SlideShare a Scribd company logo
1 of 22
1
บทที่ 1
บทนำ
1. ชื่อโครงงำนเทคโนโลยี โต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่
2. ชื่อผู้ทำโครงงำนเทคโนโลยี
นำงสำววำรุณี สมนวล เลขที่2
นำงสำววิภำวี ยั่งกุลมิ่ง เลขที่5
นำงสำวณัฐวดี ถิระปัญญำธร เลขที่12
นำงสำวปรียำ พรมเสน เลขที่14
3. ชื่อครูที่ปรึกษำโครงงำน ครูจินตนำ ธิปัน
4. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
ปัจจุบันประชำกรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็วทำให้ส่งผลกระ
ทบในหลำยด้ำนทั้งทำงทรัพยำกรและที่อยู่อำศัยน้อยลง
ที่ดินมีรำคำแพงคนส่วนใหญ่จึงนิยมที่จะอยู่คอนโดหรือหอพักตึกสูง
ที่มีรำคำถูกและสะดวกสบำยมำกกว่ำ
แต่ก็เป็นเรื่องแน่นอนที่ว่ำกำรอำศัยอยู่บนตึกสูงนั้นย่อมคับแคบอึดอัด
ไม่มีที่ว่ำงให้วิ่งเล่นปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมต่ำงๆอะไรได้อย่ำงอยู่บ้
ำนบนพื้นดินอย่ำงแน่นอน
ถึงมีก็มีรำคำที่สูงเกินกว่ำประชำชนทั่วไปจะสำมำรถอำศัย
ดังนั้นกำรใช้พื้นทีที่เรำมีอยู่อย่ำงจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึ
งเป็นเรื่องที่จำเป็น เป็นอย่ำงมำก
โครงงำนของเรำได้ออกแบบชิ้นงำนที่สำมำรถตอบสนองควำมต้องก
2
ำรคือสำมำรถใช้งำนได้ในบริเวณกว้ำงเมื่อใช้เสร็จแล้วสำมำรถพับเ
ก็บให้เป็นขนำดเล็กที่ยังสำมำรถใช้งำนได้
ผลงำนที่ผู้จัดทำได้ลองทำขึ้นมำนี้เป็นเพียงต้นแบบขนำดย่อเท่ำนั้น
เมื่อทำเป็นขนำดจริงเรำสำมำรถที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบ ขนำด สี
และวัสดุได้ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้งำนแต่ละคนได้
โครงงำนนี้พวกเรำจึงคิดว่ำสำมำรถที่จะตอบสนองควำมต้องกำ
รของผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือผู้ที่ต้องกำรเก็บของให้ได้มำกๆได้ทั้งทำงก
ำรใช้สอย ควำมสวยงำม
และควำมประหยัดซึ่งเรำสำมรถทำเองได้ไม่ยำก
3
5. จุดมุ่งหมำย
 เพื่อทำให้ประหยัดเนื้อที่กำรวำงของ
 เพื่อทำให้ห้องมีที่ว่ำงมำกขึ้น
 เพื่อใช้ปรับขนำดโต๊ะตำมควำมต้องกำรของเรำ
6. นิยำมศัพท์เฉพำะ (Definition)
plug in คือ โปรแกรมเสริมชนิดหนึ่ง
ที่จะเพิ่มควำมสำมำรถให้กับโปรแกรมหลัก
ซึ่งเรำจะติดตั้งเพื่อใช้งำน หรือไม่ติดตั้งก็ได้
slot คือ ช่องว่ำงที่มี หรืออัตตรำส่วนที่ว่ำง
texture คือ ลักษณะผิวของสิ่งต่ำง ๆ มีหยำบ ละเอียด ด้ำน มัน
ขรุขระ รำบเรียบ เป็นริ้วเป็นรอย ๆ ฯลฯ
พื้นผิวให้ควำมรู้สึกทำงกำยสัมผัส และพื้นผิวที่เกิดจำกกำรปรุงแต่ง
เช่น กำรแกะสลักพื้นผิวของไม้เป็นลวดลำยเพื่อให้สัมผัสได้เด่นชัด
เทคนิคกำรสร้ำงพื้นผิวสำมำรถทำได้หลำยแบบ ทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ
อำจเขียนเป็นลวดลำยหรือรูปร่ำงต่ำง ๆ ประกอบกำรเขียนภำพ
7. ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
 ได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่
 ได้มีกำรจัดวำงของที่ดี ของเป็นระเบียบ
 ได้ประหยัดพื้นที่มำกขึ้น
4
5
บทที่ 2
กำรรวบรวมข้อมูล
กำรจัดทำโครงงำน โต๊ะพับได้วิชำกำรออกแบบและเทคโนโลยี
ผู้จัดทำได้ศึกษำและรวบรวมจำก
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
1 หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศึกรำช 2551
กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ 4(ม.4-6)
สำระกำรออกแบบและเทคโนโลยี
2 หลักกำรออกแบบผลิตภัณฑ์
3 ควำมรู้เกี่ยวกับไม้
4 ควำมรู้เกี่ยวกับโต๊ะ
5 ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวข้อง
6 โครงงำนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
1. หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551
กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ 4 (ม.4-6)
ประกอบด้วย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด และสำระกำรเรียนรู้ดังนี้
* กำรออกแบบและเทคโนโลยี
เป็นสำระเกี่ยวกับกำรพัฒนำควำมสำมำรถของมนุษย์อย่ำงสร้ำงสรร
6
ค์ โดยนำควำมรู้มำใช้กับกระบวนกำรเทคโนโลยี
สร้ำงสิ่งของเครื่องใช้ วิธีกำร หรือเพิ่มประสิทธิภำพในกำรดำรงชีวิต
1.1 มำตรฐำนกำรเรียนรู้มีดังนี้
1. เข้ำใจเทคโนโลยีและกระบวนกำรเทคโนโลยี
ออกแบบและสร้ำงสิ่งของเครื่องใช้
หรือวิธีกำรตำมกระบวนกำรเทคโนโลยีอย่ำงมีควำมคิดสร้ำงสรรค์
เลือกใช้เทคโนโลยีในทำงสร้ำงสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม
และมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
7
1.2 ตัวชี้วัด มีดังนี้
2.1.1
อธิบำยและเชื่อมโยงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเทคโนโลยีกับศำสตร์อื่นๆ
2.1.2 วิเครำะห์ระบบเทคโนโลยี
2.1.3 กำรสร้ำงชิ้นงำน หรือถ่ำยทอดควำมคิด
ของวิธีกำรเป็นแบบจำลองควำมคิด
และกำรรำยงำนผลโดยใช้ซอฟแวร์ช่วย
ในกำรออกแบบหรือนำเสนอผลงำน
2.1.4
มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำรในงำนที่
ผลิตเอง หรือกำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่นผลิต
2.1.5วิเครำะห์และเลือกใช้เทคโนโลยี ที่เหมำะสมกับชีวิตประจำวัน
อย่ำงสร้ำงสรรค์ตอชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม
และมีกำรจัดกำรเทคโนโลยีที่ยั่งยืนด้วยวิธีกำรของเทคโนโลยีสะอำด
1.3 สำระกำรเรียนรู้ดังนี้
1.3.1 เทคโนโลยีมีควำมสัมพันธ์กับศำสตร์อื่นๆ โดยเฉพำะคณิตศำสตร์
1.3.2
กำรวิเครำะห์ระบบเทคโนโลยีทำให้ทรำบเกี่ยวกับปัจจัยในด้ำนต่ำงๆที่มี
ผลต่อกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำร
1.3.3 กำรสร้ำงสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีกำรตำมกระบวนกำรเทคโนโลยี
ทำให้ผู้เรียนทำงำนอย่ำงเป็นระบบ สำมำรถย้อนกลับมำแก้ไขได้ง่ำย
8
1.3.4
กำรสร้ำงและพัฒนำสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีกำรต้องอำศัยควำมรู้ที่กำรเ
กี่ยวข้องอีก เช่น กำรใช้สว่ำนเจำะเหล็ก
1.3.5 กำรใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในกำรออกแบบหรือนำเสนอผลงำน
มีประโยชน์ในกำรช่วยร่ำงภำพ ทำภำพ 2 มิติและ 3 มิติ
1.3.6 กำรพัฒนำสิ่งของเครื่องใช้ต้องคำนึง
หลักกำรวิเครำะห์ผลิตภัณฑ์เบื้องต้น
1.3.7 หลักกำรวิเครำะห์ผลิตภัณฑ์เบื้องต้น
เป็นกำรวิเครำะห์จุดมุ่งหมำยของกำรออกแบบ ประกอบด้วย
ชิ้นงำนนี้ใช้ทำอะไร ทำไมถึงต้องมีชิ้นงำนนี้ ใครเป็นผู้ใช้
ใช้ที่ไหนเมื่อไหร่จึงใช้
วิธีกำรที่ทำให้ชิ้นงำนได้ตำมวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
