คู่มือเอาตัวรอด ปี 63 โดย สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
•
42 likes•20,569 views
หนังสือ "คู่มือเอาตัวรอดปี 63" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย - สารพัดปัจจัยลบรุมเร้ำ ศก.โลกปี 63 - มรสุมเศรษฐกิจไทยปี 63 - ปรับกลยุทธ์ “เอำตัวรอดแบบเซียน” - จัดพอร์ตลงทุน หลบภัยเศรษฐกิจซบ - เฟ้น 12 หุ้นปลอดภัยปี 63 - รู้ทันแชร์ลูกโซ่ยุค 2020 - เอาตัวรอดฉบับ“เก่ง พงศกร” เซียนคริปโต - ลุย “ทองคำ” เจ้าแห่ง Safe Heaven - วางแผนกำรเงินเตรียมพร้อมวัยเกษียณ - “กองทุนรวม”ทำงเลือก-ทำงรอดยำมหุ้นผันผวน งาน Better Trade 2019 : Trend Catcher www.efinancethai.com www.facebook.com/efinancethai www.youtube.com/efinancethaitvvdo line : @efin
Recommended
More Related Content
Featured
Featured (20)
คู่มือเอาตัวรอด ปี 63 โดย สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
- 3. AD KTB
- 4. 4 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 สารจากผู้บริหาร ในวาระที่ทางบริษัทออนไลน์แอส เซ็ท จ�ากัด หรือ กลุ่ม EFIN ครบรอบปีที่ 18 และก้าวขึ้น ปีที่ 19 นี้ ได้มีการจัดงาน Better Trade 2019 ด้วยวัตถุประสงค์ของงาน คือ “มำ งำนนี้แล้วลงทุนดีขึ้น” แต่ในปีนี้ได้เพิ่ม ความหลากหลายของช่องทางการลงทุนที่ มากขึ้น นอกเหนือจากหุ้น เพื่อให้นักลงทุน มีความรู้ความเข้าใจที่หลากหลายเพื่อการ บริหารการลงทุนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่ง ขึ้น โดยมีช่องทางในการหาผลตอบแทนที่ เพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงที่ลดลงจากการ กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ในปีนี้มีชื่อธีมงานว่า“TrendCatcher จับเทรนท�ำเงินจับเงินท�ำงำน”โดยมีการ จัดงานในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ที่ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัยสยามพารากอน ด้วยวิทยากรที่มีชื่อเสียงทุกท่านร่วมสร้าง โอกาสการลงทุน และเช่นเคยครับเพื่อเป็นการตอบแทน และขอบคุณท่านนักลงทุนที่เข้าร่วม งาน ทางส�านักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย “มีข่ำวมีโอกำส”จัดท�าหนังสือครบรอบขึ้น ที่มีชื่อหนังสือว่า “คู่มือเอำตัวรอดปี 63” เนื่องจากตั้งแต่ปี2561ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ความผันผวนของตลาดการเงินและตลาด ทุนมีสูงมาก ยากแก่การคาดคะเน ใคร ที่สามารถเป็นผู้ที่อยู่รอดสามารถหาผล ตอบแทนจากการลงทุนได้นับว่ามีฝีมือและ โชคดีมาก ส่วนใหญ่จะขาดทุนกันทั่วหน้า ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เกิดขึ้นมากมายใน ระดับโลก ที่เห็นได้ชัดเจน คือ สงครามการ ค้าระหว่างจีน กับสหรัฐอเมริกา ปัญหา Brexit ที่ยังยืดเยื้อหาข้อสรุปไม่ได้ สร้าง ความปันป่วนต่อตลาดเงินและตลาดทุน อย่างมากส่วนปัจจัยภายในประเทศมาจาก ผลกระทบความไม่แน่นอนทางการเมือง สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาท�าให้เป็นที่มาของ ชื่อของหนังสือเล่มนี้ ทีมงานของ “ส�ำนักข่ำวอีไฟแนนซ์ ไทย” ตั้งใจรวบรวมข้อมูลส�าคัญ กลั่น กรองวิเคราะห์ กอปรกับการสัมภาษณ์จาก เซียนลงทุนต่างๆ นักวิเคราะห์ ผู้จัดการ กองทุนให้ค�าแนะน�าและแนวคิดในการอยู่ รอด คัดสรรหุ้นปลอดภัย และหลากหลาย เนื้อหาที่อยู่ในเทรนด์ เข้ามาในหนังสือเล่ม นี้แจกฟรีเฉพาะผู้เข้าร่วมงานBetterTrade 2019 เท่านั้น สุดท้ายนี้ผมในฐานะตัวแทนของEFIN ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้เกียรติเข้า ร่วมงาน Better Trade 2019 ในครั้งนี้ หวัง เป็นอย่างยิ่งว่าในงานนี้ทุกท่านคงได้รับ ข้อมูลข่าวสารความรู้เทคนิคต่างๆกลับไป ใช้พัฒนาการลงทุนให้ประสบความส�าเร็จ ไม่มากก็น้อย สร้างความมั่งคั่งยั่งยืน อยู่ รอดปลอดภัยในการลงทุนระยะยาว อีกทั้งขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ทําให้งานนี้ดําเนินการขึ้นได้ หากมีสิ่ง ผิดพลาด ขาดตกบกพร่องประการใด ต้อง ขออภัยมาณโอกาสนี้และหวังว่าทุกท่านคง ให้การสนับสนุนทาง EFIN ในโอกาสต่อไป ขอขอบคุณทุกๆ ท่านมา ณ โอกาสนี้ พรเลิศ เตชะรัตโนภำส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออนไลนแอสเซ็ท จํากัด
- 5. คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 5 บทบรรณาธิการ ปี 2562 กลายเป็นปีที่สุดโหดส�าหรับนัก ลงทุนหลายๆ คนไปเสียแล้ว จากต้น ปีที่ยังมองว่าตลาดหุ้น และการลงทุน ยังน่าจะสดใสอยู่เลย ทั้งการเลือกตั้งรัฐบาล ใหม่ เศรษฐกิจที่ดูเหมือนจะเริ่มฟื้นตัว แต่ ไม่ทันไรพอก้าวเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังทุกอย่าง กลับตาลปัตรไปเสียหมดทั้งเรื่องความล่าช้า ในการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ ท�าให้นโยบาย หลายๆ อย่างเดินหน้าได้ไม่เต็มก�าลัง โดยเฉพาะประเด็นการพิจารณางบ ประมาณรายจ่ายประจ�าปี 63 ที่กว่าจะเริ่ม ใช้ได้ก็ต้องรอไปปีหน้าทั้งที่จริงๆแล้วควรเริ่ม ตั้งแต่เดือนตุลาคมเสียด้วยซ�้าซึ่งหมายความ ว่ารัฐบาลอาจมีงบประมาณไม่เพียงพอใน การขับเคลื่อนประเทศ อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ยังมีความสุ่มเสี่ยง เรื่องเสถียรภาพและความมั่นคง ในแง่ของ ความเปนรัฐบาลเสียงปริ่มนํ้า ซึ่งอาจส่งผล ให้การบริหารสะดุดเอาง่ายๆ เสี่ยงทั้งต่อ รัฐบาล เสี่ยงต่อการบริหารประเทศ และยัง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผู้ ประกอบการอีกด้วย ส่วนที่หนักหนาสาหัสสุดในปี 62 ก็ คือ ปัจจัยต่างประเทศ ประเด็นสงครามการ ค้าระหว่างสหรัฐ กับ จีน ที่ยืดเยื้อและดู จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้ในระหว่าง นั้นจะมีการเจรจากันเป็นพักๆ ก็ตาม แต่ก็ ท�าเอาตลาดเงิน ตลาดทุน และเศรษฐกิจ ทั่วโลกปันป่วนไปหมด เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีประเด็นปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย ออกมาตามหลอนตลาดหุ้นไปอีก ท�าให้ ตลาดหุ้นบ้านเราที่มองกันตอนต้นปีว่าจะไป ได้ที่ 1,700 จุด เลยติดหล่มไปไม่ถึงดวงดาว เสียที ดังนั้นหนังสือ “คู่มือเอำตัวรอด ปี 63” ในมือของทุกท่านเล่มนี้ จึงมีที่มา ที่ ไปเพราะปัจจัยลบเหล่านี้ และทางกอง บรรณาธิการ “ส�ำนักข่ำวอีไฟแนนซ์ไทย” ก็เล็งเห็นว่าปัญหาที่นักลงทุนต้องเผชิญมา เกือบตลอดปี62และน่าจะต่อเนื่องไปจนถึง ปีหน้า (2563) ด้วยนั้น การมีคู่มือที่เหมาะ สมส�าหรับแนะแนวการลงทุนจึงน่าจะถูกใจ ผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างดี อีกทั้งในวาระที่ส�านักข่าวอีไฟแนนซ์ ไทย ก�าลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 เราจึงอยาก จะน�าเสนอสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับนักลงทุน ทุกๆ คนได้เก็บไว้อ่านกัน หุ้นตัวไหน น่า ลงทุน ตัวไหนเหมาะกับสถานการณ์แบบ ไหน มีเครื่องมือใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์การ ลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจ รวมไปถึงอัพเดท สถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจในประเทศ และต่างประเทศที่จะมีผลต่อในปี 63 ล้วนมี ในคู่มือเอาตัวรอดเล่มนี้ และแน่นอนที่สุด ส�าหรับ “ส�ำนักข่ำว อีไฟแนนซ์ไทย” นอกจากหนังสือฉบับ พิเศษเล่มนี้แล้ว ในส่วนงานหลักของเราก็ ยังคงมุ่งเน้นผลิตคอนเทนท์ดีๆ ที่ตอบโจทย์ การลงทุนของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย ปีนี้เรามีคอลัมน์ “efin Review” ที่รวบรวม ข้อมูลดีๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทั้งที่อยู่ในตลาดการเงิน และตลาดหุ้นที่น่า สนใจเพื่อตอบโจทย์การลงทุนได้ตรงใจมาก ขึ้นไปอีก รวมไปถึงรายการสดทาง เฟซบุ๊ก ไลฟ์ “Stock in Trend” ที่เจาะลึกการลงทุน ในตลาดหุ้นในทุกมุมมองทุกวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อให้นักลงทุนที่ติดตามส�านักข่าวของเราได้ ข้อมูลอย่างรอบด้าน และทันเหตุการณ์ที่สุด ในปี 2563 ที่ก�าลังจะถึงนี้ก็เช่นกัน “อีไฟแนนซ์ไทย” จะยังคงยึดมั่นในพันธกิจ หลักของเรา ด้วยการพัฒนาคุณภาพ และผลิตข่าวสารด้านการลงทุนอย่างครบ วงจร เพื่อน�าเสนอต่อนักลงทุน อย่างรวดเร็ว ตรงประเด็นที่สุดตลอดจนเฟ้นหาคอนเทนท์ ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาน�าเสนออย่างต่อเนื่อง เท่าทันสถานการณ์ตลาดทุน และเศรษฐกิจ ให้มากที่สุด และเพื่อให้นักลงทุนของเราได้ รับความรู้ และประโยชน์สูงสุดในการลงทุน พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน บรรณาธิการบริหาร
- 6. 6 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 บทน�ำ สำรพัดปัจจัยลบรุมเร้ำ ศก.โลกปี 63 มรสุมเศรษฐกิจไทยปี 63 ปรับกลยุทธ์ “เอำตัวรอดแบบเซียน” จัดพอร์ตลงทุน หลบภัยเศรษฐกิจซบ เฟน 12 หุ้นปลอดภัยปี 63 รู้ทันแชร์ลูกโซ่ยุค 2020 เอำตัวรอดฉบับ“เก่ง พงศกร” เซียนคริปโต ลุย “ทองค�ำ” เจ้ำแห่ง Safe Heaven วำงแผนกำรเงินเตรียมพร้อมวัยเกษียณ “กองทุนรวม”ทำงเลือก-ทำงรอดยำมหุ้นผันผวน เครดิตผู้จัดท�ำหนังสือ สารบัญสารบัญ 8 10 14 18 24 28 46 48 52 56 60 62
- 8. 8 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 บทน� ปี 63 น่าจะเป็นปีที่ยากล�าบากส�าหรับ การบริหารเงินหรือลงทุนเพื่อหา ผลตอบแทน เนื่องจากมีปัจจัยลบ ปกคลุมทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนท�าให้ การโยกเงินลงทุนระหว่างสินทรัพย์ขาด ความคล่องตัว เพราะสินทรัพย์ที่ใช้ลงทุน ได้เริ่มมีจ�ากัด ผลตอบแทนต�่า ต้องใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลมาก และต้องติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิด การโยกเงินลงทุนระหว่างสินทรัพย์ถือ เป็นหัวใจส�าคัญของการบริหารเงินบริหาร ความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทน ในอดีต เมื่อลงทุนหุ้นไม่ได้ก็ย้ายเงินไปซื้อพันธบัตร ตราสารหนี้ ทองค�า หรือน�าไปพักไว้ใน “ฝำกประจ�ำ” เราสามารถก�าหนดกลยุทธ์ ได้ตามสะดวก แต่เดี๋ยวนี้พอหุ้นไม่ดีจะไปซื้อตราสาร หนี้ หรือพักเงินในฝากประจ�า ก็ท�าได้ ล�าบาก เพราะดอกเบี้ยต�่ามาก บางทีผล ตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ยังน้อยกว่า พันธบัตรระยะสั้น เสียอีก แม้แต่ “ทองค�ำ” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Safe Haven ก็เคลื่อนไหว ผันผวนวิปริต สะท้อนว่ากลไกต่างๆด้าน การลงทุนมันดูผิดเพี้ยนไปหมด ความบ้าคลั่งทั้งหลายในโลกการ ลงทุน เกิดจากความเปราะบางของ เศรษฐกิจโลกที่ด�าเนินมาเป็นระยะเวลา นาน และถูกซ�้าเติมโดย “สงครำมกำรค้ำ” ระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงการออก จากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ฉุดรั้งให้เศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่ อย่าง สหรัฐฯ จีน อังกฤษ เยอรมัน รวม ถึง ญี่ปุ่น ชะลอตัวพร้อมเพรียงกัน และ อาจเลวร้ายถึงขั้นท�าให้เศรษฐกิจโลก ถดถอย (Recession) เป็นครั้งแรกในรอบ กว่า 10 ปี เห็นได้จากในหลายประเทศเกิด ภาวะที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ต�่า กว่า พันธบัตรระยะสั้น (Inverted Yield Curve) ซึ่งเป็นสัญญาณส�าคัญของความ ถดถอยแล้ว ความวิตกกังวลภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย ท�าให้ธนาคารกลางหลายประเทศ เร่งใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้วย การทยอยปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจขณะที่หลายแห่งเริ่มใช้มาตรการ ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ควบคู่กัน ไป ท�าให้ทั้งโลกติดกับดักภาวะดอกเบี้ย ต�่าจนถึงติดลบ แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้น เศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม เปรียบ เสมือนเชื้อโรคที่ดื้อยาไปแล้ว แต่กลับมีผล ข้างเคียงต่อพันธบัตรและตราสารหนี้ที่ถูก กดผลตอบแทนให้ต�่าลง ส�าหรับเศรษฐกิจไทยประสบปัญหา ชะลอตัวเช่นเดียวกับทั่วโลก สะท้อนจาก ตัวเลขจีดีพีปี 62 ที่โตชะลออย่างรวดเร็ว เหลือต�่ากว่า 3% การส่งออกอาจถึงขั้น ติดลบ ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องช่วยกระตุ้น ด้วยการปรับลด ดอกเบี้ยแล้ว 1 ครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะสูญ เปล่า เพราะเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ ไม่เปลี่ยนแปลง ท�าให้ในอนาคตอันใกล้นี้ ธปท. มีแนวโน้มต้องหั่นดอกเบี้ยลงอีก มิหน�าซ�้า เศรษฐกิจไทยยังถูกฉุดรั้ง ด้วยปัญหาด้านงบประมาณ เพราะจน ป่านนี้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ยังไม่มีผล บังคับใช้ จากปกติที่ต้องได้รับการอนุมัติ และเริ่มบริหารราชการด้วยงบประมาณ ปี 63 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 62 แล้ว ท�าให้เม็ด เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐ ขนาดใหญ่ ล่าช้าออกไปอีกเกือบ 6 เดือน เลยทีเดียว จากภาพใหญ่ที่เห็นทั้งหมด คงบอก