Appearance2
- 1. Appearance :
ภาพถ่าย เวลา และการมอง
ธนาวิ โชติประดิษฐ
ประทีป สุธาทองไทยเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่ทำางานโดยใช้ภาพถ่ายและ
กระบวนการถ่ายภาพ เขาเล่นกับการเห็นของผู้ชมต่อภาพที่เขาสร้างขึ้น เรามักประหลาดใจ
กับภาพที่อยู่เบื้องหน้าว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ดูราวกับว่ากว่าจะได้มาซึ่งผลงานหนึ่ง
ชิ้น ศิลปินจะต้องถ่ายภาพซำ้าๆ จำานวนนับไม่ถ้วน แม้จะมีผู้กล่าวว่าการถ่ายภาพคือการหยุด
เวลา แต่ภาพถ่ายของประทีปกลับมี “ช่วงเวลา” ที่ยาวนานอยู่ในนั้น หนึ่งภาพที่เราเห็น อาจ
หมายถึงการถ่ายภาพนับร้อยครั้ง เขาให้ความสำาคัญกับตัวกระบวนการมากไปกว่าผลลัพธ์ใน
เชิงภาพถ่าย แต่กระนั้นก็ตาม การนำาเสนอกระบวนการก็จำาต้องอาศัยสิ่งที่เป็นรูปธรรม
สำาหรับนิทรรศการ Appearance เขาเลือกที่จะแสดงฟิล์มแทนที่จะเป็นตัวภาพถ่าย
ฟิล์มเป็นวัสดุที่แสดงความเป็นกระบวนการได้ดีเพราะมันคือสิ่งที่อยู่ก่อนตัว
ผลลัพธ์ (ภาพถ่าย) ขั้นตอนใดๆ ก่อนที่ภาพจะถูกล้างอัดออกมาจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ผู้ถ่าย
ภาพได้กดชัตเตอร์บันทึกลงไปบนแผ่นฟิล์มนี้ ภาพถ่ายจึงเป็นผลลัพธ์สุดท้ายที่อาจจะต่างออก
ไปโดยสิ้นเชิงจากตัวต้นแบบก็ได้ในเมื่อปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีส่วนอย่าง
มากในการจัดการกับภาพ ในแง่ของการแสดงกระบวนการ ฟิล์มจึงเป็นวัสดุที่เหมาะสมอยู่ใน
ตัว
ประทีปนำาฟิล์มมาเรียงต่อๆ กันจนเราสามารถมองเห็นความต่อเนื่องของมุมมอง
ของเขา สถาปัตยกรรมอาจเป็นหัวข้อที่ดีที่สุดในการนำาเสนอความต่อเนื่องดังกล่าวนี้
เนื่องจากสถาปัตยกรรมคือสิ่งที่นิ่งอยู่กับที่ สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวจึงเป็นตัวศิลปินเอง เขาค่อยๆ
ขยับมุมกล้องจากซ้ายไปขวา จากล่างขึ้นบนไปจน 360 องศา ความบิดเบี้ยวของรูปทรงใน
ภาพจึงเกิดจากเคลื่อนไหวของผู้ถ่ายภาพ ภาพถ่ายจึงไม่ใช่บันทึกของความเป็นจริงดังที่มัน
เป็นอยู่โดยแท้ หากเป็นความจริงที่ถูกสร้างและควบคุม
ผลงานชิ้นเล็กให้ผลต่อผู้ชมในเชิงการมองพิจารณาต่างจากงานชิ้นใหญ่ เรา
มักถูกสะกดให้ตะลึงด้วยแรงปะทะจากขนาดของชิ้นงาน ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งน่าตื่นตา แต่งานชิ้นเล็ก
จะส่งผลที่ต่างออกไป ผู้ชมมีแนวโน้มที่จะขยับเข้าไปใกล้ๆ และหยุดค้นหารายละเอียดจาก
ภาพโดยใช้เวลาที่ยาวนานกว่า ภายในกรอบของสายตาที่สามารถเก็บภาพไว้ได้หมด งานชิ้น
เล็กนั้นง่ายที่จะดึงดูดให้ผู้ชมเดินเข้าไปใกล้ๆ และใช้เวลากับมัน สิ่งที่ประทีปเลือกถ่ายก็เป็น
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน กระบวนการในการสร้างมุมมองใหม่ต่อสิ่งที่มีอยู่แล้วของประทีปเกิด
ขึ้นหลายชั้น ตั้งแต่การเลือกมุมของสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นบันได มุมหนึ่งของอาคารใน
วัดโพธิ์ ฐานของเจดีย์ หรือแม้กระทั่งพื้นหินอ่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นรายละเอียดที่โดยทั่ว
แล้วเรามักไม่ได้ให้ความสนใจ ศิลปินหยิบมันขึ้นมาและเน้นยำ้าด้วยการถ่ายภาพซำ้าๆ แต่ขยับ
มุมไปทีละนิด ฟิล์มแต่ละแถบถูกนำามาจัดเรียงเข้าด้วยกันในขั้นตอนสุดท้าย จนเกิดเป็นภาพ
รวมที่ดูน่าสนใจ และแปลกออกไปจากความเป็นจริง บางภาพดูเหมือนกับลายอะไรบางอย่าง
จนกระทั่งเรามองอย่างใกล้ชิดจึงรู้ว่าที่แท้แล้วคือส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม
สิ่งที่ภาพถ่ายนำาเสนอเป็นมุมมองของผู้ถ่ายภาพ เมื่อเรามองวัดต่างๆ ผ่าน
สายตาของประทีป เราก็เห็นสายตาที่ศิลปินมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ภาพถ่ายจึงไม่ใช่
ความจริงเชิงภววิสัย หากเป็นอัตวิสัยของผู้ถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานของประทีปจงใจที่
จะแสดงให้เห็นถึงมุมมองจำานวนมากต่อสิ่งๆ เดียว มันจึงชี้ให้เห็นว่า สิ่งต่างๆ นั้นไม่เที่ยง
อย่างที่เราคิดเสมอไป หากผันแปรไปตามวิธีที่เรามองมัน การเผยให้เห็นตัวกระบวนการใน
การสร้างภาพถ่ายสัมพันธ์กับเรื่องของ “ ”เวลา ผลงานของประทีปบรรจุห้วงเวลาที่ยาวนานเอา
ไว้ภายใน เพราะภาพที่ปรากฏได้โน้มนำาจินตนาการของผู้ชมให้นึกไปถึงช่วงเวลาที่ศิลปิน
ขยับร่างกายไปทีละนิดเพื่อถ่ายภาพจำานวนนับครั้งไม่ถ้วน การที่เขาเลือกที่จะนำาเสนอแผ่น