1.3.8 ภำพฉำย เป็นภำพแสดงรำยละเอียดของชิ้นงำน
ประกอบด้วยภำพด้ำนหน้ำ ด้ำนข้ำง ด้ำนบน แสดงขนำดและหน่วยวัด
เพื่อนำไปสร้ำงชิ้นงำน
1.3.9 ควำมคิดสร้ำงสรรค์มี 4 ลักษณะประกอบด้วย ควำมคิดริเริ่ม
ควำมคล่องในกำรคิด ควำมยืดหยุ่นในกำรคิด และควำมคิดละเอียดลออ
1.3.10 ควำมคิดริเริ่ม จะเป็นลักษณะควำมคิดที่แปลกใหม่
แตกต่ำงจำกควำมคิดเดิม
1.3.11 ควำมคิดแปลกใหม่ที่ได้ ต้องไม่ละเมิดควำมคิfผู้อื่น
1.3.12
ควำมคิดแปลกใหม่เป็นกำรสร้ำงนวัตกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สิน
ทำงปัญญำ
9
1.3.13 กำรวิเครำะห์ผลดี ผลเสีย กำรประเมิน
และกำรตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมำะสม
1.3.14 กำรเลือกใช้สิ่งของของเครื่องใช้อย่ำงสร้ำงสรรค์
โดยกำรเลือกสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นมิตรกับชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม
1.3.15 เทคโนโลยีสะอำดเป็นเครื่องมือที่ใช้
ในกำรจัดกำรใช้เทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่กำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนชนิดหนึ่ง
2. หลักกำรออกแบบผลิตภัณฑ์
ในกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ย่อมมีหลักกำรในกำรออกแบบ
เพื่อควำมสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ดังนี้
2.1 หลักกำรใช้สอย
1)
สำมำรถใช้ในพื้นที่ที่มีขนำดเล็กได้โดยไม่ต้องไปตัดเล็กออกเพื่อให้เล็ก
ลง
2)
สำมำรถใช้เมื่อต้องกำรจะทำงำนในกำรทำงำนที่ต้องใช้พื้นที่ขนำนให
ญ่ได้โดยไม่ต้องต่อโต๊ะเพิ่มเพรำะโต๊ะสำมำรถผับออกผับเข้ำได้ตำมต้อง
กำร
3)
สำมำรถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลำยป่ำเพรำะเรำใช้เ
หล็กในกำรทำงำน และใช้แผ่นโพลีคำร์บอเนต
2.2 ควำมปลอดภัย
1) กำรต่อวงจรเป็นไปอย่ำงครบวงจร
ทำให้กระแสไฟฟ้ำไหลออกมำตำมสำยไฟ
10
แม้ว่ำกระแสไฟฟ้ำรั่วออกมำกระแสไฟฟ้ำที่เดินเป็นทำงเดียวจะทำให้ไม่
เกิดปัญหำไฟฟ้ำลัดวงจร
2) โต๊ะที่ทำมีควำมแข็งแรงคงทนทำให้ไม่เกิดปัญหำกำรหักล้ม
ไม่ทำให้เกิดอันตรำยต่อ ผู้ใช้งำน
ควำมแข็งแรง
3) โต๊ะที่ใช้มีควำมแข็งแรงคงทน
โดยวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำนั้นคือแผ่นโพลีคำร์บอนเนตที่มีควำมทนทำนแ
ละต่อกับฐำนอย่ำงแน่น หนำ ทำให้ไม่หลุดง่ำย
และมีประสิทธิภำพในกำรหมุนเข้ำหมุนออก
อีกทั้งฐำนทำจำกวัสดุเหล็กที่มีควำมคงทน เกิดควำมมั่นคงในกำรใช้
และทนทำนต่อสภำพแวดล้อมได้ดี
2.3 ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้
สำมำรถ ใช้ได้กับทุกสถำนที่ ทุกสภำพสภำพอำกำศ
สำมำรถปรับเปลี่ยนรูปหรือขนำดเปลื่ยนเป็นขนำดเล็กได้จำกที่ขนำดให
ญ่ก็ได้ตำมต้องกำรได้ ตำมขนำดที่อยู่ ที่พักได้โดยกำรผับเก็บง่ำยๆ
ก็ได้รูปแบบที่สมบูรณ์และยังสำมำรถใช้งำนได้อีก
2.4 ควำมสวยงำม
มี รูปแบบของโต๊ะ
ที่สำมำรถปรับเปลี่ยนรูปหรือขนำดเปลื่ยนเป็นขนำดเล็กได้จำกที่ขนำดใ
หญ่ก็ได้ตำมต้องกำรสำมำรถตั้งประดับตกแต่งบ้ำน
เพื่อให้เกิดควำมสวยงำมและเพลิดเพลินในกำรมองเห็นได้อีกด้วยเพรำะ
เป็นสีขำวดูแล้วสะอำดตำดี
2.5 รำคำพอสมควร
ต้น ทุนในกำรโต๊ะ มีรำคำไม่สูงมำกนัก
เนื่องจำกวัสดุอุปกรณ์ในกำรทำสำมำรถหำได้ทั่วไป
11
อำทิแผ่นโพลีคำร์บอเนต
ส่วนโครงเหล็กที่นำมำทำฐำนนั้นอำจทำได้จำกเศษเหล็ก
หรือซื้อเหล็กได้ตำมร้ำนขำยของเก่ำ ซึ่งมีรำคำไม่สูงมำก
3.ควำมรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Google sketch up
Google SketchUp เป็นซอฟท์แวร์สร้ำงโมเดล
3มิติที่มีเครื่องมือพื้นฐำนต่ำงๆเพียงพอกับกำรใช้งำนของผู้ใช้ระดับพื้นๆ
ทั่วๆไป ที่ต้องกำรจะสร้ำงแบบ 3มิติของโต๊ะ, เก้ำอี้, ตู้,
เครื่องใช้ในบ้ำนต่ำงๆ หรือจะใช้สร้ำงแบบใน กำรต่อเติมบ้ำน
และงำนไม้ต่ำงๆก็ได้ ซึ่งก็จะมีรูปแบบของ texture
แบบต่ำงๆให้เลือกใช้ได้ครบ
แต่ถ้ำต้องกำรจะนำไปสร้ำงโมเดลกำร์ตูนเอนิเมชั่นต่ำงๆก็คงไม่พอ
นอกจำกจะใช้เริ่มหัดพื้นฐำนสร้ำงโมเดลต่ำงๆก็พอได้ Sketchup
ถูกพัฒนำขึ้นโดยบริษัท @Last ในปี ค.ศ.1999 ซึ่งมีเป้ำหมำยที่จะ -
พัฒนำโปรแกรมออกแบบ Model 3 มิติ โดยมี Interface
ที่เรียบง่ำยและใช้งำนสะดวก
- ให้ผู้ใช้งำนสนุกกับกำรสร้ำงและออกแบบ -
ทำให้ผู้ออกแบบมีลูกเล่นในส่วนของงำนออกแบบและนำเสนอ
โดยที่โปรแกรมอื่นๆ ไม่สำมำรถทำได้ ต่อมำ บริษัท Google
ได้เข้ำซื้อบริษัท @Last ตอนต้นปี 2006
12
ทำให้กลำยเป็นเวอร์ชั่นใหม่คือ “Google Sketchup”
ฟังก์ชั่นที่น่ำสนใจของ Google SketchUp
คือสำมำรถเข้ำไปค้นหำโมเดล 3มิติจำกฐำนข้อมูลของ Google
หรือจะโหลดไปเก็บไว้ด้วยก็ได้
และถ้ำใช้งำนจนคล่องจะสร้ำงโมเดลของสถำนที่สำคัญๆ
แล้วเอำไปใส่ใน Google Earth ด้วยก็ได้
3.ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเชื่อมโลหะ
กำรเชื่อม
เป็นขบวนกำรที่ใช้สำหรับต่อวัสดุ
ส่วนใหญ่เป็นโลหะและพลำสติก
โดยให้รวมตัวเข้ำด้วยกัน
ปกติใช้วิธีทำให้ชิ้นงำนหลอมละลำยและกำรเพิ่มเนื้อโลหะเติมลงในแอ่ง
หลอม ละลำยของวัสดุที่หลอมเหลว เมื่อเย็นตัวรอยต่อจะมีควำมแข็งแรง
บำงครั้งใช้แรงดันร่วมกับควำมร้อน หรืออย่ำงเดียว
เพื่อให้เกิดรอยเชื่อม
ซึ่งตรงข้ำมกับกำรบัดกรีอ่อนและกำรบัดกรีแข็งซึ่งไม่มีกำรหลอมละลำย
ของชิ้น งำนชิ้นงำน
มีแหล่งพลังงำนหลำยอย่ำงสำหรับนำมำใช้ในกำรเชื่อม เช่น
กำรใช้ควำมร้อนจำกเปลวแก๊ส, กำรอำร์คโดยใช้กระแสไฟฟ้ำ,
ลำแสงเลเซอร์, กำรใช้อิเล็คตอรอนบีม, กำรเสียดสี, กำรใช้คลื่นเสียง
เป็นต้น ในอุตสำหกรรมมีกำรนำมำใช้ในสภำพแวดล้อมที่แตกต่ำงกัน
เช่นกำรเชื่อมในพื้นที่โล่ง, พื้นที่อับอำกำศ, กำรเชื่อมใต้น้ำ
กำรเชื่อมมีอันตรำยเกิดขึ้นได้ง่ำย
จึงควรมีควำมระมัดระวังเพื่อป้องกันอันตรำย เช่น ที่เกิดจำก
กระแสไฟฟ้ำ, ควำมร้อน, สะเก็ดไฟ, ควันเชื่อม, แก๊สพิษ, รังสีอำร์ค,
13
ชิ้นงำนร้อน, ฝุ่นละออง ในยุคเริ่มแรกจนถึงศตวรรษที่ 19
มีกำรใช้งำนเฉพำะกำรเชื่อมทุบ (forge welding)
เพื่อใช้ในกำรเชื่อมต่อโลหะ เช่นกำรทำดำบในสมัยโบรำณ
วิธีนี้รอยเชื่อมที่ได้มีควำมแข็งแรงสูง
และโครงสร้ำงของเนื้อรอยเชื่อมมีคุณภำพอยู่ในระดับที่น่ำพอใจ
แต่มีควำมล่ำช้ำในกำรนำมำใช้งำนในเชิงอุตสำหกรรม
หลังจำกนั้นได้มีกำรพัฒนำมำสู่กำรเชื่อมอำร์ค
และกำรเชื่อมโดยใช้เปลวแก๊สออกซิเจน และหลังจำกนั้นมีกำร
เชื่อมแบบควำมต้ำนทำนตำมมำ
เทคโนโลยีกำรเชื่อมได้มีกำรพัฒนำอย่ำงรวดเร็วในศตวรรษที่ 20
