนา ไปปฏิบัติตามโดยการทา งานจะเป็นแบบ Text mode 
สั่งงานโดยการกดคา สั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจา คา สั่งต่าง 
ๆในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ DOS 
ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่ และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก 
2.ระบบปฏิบัติการ(MicrosoftWindows) 
Windowsเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้ 
(User interface) เป็นแบบกราฟิกหรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคา สั่ง เรียกว่า GUI (Graphic 
User Interface) 
โดยสามารถสั่งให้เครื่องทา งานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คา สั่งที่ต้องการระบบ 
นี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 
โปรแกรมในขณะเดียวกันซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทา งานโปรแกรมอื่น ๆ 
จะต้องออกจาก โปรแกรมเดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้
ในลักษณะการทา งานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” 
โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ 
สลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ 
สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์ด (Clipboard) ระบบ Windows ทา ให้ผู้ใช้ ทั่ว 
ๆไปสามารถทา ความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น 
3.ระบบปฏิบัติการ(Unix) 
Unixเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems 
แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PCแต่อย่างใด 
แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) 
ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ 
Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ 
ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ 
(Multiuser system) และสามารถทา งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า 
ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system) 
4.ระบบปฏิบัติการ(Linux) 
Linuxเป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด 
ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่งการที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 
2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ทา งานบนระบบ 
Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) 
และสิ่งที่สาคัญที่สุดก็ คือระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) 
คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี 
นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทา ให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอย่างรวดเร็ว 
โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการหรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux 
Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทา งานแบบหลายซีพียู หรือ SMP 
(Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทา ให้ระบบLinux สามารถนา ไปใช้สา หรับทา งาน เป็น 
Saverขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทา งานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ 
บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer
และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package 
Management) 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 
คอมพิวเตอร์ทา งานอย่างเป็นระบบ (System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ 
ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มีหน้าที่เฉพาะ ทา งานประสานสัมพันธ์กัน 
เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ 
การที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวจะยังไม่สามารถทา งานได้ด้วยตัวเองซึ่งหากจะให้คอม 
พิวเตอร์ทา งานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้วระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไป 
ด้วยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) 
ข้อมูล(Data) 
1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องที่สามารถจับต้องได้ ได้แก่ 
วงจรไฟฟ้า ตัวเครื่อง จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีย์บอร์ด 
เป็นต้นซึ่งสามารถแบ่งส่วนพื้นฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสา คัญ 
1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit)ทา หน้าที่รับข้อมูลและโปรแกรมเข้า ได้แก่ 
คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน เป็นต้น 
1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing 
Unit)ทา หน้าที่ในการทา งานตามคา สั่งที่ปรากฏอยู่ในโปรแกรม ปัจจุบันซีพียูของเครื่องพีซี 
รู้จักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor) หรือ Chip เช่นบริษัท Intel คือ Pentium 
1.3 หน่วยเก็บข้อมูล ( Storage )ซึ่งสามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 
1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจา หลัก ( Primary Storage หรือ Main Memory ) 
