SlideShare a Scribd company logo
1 of 36
HISTORY
• บริษัทเสริมสุขเป็นเจ้าของในการคิดค้นสูตรการคิดค้นผลิตขึ้นใหม่ พร้อมกับปรับปรุงอัตลักษณ์ใหม่ทั้งหมด จึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า
ใหม่ว่า เอส (est) ซึ่งแต่เดิมบมจ. เสริมสุขเป็นผู้ประมูลการผลิตและจัดจาหน่ายเครื่องดื่มโคลา ชื่อยี่ห้อเป๊ปซี่ จากบริษัทเป๊ปซีโค อินค์.
สหรัฐอเมริกา แต่มาถึงปี2555 บริษัทเป๊ปซีโค อินค์ได้ยุติการต่อสัญญาร่วมกิจการ,เช่ากิจการ,การผลิตและจัดจาหน่ายเป๊ปซีกับ บมจ.เสริมสุข ดัง
นั้นบมจ.เสริมสุข จึงมีพิธีเปิดตัวสินค้า และเริ่มต้นการจัดจาหน่ายอย่างเป็นทางการภายใต้เครื่องหมายการค้า เอส (est) เมื่อวันศุกร์
ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยจัดประเภทสินค้าเป็น 4 รูปแบบหลักคือ ขวดแก้ว (ขนาด 250 มิลลิลิตร และ 12 ออนซ์), ขวดพลาสติก
(ขนาด 455, 480 มิลลิลิตร และ 1 ลิตร), กระป๋ อง (ขนาด 325 มิลลิลิตร) และ ตู้กดเครื่องดื่ม (Post Mix)
• บริษัท เสริมสุข ขายแบรนด์น้าอัดลม เอส (est) ให้กับ อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์ช้าง มูลค่า
สินทรัพย์ 1.56 พันล้านบาท เปลี่ยนเป็นรับจ้างผลิตอย่างเดียว
วันที่ 28 ตุลาคม 2557 นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสุข (SSC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติ
เห็นชอบให้ ขายเครื่องหมายการค้า “เอส (est)” โดยมีเงื่อนไข กับบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด มูลค่าสินทรัพย์ที่
จาหน่ายคิดเป็น 1,560,000,000 บาท โดยบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ
ผู้ผลิตเบียร์ช้าง ซึ่งถือหุ้น 100% ซึ่งเครื่องหมายการค้า เอส เป็นของ บริษัท เกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ที่จัดตั้งขึ้นในฮ่องกง และอนุญาตเสริมสุขให้
ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวสาหรับการผลิต การตลาดและการขาย การโฆษณา และการจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโคล่า และ
เครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ ทั้งนี้จากการดาเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 24 เดือน จนถึงสิงหาคม 2557 เอสมีส่วนแบ่งการตลาดน้าอัดลม 12% และการ
ขายแบรนด์ดังกล่าวจะสามารถนาเงินไปใช้ลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดในการจาหน่าย และบริษัทเสริมสุขจะยังคงรับผลิตสินค้า
ภายใต้เครื่องหมายการค้า เอส ต่อไป และจะนาเงินจากการขายแบรนด์ไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของกิจการแทน
HISTORY
• บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) เริ่มดาเนินธุรกิจน้าอัดลมเมื่อปี 2496 และมีบทบาทสาคัญในการวางรากฐานอุตสาหกรรมน้าอัดลมในประเทศ
ไทยมากว่า 6 ทศวรรษ ตลอดจนเป็นตานานผู้สร้างแบรนด์ระดับโลกให้ครองความเป็นผู้นาในตลาดเมืองไทย นอกจากนี้เสริมสุขได้ขยายธุรกิจสู่
การผลิตและจาหน่ายเครื่องดื่มไม่อัดลมชั้นนามากมาย อาทิ น้าดื่มคริสตัล เครื่องดื่มเกลือแร่ และชาพร้อมดื่มโออิชิ และก้าวเป็นบริษัทเครื่องดื่ม
ไร้แอลกอฮอล์ครบวงจรรายแรกของประเทศ
• ต่อมาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติกส์ จากัด ได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทฯ และผนึกรวมเป็น 1 ใน 5 บริษัทหลักในกลุ่มบริษัทไทยเบฟในปี
2555 จากนั้นเสริมสุขจึงได้มีการเปลี่ยนทิศทางการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนภาพลักษณ์และวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับการ
เปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในปีเดียวกัน ปัจจุบัน เสริมสุขดาเนินการผลิตและจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพ
ภายใต้กลุ่มธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มน้าอัดลม เป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ กลุ่มน้าดื่ม กลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม และกลุ่มการจัด
จาหน่าย
PRODUCT
CUSTOMERS
• Demographic กลุ่มเป้าหมาย เป็นวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-25 ปี รักในการเปิด