ซึ่งอยู่ในช่วงสงครำมโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
เทคโนโลยีกำรเชื่อมแบบใหม่ๆ
ได้มีกำรเร่งพัฒนำเพื่อรองรับต่อกำรสู้รบในช่วงเวลำนั้น
เพื่อทดแทนกำรต่อโลหะแบบเดิม
เช่นกำรใช้หมุดย้ำซึ่งมีควำมล่ำช้ำอย่ำงมำก
ขบวนกำรเชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ (SMAW)
เป็นขบวนกำรหนึ่งที่พัฒนำขึ้นมำในช่วงนั้นและกระทั่งปัจจุบัน
ยังคงเป็นกรรมวธีที่ใช้งำนกันมำกที่สุดในประเทศไทยและประเทศกำลัง
พัฒนำทั้ง หลำย
กำรเชื่อมโดยใช้ลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์
กำรเชื่อมโดยใช้ลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ (SMAW) หรือที่เรำมักเรียกกันว่ำ
กันเชื่อมธูป บำงตำรำมักเรียกกันว่ำ Manual Metal Arc (MMA) หรือ
Stick Welding
กำรเชื่อมแบบนี้ลวดเชื่อมจะมีฟลั๊กซ์หุ้มภำยนอกแกนลวด
และกระแสไฟฟ้ำจะถูกส่งผ่ำนแกนลวดเชื่อมไปยังส่วนปลำย
กระแสไฟฟ้ำที่มีทั้งชนิดกระแสตรง (DC) และชนิดกระแสสลับ (AC)
กำรเลือกใช้งำนควรเป็นไปตำมคำแนะนำของผู้ผลิตลวดเชื่อม
โดยปกติจะมีพิมพ์ไว้ข้ำงกล่องลวด โดยจะมีกำรชี้บ่ง เช่น ยี่ห้อ,
14
เกรดของลวดเชื่อม, ขนำด x ควำมยำวลวด,
ชนิดกระแสไฟที่แนะนำให้ใช้งำนในแต่ละท่ำเชื่อม, ชนิดฟลั๊กซ์หุ้ม
เป็นต้น กระแสไฟจะถูกส่งผ่ำนแหล่งจ่ำย โดยทั่วไปจะเป็นเครื่องเชื่อม
กำรเริ่มต้นเชื่อมสำหรับลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ทำได้ 2 วิธี
คือกำรเขี่ยอำร์คและกำรแตะปลำยลวดกับผิวชิ้นงำนแล้วยกขึ้นในระยะ
ที่เหมำะสม เพื่อคงกำรอำร์คไว้
ขณะอำร์คจะมีควำมต้ำนทำนระหว่ำงปลำยลวดกับผิวชิ้นงำนเกิดเป็นคว
ำมร้อนที่สูง
ซึ่งสูงพอที่จะหลอมละลำยได้ทั้งผิวชิ้นงำนและปลำยลวดเชื่อมให้เกิดกำ
รหลอม รวมตัวกันเป็นเนื้อโลหะรอยเชื่อม
ควำมเค้นตกค้ำงหรือควำมเค้นที่เหลืออยู่(Residual stress)
ควำมเค้นตกค้ำง คือ สิ่งที่ตกค้ำงอยู่
เป็นสำเหตุเริ่มต้นของกำรเกิดควำมเค้นทั้งหมด (จำกแรงภำยนอก,
จำกกำรไม่สมดุลของควำมร้อน) ซึ่งต้องกำจัดออก
เป็นควำมเค้นที่เหลืออยู่ระหว่ำงพื้นที่หน้ำตัดชิ้นงำน
แม้ว่ำไม่มีควำมเค้นภำยนอกมำกระทำ
ควำมเค้นคงเหลือเกิดขึ้นจำกหลำยเหตุผล
รวมทั้งกำรไม่ยืดหยุ่นให้ชิ้นงำนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงรูปร่ำง
และผลจำกกำรปรับปรุงด้วยควำมร้อน
ควำมร้อนจำกกำรเชื่อมเป็นสำเหตุให้ชิ้นงำนขยำยตัวในวงจำกัด
เช่นกำรเชื่อมแบบหลอมละลำย หรือกำรจับยึดชิ้นงำนระหว่ำงกำรเชื่อม
เมื่อเนื้อรอยเชื่อมเกิดเย็นตัว
บำงพื้นที่เย็นก่อนและเกิดกำรหดตัวก่อนส่วนอื่น
ควำมเค้นตกค้ำงที่เหลืออยู่ คือสิ่งที่ได้จำกกำรหลอม
รวมทั้งกำรเย็นตัวของชิ้นงำนที่ไม่สมดุลกัน
ขณะที่ไม่สมำรถควบคุมควำมเค้นตกค้ำงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องกำร
กำรออกแบบจำนวนมำกขึ้นกับมัน ตัวอย่ำงเช่น
ควำมแข็งแรงของกระจก และกำรเผื่อควำมเค้นล่วงหน้ำของคอนกรีต
ควำมเค้นในคอนกรีต ขึ้นกับกำรป้องกันควำมเปรำะ เสียหำย
ใทำนองเดียวกัน ควำมโน้มเอียงสู่กำรเกิดโครงสร้ำงที่แข็งเปรำะ
15
(marensite)
กำรก่อรูปแบบของควำมเค้นในมีดดำบโดยเจำะจงให้คมมีควำมแข็ง
สำมำรถป้องกันกำรแตกที่คมดำบ บำงอย่ำงเช่น ลำกล้องปืน
ทำด้วยท่อสองท่อให้ยึดติดกัน
ท่อด้ำนในถูกบีบอัดขณะภำยนอกทำให้ขยำยออกได้
เพื่อป้องกันกำรแตกจำกร่องที่เป็นเกลียวของลำกล้องแน
เมื่อกระสุนพุ่งออกไป
ปกติชิ้นส่วนทำให้ร้อนหรือจุ่มในของเหลวไนโตรเจนเหลว (liquid
nitrogen) เพื่อช่วยส่วนประกอบ
กำรบีบอัดที่เหมำะสมโดยทั่วไปจะทำอย่ำงรอบคอบของกำรใช้ควำมเค้น
ตกค้ำง สลักเกลียวพวงมำลัยของยำนยนต์ ตัวอย่ำงเช่น
กำรกดรูของดุมล้อ รูมีขนำดเล็กกว่ำสลัก
เพื่อต้องกำรอัดแรงผ่ำนสลักให้เกิดควำมเค้นตกค้ำง
ควำมเค้นตกค้ำงจะผูกติดเข้ำด้วยกันกับชิ้นส่วน ต้วอย่ำงอื่นๆเช่นตะปู
เป็นต้น
กำรเคำะเพื่อคลำยตัว (Peening) เป็นกำรปฏิบัติงำนทำงกลของโลหะ
โดยหมำยถึงกำรตีด้วยหัวค้อนหรือกำรยิงในระยะสั้น (short peening)
กำรเคำะเพื่อคลำยตัวเป็นขบวนกำรทำงำนเย็น
มันโน้มน้ำวให้ให้เกิดกำรขยำยของผิวโลหะงำนที่เย็น เนื่องด้วยเหตุนั้น
กำรผ่อนคลำยควำมเค้นแรงดึง และ/หรือควำมเค้นอัดภำยใน
กำรเคำะเพื่อคลำยตัวยังกระตุ้นให้เกิดกำรแข็งตัวคงเหลือ (stain
hardening) ของผิวโลหะ
กำรเคำะคลำยด้วยมือ (hand peening)
กระทำหลังกำรเชื่อมเพื่อคลำยควำมเค้นแรงดึงซึ่งเกิดขึ้นในเนื้อรอยเชื่อ
มและ รอบๆโลหะงำนจำกกำรเย็นตัว
ระดับกำรลดลงของควำมเค้นเรงดึงอย่ำงน้อยที่สุดคือบริเวณที่เกิดขึ้นใก
ล้ผิว รอยเชื่อมเท่ำนั้น
กำรเคำะคลำยตัวมีแนวโน้มให้ควำมแข็งสูงขึ้นในเนื้อเชื่อมและงำนบำง
16
อย่ำงควร หลีกเลี่ยง
ด้วยเหตุผลนี้กำรเคำะคลำยตัวโดยทั่วไปไม่ถูกยอมรับจำกโค้ดส่วนใหญ
, มำตรฐำนหรือข้อกำหนด (เช่น ASME B31.3 หมวด 328.51 (d)
ทุกๆรูปแบบของกำรเคำะคลำยตัวถูกก่อนกำรนำมำใช้งำนบนเนื้อเชื่อม
ต้องแนินกำร
ตำมข้อกำหนดของกำรทดสอบชิ้นงำนชิ้นงำนที่ดำเนินกำรทดสอบกระบ
วนกำรทำงำนเชื่อมนั้น
ตัวแปรที่จำเป็นทั้งหมดนั้นจะถูกใช้เพื่อกำรผลิตงำนเชื่อม
ถ้ำหำกเนื้อเชื่อมถูกเคำะคลำยตัวระหว่ำงกำรทดสอบกระบวนกำรของขั้
นตอนกำร เชื่อม
กำรทดสอบทำงกลซึ่งตำมมำของขั้นตอนจะแสดงให้เห็นคุณสมบัติทำงก
ลของเนื้อ เชื่อม คุณสมบัติทำงกลเหล่ำนี้
ต้องเข้ำกันได้กับคุณสมบัติทำงกลของวัสดุซึ่งจะเชื่อมเข้ำด้วยกัน
ถ้ำมันไม่ได้ดำเนินกำรมีกำรสอบตกและขั้นตอนกำรเชื่อมนั้นไม่ถูกยอมรั
บที่จะ ใช้ในกำรเชื่อม
กำรเคำะคลำยตัวถูกนำมำใช้ในกำรกำรผลิตงำนเชื่อมที่ถูกกำหนดให้ก
ระทำเท่ำนั้น อีก
เหล็กกล้ำ (Steel) เหล็กกล้ำเป็นโลหะผสมประกอบด้วยธำตุเหล็ก
(iron) , คำร์บอน 0.2-1.7 หรือ 2.0% ไม่เกินกว่ำนี้โดยน้ำหนัก
(C:1000-10,8.67Fe) ขึ้นกับเกรดที่ใช้งำน
คำร์บอนเป็นธำตุที่มีผลอย่ำงมำกต่อโลหะผสม
แต่ธำตุอื่นๆที่นำมำใช้เช่น แมงกำนีส, ทังสะเตน,
คำร์บอนและธำตุอื่นๆทำหน้ำที่ให้เกิดปฏิกิริยำกำรชุบแข็งในผลึกอะตอ
มของ เหล็ก จำกกำรเลื่อนไหลของโครงสร้ำงอื่นๆภำยในเนื้อเหล็กกล้ำ
จำนวนของธำตที่ผสมและรูปแบบของมันเป็นตัวควบคุมบทบำทในเหล็ก
กล้ำ (ธำตุตัวถูกละลำย ขั้นตอนกำรตกตะกอน) เช่น ควำมแข็ง
ควำมเหนียว ควำมทนต่อแรงดึงของกำรมีผลต่อเหล็กกล้ำ
เหล็กกล้ำที่มีกำรเพิ่มคำร์บอนสำมำรถให้ควำมแข็งที่เพิ่มขึ้นมำกกว่ำเห
ล็ก แต่ให้ควำมเปรำะมำกขึ้นด้วย
17
กำรถูกละลำยได้ของคำร์บอนในเหล็ก (iron) ในรูปแบบออสเตนไนต์
คือ 2.14% โดยน้ำหนัก กำรเกิดขึ้นที่ 1149 C