ทา หน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผล 
กลางทา การประมวลผล 
และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป 
1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสา รอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทา หน้าที่เก็บข้อมูล 
หรือโปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หน่วยความจา หลักภายในเครื่องก่อนทา การประมวลผลโดยซีพียู 
รวมทั้งเป็นที่เก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) 
หรือแผ่นฟร็อปปีดิสก์ (Floppy Disk) ซึ่งเมื่อปิดเครื่องข้อมูลจะยังคงเก็บอยู่ 
1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output 
Unit )ทา หน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ 
เป็นต้น ทั้ง 4 ส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วยบัส ( Bus )
2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) 
ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชุดคา สั่ง ที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทา งาน 
รวมไปถึงการควบคุมการทา งาน ของอุปกรณ์แวดล้อมต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม 
การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ 
แต่รับรู้การทา งานของมันได้ ซึ่งต่างกับ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่สามารถจับต้องได้ซึ่งแบ่งเป็น 2 
ประเภทคือ 
2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software )คือโปรแกรม ที่ใช้ในการควบคุมระบบการ 
ทา งานของ 
เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น การบูดเครื่อง การสา เนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ 
ชุดคา สั่งที่เขียนเป็นคา สั่งสา เร็จรูป 
2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) 
เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุมและติดต่อกับอุปกรณ์ต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะการจัดก 
ารระบบของดิสก์การบริหารหน่วยความจา ของระบบ 
2.1.2 ตัวแปลภาษา(Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code 
(แปลจากภาษาที่มนุษย์เข้าใจ ให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) 
เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูง ซึ่ง เป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนุษย์ 
ให้เป็นภาษาเครื่องก่อนที่จะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 
คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) 
2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) 
คือซอฟต์แวร์เสริมช่วยให้เครื่องทา งานมีประสิทธิภาพ มากขึ้น เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ 
ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ช่วยสาเนาข้อมูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ 
ช่วยค้นหาและกา จัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้นโปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่ โปรแกรม Norton Winzip 
Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver เป็นต้น 
2.1.4 ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) 
เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอุปกรณ์ต่าง 
ๆ ที่นา มาติดตั้งระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setupและ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Microsoft 
Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer , Driver Scanner เป็นต้น 
2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) 
ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทา ให้คอมพิวเตอร์ทา งานต่างๆ 
ตามที่ผู้ใช้ต้องการ 
ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจา แนก 
ได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ 
โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทา งานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น 
โปรแกรมการทา บัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมการทา สินค้าคงคลัง 
เป็นต้น 
2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทั่วไป (General Purpose Software) 
เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทา ไว้ เพื่อใช้ในการทา งานประเภทต่างๆ ทั่วไป 
3 บุคลากร ( Peopleware ) 
บุคลากรจะเป็นสิ่งสา คัญที่จะเป็นตัวกา หนดถึงประสิทธิภาพถึงความสา เร็จและความคุ้มค่าในกา 
รใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งบุคลากรตามหน้าที่เกี่ยวข้องตามลักษณะงานได้ 6 ด้าน 
ดังนี้ 
3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : 
SA )ทา หน้าที่ศึกษาและรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบและทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่าง 
ผู้ใช้ระบบและนักเขียนโปรแกรม 
(Programmer)หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิมนักวิเคราะห์ระบบต้องมีความรู้เกี่ยวกับระบบคอมพิ 
วเตอร์ พื้นฐานการเขียนโปรแกรม 
และควรจะเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 
3.2 โปรแกรมเมอร์ 
