ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น
•
2 likes•1,018 views
สไลด์ประกอบการบรรยาย เรื่อง ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น
Recommended
More Related Content
Similar to ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น
Similar to ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (11)
More from Chacrit Sitdhiwej
More from Chacrit Sitdhiwej (20)
ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น
- 4. • ความรับผิดเพื่อละเมิดโดยแท้ (มาตรา ๔๒๐) • ความรับผิดเพื่อการกล่าวหรือไขข่าว (มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง) • การร่วมกันทำละเมิด (มาตรา ๔๓๒) 4
- 6. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 6
- 8. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 9. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 10. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 11. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 12. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ตั้งใจทำ
- 13. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ตั้งใจทำ
- 14. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ตั้งใจทำ
- 15. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 16. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่ได้ตั้งใจทำแต่ไม่ ระมัดระวังตามสมควร
- 17. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่ได้ตั้งใจทำแต่ไม่ ระมัดระวังตามสมควร
- 18. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่ได้ตั้งใจทำแต่ไม่ ระมัดระวังตามสมควร
- 19. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 20. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 21. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 22. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่รวมตัวเอง
- 23. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 24. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 25. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 26. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 มีกฎหมายห้าม
- 27. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 มีกฎหมายห้าม
- 28. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 มีกฎหมายห้าม
- 29. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 30. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ
- 31. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ
- 32. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8 ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ
- 33. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 34. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 35. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 36. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 37. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 38. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 39. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 40. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพ ก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่าน ว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อการนั้น 8
- 41. คำถาม??? 9
- 43. 11
- 44. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 45. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 46. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 47. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 48. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12 ต้นเรื่อง
- 49. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 50. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12 บอกต่อ
- 51. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 52. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 53. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 54. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 55. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 56. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 57. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 58. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 59. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 60. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 61. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 62. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 63. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 64. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 65. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 66. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าว แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่ เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทาง เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสีย หายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตน มิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้ 12
- 67. 13
- 68. 14
- 69. คำถาม??? 15
- 71. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 72. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 73. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 74. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 75. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 76. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 77. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 78. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 79. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 80. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 81. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 82. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 83. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 84. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 85. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น โดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง กรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คน ไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหม ทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดย พฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น 17
- 86. คำถาม??? 18
- 87. วันนี้ 19
- 89. • ความรับผิดของนายจ้างเพื่อละเมิดของลูกจ้าง (มาตรา ๔๒๕ และมาตรา ๔๒๖) • ความรับผิดของตัวการเพื่อละเมิดของตัวแทน (มาตรา ๔๒๗ ประกอบกับมาตรา ๔๒๕ และมาตรา ๔๒๖) • ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลเพื่อละเมิดของบุคคลไร้ ความสามารถ (มาตรา ๔๒๙ และมาตรา ๔๓๑ ประกอบกับมาตรา ๔๒๖) • ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นเพื่อละเมิด ของบุคคลไร้ความสามารถ (มาตรา ๔๓๐ และมาตรา ๔๓๑ ประกอบกับมาตรา ๔๒๖) 21
- 102. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 103. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 104. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 105. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 106. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 107. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 108. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 24
- 109. คำถาม??? 25
- 110. ความรับผิดของตัวการ เพื่อละเมิดของตัวแทน มาตรา ๔๒๗ ประกอบกับมาตรา ๔๒๕ และมาตรา ๔๒๖ 26
- 111. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 112. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27 มาตรา ๔๒๕ และ มาตรา ๔๒๖
- 113. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 114. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 115. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 116. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 117. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติในมาตราทั้งสอง ก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน ด้วยโดยอนุโลม 27
- 118. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๕ นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับ ลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไป ในทางการที่จ้างนั้น 28
- 119. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหม ทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน ลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น 29
- 120. คำถาม??? 30
- 121. ความรับผิดของบิดามารดาหรือ ผู้อนุบาลเพื่อละเมิดของ บุคคลไร้ความสามารถ มาตรา ๔๒๙ และมาตรา ๔๓๑ ประกอบกับมาตรา ๔๒๖ 31
- 122. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 123. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 124. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 125. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 126. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 127. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 128. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32
- 129. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาล ของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น 32