คำร์บอนที่เข้มข้นมำกกว่ำนี้หรืออุณหภูมิต่กว่ำนี้จะสร้ำงโครงสร้ำงเซีเม
นไต์ (โครงสร้ำงเปรำะ) โลหะผสมที่มีคำร์บอนมำกกว่ำนี้
คือเหล็กหล่อที่ได้มำจำกกำรหลอม (Cast iron) เพรำะมันมีจุดหลอมต่ำ
เหล็กกล้ำมีควำมโดดเด่นจำกเหล็กเหนียว (wrought iron)
ซึ่งมีธำตุอื่นผสมเพียงเล็กน้อย 1-3% ของน้ำหนักโดยสแลก (slag)
ในรูปแบบของอนุภำคขนำดเล็กในทุกทิศทำง
กำรให้เกรนที่มีลักษณะโครงสร้ำงเหล็ก
มันมีควำมต้ำนทำนต่อสนิมมำกกว่ำเหล็กกล้ำและเชื่อมได้ง่ำย
ในทุกวันนี้เรำพูดเกี่ยวกับอุตสำหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ำ
เหมือนกับว่ำเจำะจงเพียงเป็นอย่ำงเดียวกัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศำสตร์ พวกมันได้เคยถูกแบ่งไว้เป็น 2 แบบ
4. ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเจำะสว่ำน
วิธีกำรทำ
ขั้นตอนที่1
กำรใส่ดอกสว่ำนต้องใส่ดอกสว่ำนให้ตรงกลำงหัวจับ
ดอกสว่ำน หมุนล็อกดอกสว่ำนให้แน่นด้วยดอกขันหัว สว่ำน
(จำปำ)ทั้ง 3 ช่องโดยออกแรงให้เท่ำๆกัน
18
ขั้นตอนที่2 ก่อนกำรเจำะควรใช้เหล็กนำศูนย์
ตอกนำก่อนโดยเฉพ
ำะโลหะควรทำทุกครั้งเพื่อป้องกันดอกสว่ำนเจำะไม ่ตรงตำแห
น่งหรือหนีศูนย์ และควรจับชิ้นงำนให้แน ่นด้วยแคล้มป์
ขั้นตอนที่3 วิธีกำรเจำะชิ้นงำนตำมแนวตั้งที่ลึกมำกๆ
เพื่อให้ได้รูเจำะที่ตรงไม่เอียงไปด้ำนใดด้ำนหนึ่ง
ควรจะใช้ฉำกเหล็กมำทำบเพื่อช่วยเป็นแนวทำงในกำรเจำะรูใ
ห้ตรงตลอด
ในกำรทำบกับฉำกนั้นไม่จำเป็นต้องให้ฉำกขนำนกับดอกสว่ำ
นแต่ควรสังเกตให้ตัวสว่ำน ขนำนกับฉำกก็พอ
ขั้นตอนที่4 กำรเจำะให้รูมีควำมลึกเท่ำกัน ทุกรู
ควรนำกระดำษกำวหรือเทปกำวปิดพันรอบดอกสว่ำนในระยะค
วำมลึกที ่ต้องกำรโดยวัดจำกปลำยดอกสว่ำนเข้ำมำ
เวลำเจำะให้เจำะถึงแนวกระดำษกำวเท่ำนั้น
ขั้นตอนที่5 สำหรับกำรเจำะวัสดุให้ทะลุทั้งไม้หรือโลหะ
19
ควรนำเศษวัสดุที่เรียบมำวำงรองด้ำนล่ำงที่เจำะทะลุให้สว่ำนเจ
ำะผ่ำนออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเศษครีบจำกกำรเจำะ หรือ
ป้องกัน ไม้ฉีกแตกไม่เรียบ
ขั้นตอนที่6 กำรเจำะรูโลหะ
ควรใช้ดอกสว่ำนประเภทที่สำมำรถเจำโลหะได้โดยดูจำกฉลำ
กของดอกสว่ำน
ก่อนกำรเจำะโลหะควรตอกเหล็กนำศูนย์รูเจำะทุกครั้งเพื่อไม่ใ
ห้ ดอกสว่ำนลื่นไถลออกจำกตำแหน่งที่ต้องกำร
ในขณะเจำะต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นบริเวณรูเจำะป้องกันควำ
มร้อนจำกกำรเจำะ และใช้รอบเจำะที่ช้ำ
ขั้นตอนที่7
สำหรับกำรเจำะรูใส่สกรู , น๊อต เพื่อให้หัวสกรู
ฝังเสมอกับผิวชิ้นงำนแลดูสวยงำมสำมำรถ ทำได้โดย
กำรใช้สว่ำนผ่ำนรูเจำะที่มีรูปตำมหัวสกรูที่ใช้
เพื่อที่ขณะที่ขันสกรูลงแล้วหัวสกรูจะเสมอผิวพอ ดี
20
ขั้นตอนที่8
กำรเจำะรูที่ท่อเหล็กหรือท่อพีวีซี สำหรับรูท่อ
ที่อยู่ใกล้ปลำยท่อควรใช้ไม้กลึงกลมสอดในท่อเพื่อรองด้ำนใน
ไม่ให้รูด้ำนในฉีกเป็นครีบ ซึ่งสำมำ
รถมองจำกภำยนอกแล้วสวยงำม
5. ควำมรู้เกี่ยวกับไม้และ แผ่นโพลีคำร์บอเนต
ไม้กับเฟอร์นิเจอร์ ไม้ที่นำมำทำเฟอร์นิเจอร์มี หลำยชนิด
ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของดินแดนนั้นๆ
ไม้สักคือไม้ชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมนำมำทำเฟอร์นิเจอร์
เพรำะมีควำมแข็งแรง
แมลงหรือตัวทำลำยไม้ไม่นิยมเข้ำมำยุ่งเกี่ยวกับไม้สัก
ไม้สักมีขนำดใหญ่พอเหมำะ
ไม่ว่ำไม้ขนำดใหญ่ก็สำมำรถทำเป็นโครงสร้ำงบ้ำน
หรือไม้ขนำดเล็กก็นำมำทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้ำน
และไม้สักถือเป็นไม้มีคุณค่ำในสังคมไทยจนถึงปัจจุบัน
ตั้งแต่ประเทศไทยมีกฎหมำยปิดป่ำห้ำมตัดไม้สงวน ดังนั้น
ไม้ยำงพำรำจึงเริ่มมีบทบำทในกำรทำเฟอร์นิเจอร์ เนื่องด้วย
รำคำไม้พำรำมีต้นทุนน้อยมำกในอดีต
(หลังจำกกรีดน้ำยำงหมดแล้วก็เผำเป็นถ่ำนหรือฟืน)
นอกจำกนี้มีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น มีควำมแข็งแรง เป็นไม้ลำต้นตรง
มีตำไม้ไม่มำกเกินไป และมีกำลังกำรเพำะปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งสภำพภูมิประเทศและอำกำศร้อนชื้นของประเทศไทย
มีควำมเหมำะสมในกำรปลูก
21
โพลีคำร์บอเนต
โพลีคำร์บอเนต คือ
ผลิตภัณฑ์วิศวกรรมพลำสติกคุณภำพสูง
ที่มีต้นกำเนิดจำกทวีปยุโรป โดย Dr. H Schnell
แห่ง บริษัท ไบร์เออร์ ประเทศ เยอรมันนี และ Mr.
D.W.Fox แห่ง บริษัท เจนเนอรัล อิเลคทริค
ประเทศสหรัฐอเมริกำร ในปี ค.ศ. 1953
โดยในครั้งแรกได้นำไปใช้ในอุตสำหกรรมเครื่องไฟฟ้ำ
และอิเลคทรอนิคส์ ต่อมำนิยมนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลำกหลำยชนิด
ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนแก้วได้ดี น้ำหนักเบำกว่ำ มีควำมยืดหยุ่นดีกว่ำ
ทำให้สำมำรถขึ้นรูปได้หลำกหลำยรูปแบบมำกกว่ำ ซึ่งปัจจุบัน
เรำจะเห็นผลิตภัณฑ์จำก โพลีคำร์บอเนต ในรูปแบบต่ำง ๆ อำทิเช่น
แผ่นซีดี-ดีวีดี ขวดน้ำ หน้ำกำกหมวกกันน็อค
หรือแม้แต่ในอุตสำหกรรมรถยนต์ก็นิยมนำโพลีคำร์บอเนตไปใช้เป็นชิ้น
ส่วนต่ำง ๆ มำกมำย อำทิเช่น โคมไฟหน้ำรถ กันชน
และในปัจจุบันได้มีกำรนำไปแทนกระจกบังลมด้ำนหลัง
ในรถยนต์หลำยยี่ห้อ อีกด้วย
แต่ใช่ว่ำโพลีคำร์บอเนตจะมีแต่ข้อดีไปเสียทั้งหมด ข้อเสียก็มีเหมือนกัน
เนื่องจำกโพลีคำร์บอเนตเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนำมำจำกปิโตรเคมี
จึงทำให้ไม่สำมำรถทนสำรเคมีได้
นอกจำกนั้นก็ยังมีบำงประเภทที่ทนสำรเคมีได้
แต่ทนควำมร้อนไม่ได้เช่น
1. PET ซึ่งนิยมใช้ในกำรทำขวดน้ำ หรือ ขวดน้ำมันพืช มีจุดเด่นคือ
สำมำรถทนสำรเคมีได้ดี แต่ไม่ทนควำมร้อน
2. PC ทนควำมร้อนได้ดี แต่ก็ไม่สำมำรถทนต่อสำรเคมีได้
จึงได้มีกำรนำพลำสติกทั้ง 2 ชนิดมำผสมกัน
ซึ่งทำให้เกิดคุณสมบัติที่ทนได้ทั้งควำมร้อนและสำรเคมี
22
แต่ก็ยังมีข้อเสียคือ รำคำสูง นอกจำกนั้นยังมีกำรนำ
โพลีคำร์บอเนตไปผสมกับพลำสติกชนิดอื่น ๆ เช่น ABS
เพื่อช่วยในกำรขึ้นรูปได้ดี เช่น กรอบทีวี มอนิเตอร์ หลังคำรถยนต์
และเรือเร็ว เป็นต้น อย่ำงที่กล่ำวไว้ข้ำงต้นว่ำ
โพลีคำร์บอเนตเป็นผลิตภัณฑ์วิศวกรรมพลำสติกที่มีคุณภำพสูง
หรืออำจกล่ำวได้อีกย่ำงว่ำ เป้นพลำสติกมหัศจรรย์ก็ถูกต้องเช่นกัน
ข้อมูล
จำกกำรสัมภำษณ์ นำยพิชัย ถิระปัญญำธร ที่อยู่ 35/5
ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220
คำถำม : ถ้ำจะทำให้ขำโต๊ะหมุนไดจะต้องทำอย่ำงไร
คำตอบ : ค่อนข้ำงทำได้ยำก แต่ถ้ำจะทำจริงๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธี
เช่นทำขำตั้งให้หมุนออกไปด้ำนข้ำงเป็นแนวตรง
ไม่ใช่เอำวำงไว้กลำงโต๊ะ

