SlideShare a Scribd company logo
1 of 21
ระบบบอก
ตำแหน่ง
ปัจจุบันมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นโลกได้ คือ จีพีเอส (Global Positioning System:
GPS) ทำงำนร่วมกับดำวเทียม ในระดับควำมสูง 20,200 กิโลเมตร สำมำรถบอกตำแหน่งได้ทุกแห่งบนโลก
โดยควำมแม่นยำขึ้นอยู่กับจำนวนดำวเทียมที่จีพีเอสทำงำนร่วมและสภำพอำกำศ
ปัจจุบันได้นำระบบนี้มำใช้งำนด้ำนต่ำง ๆ มำกมำย เช่น กำรหำตำแหน่งบนพื้นโลก กำรนำมำสร้ำงเป็น
ระบบนำทำง (Navigator system) กำรใช้ติดตำมบุคคลหรือติดตำมยำนพำหนะ นอกจำกนี้ระบบจีพีเอสยัง
สำมำรถนำมำใช้อ้ำงอิงเพื่อปรับตั้งเวลำให้ถูกต้อง โดยใช้เวลำจำกดำวเทียมทุกดวงซึ่งมีเวลำที่ตรงกัน
จีพีเอส นิยมใช้ในรถยนต์เพื่อเป็นระบบนำทำง โดยทำงำนร่วมกับโปรแกรมแผนที่ที่บรรจุอยู่ใน
ตัวเครื่อง ปัจจุบันมีกำรนำระบบจีพีเอสไปติดตั้งในเครื่องพีดีเอ กล้องดิจิทัล และโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำรใช้งำน
จีพีเอสเพื่อระบุตำแหน่งบนพื้นโลกจำเป็นต้องติดต่อกับดำวเทียมอย่ำงน้อย ๓ ดวง ในกรณีที่ต้องกำรทรำบ
ควำมสูงของตำแหน่งจำกพื้นโลกด้วย ต้องติดต่อกับดำวเทียมอย่ำงน้อย ๔ ดวง
อำร ์เอฟไอดี
อำร์อฟไอดี (RFID ย่อมำจำกคำเต็มว่ำ Radio-frequency identification) เป็นวิธีกำรในกำร
เก็บข้อมูลหรือระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยทำงำนผ่ำนกำรรับสัญญำณจำกแท็กเข้ำสู่ตัวส่งสัญญำณ ผ่ำน
ทำงคลื่นวิทยุ แท็กของอำร์เอฟไอดีโดยปกติจะมีขนำดเล็กซึ่งสำมำรถติดตั้งเข้ำกับผลิตภัณฑ์สินค้ำ สัตว์
บุคคลได้ ซึ่งเมื่อตัวส่งสัญญำณส่งคลื่นวิทยุไป และพบเจอแท็กนี้สัญญำณจะถูกส่งกลับพร้อมกับข้อมูลที่เก็บ
ไว้ในแท็ก โดยตัวส่งสัญญำณนี้เองยังสำมำรถบันทึกข้อมูลลงในแท็กได้
แท็กอำร์เอฟไอดีจะประกอบไปด้วยสองส่วนหลักคือ ส่วนวงจรไฟฟ้ำที่เก็บข้อมูลและคำนวณกำร
ของข้อมูล และอีกส่วนคือบ้ำมิน มอยยส่วนเสำอำกำศหรือตัวรับส่งสัญญำณ
RFID tag มีกำรทำงำนบำงส่วนที่สำมำรถทำงำนได้ในขณะที่ไม่มีแบตเตอรี่ และมีแบตเตอรี่ นั้น
คือกำรอ่ำนและเขียนบน EEPROM ผ่ำนทำง Low frequency radio
เทคโนโลยีบรอดแบนด์
ไร้สำย
บรอดแบนด์ไร้สำย (Wireless Broadband)
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในกำรเข้ำถึงอินเทอร์เน็ตไร้สำยควำมเร็วสูงหรือกำรเข้ำถึงระบบ
เครือข่ำยคอมพิวเตอร์ในพื้นที่กว้ำงกำรเข้ำถึงบริกำรอินเตอร์เนตได้ทุกที่ทุกเวลำต้องอำศัย
เทคโนโลยีบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีกำรพัฒนำเพื่อตอบสนองกำรขยำยตัวของผู้ใช้
อินเตอร์เนตทั่วโลก หลำยประเทศได้กำหนดเป็นนโยบำย (Broadband policy) เพื่อให้สำมำรถใช้
บริกำรอินเตอร์เนตได้อย่ำงทั่วถึงโดยอำศัยเทคโนโลยีบรอดแบนด์
ลักษณะกำรให้บริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยแบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท
คือบริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่ (Fixed Wireless Broadband) และบริกำรบรอด
แบนด์คลื่อนที่ (Mobile Broadband) กำรให้บริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่เป็นกำรให้บริกำรใน
ลักษณะเช่นเดียวกับ กำรให้บริกำรบรอดแบนด์ตำมสำย เพียงแต่ใช้คลื่นวิทยุเป็นสื่อในกำรรับส่งข้อมูล
ผู้ใช้ต้องมีสำยอำกำศและอยู่ประจำที่ หรือผู้ใช้อำจเคลื่อนย้ำยตำแหน่งอย่ำงช้ำๆ (normadic) ขณะ
รับส่งข้อมูล เนื่องจำกข้อจำกัดของสมรรถนะทำงเทคโนโลยีของของบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่จึง ทำ