( Programmer )คือบุคคลที่ทา หน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ต่างๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่ 
งงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทา งานตามความต้องการของผู้ใช้โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ 
ระบบได้เขียนไว้ 
3.3 ผู้ใช้ ( User )เป็นผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ 
ซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติหรือกา หนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ว่าทา งานอะไรได้บ้างผู้ 
ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องและวิธีการใช้งานโปรแกรม 
เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทา งานได้ตามที่ต้องการ 
3.4 ผู้ปฏิบัติการ (Operator )สา หรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม 
จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปิดเครื่อง 
และเฝ้าดูจอภาพเมื่อมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจ้ง System Programmer 
ซึ่งเป็นผู้ดูแลตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทีหนึ่ง
3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : 
DBA )กลุ่มบุคคลที่ทา หน้าที่ดูแลข้อมูลผ่านระบบจัดการฐานข้อมูล 
ซึ่งจะควบคุมให้การทา งานเป็นไปอย่างราบรื่น 
3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ 
ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน 
เป็นผู้ที่มีความหมายต่อความสา เร็จหรือล้มเหลวของการนา ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็น 
อย่างมาก 
4. ข้อมูล 
ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วใช้ตัวเลขตัวอักษร 
หรือสัญลักษณ์ ต่างๆ ทา ความหมายแทนสิ่งเหล่านั้น 
ข้อมูล คือค่าของตัวแปรในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ที่อยู่ในความควบคุมของกลุ่มของสิ่งต่าง 
ๆ ข้อมูลในเรื่องการคอมพิวเตอร์ (หรือการประมวลผลข้อมูล) 
จะแสดงแทนด้วยโครงสร้างอย่างหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นโครงสร้างตาราง 
บทที่ 3 
อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ 
การจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาระบบปฏิบัติการ 
มีวิธีการดา เนินโครงงานตามขั้นตอนต่อไปนี้ 
1.วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการศึกษาระบบปฏิบัติการ 
1.1เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
1.2โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 
1.3โปรแกรม Microsoft Word 
2.ขั้นตอนการดาเนินงาน 
2.1คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ 
2.2ศึกษาและค้นคว้าข้อมลูที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจคือเรื่องระบบปฏิบัติการและศึกษาค้นคว้าเ 
พิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่าง ๆ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อจักทา เนื้อหาดังต่อไป 
2.3ศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 
2.4จักทา โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนา เสนออาจารย์ 
2.5จักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการโดยสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบ 
บเสนอโครงร่างที่เสนอ 
2.6นา เสนอรายงานความก้าวหน้าให้อาจารย์ได้ตรวจสอบซึ่งอาจารย์จะให้ข้อเสนอต่างๆเพื่อให้ 
จัดทา เนื้อหาและการนา เสนอที่น่าสนใจ 
ทั้งนี้เมื่อได้รับแนะนา ก็จะนา มาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่น่าสนใจ 
2.7จัดทา เอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 
2.8ประเมินผลงานโดยให้อาจารย์ประเมินผลงานและให้เพื่อนผู้ที่สนใจร่วมประเมิน
บทที่ 4 
ผลการดา เนินโครงการ 
ในการศึกษาโครงงานครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงสา รวจ เพื่อศึกษา 
“ความพึงพอใจในการเพื่อเผยแพร่ บทความความรู้ ออนไลน์เรื่อง ระบบปฏิบัติการ 
(Operating System)” ซึ่งประกอบไปด้วย 
1. วิชา ระบบปฏิบัติการเบื้องต้น (2204-2002)
2. วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) 
3. วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) รวม 3 รายวิชาดังกล่าว 
โดยการบูรณการร่วมกัน เป็นการ นา เสนอผลการทา โครงงานคอมพิวเตอร์ 
ผลการประเมินได้จาก การเก็บข้อมูลจากกลุ่มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพห้อง พณ 
.1/12 ผู้จา ทา ขอนา เสนอผลงาน รวม blogspot ทุกชั้น เรียน ระดับ ปวช. 
แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ของครู ธิดารัตน์ พล พันธ์สิงห์ http://kvcthidarat.blogspot.com/ 
ซึ่งรวมทุก Blogspot ในระดับชั้น ปวช. 1 แผนกสาขาคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทา ได้จัดทา 
Blogspot เพื่อเผยแพร่ ความรู้ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) 
http://patcharapornsaenkam.blogspot.com/ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยจา แนกรายละเอียด 
ตามวิธีการศึกษา ข้อมูลดังนี้ 
Blogspot ของครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รวม ทุก Blogspot ของ นักเรียน ระดับ ปวช. 
แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
Blogspot http://aoftunmory.blogspot.com/ ซึ่ง เป็นของ คณะผู้จัดทา ได้ทา 
บทความความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) และใน Blogspot 
ได้ นาเอาโครงงาน บทความความรู้ ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating 
System) ลงใน บทความ โดยการ แปลง File จาก โปรแกรม Microsoft Word เป็น Pdf 
file เพื่อ Upload ลงใน Website : slideshare.net 
ผลการประเมิน จากตาราง
บทที่ 5 
สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ 
การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ 
นี้สรุปผลการดา เนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้ 
1การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 
2วัตถุประสงค์ ของโครงงาน 
3 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่อง 3Gและ 4G 
เทคโนโลยีใหม่มาแรง 
4 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ 3G และ 4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง
5 
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ด้วยตนเองและนามาประยุ 
กต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิงขึ้น 
6 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผสานใจทั่วไป 
7 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือทีใช้ในการพัฒนา ่่ 
8 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่ อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
9 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 
10 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น www.facebook.comwww.hotmail.com 
www.google.com 
11 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่นAdobe Photoshop CS4 และPhotoScape2.05.2 
สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpressเรื่อง 3G และ 
4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง นี้ผูจดทาได้เริ่มดา เนินงานตามขั้นตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทที่ 
3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ http://www.wordpress.com 
จากนั้นได้นาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาโดยได้นาเผยแพร่ ที่เว็บบล็อกชื่ 
อhttp://mammai1506.wordpress.com/ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social 
Mediaประเภทเว็บไซต์ facebookของผู้จุดทาที่http://www.facebook.com/shes.mammai 
ทั้งนี้เว็บบล็อก ดังกล่าวสามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครู 
ที่ปรึกษาเพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้โดยแสดงความเห็นในเนื้อ 
หาและรูปแบบของการนาเสนออย่างหลากหลาย 
ซึ่งทานให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว5.3 
ข้อเสนอแนะ 
12 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อกคือ Wordpressเป็นเว็บบล็อกสาเหตุรูปที่ใช้ทาเว็บไซต์ได้ง่าย 
และรวดเร็ วแต่ถาเราใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
ก็จะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธ์ิ และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผูจดทาควรเผยแพร่ 
สิ่งที่ดีๆให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้และสิ่งดีๆ 
นาไปเผยแพร่ต่อให้อื่นมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป 
12.1 ควรมีการจัดทาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 
12.2 ควรมีการจัดทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม 
12.3 ปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการพัฒนา 
12.4 เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่เพียงพอกับการทาโครงงานและบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา 
เข้าพร้อมกันก็จะทาให้ชาจึงทาให้การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย 
12.5 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกค่อนข้างช้า 
ทาให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้เพราะครูผู้สอนไม่สามารถสอนเนื้อหาเพิ่มเติมได้ 
บรรณานุกรม 
ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ https://sites.google.com/site/operatingsystemeng1/khwam-hmay- 
khxng-rabb-ptibati-kar

More Related Content

What's hot

โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน kanoksuk
 
โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คโครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คNichakarnkvc
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์NeNo Srimueagbun
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 

What's hot (11)

โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน
 
โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คโครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
 
โครงาน
โครงานโครงาน
โครงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 

Similar to โครงงาน

โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างpranpreya258
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างpranpreya258
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์wanuporn12345
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงานwanuporn12345
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ jamiezaa123
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .jamiezaa123
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ jamiezaa123
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์jamiezaa123
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์oiw1234
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ jamiezaa123
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์Peem Jirayut
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์Peem Jirayut
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas55
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ภาคิน ดวงคุณ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์Peem Jirayut
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์katlove2541
 
โปรเจกเวอกร์
โปรเจกเวอกร์โปรเจกเวอกร์
โปรเจกเวอกร์jamiezaa123
 

Similar to โครงงาน (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
223333
223333223333
223333
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่ิอง ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ .
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โปรเจกเวอกร์
โปรเจกเวอกร์โปรเจกเวอกร์
โปรเจกเวอกร์
 

โครงงาน

  • 1. โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องระบบปฏิบัติการ ผู้จัดทา นางสาว กนกรัตน์ เคราะห์ดีเลขที่ 1 พณ.1/12 นางสาว พรพิพล ขันติกรม เลขที่ 14 พณ.1/12 นางสาว อรอนงค์ ชาวกุดรัง เลขที่ 22 พณ.1/12 สอนโดย อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ปีการศึกษา 2557
  • 2. เรื่องระบบปฏิบัติการ ประเภทโครงงานโครงงานสื่อการศึกษา ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดย นางสาว กนกรัตน์ เคราะห์ดีเลขที่ 1 นางสาว พรพิพล ขันติกรม เลขที่ 14 นางสาว อรนงค์ ชาวกุดรัง เลขที่ 22 โรงเรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สังกัด สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ครูที่ปรึกษา นางอุทุมพร สุภาระโยธิน ปีการศึกษา 2557 บทคัดย่อ โครงงานคอมพิวเตอร์ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของราย วิชาระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ในการพัฒนาสื่อสารการเรียนรู้ ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ ในการจัดทา รายงานประกอบสื่อสารเรียนรู้ในครั้งนี้ ผู้จัดทา ขอขอบคุณ อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะไห้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
  • 3. กิตติกรรมประกาศ โครงงานนี้สา เร็จได้ด้วยความกรุณา อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ อาจารย์ประจา วิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น ที่ให้คา ปรึกษาในการแก้ไขและปรับปรุงโครงงานให้สา เร็จเป็นอย่างสูง
  • 4. สารบัญ เรื่อง กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนา 1 ที่มาและความสา คัญ 2 วัตถุประสงค์ 3 ขอบเขตการศึกษา 4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 5 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 6 ความสา คัญของระบบปฏิบัติการ 7 ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ 8 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 9 บทที่ 3 อุปกรณ์และการดา เนินการ 10 วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือการใช้ระบบปฏิบัติการ 11 บทที่ 4 ผลการดา เนินโครงงาน 12 ผลการใช้ระบบปฏิบัติการ 13
  • 5. บทที่ 5 สรุปผลการดา เนินงานและข้อเสนอแนะ 14 บทที่ 1 บทนา ที่มาและความสาคัญ ถ้ามีรถยนต์อยู่แต่ขับรถยนต์ไม่เป็นรถยนต์คันดังกล่าวก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยคอม พิวเตอร์ก็เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเพียงใดก็ตามถ้าหากเ ครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไม่มีระบบปฏิบัติการคอยควบคุมการทา งานซึ่งเปรียบได้กับรถยนต์ที่ ไม่มีคนขับเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวก็จะไม่มีประโยชน์เลยดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงมีความ สาคัญเปรียบเสมือนกับคนขับรถยนต์ที่จะต้องคอยควบคุมรถให้เดินทางไปถึงที่หมายอย่างถูกต้ องและปลอดภัยระบบปฏิบัติการก็จะต้องควบคุมการทา งานของคอมพิวเตอร์ให้ทา งานตามที่ต้อ งการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการไม่ได้นา มาใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมัย ใหม่ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเล่นเกมส์ หรือแม้กระทั่งเครื่องซักผ้า ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทา งานเช่นกันแต่จะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสา หรับอุปกรณ์นั้นๆโดยเฉพาะความเป็นมาของระบบปฏิบัติการOSวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ2.เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจเรื่องระบบปฏิบั ติการขอบเขตการศึกษา1.ขอบเขตด้านเนื้อหาเรื่องระบบปฏิบัติการซึ่งประกอบด้วยหน่วยประม วลผลคา และคอมพิวเตอร์สารสนเทศ2.โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน2.1โปรแกรมMicrosoft Wordผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ2.ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.สามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ไปใช้ในการศึกษา
  • 6. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการนี้ผู้จัดทา ได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยว ข้องดังต่อไปนี้ 1.ความหมายระบบปฏิบัติการ 2.ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ 3.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ความหมายของระบบปฏิบัติการ โปรแกรมระบบปฏิบัติการหรือOperating System เรียกสั้น ๆ ว่า OS เป็นโปรแกรม ควบคุมการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทา หน้าที่ควบคุมการทา งานต่างๆเช่นการแสดงผลข้อ มูลการติดต่อกับผู้ใช้โดยทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้คว บคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่างๆโดยทั่วไประบบคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ระบบปฏิบัติการโปรแกรมประประยุกต์ และผู้ใช้ ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องระบบปฏิบัติการจึงเป็นเรื่องจา เป็นอย่างยิ่งเพราะจะทา ให้เราสามาร ถที่จะคัดเลือกระบบปฏิบัติการ เพื่ออประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบปฏิบัติการ(OperatingSystem)ระบบต่างๆ การทา งานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทา งานด้วยตัวเองได้แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้ค อมพิวเตอร์ทา งานซึ่งเรียกว่า“ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น2 ประเภท คือ
