com-sci

1. คำถำมปี 4
1. หำกนำย ก กระทำกำรทำลำย แก้ไข เปลี่ยนแปลง ทำให้เสียหำย หรือเพิ่มเติมไม่ว่ำทั้งหมดหรือ
บำงส่วนของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ จะมีโทษหรือไม่อย่ำงไร
ก. มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. มีโทษปรับไม่เกินสองแสนบำท
ง. มีโทษจำคุก 2 ปี
ตอบ ก. มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ในกำรที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่กระทำกำรใดๆเกี่ยวกับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
นั้นพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ต้องทำเช่นไร
ก. ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ไปขอกระทำกำรต่ำงๆกับเจ้ำของได้เลย
ข. ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ไปทำกำรสำเนำเอำเอง
ค. ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ยื่นคำร้องต่อศำลที่มีเขตอำนำจเพื่อมีคำสั่งอนุญำตให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ดำเนินกำรตำมคำร้อง
ง. พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ไม่ต้องกระทำกำรใดๆ
ตอบ ค. ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ยื่นคำร้องต่อศำลที่มีเขตอำนำจเพื่อมีคำสั่งอนุญำตให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ดำเนินกำรตำมคำร้อง
3. Custom Software เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ใด
ก. พัฒนำขึ้นเพื่อเอำไว้ขำยทั่วไป
ข. พัฒนำขึ้นเพื่อใช้ในกำรศึกษำ
ค. พัฒนำขึ้นเพื่อครอบคลุมกำรใช้งำนทั่วๆ ไป
ง. พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กรหรือหน่วยงำนโดยเฉพำะ
ตอบ ง. พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กรหรือหน่วยงำนโดยเฉพำะ

2. 4. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย (Commercial Software) หมำยถึงอะไร
ก. โปรแกรมที่ถูกออกแบบและพัฒนำเพื่อกำรขำยในท้องตลำด ในอดีตซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้รับ
ควำมนิยมเป็นอย่ำงมำก
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลิขสิทธิ์ โดยสำธำรณชนสำมำรถนำไปทดลองใช้ได้ฟรี
ค. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ใช้โดยเจ้ำของลิขสิทธิ์ไม่คิดมูลค่ำ
ง. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เจ้ำของลิขสิทธิ์ได้สละลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่สำธำรณชน
ตอบ ก. โปรแกรมที่ถูกออกแบบและพัฒนำเพื่อกำรขำยในท้องตลำด ในอดีตซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้รับควำม
นิยมเป็นอย่ำงมำก
5. ธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ ใน มำตรำ 9 ในกรณีที่บุคคลพึงลงลำยมือชื่อในหนังสือ ให้ถือว่ำข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์นั้นมีกำรลงลำยมือชื่อแล้ว ถ้ำกระทำกำรใด
ก. ใช้วิธีกำรที่สำมำรถระบุตัวเจ้ำของลำยมือชื่อ และสำมำรถแสดงได้ว่ำเจ้ำของลำยมือชื่อนั้นว่ำเป็น
ของตน และเป็นวิธีที่เชื่อถือได้
ข. เขียนชื่อเอำไว้เฉยๆ
ค. เขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรลงไป
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. ใช้วิธีกำรที่สำมำรถระบุตัวเจ้ำของลำยมือชื่อ และสำมำรถแสดงได้ว่ำเจ้ำของลำยมือชื่อนั้นว่ำเป็นของ
ตน และเป็นวิธีที่เชื่อถือได้
6. ในกำรใช้ข้อมูลทำงอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐำนทำงกฎหมำยต้องวิเครำะห์สิ่งใด
ก. คนทำข้อมูลทำงอิเล็กทรอนิกส์
ข. คนที่นำข้อมูลทำงอิเล็กทรอนิกส์มำให้พิจำรณำ
ค. ควำมน่ำเชื่อถือของลักษณะหรือวิธีกำรที่ใช้สร้ำงเก็บรักษำ
ง. ควำมยำวของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ค. ควำมน่ำเชื่อถือของลักษณะหรือวิธีกำรที่ใช้สร้ำงเก็บรักษำ

3. 7. ในมำตรำ 31 ใบรับรองหรือลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำมีผลทำงกฎหมำย โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่ง
ใด
ก. เจ้ำของลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ข. สถำนที่ออกใบรับรองหรือสถำนที่สร้ำงหรือใช้ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ค. พยำนตอนออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. สถำนที่ออกใบรับรองหรือสถำนที่สร้ำงหรือใช้ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
8. ในกำรเข้ำรหัสลับข้อมูล (Encryption) สำมำรถใช้เทคโนโลยี กำรเข้ำรหัสลับ (Encryption
Technology) เพื่อกระทำกำรสิ่งใด
ก. เพื่อให้ง่ำยต่อกำรทำงำน
ข. เพื่อให้คนใช้งำนเข้ำใจได้ง่ำย
ค. เพื่อให้กำรเข้ำรหัสกระทำกำรแซกแซงยำก
ง. เพื่อรักษำควำมลับของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ง. เพื่อรักษำควำมลับของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
9. ในมำตรำ 38 กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระกำรดำรงตำแหน่งได้กี่ปี
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 3 ปี
ง. 4 ปี
ตอบ ค. 3 ปี
10. ในมำตรำมำตรำ 45 ผู้ใดประกอบธุรกิจบริกำรเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับ
ใบอนุญำตตำมมำตรำ 34 ต้องมีโทษหรือไม่อย่ำงไร
ก. มีโทษจำคุก 4 ปี ไม่ต้องเสียค่ำปรับ
ข. มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ไม่มีโทษจำคุก มีแต่ต้องเสียค่ำปรับสำมหมื่นบำท
ง. มีโทษจำคุก 1 ปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. คำถำมปี 4
1. “ระบบคอมพิวเตอร์” หมำยควำมว่ำอย่ำงไร
ก. ข้อมูล ข้อควำม คำสั่ง ชุดคำสั่งหรือสิ่งอื่นใดบรรดำที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภำพที่ระบบ
คอมพิวเตอร์อำจประมวลผลได้
ข. ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิดต้นทำง ปลำยทำง
ค. อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกำรทำงำนเข้ำด้วยกันโดยได้มีกำรกำหนดคำสั่ง
ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดและแนวทำงปฏิบัติงำน ให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้ำที่ประมวลผล
ข้อมูลโดยอัตโนมัติ
ง. ถูกทั้ง ข. และ ค.
ตอบ ค. อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกำรทำงำนเข้ำด้วยกันโดยได้มีกำรกำหนดคำสั่ง
ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดและแนวทำงปฏิบัติงำน ให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้ำที่ประมวลผลข้อมูลโดย
อัตโนมัติ
2. พ.ร.บ. ว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีผลบังคับใช้กับธุรกรรมทำงแพ่งและพำณิชย์
(มำตรำ 3) โดยมีโครงสร้ำงของกฎหมำยแบ่งออกเป็นกี่หมวด
ก. 6 หมวด
ข. 7 หมวด
ค. 8 หมวด
ง. 9 หมวด
ตอบ ก. 6 หมวด
3. ธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะอย่ำงไร
ก. กำรรับรองผลทำงกฎหมำยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ข. กำรนำเสนอและเก็บรักษำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ค. กำรนำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้เป็นพยำนหลักฐำนเมื่อมีกระบวนกำรพิจำรณำตำมกฎหมำย
เกิดขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