More Related Content

More from Benjaporn Kantawong

พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอยพันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
Benjaporn Kantawong
 
สรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
สรุปผลการประเมินกราฟแท่งสรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
สรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
Benjaporn Kantawong
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
Benjaporn Kantawong
 
Onet 04 คณิตศาสตร์
Onet 04 คณิตศาสตร์Onet 04 คณิตศาสตร์
Onet 04 คณิตศาสตร์
Benjaporn Kantawong
 

More from Benjaporn Kantawong (20)

พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอยพันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
พันธุศาสตร์ กิ๊ฟนันบอย
 
สารบัญ
สารบัญสารบัญ
สารบัญ
 
สรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
สรุปผลการประเมินกราฟแท่งสรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
สรุปผลการประเมินกราฟแท่ง
 
แผนผัง
แผนผังแผนผัง
แผนผัง
 
ปกซีดี
ปกซีดีปกซีดี
ปกซีดี
 
ปก
ปกปก
ปก
 
แบบประเมิน
แบบประเมินแบบประเมิน
แบบประเมิน
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
แบบฟอร มบ นท_กการอ_าน
แบบฟอร มบ นท_กการอ_านแบบฟอร มบ นท_กการอ_าน
แบบฟอร มบ นท_กการอ_าน
 
คงงัน
คงงันคงงัน
คงงัน
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
งาน
งานงาน
งาน
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
Onet 04 คณิตศาสตร์
Onet 04 คณิตศาสตร์Onet 04 คณิตศาสตร์
Onet 04 คณิตศาสตร์
 