ประสบการณ์ใหม่ในด้านความบันเทิงและกีฬา
Geographic ทั่วประเทศ
Phychographic ตัวแทนวัยรุ่นยุคสะท้อน ความสุดขั้วในทุกองศาชีวิตไม่ว่าจะเป็นการใช้
ชีวิตอย่างสุดขั้วอย่างมีไสต์
COMPETTITORS
• - คู่แข่งในประเทศ เช่น
Coca-Cola และ Pepsi
COMPANY
- เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ หลากหลายรูปแบบ
- มีแหล่งผลิตหลายสาขาอยู่ทั่วประเทศ
- มีช่องทางการติดต่อที่ครบวงจร
ใช้นวัตกรรม PET ช่วยให้ขวดเบาลงลดการใช้
พลาสติกลง 35% ประหยัดค่าขนส่ง
มาพร้อมขวดอีโค-ครัช (Eco Crush) ซึ่งใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET (Polyethylene Terephthalate) น้าหนัก
เบาพิเศษ สามารถลดการใช้วัตถุดิบพลาสติกลงถึงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับขวดแบบเดิม และมีน้าหนักเบาเพียง 10.7 กรัม ขณะที่ขวดแบบเดิมมี
น้าหนัก 16.5 กรัม (สาหรับขนาดบรรจุ 550 มิลลิลิตร) ซึ่งถือได้ว่าเป็นขวดน้าดื่มที่มีน้าหนักเบาที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แต่ยังคงคุณภาพและ
ความแข็งแรงของขวดตามขนาดมาตรฐานสูงสุดของโคคา-โคลา เมื่อขวดน้าดื่มมีน้าหนักเบาลงก็จะช่วยประหยัดพลังงานในการขนส่งด้วย
นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม
• บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพยึดมั่นในหลักการกากับดูแลกิจการที่ดี โดยมีนโยบายการดาเนินธุรกิจเคียง
คู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม
• เพื่อนาความสดชื่อมาสู่คนไทยด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีคุณภาพครบวงจรบนพื้นฐานของความโปร่งใสและเป็นธรรม เคารพในสิทธิการดาเนิน
ชีวิตขั้นพื้นฐานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
• นอกจากนี้บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ยังให้ความสาคัญต่อการดาเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนกระบวนการผลิต พร้อมทั้ง
ขยายผลสู่สาธารณะภายนอกผ่านการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายมิติ โดยมีเป้าหมายในการร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมไทยให้
เกิดการพัฒนาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป
นโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
• บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสาคัญในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยเสมอมา
• บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการบริหารจัดการทางด้านคุณภาพสิิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างรู้คุณค่า ตลอดการ
ดาเนินธุรกิจของเรา พร้อมๆ กับการป้องกันไม่ให้ ก่อมลภาวะต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย เราจะปฏิบัติงานบนพื้นฐานของการมีจิตสานึกด้าน
สิ่งแวดล้อมเพื่อให้สมกับเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจาหน่ายเครื่องดื่ม ครบวงจรที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของคนไทย
BRAND PERSONALITY
• ตัวแทนวัยรุ่นยุคสะท้อน DNA ความสุดขั้วในทุกองศาชีวิตไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอย่างสุดขั้วอย่างมี
ไสต์ในด้านดนตรี กีฬา ไลฟ์ สไตล์ บันเทิง
BRAND POSITIONING
• เจ้าแห่งน้าอัดลมที่รักในสิ่งแวดล้อม และมีความล้าหน้าในด้านนวัตกรรม
กลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์
EARNED CHANNELS
EARNED CHANNELS
CAMPAING
CSR
เอส เป็นผู้สนับสนุนด้านการศึกษาให้กับโครงการ ก้าวแรกสู้เส้นทางความฝัน Discovery of
Thailand's Astronauts Scholarship Program ซึ่งจัดโดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจากัด (มหาชน)
หรือ ซีพีเอ็น เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยไปศึกษาฟรีที่ U.S. Space & Rocket Center ประเทศ
สหรัฐอเมริกา และในนามบริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ยังให้ความสาคัญต่อการดาเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนกระบวนการผลิต พร้อมทั้งขยายผลสู่สาธารณะภายนอกผ่านการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายมิติ โดยมี