5. 4. ผู้ใดทำให้เสียหำย ทำลำย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่ำทั้งหมดหรือบำงส่วน ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ บทลงโทษข้อใดถูกต้อง
ก. ระวำงโทษจำคุกไม่เกินสำมปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ระวำงโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ระวำงโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท
ง. ระวำงโทษจำคุกไม่เกินห้ำปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. ระวำงโทษจำคุกไม่เกินห้ำปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. เป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับกำรพัฒนำขึ้นมำใช้งำนในด้ำนต่ำงๆ ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้แบ่งตำมลักษณะ
กำรใช้งำนมีอะไรบ้ำง
ก. Custom Software
ข. Package Software
ค. Processor Software
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.
6. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นงำนลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งได้รับควำมคุ้มครองในฐำนะงำนประเภทใด
ก. งำนวรรณกรรม
ข. งำนภำพยนตร์
ค. งำนดนตรีกรรม
ง. งำนศิลปกรรม
ตอบ ก. งำนวรรณกรรม
7. โปรแกรมใดไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภท ที่อนุกรรมกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรคุ้มครอง
ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ได้จัดทำคู่มือกำรใช้งำนลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรมไว้
ก. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบใช้ได้เสรี
ค. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสปิด
ง. โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำธำรณะ
ตอบ ค. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสปิด

6. 8. ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
ก. สำมำรถซื้อหำได้จำกผู้แทนจำหน่ำย ผู้ผลิต และร้ำนค้ำซึ่งจำหน่ำยซอฟต์แวร์และฮำร์ดแวร์
ข. ไม่อนุญำตให้ดัดแปลงหรือต่อยอด เว้นแต่ได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
ค. ผู้ซื้อจะต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ให้ใช้ ซึ่งในทำงปฏิบัติผู้ซื้อจะได้รับสัญญำอนุญำต
ระบุเงื่อนไขกำรใช้ต่ำงๆ
ง. สำมำรถศึกษำหรือทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
ตอบ ง. สำมำรถศึกษำหรือทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
9. วิธีกำรที่เชื่อถือได้โดยเหมำะสมกับวัตถุประสงค์ของกำรสร้ำงหรือส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยคำนึงถึง
พฤติกำรณ์แวดล้อมหรือข้อตกลงของคู่กรณีต้องคำนึงถึงอะไร
ก. ควำมมั่นคงและรัดกุมของกำรใช้วิธีกำรหรืออุปกรณ์ในกำรระบุตัวบุคคล สภำพพร้อมใช้งำนของ
ทำงเลือกในกำรระบุตัวบุคคล
ข. ลักษณะ ประเภท หรือขนำดของธุรกรรมที่ทำ จำนวนครั้งหรือควำมสม่ำเสมอในกำรทำธุรกรรม
ค. ควำมรัดกุมของระบบกำรติดต่อสื่อสำร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
10. กำรชั่งน้ำหนักพยำนหลักฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จะเชื่อถือได้หรือไม่เพียงใดนั้นให้พิเครำะห์ถึง
ควำมน่ำเชื่อถือสิ่งใด
ก. ลักษณะหรือวิธีกำรที่ใช้สร้ำง เก็บรักษำ หรือสื่อสำรข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ข. ลักษณะหรือวิธีกำรเก็บรักษำ ควำมครบถ้วน และไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงของข้อควำมลักษณะ
ค. วิธีกำรที่ใช้ในกำรระบุหรือแสดงตัวผู้ส่งข้อมูล รวมทั้งพฤติกำรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

7. คำถำมปี 3
1. ระบบคอมพิวเตอร์มีควำมหมำยว่ำอย่ำงไร ?
ก. อุปกรณ์ หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกำรทำงำนเข้ำด้วยกัน โดยได้มีกำรกำหนดคำสั่ง
ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทำงปฏิบัติงำนให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้ำที่ประมวลผล
ข้อมูลโดย อัตโนมัติ
ข. ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์
ค. ข้อมูล ข้อควำม คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดำที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภำพที่ระบบ
คอมพิวเตอร์อำจประมวลผลได้
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. อุปกรณ์ หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกำรทำงำนเข้ำด้วยกัน โดยได้มีกำรกำหนดคำสั่ง
ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทำงปฏิบัติงำนให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้ำที่ประมวลผลข้อมูลโดย
อัตโนมัติ
2. ข้อใดไม่ใช่กำรรักษำควำมปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ก. กำรควบคุมกำรเข้ำถึง
ข. กำรรักษำควำมลับ
ค. กำรป้องกันกำรปฏิเสธควำมผิด
ง. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
ตอบ ง. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
3. ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์คือข้อใด
ก. อักษร อักขระ เสียง ตัวเลข
ข. สัญลักษณ์อื่นใดที่สร้ำงขึ้นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
ค. เฉพำะข้อ ก. เท่ำนั้น
ง. ทั้งข้อ ก. และ ข.
ตอบ ง. ทั้งข้อ ก. และ ข.

