SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2557
ชื่อโครงงานสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 12
2.น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17 ชั้น ม.6 ห้อง 12
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1 2.น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่ น
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Travel In Japan
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1
น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงานภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เมื่อพูดถึงต้นกาเนิดดอกซากุระอย่าง"ประเทศญี่ปุ่น" แน่นอน เพราะด้วยอากาศที่เย็นสบาย
รวมทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทาให้ญี่ปุ่นเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนคิดอยากจะเดินทางไปเยือน
อีกทั้งในแต่ละสถานที่สาคัญในญี่ปุ่นนั้นล้วนมีประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมของแต่ละสถานที่ที่
แตกต่างกันจึงทาให้ผู้ศึกษานั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นว่ามีความสาคัญ
และประวัติความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสถานที่
ท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่น
ดังนั้นจึงได้จัดทาโครงงานนี้ขึ้นมาโดยทางผู้จัดทาได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่นที่
น่าสนใจมากที่สุดมาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆเพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจได้ศึกษา
หาความรู้จากโครงงานได้
3
วัตถุประสงค์
1.เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่ น
2.เพื่อให้ผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจได้รับความรู้จากสถานที่ต่างๆ
3.เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ขอบเขตโครงงาน
โครงงานนี้จากัดขอบเขตคือการศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจและมีความสาคัญในประเทศญี่ปุ่ นและมี
การสอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและความสาคัญของแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจของญี่ปุ่ นด้วย
หลักการและทฤษฎี
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์
ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด
บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้
ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดย
ผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ
เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่
สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-กาหนดหัวข้อเรื่องโครงงาน
-ศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งความรู้เพิ่มเติม
-รวบรวมข้อมูลที่ได้และทาการจัดเรียบเรียงข้อมูล
-เขียนโครงร่างโครงงานและเริ่มปฏิบัติงาน
-สารวจตรวจดูความเรียบร้อยของโครงงาน
-ปรับปรุงโครงงาน
-ประเมิณผล
-นาเสนอโครงงาน
4
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-คอมพิวเตอร์
-เว็บ Blogger
-SildeShare
-Powerpoint
งบประมาณ 200 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน ประภัสวรรณ
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
ฌชฌาพรรณ
3 จัดทาโครงร่างงาน ประภัสวรรณ
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
ฌชฌาพรรณ
5 ปรับปรุงทดสอบ ฌชฌาพรรณ
6 การทาเอกสารรายงาน ประภัสวรรณ
7 ประเมินผลงาน ฌชฌาพรรณ
8 นาเสนอโครงงาน ประภัสวรรณ
ฌชฌาพรรณ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกี่ยวกับการทาโครงงานและการทางานเป็นทีม
2.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สืบค้น
3.ผู้สนใจได้รับความรู้จากโครงงานที่ได้จัดทาขึ้น
4.สามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนได้
5
5.ทาให้ผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจเกิดความรู้จากการโครงงานเพิ่มเติมมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
-กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาญี่ปุ่น)
-กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
แหล่งอ้างอิง
http://www.asianair.co.th/8-blog/69-top-10-attractions-in-japan
http://www.nouhibus.co.jp/english/shirakawago_kanazawa.html
http://cherokee.exteen.com/20110308/shirakawa-go
http://www.his-bkk.com/th/article/article_6.php
http://th.wikipedia.org/wiki/
http://www.dplusguide.com/2014/tokyo-tower
http://www.yokosojapan.org
http://www.japan-guide.com
http://www.bondstreettour.com/New_Page2012/image/imagehead/JapanSize540235.jpg
http://www.youtube.com/watch?v=BLXgvjHfnhY
https://www.youtube.com/watch?v=6wpmdMg7N14
6
1.พระราชวังอิมพีเรียล
พระราชวังอิมพีเรียล แต่เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ อีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวที่สาคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว เพราะ
เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านประมงเล็กที่ชื่อ เอะโดะ ที่ถูกตั้งเป็นฐานที่มั่น
รวมทั้งถูกตั้งเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหาร ต่อมาได้ขยายเมืองให้ใหญ่ขึ้น จนมีประชากรและพื้นที่เมืองขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากนั้นเข้าสู่ยุคปฏิรูปเม
จิ การล้มล้างการปกครองแบบโชกุนลง จักรพรรดิเมจิจึงย้ายเมืองหลวงมาที่เอะโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโตเกียวในปัจจุบัน ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลาง
ทางการปกครองและวัฒนธรรมของประเทศ และถูกเปลี่ยนให้เป็นพระราชวังในเวลาต่อมา มีชื่อเรียกว่า พระราชวังอิมพิเรียล ในปัจจุบัน ซึ่งภายใน
ล้อมรอบด้วยคูเมือง ประตูทางเข้าที่งดงาม และป้อมปราการเก่าแก่ตั้งอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ทางเข้าหลักอยู่ใกล้กับนิจูบะชิ สะพานสองชั้น และจะเปิดให้
คนภายนอกเข้าชมตามวาระพิเศษต่าง ๆ สวนตะวันออกฮิงะชิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของหอคอยใหญ่ ภายในสวนงดงามไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์
และจะผลิบานตามแต่ฤดูกาล เหมาะสาหรับทุกคนที่ต้องการสถานที่พักผ่อนในอุดมคติ
7
2. โตเกียว ทาวเวอร์
โตเกียว ทาวเวอร์ หอคอยสื่อสารขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ในเขตมินะโตะ กรุงโตเกียว
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะใน 1 ปี มีผู้ร่วมเข้าชมถึง 2 ล้าน 5 คน อีกทั้งยังเป็นเหมือน
สัญลักษณ์เพื่อแสดงถึงอานาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของโลก เป็นที่ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์
วิทยุ ซึ่งที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอคอยสูงในปารีส สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโบราณแบบญี่ปุ่น
ทั้งนี้ โตเกียว ทาวเวอร์ จะเปิดทาการตั้งแต่ 09.00-20.00 น. โดยไม่มีวันหยุด ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่น
แล้วไม่มาเยือนที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่นเลย
8
3. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะ
ชิราคาวาโกะ (Shirakawako) หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ได้รับการ
ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น หลังคา
มุงด้วยฟางข้าว สร้างขึ้นด้วยมือที่เรียกว่า การสร้างบ้านแบบ กัตโชทสึคุริ (Gassho-
zukuri) เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คาว่า "กัสโช" หมายความว่า พนมมือ
ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะรูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือ
ที่พนมเข้าหากัน มุงแบบลาดลงคล้ายหน้าจั่ว เพื่อให้ทนทานต่อหิมะและลมในฤดูหนาว ตัวบ้านมี
ความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งบางแห่งสามารถ
เข้าพักค้างคืนได้แถมยังเป็นกิจการที่เปิดภายในครัวเรือนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เห็นการใช้ชีวิตแบบ
ดั่งเดิมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
9
4. ภูเขาฟูจิ
ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในโลก มีความสูงถึง 3,776
เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเกียวและโยโกฮาม่าในวันที่
ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วิธีที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิที่ง่ายที่สุด คือ นั่งชมจากรถไฟสายโทไกโดที่วิ่งระหว่างเมืองโตเกียวและ
โอซาก้า ถ้าคุณนั่งชินกันเซ็นจากโตเกียวที่มุ่งหน้าไปยังนาโงย่า เกียวโต และโอซาก้า ช่วงที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิ คือ
ช่วงสถานีชิน-ฟูจิ หรือประมาณ 40-45 นาที หลังจากออกจากโตเกียว ซึ่งจะมองเห็นได้ทางด้านขวามือของ
รถไฟ แต่สาหรับผู้ที่อยากชมภูเขาฟูจิอย่างเต็มอิ่ม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามขอเชิญที่ ทะเลสาบทั้งห้า
(Fuji Five Lake or Fujigoko) หรือที่ ฮะโกะเนะ ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ่อน้าพุร้อนและเป็นหนึ่ง
ใน อุทยานแห่งชาติ Fuji-Hakone-Izu
นอกจากนี้ รอบ ๆ ภูเขาฟูจิเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม และเป็น อุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะอิซุ มี
ทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจิโกะ ไซโกะ และมีออนเซนหลายแห่ง ได้แก่
ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โอชิโนะโกะ ฯลฯ นับได้ว่า ภูเขาฟูจิ มีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่
สมัยโบราณ มีชื่อภูเขาปรากฏอยู่ในบทกลอนญี่ปุ่นหรือภาพพิมพ์ญี่ปุ่น และทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ชื่อสินค้า
และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนตั้งชื่อว่า ฟูจิ เรียกว่าภูเขาฟูจินี้เป็นหัวใจของญี่ปุ่นก็ว่าได้ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-
สิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงที่ภูเขาฟูจิเปิดอย่างเป็นทางการให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปปีน
10
5. ช้อปปิ้งย่านสุดฮิตที่ย่านชินจูกุ ฮาราจูกุ โอไดบะ
เมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การช้อปปิ้ง ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีแหล่งช้อปที่หลาย
หลาย แต่ที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ย่านชินจุกุ (Shinjuku) แหล่งท่องเที่ยวทันสมัยฝั่งตะวันตกของ
โตเกียว นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งและสถานบันเทิงยามค่าคืนยอดนิยมที่มีชื่อเสียง โดยยามกลางวัน
สามารถแวะชมสวนสาธารณะชินจุกุเกียวเอ็นที่เงียบสงบ, ย่านชิบุยะ (Shibuya) เป็นศูนย์กลาง
แฟชั่นและวัฒนธรรมสมัยใหม่ของวัยรุ่น ใกล้กับ ศาลเจ้าเมจิ ที่เงียบสงบ ติดต่อกันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง
ยอดนิยมและสวรรค์ของคนรุ่นใหม่ คือ ย่านฮาราจูกุ และ ย่านโอไดบะ ที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลใน
อ่าวโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ เพราะที่นี่มีทั้งแหล่งบันเทิง
ขนาดใหญ่ ชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเรนโบว์ทาวน์ ที่เหล่าคู่รัก
วัยรุ่นนิยมขึ้นชิงช้าชมวิวทิวทัศน์ยามค่าคืนที่สวยงาม
11
6. โอซาก้า
เมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
สาหรับญี่ปุ่นตะวันตก ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้าโยโดะ มีคลองที่เชื่อมโยงกันไปมาภายใต้ถนนหลายเส้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสาคัญที่นาความ
เจริญก้าวหน้ามาสู่เมือง และในฐานะที่เป็นเมืองดั้งเดิมจึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นต้นแบบของ ละครหุ่นกระบอกบุนระคุ
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาดชม อ่าวโอซาก้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความทันสมัยที่สุด และสวนสนุก Universal
Studios Japan แต่ที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่ง คือ ปราสาทโอซาก้า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นใน
ปี 1586 โดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปัจจุบันเป็นป้ อมปราการสูงห้าชั้น จาลองแบบจากของเดิม เก็บรักษาศิลปวัตถุโบราณหลายชิ้น
ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโทโยโทมิและโอซาก้าในอดีต สาหรับแหล่งบันเทิงและย่านช้อปปิ้งที่จะต้องแวะ คือ ย่านอุเมะดะ
และ ย่านนัมบะ ที่มีสถานีรถไฟและศูนย์การค้าใต้ดินที่ทันสมัยอยู่จานวนมาก สาหรับนักจับจ่ายซื้อของและนักชิมอาหาร "คุอุ
ดะโอะเระ" ถนนนักชิมที่มีชื่อเสียงสมคาเล่าลือ ที่ว่าโอซาก้าเป็นเมืองสาหรับนักชิมอย่างแท้จริง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ยากินิกุ,
ซูชิ และทาโกะยากิ
12
7. ปราสาทฮิเมะจิ
ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) ตั้งอยู่เมืองฮิเมะจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ยังคงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ
และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พร้อมทั้งได้มีการปิดเพื่อทาการปฏิสังขรณ์เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2009-2014 แต่นักท่องเที่ยวสามารถเข้า
ชมภายในและชมกระบวนการซ่อมแซมได้อย่างใกล้ชิด
ปราสาทฮิเมะจิ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สาคัญเพราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ ที่เหลือสุดรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดก
โลก เพราะยังคงความเป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรม และยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กาแพงสีขาว และอาคารต่าง ๆ ใน
บริเวณปราสาท ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น
อีกทั้งรอบ ๆ ปราสาทยังมีเครื่องป้ องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสาหรับโยนหินออกนอกปราสาท และลักษณะที่เด่นชัดของปราสาทนี้ คือ
ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกาแพงในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงได้
โดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบ ๆ อาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย และจนทุกวันนี้ปราสาทฮิเมะจิก็ยังไม่เคยถูก
โจมตีเลย ระบบการป้องกันต่าง ๆ จึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
13
7. วัดโทไดจิ
วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดพุทธที่สาคัญและเก่าแก่ที่สุดของเมืองนารา ได้ชื่อว่า
เป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับศาลเจ้า
และสถานที่สาคัญของเมืองนาราอีก 7 แห่ง ภายในวัดมี หอไดบุทสึ (Daibutsuden) หรือ
วิหารไม้ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึหล่อสาริดขนาดใหญ่ สูง
14.98 เมตร น้าหนักราว 500 ตัน หล่อโดยช่างสมัยเท็มเปียว (729-764)
14
8. ฮอกไกโด
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูก
ทาลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้า ทะเลสาบ บ่อน้าพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่
ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อน
อากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศ
ญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม
โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง
สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้ง
ย่านร้านค้าซุซุกิโนะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้
เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สาคัญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอกไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดสดขายอาหารทะเลสด
ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงาม
ได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่ง
ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเมืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทางตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้าแร่โซอุนเกียว ให้
เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้าแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิ
เระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และ
ทางตะวันตกของฮอกไกโดมี เมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมี
คลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดในโลกให้ลองลิ้มชิมรส
15
9. ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ณ ฟุระโนะ
เมืองฟุระโนะ ตั้งอยู่ใจกลางฮอกไกโดพอดี เป็นที่รู้จักกันในนามทุ่งดอกไม้ที่มีภูเขาล้อมรอบ
ไว้ทาให้ที่นี่มีความแตกต่างของอากาศในช่วงฤดูหนาวกับฤดูร้อนราว 30 องศา และที่สาคัญที่นี่มี
ชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ในหน้าร้อนจะมีสวนดอกไม้ที่สวยงาม
โดยเฉพาะที่ ฟาร์มโทมิตะ ซึ่งมีการปลูกลาเวนเดอร์ที่ทั้งสวยงามและกว้างใหญ่ไพศาล รวมทั้งดอกไม้
อื่น ๆ โดยที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนกระทั่งกลางเดือนกันยายน ส่วน
ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะหนามาก ทาให้กลายเป็นลานสกีที่มีชื่อเสียง และเปิดโอกาส
ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับลานสกีในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี

More Related Content

More from Chatchaphun Sent Work

สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นChatchaphun Sent Work
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์Chatchaphun Sent Work
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1Chatchaphun Sent Work
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์Chatchaphun Sent Work
 
ความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blogความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง BlogChatchaphun Sent Work
 

More from Chatchaphun Sent Work (8)

สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Pat7.1
Pat7.1Pat7.1
Pat7.1
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
ความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blogความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blog
 

โครงงานคอมม Pdf

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557 ชื่อโครงงานสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ชื่อผู้ทาโครงงาน 1น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 12 2.น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17 ชั้น ม.6 ห้อง 12 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1.น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1 2.น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17 ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่ น ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Travel In Japan ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ฌชฌาพรรณ พิชวงศ์ เลขที่ 1 น.ส.ประภัสวรรณ จิตสว่าง เลขที่ 17 ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงานภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เมื่อพูดถึงต้นกาเนิดดอกซากุระอย่าง"ประเทศญี่ปุ่น" แน่นอน เพราะด้วยอากาศที่เย็นสบาย รวมทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทาให้ญี่ปุ่นเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนคิดอยากจะเดินทางไปเยือน อีกทั้งในแต่ละสถานที่สาคัญในญี่ปุ่นนั้นล้วนมีประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมของแต่ละสถานที่ที่ แตกต่างกันจึงทาให้ผู้ศึกษานั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นว่ามีความสาคัญ และประวัติความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสถานที่ ท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงได้จัดทาโครงงานนี้ขึ้นมาโดยทางผู้จัดทาได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่นที่ น่าสนใจมากที่สุดมาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆเพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจได้ศึกษา หาความรู้จากโครงงานได้