ให้มีกำรพัฒนำเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้สำมำรถใช้บริกำรบรอดแบนด์ขณะเคลื่อนที่ ซึ่งในปัจจุบันมี
เทคโนโลยีหลำยแบบที่สำมำรถให้บริกำรบรอดแบนด์เคลื่อนที่ และยังมีกำรพัฒนำต่อไปไม่หยุดยั้งใน
อนำคต
คำว่ำ G ย่อมำจำกคำว่ำ Generation ที่แปลว่ำ ยุค, สมัย, รุ่น ซึ่งเมื่อเอำไปใช้รวมกับ
ตัวเลข ในภำษำอังกฤษจะออกเสียงว่ำ First Generation, Second Generation, Third
Generation เป็นต้น และถูกย่อเป็นคำว่ำ 1G, 2G, 3G ซึ่งเป็นชื่อเรียกในแต่ละยุคของเทคโนโลยีกำร
สื่อสำรทำงไกลผ่ำนโทรศัพท์มือถือ
กำรประมวลผลภำพ
กำรประมวลผลภำพ (อังกฤษ: image processing) คือ เป็นกำรประยุกต์ใช้งำนกำรประมวลผล
สัญญำณบนสัญญำณ 2 มิติ เช่น ภำพนิ่ง (ภำพถ่ำย)หรือภำพวีดิทัศน์ (วิดีโอ) และยังรวมถึงสัญญำณ 2 มิติอื่น
ๆ ที่ไม่ใช่ภำพด้วย
แนวควำมคิดและเทคนิค ในกำรประมวลผลสัญญำณ สำหรับสัญญำณ 1 มิตินั้น สำมำรถปรับมำใช้กับภำพได้
ไม่ยำก แต่นอกเหนือจำก เทคนิคจำกกำรประมวลผลสัญญำณแล้ว กำรประมวลผลภำพก็มีเทคนิคและ
แนวควำมคิดที่เฉพำะ (เช่น connectivity และ rotation invariance) ซึ่งจะมีควำมหมำยกับสัญญำณ 2 มิติ
เท่ำนั้น แต่อย่ำงไรก็ตำมเทคนิคบำงอย่ำง จำกกำรประมวลผลสัญญำณใน 1 มิติ จะค่อนข้ำงซับซ้อนเมื่อ
นำมำใช้กับ 2 มิติ
เมื่อหลำยสิบปีมำแล้ว กำรประมวลผลภำพนั้น จะอยู่ในรูปของกำรประมวลผลสัญญำณแอนะล็อก (analog)
โดยใช้อุปกรณ์ปรับแต่งแสง (optics) ซึ่งวิธีเหล่ำนั้นก็ไม่ได้หำยสำบสูญ หรือเลิกใช้ไป ยังมีใช้เป็นส่วนสำคัญ
สำหรับกำรประยุกต์ใช้งำนบำงอย่ำง เช่น ฮอโลกรำฟี (holography) แต่เนื่องจำกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใน
ปัจจุบัน รำคำถูกลง และเร็วขึ้นมำก กำรประมวลผลภำพดิจิทัล (digital image processing) จึงได้รับควำม
นิยมมำกกว่ำ เพรำะกำรประมวลผลที่ทำได้ซับซ้อนขึ้น แม่นยำ และง่ำยในกำรลงมือปิิบัติ
กำรแสดงภำพ 3 มิติ
ภำพ 3 มิติ เป็นวิธีแสดงภำพให้ผู้ชมมองเห็นภำพให้ผู้ชมมองเห็นภำพมีมิติทั้งในแนว
กว้ำง แนวยำว และแนวลึก ปัจจุบันมีกำรนำเทคนิคกำรแสดงภำพ 3 มิติ ไปใช้ในกำรผลิตภำพยนต์
ต่ำง ๆ เพื่อให้มีมิติมำกขึ้น จะเห็นตัวอย่ำงได้จำกภำพยนต์ที่ฉำยในโรงภำพยนต์ หรืออยู่ในรูปแบบดีวี
ดี เทคนิคกำรแสดงภำพ 3 มิติ เป็นกำรนำภำพ 2 มิติมำแสดงผล โดยมีเทคนิคกำรแสดงภำพที่ทำให้
ตำข้ำงซ้ำยและขวำมองเห็นภำพของวัตถุเดียวกันในมุมมองที่แตกต่ำงกัน ส่งผลให้สมองตีควำมเป็น
ภำพที่มีควำมลึก
1. กำรแสดงภำพแบบแอนะกลิฟ
กำรแสดงภำพแบบแอนะกลิฟ (anaglyph) เป็นกำรฉำยภำพสำหรับตำซ้ำยและขวำที่มีโทนสีที่แตกต่ำง
กันลงบนฉำพรับภำพเดียวกัน โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีแดงและน้ำเงิน กำรมองด้วยตำเปล่ำจะทำให้เป็นภำพซ้อน
และเหลื่อมกันเล็กน้อย กำรมองภำพให้เป็นภำพ 3 มิติ จึงต้องใช้แว่นที่มีแผ่นกรองแสงด้ำนหน้ำที่มีข้ำงหนึ่งเป็นสี
แดง และอีกข้ำงหนึ่งเป็นสีนำเงิน แว่นที่ทำหน้ำที่ตัดสีที่ตรงกับสีของแว่นตำออกไป โดยที่แว่นตำข้ำงที่มีสีแดงจะ
ตัดภำพสีแดงออกไป ทำให้เห็นแต่ภำพที่เป็นสีนำเงิน ส่วนแว่นตำข้ำงที่เป็นสีน้ำเงินจะตัดภำพส่วนที่เป็นสีน้ำเงิน
ออกไปทำให้เห็นแต่ภำพที่เป็นสีแดง ซึ่งจะทำให้ตำทั้งสองข้ำงมองเห็นภำพในมุมมองที่แตกต่ำงกัน และสมองจะ
ตีควำมให้เหมือนว่ำมองเห็นภำพเป็น 3 มิติ
2.กำรแสดงภำพแบบโพลำไรซ ์3 มิติ
กำรแสดงภำพแบบโพลำไรซ์ 3 มิติ (polarized 3-D) มีกำรทำงำนที่คล้ำยกับแอนะกลิฟ โดยกำรฉำย
ภำพลงที่ฉำกรับภำพเดียวกัน และมีมุมมองของภำพที่แตกต่ำงกันแต่เปลี่ยนจำกกำรใช้สีเป็นตัวตัดภำพไป