Onet 03 อังกฤษ
Onet 03 อังกฤษOnet 03 อังกฤษ
Onet 03 อังกฤษ
 
Onet 02 สังคม
Onet 02 สังคมOnet 02 สังคม
Onet 02 สังคม
 

บทที่ 1 2

  • 1. 1 บทที่ 1 บทนำ 1. ชื่อโครงงำนเทคโนโลยี โต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่ 2. ชื่อผู้ทำโครงงำนเทคโนโลยี นำงสำววำรุณี สมนวล เลขที่2 นำงสำววิภำวี ยั่งกุลมิ่ง เลขที่5 นำงสำวณัฐวดี ถิระปัญญำธร เลขที่12 นำงสำวปรียำ พรมเสน เลขที่14 3. ชื่อครูที่ปรึกษำโครงงำน ครูจินตนำ ธิปัน 4. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน ปัจจุบันประชำกรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็วทำให้ส่งผลกระ ทบในหลำยด้ำนทั้งทำงทรัพยำกรและที่อยู่อำศัยน้อยลง ที่ดินมีรำคำแพงคนส่วนใหญ่จึงนิยมที่จะอยู่คอนโดหรือหอพักตึกสูง ที่มีรำคำถูกและสะดวกสบำยมำกกว่ำ แต่ก็เป็นเรื่องแน่นอนที่ว่ำกำรอำศัยอยู่บนตึกสูงนั้นย่อมคับแคบอึดอัด ไม่มีที่ว่ำงให้วิ่งเล่นปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมต่ำงๆอะไรได้อย่ำงอยู่บ้ ำนบนพื้นดินอย่ำงแน่นอน ถึงมีก็มีรำคำที่สูงเกินกว่ำประชำชนทั่วไปจะสำมำรถอำศัย ดังนั้นกำรใช้พื้นทีที่เรำมีอยู่อย่ำงจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึ งเป็นเรื่องที่จำเป็น เป็นอย่ำงมำก โครงงำนของเรำได้ออกแบบชิ้นงำนที่สำมำรถตอบสนองควำมต้องก
  • 2. 2 ำรคือสำมำรถใช้งำนได้ในบริเวณกว้ำงเมื่อใช้เสร็จแล้วสำมำรถพับเ ก็บให้เป็นขนำดเล็กที่ยังสำมำรถใช้งำนได้ ผลงำนที่ผู้จัดทำได้ลองทำขึ้นมำนี้เป็นเพียงต้นแบบขนำดย่อเท่ำนั้น เมื่อทำเป็นขนำดจริงเรำสำมำรถที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบ ขนำด สี และวัสดุได้ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้งำนแต่ละคนได้ โครงงำนนี้พวกเรำจึงคิดว่ำสำมำรถที่จะตอบสนองควำมต้องกำ รของผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือผู้ที่ต้องกำรเก็บของให้ได้มำกๆได้ทั้งทำงก ำรใช้สอย ควำมสวยงำม และควำมประหยัดซึ่งเรำสำมรถทำเองได้ไม่ยำก
  • 3. 3 5. จุดมุ่งหมำย  เพื่อทำให้ประหยัดเนื้อที่กำรวำงของ  เพื่อทำให้ห้องมีที่ว่ำงมำกขึ้น  เพื่อใช้ปรับขนำดโต๊ะตำมควำมต้องกำรของเรำ 6. นิยำมศัพท์เฉพำะ (Definition) plug in คือ โปรแกรมเสริมชนิดหนึ่ง ที่จะเพิ่มควำมสำมำรถให้กับโปรแกรมหลัก ซึ่งเรำจะติดตั้งเพื่อใช้งำน หรือไม่ติดตั้งก็ได้ slot คือ ช่องว่ำงที่มี หรืออัตตรำส่วนที่ว่ำง texture คือ ลักษณะผิวของสิ่งต่ำง ๆ มีหยำบ ละเอียด ด้ำน มัน ขรุขระ รำบเรียบ เป็นริ้วเป็นรอย ๆ ฯลฯ พื้นผิวให้ควำมรู้สึกทำงกำยสัมผัส และพื้นผิวที่เกิดจำกกำรปรุงแต่ง เช่น กำรแกะสลักพื้นผิวของไม้เป็นลวดลำยเพื่อให้สัมผัสได้เด่นชัด เทคนิคกำรสร้ำงพื้นผิวสำมำรถทำได้หลำยแบบ ทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ อำจเขียนเป็นลวดลำยหรือรูปร่ำงต่ำง ๆ ประกอบกำรเขียนภำพ 7. ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ  ได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่  ได้มีกำรจัดวำงของที่ดี ของเป็นระเบียบ  ได้ประหยัดพื้นที่มำกขึ้น
  • 4. 4
  • 5. 5 บทที่ 2 กำรรวบรวมข้อมูล กำรจัดทำโครงงำน โต๊ะพับได้วิชำกำรออกแบบและเทคโนโลยี ผู้จัดทำได้ศึกษำและรวบรวมจำก เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย 1 หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศึกรำช 2551 กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ 4(ม.4-6) สำระกำรออกแบบและเทคโนโลยี 2 หลักกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ 3 ควำมรู้เกี่ยวกับไม้ 4 ควำมรู้เกี่ยวกับโต๊ะ 5 ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวข้อง 6 โครงงำนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง 1. หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551 กลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ 4 (ม.4-6) ประกอบด้วย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด และสำระกำรเรียนรู้ดังนี้ * กำรออกแบบและเทคโนโลยี เป็นสำระเกี่ยวกับกำรพัฒนำควำมสำมำรถของมนุษย์อย่ำงสร้ำงสรร
  • 6. 6 ค์ โดยนำควำมรู้มำใช้กับกระบวนกำรเทคโนโลยี สร้ำงสิ่งของเครื่องใช้ วิธีกำร หรือเพิ่มประสิทธิภำพในกำรดำรงชีวิต 1.1 มำตรฐำนกำรเรียนรู้มีดังนี้ 1. เข้ำใจเทคโนโลยีและกระบวนกำรเทคโนโลยี ออกแบบและสร้ำงสิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีกำรตำมกระบวนกำรเทคโนโลยีอย่ำงมีควำมคิดสร้ำงสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทำงสร้ำงสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
  • 7. 7 1.2 ตัวชี้วัด มีดังนี้ 2.1.1 อธิบำยและเชื่อมโยงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเทคโนโลยีกับศำสตร์อื่นๆ 2.1.2 วิเครำะห์ระบบเทคโนโลยี 2.1.3 กำรสร้ำงชิ้นงำน หรือถ่ำยทอดควำมคิด ของวิธีกำรเป็นแบบจำลองควำมคิด และกำรรำยงำนผลโดยใช้ซอฟแวร์ช่วย ในกำรออกแบบหรือนำเสนอผลงำน 2.1.4 มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำรในงำนที่ ผลิตเอง หรือกำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่นผลิต 2.1.5วิเครำะห์และเลือกใช้เทคโนโลยี ที่เหมำะสมกับชีวิตประจำวัน อย่ำงสร้ำงสรรค์ตอชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม และมีกำรจัดกำรเทคโนโลยีที่ยั่งยืนด้วยวิธีกำรของเทคโนโลยีสะอำด 1.3 สำระกำรเรียนรู้ดังนี้ 1.3.1 เทคโนโลยีมีควำมสัมพันธ์กับศำสตร์อื่นๆ โดยเฉพำะคณิตศำสตร์ 1.3.2 กำรวิเครำะห์ระบบเทคโนโลยีทำให้ทรำบเกี่ยวกับปัจจัยในด้ำนต่ำงๆที่มี ผลต่อกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำร 1.3.3 กำรสร้ำงสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีกำรตำมกระบวนกำรเทคโนโลยี ทำให้ผู้เรียนทำงำนอย่ำงเป็นระบบ สำมำรถย้อนกลับมำแก้ไขได้ง่ำย
  • 8. 8 1.3.4 กำรสร้ำงและพัฒนำสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีกำรต้องอำศัยควำมรู้ที่กำรเ กี่ยวข้องอีก เช่น กำรใช้สว่ำนเจำะเหล็ก 1.3.5 กำรใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในกำรออกแบบหรือนำเสนอผลงำน มีประโยชน์ในกำรช่วยร่ำงภำพ ทำภำพ 2 มิติและ 3 มิติ 1.3.6 กำรพัฒนำสิ่งของเครื่องใช้ต้องคำนึง หลักกำรวิเครำะห์ผลิตภัณฑ์เบื้องต้น 1.3.7 หลักกำรวิเครำะห์ผลิตภัณฑ์เบื้องต้น เป็นกำรวิเครำะห์จุดมุ่งหมำยของกำรออกแบบ ประกอบด้วย ชิ้นงำนนี้ใช้ทำอะไร ทำไมถึงต้องมีชิ้นงำนนี้ ใครเป็นผู้ใช้ ใช้ที่ไหนเมื่อไหร่จึงใช้ วิธีกำรที่ทำให้ชิ้นงำนได้ตำมวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 1.3.8 ภำพฉำย เป็นภำพแสดงรำยละเอียดของชิ้นงำน ประกอบด้วยภำพด้ำนหน้ำ ด้ำนข้ำง ด้ำนบน แสดงขนำดและหน่วยวัด เพื่อนำไปสร้ำงชิ้นงำน 1.3.9 ควำมคิดสร้ำงสรรค์มี 4 ลักษณะประกอบด้วย ควำมคิดริเริ่ม ควำมคล่องในกำรคิด ควำมยืดหยุ่นในกำรคิด และควำมคิดละเอียดลออ 1.3.10 ควำมคิดริเริ่ม จะเป็นลักษณะควำมคิดที่แปลกใหม่ แตกต่ำงจำกควำมคิดเดิม 1.3.11 ควำมคิดแปลกใหม่ที่ได้ ต้องไม่ละเมิดควำมคิfผู้อื่น 1.3.12 ควำมคิดแปลกใหม่เป็นกำรสร้ำงนวัตกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สิน ทำงปัญญำ
  • 9. 9 1.3.13 กำรวิเครำะห์ผลดี ผลเสีย กำรประเมิน และกำรตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมำะสม 1.3.14 กำรเลือกใช้สิ่งของของเครื่องใช้อย่ำงสร้ำงสรรค์ โดยกำรเลือกสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นมิตรกับชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม 1.3.15 เทคโนโลยีสะอำดเป็นเครื่องมือที่ใช้ ในกำรจัดกำรใช้เทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่กำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนชนิดหนึ่ง 2. หลักกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ ในกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ย่อมมีหลักกำรในกำรออกแบบ เพื่อควำมสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ดังนี้ 2.1 หลักกำรใช้สอย 1) สำมำรถใช้ในพื้นที่ที่มีขนำดเล็กได้โดยไม่ต้องไปตัดเล็กออกเพื่อให้เล็ก ลง 2) สำมำรถใช้เมื่อต้องกำรจะทำงำนในกำรทำงำนที่ต้องใช้พื้นที่ขนำนให ญ่ได้โดยไม่ต้องต่อโต๊ะเพิ่มเพรำะโต๊ะสำมำรถผับออกผับเข้ำได้ตำมต้อง กำร 3) สำมำรถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลำยป่ำเพรำะเรำใช้เ หล็กในกำรทำงำน และใช้แผ่นโพลีคำร์บอเนต 2.2 ควำมปลอดภัย 1) กำรต่อวงจรเป็นไปอย่ำงครบวงจร ทำให้กระแสไฟฟ้ำไหลออกมำตำมสำยไฟ