ได้แล้วว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและไทย จะไม่ดีไปอีกพักใหญ่ โดยเฉพาะในปี 63 เราอาจได้เห็นเค้าลางของวิกฤตที่ชัดเจน มากขึ้น ดังนั้นการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งหุ้นกองทุนพันธบัตรตราสารหนี้ทองค�า หรือสินทรัพย์ใหม่อย่างคริปโตคงจะไม่หมู อีกต่อไป ดังนั้น หากคิดจะลงทุนในหุ้นก็ต้อง เป็นหุ้นปลอดภัย อยู่ในอุตสาหกรรมที่ ผันผวนต�่า ก�าไรยังโตต่อเนื่อง และจ่าย ปันผลสม�่าเสมอ อาทิเช่น กลุ่ม โรงไฟฟ้า ค้าปลีก โรงพยาบาล สาธารณูปโภคพื้น ฐาน เป็นต้น หากคิดจะลงทุนในพันธบัตร ตราสาร หนี้ก็ต้องเลือกที่มีเรทติ้งดีและสอดคล้องกับ ภาวะดอกเบี้ยที่พลิกกลับมาเป็นขาลงแล้ว หากคิดจะลงทุนใน“กองทุนรวม”อาจ ต้องหันไปหากองทุนประเภทโครงสร้างพื้น ฐานหรือกองทุนความเสี่ยงต�่าอื่นๆที่ยังคง ให้ผลตอบแทนในระดับที่เหมาะสม ที่สําคัญนักลงทุนต้องมีกลยุทธและ คู่มือที่ดี เพื่อช่วยให้เอาตัวรอดไปจากปีที่ เลวร้ายได้ ด้วยจิตคารวะ คณะผู้จัดท�ำ
- 9. มาทดสอบว่า “ลูกของคุณจัดอยู่ใน กลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันในการใช้อินเทอร์เน็ต มากน้อยเพียงใด เป็นเด็กในกลุ่ม Digital Native หรือกลุ่ม Digital Naïve โดยการ ท�าแบบทดสอบง่าย ๆ เพียงตอบว่า ใช่ หรือไม่ใช่ พร้อมแล้วเริ่มเลยค่ะ !! 1. ลูกคุณเข้าชมไลฟ์ (live) ทั้งใน tik tokหรือของดาราแล้วส่งของขวัญที่มีการ โอนเงินให้กับดาราหรือคนที่ก�าลังติดตาม เหล่านั้นอย่างน้อย 3 ครั้งต่อเดือน 2.ลูกคุณแชร์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ และไม่ท�าลายชื่อเสียงผู้อื่น 3.ลูกคุณโพสต์วิจารณ์หน้าตารูปร่าง หรือเม้นท์แบบหยาบคาย แสดงความคิด เห็นให้ร้ายต่อผู้อื่น 4. ลูกคุณเข้าใจวิธีการแยกแยะ ข่าวจริงและข่าวปลอมที่มุ่งท�าให้คนอื่น เข้าใจผิด 5. ลูกคุณใช้เวลานานและสูญเสียเงินกับการ เล่นเกมออนไลน์โดยไม่ตั้งใจ วิธีกำรค�ำนวณคะแนน : ค�าตอบ ใช่เท่ากับ 1 คะแนนและไม่ใช่เท่ากับ 0 คะแนน หากลูกของคุณได้น้อยกว่า 2 คะแนน ขอแสดงความยินดีด้วย ลูกของคุณเป็น Digital Native มีภูมิคุ้มกันในการใช้อินเทอร์เน็ต หมายถึง ลูกของคุณมีความรับผิดชอบไม่ประมาทในการใช้ อินเทอร์เน็ต ตระหนักถึงภัยที่เกิดจากอินเทอร์เน็ต และนึกถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อตัวเขาและผู้อื่นใน ทางที่ดี นอกจากนี้รู้วิธีรับมือกับปัญหาที่เกิดจาก การใช้อินเทอร์เน็ต เช่น มีการเก็บหลักฐานเพื่อน�า ไปส่งต�ารวจ หากลูกของคุณได้ 2 คะแนนขึ้นไป แสดงว่า ลูกของคุณเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันในระดับ หนึ่งในการใช้อินเทอร์เน็ตได้ (Digital Naïve) ซึ่งหมายความว่า มีโอกาสตกเป็นเหยื่อบนโลก ออนไลน์ เช่น โดนล่อลวง การหลงเชื่อข่าวปลอม การเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รุนแรง ติดโซเชียล ติดเกม อาจส่งผลเสียต่อร่างกายและ จิตใจ เป็นต้นเหตุของโรคซึมเศร้า ลูกของคุณควร ต้องรู้เท่าทันความเสี่ยงเหล่านี้และใช้อินเทอร์เน็ต อย่างมีภูมิคุ้มกัน จากผลการส�ารวจคุณครูกลุ่มตัวอย่างจากบริษัท อินสครู จ�ากัด ที่มีเครือข่ายครูกว่า 500,000 คนใน ประเทศไทยร่วมกับดีแทคพบว่าเด็กมีปัญหาในการ ใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมในอินเทอร์เน็ตร้อยละ 87.83 มีการเลียนแบบพฤติกรรมเสี่ยงจากโลกออนไลน์ ร้อยละ 62.61 นักเรียนแชร์สื่อที่ไม่เหมาะสม เช่น ข่าวปลอม สี่อลามก ความรุนแรงและมีการแสดง ตัวตนไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ของนักเรียนร้อย ละ 43.48 มีการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ (cyber bullying)ระหว่างนักเรียนร้อยละ37.39และนักเรียน มีการโกงในการท�าธุรกรรมออนไลน์ร้อยละ 6.96 ผลส�ารวจของ WEF Global เกี่ยวกับพลเมือง ดิจิทัลโดยส�ารวจออนไลน์ DQ Screen Time Test กับทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย พบว่า พฤติกรรม ของเด็กไทยส่วนใหญ่ใช้เวลาบนเว็บไซต์มากกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ถึง 3 ชั่วโมง โดยเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน สูงสุด 73% รวมถึงผลส�ารวจจากมูลนิธิอินเทอร์เน็ต ร่วมพัฒนาไทยพบว่าเยาวชนไทยร้อยละ 95 ตระหนักดีว่า อินเทอร์เน็ตมีอันตราย ร้อยละ 70 รู้ว่าเพื่อนทางออนไลน์ไม่พูด ความจริงและร้อยละ46เคยถูกกลั่นแกล้ง ทางออนไลน์ Digital Native หมายถึง คนที่เกิด ในยุคของการใช้เครื่อมือ หรืออุปกรณ์ เทคโนโลยีดิจิทัลเช่นคอมพิวเตอร์โทรศัพท์ มือถือ (Smartphone) แท็บเล็ต อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสารทางออนไลน์ คนเหล่านี้ โดยมีพฤติกรรม ดังนี้ 1. มีการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่เสมอ (Social) มีการเข้าเว็บไซต์และโซเชียลมี เดีย เช่น เฟสบุ๊ค ยูทูป อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เป็นประจ�า คอยอัพเดทเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยพฤติกรรม การใช้สื่อสังคมออนไลน์นี้ เขาจึงให้ความ ร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมี ความเข้าใจในคนอื่น 2.มีความรู้ในการใช้งานอย่างถูกต้อง(Savvy) นอกเหนือจากเขามีความรู้และเข้าใจการใช้ อินเทอร์เน็ตเป็นอย่างดีเขายังมีความฉลาดในการ คิดและไตร่ตรองอย่างรอบคอบซึ่งส่งผลท�าให้มี การตัดสินใจที่ถูกต้องภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น 3. ระบุความเสี่ยงในการใช้งานได้อย่าง ปลอดภัย(Safety)สามารถระบุช่องทางออนไลน์ ที่ไม่เหมาะสม ค�านึงถึงความเสี่ยง สามารถ ป้องกันภัยอันตรายก่อนที่จะมาสู่ตนเองและผู้อื่น พฤติกรรมของ Digital Native ที่ส่งเสริมให้เด็กมี ภูมิคุ้มกันในการใช้อินเทอร์เน็ต เป็นที่แพร่หลาย ในหลายประเทศและเป็นทักษะส�าคัญในศตวรรษ ที่ 21 ในประเทศไทยมีการประยุกต์น�ามาเป็นบท เรียนแหล่งใหม่ในห้องเรียนเพื่อเป็นช่องทางหนึ่ง ในการสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้อินเทอร์เน็ตและให้ ค�าแนะน�าให้กับเด็กและเยาวชนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะท�าให้ผู้ปกครองเกิดความไว้วางใจในการใช้ งานทางอินเทอร์เน็ตของเด็กในครอบครัว โดยดู รายละเอียดของแหล่งความรู้ออนไลน์แหล่งใหม่ ได้ที่ SafeInternetForKid.com ดีแทคร่วมกับเทเลเนอรกรุปและสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(DEPA)นํา เสนอแหล่งเรียนรู้ออนไลนSafeInternetForKid.comเพื่อช่วยเยาวชนรับมือกับ ความเสี่ยงบนโลกออนไลน โดยมี นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร ผอ.สํานักงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (คนที่ 4 จากซ้าย) นางอเล็กซานดรา ไรซ ประธานเจ้า หน้าที่บริหารดีแทค(คนที่4จากขวา)แถลงข่าวความร่วมมือโครงการดังกล่าว