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่ น 2.เพื่อให้ผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจได้รับความรู้จากสถานที่ต่างๆ 3.เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขอบเขตโครงงาน โครงงานนี้จากัดขอบเขตคือการศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจและมีความสาคัญในประเทศญี่ปุ่ นและมี การสอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและความสาคัญของแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจของญี่ปุ่ นด้วย หลักการและทฤษฎี โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดย ผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่ สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน -กาหนดหัวข้อเรื่องโครงงาน -ศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งความรู้เพิ่มเติม -รวบรวมข้อมูลที่ได้และทาการจัดเรียบเรียงข้อมูล -เขียนโครงร่างโครงงานและเริ่มปฏิบัติงาน -สารวจตรวจดูความเรียบร้อยของโครงงาน -ปรับปรุงโครงงาน -ประเมิณผล -นาเสนอโครงงาน
  • 4. 4 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -คอมพิวเตอร์ -เว็บ Blogger -SildeShare -Powerpoint งบประมาณ 200 บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน ประภัสวรรณ 2 ศึกษาและค้นคว้า ข้อมูล ฌชฌาพรรณ 3 จัดทาโครงร่างงาน ประภัสวรรณ 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน ฌชฌาพรรณ 5 ปรับปรุงทดสอบ ฌชฌาพรรณ 6 การทาเอกสารรายงาน ประภัสวรรณ 7 ประเมินผลงาน ฌชฌาพรรณ 8 นาเสนอโครงงาน ประภัสวรรณ ฌชฌาพรรณ ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกี่ยวกับการทาโครงงานและการทางานเป็นทีม 2.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สืบค้น 3.ผู้สนใจได้รับความรู้จากโครงงานที่ได้จัดทาขึ้น 4.สามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนได้
  • 5. 5 5.ทาให้ผู้ศึกษาและผู้ที่สนใจเกิดความรู้จากการโครงงานเพิ่มเติมมากขึ้น สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง -กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 -กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาญี่ปุ่น) -กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย แหล่งอ้างอิง http://www.asianair.co.th/8-blog/69-top-10-attractions-in-japan http://www.nouhibus.co.jp/english/shirakawago_kanazawa.html http://cherokee.exteen.com/20110308/shirakawa-go http://www.his-bkk.com/th/article/article_6.php http://th.wikipedia.org/wiki/ http://www.dplusguide.com/2014/tokyo-tower http://www.yokosojapan.org http://www.japan-guide.com http://www.bondstreettour.com/New_Page2012/image/imagehead/JapanSize540235.jpg http://www.youtube.com/watch?v=BLXgvjHfnhY https://www.youtube.com/watch?v=6wpmdMg7N14
  • 6. 6 1.พระราชวังอิมพีเรียล พระราชวังอิมพีเรียล แต่เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ อีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวที่สาคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว เพราะ เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านประมงเล็กที่ชื่อ เอะโดะ ที่ถูกตั้งเป็นฐานที่มั่น รวมทั้งถูกตั้งเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหาร ต่อมาได้ขยายเมืองให้ใหญ่ขึ้น จนมีประชากรและพื้นที่เมืองขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากนั้นเข้าสู่ยุคปฏิรูปเม จิ การล้มล้างการปกครองแบบโชกุนลง จักรพรรดิเมจิจึงย้ายเมืองหลวงมาที่เอะโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโตเกียวในปัจจุบัน ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลาง ทางการปกครองและวัฒนธรรมของประเทศ และถูกเปลี่ยนให้เป็นพระราชวังในเวลาต่อมา มีชื่อเรียกว่า พระราชวังอิมพิเรียล ในปัจจุบัน ซึ่งภายใน ล้อมรอบด้วยคูเมือง ประตูทางเข้าที่งดงาม และป้อมปราการเก่าแก่ตั้งอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ทางเข้าหลักอยู่ใกล้กับนิจูบะชิ สะพานสองชั้น และจะเปิดให้ คนภายนอกเข้าชมตามวาระพิเศษต่าง ๆ สวนตะวันออกฮิงะชิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของหอคอยใหญ่ ภายในสวนงดงามไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ และจะผลิบานตามแต่ฤดูกาล เหมาะสาหรับทุกคนที่ต้องการสถานที่พักผ่อนในอุดมคติ
  • 7. 7 2. โตเกียว ทาวเวอร์ โตเกียว ทาวเวอร์ หอคอยสื่อสารขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ในเขตมินะโตะ กรุงโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะใน 1 ปี มีผู้ร่วมเข้าชมถึง 2 ล้าน 5 คน อีกทั้งยังเป็นเหมือน สัญลักษณ์เพื่อแสดงถึงอานาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของโลก เป็นที่ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอคอยสูงในปารีส สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโบราณแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้ โตเกียว ทาวเวอร์ จะเปิดทาการตั้งแต่ 09.00-20.00 น. โดยไม่มีวันหยุด ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่น แล้วไม่มาเยือนที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่นเลย