  • 10. 10 แม้ว่ำกระแสไฟฟ้ำรั่วออกมำกระแสไฟฟ้ำที่เดินเป็นทำงเดียวจะทำให้ไม่ เกิดปัญหำไฟฟ้ำลัดวงจร 2) โต๊ะที่ทำมีควำมแข็งแรงคงทนทำให้ไม่เกิดปัญหำกำรหักล้ม ไม่ทำให้เกิดอันตรำยต่อ ผู้ใช้งำน ควำมแข็งแรง 3) โต๊ะที่ใช้มีควำมแข็งแรงคงทน โดยวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำนั้นคือแผ่นโพลีคำร์บอนเนตที่มีควำมทนทำนแ ละต่อกับฐำนอย่ำงแน่น หนำ ทำให้ไม่หลุดง่ำย และมีประสิทธิภำพในกำรหมุนเข้ำหมุนออก อีกทั้งฐำนทำจำกวัสดุเหล็กที่มีควำมคงทน เกิดควำมมั่นคงในกำรใช้ และทนทำนต่อสภำพแวดล้อมได้ดี 2.3 ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้ สำมำรถ ใช้ได้กับทุกสถำนที่ ทุกสภำพสภำพอำกำศ สำมำรถปรับเปลี่ยนรูปหรือขนำดเปลื่ยนเป็นขนำดเล็กได้จำกที่ขนำดให ญ่ก็ได้ตำมต้องกำรได้ ตำมขนำดที่อยู่ ที่พักได้โดยกำรผับเก็บง่ำยๆ ก็ได้รูปแบบที่สมบูรณ์และยังสำมำรถใช้งำนได้อีก 2.4 ควำมสวยงำม มี รูปแบบของโต๊ะ ที่สำมำรถปรับเปลี่ยนรูปหรือขนำดเปลื่ยนเป็นขนำดเล็กได้จำกที่ขนำดใ หญ่ก็ได้ตำมต้องกำรสำมำรถตั้งประดับตกแต่งบ้ำน เพื่อให้เกิดควำมสวยงำมและเพลิดเพลินในกำรมองเห็นได้อีกด้วยเพรำะ เป็นสีขำวดูแล้วสะอำดตำดี 2.5 รำคำพอสมควร ต้น ทุนในกำรโต๊ะ มีรำคำไม่สูงมำกนัก เนื่องจำกวัสดุอุปกรณ์ในกำรทำสำมำรถหำได้ทั่วไป
  • 11. 11 อำทิแผ่นโพลีคำร์บอเนต ส่วนโครงเหล็กที่นำมำทำฐำนนั้นอำจทำได้จำกเศษเหล็ก หรือซื้อเหล็กได้ตำมร้ำนขำยของเก่ำ ซึ่งมีรำคำไม่สูงมำก 3.ควำมรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Google sketch up Google SketchUp เป็นซอฟท์แวร์สร้ำงโมเดล 3มิติที่มีเครื่องมือพื้นฐำนต่ำงๆเพียงพอกับกำรใช้งำนของผู้ใช้ระดับพื้นๆ ทั่วๆไป ที่ต้องกำรจะสร้ำงแบบ 3มิติของโต๊ะ, เก้ำอี้, ตู้, เครื่องใช้ในบ้ำนต่ำงๆ หรือจะใช้สร้ำงแบบใน กำรต่อเติมบ้ำน และงำนไม้ต่ำงๆก็ได้ ซึ่งก็จะมีรูปแบบของ texture แบบต่ำงๆให้เลือกใช้ได้ครบ แต่ถ้ำต้องกำรจะนำไปสร้ำงโมเดลกำร์ตูนเอนิเมชั่นต่ำงๆก็คงไม่พอ นอกจำกจะใช้เริ่มหัดพื้นฐำนสร้ำงโมเดลต่ำงๆก็พอได้ Sketchup ถูกพัฒนำขึ้นโดยบริษัท @Last ในปี ค.ศ.1999 ซึ่งมีเป้ำหมำยที่จะ - พัฒนำโปรแกรมออกแบบ Model 3 มิติ โดยมี Interface ที่เรียบง่ำยและใช้งำนสะดวก - ให้ผู้ใช้งำนสนุกกับกำรสร้ำงและออกแบบ - ทำให้ผู้ออกแบบมีลูกเล่นในส่วนของงำนออกแบบและนำเสนอ โดยที่โปรแกรมอื่นๆ ไม่สำมำรถทำได้ ต่อมำ บริษัท Google ได้เข้ำซื้อบริษัท @Last ตอนต้นปี 2006
  • 12. 12 ทำให้กลำยเป็นเวอร์ชั่นใหม่คือ “Google Sketchup” ฟังก์ชั่นที่น่ำสนใจของ Google SketchUp คือสำมำรถเข้ำไปค้นหำโมเดล 3มิติจำกฐำนข้อมูลของ Google หรือจะโหลดไปเก็บไว้ด้วยก็ได้ และถ้ำใช้งำนจนคล่องจะสร้ำงโมเดลของสถำนที่สำคัญๆ แล้วเอำไปใส่ใน Google Earth ด้วยก็ได้ 3.ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเชื่อมโลหะ กำรเชื่อม เป็นขบวนกำรที่ใช้สำหรับต่อวัสดุ ส่วนใหญ่เป็นโลหะและพลำสติก โดยให้รวมตัวเข้ำด้วยกัน ปกติใช้วิธีทำให้ชิ้นงำนหลอมละลำยและกำรเพิ่มเนื้อโลหะเติมลงในแอ่ง หลอม ละลำยของวัสดุที่หลอมเหลว เมื่อเย็นตัวรอยต่อจะมีควำมแข็งแรง บำงครั้งใช้แรงดันร่วมกับควำมร้อน หรืออย่ำงเดียว เพื่อให้เกิดรอยเชื่อม ซึ่งตรงข้ำมกับกำรบัดกรีอ่อนและกำรบัดกรีแข็งซึ่งไม่มีกำรหลอมละลำย ของชิ้น งำนชิ้นงำน มีแหล่งพลังงำนหลำยอย่ำงสำหรับนำมำใช้ในกำรเชื่อม เช่น กำรใช้ควำมร้อนจำกเปลวแก๊ส, กำรอำร์คโดยใช้กระแสไฟฟ้ำ, ลำแสงเลเซอร์, กำรใช้อิเล็คตอรอนบีม, กำรเสียดสี, กำรใช้คลื่นเสียง เป็นต้น ในอุตสำหกรรมมีกำรนำมำใช้ในสภำพแวดล้อมที่แตกต่ำงกัน เช่นกำรเชื่อมในพื้นที่โล่ง, พื้นที่อับอำกำศ, กำรเชื่อมใต้น้ำ กำรเชื่อมมีอันตรำยเกิดขึ้นได้ง่ำย จึงควรมีควำมระมัดระวังเพื่อป้องกันอันตรำย เช่น ที่เกิดจำก กระแสไฟฟ้ำ, ควำมร้อน, สะเก็ดไฟ, ควันเชื่อม, แก๊สพิษ, รังสีอำร์ค,
  • 13. 13 ชิ้นงำนร้อน, ฝุ่นละออง ในยุคเริ่มแรกจนถึงศตวรรษที่ 19 มีกำรใช้งำนเฉพำะกำรเชื่อมทุบ (forge welding) เพื่อใช้ในกำรเชื่อมต่อโลหะ เช่นกำรทำดำบในสมัยโบรำณ วิธีนี้รอยเชื่อมที่ได้มีควำมแข็งแรงสูง และโครงสร้ำงของเนื้อรอยเชื่อมมีคุณภำพอยู่ในระดับที่น่ำพอใจ แต่มีควำมล่ำช้ำในกำรนำมำใช้งำนในเชิงอุตสำหกรรม หลังจำกนั้นได้มีกำรพัฒนำมำสู่กำรเชื่อมอำร์ค และกำรเชื่อมโดยใช้เปลวแก๊สออกซิเจน และหลังจำกนั้นมีกำร เชื่อมแบบควำมต้ำนทำนตำมมำ เทคโนโลยีกำรเชื่อมได้มีกำรพัฒนำอย่ำงรวดเร็วในศตวรรษที่ 20 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครำมโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เทคโนโลยีกำรเชื่อมแบบใหม่ๆ ได้มีกำรเร่งพัฒนำเพื่อรองรับต่อกำรสู้รบในช่วงเวลำนั้น เพื่อทดแทนกำรต่อโลหะแบบเดิม เช่นกำรใช้หมุดย้ำซึ่งมีควำมล่ำช้ำอย่ำงมำก ขบวนกำรเชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ (SMAW) เป็นขบวนกำรหนึ่งที่พัฒนำขึ้นมำในช่วงนั้นและกระทั่งปัจจุบัน ยังคงเป็นกรรมวธีที่ใช้งำนกันมำกที่สุดในประเทศไทยและประเทศกำลัง พัฒนำทั้ง หลำย กำรเชื่อมโดยใช้ลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ กำรเชื่อมโดยใช้ลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ (SMAW) หรือที่เรำมักเรียกกันว่ำ กันเชื่อมธูป บำงตำรำมักเรียกกันว่ำ Manual Metal Arc (MMA) หรือ Stick Welding กำรเชื่อมแบบนี้ลวดเชื่อมจะมีฟลั๊กซ์หุ้มภำยนอกแกนลวด และกระแสไฟฟ้ำจะถูกส่งผ่ำนแกนลวดเชื่อมไปยังส่วนปลำย กระแสไฟฟ้ำที่มีทั้งชนิดกระแสตรง (DC) และชนิดกระแสสลับ (AC) กำรเลือกใช้งำนควรเป็นไปตำมคำแนะนำของผู้ผลิตลวดเชื่อม โดยปกติจะมีพิมพ์ไว้ข้ำงกล่องลวด โดยจะมีกำรชี้บ่ง เช่น ยี่ห้อ,
  • 14. 14 เกรดของลวดเชื่อม, ขนำด x ควำมยำวลวด, ชนิดกระแสไฟที่แนะนำให้ใช้งำนในแต่ละท่ำเชื่อม, ชนิดฟลั๊กซ์หุ้ม เป็นต้น กระแสไฟจะถูกส่งผ่ำนแหล่งจ่ำย โดยทั่วไปจะเป็นเครื่องเชื่อม กำรเริ่มต้นเชื่อมสำหรับลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ทำได้ 2 วิธี คือกำรเขี่ยอำร์คและกำรแตะปลำยลวดกับผิวชิ้นงำนแล้วยกขึ้นในระยะ ที่เหมำะสม เพื่อคงกำรอำร์คไว้ ขณะอำร์คจะมีควำมต้ำนทำนระหว่ำงปลำยลวดกับผิวชิ้นงำนเกิดเป็นคว ำมร้อนที่สูง ซึ่งสูงพอที่จะหลอมละลำยได้ทั้งผิวชิ้นงำนและปลำยลวดเชื่อมให้เกิดกำ รหลอม รวมตัวกันเป็นเนื้อโลหะรอยเชื่อม ควำมเค้นตกค้ำงหรือควำมเค้นที่เหลืออยู่(Residual stress) ควำมเค้นตกค้ำง คือ สิ่งที่ตกค้ำงอยู่ เป็นสำเหตุเริ่มต้นของกำรเกิดควำมเค้นทั้งหมด (จำกแรงภำยนอก, จำกกำรไม่สมดุลของควำมร้อน) ซึ่งต้องกำจัดออก เป็นควำมเค้นที่เหลืออยู่ระหว่ำงพื้นที่หน้ำตัดชิ้นงำน แม้ว่ำไม่มีควำมเค้นภำยนอกมำกระทำ ควำมเค้นคงเหลือเกิดขึ้นจำกหลำยเหตุผล รวมทั้งกำรไม่ยืดหยุ่นให้ชิ้นงำนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงรูปร่ำง และผลจำกกำรปรับปรุงด้วยควำมร้อน ควำมร้อนจำกกำรเชื่อมเป็นสำเหตุให้ชิ้นงำนขยำยตัวในวงจำกัด เช่นกำรเชื่อมแบบหลอมละลำย หรือกำรจับยึดชิ้นงำนระหว่ำงกำรเชื่อม เมื่อเนื้อรอยเชื่อมเกิดเย็นตัว บำงพื้นที่เย็นก่อนและเกิดกำรหดตัวก่อนส่วนอื่น ควำมเค้นตกค้ำงที่เหลืออยู่ คือสิ่งที่ได้จำกกำรหลอม รวมทั้งกำรเย็นตัวของชิ้นงำนที่ไม่สมดุลกัน ขณะที่ไม่สมำรถควบคุมควำมเค้นตกค้ำงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องกำร กำรออกแบบจำนวนมำกขึ้นกับมัน ตัวอย่ำงเช่น ควำมแข็งแรงของกระจก และกำรเผื่อควำมเค้นล่วงหน้ำของคอนกรีต ควำมเค้นในคอนกรีต ขึ้นกับกำรป้องกันควำมเปรำะ เสียหำย ใทำนองเดียวกัน ควำมโน้มเอียงสู่กำรเกิดโครงสร้ำงที่แข็งเปรำะ
  • 15. 15 (marensite) กำรก่อรูปแบบของควำมเค้นในมีดดำบโดยเจำะจงให้คมมีควำมแข็ง สำมำรถป้องกันกำรแตกที่คมดำบ บำงอย่ำงเช่น ลำกล้องปืน ทำด้วยท่อสองท่อให้ยึดติดกัน ท่อด้ำนในถูกบีบอัดขณะภำยนอกทำให้ขยำยออกได้ เพื่อป้องกันกำรแตกจำกร่องที่เป็นเกลียวของลำกล้องแน เมื่อกระสุนพุ่งออกไป ปกติชิ้นส่วนทำให้ร้อนหรือจุ่มในของเหลวไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) เพื่อช่วยส่วนประกอบ กำรบีบอัดที่เหมำะสมโดยทั่วไปจะทำอย่ำงรอบคอบของกำรใช้ควำมเค้น ตกค้ำง สลักเกลียวพวงมำลัยของยำนยนต์ ตัวอย่ำงเช่น กำรกดรูของดุมล้อ รูมีขนำดเล็กกว่ำสลัก เพื่อต้องกำรอัดแรงผ่ำนสลักให้เกิดควำมเค้นตกค้ำง ควำมเค้นตกค้ำงจะผูกติดเข้ำด้วยกันกับชิ้นส่วน ต้วอย่ำงอื่นๆเช่นตะปู เป็นต้น กำรเคำะเพื่อคลำยตัว (Peening) เป็นกำรปฏิบัติงำนทำงกลของโลหะ โดยหมำยถึงกำรตีด้วยหัวค้อนหรือกำรยิงในระยะสั้น (short peening) กำรเคำะเพื่อคลำยตัวเป็นขบวนกำรทำงำนเย็น มันโน้มน้ำวให้ให้เกิดกำรขยำยของผิวโลหะงำนที่เย็น เนื่องด้วยเหตุนั้น กำรผ่อนคลำยควำมเค้นแรงดึง และ/หรือควำมเค้นอัดภำยใน กำรเคำะเพื่อคลำยตัวยังกระตุ้นให้เกิดกำรแข็งตัวคงเหลือ (stain hardening) ของผิวโลหะ กำรเคำะคลำยด้วยมือ (hand peening) กระทำหลังกำรเชื่อมเพื่อคลำยควำมเค้นแรงดึงซึ่งเกิดขึ้นในเนื้อรอยเชื่อ มและ รอบๆโลหะงำนจำกกำรเย็นตัว ระดับกำรลดลงของควำมเค้นเรงดึงอย่ำงน้อยที่สุดคือบริเวณที่เกิดขึ้นใก ล้ผิว รอยเชื่อมเท่ำนั้น กำรเคำะคลำยตัวมีแนวโน้มให้ควำมแข็งสูงขึ้นในเนื้อเชื่อมและงำนบำง