  • 7. โปรแกรมสาเร็จรูปและโปรแกรมระบบปฏิบัติการซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ในการจัดกา รและควบคุมการทา งานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลการจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้มการติดตั้ งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สา คัญ ๆ มีดังนี้ 1.ระบบปฏิบัติการDOS(DiskOperatingSystem) ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการสา หรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรมDOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจา ก่อน จากนั้น DOS จะไปทา หน้าที่เป็นผู้ประสานงานต่างๆระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมั ติ โดยที่ DOS จะรับคา สั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้วนา ไปปฏิบัติตามโดยการทา งานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคา สั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจา คา สั่งต่าง ๆในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่ และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก 2.ระบบปฏิบัติการ(MicrosoftWindows) Windowsเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้ (User interface) เป็นแบบกราฟิกหรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคา สั่ง เรียกว่า GUI (Graphic User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทา งานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คา สั่งที่ต้องการระบบ นี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกันซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทา งานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรมเดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้
  • 8. ในลักษณะการทา งานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์ด (Clipboard) ระบบ Windows ทา ให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทา ความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น 3.ระบบปฏิบัติการ(Unix) Unixเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PCแต่อย่างใด แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser system) และสามารถทา งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system) 4.ระบบปฏิบัติการ(Linux) Linuxเป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่งการที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ทา งานบนระบบ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สาคัญที่สุดก็ คือระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทา ให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการหรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทา งานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทา ให้ระบบLinux สามารถนา ไปใช้สา หรับทา งาน เป็น Saverขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทา งานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer
  • 9. และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ทา งานอย่างเป็นระบบ (System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มีหน้าที่เฉพาะ ทา งานประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ การที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวจะยังไม่สามารถทา งานได้ด้วยตัวเองซึ่งหากจะให้คอม พิวเตอร์ทา งานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้วระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไป ด้วยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูล(Data) 1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องที่สามารถจับต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟ้า ตัวเครื่อง จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีย์บอร์ด เป็นต้นซึ่งสามารถแบ่งส่วนพื้นฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสา คัญ 1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit)ทา หน้าที่รับข้อมูลและโปรแกรมเข้า ได้แก่ คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน เป็นต้น 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing Unit)ทา หน้าที่ในการทา งานตามคา สั่งที่ปรากฏอยู่ในโปรแกรม ปัจจุบันซีพียูของเครื่องพีซี รู้จักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor) หรือ Chip เช่นบริษัท Intel คือ Pentium 1.3 หน่วยเก็บข้อมูล ( Storage )ซึ่งสามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจา หลัก ( Primary Storage หรือ Main Memory ) ทา หน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผล กลางทา การประมวลผล และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป 1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสา รอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทา หน้าที่เก็บข้อมูล หรือโปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หน่วยความจา หลักภายในเครื่องก่อนทา การประมวลผลโดยซีพียู รวมทั้งเป็นที่เก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผ่นฟร็อปปีดิสก์ (Floppy Disk) ซึ่งเมื่อปิดเครื่องข้อมูลจะยังคงเก็บอยู่ 1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit )ทา หน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น ทั้ง 4 ส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วยบัส ( Bus )
  • 10. 2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชุดคา สั่ง ที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทา งาน รวมไปถึงการควบคุมการทา งาน ของอุปกรณ์แวดล้อมต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ แต่รับรู้การทา งานของมันได้ ซึ่งต่างกับ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่สามารถจับต้องได้ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software )คือโปรแกรม ที่ใช้ในการควบคุมระบบการ ทา งานของ เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น การบูดเครื่อง การสา เนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ ชุดคา สั่งที่เขียนเป็นคา สั่งสา เร็จรูป 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุมและติดต่อกับอุปกรณ์ต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะการจัดก ารระบบของดิสก์การบริหารหน่วยความจา ของระบบ 2.1.2 ตัวแปลภาษา(Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์เข้าใจ ให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูง ซึ่ง เป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนุษย์ ให้เป็นภาษาเครื่องก่อนที่จะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) 2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมช่วยให้เครื่องทา งานมีประสิทธิภาพ มากขึ้น เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ช่วยสาเนาข้อมูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ ช่วยค้นหาและกา จัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้นโปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่ โปรแกรม Norton Winzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver เป็นต้น 2.1.4 ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นา มาติดตั้งระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setupและ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer , Driver Scanner เป็นต้น 2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทา ให้คอมพิวเตอร์ทา งานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจา แนก ได้เป็น 2 ประเภท คือ
  • 11. 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทา งานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น โปรแกรมการทา บัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมการทา สินค้าคงคลัง เป็นต้น 2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทั่วไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทา ไว้ เพื่อใช้ในการทา งานประเภทต่างๆ ทั่วไป 3 บุคลากร ( Peopleware ) บุคลากรจะเป็นสิ่งสา คัญที่จะเป็นตัวกา หนดถึงประสิทธิภาพถึงความสา เร็จและความคุ้มค่าในกา รใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งบุคลากรตามหน้าที่เกี่ยวข้องตามลักษณะงานได้ 6 ด้าน ดังนี้ 3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA )ทา หน้าที่ศึกษาและรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบและทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่าง ผู้ใช้ระบบและนักเขียนโปรแกรม (Programmer)หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิมนักวิเคราะห์ระบบต้องมีความรู้เกี่ยวกับระบบคอมพิ วเตอร์ พื้นฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer )คือบุคคลที่ทา หน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ต่างๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่ งงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทา งานตามความต้องการของผู้ใช้โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ ระบบได้เขียนไว้ 3.3 ผู้ใช้ ( User )เป็นผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติหรือกา หนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ว่าทา งานอะไรได้บ้างผู้ ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องและวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทา งานได้ตามที่ต้องการ 3.4 ผู้ปฏิบัติการ (Operator )สา หรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปิดเครื่อง และเฝ้าดูจอภาพเมื่อมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจ้ง System Programmer ซึ่งเป็นผู้ดูแลตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทีหนึ่ง
  • 12. 3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA )กลุ่มบุคคลที่ทา หน้าที่ดูแลข้อมูลผ่านระบบจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะควบคุมให้การทา งานเป็นไปอย่างราบรื่น 3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน เป็นผู้ที่มีความหมายต่อความสา เร็จหรือล้มเหลวของการนา ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็น อย่างมาก 4. ข้อมูล ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วใช้ตัวเลขตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ ต่างๆ ทา ความหมายแทนสิ่งเหล่านั้น ข้อมูล คือค่าของตัวแปรในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ที่อยู่ในความควบคุมของกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลในเรื่องการคอมพิวเตอร์ (หรือการประมวลผลข้อมูล) จะแสดงแทนด้วยโครงสร้างอย่างหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นโครงสร้างตาราง บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ การจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาระบบปฏิบัติการ มีวิธีการดา เนินโครงงานตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1.วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการศึกษาระบบปฏิบัติการ 1.1เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
  • 13. 1.2โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 1.3โปรแกรม Microsoft Word 2.ขั้นตอนการดาเนินงาน 2.1คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ 2.2ศึกษาและค้นคว้าข้อมลูที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจคือเรื่องระบบปฏิบัติการและศึกษาค้นคว้าเ พิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่าง ๆ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อจักทา เนื้อหาดังต่อไป 2.3ศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 2.4จักทา โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนา เสนออาจารย์ 2.5จักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการโดยสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบ บเสนอโครงร่างที่เสนอ 2.6นา เสนอรายงานความก้าวหน้าให้อาจารย์ได้ตรวจสอบซึ่งอาจารย์จะให้ข้อเสนอต่างๆเพื่อให้ จัดทา เนื้อหาและการนา เสนอที่น่าสนใจ ทั้งนี้เมื่อได้รับแนะนา ก็จะนา มาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่น่าสนใจ 2.7จัดทา เอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 2.8ประเมินผลงานโดยให้อาจารย์ประเมินผลงานและให้เพื่อนผู้ที่สนใจร่วมประเมิน