8. 4. พรบ.ว่ำด้วยกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มีกี่มำตรำ
ก. 10 มำตรำ
ข. 20 มำตรำ
ค. 30 มำตรำ
ง. 40 มำตรำ
ตอบ ค. 30 มำตรำ
5. โปรแกรม คอมพิวเตอร์เป็นงำนลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งได้รับควำมคุ้มครองในฐำนะงำนวรรณกรรม
ตำมพระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ใด
ก. 2535
ข. 2537
ค. 2540
ง. 2547
ตอบ ข. 2537
6. พระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ได้กำหนดข้อยกเว้นกำรละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ ตั้งแต่มำตรำเท่ำไหร่ถึง
เท่ำไหร่
ก. มำตรำ 15 – มำตรำ 24
ข. มำตรำ 25 – มำตรำ 31
ค. มำตรำ 32 – มำตรำ 43
ง. มำตรำ 44 – มำตรำ 53
ตอบ ค. มำตรำ 32 – มำตรำ 43
7. ตำมมำตรำ 24 ในกรณีที่ไม่ปรำกฏที่ทำกำรงำนของผู้ส่งข้อมูลหรือผู้รับข้อมูล ให้ถือเอำที่ไหนเป็น
สถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ก. ถิ่นที่อยู่บ้ำนเกิดเป็นสถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ข. ถิ่นนี่อยู่พ่อ-แม่เป็นสถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ค. ถิ่นที่อยู่ปกติเป็นสถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ง. ถิ่นที่อยู่ที่ใกล้กับบ้ำนเกิดเป็นสถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ค. ถิ่นที่อยู่ปกติเป็นสถำนที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

9. 8. คณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งของแต่ละด้ำนต้องมำจำกภำคอะไร
ก. ภำครัฐ
ข. ภำคเอกชน
ค. รัฐวิสำหกิจ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ข. ภำคเอกชน
9. ข้อใดไม่ใช่อำนำจหน้ำที่ของคณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ก. เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อวำงนโยบำยกำรส่งเสริมและพัฒนำธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ตลอดจนกำรแก้ไขปัญหำและอุปสรรคที่เกี่ยวข้อง
ข. ติดตำมดูแลกำรประกอบธุรกิจบริกำรเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ค. เสนอแนะหรือให้คำ ปรึกษำต่อรัฐมนตรีเพื่อกำรตรำพระรำชกฤษฎีกำตำมพระรำชบัญญัตินี้
ง. เสนอแนะให้กรรมกำรซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตอบ ง. เสนอแนะให้กรรมกำรซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
10. ข้อใดที่ผู้ใช้สำมำรถกระทำกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบทดลองใช้ได้
ก. ผู้ใช้สำมำรถทำซ้ำและแจกจ่ำยแก่ผู้อื่นต่อไปได้ หำกตัดสินใจที่จะใช้ซอฟต์แวร์นั้นต่อ จะต้องจ่ำย
ค่ำธรรมเนียมกำรใช้แก่เจ้ำของลิขสิทธิ์
ข. ผู้ใช้สำมำรถขำยหรือแจกจ่ำยเพื่อแสวงหำกำไร
ค. ผู้ใช้สำมำรถทำวิศวกรรมย้อนกลับ หรือดัดแปลง หรือพัฒนำต่อยอดได้
ง. ผู้ใช้ไม่สำมำรถค้นหำซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้จำกกำรดำวน์โหลดทำงอินเทอร์เน็ต
ตอบ ก. ผู้ใช้สำมำรถทำซ้ำและแจกจ่ำยแก่ผู้อื่นต่อไปได้ หำกตัดสินใจที่จะใช้ซอฟต์แวร์นั้นต่อ จะต้องจ่ำย
ค่ำธรรมเนียมกำรใช้แก่เจ้ำของลิขสิทธิ์

10. คำถำมปี 3
1. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
ก. เป็นซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ ผู้ซื้อควรอ่ำนสัญญำอนุญำตนี้ก่อน
ข. ผู้ซื้อต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ให้ใช้
ค. ผู้ใช้สำมำรถนำโปรแกรมไปต่อยอดได้โดยไม่ต้องขออนุญำต
ง. สำมำรถซื้อหำได้จำกผู้แทนจำหน่ำย ผู้ผลิต และร้ำนค้ำซึ่งจำหน่ำยซอฟต์แวร์และฮำร์ดแวร์
ตอบ ค. ผู้ใช้สำมำรถนำโปรแกรมไปต่อยอดได้โดยไม่ต้องขออนุญำต
2. พรบ. ว่ำด้วยกำรกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ข้อใดนิยำมควำมหมำยได้ถูกต้องในมำตรำ 3
ก. ข้อมูลทำงคอมพิวเตอร์ หมำยถึง ข้อมูล ข้อควำม คำสั่งหรือชุดคำสั่งที่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่
อำจจะประมวลผลได้
ข. ระบบคอมพิวเตอร์ หมำยถึง อุปกรณ์หรือชุดอุปปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่ไม่เชื่อมต่อกำรทำงำน
เข้ำด้วยกัน
ค. พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ หมำยถึง ผู้ซึ่งสภำได้มีกำรแต่งตั้งให้ปฏิบัติตำมพระรำชบัญญัตินี้
ง. ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์ หมำยถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง
แสดงถึงแหล่งกำเนิดของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
ตอบ ง. ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์ หมำยถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง
แสดงถึงแหล่งกำเนิดของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
3. ข้อใดไม่ถือว่ำเป็นลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้
ก. ข้อมูลสำหรับใช้สร้ำงลำยมืออิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เชื่อมโยงไปยังเจ้ำของลำยมือชื่อโดยตรง
ข. ในขณะสร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ข้อมูลที่ใช้สร้ำงลำยมือชื่ออยู่ใต้กำรควบคุมของบุคคลอื่น
ค. กำรเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้นแก่ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นับแต่เวลำที่ได้สร้ำงขึ้นสำมำรถ
ตรวจสอบได้
ง. ในกรณีที่กฎหมำยกำหนดกำรลงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รับรองครบถ้วนและไม่มีกำร
เปลี่ยนแปลงนั้นสำมำรถตรวจพบได้นับแต่เวลำที่ลงลำยมือชื่อ
ตอบ ข. ในขณะสร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ข้อมูลที่ใช้สร้ำงลำยมือชื่ออยู่ใต้กำรควบคุมของบุคคลอื่น

11. 4. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัลใช้กลไกกำรทำงำนของเทคโนโลยีชื่อว่ำอะไร
ก. PPK
ข. PKI
ค. KFC
ง. ABC
ตอบ ข. PKI
5. ก่อนกำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัลนั้นมีกำรสร้ำงกุญแจคู่ขึ้นมำก่อนจำกกระบวนกำรใด
ก. กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
ข. กระบวนกำรทำงเทคโนโลยี
ค. กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์
ง. กระบวนกำรทำงชีวภำพ
ตอบ ค. กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์
6. ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบทดลองใช้ในอดีตมีกำรทำงำนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบ
ใด
ก. Microsoft Windows
ข. DOS
ค. Macintosh
ง. Unix
ตอบ ค. DOS
7. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำธำรณะ
ก. ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน
ข. ศึกษำและทำวิศวกรรมย้อนกลับ ต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน
ค. กำรพัฒนำต่อยอดต้องมีกำรขออนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน
ง. เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีกำรขออนุญำตเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อนใช้งำน
ตอบ ก. ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน

12. 8. พรบ. ลิขสิทธิ์ทำงปัญญำอยู่ภำยใต้กำรดูแลของหน่วยงำนใด
ก. กรมแรงงำน กระทรวงแรงงำน
ข. กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ กระทรวงกำรคลัง
ค. กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ กระทรวงพำณิชย์
ง. ข้อ ข. และ ค.
ตอบ ค. กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ กระทรวงพำณิชย์
9. ข้อใดไม่ใช่ชื่อตัวอย่ำงลิขสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ก. Snoopware
ข. Badware
ค. Guiltware
ง. Adware
ตอบ ข. Badware
10. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์
ก. เพื่อป้องกันและรักษำผลประโยชน์ ผู้ผลิตจึงต้องอำศัยกำรคุ้มครองกฎหมำยด้ำนลิขสิทธิ์
ข. กำรดัดแปลงซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องมีกำรขออนุญำตเจ้ำของลิขสิทธิ์โปรแกรมก่อน
ค. กำรที่นำซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์มำใช้งำนนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม
ง. กำรพัฒนำซอฟต์แวร์ต้องใช้เวลำและทรัพยำกรมำกต้นทุนกำรผลิตสูง
ตอบ ข. กำรดัดแปลงซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องมีกำรขออนุญำตเจ้ำของลิขสิทธิ์โปรแกรมก่อน

13. คำถำมปี 1
1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นงำนลิขสิทธิ์ประเภทใด
ก. งำนวรรณกรรม
ข. งำนศิลปกรรม
ค. งำนโสตทัศนวัสดุ
ง. งำนแพร่เสียงแพร่ภำพ
ตอบ ก. งำนวรรณกรรม
2. ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
ก. เป็นซอฟท์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์
ข. สำมำรถหำซื้อได้จำกผู้แทนจำหน่ำย
ค. สำมำรถดัดแปลงหรือต่อยอดได้ โดยไม่ต้องขออนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
ง. ไม่สำมำรถศึกษำหรือทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ เว้นแต่ได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
ตอบ ค. สำมำรถดัดแปลงหรือต่อยอดได้ โดยไม่ต้องขออนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
3. ข้อใด ไม่ใช่ กำรรักษำควำมปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ก. กำรระบุตัวบุคคล
ข. กำรควบคุมกำรเข้ำถึง
ค. กำรรักษำควำมลับ
ง. กำรปฏิเสธควำมรับผิดชอบ
ตอบ ง. กำรปฏิเสธควำมรับผิดชอบ
4. ใครเป็นประธำนคณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ก. ปลัดกระทรวงสำรสนเทศและกำรสื่อสำร
ข. รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำรสนเทศและกำรสื่อสำร
ค. ปลัดกระทรวงกำรคลัง
ง. รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำรสนเทศและกำรสื่อสำร

14. 5. คณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์มีวำระกำรดำรงตำแหน่ง ครำวละกี่ปี
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 3 ปี
ง. 4 ปี
ตอบ ค. 3 ปี
6. ข้อใด ไม่ใช่ กลไกกำรทำงำนของเทคโนโลยี PKI (Public Key Infrastructure)
ก. กำรสร้ำงกุญแจเดี่ยว
ข. กำรสร้ำงกุญแจคู่
ค. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย
ง. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
ตอบ ก. กำรสร้ำงกุญแจเดี่ยว
7. ซอฟท์แวร์ซึ่งถูกโฆษณำผ่ำนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ในขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้งำนเครื่องคอมพิวเตอร์
อยู่ จัดเป็นซอฟท์แวร์ประเภทใด
ก. Shovelware
ข. Postcardware
ค. Adware
ง. Spyware
ตอบ ค. Adware
8. มำตรำ 26 ผู้ให้บริกำรจะต้องเก็บรักษำข้อมูลของผู้ใช้บริกำรเท่ำที่จำเป็น เพื่อให้สำมำรถระบุตัว
ผู้ใช้บริกำรนับตั้งแต่เริ่มใช้บริกำร และต้องเก็บรักษำเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำกี่วัน นับตั้งแต่กำรใช้บริกำร
สิ้นสุดลง
ก. 30 วัน
ข. 45 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
ตอบ ง. 90 วัน

15. 9. ตำมมำตรำ 26 (ข้อ 8.) หำกผู้ให้บริกำรไม่ปฏิบัติตำมมำตรำนี้ ต้องระวำงโทษในอัตรำเท่ำใด
ก. ไม่เกิน 200,000 บำท
ข. ไม่เกิน 300,000 บำท
ค. ไม่เกิน 400,000 บำท
ง. ไม่เกิน 500,000 บำท
ตอบ ง. ไม่เกิน 500,000 บำท
10. ซอฟท์แวร์ประเภทใด ไม่ใช่ ไวรัส
ก. Malware
ข. Malicious software
ค. Donationware
ง. Badware
ตอบ ค. Donationware

16. คำถำมปี 1
1. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ก. เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้ำของลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น
ข. เพื่อคุณภำพของระบบฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ค. เพื่อรักษำควำมลับของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ง. เพื่อวำงนโยบำยกำรส่งเสริมและพัฒนำธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ก. เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้ำของลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น
2. พ.ร.บ. ว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ใดมีผลบังคับใช้กับธุรกรรมทำงแพ่งและพำณิชย์
ก. พ.ศ. 2535
ข. พ.ศ. 2544
ค. พ.ศ. 2550
ง. พ.ศ. 2556
ตอบ ข. 2544
3. กลไกลกำรทำงำนของเทคโนโลยี PKI ในกำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล มีกี่ขั้นตอนอะไรบ้ำง
ก. 2 ขั้นตอน 1. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย 2. กำรสร้ำงลำยมือดิจิทัล
ข. 2 ขั้นตอน 1. กำรสร้ำงกุญแจคู่ 2. กำรสร้ำงลำยมือดิจิทัล
ค. 3 ขั้นตอน 1. กำรสร้ำงกุญแจคู่ 2. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย 3. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
ง. 3 ขั้นตอน 1. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล 2. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย 3. กำรสร้ำงกุญแจคู่
ตอบ ค. 3 ขั้นตอน 1. กำรสร้ำงกุญแจคู่ 2. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย 3. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
4. พ.ร.บ. ว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ตำมมำตรำที่ 32 ระบุว่ำบุคคลย่อมมีสิทธิ
ประกอบธุรกิจบริกำรเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีใดที่ไม่ต้องมีกำรตรำพระรำช
กฤษฎีกำสำหรับธุรกิจบริกำรเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ก. กรณีที่จำเป็นเพื่อรักษำควำมมั่น คงทำงกำรเงินและกำรพำณิชย์
ข. กรณีเพื่อประโยชน์ในกำรเสริมสร้ำงควำมเชื่อถือและยอมรับในระบบลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ค. กรณีเพื่อป้องกันควำมเสียหำยต่อสำธำรณชน
ง. กรณีเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผู้ประกอบธุรกิจ
ตอบ ง. กรณีเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผู้ประกอบธุรกิจ