ใช้วิธีกำรวำงตัวของช่องมองภำพแต่ละภำพที่ฉำยซ้อนกันแทน เช่น แว่นตำข้ำงซ้ำย จะมองภำพผ่ำนช่องใน
แนวตั้ง ส่วนแว่นตำข้ำงขวำจะมองภำพผ่ำนช่องในแนวนอน ทำให้ตำแต่ละข้ำงมองเห็นภำพไม่เหมือนกัน
เมื่อสมองรวมภำพจำกตำข้ำงซ้ำยและขวำ จะมองเห็นภำพเป็น 3 มิติ ดังรูป แว่นโพลำไรซ์สำหรับมองภำพ
โพลำไรซ์ โดยเฉพำะ ซึ่งจะทำให้ภำพมีสีสันสมจริงมำกกว่ำแบบแอนะกลิฟ เทคนิคนี้นิยมใช้ในภำพยนต์ 3
มิติ
3.กำรแสดงภำพแบบแอ๊กทิฟชัตเตอร ์
กำรแสดงภำพแบบแอ๊กทิฟชัตเตอร์ (activeshutter)จะต้องอำศัยกำรฉำยภำพที่มีควำมถี่ในกำรแสดงภำพอย่ำง
น้อย 120เฮิรตซ์ เนื่องจำกจะต้องแสดงภำพสำหรับตำซ้ำยและขวำสลับกัน ดังนั้นกำรแสดงภำพจะเป็นลำดับ ซ้ำย -
ขวำ สลับกันไปจนครบ 120 ภำพใน 1 วินำที ตำข้ำงซ้ำยและขวำจึงเห็นข้ำงละ 60 ภำพใน 1 วินำที ซึ่งเป็นควำมถี่ขั้น
ต่ำที่ทำให้ไม่รู้สึกว่ำภำพสั่น กำรฉำยำพลักษณะนี้จะต้องใช้แว่นตำแอ๊กทิฟชัตเตอร์ มำช่วยในกำรมองภำพโดยแว่นตำ
จะสื่อสำรกับเครื่องฉำยว่ำจะบังตำข้ำงไหนในขณะฉำยภำพ เช่น ภำพสำหรับตำซ้ำย เครื่องฉำยจะส่งสัญญำณให้
แว่นบังตำขวำ หรือถ้ำเครื่องฉำยแสดงภำพที่ต้องใช้ตำขวำดู เครื่องฉำยก็จะส่งสัญญำณให้แว่นบังตำซ้ำย ดังนั้นแว่น
นี้ต้องใช้พลังงำนไฟฟ้ำในกำรทำงำน ตัวอย่ำงอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้เช่น โทรทัศน์ 3 มิติ
4.กำรแสดงภำพแบบพำรำแลกซ ์บำร ์เรีย
กำรแสดงภำพ 3มิติ ก่อนหน้ำนี้จำเป็นต้องใช้แว่นตำในกำรมองเพื่อให้เห็นเป็นภำพ 3 มิติ แต่กำรแสดงภำพแบบพำรำ
แลกซ์บำร์เรีย(paralaxbarrier)จะไม่ใช้แว่นตำ ซึ่งโดยวิธีนี้จะแบ่งภำพที่มีมุมมองต่ำงกัน ออกเป็นแท่งแล้วนำไปวำง
สลับกัน โดยมีชั้นกรองพิเศษที่เรียกว่ำ พำรำแลกซ์บำร์เรีย ในกำรแบ่งภำพให้ตำแต่ละข้ำงที่
มองผ่ำนชั้นกรองนี้เห็นภำพที่แตกต่ำงกันแล้วสมองจะรวมภำพจำกตำซ้ำยและตำขวำที่มีมุมมองต่ำงกันนี้ให้เป็นภำพ
เดียว ทำให้เรำมองเห็นเป็นภำพ 3 มิติ ได้ด้วยตำเปล่ำ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้เช่น กล้องดิจิทัล3 มิติ ที่เรำสำมำรถ
มองเห็นภำพถ่ำยบนจอแอลซีดีเป็นภำพ 3มิติ
มัลติทัช
มัลติทัชเป็นกำรต่อยอดมำกจำกหน้ำจอสัมผัสทั่วไป ซึ่งโดยปรกติถ้ำเป็นทัชสกรีนธรรมดำจะเป็นกำรรับคำ
สั่งได้ทีละจุดทีละคำสั่ง คล้ำยๆกับเวลำเรำเล่นเกมส์จับผิดภำพ หรือกำรใช้โทรศัพท์มือถือหรือPDAนั่นเอง แต่ว่ำมัลติทัชจะต่ำง
ออกไปเพรำะสำมำรถรองรับกำรสัมผัสได้ทีละหลำยๆจุดทำให้เกิดรูปแบบกำรสั่งงำนที่คล่องตัวมำกขึ้นและก็มีกำรควบคุมที่
สะดวกกว่ำ ให้ควำมรู้สึกที่แตกต่ำงออกไปจำกกำรควบคุมคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ก่อนหน้ำนี้บิลเกตได้เคยออกมำประกำศว่ำ
เม้ำส์และคีย์บอร์ดจะกลำยเป็นของที่ล้ำสมัยไปในที่สุด ซึ่งหนึ่งในรูปแบบกำรสั่งงำนคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่จะเข้ำมำแทนที่ก็
คือมัลติทัช(Multi-touch)ฉะนั้นจังไม่น่ำแปลกใจที่Windows7จะนำเทคโนโลยีมัลติทัชเข้ำมำใช้ เพรำะฉะนั้นในอนำคตเรำก็
มีโอกำสจะได้ใช้มัลติทัชกันอย่ำงเต็มรูปแบบ สำหรับเทคโนโลยีมัลติทัชก็จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ หลักๆอย่ำงแรกก็คือ
หน้ำสัมผัสซึ่งตัวนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหน้ำจอแสดงภำพอย่ำงเดียว อำจจะเป็นโต๊ะ กำแพง เป็นTouchPadบนโน้ตบุ๊คก็ได้
ส่วนนี้เป็นได้หลำยรูปแบบในลักษณะกำรรับค่ำสัมผัสจำกหน้ำจอหรือว่ำตัวinterfaceซึ่งทำได้ทั้งกำรผ่ำนควำมร้อน แรงกดของ
นิ้ว ใช้แสงอินฟำเหรด คลื่นอัลตรำโซนิค คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำหรือแม้แต่กำรควบคุมผ่ำนทำงแสงเงำก็มีกำรพัฒนำขึ้นมำแล้ว แต่
ส่วนที่คิดว่ำสำคัญที่สุดในระบบมัลติทัชก็คือเรื่องของSoftwereในกำรควบคุม ถ้ำดูจำก I-Phoneจะเห็นว่ำตัว Softwere
สำมำรถที่จะเข้ำมำผสำนกำรทำงำนกับรบบมัลติทัชได้อย่ำงลงตัว และทำให้รูปแบบกำรทำงำนดูน่ำใช้มำกขึ้น สร้ำงสรรค์กำร
ปิิสัมพันธ์กับมนุษย์ในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้กำรใช้งำนคอมพิวเตอร์ ถูกยกระดับขึ้นเป็นอีก1มิติใหม่ ถึงแม้เรำจะเห็นมัลติทัชใน
ช่ำง2-3ปีที่ผ่ำนมำอย่ำงแพร่หลำย แต่จริงๆแล้ว นักวิทยำศำสตร์ได้คิดค้นและพัฒนำระบบมัลติทัชมำไม่ต่ำกว่ำ25ปีแล้ว แต่มำ
เห็นเป็นรูปเป็นร่ำงตั้งแต่ปี 2542มีนักวิจัยจำกมหำวิทยำลัยDelawere2คน ได้สร้ำงบริษัทขึ้นมำที่ชื่อว่ำFinger Worksและ
พัฒนำอุปกรณืที่มีชื่อว่ำ Igester Padและ Touchstreamkeyboardก่อนที่จะถูกซื้อกิจกำรไปในที่สุด โดยบริษัทที่มีชื่อว่ำ
Apple
Appleได้เข้ำไปซื้อบริษัท Finger Worksไปเมื่อประมำณปี2548จึงไม่น่ำแปลกว่ำAppleเป็นบริษัทแรกๆที่
จุดกระแสด้ำนระบบมัลติทัช และมีกำรนำมำใช้กันอย่ำงเป็นรูปอธรรม เป็นที่ประทับใจของคนทั่วไป เป็นSoftwereที่ผสำน
กันอย่ำงลงตัว หน้ำจอของI-Phoneเป็นแบบ CapacitiveTouchscreenซึ่งต้องอำศัยสื่อนำไฟฟ้ำอย่ำงผิวหนัง ทำให้
ปำกกำพลำสติกทั่วไปไม่สำมำรถใช้งำนกับหน้ำจอI-Phoneได้ ลูกเล่นด้ำนมัลติทัชของI-Phoneถูกสอดแทรกเข้ำไปกับ
กำรทำงำนได้อย่ำงลงตัว ทำให้ผู้ใช้งำนจำนวนมำกเห็นถึงควำมสะดวกสบำยในกำรใช้งำนผ่ำนระบบมัลติทัช เช่นกำรใช้
นิ้มมือลำกเพื่อเลื่อนคำสั่งต่ำงๆในจอ หรือใช้นิ้วมือสองนิ้วเพื่อย่อหรือขยำยรูปภำพบนหน้ำจอได้อย่ำงสะดวก นอกจำกนี้I-
Phoneยังได้ผสำนAccelerometerหรืออุปกรณืวัดควำมแร่งแบบ3แกน ทำให้พลิกหน้ำจอแสดงผลได้โดยรอบเพื่อ
ปรับเปลี่ยนมุมมองของกำรเล่นภำพได้ตำมต้องกำร ทั้งตำมแนวตั้งและแนวนอน นอกจำกนี้Appleยังได้นำมัลติทัชไปไว้ใน
I-PodTouch,MacBookAirและMacBookProอีกด้วย ซึ่งถือว่ำเป็นกำรทำให้กำรใช้งำนสะดวกยิ่งขึ้น
ด้ำนMicrosoftแม้จะได้เริ่มกำรวิจัยมำก่อนAppleแต่กลับออกผลิตภัณฑ์สู่ตลำดได้ช้ำกว่ำ และก็ยังเป็น
ผลิตภัณฑ์แบบเฉพำะกลุ่มและรำคำแพง แต่ถ้ำพูดถึงในด้ำนกำรทำงำน ทำงด้ำนMicrosoftSerfaceถือว่ำเป็นโต๊ะ
อัจฉริยะที่ผสำนมัลติทัชและกำรทำงำนไร้สำยได้อย่ำงลงตัว MicrosoftSerfaceใช้ระบบปิิบัติกำร Windows
VistaมีProcesserเป็นInTelCore2 Duoหน่วยควำมจำ2Gbมีกำรออกแบบinterfaceกำรควบคุมแบบใหม่ที่มี
ควำมหลำกหลำยมำกยิ่งขึ้น และมีกำรนำมัลติทัชใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ทรงกลมที่มีชื่อว่ำSphereนอกจำกMicrosoft
และAppleแล้ว ยังมีอีกหลำยบริษัทที่ให้ควำมสนใจกับมัลติทัชอีกมำกมำยเช่นPerceptivePixel โดยผลิตมัลติทัชไว้
สำหรับองค์กรณ์ใหญ่ๆเพื่อควำมสะดวก เช่น ActiveBoardเป็นกระดำนแบบมัลติทัชใช้ในกำรเรียนกำรสอน
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีมัลติทัชมีรำคำถูกลงเรื่อยๆ และมีประสิทธิภำพดียิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ต่ำงๆ เช่น แท็บเล็ตพีซี โทรศัพท์มือถือ ได้นำระบบมัลติทัชมำใช้เพื่อควำมสะดวกในกำรใช้งำนแทนระบบ
เมำส์ และแป้นพิมพ์ ทำให้อุปกรณ์มีขนำดเล็กลง พกพำสะดวก และระบบปิิบัติกำรต่ำงๆ เช่น ซิมเบียน,วินโดวส์ 8,
ไอโอเอส,แอนดรอยด์,อุบุนตู(ลินุกซ์เดกส์ทอป)ได้เพิ่มซอฟต์แวร์มัลติทัชเข้ำไปในระบบ
จัดทำโดย
นำงสำวฐิตยำภรณ์ สุข
ช่วย ปวช.3/1

More Related Content

Similar to Titayaporn

เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่Nongpech Boonchuai
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection MappingJump' Kmutt
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection MappingJump' Kmutt
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1jibbie23
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1jibbie23
 
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่Mengree BK
 
การใช้งาน Adobe photoshop cs5
การใช้งาน Adobe photoshop cs5การใช้งาน Adobe photoshop cs5
การใช้งาน Adobe photoshop cs5Rattapadol Gunhakoon
 
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่Sukkhawit Chamruang
 
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1Sodaam AC
 
Computer&creation of art
Computer&creation of artComputer&creation of art
Computer&creation of artbeverza
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection MappingJump' Kmutt
 
Augmented reality
Augmented reality Augmented reality
Augmented reality Ferin Bell
 

Similar to Titayaporn (20)

เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
 
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
 
ใบงาน7
ใบงาน7ใบงาน7
ใบงาน7
 
ใบงาน7
ใบงาน7ใบงาน7
ใบงาน7
 
ใบงาน7
ใบงาน7ใบงาน7
ใบงาน7
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection Mapping
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection Mapping
 
13510194
1351019413510194
13510194
 
13510194
1351019413510194
13510194
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
 
Mapping
MappingMapping
Mapping
 
การใช้งาน Adobe photoshop cs5
การใช้งาน Adobe photoshop cs5การใช้งาน Adobe photoshop cs5
การใช้งาน Adobe photoshop cs5
 
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
 
13510194
1351019413510194
13510194
 
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1
การใช้โปรแกรมกราฟิกส์.1
 
Computer&creation of art
Computer&creation of artComputer&creation of art
Computer&creation of art
 
3D Projection Mapping
3D Projection Mapping3D Projection Mapping
3D Projection Mapping
 
Augmented reality
Augmented reality Augmented reality
Augmented reality
 

Titayaporn

  • 2. ปัจจุบันมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นโลกได้ คือ จีพีเอส (Global Positioning System: GPS) ทำงำนร่วมกับดำวเทียม ในระดับควำมสูง 20,200 กิโลเมตร สำมำรถบอกตำแหน่งได้ทุกแห่งบนโลก โดยควำมแม่นยำขึ้นอยู่กับจำนวนดำวเทียมที่จีพีเอสทำงำนร่วมและสภำพอำกำศ ปัจจุบันได้นำระบบนี้มำใช้งำนด้ำนต่ำง ๆ มำกมำย เช่น กำรหำตำแหน่งบนพื้นโลก กำรนำมำสร้ำงเป็น ระบบนำทำง (Navigator system) กำรใช้ติดตำมบุคคลหรือติดตำมยำนพำหนะ นอกจำกนี้ระบบจีพีเอสยัง สำมำรถนำมำใช้อ้ำงอิงเพื่อปรับตั้งเวลำให้ถูกต้อง โดยใช้เวลำจำกดำวเทียมทุกดวงซึ่งมีเวลำที่ตรงกัน
  • 3. จีพีเอส นิยมใช้ในรถยนต์เพื่อเป็นระบบนำทำง โดยทำงำนร่วมกับโปรแกรมแผนที่ที่บรรจุอยู่ใน ตัวเครื่อง ปัจจุบันมีกำรนำระบบจีพีเอสไปติดตั้งในเครื่องพีดีเอ กล้องดิจิทัล และโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำรใช้งำน จีพีเอสเพื่อระบุตำแหน่งบนพื้นโลกจำเป็นต้องติดต่อกับดำวเทียมอย่ำงน้อย ๓ ดวง ในกรณีที่ต้องกำรทรำบ ควำมสูงของตำแหน่งจำกพื้นโลกด้วย ต้องติดต่อกับดำวเทียมอย่ำงน้อย ๔ ดวง
  • 5. อำร์อฟไอดี (RFID ย่อมำจำกคำเต็มว่ำ Radio-frequency identification) เป็นวิธีกำรในกำร เก็บข้อมูลหรือระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยทำงำนผ่ำนกำรรับสัญญำณจำกแท็กเข้ำสู่ตัวส่งสัญญำณ ผ่ำน ทำงคลื่นวิทยุ แท็กของอำร์เอฟไอดีโดยปกติจะมีขนำดเล็กซึ่งสำมำรถติดตั้งเข้ำกับผลิตภัณฑ์สินค้ำ สัตว์ บุคคลได้ ซึ่งเมื่อตัวส่งสัญญำณส่งคลื่นวิทยุไป และพบเจอแท็กนี้สัญญำณจะถูกส่งกลับพร้อมกับข้อมูลที่เก็บ ไว้ในแท็ก โดยตัวส่งสัญญำณนี้เองยังสำมำรถบันทึกข้อมูลลงในแท็กได้ แท็กอำร์เอฟไอดีจะประกอบไปด้วยสองส่วนหลักคือ ส่วนวงจรไฟฟ้ำที่เก็บข้อมูลและคำนวณกำร ของข้อมูล และอีกส่วนคือบ้ำมิน มอยยส่วนเสำอำกำศหรือตัวรับส่งสัญญำณ RFID tag มีกำรทำงำนบำงส่วนที่สำมำรถทำงำนได้ในขณะที่ไม่มีแบตเตอรี่ และมีแบตเตอรี่ นั้น คือกำรอ่ำนและเขียนบน EEPROM ผ่ำนทำง Low frequency radio
  • 7. บรอดแบนด์ไร้สำย (Wireless Broadband) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในกำรเข้ำถึงอินเทอร์เน็ตไร้สำยควำมเร็วสูงหรือกำรเข้ำถึงระบบ เครือข่ำยคอมพิวเตอร์ในพื้นที่กว้ำงกำรเข้ำถึงบริกำรอินเตอร์เนตได้ทุกที่ทุกเวลำต้องอำศัย เทคโนโลยีบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีกำรพัฒนำเพื่อตอบสนองกำรขยำยตัวของผู้ใช้ อินเตอร์เนตทั่วโลก หลำยประเทศได้กำหนดเป็นนโยบำย (Broadband policy) เพื่อให้สำมำรถใช้ บริกำรอินเตอร์เนตได้อย่ำงทั่วถึงโดยอำศัยเทคโนโลยีบรอดแบนด์
  • 8. ลักษณะกำรให้บริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยแบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท คือบริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่ (Fixed Wireless Broadband) และบริกำรบรอด แบนด์คลื่อนที่ (Mobile Broadband) กำรให้บริกำรบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่เป็นกำรให้บริกำรใน ลักษณะเช่นเดียวกับ กำรให้บริกำรบรอดแบนด์ตำมสำย เพียงแต่ใช้คลื่นวิทยุเป็นสื่อในกำรรับส่งข้อมูล ผู้ใช้ต้องมีสำยอำกำศและอยู่ประจำที่ หรือผู้ใช้อำจเคลื่อนย้ำยตำแหน่งอย่ำงช้ำๆ (normadic) ขณะ รับส่งข้อมูล เนื่องจำกข้อจำกัดของสมรรถนะทำงเทคโนโลยีของของบรอดแบนด์ไร้สำยประจำที่จึง ทำ ให้มีกำรพัฒนำเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้สำมำรถใช้บริกำรบรอดแบนด์ขณะเคลื่อนที่ ซึ่งในปัจจุบันมี เทคโนโลยีหลำยแบบที่สำมำรถให้บริกำรบรอดแบนด์เคลื่อนที่ และยังมีกำรพัฒนำต่อไปไม่หยุดยั้งใน อนำคต คำว่ำ G ย่อมำจำกคำว่ำ Generation ที่แปลว่ำ ยุค, สมัย, รุ่น ซึ่งเมื่อเอำไปใช้รวมกับ ตัวเลข ในภำษำอังกฤษจะออกเสียงว่ำ First Generation, Second Generation, Third Generation เป็นต้น และถูกย่อเป็นคำว่ำ 1G, 2G, 3G ซึ่งเป็นชื่อเรียกในแต่ละยุคของเทคโนโลยีกำร สื่อสำรทำงไกลผ่ำนโทรศัพท์มือถือ
  • 10. กำรประมวลผลภำพ (อังกฤษ: image processing) คือ เป็นกำรประยุกต์ใช้งำนกำรประมวลผล สัญญำณบนสัญญำณ 2 มิติ เช่น ภำพนิ่ง (ภำพถ่ำย)หรือภำพวีดิทัศน์ (วิดีโอ) และยังรวมถึงสัญญำณ 2 มิติอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภำพด้วย แนวควำมคิดและเทคนิค ในกำรประมวลผลสัญญำณ สำหรับสัญญำณ 1 มิตินั้น สำมำรถปรับมำใช้กับภำพได้ ไม่ยำก แต่นอกเหนือจำก เทคนิคจำกกำรประมวลผลสัญญำณแล้ว กำรประมวลผลภำพก็มีเทคนิคและ แนวควำมคิดที่เฉพำะ (เช่น connectivity และ rotation invariance) ซึ่งจะมีควำมหมำยกับสัญญำณ 2 มิติ เท่ำนั้น แต่อย่ำงไรก็ตำมเทคนิคบำงอย่ำง จำกกำรประมวลผลสัญญำณใน 1 มิติ จะค่อนข้ำงซับซ้อนเมื่อ นำมำใช้กับ 2 มิติ เมื่อหลำยสิบปีมำแล้ว กำรประมวลผลภำพนั้น จะอยู่ในรูปของกำรประมวลผลสัญญำณแอนะล็อก (analog) โดยใช้อุปกรณ์ปรับแต่งแสง (optics) ซึ่งวิธีเหล่ำนั้นก็ไม่ได้หำยสำบสูญ หรือเลิกใช้ไป ยังมีใช้เป็นส่วนสำคัญ สำหรับกำรประยุกต์ใช้งำนบำงอย่ำง เช่น ฮอโลกรำฟี (holography) แต่เนื่องจำกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใน ปัจจุบัน รำคำถูกลง และเร็วขึ้นมำก กำรประมวลผลภำพดิจิทัล (digital image processing) จึงได้รับควำม นิยมมำกกว่ำ เพรำะกำรประมวลผลที่ทำได้ซับซ้อนขึ้น แม่นยำ และง่ำยในกำรลงมือปิิบัติ
  • 12. ภำพ 3 มิติ เป็นวิธีแสดงภำพให้ผู้ชมมองเห็นภำพให้ผู้ชมมองเห็นภำพมีมิติทั้งในแนว กว้ำง แนวยำว และแนวลึก ปัจจุบันมีกำรนำเทคนิคกำรแสดงภำพ 3 มิติ ไปใช้ในกำรผลิตภำพยนต์ ต่ำง ๆ เพื่อให้มีมิติมำกขึ้น จะเห็นตัวอย่ำงได้จำกภำพยนต์ที่ฉำยในโรงภำพยนต์ หรืออยู่ในรูปแบบดีวี ดี เทคนิคกำรแสดงภำพ 3 มิติ เป็นกำรนำภำพ 2 มิติมำแสดงผล โดยมีเทคนิคกำรแสดงภำพที่ทำให้ ตำข้ำงซ้ำยและขวำมองเห็นภำพของวัตถุเดียวกันในมุมมองที่แตกต่ำงกัน ส่งผลให้สมองตีควำมเป็น ภำพที่มีควำมลึก
  • 13. 1. กำรแสดงภำพแบบแอนะกลิฟ กำรแสดงภำพแบบแอนะกลิฟ (anaglyph) เป็นกำรฉำยภำพสำหรับตำซ้ำยและขวำที่มีโทนสีที่แตกต่ำง กันลงบนฉำพรับภำพเดียวกัน โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีแดงและน้ำเงิน กำรมองด้วยตำเปล่ำจะทำให้เป็นภำพซ้อน และเหลื่อมกันเล็กน้อย กำรมองภำพให้เป็นภำพ 3 มิติ จึงต้องใช้แว่นที่มีแผ่นกรองแสงด้ำนหน้ำที่มีข้ำงหนึ่งเป็นสี แดง และอีกข้ำงหนึ่งเป็นสีนำเงิน แว่นที่ทำหน้ำที่ตัดสีที่ตรงกับสีของแว่นตำออกไป โดยที่แว่นตำข้ำงที่มีสีแดงจะ ตัดภำพสีแดงออกไป ทำให้เห็นแต่ภำพที่เป็นสีนำเงิน ส่วนแว่นตำข้ำงที่เป็นสีน้ำเงินจะตัดภำพส่วนที่เป็นสีน้ำเงิน ออกไปทำให้เห็นแต่ภำพที่เป็นสีแดง ซึ่งจะทำให้ตำทั้งสองข้ำงมองเห็นภำพในมุมมองที่แตกต่ำงกัน และสมองจะ ตีควำมให้เหมือนว่ำมองเห็นภำพเป็น 3 มิติ
  • 14. 2.กำรแสดงภำพแบบโพลำไรซ ์3 มิติ กำรแสดงภำพแบบโพลำไรซ์ 3 มิติ (polarized 3-D) มีกำรทำงำนที่คล้ำยกับแอนะกลิฟ โดยกำรฉำย ภำพลงที่ฉำกรับภำพเดียวกัน และมีมุมมองของภำพที่แตกต่ำงกันแต่เปลี่ยนจำกกำรใช้สีเป็นตัวตัดภำพไป ใช้วิธีกำรวำงตัวของช่องมองภำพแต่ละภำพที่ฉำยซ้อนกันแทน เช่น แว่นตำข้ำงซ้ำย จะมองภำพผ่ำนช่องใน แนวตั้ง ส่วนแว่นตำข้ำงขวำจะมองภำพผ่ำนช่องในแนวนอน ทำให้ตำแต่ละข้ำงมองเห็นภำพไม่เหมือนกัน เมื่อสมองรวมภำพจำกตำข้ำงซ้ำยและขวำ จะมองเห็นภำพเป็น 3 มิติ ดังรูป แว่นโพลำไรซ์สำหรับมองภำพ โพลำไรซ์ โดยเฉพำะ ซึ่งจะทำให้ภำพมีสีสันสมจริงมำกกว่ำแบบแอนะกลิฟ เทคนิคนี้นิยมใช้ในภำพยนต์ 3 มิติ
  • 15. 3.กำรแสดงภำพแบบแอ๊กทิฟชัตเตอร ์ กำรแสดงภำพแบบแอ๊กทิฟชัตเตอร์ (activeshutter)จะต้องอำศัยกำรฉำยภำพที่มีควำมถี่ในกำรแสดงภำพอย่ำง น้อย 120เฮิรตซ์ เนื่องจำกจะต้องแสดงภำพสำหรับตำซ้ำยและขวำสลับกัน ดังนั้นกำรแสดงภำพจะเป็นลำดับ ซ้ำย - ขวำ สลับกันไปจนครบ 120 ภำพใน 1 วินำที ตำข้ำงซ้ำยและขวำจึงเห็นข้ำงละ 60 ภำพใน 1 วินำที ซึ่งเป็นควำมถี่ขั้น ต่ำที่ทำให้ไม่รู้สึกว่ำภำพสั่น กำรฉำยำพลักษณะนี้จะต้องใช้แว่นตำแอ๊กทิฟชัตเตอร์ มำช่วยในกำรมองภำพโดยแว่นตำ จะสื่อสำรกับเครื่องฉำยว่ำจะบังตำข้ำงไหนในขณะฉำยภำพ เช่น ภำพสำหรับตำซ้ำย เครื่องฉำยจะส่งสัญญำณให้ แว่นบังตำขวำ หรือถ้ำเครื่องฉำยแสดงภำพที่ต้องใช้ตำขวำดู เครื่องฉำยก็จะส่งสัญญำณให้แว่นบังตำซ้ำย ดังนั้นแว่น นี้ต้องใช้พลังงำนไฟฟ้ำในกำรทำงำน ตัวอย่ำงอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้เช่น โทรทัศน์ 3 มิติ
  • 16. 4.กำรแสดงภำพแบบพำรำแลกซ ์บำร ์เรีย กำรแสดงภำพ 3มิติ ก่อนหน้ำนี้จำเป็นต้องใช้แว่นตำในกำรมองเพื่อให้เห็นเป็นภำพ 3 มิติ แต่กำรแสดงภำพแบบพำรำ แลกซ์บำร์เรีย(paralaxbarrier)จะไม่ใช้แว่นตำ ซึ่งโดยวิธีนี้จะแบ่งภำพที่มีมุมมองต่ำงกัน ออกเป็นแท่งแล้วนำไปวำง สลับกัน โดยมีชั้นกรองพิเศษที่เรียกว่ำ พำรำแลกซ์บำร์เรีย ในกำรแบ่งภำพให้ตำแต่ละข้ำงที่ มองผ่ำนชั้นกรองนี้เห็นภำพที่แตกต่ำงกันแล้วสมองจะรวมภำพจำกตำซ้ำยและตำขวำที่มีมุมมองต่ำงกันนี้ให้เป็นภำพ เดียว ทำให้เรำมองเห็นเป็นภำพ 3 มิติ ได้ด้วยตำเปล่ำ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้เช่น กล้องดิจิทัล3 มิติ ที่เรำสำมำรถ มองเห็นภำพถ่ำยบนจอแอลซีดีเป็นภำพ 3มิติ
  • 18. มัลติทัชเป็นกำรต่อยอดมำกจำกหน้ำจอสัมผัสทั่วไป ซึ่งโดยปรกติถ้ำเป็นทัชสกรีนธรรมดำจะเป็นกำรรับคำ สั่งได้ทีละจุดทีละคำสั่ง คล้ำยๆกับเวลำเรำเล่นเกมส์จับผิดภำพ หรือกำรใช้โทรศัพท์มือถือหรือPDAนั่นเอง แต่ว่ำมัลติทัชจะต่ำง ออกไปเพรำะสำมำรถรองรับกำรสัมผัสได้ทีละหลำยๆจุดทำให้เกิดรูปแบบกำรสั่งงำนที่คล่องตัวมำกขึ้นและก็มีกำรควบคุมที่ สะดวกกว่ำ ให้ควำมรู้สึกที่แตกต่ำงออกไปจำกกำรควบคุมคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ก่อนหน้ำนี้บิลเกตได้เคยออกมำประกำศว่ำ เม้ำส์และคีย์บอร์ดจะกลำยเป็นของที่ล้ำสมัยไปในที่สุด ซึ่งหนึ่งในรูปแบบกำรสั่งงำนคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่จะเข้ำมำแทนที่ก็ คือมัลติทัช(Multi-touch)ฉะนั้นจังไม่น่ำแปลกใจที่Windows7จะนำเทคโนโลยีมัลติทัชเข้ำมำใช้ เพรำะฉะนั้นในอนำคตเรำก็ มีโอกำสจะได้ใช้มัลติทัชกันอย่ำงเต็มรูปแบบ สำหรับเทคโนโลยีมัลติทัชก็จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ หลักๆอย่ำงแรกก็คือ หน้ำสัมผัสซึ่งตัวนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหน้ำจอแสดงภำพอย่ำงเดียว อำจจะเป็นโต๊ะ กำแพง เป็นTouchPadบนโน้ตบุ๊คก็ได้ ส่วนนี้เป็นได้หลำยรูปแบบในลักษณะกำรรับค่ำสัมผัสจำกหน้ำจอหรือว่ำตัวinterfaceซึ่งทำได้ทั้งกำรผ่ำนควำมร้อน แรงกดของ นิ้ว ใช้แสงอินฟำเหรด คลื่นอัลตรำโซนิค คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำหรือแม้แต่กำรควบคุมผ่ำนทำงแสงเงำก็มีกำรพัฒนำขึ้นมำแล้ว แต่ ส่วนที่คิดว่ำสำคัญที่สุดในระบบมัลติทัชก็คือเรื่องของSoftwereในกำรควบคุม ถ้ำดูจำก I-Phoneจะเห็นว่ำตัว Softwere สำมำรถที่จะเข้ำมำผสำนกำรทำงำนกับรบบมัลติทัชได้อย่ำงลงตัว และทำให้รูปแบบกำรทำงำนดูน่ำใช้มำกขึ้น สร้ำงสรรค์กำร ปิิสัมพันธ์กับมนุษย์ในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้กำรใช้งำนคอมพิวเตอร์ ถูกยกระดับขึ้นเป็นอีก1มิติใหม่ ถึงแม้เรำจะเห็นมัลติทัชใน ช่ำง2-3ปีที่ผ่ำนมำอย่ำงแพร่หลำย แต่จริงๆแล้ว นักวิทยำศำสตร์ได้คิดค้นและพัฒนำระบบมัลติทัชมำไม่ต่ำกว่ำ25ปีแล้ว แต่มำ เห็นเป็นรูปเป็นร่ำงตั้งแต่ปี 2542มีนักวิจัยจำกมหำวิทยำลัยDelawere2คน ได้สร้ำงบริษัทขึ้นมำที่ชื่อว่ำFinger Worksและ พัฒนำอุปกรณืที่มีชื่อว่ำ Igester Padและ Touchstreamkeyboardก่อนที่จะถูกซื้อกิจกำรไปในที่สุด โดยบริษัทที่มีชื่อว่ำ Apple
  • 19. Appleได้เข้ำไปซื้อบริษัท Finger Worksไปเมื่อประมำณปี2548จึงไม่น่ำแปลกว่ำAppleเป็นบริษัทแรกๆที่ จุดกระแสด้ำนระบบมัลติทัช และมีกำรนำมำใช้กันอย่ำงเป็นรูปอธรรม เป็นที่ประทับใจของคนทั่วไป เป็นSoftwereที่ผสำน กันอย่ำงลงตัว หน้ำจอของI-Phoneเป็นแบบ CapacitiveTouchscreenซึ่งต้องอำศัยสื่อนำไฟฟ้ำอย่ำงผิวหนัง ทำให้ ปำกกำพลำสติกทั่วไปไม่สำมำรถใช้งำนกับหน้ำจอI-Phoneได้ ลูกเล่นด้ำนมัลติทัชของI-Phoneถูกสอดแทรกเข้ำไปกับ กำรทำงำนได้อย่ำงลงตัว ทำให้ผู้ใช้งำนจำนวนมำกเห็นถึงควำมสะดวกสบำยในกำรใช้งำนผ่ำนระบบมัลติทัช เช่นกำรใช้ นิ้มมือลำกเพื่อเลื่อนคำสั่งต่ำงๆในจอ หรือใช้นิ้วมือสองนิ้วเพื่อย่อหรือขยำยรูปภำพบนหน้ำจอได้อย่ำงสะดวก นอกจำกนี้I- Phoneยังได้ผสำนAccelerometerหรืออุปกรณืวัดควำมแร่งแบบ3แกน ทำให้พลิกหน้ำจอแสดงผลได้โดยรอบเพื่อ ปรับเปลี่ยนมุมมองของกำรเล่นภำพได้ตำมต้องกำร ทั้งตำมแนวตั้งและแนวนอน นอกจำกนี้Appleยังได้นำมัลติทัชไปไว้ใน I-PodTouch,MacBookAirและMacBookProอีกด้วย ซึ่งถือว่ำเป็นกำรทำให้กำรใช้งำนสะดวกยิ่งขึ้น
  • 20. ด้ำนMicrosoftแม้จะได้เริ่มกำรวิจัยมำก่อนAppleแต่กลับออกผลิตภัณฑ์สู่ตลำดได้ช้ำกว่ำ และก็ยังเป็น ผลิตภัณฑ์แบบเฉพำะกลุ่มและรำคำแพง แต่ถ้ำพูดถึงในด้ำนกำรทำงำน ทำงด้ำนMicrosoftSerfaceถือว่ำเป็นโต๊ะ อัจฉริยะที่ผสำนมัลติทัชและกำรทำงำนไร้สำยได้อย่ำงลงตัว MicrosoftSerfaceใช้ระบบปิิบัติกำร Windows VistaมีProcesserเป็นInTelCore2 Duoหน่วยควำมจำ2Gbมีกำรออกแบบinterfaceกำรควบคุมแบบใหม่ที่มี ควำมหลำกหลำยมำกยิ่งขึ้น และมีกำรนำมัลติทัชใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ทรงกลมที่มีชื่อว่ำSphereนอกจำกMicrosoft และAppleแล้ว ยังมีอีกหลำยบริษัทที่ให้ควำมสนใจกับมัลติทัชอีกมำกมำยเช่นPerceptivePixel โดยผลิตมัลติทัชไว้ สำหรับองค์กรณ์ใหญ่ๆเพื่อควำมสะดวก เช่น ActiveBoardเป็นกระดำนแบบมัลติทัชใช้ในกำรเรียนกำรสอน ในปัจจุบัน เทคโนโลยีมัลติทัชมีรำคำถูกลงเรื่อยๆ และมีประสิทธิภำพดียิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ต่ำงๆ เช่น แท็บเล็ตพีซี โทรศัพท์มือถือ ได้นำระบบมัลติทัชมำใช้เพื่อควำมสะดวกในกำรใช้งำนแทนระบบ เมำส์ และแป้นพิมพ์ ทำให้อุปกรณ์มีขนำดเล็กลง พกพำสะดวก และระบบปิิบัติกำรต่ำงๆ เช่น ซิมเบียน,วินโดวส์ 8, ไอโอเอส,แอนดรอยด์,อุบุนตู(ลินุกซ์เดกส์ทอป)ได้เพิ่มซอฟต์แวร์มัลติทัชเข้ำไปในระบบ