เป้าหมายในการร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมไทยให้เกิดการพัฒนาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป จนได้รับ
รางวัล CSR – DIW ปี 2556 เป็นรางวัลของโครงการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมี
ส่วนร่วม ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอเป็นหน่วยงานที่ปรึกษา
ซึ่งโรงงานของเสริมสุขได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2552 และได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน (2552 – ปัจจุบัน) โดย
เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CSR – DIW ครบถ้วนทั้ง 5 โรงงาน
SPONSOR
หากเปรียบเทียบตัวเลขงบโฆษณาในปี 2554 ที่ผ่านมา เป๊ปซี่ ใช้ไปราว 462 ล้านบาท เชื่อว่าทั้งปีของแบรนด์
เอส โคล่า จะใช้มากกว่า 2-3 เท่าตัว เพื่อเร่งแจ้งเกิดแบรนด์ให้เร็วที่สุด เพราะว่าตลาดน้าดา เป็นการแข่งขันของแบรนด์ที่
แข็งแกร่งในระดับโลก ปีแรกของการสร้างแบรนด์ของ เอส โคล่า ไม่น่าต่ากว่าหลักพันล้านบาทอย่างแน่นอน เพื่อที่จะทาให้
คนไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในประเทศให้ รู้จักในวงกว้างก่อน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ไทยเบฟ ทุ่มงบประมาณเป็นสปอนเซอร์
หลัก โดยใช้แบรนด์ "ช้าง" เป็นสปอนเซอร์ โดยที่ “ช้าง” อาจจะหลีกทางด้วยการส่งแบรนด์ เอส เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ใน
กิจกรรม หรือการแข่งขันกีฬาลีกดังที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เพื่อเร่งสร้างแบรนด์เอสในตลาด ขณะเดียวกัน ภายใต้
เครือข่ายธุรกิจข้ามชาติของไทยเบฟ ที่มีเป้าหมายบุกตลาดอาเซียนด้วยนั้น การเปิดตัวน้าดา เอส โคล่า ของเสริมสุขในครั้งนี้
อาจจะเป็นการเปิดตัวเพื่อทาตลาดในระดับภูมิภาคอาเซียน ไปพร้อมกัน โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านไทยเป็นกลุ่ม
แรก เป็นการสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นที่จดจาของกลุ่มเป้าหมาย
การแข่งขันในตลาดน้าอัดลม
แม้ว่าเอสจะพยายามเดินเกมอัดฉีดงบเพื่อทาตลาดทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง และสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ที่
ถือเป็นสูตรการตลาดน้าอัดลมใช้เจาะตลาดวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมาตลอด โดยใช้งบถึง
100 ล้านบาท ในการเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แต่ดูเหมือนว่ายังไม่สามารถ
เพิ่มดีกรีความน่าสนใจให้แบรนด์เอสแตกต่างอย่าง “สุดขั้ว” จากคู่แข่งได้ และยังมีเรื่องของ “รสชาติ” ที่ยัง
เป็นจุดอ่อนของเอสอยู่ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของเอสที่เคยขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในช่วงแรกของการทาตลาด
ผ่านไปปีครึ่งส่วนแบ่งตลาดของเอสกลับหล่นลงมาเหลือ 12% กลายเป็นอันดับ 3 ตามหลังเป๊ปซี่ ที่เร่งสปีด
ไต่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 29%
• สัดส่วนการตลาดของ Est ประมาณ 12% ซึ่งเป็นอันดับที่สามของตลาด ข้อมูลจากปี พ.ศ.2557
BRAND ESSENCE
• เป็นของที่คู่กับวัยรุ่นไทยที่รักในการท้าทาย สนุก ซ่าไปกับชีวิต
PURPOSE
ปรัชญาการทางานของเรา เสริมสุข เติมสุขทุกโอกาสให้กับสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้กับ
ผู้คนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น
VISION
• เป็นตัวแทนของความรักษ์โลกอยู่คู่กันไปกับสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ล้าสมัย ทันโลก
MISSION
• พัฒนาเครื่องดื่มคุณภาพที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม นาเสนอผ่านรูปแบบที่ทันสมัยเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับ
ผู้บริโภค
BRAND PROMISE
เสริมสุขดาเนินธุรกิจ โดยมุ่งมั่นนาเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภค
ทุกท่าน
EMOTIONAL ATTRIBUTES
• FUN
FUNCTIONAL ATTRIBUTES
- มีการผลิตที่ทันสมัยเหมาะสมกับคนที่รักในสิ่งแวดล้อม
- ประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์เมื่อรับประทานเสร็จ