  • 16. 16 อย่ำงควร หลีกเลี่ยง ด้วยเหตุผลนี้กำรเคำะคลำยตัวโดยทั่วไปไม่ถูกยอมรับจำกโค้ดส่วนใหญ , มำตรฐำนหรือข้อกำหนด (เช่น ASME B31.3 หมวด 328.51 (d) ทุกๆรูปแบบของกำรเคำะคลำยตัวถูกก่อนกำรนำมำใช้งำนบนเนื้อเชื่อม ต้องแนินกำร ตำมข้อกำหนดของกำรทดสอบชิ้นงำนชิ้นงำนที่ดำเนินกำรทดสอบกระบ วนกำรทำงำนเชื่อมนั้น ตัวแปรที่จำเป็นทั้งหมดนั้นจะถูกใช้เพื่อกำรผลิตงำนเชื่อม ถ้ำหำกเนื้อเชื่อมถูกเคำะคลำยตัวระหว่ำงกำรทดสอบกระบวนกำรของขั้ นตอนกำร เชื่อม กำรทดสอบทำงกลซึ่งตำมมำของขั้นตอนจะแสดงให้เห็นคุณสมบัติทำงก ลของเนื้อ เชื่อม คุณสมบัติทำงกลเหล่ำนี้ ต้องเข้ำกันได้กับคุณสมบัติทำงกลของวัสดุซึ่งจะเชื่อมเข้ำด้วยกัน ถ้ำมันไม่ได้ดำเนินกำรมีกำรสอบตกและขั้นตอนกำรเชื่อมนั้นไม่ถูกยอมรั บที่จะ ใช้ในกำรเชื่อม กำรเคำะคลำยตัวถูกนำมำใช้ในกำรกำรผลิตงำนเชื่อมที่ถูกกำหนดให้ก ระทำเท่ำนั้น อีก เหล็กกล้ำ (Steel) เหล็กกล้ำเป็นโลหะผสมประกอบด้วยธำตุเหล็ก (iron) , คำร์บอน 0.2-1.7 หรือ 2.0% ไม่เกินกว่ำนี้โดยน้ำหนัก (C:1000-10,8.67Fe) ขึ้นกับเกรดที่ใช้งำน คำร์บอนเป็นธำตุที่มีผลอย่ำงมำกต่อโลหะผสม แต่ธำตุอื่นๆที่นำมำใช้เช่น แมงกำนีส, ทังสะเตน, คำร์บอนและธำตุอื่นๆทำหน้ำที่ให้เกิดปฏิกิริยำกำรชุบแข็งในผลึกอะตอ มของ เหล็ก จำกกำรเลื่อนไหลของโครงสร้ำงอื่นๆภำยในเนื้อเหล็กกล้ำ จำนวนของธำตที่ผสมและรูปแบบของมันเป็นตัวควบคุมบทบำทในเหล็ก กล้ำ (ธำตุตัวถูกละลำย ขั้นตอนกำรตกตะกอน) เช่น ควำมแข็ง ควำมเหนียว ควำมทนต่อแรงดึงของกำรมีผลต่อเหล็กกล้ำ เหล็กกล้ำที่มีกำรเพิ่มคำร์บอนสำมำรถให้ควำมแข็งที่เพิ่มขึ้นมำกกว่ำเห ล็ก แต่ให้ควำมเปรำะมำกขึ้นด้วย
  • 17. 17 กำรถูกละลำยได้ของคำร์บอนในเหล็ก (iron) ในรูปแบบออสเตนไนต์ คือ 2.14% โดยน้ำหนัก กำรเกิดขึ้นที่ 1149 C คำร์บอนที่เข้มข้นมำกกว่ำนี้หรืออุณหภูมิต่กว่ำนี้จะสร้ำงโครงสร้ำงเซีเม นไต์ (โครงสร้ำงเปรำะ) โลหะผสมที่มีคำร์บอนมำกกว่ำนี้ คือเหล็กหล่อที่ได้มำจำกกำรหลอม (Cast iron) เพรำะมันมีจุดหลอมต่ำ เหล็กกล้ำมีควำมโดดเด่นจำกเหล็กเหนียว (wrought iron) ซึ่งมีธำตุอื่นผสมเพียงเล็กน้อย 1-3% ของน้ำหนักโดยสแลก (slag) ในรูปแบบของอนุภำคขนำดเล็กในทุกทิศทำง กำรให้เกรนที่มีลักษณะโครงสร้ำงเหล็ก มันมีควำมต้ำนทำนต่อสนิมมำกกว่ำเหล็กกล้ำและเชื่อมได้ง่ำย ในทุกวันนี้เรำพูดเกี่ยวกับอุตสำหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ำ เหมือนกับว่ำเจำะจงเพียงเป็นอย่ำงเดียวกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศำสตร์ พวกมันได้เคยถูกแบ่งไว้เป็น 2 แบบ 4. ควำมรู้เกี่ยวกับกำรเจำะสว่ำน วิธีกำรทำ ขั้นตอนที่1 กำรใส่ดอกสว่ำนต้องใส่ดอกสว่ำนให้ตรงกลำงหัวจับ ดอกสว่ำน หมุนล็อกดอกสว่ำนให้แน่นด้วยดอกขันหัว สว่ำน (จำปำ)ทั้ง 3 ช่องโดยออกแรงให้เท่ำๆกัน
  • 18. 18 ขั้นตอนที่2 ก่อนกำรเจำะควรใช้เหล็กนำศูนย์ ตอกนำก่อนโดยเฉพ ำะโลหะควรทำทุกครั้งเพื่อป้องกันดอกสว่ำนเจำะไม ่ตรงตำแห น่งหรือหนีศูนย์ และควรจับชิ้นงำนให้แน ่นด้วยแคล้มป์ ขั้นตอนที่3 วิธีกำรเจำะชิ้นงำนตำมแนวตั้งที่ลึกมำกๆ เพื่อให้ได้รูเจำะที่ตรงไม่เอียงไปด้ำนใดด้ำนหนึ่ง ควรจะใช้ฉำกเหล็กมำทำบเพื่อช่วยเป็นแนวทำงในกำรเจำะรูใ ห้ตรงตลอด ในกำรทำบกับฉำกนั้นไม่จำเป็นต้องให้ฉำกขนำนกับดอกสว่ำ นแต่ควรสังเกตให้ตัวสว่ำน ขนำนกับฉำกก็พอ ขั้นตอนที่4 กำรเจำะให้รูมีควำมลึกเท่ำกัน ทุกรู ควรนำกระดำษกำวหรือเทปกำวปิดพันรอบดอกสว่ำนในระยะค วำมลึกที ่ต้องกำรโดยวัดจำกปลำยดอกสว่ำนเข้ำมำ เวลำเจำะให้เจำะถึงแนวกระดำษกำวเท่ำนั้น ขั้นตอนที่5 สำหรับกำรเจำะวัสดุให้ทะลุทั้งไม้หรือโลหะ
  • 19. 19 ควรนำเศษวัสดุที่เรียบมำวำงรองด้ำนล่ำงที่เจำะทะลุให้สว่ำนเจ ำะผ่ำนออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเศษครีบจำกกำรเจำะ หรือ ป้องกัน ไม้ฉีกแตกไม่เรียบ ขั้นตอนที่6 กำรเจำะรูโลหะ ควรใช้ดอกสว่ำนประเภทที่สำมำรถเจำโลหะได้โดยดูจำกฉลำ กของดอกสว่ำน ก่อนกำรเจำะโลหะควรตอกเหล็กนำศูนย์รูเจำะทุกครั้งเพื่อไม่ใ ห้ ดอกสว่ำนลื่นไถลออกจำกตำแหน่งที่ต้องกำร ในขณะเจำะต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นบริเวณรูเจำะป้องกันควำ มร้อนจำกกำรเจำะ และใช้รอบเจำะที่ช้ำ ขั้นตอนที่7 สำหรับกำรเจำะรูใส่สกรู , น๊อต เพื่อให้หัวสกรู ฝังเสมอกับผิวชิ้นงำนแลดูสวยงำมสำมำรถ ทำได้โดย กำรใช้สว่ำนผ่ำนรูเจำะที่มีรูปตำมหัวสกรูที่ใช้ เพื่อที่ขณะที่ขันสกรูลงแล้วหัวสกรูจะเสมอผิวพอ ดี
  • 20. 20 ขั้นตอนที่8 กำรเจำะรูที่ท่อเหล็กหรือท่อพีวีซี สำหรับรูท่อ ที่อยู่ใกล้ปลำยท่อควรใช้ไม้กลึงกลมสอดในท่อเพื่อรองด้ำนใน ไม่ให้รูด้ำนในฉีกเป็นครีบ ซึ่งสำมำ รถมองจำกภำยนอกแล้วสวยงำม 5. ควำมรู้เกี่ยวกับไม้และ แผ่นโพลีคำร์บอเนต ไม้กับเฟอร์นิเจอร์ ไม้ที่นำมำทำเฟอร์นิเจอร์มี หลำยชนิด ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของดินแดนนั้นๆ ไม้สักคือไม้ชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมนำมำทำเฟอร์นิเจอร์ เพรำะมีควำมแข็งแรง แมลงหรือตัวทำลำยไม้ไม่นิยมเข้ำมำยุ่งเกี่ยวกับไม้สัก ไม้สักมีขนำดใหญ่พอเหมำะ ไม่ว่ำไม้ขนำดใหญ่ก็สำมำรถทำเป็นโครงสร้ำงบ้ำน หรือไม้ขนำดเล็กก็นำมำทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้ำน และไม้สักถือเป็นไม้มีคุณค่ำในสังคมไทยจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ประเทศไทยมีกฎหมำยปิดป่ำห้ำมตัดไม้สงวน ดังนั้น ไม้ยำงพำรำจึงเริ่มมีบทบำทในกำรทำเฟอร์นิเจอร์ เนื่องด้วย รำคำไม้พำรำมีต้นทุนน้อยมำกในอดีต (หลังจำกกรีดน้ำยำงหมดแล้วก็เผำเป็นถ่ำนหรือฟืน) นอกจำกนี้มีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น มีควำมแข็งแรง เป็นไม้ลำต้นตรง มีตำไม้ไม่มำกเกินไป และมีกำลังกำรเพำะปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสภำพภูมิประเทศและอำกำศร้อนชื้นของประเทศไทย มีควำมเหมำะสมในกำรปลูก
  • 21. 21 โพลีคำร์บอเนต โพลีคำร์บอเนต คือ ผลิตภัณฑ์วิศวกรรมพลำสติกคุณภำพสูง ที่มีต้นกำเนิดจำกทวีปยุโรป โดย Dr. H Schnell แห่ง บริษัท ไบร์เออร์ ประเทศ เยอรมันนี และ Mr. D.W.Fox แห่ง บริษัท เจนเนอรัล อิเลคทริค ประเทศสหรัฐอเมริกำร ในปี ค.ศ. 1953 โดยในครั้งแรกได้นำไปใช้ในอุตสำหกรรมเครื่องไฟฟ้ำ และอิเลคทรอนิคส์ ต่อมำนิยมนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลำกหลำยชนิด ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนแก้วได้ดี น้ำหนักเบำกว่ำ มีควำมยืดหยุ่นดีกว่ำ ทำให้สำมำรถขึ้นรูปได้หลำกหลำยรูปแบบมำกกว่ำ ซึ่งปัจจุบัน เรำจะเห็นผลิตภัณฑ์จำก โพลีคำร์บอเนต ในรูปแบบต่ำง ๆ อำทิเช่น แผ่นซีดี-ดีวีดี ขวดน้ำ หน้ำกำกหมวกกันน็อค หรือแม้แต่ในอุตสำหกรรมรถยนต์ก็นิยมนำโพลีคำร์บอเนตไปใช้เป็นชิ้น ส่วนต่ำง ๆ มำกมำย อำทิเช่น โคมไฟหน้ำรถ กันชน และในปัจจุบันได้มีกำรนำไปแทนกระจกบังลมด้ำนหลัง ในรถยนต์หลำยยี่ห้อ อีกด้วย แต่ใช่ว่ำโพลีคำร์บอเนตจะมีแต่ข้อดีไปเสียทั้งหมด ข้อเสียก็มีเหมือนกัน เนื่องจำกโพลีคำร์บอเนตเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนำมำจำกปิโตรเคมี จึงทำให้ไม่สำมำรถทนสำรเคมีได้ นอกจำกนั้นก็ยังมีบำงประเภทที่ทนสำรเคมีได้ แต่ทนควำมร้อนไม่ได้เช่น 1. PET ซึ่งนิยมใช้ในกำรทำขวดน้ำ หรือ ขวดน้ำมันพืช มีจุดเด่นคือ สำมำรถทนสำรเคมีได้ดี แต่ไม่ทนควำมร้อน 2. PC ทนควำมร้อนได้ดี แต่ก็ไม่สำมำรถทนต่อสำรเคมีได้ จึงได้มีกำรนำพลำสติกทั้ง 2 ชนิดมำผสมกัน ซึ่งทำให้เกิดคุณสมบัติที่ทนได้ทั้งควำมร้อนและสำรเคมี
  • 22. 22 แต่ก็ยังมีข้อเสียคือ รำคำสูง นอกจำกนั้นยังมีกำรนำ โพลีคำร์บอเนตไปผสมกับพลำสติกชนิดอื่น ๆ เช่น ABS เพื่อช่วยในกำรขึ้นรูปได้ดี เช่น กรอบทีวี มอนิเตอร์ หลังคำรถยนต์ และเรือเร็ว เป็นต้น อย่ำงที่กล่ำวไว้ข้ำงต้นว่ำ โพลีคำร์บอเนตเป็นผลิตภัณฑ์วิศวกรรมพลำสติกที่มีคุณภำพสูง หรืออำจกล่ำวได้อีกย่ำงว่ำ เป้นพลำสติกมหัศจรรย์ก็ถูกต้องเช่นกัน ข้อมูล จำกกำรสัมภำษณ์ นำยพิชัย ถิระปัญญำธร ที่อยู่ 35/5 ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 คำถำม : ถ้ำจะทำให้ขำโต๊ะหมุนไดจะต้องทำอย่ำงไร คำตอบ : ค่อนข้ำงทำได้ยำก แต่ถ้ำจะทำจริงๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธี เช่นทำขำตั้งให้หมุนออกไปด้ำนข้ำงเป็นแนวตรง ไม่ใช่เอำวำงไว้กลำงโต๊ะ