More Related Content
Similar to เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (20)
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
- 3. เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี มีนามเดิมว่า สนั่น เทพหัสดิน ณ
อยุธยา เกิดที่บ้านหลังศาลเจ้าหัวเม็ด ตาบลสะพานหัน จังหวัด
พระนคร(กรุงเทพมหานคร) เมื่อวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช
2419 ตรงกับวันจันทร์ เดือนยี่ แรม 2 ค่า ปีชวด เป็นบุตรคนที่ 18
จากบุตร - ธิดา จานวนพี่น้อง 32 คน ของพระยาไชยสุรินทร์
(หม่อมหลวง เจียม เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- 4. • สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอองค์น้อยในพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้ าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เมื่ออายุได้ 8 ปี บิดาก็ถึงแก่
อนิจกรรม ชีวิตของท่านจึงผกผันจากการเป็นครอบครัวคนชั้นสูง
จากการเป็นบุตรเสนาบดี ฐานะครอบครัวตกต่าลง ต้องมาช่วย
มารดาทาสวน ค้าขายและหารายได้ทางเย็บปักถักร้อย คือ
รับจ้างเย็บรังดุมตั้งแต่ยังเด็ก ความยากลาบากทาให้ท่านมีความ
อดทนไม่ท้อถอยและมีอุปนิสัยอ่อนโยน มัธยัสถ์ ซึ่งเป็นสิ่ง
เกื้อหนุนให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองในการศึกษาและการทางาน
•
- 5. • การสมรส
• เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้สมรสกับท่านผู้หญิงถวิล (สา
ลักษณ์)
• และมีภริยาอีก 4 คน โดยมีบุตร – ธิดา รวม 20 คน ได้อบรมสั่ง
สอนให้บุตร – ธิดา ทุกคนให้มีความอดทนและมัธยัสถ์
สนับสนุนให้ทุกคนเรียนถึงชั้นสูงสุดเท่าที่มีความสามารถ และ
ด้วยการมีส่วนผลักดันการศึกษาการช่างและได้สนับสนุนให้มีการ
เปิดสอนวิชาสถาปัตยกรรมขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
•
- 7. • การศึกษา
• พ.ศ. 2431
• เมื่ออายุ 12 ปี เข้าเรียนประโยคหนึ่งที่โรงเรียนบพิตรพิมุข โดยมี
พระมหาหนอหรือขุนอนุกิจวิธูร (น้อย จุลลิธูร) เป็นครูคนแรก
• พ.ศ. 2432
• เรียนจบประโยคสอง จากโรงเรียนพระตาหนักสวนกุหลาบ
- 8. • พ.ศ. 2435
• จบประโยคมัธยมศึกษาชั้น 5 ภาษาอังกฤษหลักสูตรหลวงโรงเรียน
ตัวอย่างสุนันทาลัย แล้วเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้ตั้ง โดยเป็น
นักเรียนรุ่นแรกเพียง 3 คน สอบประกาศนียบัตรครูรุ่นแรกของกรม
ศึกษาธิการได้อันดับที่ 1 เมื่ออายุ 16 ปี แล้วทาหน้าที่เป็นนักเรียน
สอนในกรมศึกษาธิการพ.ศ. 2439 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม จึงได้เป็น
นักเรียนทุนหลวงกระทรวงธรรมการไปศึกษาวิชาครูต่อที่ประเทศ
อังกฤษ ณ วิทยาลัยฝึกหัดครูเบอโรโรด
- 9. • อุปสมบท
• พ.ศ. 2441
• เมื่อจบการศึกษาและการดูงานได้กลับมาอุปสมบทในบวรพุทธ
ศาสนา 1 พรรษา โดยมีพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าให้เป็นนาคหลวง อุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดา
ราม จาพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร มีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์
- 10. • การรับราชการและงานพิเศษ
• พ.ศ. 2437
• เป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์
• พ.ศ. 2442
• กลับเข้ารับราชการกระทรวงธรรมการเมื่อวันที่ 9
มกราคม โดยเป็นครูสอนวิชาครูและคานวณวิธีใน
โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ก่อนเป็นพนักงานแต่ง
แบบเรียนประจาศาลาว่าการกรมศึกษาธิการ
- 11. • พ.ศ. 2443
• ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หลวงไพศาลศิลปศาสตร์” รับ