บุกตลาดต่างประเทศ AEC
ขณะเดียวกันเป็นจังหวะที่เอสเตรียมขยายเข้าไปทาตลาดอาเซียนแล้ว ตามยุทธศาสตร์ ที่
ต้องการเป็นที่หนึ่งตลาดเครื่องดื่มในอาเซียน โดยมุ่งสร้างการเติบโตกลุ่ม Non-Alcohol
Beverage ซึ่งเอส คือ หนึ่งในแบรนด์หลัก และ โฟกัสแรกในตลาดต่างประเทศของเอส คือ ลาว
กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมาร์ แล้วต่อด้วยเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
เศรษฐกิจของลาว
สถานภาพทั่วไปทางด้านเศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลาดับ โดยในช่วง 20 ปีนับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบ
เศรษฐกิจเสรีการตลาดเมื่อปี 2529 ประเทศลาวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น
จากประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2529 เป็น 491 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราไม่ต่ากว่า ร้อยละ 10 ต่อปี อาชีพ
หลักของชาวลาว คือเกษตรกร รวมถึงประมงและป่าไม้ รองลงมาคืองานบริการและอุตสาหกรรม
เมืองสาคัญด้านเศรษฐกิจ เวียงจันทน์
เป็นเมืองหลวงของสปป.ลาว เดิมเรียกว่ากาแพงนครเวียงจันทน์ตั้งอยู่ตอน กลางของประเทศ มีพื้นที่ 3.9 พันตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบ
ลุ่มน้าท่วมถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้าโขงตรงข้ามกับอาเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์กลางด้านการเมือง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจของ
ประเทศ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย มีย่านไชน่าทาวน์ และห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นตลาดสินค้าจากไทย จีนและเวียดนามวางจาหน่ายเป็นจานวน
มาก ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสาคัญทางธุรกิจของสปป.ลาวตอนกลาง
กลยุทธ์ที่จะบุกตลาดต่างประเทศ
กลยุทธ์ที่ 1 ขยายตลาด
- เสริมสุขขยายตลาดสินค้าตัวเองให้กว้างขึ้นด้วยการส่งออกสินค้าไปยังตลาด AEC ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา
ลาว เมียนมาร์ และ เวียดนาม) รวมถึงตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย และยังมีตลาด ‘ยูนาน’ ในประเทศจีน สินค้าที่ส่งออกจะเน้นที่
เอส, 100พลัส, โออิชิ และจะเริ่มปัดฝุ่นพัฒนาแบรนด์เครื่องดื่มชูกาลังอย่าง ‘แรงเยอร์’ ที่เพิ่งซื้อมาได้ประมาณ 2 ปี ไปสู้ใน
ตลาดต่างประเทศ
- อีกทั้งเสริมสุขยังลงทุนขยายสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเพิ่มสายการผลิตที่ขอนแก่นภายในปีนี้และที่สุราษฎร์
ธานีในปีหน้า
กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาทีมขายและกระบวนการทางาน
- เสริมสุขเน้นการขยายโปรแกรมพรีเซลในพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ เพื่อเข้าให้ถึงพื้นที่ขายที่มี
ร้านค้าหนาแน่นและแก้ไขปัญหา traffic เพื่อให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- และยังโฟกัสที่ศักยภาพของทีมขาย และการบริหารสต็อกสินค้า ที่น่าสนใจคือเสริมสุขกาลังจะวาง
ระบบ E-Banking มาอานวยความสะดวกในการชาระเงินให้ลูกค้าแทนการเก็บเงินสด ระหว่างนี้อยู่
ในช่วงศึกษาและพัฒนาระบบ เป็นการนาเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการชาระเงินที่จะสร้างคุณค่าให้แก่
เสริมสุขได้ในระยะยาว
กลยุทธ์ที่ 3 บริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
- เสริมสุขวางแผนและหา solution ใหม่ๆที่จะมาประหยัดการใช้วัตถุดิบในการผลิต
บรรจุภัณฑ์ ด้วยการลดการใช้พลาสติกและลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง
สินค้า ปัจจัยภายนอกมีส่วนช่วย เพราะในช่วงที่ผ่านมาน้ามันมีราคาถูกลง และสุดท้ายที่
เสริมสุขให้ความสาคัญคือการบริหารคลังสินค้าให้มีกาไร
สิ่งที่ทาให้ เอส ประสบความสาเร็จ
จุดแข็งของ เสริมสุข คือระบบการผลิตและโลจิสติกที่แข็งแกร่ง ด้วยโรงงานผลิต 7 แห่ง
คลังสินค้า 51 แห่ง และเครือข่ายในการจัดจาหน่ายที่เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ด้วยรถลาเลียงและ
หน่วยรถขายกว่า 1,000 คน รวมถึงมี 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการของ
ผู้บริโภคกว่า 90%