17. 5. วิธีกำรที่เชื่อถือได้ของกำรระบุตัวเจ้ำของลำยมือชื่อในข้อต่อไปนี้ข้อใดผิด
ก. ควำมมั่นคงและรัดกุมของกำรใช้วิธีกำร
ข. ควำมรัดกุมของระบบกำรติดต่อสื่อสำร
ค. กำรขยำยของระบบกำรติดต่อสื่อสำร
ง. กำรปฏิบัติตำมกระบวนกำรในกำรระบุตัวบุคคลผู้เป็นสื่อกลำง
ตอบ ค. กำรขยำยของระบบกำรติดต่อสื่อสำร
6. ข้อใดไม่ใช่ควำมหมำยของ “ระบบคอมพิวเตอร์”
ก. อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกำรทำงำนเข้ำด้วยกัน
ข. มีกำรกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด
ค. แนวทำงปฏิบัติงำนให้อุปกรณ์ทำหน้ำที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูก
7. หลักเกณฑ์ตำมมำตรำ 29 ได้บัญญัติในกำรพิจำรณำควำมน่ำเชื่อถือ ในกำรพิจำรณำว่ำ ระบบ วิธีกำร
และทรัพยำกรบุคคลใด ๆ ของผู้ประกอบกำรรับรอง มีควำมน่ำเชื่อถือตำม มำตรำ 28(6) หรือไม่
ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. สถำนภำพทำงกำรเงิน บุคลำกร และสินทรัพย์ที่มีอยู่
ข. ควำมสม่ำเสมอและขอบเขตในกำรตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ
ค. คุณภำพของระบบฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูก
8. ข้อใดไม่ใช่ควำมหมำยของ“ข้อมูลคอมพิวเตอร์”
ก. ข้อมูล
ข. ข้อควำม
ค. ชุดคำสั่ง
ง. รูปภำพ
ตอบ ง. รูปภำพ

18. 9. “ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์”ที่แสดงถึงแหล่งกำเนิดมีอะไรบ้ำง
ก. ต้นทำง ปลำยทำง
ข. เส้นทำง เวลำ
ค. วันที่ ปริมำณระยะเวลำ ชนิดของบริกำร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
10. ข้อใดต่อไปนี้ผิด
ก. “ผู้ให้บริกำร” หมำยควำมว่ำผู้ใช้บริกำรบุคคลอื่นในกำรเข้ำสู่อินเทอร์เน็ต
ข. “พนักงำนเจ้ำหน้ำที่” หมำยควำมว่ำ ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
ค. “รัฐมนตรี” หมำยควำมว่ำ รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
ง. “ผู้ใช้บริกำร” หมำยควำมว่ำ ผู้ใช้บริกำรของผู้ให้บริกำรไม่ว่ำต้องเสียค่ำใช้บริกำรหรือไม่ก็ตำม
ตอบ ก. “ผู้ให้บริกำร” หมำยควำมว่ำผู้ใช้บริกำรบุคคลอื่นในกำรเข้ำสู่อินเทอร์เน็ต

19. คำถำมปี 1
1. ข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีควำมหมำยว่ำอย่ำงไร
ก. ข้อมูล ข้อควำม คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์
ข. ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์
ค. ข้อมูล ผู้ให้บริกำรแก่บุคคลอื่นในกำรเข้ำสู่อินเตอร์เน็ต
ง. ข้อมูลที่แสดงแหล่งกำเนิด ต้นทำง ปลำยทำง เส้นทำง ระยะเวลำ
ตอบ ก. ข้อมูล ข้อควำม คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์
2. ข้อใดบอกควำมหมำยได้ถูกต้อง
ก. “ผู้ใช้บริกำร” คือ ผู้ใช้บริกำรของผู้ให้บริกำรไม่ว่ำต้องเสียค่ำใช้บริกำรหรือไม่ก็ตำม
ข. “พนักงำนเจ้ำหน้ำที่” คือ ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติกำรตำม พระรำชบัญญัตินี้
ค. “รัฐมนตรี” คือ รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
3. ผู้ใดทำให้เสียหำย ทำลำย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่ำทั้งหมดหรือบำงส่วน ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีโทษอย่ำงไร
ก. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสำมปี หรือปรับไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินห้ำปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. จำคุกไม่เกินห้ำปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ซอฟท์แวร์ที่พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กรหรือหน่วยงำนโดยเฉพำะคือควำมหมำยของข้อใด
ก. Application Software
ข. Custom Software
ค. Package Software
ง. Freeware Software
ตอบ ข. Custom Software

20. 5. ข้อใดคือลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบใช้ได้เสรี
ก. สำมำรถดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์นี้ได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์
ข. สำมำรถขำยและจำหน่ำยแจกซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้
ค. ผู้ใช้สำมำรถค้นหำซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้จำกกำรดำวน์โหลดทำงอินเตอร์เน็ต
ง. สำมำรถศึกษำและทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน
ตอบ ค. ผู้ใช้สำมำรถค้นหำซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้จำกกำรดำวน์โหลดทำงอินเตอร์เน็ต
6. ในหมวดทั่วไป มำตรำที่ 1 คืออะไร
ก. ชื่อกฎหมำย
ข. วันบังคับใช้
ค. คำนิยำม
ง. ผู้รักษำกำร (นำยกรัฐมนตรี)
ตอบ ก. ชื่อกฎหมำย
7. มำตรำใด ไม่ได้อยู่ในหมวดคณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ก. มำตรำ 35 กำรตรำพระรำชกฤษฎีกำกำหนดหลักเกณฑ์
ข. มำตรำ 36 กำรจัดตั้งคณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ค. มำตรำ 37 อำนำจหน้ำที่ของคณะกรรมกำรฯ
ง. มำตรำ 38 วำระกำรดำรงตำแหน่งของคณะกรรมกำรฯ
ตอบ ก. มำตรำ 35 กำรตรำพระรำชกฤษฎีกำกำหนดหลักเกณฑ์
8. กลไกกำรทำงำนของ “เทคโนโลยี PKI” ไม่ได้ ประกอบด้วยขั้นตอนใด
ก. กำรสร้ำงกุญแจคู่
ข. กำรสร้ำงกุญแจส่วนตัว
ค. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย
ง. กำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
ตอบ ข. กำรสร้ำงกุญแจส่วนตัว