หน้าที่เป็น ผู้ช่วยหัวหน้ากองตรวจกรมศึกษาธิการและทาหน้าที่
สอนในขณะเดียวกัน
• พ.ศ. 2444
• จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียนประเภทอายุไม่เกิน
20 ปี เป็นครั้งแรกที่สนามหลวง โรงเรียนชนะเลิศจะได้รับโล่ไว้
ครอบครองเป็นเวลาหนึ่งปี และจารึกชื่อบนโล่เป็นเกียรติประวัติ
เรียกว่า “การแข่งขันฟุตบอลชิงโล่ของกระทรวงธรรมการ
- 12. • พ.ศ. 2445
• เดินทางไปดูงานการศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีผู้ร่วมเดินทาง
ในครั้งนั้นคือ ขุนอนุกิจวิทูร (สันทัด เทพหัสดิน) และพระชานิ
บรรณาคม (อ่อน สาริบุตร) โดยใช้เวลาดูงาน 72 วัน และใน
โอกาสนี้ได้คอยเฝ้ ารับเสด็จนิวัติประเทศสยามของสมเด็จพระ
บรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร (พระบาทสมเด็จพระมงกุฏ
เกล้าเจ้าอยู่หัว) ซึ่งสาเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษแล้ว
- 13. • พ.ศ. 2452
• รับพระราชทานเป็นคุณพระไพศาลศิลปศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 5
• พ.ศ. 2453
• รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้า
เฝ้ าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันที่
28 ธันวาคม (ร.ศ. 129) เพื่อรับกระแสพระราชดาริเรื่องการวาง
แนวทางการจัดการศึกษาของชาติ และเป็นพระบิดาแห่งวงการ
ฟุตบอลเมืองสยาม เนื่องจากเป็นยุคทองของฟุตบอลสยาม
- 14. • พ.ศ. 2454
• รั้งตาแหน่งปลัดทูลฉลอง กระทรวงธรรมการและเป็น “พระยา
ธรรมศักดิ์มนตรี”
• พ.ศ. 2457
• รั้งตาแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเมื่อวันที่ 15
กรกฎาคม อีกตาแหน่งหนึ่ง
• พ.ศ. 2458
• เป็นองคมนตรี
• พ.ศ. 2459
• ได้เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้รับพระราชทานยศเป็น
“จางวางโท” และ “จางวางเอก” ในปีเดียวกัน
- 15. • พ.ศ. 2460
• ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เลื่อนจาก “พระยาธรรมศักดิ์มนตรี
สรรพศึกษาวิธียุโรปการ” ขึ้นเป็น “เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีศรี
สาสนวโรปกรสุนทรธรรมจริยานุวาท” วันที่ 31 ธันวาคม เมื่ออายุ
ได้เพียง 41 ปีพ.ศ. 2460
• เป็นผู้ริเริ่มการศึกษาด้านเกษตรกรรม
• พ.ศ. 2461
• เป็นผู้ดาเนินการเพื่อให้ได้มีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติ
โรงเรียนราษฎร์
- 16. • พ.ศ. 2464
• รับพระบรมราชโองการทาจดหมายถึงมูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์
ให้มาช่วยปรับปรุงการศึกษาแพทย์ โดยมูลนิธิฯ ส่ง
นายแพทย์ ริชาร์ด เอม เพียร์ส ประธานกรรมการฝ่าย
แพทยศาสตร์ศึกษาเข้ามาดูกิจการของการศึกษาแพทย์ใน
ประเทศสยาม
• การประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาฉบับแรกของ
ประเทศ
• พ.ศ. 2468
• ได้เป็นผู้ประพันธ์ “เพลงกราวกีฬา” ในนาม “ครูเทพ” เพื่อจูง
ใจให้นักกีฬารู้จักการแพ้ชนะและรู้จักการให้อภัย
- 17. • พ.ศ. 2475
• ได้เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง “เพลงชาติ” โดยใช้ทานอง “เพลงมหาฤกษ์
มหาชัย” เพื่อใช้เป็นเพลงประจาชาติชื่อ “เพลงชาติมหาชัย” อยู่
ระยะหนึ่ง
• พ.ศ. 2475
• เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกในระบอบประชาธิปไตย
ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2475 – 1 กันยายน 2475
- 18. • พ.ศ. 2477
• ได้แต่งเพลง “คิดถึง” โดยบันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ. 2494 โดยเฉลา
ประสบศาสตร์ ซึ่งเป็นบทเพลงที่มีความไพเราะ
• พ.ศ. 2477
• ก่อตั้งโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และโรงเรียนฝึกหัดครู
ประถมกสิกรรมแม่โจ้ เชียงใหม่