  • 8. 8 3. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะ ชิราคาวาโกะ (Shirakawako) หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ได้รับการ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น หลังคา มุงด้วยฟางข้าว สร้างขึ้นด้วยมือที่เรียกว่า การสร้างบ้านแบบ กัตโชทสึคุริ (Gassho- zukuri) เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คาว่า "กัสโช" หมายความว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะรูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือ ที่พนมเข้าหากัน มุงแบบลาดลงคล้ายหน้าจั่ว เพื่อให้ทนทานต่อหิมะและลมในฤดูหนาว ตัวบ้านมี ความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งบางแห่งสามารถ เข้าพักค้างคืนได้แถมยังเป็นกิจการที่เปิดภายในครัวเรือนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เห็นการใช้ชีวิตแบบ ดั่งเดิมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
  • 9. 9 4. ภูเขาฟูจิ ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในโลก มีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเกียวและโยโกฮาม่าในวันที่ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วิธีที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิที่ง่ายที่สุด คือ นั่งชมจากรถไฟสายโทไกโดที่วิ่งระหว่างเมืองโตเกียวและ โอซาก้า ถ้าคุณนั่งชินกันเซ็นจากโตเกียวที่มุ่งหน้าไปยังนาโงย่า เกียวโต และโอซาก้า ช่วงที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิ คือ ช่วงสถานีชิน-ฟูจิ หรือประมาณ 40-45 นาที หลังจากออกจากโตเกียว ซึ่งจะมองเห็นได้ทางด้านขวามือของ รถไฟ แต่สาหรับผู้ที่อยากชมภูเขาฟูจิอย่างเต็มอิ่ม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามขอเชิญที่ ทะเลสาบทั้งห้า (Fuji Five Lake or Fujigoko) หรือที่ ฮะโกะเนะ ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ่อน้าพุร้อนและเป็นหนึ่ง ใน อุทยานแห่งชาติ Fuji-Hakone-Izu นอกจากนี้ รอบ ๆ ภูเขาฟูจิเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม และเป็น อุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะอิซุ มี ทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจิโกะ ไซโกะ และมีออนเซนหลายแห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โอชิโนะโกะ ฯลฯ นับได้ว่า ภูเขาฟูจิ มีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ สมัยโบราณ มีชื่อภูเขาปรากฏอยู่ในบทกลอนญี่ปุ่นหรือภาพพิมพ์ญี่ปุ่น และทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ชื่อสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนตั้งชื่อว่า ฟูจิ เรียกว่าภูเขาฟูจินี้เป็นหัวใจของญี่ปุ่นก็ว่าได้ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม- สิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงที่ภูเขาฟูจิเปิดอย่างเป็นทางการให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปปีน
  • 10. 10 5. ช้อปปิ้งย่านสุดฮิตที่ย่านชินจูกุ ฮาราจูกุ โอไดบะ เมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การช้อปปิ้ง ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีแหล่งช้อปที่หลาย หลาย แต่ที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ย่านชินจุกุ (Shinjuku) แหล่งท่องเที่ยวทันสมัยฝั่งตะวันตกของ โตเกียว นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งและสถานบันเทิงยามค่าคืนยอดนิยมที่มีชื่อเสียง โดยยามกลางวัน สามารถแวะชมสวนสาธารณะชินจุกุเกียวเอ็นที่เงียบสงบ, ย่านชิบุยะ (Shibuya) เป็นศูนย์กลาง แฟชั่นและวัฒนธรรมสมัยใหม่ของวัยรุ่น ใกล้กับ ศาลเจ้าเมจิ ที่เงียบสงบ ติดต่อกันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ยอดนิยมและสวรรค์ของคนรุ่นใหม่ คือ ย่านฮาราจูกุ และ ย่านโอไดบะ ที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลใน อ่าวโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ เพราะที่นี่มีทั้งแหล่งบันเทิง ขนาดใหญ่ ชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเรนโบว์ทาวน์ ที่เหล่าคู่รัก วัยรุ่นนิยมขึ้นชิงช้าชมวิวทิวทัศน์ยามค่าคืนที่สวยงาม
  • 11. 11 6. โอซาก้า เมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สาหรับญี่ปุ่นตะวันตก ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้าโยโดะ มีคลองที่เชื่อมโยงกันไปมาภายใต้ถนนหลายเส้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสาคัญที่นาความ เจริญก้าวหน้ามาสู่เมือง และในฐานะที่เป็นเมืองดั้งเดิมจึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นต้นแบบของ ละครหุ่นกระบอกบุนระคุ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาดชม อ่าวโอซาก้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความทันสมัยที่สุด และสวนสนุก Universal Studios Japan แต่ที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่ง คือ ปราสาทโอซาก้า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นใน ปี 1586 โดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปัจจุบันเป็นป้ อมปราการสูงห้าชั้น จาลองแบบจากของเดิม เก็บรักษาศิลปวัตถุโบราณหลายชิ้น ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโทโยโทมิและโอซาก้าในอดีต สาหรับแหล่งบันเทิงและย่านช้อปปิ้งที่จะต้องแวะ คือ ย่านอุเมะดะ และ ย่านนัมบะ ที่มีสถานีรถไฟและศูนย์การค้าใต้ดินที่ทันสมัยอยู่จานวนมาก สาหรับนักจับจ่ายซื้อของและนักชิมอาหาร "คุอุ ดะโอะเระ" ถนนนักชิมที่มีชื่อเสียงสมคาเล่าลือ ที่ว่าโอซาก้าเป็นเมืองสาหรับนักชิมอย่างแท้จริง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ยากินิกุ, ซูชิ และทาโกะยากิ