21. 9. กำรรักษำควำมปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในกำรระบุตัวบุคคลเพื่ออะไร
ก. อนุญำตให้เฉพำะบุคคลซึ่งมีสิทธิ์หรือได้รับอนุญำตเท่ำนั้นในกำรเข้ำถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ข. เพื่อป้องกันมิให้บุคคลซึ่งไม่มีสิทธิ์หรือไม่ได้รับอนุญำตเข้ำถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ค. เพื่อป้องกันมิให้บุคคลซึ่งไม่ได้รับอนุญำตหรือไม่มีสิทธิ์อ่ำนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ง. เพื่อยืนยันตัวบุคคลผู้ส่งหรือผู้สร้ำงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ง. เพื่อยืนยันตัวบุคคลผู้ส่งหรือผู้สร้ำงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
10. คณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ ตำแหน่งกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระกำรดำรงตำแหน่งกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 6 ปี
ง. 9 ปี
ตอบ ข. 3 ปี

22. คำถำมปี 1
1. ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สำมำรถนำมำใช้เป็นพยำนหลักฐำนได้ต้องพิจำรณำจำกสิ่งใด
ก. วิธีกำรที่สร้ำง เก็บรักษำ
ข. ต้องเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นวีดีโอภำพเท่ำนั้น
ค. พิจำรณำจำกข้อ ก. และ ข.
ง. ไม่สำมำรถนำมำใช้เป็นพยำนหลักฐำนได้
ตอบ ก. วิธีกำรที่สร้ำง เก็บรักษำ
2. นับแต่เมื่อใดที่กำรรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ถือว่ำมีผล
ก. มีผลเมื่อผู้ส่งข้อมูลเริ่มส่งอิเล็กทรอนิกส์
ข. มีผลนับแต่เวลำที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เข้ำสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล
ค. มีผลนับแต่ผู้รับข้อมูลเห็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ข. มีผลนับแต่เวลำที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เข้ำสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล
3. โปรแกรม คอมพิวเตอร์ประเภทต่ำงๆที่อนุกรมกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรคุ้มครองลิขสิทธิ์ ซอฟต์แวร์
ได้จัดทำคู่มือกำรใช้งำนลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรมไว้ได้แก่อะไรบ้ำง
ก. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบใช้ได้เสรี
ค. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสเปิด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
4. พรบ. ลิขสิทธิ์ทำงปัญญำอยู่ภำยใต้กำรดูแลรับผิดชอบของกรม และกระทรวงใด
ก. กรมศุลกำกร กระทรวงกำรคลัง
ข. กรมส่งเสริมกำรเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ กระทรวงพำณิชย์
ง. กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทย
ตอบ ค. กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ กระทรวงพำณิชย์

23. 5. หมวด 2 พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีมำตรำใดถึงมำตรำใด
ก. มำตรำที่ 18-25
ข. มำตรำที่ 19-30
ค. มำตรำที่ 21-27
ง. มำตรำที่ 18-30
ตอบ ง. มำตรำที่ 18-30
6. ข้อมูลเกี่ยวกับกำรติดต่อสื่อสำรของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทำง ปลำยทำง
เส้นทำง เวลำ วันที่ ปริมำณ เป็นต้น คือข้อมูลใด
ก. ข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข. ข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์
ค. ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์
ง. ข้อมูลผู้ให้บริกำร
ตอบ ค. ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์
7. ในขณะสร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น ข้อมูลสำหรับใช้สร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์อยู่ภำยใต้กำร
ควบคุมของใคร
ก. เจ้ำของลำยมือชื่อโดยไม่มีกำรควบคุมของบุคคลอื่น
ข. เจ้ำของลำยมือชื่อโดยมีกำรควบคุมของบุคคลอื่น
ค. เจ้ำของลำยมือชื่อและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้ำของ
ง. อยู่ภำยใต้องค์กรควบคุม
ตอบ ก. เจ้ำของลำยมือชื่อโดยไม่มีกำรควบคุมของบุคคลอื่น
8. ข้อใดเป็นกำรจัดให้มีวิธีกำรในกำรเข้ำถึงโดยสมควร ให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสำมำรถตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในกำรแสดงสำระสำคัญทั้งหมดจำกใบรับรองได้
ก. ข้อมูลสำหรับใช้สร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มีผล ใช้ได้ในขณะหรือก่อนที่มีกำรออกใบรับรอง
ข. เจ้ำของลำยมือชื่อซึ่งระบุในใบรับรองได้ควบคุมข้อมูลสำหรับใช้สร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ในขณะมีกำรออกใบรับรอง
ค. กำรระบุผู้ให้บริกำรออกใบรับรอง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

24. 9. ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป คือ ลำยมือชื่อที่เป็นไปตำมมำตรำของพระรำชบัญญัติที่เท่ำไร
ก. มำตรำ 7 ของพระรำชบัญญัติ
ข. มำตรำ 8 ของพระรำชบัญญัติ
ค. มำตรำ 9 ของพระรำชบัญญัติ
ง. มำตรำ 10 ของพระรำชบัญญัติ
ตอบ ค. มำตรำ 9 ของพระรำชบัญญัติ
10. ข้อใดไม่ใช่กำรรักษำควำมปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ก. กำรระบุตัวบุคคล (Authentication)
ข. กำรป้องกันกำรปฏิเสธควำมรับผิด (Non-repudiation)
ค. กำรเปิดเผยควำมลับ (Secrets Revealed)
ง. กำรรักษำควำมลับ (Confidentiality)
ตอบ ค. กำรเปิดเผยควำมลับ (Secrets Revealed)