More Related Content

What's hot

Supply chain management of McDonalds
Supply chain management of McDonaldsSupply chain management of McDonalds
Supply chain management of McDonalds
Saravanan rulez
 
7 P's of marketing (Coca cola)
7 P's of marketing (Coca cola)7 P's of marketing (Coca cola)
7 P's of marketing (Coca cola)
Harshal Jaiswal
 
презентация Coca cola
презентация Coca colaпрезентация Coca cola
презентация Coca cola
guest7c0893
 

What's hot (20)

Cebu Pacific Air SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
Cebu Pacific Air SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning MapCebu Pacific Air SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
Cebu Pacific Air SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
 
Pepsi Inventory Management, Distribution Channels and Warehousing
Pepsi Inventory Management, Distribution Channels and WarehousingPepsi Inventory Management, Distribution Channels and Warehousing
Pepsi Inventory Management, Distribution Channels and Warehousing
 
Coke and Pepsi Learn to Compete in India
Coke and Pepsi Learn to Compete in IndiaCoke and Pepsi Learn to Compete in India
Coke and Pepsi Learn to Compete in India
 
Strategic Management of coca cola India for BMS students
Strategic Management of coca cola India for BMS studentsStrategic Management of coca cola India for BMS students
Strategic Management of coca cola India for BMS students
 
Pepsico ppt
Pepsico pptPepsico ppt
Pepsico ppt
 
Unilever Analysis
Unilever AnalysisUnilever Analysis
Unilever Analysis
 
International Business Strategy Coca-Cola.
International Business Strategy Coca-Cola.International Business Strategy Coca-Cola.
International Business Strategy Coca-Cola.
 
Del Monte
Del MonteDel Monte
Del Monte
 
Coca cola segmentation (
Coca cola segmentation (Coca cola segmentation (
Coca cola segmentation (
 
Coca cola-vs-pepsi
Coca cola-vs-pepsiCoca cola-vs-pepsi
Coca cola-vs-pepsi
 
a-ppt-on-coca-cola
a-ppt-on-coca-colaa-ppt-on-coca-cola
a-ppt-on-coca-cola
 
IFE Matrix for McDonald
IFE Matrix for McDonaldIFE Matrix for McDonald
IFE Matrix for McDonald
 
Supply chain management of McDonalds
Supply chain management of McDonaldsSupply chain management of McDonalds
Supply chain management of McDonalds
 
7 P's of marketing (Coca cola)
7 P's of marketing (Coca cola)7 P's of marketing (Coca cola)
7 P's of marketing (Coca cola)
 
Starbucks analysis on quality management
Starbucks analysis on quality management Starbucks analysis on quality management
Starbucks analysis on quality management
 
презентация Coca cola
презентация Coca colaпрезентация Coca cola
презентация Coca cola
 
7-Eleven Philippines SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
7-Eleven Philippines SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map7-Eleven Philippines SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
7-Eleven Philippines SPACE Matrix, BCG Matrix, Product Positioning Map
 
Coca-Cola Presentation,
Coca-Cola Presentation,Coca-Cola Presentation,
Coca-Cola Presentation,
 
Coca Cola Executive Summary
Coca Cola Executive SummaryCoca Cola Executive Summary
Coca Cola Executive Summary
 
PEPSICO Supply chain
PEPSICO Supply chainPEPSICO Supply chain
PEPSICO Supply chain
 