  • 12. 12 7. ปราสาทฮิเมะจิ ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) ตั้งอยู่เมืองฮิเมะจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ยังคงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พร้อมทั้งได้มีการปิดเพื่อทาการปฏิสังขรณ์เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2009-2014 แต่นักท่องเที่ยวสามารถเข้า ชมภายในและชมกระบวนการซ่อมแซมได้อย่างใกล้ชิด ปราสาทฮิเมะจิ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สาคัญเพราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ ที่เหลือสุดรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดก โลก เพราะยังคงความเป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรม และยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กาแพงสีขาว และอาคารต่าง ๆ ใน บริเวณปราสาท ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น อีกทั้งรอบ ๆ ปราสาทยังมีเครื่องป้ องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสาหรับโยนหินออกนอกปราสาท และลักษณะที่เด่นชัดของปราสาทนี้ คือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกาแพงในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงได้ โดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบ ๆ อาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย และจนทุกวันนี้ปราสาทฮิเมะจิก็ยังไม่เคยถูก โจมตีเลย ระบบการป้องกันต่าง ๆ จึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
  • 13. 13 7. วัดโทไดจิ วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดพุทธที่สาคัญและเก่าแก่ที่สุดของเมืองนารา ได้ชื่อว่า เป็นสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับศาลเจ้า และสถานที่สาคัญของเมืองนาราอีก 7 แห่ง ภายในวัดมี หอไดบุทสึ (Daibutsuden) หรือ วิหารไม้ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึหล่อสาริดขนาดใหญ่ สูง 14.98 เมตร น้าหนักราว 500 ตัน หล่อโดยช่างสมัยเท็มเปียว (729-764)
  • 14. 14 8. ฮอกไกโด ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูก ทาลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้า ทะเลสาบ บ่อน้าพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่ ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อน อากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศ ญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้ง ย่านร้านค้าซุซุกิโนะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สาคัญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอกไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดสดขายอาหารทะเลสด ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงาม ได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่ง ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเมืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทางตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้าแร่โซอุนเกียว ให้ เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้าแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิ เระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และ ทางตะวันตกของฮอกไกโดมี เมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมี คลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดในโลกให้ลองลิ้มชิมรส
  • 15. 15 9. ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ณ ฟุระโนะ เมืองฟุระโนะ ตั้งอยู่ใจกลางฮอกไกโดพอดี เป็นที่รู้จักกันในนามทุ่งดอกไม้ที่มีภูเขาล้อมรอบ ไว้ทาให้ที่นี่มีความแตกต่างของอากาศในช่วงฤดูหนาวกับฤดูร้อนราว 30 องศา และที่สาคัญที่นี่มี ชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ในหน้าร้อนจะมีสวนดอกไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะที่ ฟาร์มโทมิตะ ซึ่งมีการปลูกลาเวนเดอร์ที่ทั้งสวยงามและกว้างใหญ่ไพศาล รวมทั้งดอกไม้ อื่น ๆ โดยที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนกระทั่งกลางเดือนกันยายน ส่วน ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะหนามาก ทาให้กลายเป็นลานสกีที่มีชื่อเสียง และเปิดโอกาส ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับลานสกีในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี