Advanced micro devices AMD
- 1. Advanced Micro Devices
แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1 พฤษภาคม ค.ศ.
1969 โดยกลุ่มผู้บริหารเดิมจาก Fairchild Semiconductor, ประกอบด้วย เจอรี่
แซนเดอร์ เอ็ดวิน เทอร์นี่, จอห์น คาเรย, สเวน ซิมอนเซน, แจ๊ค กิฟฟอร์ด และ สมาชิก 3
คนในกลุ่มของแจ๊ค, แฟรงค์ บ๊อทเต้, จิม ไจลส์, และ แลรี่
สเตรนเจอร์.โดยที่บริษัทเริ่มผลิต ลอจิกชิป , ต่อมาจึงเข้าสู่ธุรกิจการผลิตแรมในปี 1975.
และในปีเดียวกันนี้เอง
พวกเขาก็เริ่มจาหน่ายสิ่งที่ได้จากการทาสถาปัตยกรรมย้อนกลับซึ่งเป็นสิ่งที่เลียนแบบมา
จาก หน่วยประมวลผล Intel 8080.
ในช่สงเวลานั้น,เอเอ็มดีก็ได้ออกแบบและสร้างหน่วยประมวลผลในซีรีส์ (Am2900,
Am29116, Am293xx)
ซึ่งถูกนามาใช้แพร่หลายในการออกแบบวงจรของมินิคอมพิวเตอร์เวลาต่อมา,
เอเอ็มดีก็พยายามที่จะทาให้โปรเซสเซอร์เล็กลง โดยการรวม AMD 29K processor,
ให้เข้ากับ อุปกรณ์กราฟิกและเสียง เช่นเดียวกับหน่วยความจาแบบ EPROM.
โดยมันเสร็จในช่วงกลางปี 1980 เรียกกันว่า AMD7910 and AMD7911 "World
Chip" โดยเป็นอุปกรณ์แรกๆที่ ครอบคลุมทั้ง Bell และCCITT. โดย AMD 29K
ยังเป็น embedded processor อีกด้วย และ เอเอ็มดี ยังแยกให้ Spansion
ออกไปเพื่อสร้าง หน่วยความจาแฟลช. เอเอ็มดี
ยังตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแนวทางสู้กับหน่วยประมวลผลจาก อินเทล
โดยวางให้เป็นธุรกิจหลัก และให้ตลาดหน่วยความจาแฟลชเป็นตลาดรอง
เอเอ็มดี ประกาศว่าได้เข้าซื้อกิจการของ ATI Technologies ในวันที่ 24 กรกฎาคม
ค.ศ. 2006.โดยที่ เอเอ็มดี จ่ายเงินสด$4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นจานวน 58
ล้านหุ้น, รวมมูลค่าทั้งหมด$5.4พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.
- 2. โดยกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2006[7] ในปี ค.ศ. 2010
หน่วยประมวลผลทั้งหมดของบริษัทเปลี่ยนมาใช้ชื่อแบรด์ AMD ในการทาตลาด.
ในรายงานเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2006 ของ เอเอ็มดี,
และคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่าง Nvidia, ได้รับหมายศาลจาก กระทรวงยุติธรรม
ของสหรัฐอเมริกา
เกี่ยวกับการตั้งราคาของการ์ดจอให้มีการแข่งขันกันอย่างยุติธรรมไม่ให้ร่วมกันตั้งราคา
สูงเอาเปรียบผู้บริโภค
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008, เอเอ็มดี ได้ประกาศแผนที่จะแยกโรงงานผลิตโปรเซสเซอร์
โดยได้รับการลงทุนจาก Advanced Technology Investment Co.,
โดยร่วมทุนกับบริษัทจากรัฐบาลของ Abu Dhabi.
โดยบริษัทใหม่นี้มีชื่อเรียกว่า GlobalFoundries Inc..
โดยทางบริษัทใหม่นี้จะทาหน้าที่การผลิตชิปต่างๆให้กับ เอเอ็มดี
ผู้เดียว[10] โดยการแยกตัวออกมาครั้งนี้ทาให้พนักงานกว่า 1,000 ตาแหน่งถูกเลิกจ้าง
ซึ่งนับเป็น 10% ของพนักงาน เอเอ็มดี ทั่วโลก .
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011, เอเอ็มดี ประกาศว่าอดีตซีอีโอจาก เลโนโว โรรี่
รีด จะมาทาหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อจาก ดริก
มีเยอร์. และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆและจึงทาให้มีแผนการแก้ไขแรงงานให้มุ่งเน้นไ
ปที่การสนับสนุนการพัฒนาของ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์พลังงานต่า,ในเดือน พฤศจิกายน
เอเอ็มดีจึงได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 1400 คน ซึ่งนับว่าเป็น 10%
จากพนักงานทั่วโลก. โดยแผนนี้มีเวลาสิ้นสุดถึง ไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ. 2012
เอเอ็มดียังประกาศแผนในตุลาคม ค.ศ. 2012 โดยมีแผนจะเลิกจ้างพนักงานเพิ่ม 15%
เพื่อลดค้าใช้จ่ายลงอีก.
- 3. ในปี ค.ศ. 2012 นี้ AMD ยังเข้าซื้อกิจการ SeaMicro ผู้ผลิตเซิฟเวอร์ประหยัดพลังงาน
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนเพื่อส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภันฑ์กลุ่มนี้