- 10. 10 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 ในขณะที่ปัจจัยที่ท�าให้หลายประเทศทั่วโลกเผชิญ กับเรื่องดังกล่าวนั้น เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยง แทบไม่ได้ เพราะล้วนแต่เป็นผลกระทบในวง กว้างที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เกิด ขึ้นรอบโลก ดังนั้นปัจจัยลบที่เกิดในปีนี้ เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่อง ไปถึงปี 2563 อย่างแน่นอน โดยเฉพาะสงครามกาารค้า ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงหลากหลายปัจจัยลบต่าง ประเทศ ซึ่ง “ส�านักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ได้รวบรวมและ ประมวลผลมาให้อ่านกันว่าในปีหน้าจะมีปัจจัยต่างประเทศ อะไรบ้าง ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ของโลก • ปัญหาสงครามการค้า สหรัฐฯ – จีน ข้อพิพาททางการค้าของสองชาติมหาอ�านาจในยุค ปัจจุบัน เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่จะทวีความรุนแรง และส่งผลกระทบไปยังเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่การเจรจาทางการค้าประสบความล้มเหลวเมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราภาษี สินค้าน�าเข้าจากจีนในเดือนมิถุนายน และพยายามขึ้นอัตรา ภาษีอีกหลายต่อหลายครั้งหลังจากนั้นขณะที่จีนใช้มาตรการ ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าน�าเข้าจากสหรัฐฯเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีแม้สถานการณ์สงครามการค้าจะดูรุนแรงแต่ ทั้งสองประเทศยังคงยืนยันด้านสัมพันธ์ทางการฑูตที่ดีต่อกัน สารพัดปัจจัยลบ รุมเร้า ศก.โลก ปี 63 ปี 2562 นับเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนมาก และหลายประเทศต่างเผชิญกับแนวโน้ม เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและอาจถดถอย ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่เป็นมหาอ�นาจทางการค้าในปัจจุบันอย่าง สหรัฐอเมริกา ขณะที่จีน พญามังกร มหาอ�นาจแห่งเอเชีย ก็ออกอาการไม่ดีเช่นเดียวกัน
- 11. คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 11 และมีความพยายามที่จะเปิดการเจรจาทาง ค้าเพื่อให้บรรลุข้อตกลงทางการค้า และ จบปัญหาที่ยาวนานนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งเชื่อว่า ตลอดทั้งปีนี้จนถึงปีหน้าการเจรจาระหว่าง กันจะยังคงมีอยู่ต่อไป • อังกฤษกับ Brexit Brexit กลายเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อเกิน กว่าที่หลายฝ่ายได้คาดไว้และจนถึงเวลานี้ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากอังกฤษต้องการ ออกจากการเป็นสมาชิกอียูแบบไม่มีข้อ ตกลง แม้ว่าการออกจากการเป็นสมาชิก EUโดยไม่มีข้อตกลงจะท�ำให้หนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 6 หมื่นล้านปอนด์ หรือ ราว 2.3 ล้านล้านบาทในทันที และปัญหา เศรษฐกิจที่จะตามมาเพราะอังกฤษจะ สูญเสียข้อเสนอพิเศษใดๆ เกี่ยวกับการค้า เศรษฐกิจ และแรงงาน ซึ่งท�ำให้ต้องกลับ ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด หากจะต้องการ ท�ำการค้ากับประเทศในกลุ่มยูโรโซน ซึ่ง รับประกันว่าเศรษฐกิจทั่วโลก หลีกเลี่ยงไม่ ได้ที่จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะ แม้แต่ IMF และ OECD ยังออกมาเตือน ว่า การออกจากสหภาพยุโรป จะเกิดผล กระทบทางเศรษฐกิจโลกอย่างร้ายแรงได้ และกลายเป็นประเด็นความเสี่ยงส�ำคัญ ที่ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกยกขึ้นมา เป็นล�ำดับต้นๆ ตลอดจนความเสี่ยงเรื่อง อัตราแลกเปลี่ยน โดยค่าเงิน ทั่วโลกรวมทั้งเงินบาทมีแนว โน้มผันผวนมากขึ้นการค้า ในระยะสั้นและการส่งออก ของไทยอาจได้รับผลกระ ทบจากก�ำลังซื้อของชาว UK และ EU ที่ลดลง เพราะ เงินปอนด์มีแนวโน้มอ่อนค่า มากกว่าเงินยูโร • การเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ 2020 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 ซึ่ง สื่อในต่างประเทศคาดการณ์ว่าจะเป็นการ ขับเคี่ยวกันระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลล์ ทรัมป์ ของพรรครีพับบลิกัน ที่จะลงชิงชัย ต�ำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 กับ นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี จากพรรคเดโม แครต แม้ทรัมป์จะได้เปรียบทั้งด้านความ นิยมและฐานเสียง แต่จากผลงานการ บริหารประเทศในช่วง3ปีที่ผ่านมาซึ่งท�ำให้ ความนิยมของทรัมป์ลดลงมา จึงอาจท�ำให้ เขาไม่บริหารประเทศเป็นสมัยที่ 2 เพราะฉะนั้นกรณีนี้หาก ทรัมป์แพ้ การเลือกตั้ง ย่อมส่งผลดีในหลายๆด้าน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาสงครามการ ค้า ที่ทรัปม์เป็นคนจุดประเด็นมาตลอด รวมไปถึงการกีดกันการค้ากับอีกหลาย ประเทศ และนโยบายการเมืองที่แข็งกร้าว โดยเฉพาะการสร้างข้อพิพาทไว้มากมาย กับหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน ที่ สหรัฐฯคว�่ำบาตรทางการค้าโดยใช้เหตุผล ทางด้านนิวเคลียร์หรือประเทศในกลุ่มยูโร โซนที่สหรัฐฯใช้มาตรการภาษีสินค้าน�ำเข้า กดดันให้ EU ยอมรับข้อตกลงทางการค้า กับสหรัฐฯ • ถล่มโรงกลั่นฯซาอุฯ การโจมตีโรงกลั่นน�้ำมันของ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตน�้ำมัน เจ้าใหญ่ ส่งผลให้ผลผลิตทั้งหมดของซา อุฯ หายวับไปกับตา 50% และหายไป 5% ของอุปทานน�้ำมันทั่วโลกกลายเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุหลักที่จะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจะท�ำให้ราคา น�้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยประเมินกันว่าอาจจะส่งผลให้ ราคาถีบตัวขึ้นไปถึง 80 ดอลลาร์/ บาร์เรล และจะยิ่งเป็นตัวซ�้ำเติมภาวะการชะลอตัว ของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งหากราคาน�้ำมัน ยังคงสูงเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งกัดกร่อน เสถียรภาพของภาคธุรกิจและความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคน�้ำมันทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันก็มี ความเปราะบางอยู่แล้วจากความต้องการ บริโภคน�้ำมันทั่วโลกที่ลดลง จาก “สงคราม การค้า” ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน อย่างไรก็ดีแม้สถานการณ์ สงครามการค้าจะดูรุนแรง แต่ ทั้งสองประเทศยังคงยืนยันด้าน สัมพันธ์ทางการฑูตที่ดีต่อกัน และมีความพยายามที่จะเปิด การเจรจาทางค้าเพื่อให้บรรลุข้อ ตกลงทางการค้า
- 12. AD set AD threAD thre
- 13. AD tbank AD bcpg AD tbank
- 14. 14 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 ดูแล้วรัฐบาล “พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ” กับการท�างานสมัย 2 คงไม่ง่ายนัก ทั้งจากการรวมสมาชิก ของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจ�านวนมากสุด เป็นประวัติการณ์ กับคะแนนเสียงปริ่มน�้า ของรัฐบาล และการวางนโยบายเพื่อให้ เศรษฐกิจต้องเดินหน้าขับเคลื่อนไปต่อให้ได้ • งบฯป63ล่าช้าฉุดลงทุน ความล่าช้าของการจัดท�าพระราช บัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ�าปี2563 ซึ่งควรมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 หรือเริ่มไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 2563และเป็นความหวังช่วงโค้งสุดท้ายของ ปีปฎิทิน2562ก�าลังเป็นโจทย์ที่ท้าทายการ ท�างานของรัฐบาล ที่ต้องก้มหน้ารับสภาพ กับการบริหารประเทศแบบมีเครื่องไม้เครื่อง มือไม่ครบกระเปา แม้รัฐบาลจะออกมาแก้เก้อว่างบ ประมาณที่ล่าช้า แต่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ใน เดือนกุมภาพันธ์2563แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังไม่แน่นอนว่างบประมาณปี 2563 จะ เริ่มต้นได้จริงเมื่อไหร่ ความเสี่ยงจากการจัดท�างบประมาณ ปี 2563 ที่ล่าช้าออกไป ทางส�านักงาน เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่า หาก การจัดท�างบประมาณ 2563 ล่าช้าไป 1 ไตรมาส ท�าให้รัฐบาลไม่มีการเบิกจ่ายงบ ลงทุนใหม่เป็นวงเงินสูงถึง 7-8 หมื่นล้าน บาท มีเพียงงบประจ�ายังสามารถเบิกจ่าย ได้เท่านั้น ดังนั้นหากรัฐบาลจะให้เงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจในระดับที่ไม่ต่างไปจากเดิม ก็ ต้องเร่งเบิกจ่ายงบประจ�าแบบเร่งด่วน เช่น เบิกจ่ายจัดอบรมสัมมนาซึ่งอาจพอประคับ ประคองเศรษฐกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ ในปี 2563 รัฐบาลจึงต้องเร่งรัดเบิก จ่ายลงทุนในโครงการต่างๆ ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการตัดสินใจลงทุน ของภาคเอกชน ขณะที่ภาคการบริโภคใน ประเทศ ก็ยังไม่สดใส ท�าให้รัฐบาลจึงต้อง เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่ง ด่วน ทั้งด้านการบริโภคและการท่องเที่ยว ภายในประเทศหวังให้ประชาชนออกมาใช้ จ่ายเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน • ส่งออกไทยยังเผชิญความเสี่ยง มรสุมลูกใหญ่ของประเทศคงหนีไม่ พ้นวิกฤตภาคการส่งออก ซึ่งมีสัดส่วน ถึง 70% ของจีดีพี แต่ในรอบปี 2562 ส่งออก ไทยต้องเผชิญทั้งสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐฯ ที่ไม่มีทีท่าจะยุติลงง่ายๆ รวมถึง สัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและ ทั่วโลกน�ามาซึ่งความผันผวนของอัตราแลก เปลี่ยน และท�าให้เงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง และมากสุดในภูมิภาค ฉุดความสามารถ การแข่งขันของผู้ส่งออกไทยอย่างมาก ด้านกูรูเศรษฐศาสตร์ยังมองว่าความ เสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน จะลากยาวไปถึงปี 2563 ส่วนหนึ่งเป็น เพราะปัจจัยทางการเมืองที่สหรัฐต้องการ แสดงความเป็นประเทศมหาอ�านาจ และ ไม่ต้องการให้จีนก้าวเป็นเบอร์หนึ่งด้าน เทคโนโลยีดังนั้นการเจรจาของสองประเทศ เพื่อยุติสงครามอาจไม่เกิดขึ้นจริง ก่อนที่ สหรัฐจะจัดการเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะมีขึ้น ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ดังนั้นปัญหาการส่งออกจึงเป็นโจทย์ ใหญ่และยากส�าหรับรัฐบาล ประยุทธ์ 2 พร้อมๆไปกับการต้องหาทางเร่งการลงทุน ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และได้ถูกพุ่ง เป้าไปที่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวัน ออก(อีอีซี) ที่รัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้เกิด การลงทุน ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ และ รอวันคิ๊กออฟได้จริง ใกล้จะผ่านพ้นไปแล้วส�หรับเศรษฐกิจไทยปี 2562 ซึ่งยังเป็นอีกปีที่ภาครัฐ และเอกชน เผชิญความยากล�บากในยามเศรษฐกิจโลกก�ลังเข้าสู่ภาวะ ถดถอยและการค้าโลกยังปันปวน มรสุมเศรษฐกิจไทยปี 63
- 15. คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 15 • หุ้นไทยอยู่ในกรอบ 1,600-1,760 จุด บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ประเมิน แนว โน้มตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปี2562จะ เคลื่อนไหวแบบ Sideway Up จากสภาพ คล่องที่อยู่ในระดับสูง และสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่หยุดชั่วคราว ท�ำให้ ตลาดหุ้นไทยจะรับข่าวในเชิงบวก โดยให้ แนวรับปีนี้ที่1,660จุดแนวต้านแรก1,720 จุดซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งแต่หากผ่าน ไปได้จะไปสู่แนวต้านที่ 1,760 จุด โดยคาด ว่าForwardPEในปีนี้จะอยู่ที่15.2เท่าผล ตอบแทนที่ 2.7% EPS Growth 11% สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ ประเมินว่าจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี นี้ เป็นผลจากธนาคารโลกเริ่มผ่อนคลาย นโยบายการเงินทั้งจากการปรับลดดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คาดว่า จะปรับลดอย่างน้อย 1 ครั้ง หรือประมาณ 0.25% นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงใน ช่วงก่อนหน้ารวมถึงเตรียมเข้าซื้อพันธบัตร รัฐบาลและตราสารหนี้ (QE) 22,000 ล้าน ดอลลาร์ต่อเดือน เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจ 19 ประเทศในกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ ECB ยืนยันว่า จะยังคง อัตราดอกเบี้ยนโยบายต�่ำกว่าศูนย์ต่อไป จนกว่าระดับเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นถึงเป้าหมาย ที่ 2% จากปัจุบันอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1% เท่านั้น ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งส�ำคัญของ 2 ธนาคารกลางระดับโลกจะเป็นปัจจัยส�ำคัญ ที่ส่งผลให้ธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกปรับลด ดอกเบี้ยนโยบายลงตามในปี 2563 ยิ่งเป็น แรงหนุนให้สภาพคล่องโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒน สิน จ�ำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ตลาดหุ้น ไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเคลื่อนไหว อยู่ที่แนวรับที่ 1,600-1,620 จุด และแนว ต้านที่ 1,759-1,780 จุด บน EPS ที่ 100.5 บาท/หุ้น และ PE ที่ 17.6 เท่า โดยมีปัจจัย ที่จะต้องติดตาม คือ นโยบายทางการเงินที่ ผ่อนคลายของธนาคารกลางต่าง ๆ รวมถึง ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีนด้วย ขณะที่ในปีหน้า คาดว่า ดัชนีหุ้นไทย ในช่วงครึ่งปีแรกจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,850 จุด บน EPS ที่ 111 บาท/ หุ้น และ PE ที่ 16.2-16.4 เท่า โดยสิ่งที่จะ ต้องจับตานอกเหนือจากปัจจัยภายนอก ประเทศอย่างสงครามการค้า และนโยบาย ผ่อนคลายทางศก.ของธนาคารกลางส�ำคัญ นอกจากนี้ยังต้องติดตามปัจจัย ในประเทศ โดยเฉพาะเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจในประเทศ ผ่านมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ออกมาต่อเนื่อง จนถึงปีหน้า และเสถียรภาพของรัฐบาล หลังจากเริ่มเห็นความขัดแย้งจากฝั่งพรรค ร่วมรัฐบาลซึ่งจะส่งผลต่อการบริหาร-การ ออกนโยบายและการเบิกจ่ายงบประมาณ ในอนาคต ดังนั้น ปัญหาการส่งออก จึง เป็นโจทย์ใหญ่และยากสำ�หรับ รัฐบาล ประยุทธ์ 2 พร้อมๆ ไปกับ การต้องหาทางเร่งการลงทุนให้เกิด ผลอย่างเป็นรูปธรรม และได้ถูกพุ่ง เป้าไปที่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก (อีอีซี)
- 16. วิสัยทัศน์ของเรา การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นโลจิสติกส์แบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย บริการของเรา ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ (Other Service Business Unit) ธุรกิจให้บริการพื้นที่ เก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า (Rental Area and Warehouse Business Unit) ธุรกิจขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก (In-land Transportation Business Unit) ธุรกิจท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจร (Terminal Business Unit) บริษัทย่อย และ บริษัทร่วม บริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จ�ากัด (BBT) ‘ท่าเรือ BBT’ ให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ส�าหรับเรือชายฝั่งหรือเรือบาร์จ ส�าหรับการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือ BBT และท่าเรือแหลมฉบัง บริษัท บางกอก ทรัคกิ้ง เซอร์วิส จ�ากัด (BTS) ให้บริการขนส่งทางบก บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จ�ากัด (BRT) ‘ท่าเรือ BRT’ ให้บริการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ ทั้งภายในและระหว่างประเทศ บริษัท บางกอก คอนเทนเนอร์ เดโป เซอร์วิส จ�ากัด (BCDS) ให้บริการซ่อมบ�ารุงตู้คอนเทนเนอร์ บริษัท บางกอก บาร์จ เซอร์วิส จ�ากัด (BBS) ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางน�้าโดยเรือบาร์จ บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จ�ากัด (BLP) จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุนเป็นเจ้าของ พัฒนา บริหารและจัดการโครงการโลจิสติกส์พาร์ค คลังสินค้า และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการอุตสาหกรรมในประเทศไทย บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จ�ากัด (มหาชน) 51/1 หมู่ 3 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต�าบลบางหญ้าแพรก พระประแดง สมุทรปราการ 10130 ฝ่ายบริการลูกค้า: 02-3868000 ต่อ 1111 ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์: 02-3868000 ต่อ 1888 @sahathai www.facebook.com/sahathaiterminal/ @sahathaiterminal www.sahathaiterminal.com AD WP
- 17. AD spali
- 18. 18 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 “เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุน ขาใหญ่ชื่อดัง เจ้าของพอร์ตหุ้นมูลค่า กว่า4.5พันล้านบาทยอมรับว่าตลาด หุ้นไทยในปัจจุบันลงทุนยากขึ้นเพราะยังคง ถูกกดดันด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังไม่มีข้อยุติ ส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่เอื้อต่อการลงทุน จากปัญหาความไม่ลงตัวทางการเมือง ทางรอดที่ส�าคัญของนักลงทุนในตอน นี้คือ “ความรู้” และ “ความอดทน” “บรรยากาศการลงทุนค่อนข้าง เงียบเหงา มูลค่าลงทุนไม่สูง สะท้อนว่านัก ลงทุนไม่สนใจเข้าลงทุนในระยะนี้ เพราะ ความเสี่ยงเต็มไปหมด สิ่งที่ท�าตอนนี้คือ หาความรู้ไปเรื่อย ๆ อดทนรอให้ปัญหา สะเด็ดน�้าแล้วค่อยลงทุน” เขาแนะน�าว่า ระหว่างนี้ควรถือเงินสด ให้มากที่สุด หากอยากลงทุนก็ใช้แค่ 5-10% ก็พอ ศึกษาหาความรู้ หาหุ้นเป้าหมาย รอ จังหวะที่จะเกิด“BigShot”ค่อยทุ่มเต็มพอร์ต “ตลาดหุ้นมักมีวงจรขาลงครั้งใหญ่ เสมอ ซึ่งจังหวะนั้นจะเป็นช่วงการเลือกหา หุ้นพื้นฐานดี เหมือนช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ใหญ่ๆที่ผ่านมาทั้งต้มย�ากุ้งซัพไพรม์หรือ น�้าท่วมใหญ่ที่ดัชนีลงไปเยอะๆพอแรงขาย หมดตลาดเริ่มกลับแนวโน้มเป็นขาขึ้นหาก เรามีเงินสดมากพอ ก็จะมีโอกาสมากมาย ส�าหรับเข้าลงทุน ไม่ควรตะบี้ตะบันลงทุน ไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ทุกช่วง เพราะทุนอาจจะ จมได้” วิธีการเลือกหุ้นของ เสี่ยยักษ์ คือ ให้ คิดเหมือนการค้าขาย ต้องตะหนักให้ได้ว่า ของที่ซื้อมาจะเอาไปขายให้ใครด้วยเหตุผล อะไร และมีก�าไรไหม “เล่นหุ้นก็เหมือนกับค้าขาย ของที่ซื้อ มาต้องเอาไปขายต่อแล้วได้ก�าไร เราต้อง รู้ว่าของที่เราซื้อมาจะมีมูลค่าเพิ่มแค่ไหน ในอนาคต ให้คนอื่นมาซื้อต่อในราคาที่เรา ต้องการ นี่แหล่ะที่เรียกว่าพื้นฐาน ซึ่งต้อง ศึกษาให้ตกผลึก อย่าเล่นตามคนอื่น” เสี่ยยักษ์ บอกว่า หุ้นที่จะลงทุนต้องมี ราคาถูกเสมอและธุรกิจเป็นแนวโน้มขาขึ้น “ผมมักจะหาหุ้นที่ P/E ต�่า แต่ต้องต�่า แล้วเติบโตนะ ไม่ใช่ต�่าเพราะธุรกิจเป็นขา ลง ยกตัวอย่าง ผมเคยลงทุนหุ้น P/E แค่ 5 เท่า ซึ่งผมศึกษามาแล้วว่าธุรกิจยังเป็นขา ขึ้น แต่ยังไม่มีคนสนใจมากนัก ผ่านไปไม่กี่ ปีให้ผลตอบแทนหลายเท่าตัวเลย” “วิชัย วชิรพงศ์” ถือเงินสดรอจังหวะฮุบค�โต ส่วนเทคนิคในการลงทุนของเสี่ยยักษ์ คือ เมื่อเจอหุ้นเป้าหมาย ให้เริ่มต้นจากเงิน ก้อนเล็กก่อน หากชนะค่อยสู้ต่อ แต่ถ้าแพ้ ให้ถอยทันที “ผมจะหยั่งเชิงก่อนส่งก้อนแรกเข้าไป ลุยสัก 10-20% เทคนิคแบบนี้มีข้อดีคือ ช่วยให้เราต้องเกาะติดหุ้นตัวนั้น ดูความ เคลื่อนไหว ดูพัฒนาการ ทั้งราคาและพื้น ฐาน ผ่านไประยะหนึ่งหากหุ้นตัวนั้นใช่ ตามที่วิเคราะห์ไว้และสร้างก�าไร ค่อยใส่ เงินที่เหลือลงไป แต่หากไม่ใช่ก็ตัดขาดทุน ออกได้โดยที่เจ็บตัวน้อยกว่าใส่เงินทั้งหมด ตั้งแต่แรก” เขาแนะน�าเพิ่มเติมว่าด้วยภาวะตลาด หุ้นผันผวนสูงในปัจจุบัน ควรลงทุนระยะ กลาง-ยาว ขึ้นไป “ตลำดหุ้นแบบนี้นักลงทุนระยะ สั้นจะล�ำบำก เพรำะนอกจำกปัจจัย เสี่ยงที่มำกระทบแทบจะรำยวัน ยังมี DW, Block trade และ AI ซึ่งมีผลท�ำให้ หุ้นแกว่งขึ้นลงรวดเร็ว รุนแรง ทั้งที่ พื้นฐำนหุ้นตัวนั้นยังเหมือนเดิม ผมจะ ถือลงทุนอย่ำงน้อย3-5ปีขึ้นไปเพรำะไม่ ต้องกังวลเรื่องรำคำหุ้นผันผวนระยะสั้น” ปรับกลยุทธ์ “เอาตัวรอดแบบเซียน”
- 19. คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 19 “อนุรักษ์ บุญแสวง” หรือ “โจ ลูก อีสำน” นักลงทุนรายใหญ่และอดีต นายกสมาคมหุ้นเน้นคุณค่า(VI)แห่ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า โดยธรรมชาติของ นักลงทุน VI จะไม่ประเมินภาพรวมตลาด หุ้น แต่จะไปโฟกัสที่หุ้นรายตัว ว่าบริษัท ไหนที่แข็งแกร่ง และทนทานพอหากเกิด วิกฤตเศรษฐกิจ ต้องย�้าตัวเองเสมอว่า เราซื้อบริษัท ซื้อธุรกิจ ถ้าเราเลือกบริษัท มาดีต่อให้ตลาดแย่หรือมีวิกฤตความกลัว เราก็จะลดลง อย่างตนเองได้คาดการณ์ไว้ แล้วว่าวิกฤตการเงินจะต้องเกิดขึ้นไม่เร็วก็ ช้า เพราะเคยผ่านบทเรียนมาแล้วทั้งวิกฤติ ต้มย�ากุ้ง และแฮมเบอร์เกอร์ โดยจะมอง ภาพรวมของพอร์ตตัวเองแบบเลวร้ายสุด ให้โอกาสหุ้นลดลงได้ถึง 80% เพราะฉะนั้น ถ้าลงไม่กี่10%จึงถือว่าเป็นเรื่องเล็กเพราะ ถ้าหากสามารถประคองพอร์ตได้ หลัง วิกฤตผลตอบแทนจะพลิกกลับมาเป็นก�าไร แบบมหาศาล “กูรู VI แทบทุกคนจะสอนว่า อย่า ประเมินตลาดเพราะเหมือนเราเอาเรือออก ทะเล เราแทบไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง ถ้า เรามั่นใจว่าเรือเราแข็งแกร่ง เมื่อเจอมรสุม ย่อมมีเซบ้าง แต่สุดท้ายเมื่อลมสงบเรือเรา ก็ยังไปต่อได้อย่างมั่นคง เหมือนกับบริษัท ที่เราเลือกลงทุน ถ้าบริษัทที่ดียามวิกฤตจะ ไม่ล้ม และจะฟื้นแรงเมื่อวิกฤติคลี่คลาย ” ธรรมชาติของ VI จะมีแนวคิดที่สวน กระแสเสมอ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ ที่ตามกระแส มักจะไม่ประสบ ความส�าเร็จ แต่การ สวนกระแสต้องมีหลักการในการ ลงทุน ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเลือกหุ้น โดยหลัก การเลือกหุ้นเบื้องต้นที่เป็นหลักส�าคัญคือ ต้องมีก�าไรดี และเติบโตต่อเนื่อง จากนั้น ต้องลงลึกไปดูส่วนต่างๆทั้งผู้บริหารงบการ เงินทิศทางอุตสาหกรรมซึ่งปัจจัยทั้งหลาย เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาเองว่าหุ้น ตัวนั้นน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน อุปสรรคของVIในช่วงนี้คือการหาหุ้น ที่มีคุณภาพและราคาถูกยากขึ้น เนื่องจาก วงการหุ้นเปิดกว้าง นักลงทุนมีความรู้ใน การหาหุ้นมากกว่าสมัยก่อน ยิ่งช่วงต้นปี ที่ผ่านมาตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นอย่างร้อนแรง ท�าให้หุ้นหลายตัวราคาแพง ซึ่งในลักษณะ ตลาดเช่นนี้ ตนเองจะพักการลงทุนหรือหา จังหวะขายหุ้นท�าก�าไร แต่เมื่อไหร่ที่ตลาด เริ่มชะลอความร้อนแรงหุ้นดีๆราคาถูกก็จะ ปรากฎออกมาเองเพียงแต่ต้องหาให้ เจอ หรือถ้ายังหาไม่เจอก็ไม่ต้อง รีบร้อน จะเน้นการถือเงินสด แทน ด้านผลิตภัณฑ์ ขาลง อย่างกลุ่ม Short หุ้น - DW - หรือ Short TFEX ที่นักลงทุนชอบ นึกถึงในช่วงตลาด มีปัจจัยลบเข้ามากระ ทบ ทาง“โจลูกอีสาน” ก็เคยลองเข้าไปลงทุนอยู่ บ้าง แต่จะแบ่งสัดส่วนลงทุน เพียงเล็กน้อยเท่านั้นประมาณ “อนุรักษ์ บุญแสวง” สติ + คิดต่าง วิถีทางของ VI 1% ของพอร์ต เพื่อทดสอบความรู้ที่ ศึกษามาด้วยหลักการ VI ด้วยการ Short หุ้นที่เกินมูลค่า แต่ หากจะให้ตนเองปรับตัวแล้วกลายมาเป็น นักลงทุนแบบเทรดเดอร์นั้น ยอมรับว่าไม่ เคยอยู่ในความคิด เพียงแต่จะลงทุนเมื่อ ต้องการจะทดสอบความรู้ตัวเองเท่านั้น เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูง - เงื่อนไขการลงทุนที่ยุ่งยาก “สิ่งสําคัญอีกอย่างที่ต้องมีคือ สติ หากนักลงทุนไม่มีสิ่งนี้ ปล่อยให้กระแสพา ไป ก็มักจะทําสิ่งที่ไม่คาดคิด ได้เสมอ ไม่มี เงินไม่เปนไร แต่อย่าให้ไม่มีสติ” อนุรักษ กล่าวทิ้งท้าย ยิ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมาตลาด หุ้นที่ปรับขึ้นอย่างร้อนแรงท�ให้ หุ้นหลายตัวราคาแพง ซึ่งใน ลักษณะตลาดเช่นนี้ ตนเองจะ พักการลงทุนหรือหาจังหวะขาย หุ้นท�ก�ไร
- 20. 20 คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 “เสี่ยปอง” วัชระ แก้วสว่ำง เซียนหุ้น สายเทคนิค หรือ เทรดเดอร์รายใหญ่ ระบุว่าช่วง2ปีหลังตลาดหุ้นไทยเทรด ยากขึ้น เพราะมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก ประกอบกับปัจจุบันมีสินค้าทางการลงทุน เช่น DW, Block trade และ AI เข้ามามี บทบาทการซื้อขายอย่างมีนัยส�าคัญ ส่งผล ให้มีความผันผวนต่อการวิเคราะห์หุ้นด้วย เทคนิค ท�าให้ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการลงทุน เขำแนะน�ำว่ำ สิ่งส�ำคัญที่สุดของ นักลงทุนสำยเทรดเดอร์ คือ “วินัย” “ตลาดหุ้นแบบนี้ วินัย เป็นสิ่ง ที่กลุ่มเทรดเดอร์ต้องยึดมั่นเป็น อันดับแรก กราฟบอกให้ซื้อต้อง กล้าซื้อ กราฟบอกให้ขายต้อง กล้าขาย ขาดทุนต้องกล้า Cut Loss อย่าหลอกตัวเอง โดย ส่วนตัวถ้ากราฟเสีย ผมจะไม่ สนเลยตัดทิ้งทันทีพอร์ตเราไม่ ควรมีตัวแดงเพราะกลัวมากกับ การติดดอยผมเคยติดดอยตอนปี 37 ช่วงดัชนีขึ้นไป 1,700 จุด ต้อง รอถึงกว่า 20 ปี ถึงจะหลุดได้ ผมคิดว่าถ้ากลัวติดดอยต้องเรียน รู้กราฟ แม้ว่ากราฟจะไม่ได้ช่วย เราได้ทั้ง 100% แต่ก็สามารถบอก ต�าแหน่งที่เราอยู่ได้ว่าราคาที่ซื้อไว้ อยู่ตรงไหนของยอดภูเขา” “เสี่ยปอง” บอกว่า ปัจจุบัน สัดส่วนการลงทุนเหลือแค่ไม่เกิน 50% ของพอร์ต จากปกติจะลงทุน ทั้ง 100% “ควรลงทุนเพียงครึ่งพอร์ตพอ เพราะไม่ไหวกับปัจจัยที่ควบคุม ไม่ได้ บางสัปดาห์สัญญาณทาง เทคนิคบอกให้ซื้อผมก็ซื้อแต่พอคุณ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาพูด กลาย เป็นเกิดแรงขายเฉยเลย ก็ต้อง ขาย ซึ่งไม่มีใครคาดการณ์อะไร ได้แล้ว ขนาดนักวิเคราะห์ก็ยัง เมาหมัด และผมมองว่าจะยังเป็น แบบนี้อีกนาน” ขณะเดียวกันควรปรับระยะเวลา ลงทุนให้นานขึ้น เพื่อลดความ ผันผวนรายวัน “พอตลาดฯเทรดยากขึ้น ผลจึงลดการเดย์เทรดน้อย ลง ปรับมาเล่นในกรอบ ระยะ 2-3 สัปดาห์หรือ อาจจะ 2-3 เดือน เพราะ นอกจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ยังมี DW, Block trade และ AI ซึ่งท�าให้หุ้นแกว่ง ตัวผันผวนและรวดเร็วขึ้นจะ ให้ออกไปรบทุกวัน ไม่มีความ จ�าเป็นแล้ว ต้องปรับมาลงทุน ยาวขึ้น เพื่อลดความผันผวน” เซียนเทคนิครายใหญ่เพิ่มเติมว่าให้ ระมัดระวังการลงทุนประเภทBlockTrade ยิ่งภาวะที่ตลาดผันผวน จะมีความเสี่ยง มากกว่าเดิม “ตอนนี้นักลงทุนใช้เครื่องมือ Block Trade กันเยอะ เพราะเพิ่มอ�านาจผล ตอบแทนหลายเท่าตัว แต่ผู้ลงทุนต้อง อาศัยการซื้อขายรวดเร็วมาก ๆ ส่วนตัว มองว่าค่อนข้างมีความเสี่ยงคนที่ใช้Block Tradeหากถูกทางก็ดีไปแต่ถ้าผิดทางแล้ว ถูกบังคับขาย ผมว่าน่าสงสาร เพราะท�าได้ อย่างเดียวคือท�าใจ” ส่วนวิธีเลือกหุ้นของ “เสี่ยปอง” ปัจจุบันจะเน้นเล่นรายตัวเลือกหุ้นบิ๊กแคป ที่มีสภาพคล่องสูง เพราะเวลาซื้อ จะซื้อ จ�านวนมาก จึงต้องเลือกตัวที่ซื้อง่ายขาย สะดวก “ถ้าเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยเวลา หุ้นขึ้นก็จะเกิดเพราะเรา หรือเวลาลงก็จะ เกิดจากเราแบบนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์ตอน นี้เลยเล่นหุ้นใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูงไว้ก่อน ไม่เหมือนตอนที่พอร์ตเล็กๆ เล่นได้ทุกตัว” “เสียปอง” ทิ้งข้อคิดไว้ว่า ในภาวะ ที่ตลาดหุ้นลงทุนยาก ให้เน้นลงทุนระยะ ยาวในหุ้นพื้นฐานดีมีปันผล โดยใช้ปัจจัย เทคนิคในการจับจังหวะซื้อขาย ส่วนนัก ลงทุนที่ยังกังวลเรื่องความเสี่ยงหรือไม่มี เวลาติดตามอย่างใกล้ชิดแนะน�าซื้อกองทุน จะดีกว่าเพราะมีผู้จัดการกองทุนซึ่งมีความ รู้ความสามารถคอยดูแล สะท้อนได้จาก ผลตอบแทนกองทุนส่วนใหญ่ที่มักชนะ ตลาดเสมอ “วัชระ แก้วสว่าง” ลงทุนด้วยวินัย ใส่เงินแค่ครึ่งพอร์ต ตลาดหุ้นแบบนี้ วินัย เป็น สิ่งที่กลุ่มเทรดเดอร์ต้องยึดมั่น เป็นอันดับแรก กราฟบอกให้ซื้อ ต้องกล้าซื้อ กราฟบอกให้ขาย ต้องกล้าขาย ขาดทุนต้องกล้า Cut Lossอย่าหลอกตัวเอง
- 21. คู่มือ เอาตัวรอด ปี 63 21 นอกจากนี้ยังมีพันธบัตรที่อ้างอิง เงินเฟ้อ เพราะช่วงเศรษฐกิจมีปัญหา นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะถูกน�ามาใช้ และท�าให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น ซึ่งพันธบัตร แบบนี้จะมีดอกเบี้ยให้ในช่วงเงินเฟ้อปรับ ตัวขึ้น แต่อาจจะมีข้อจ�ากัดตรงที่พันธบัตร รูปแบบดังกล่าว ในประเทศไทย จะมีตัวเลือกไม่มากนัก ส่วนนักลงทุนที่ยัง มั่นใจในหุ้น ก็ควรลงทุน “วชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงศ์” จงเชื่อข้อมูล มากกว่าลมปาก “วชิรเมษฐ์ธเนศสถิตพงศ์”อาจารย์ จากอีฟินสคูล ผู้ที่คร�่าหวอดใน วงการตลาดเงินตลาดทุนมา เกือบ 20 ปี เปิดเผยถึง แนวทาง การปรับกลยุทธ์การลงทุนใน ช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ ตัวว่านักลงทุนควรให้ความ ส�าคัญกับชุดข้อมูลหรือ ตัวเลขเศรษฐกิจมากกว่า กระแสข่าว ซึ่งข้อมูลใน ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณชี้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกหรือเศรษฐกิจ ไทยจะฟื้นตัว เพราะสงครามการ ค้ายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่ต้องกังวล คือสถานการณ์ Brexit เพราะสัดส่วนนัก ลงทุนต่างชาติที่ถือครองหุ้นไทยมากที่สุด กว่า 40% เป็นกลุ่มสหราชอาณาจักร ดังนั้นหากสถานการณ์การเมืองในสห ราชอาณาจักรมีปัญหา จะยิ่งเป็นปัจจัย เสี่ยงที่นักลงทุนกลุ่มนี้จะถอนเงินสดกลับ ประเทศ “ตอนนี้ต้องดูที่ข้อมูลมากกว่าค�าพูด ธนาคารกลางทั่วโลก บอกว่าเศรษฐกิจ ยังไม่แย่ก็จริง แต่พฤติกรรมสวนทางกับ การกระท�า เพราะเดินหน้าเก็บทองค�า เข้าพอร์ตต่อเนื่อง ยิ่งสะท้อนว่าเค้า ก�าลังเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หรือ แม้แต่นักลงทุนรายใหญ่ก็เริ่มที่จะหัน ไปลงทุนในพันธบัตรระยะยาวกันมาก ขึ้น แต่ถามว่าจะเกิดวิกฤตขึ้น เมื่อไหร่ก็คงคาดการณ์ยากแต่ เชื่อว่าถ้าเกิดจริงจะไม่รุนแรง เท่าปี 40” วชิรเมษฐ์ กล่าว กลยุทธ์การลงทุนในช่วง ตลาดหุ้นขาลง ตลาดก็ยัง มีสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอยู่ มาก ไม่ว่าจะเป็นทองค�าที่ นักลงทุนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็น สินทรัพย์ปลอดภัยอันตับ ต้นๆ ของโลก แต่อาจจะมี ข้อจ�ากัดเรื่องที่ทองค�าไม่มี ดอกเบี้ยให้เหมือนผลิตภัณฑ์ การเงินอื่นๆ หรือจะเป็นการ ถือเงินสด แต่ก็ต้องเลือกสกุล เงินของประเทศที่มั่นคง อย่าง ไต้หวันเนเธอร์แลนด์สวิตเซอร์แลนด์ หรือ ไทย เป็นต้น ในบริษัทที่มีรายได้-ก�าไรแน่นอน อย่าง กลุ่มไฟฟ้า - ประปา เพราะกลุ่ม พวกนี้ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นแบบ ไหน รายได้ก็ยังมีเข้ามาแบบ สม�่าเสมอ แต่ก็ต้องลงลึกเป็น รายตัว ทั้งอัตราเงินปันผล และ P/E เนื่องจากหุ้นกลุ่ม ไฟฟ้าที่ผ่านมา P/E อาจะสูง เกินไป ดังนั้นในช่วงตลาด ชะลอก็น่าจะเป็นจังหวะดีใน การเข้าลงทุน อีก 2 สิ่งที่นักลงทุนควร ต้องมี คือ จิตวิทยาการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องของการกลั่นกรอง ข้อมูล เพราะถ้ามีสติผสมกับการ วิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผลจะช่วยให้ ประเมินสถานการณ์ได้ชัดมากขึ้นนอกจาก นี้นักลงทุนควรมีเครื่องมือการลงทุนที่มี ประสิทธิภาพ เพราะเมื่อเศรษฐกิจชะลอ ตัวการจัดการหุ้นที่มีในพอร์ตจะยุ่งยาก มาก การใช้เครื่องมือแบบ Auto Trade ที่ สามารถตั้งซื้อ-ขายหุ้นแบบอัตโนมัติ หรือ เครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลหรือสถิติการซื้อ ขายของนักลงทุนต่างชาติ ก็จะยิ่งช่วยให้ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่ง จะส่งผลให้การบริหารจัดการพอร์ตลงทุน ง่ายขึ้นตามไปด้วย ตอนนี้ต้องดูที่ข้อมูลมากกว่า ค�พูด ธนาคารกลางทั่วโลก บอก ว่าเศรษฐกิจยังไม่แย่ก็จริง แต่ พฤติกรรมสวนทางกับการกระ ท� เพราะเดินหน้าเก็บทองค�เข้า พอร์ตต่อเนื่อง ยิ่งสะท้อนว่าเค้า ก�ลังเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- 23. AD เมืองไทย AD CP เครือเจริญโภคภัณฑ กับกาวสำคัญสูความยั่งยืน บริษัทในเครือฯ ไดรับคัดเลือกเปนสมาชิกในกลุม ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส ประจำป 2562 (DJSI 2019 : Dow Jones Sustainability Indices 2019)