  • 14. บทที่ 4 ผลการดา เนินโครงการ ในการศึกษาโครงงานครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงสา รวจ เพื่อศึกษา “ความพึงพอใจในการเพื่อเผยแพร่ บทความความรู้ ออนไลน์เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System)” ซึ่งประกอบไปด้วย 1. วิชา ระบบปฏิบัติการเบื้องต้น (2204-2002)
  • 15. 2. วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) 3. วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) รวม 3 รายวิชาดังกล่าว โดยการบูรณการร่วมกัน เป็นการ นา เสนอผลการทา โครงงานคอมพิวเตอร์ ผลการประเมินได้จาก การเก็บข้อมูลจากกลุ่มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพห้อง พณ .1/12 ผู้จา ทา ขอนา เสนอผลงาน รวม blogspot ทุกชั้น เรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ของครู ธิดารัตน์ พล พันธ์สิงห์ http://kvcthidarat.blogspot.com/ ซึ่งรวมทุก Blogspot ในระดับชั้น ปวช. 1 แผนกสาขาคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทา ได้จัดทา Blogspot เพื่อเผยแพร่ ความรู้ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) http://patcharapornsaenkam.blogspot.com/ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยจา แนกรายละเอียด ตามวิธีการศึกษา ข้อมูลดังนี้ Blogspot ของครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รวม ทุก Blogspot ของ นักเรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
  • 16. Blogspot http://aoftunmory.blogspot.com/ ซึ่ง เป็นของ คณะผู้จัดทา ได้ทา บทความความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) และใน Blogspot ได้ นาเอาโครงงาน บทความความรู้ ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ลงใน บทความ โดยการ แปลง File จาก โปรแกรม Microsoft Word เป็น Pdf file เพื่อ Upload ลงใน Website : slideshare.net ผลการประเมิน จากตาราง
  • 17. บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ นี้สรุปผลการดา เนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้ 1การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 2วัตถุประสงค์ ของโครงงาน 3 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่อง 3Gและ 4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง 4 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ 3G และ 4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง
  • 18. 5 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ด้วยตนเองและนามาประยุ กต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิงขึ้น 6 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผสานใจทั่วไป 7 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือทีใช้ในการพัฒนา ่่ 8 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่ อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 9 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 10 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น www.facebook.comwww.hotmail.com www.google.com 11 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่นAdobe Photoshop CS4 และPhotoScape2.05.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpressเรื่อง 3G และ 4G เทคโนโลยีใหม่มาแรง นี้ผูจดทาได้เริ่มดา เนินงานตามขั้นตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ http://www.wordpress.com จากนั้นได้นาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาโดยได้นาเผยแพร่ ที่เว็บบล็อกชื่ อhttp://mammai1506.wordpress.com/ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Mediaประเภทเว็บไซต์ facebookของผู้จุดทาที่http://www.facebook.com/shes.mammai ทั้งนี้เว็บบล็อก ดังกล่าวสามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครู ที่ปรึกษาเพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้โดยแสดงความเห็นในเนื้อ หาและรูปแบบของการนาเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทานให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว5.3 ข้อเสนอแนะ 12 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อกคือ Wordpressเป็นเว็บบล็อกสาเหตุรูปที่ใช้ทาเว็บไซต์ได้ง่าย และรวดเร็ วแต่ถาเราใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
  • 19. ก็จะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธ์ิ และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผูจดทาควรเผยแพร่ สิ่งที่ดีๆให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้และสิ่งดีๆ นาไปเผยแพร่ต่อให้อื่นมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป 12.1 ควรมีการจัดทาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 12.2 ควรมีการจัดทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม 12.3 ปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการพัฒนา 12.4 เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่เพียงพอกับการทาโครงงานและบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา เข้าพร้อมกันก็จะทาให้ชาจึงทาให้การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย 12.5 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกค่อนข้างช้า ทาให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้เพราะครูผู้สอนไม่สามารถสอนเนื้อหาเพิ่มเติมได้ บรรณานุกรม ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ https://sites.google.com/site/operatingsystemeng1/khwam-hmay- khxng-rabb-ptibati-kar