25. คำถำมปี 1
1. ผู้ที่เข้ำถึงระบบคอมพิวเตอร์ โดยมิชอบจะโดนลงโทษอย่ำงใด
ก. ไม่โดนลงโทษใดๆ
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ค. ประหำรชีวิต
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
2. ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์หมำยถึง
ก. ชุดคำสั่งขอมูลที่ทำให้ข้อมูลมีประสิทธิภำพสูงสุด
ข. ชุดคำสั่งข้อมูลที่ทำให้ข้อมูลปลอดภัย
ค. ชุดคำสั่งข้อมูลที่ทำให้ข้อมูลเสียหำย ถูกทำลำย
ง. ชุดคำสั่งที่ไม่มีอยู่จริง
ตอบ ค. ชุดคำสั่งข้อมูลที่ทำให้ข้อมูลเสียหำย ถูกทำลำย
3. Custom Software หมำยถึง
ก. ซอฟต์แวร์ที่พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กร
ข. ซอฟต์แวร์ที่ทำงำนเอง
ค. ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมโดยไวรัส
ง. ซอฟต์แวร์ที่เสียใช้งำนไม่ได้
ตอบ ก. ซอฟต์แวร์ที่พัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กร
4. โปรแกรมเงินระบบเงินเดือน คือซอฟต์แวร์ประเภทใด
ก. Custom Software
ข. Package Software
ค. Firewall Software
ง. Freedom Software
ตอบ ก. Custom Software

26. 5. ข้อใดคือตัวอย่ำงของ Package Software
ก. Word Processing
ข. Spreadsheet
ค. Graphics
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
6. วิธีกำรที่เชื่อถือไม่ได้คือวิธีกำรตำมข้อใด
ก. มีควำมมั่นคงและรัดกุมของกำรใช้อุปกรณ์
ข. ควำมสม่ำเสมอในกำรทำธุรกรรม
ค. มีกำรปิดบังข้อมูลบำงอย่ำงเพื่อผลประโยชน์
ง. ควำมรัดกุมของระบบกำรติดต่อสื่อสำร
ตอบ ค. มีกำรปิดบังข้อมูลบำงอย่ำงเพื่อผลประโยชน์
7. บุคคลใดถือว่ำเป็นเจ้ำของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ก. ผู้ส่งข้อมูล
ข. ผู้รับข้อมูล
ค. ข้อ ก. และ ข.
ง. ไม่มีใครเป็นเจ้ำของ
ตอบ ก. ผู้ส่งข้อมูล
8. ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นไปตำมข้อใดถึงจะเชื่อถือได้
ก. ข้อมูลของลำยมือชื่อไม่เชื่อโยงกับคนอื่น
ข. ขณะสร้ำงลำยมือชื่อไม่มีกำรควบคุมของบุคคลอื่น
ค. กำรเปลี่ยนแปลงใดๆขอลำยมือชื่อสำมำรถตรวจพบได้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

27. 9. ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำมีผลทำงกฎหมำยโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด
ก. สถำนที่สร้ำงลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ข. สถำนที่ทำงำนของเจ้ำของลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
ค. ข้อ ก. และ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ข้อ ก. และ ข.
10. บุคคลใดไม่ใช่คณะกรรมกำรธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ก. รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร
ข. ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร
ค. ผู้ทรงคุณวุฒิด้ำนวิทยำกำรคอมพิวเตอร์
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิด้ำนกำรรักษำควำมสะอำดกระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร
ตอบ ง. ผู้ทรงคุณวุฒิด้ำนกำรรักษำควำมสะอำดกระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร

28. คำถำมปี 1
1. ซอฟต์แวร์ใดที่ถูกพัฒนำขึ้นตำมควำมประสงค์ขององค์กรหรือหน่วยงำนเฉพำะ โดยจ้ำงบริษัทหรือ
นักพัฒนำโปรแกรมผลิตขึ้นมำ
ก. Custom Software
ข. Package Software
ค. Commercial Software
ง. Freeware Software
ตอบ ก. Custom Software
2. ซอฟต์แวร์ใดที่ใช้สำหรับติดตำมเฝ้ำดูกำรใช้งำนของผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยสำมำรถบันทึกกำรกด
แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด แอบถ่ำยรูป และดักฟัง
ก. Donationware
ข. Shovelware
ค. Crippleware
ง. Snoopware
ตอบ ง. Snoopware
จงใช้คำตอบข้อ ก. – จ. ตอบคำถำม ข้อ 3. – 5.
ก. โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำธำรณะ
ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบใช้ได้เสรี
ค. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบทดลองใช้
ง. โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อกำรจำหน่ำย
จ. โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสเปิด
3. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ให้ใช้โดยเจ้ำของลิขสิทธิ์ไม่คิดมูลค่ำ และ จะกำหนดเงื่อนไขกำรอนุญำตและ
ข้อจำกัดบำงประกำรไว้ คือ โปรแกรมชนิดใด
ก. ก. และ ข.
ข. ข. และ จ.
ค. ก. เท่ำนั้น
ง. ข. เท่ำนั้น
ตอบ ง. ข. เท่ำนั้น (โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบใช้ได้เสรี)

29. 4. โปรแกรมชนิดใดที่สำมำรถดัดแปลงได้โดยไม่ต้องรับอนุญำตจำกเจ้ำของลิขสิทธิ์ก่อน
ก. ก และ ข
ข. ข และ ค
ค. ก และ ค
ง. ก และ จ
ตอบ ง. ก. และ จ. (โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำธำรณะ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสเปิด)
5. หำกเรำต้องสร้ำงโปรแกรมที่สำมำรถให้ผู้ใช้งำนอื่นสำมำรถร่วมกันพัฒนำโปรแกรมร่วมกันได้
โปรแกรมนั้นเป็นโปรแกรมชนิดใด
ก. ก. ข. และ ค.
ข. ก. ข. และ จ.
ค. ค. เท่ำนั้น
ง. จ. เท่ำนั้น
ตอบ ง. จ. เท่ำนั้น (โปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบรหัสเปิด)
6. ซอฟต์แวร์ชนิดใดที่ออกแบบมำเพื่อแทรกซึม หรือ ทำลำยระบบคอมพิวเตอร์ โดยที่เจ้ำของไม่ทันได้
สังเกต หรือ ไม่ได้ยินยอมให้ติดตั้งในคอมพิวเตอร์
ก. Snoop Ware หรือ Malware
ข. Malicious หรือ Badware
ค. Crippleware หรือ Cardware
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. Malicious หรือ Badware
7. กรณีที่ปรำกฏในกำรตอบแจ้งกำรรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นเองว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้รับข้อมูล
ได้รับเป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคที่ผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลได้ตกลงกันไว้ จะมีวิธีกำรใดในกำร
ตัดสิน
ก. ให้สันนิษฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปนั้นได้เป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคทั้งหมดแล้ว
ข. ให้สันนิษฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปนั้นได้เป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคไปแล้ว
บำงส่วน
ค. ให้สันนิษฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปนั้นได้เป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคทั้งหมดแล้วใน
ส่วนของผู้ส่งข้อมูล

30. ง. ให้สันนิษฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปนั้นได้เป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคทั้งหมดแล้วใน
ส่วนของผู้รับข้อมูล
ตอบ ข. ให้สันนิษฐำนว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปนั้นได้เป็นไปตำมข้อกำหนดทำงเทคนิคไปแล้วบำงส่วน
8. กำรรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำมีผลนับแต่เวลำที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้ำสู่ระบบข้อมูลของ
ผู้ใด
ก. ผู้ส่งข้อมูล
ข. ผู้ใช้งำนข้อมูล
ค. ผู้รับข้อมูล
ง. ผู้สร้ำงข้อมูล
ตอบ ค. ผู้รับข้อมูล
9. ลำยมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะดังข้อใดถึงจะเชื่อถือได้
ก. ข้อมูลสำหรับหรับสร้ำงลำยมือชื่อนั้นได้เชื่อมโยงไปยังเจ้ำของลำยมือโดยโยงไปยังบุคคลอื่น
ข. ขณะสร้ำงลำยมือชื่อนั้น ข้อมูลสำหรับกำรสร้ำงลำยมือชื่ออยู่ภำยใต้กำรควบคุมของเจ้ำของโดย
อำจจะมีบุคคลอื่นร่วมควบคุมด้วย
ค. กำรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนลำยมือชื่อ นับตั้งแต่เวลำที่มีผู้พบเห็นหรือตรวจสอบได้
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. กำรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนลำยมือชื่อ นับตั้งแต่เวลำที่มีผู้พบเห็นหรือตรวจสอบได้
10. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนกำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัล
ก. กำรสร้ำงกุญแจเดี่ยว
ข. กำรสร้ำงกุญแจคู่
ค. ขั้นตอนกำรแฮชหรือย่อย
ง. เป็นกำรสร้ำงลำยมือชื่อดิจิทัลทุกข้อ ยกเว้นข้อ 1
ตอบ ก. กำรสร้ำงกุญแจเดี่ยว

31. คำถำมปี 1
1. “ผู้ให้บริกำร” หมำยควำมว่ำอย่ำงไร
ก. ผู้ให้บริกำรแก่บุคคลอื่นในกำรเข้ำสู่อินเตอร์เน็ตหรือให้สำมำรถติดต่อถึงกันโดยประกำรอื่นโดย
ผ่ำนทำงระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ไม่ว่ำจะเป็นกำรให้บริกำรในนำมของตนเองหรือในนำมหรือเพื่อ
ประโยชน์ของบุคคลอื่น
ข. ผู้ให้บริกำรเก็บรักษำข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
ค. ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติตำมพระรำชบัญญัตินี้
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
ตอบ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
2. ในมำตรำ 23 พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ผู้ใดกระทำโดยประมำทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข้อมูลจรำจรทำงคอมพิวเตอร์ ต้องระวำงโทษอย่ำงไร
ก. จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. Application Software แบ่งตำมลักษณะกำรใช้งำนได้กี่แบบ มีอะไรบ้ำง
ก. 2 แบบคือ Cushy Software และ Packed Software
ข. 2 แบบคือ Custom Software และ Package Software
ค. 3 แบบคือ Cushy Software และ Packed Software และ Custom Software
ง. 3 แบบคือ Cushy Software และ Packed Software และ Package Software
ตอบ ข. 2 แบบคือ Custom Software และ Package Software

32. 4. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทต่ำงๆที่อนุกรรมกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรคุ้มครองลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์
ได้จัดทำคู่มือกำรใช้งำนลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรมไว้ มีกี่อย่ำง
ก. 5 อย่ำง
ข. 6 อย่ำง
ค. 7 อย่ำง
ง. 8 อย่ำง
ตอบ ข. 6 อย่ำง
5. พรบ. ว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีผลบังคับใช้กับธุรกรรมใด
ก. ธุรกรรมทำงกำรเงิน
ข. ธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์
ค. ธุรกรรมทำงแพ่งและพำณิชย์
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ธุรกรรมทำงแพ่งและพำณิชย์
6. มำตรำ 22 มีข้อกำหนดว่ำอย่ำงไร
ก. กำรส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำได้มีกำรส่งเมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้ำสู่ระบบข้อมูลที่
อยู่นอกเหนือกำรควบคุมของผู้ส่งข้อมูล
ข. ธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ใดที่ได้กระทำตำมวิธีกำรแบบปลอดภัยที่กำหนดในพระรำชกฤษฎีกำ
ให้สันนิษฐำนว่ำเป็นวิธีกำรที่เชื่อถือได้
ค. กำรรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำมีผลนับแต่เวลำที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้ำสู่ระบบข้อมูล
ของผู้รับข้อมูล
ง. บุคคลใดเป็นผู้ส่งข้อมูลไม่ว่ำจะเป็นกำรส่งโดยวิธีใดให้ถือว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้นั้น
ตอบ ก. กำรส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ำได้มีกำรส่งเมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้ำสู่ระบบข้อมูลที่อยู่
นอกเหนือกำรควบคุมของผู้ส่งข้อมูล

33. 7. ข้อใดไม่ถือเป็นกำรพิจำรณำควำมเขื่อถือได้ของระบบ วิธีกำร และบุคลำกรตำมมำตรำ 28 (6)
ก. สถำนภำพทำงกำรเงิน บุคลำดร และสินทรัพย์ที่มีอยู่
ข. คุณภำพของระบบฮำร์ดแวร์และซอฟท์แวร์
ค. วิธีกำรออกใบรับรอง กำรขอใบรับรอง และกำรเก็บรักษำข้อมูลกำรให้บริกำรนั้น
ง. กำรโฆษณำของบริกำร
ตอบ ง. กำรโฆษณำของบริกำร
8. จำกมำตรำที่ 38 กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระกำรดำรงตำแหน่งกี่ปี
ก. 3 ปี
ข. 4 ปี
ค. 5 ปี
ง. 6 ปี
ตอบ ก. 3 ปี
9. ผู้ใดประกอบธุรกิจบริกำรเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่แจ้งหรือขึ้นทะเบียนต่อพนักงำน
เจ้ำหน้ำที่ตำมกำหนดในพระรำชกฤษฎีกำมำตรำ 33 วรรค 1 หรือโดยฝ่ำฝืน คำสั่งห้ำมกำรประกอบ
ธุรกิจของคณะกรรมกำรตำมมำตรำ 33 วรรค 6 มีโทษอย่ำงไร
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
10. ผู้ใดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญำตตำมมำตรำ 34 มีโทษ
อย่ำงไร
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บำท หรือทั้งจำทั้งปรับ