BDC412 Brand est

  • 1.
  • 2. HISTORY • บริษัทเสริมสุขเป็นเจ้าของในการคิดค้นสูตรการคิดค้นผลิตขึ้นใหม่ พร้อมกับปรับปรุงอัตลักษณ์ใหม่ทั้งหมด จึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า ใหม่ว่า เอส (est) ซึ่งแต่เดิมบมจ. เสริมสุขเป็นผู้ประมูลการผลิตและจัดจาหน่ายเครื่องดื่มโคลา ชื่อยี่ห้อเป๊ปซี่ จากบริษัทเป๊ปซีโค อินค์. สหรัฐอเมริกา แต่มาถึงปี2555 บริษัทเป๊ปซีโค อินค์ได้ยุติการต่อสัญญาร่วมกิจการ,เช่ากิจการ,การผลิตและจัดจาหน่ายเป๊ปซีกับ บมจ.เสริมสุข ดัง นั้นบมจ.เสริมสุข จึงมีพิธีเปิดตัวสินค้า และเริ่มต้นการจัดจาหน่ายอย่างเป็นทางการภายใต้เครื่องหมายการค้า เอส (est) เมื่อวันศุกร์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยจัดประเภทสินค้าเป็น 4 รูปแบบหลักคือ ขวดแก้ว (ขนาด 250 มิลลิลิตร และ 12 ออนซ์), ขวดพลาสติก (ขนาด 455, 480 มิลลิลิตร และ 1 ลิตร), กระป๋ อง (ขนาด 325 มิลลิลิตร) และ ตู้กดเครื่องดื่ม (Post Mix) • บริษัท เสริมสุข ขายแบรนด์น้าอัดลม เอส (est) ให้กับ อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์ช้าง มูลค่า สินทรัพย์ 1.56 พันล้านบาท เปลี่ยนเป็นรับจ้างผลิตอย่างเดียว วันที่ 28 ตุลาคม 2557 นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสุข (SSC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติ เห็นชอบให้ ขายเครื่องหมายการค้า “เอส (est)” โดยมีเงื่อนไข กับบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด มูลค่าสินทรัพย์ที่ จาหน่ายคิดเป็น 1,560,000,000 บาท โดยบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์ช้าง ซึ่งถือหุ้น 100% ซึ่งเครื่องหมายการค้า เอส เป็นของ บริษัท เกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ที่จัดตั้งขึ้นในฮ่องกง และอนุญาตเสริมสุขให้ ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวสาหรับการผลิต การตลาดและการขาย การโฆษณา และการจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโคล่า และ เครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ ทั้งนี้จากการดาเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 24 เดือน จนถึงสิงหาคม 2557 เอสมีส่วนแบ่งการตลาดน้าอัดลม 12% และการ ขายแบรนด์ดังกล่าวจะสามารถนาเงินไปใช้ลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดในการจาหน่าย และบริษัทเสริมสุขจะยังคงรับผลิตสินค้า ภายใต้เครื่องหมายการค้า เอส ต่อไป และจะนาเงินจากการขายแบรนด์ไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของกิจการแทน
  • 3. HISTORY • บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) เริ่มดาเนินธุรกิจน้าอัดลมเมื่อปี 2496 และมีบทบาทสาคัญในการวางรากฐานอุตสาหกรรมน้าอัดลมในประเทศ ไทยมากว่า 6 ทศวรรษ ตลอดจนเป็นตานานผู้สร้างแบรนด์ระดับโลกให้ครองความเป็นผู้นาในตลาดเมืองไทย นอกจากนี้เสริมสุขได้ขยายธุรกิจสู่ การผลิตและจาหน่ายเครื่องดื่มไม่อัดลมชั้นนามากมาย อาทิ น้าดื่มคริสตัล เครื่องดื่มเกลือแร่ และชาพร้อมดื่มโออิชิ และก้าวเป็นบริษัทเครื่องดื่ม ไร้แอลกอฮอล์ครบวงจรรายแรกของประเทศ • ต่อมาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติกส์ จากัด ได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทฯ และผนึกรวมเป็น 1 ใน 5 บริษัทหลักในกลุ่มบริษัทไทยเบฟในปี 2555 จากนั้นเสริมสุขจึงได้มีการเปลี่ยนทิศทางการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนภาพลักษณ์และวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับการ เปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในปีเดียวกัน ปัจจุบัน เสริมสุขดาเนินการผลิตและจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพ ภายใต้กลุ่มธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มน้าอัดลม เป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ กลุ่มน้าดื่ม กลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม และกลุ่มการจัด จาหน่าย
  • 4.
  • 6.
  • 7. CUSTOMERS • Demographic กลุ่มเป้าหมาย เป็นวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-25 ปี รักในการเปิด ประสบการณ์ใหม่ในด้านความบันเทิงและกีฬา Geographic ทั่วประเทศ Phychographic ตัวแทนวัยรุ่นยุคสะท้อน ความสุดขั้วในทุกองศาชีวิตไม่ว่าจะเป็นการใช้ ชีวิตอย่างสุดขั้วอย่างมีไสต์
  • 9. COMPANY - เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ หลากหลายรูปแบบ - มีแหล่งผลิตหลายสาขาอยู่ทั่วประเทศ - มีช่องทางการติดต่อที่ครบวงจร
  • 10. ใช้นวัตกรรม PET ช่วยให้ขวดเบาลงลดการใช้ พลาสติกลง 35% ประหยัดค่าขนส่ง มาพร้อมขวดอีโค-ครัช (Eco Crush) ซึ่งใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET (Polyethylene Terephthalate) น้าหนัก เบาพิเศษ สามารถลดการใช้วัตถุดิบพลาสติกลงถึงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับขวดแบบเดิม และมีน้าหนักเบาเพียง 10.7 กรัม ขณะที่ขวดแบบเดิมมี น้าหนัก 16.5 กรัม (สาหรับขนาดบรรจุ 550 มิลลิลิตร) ซึ่งถือได้ว่าเป็นขวดน้าดื่มที่มีน้าหนักเบาที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แต่ยังคงคุณภาพและ ความแข็งแรงของขวดตามขนาดมาตรฐานสูงสุดของโคคา-โคลา เมื่อขวดน้าดื่มมีน้าหนักเบาลงก็จะช่วยประหยัดพลังงานในการขนส่งด้วย
  • 11. นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม • บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพยึดมั่นในหลักการกากับดูแลกิจการที่ดี โดยมีนโยบายการดาเนินธุรกิจเคียง คู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม • เพื่อนาความสดชื่อมาสู่คนไทยด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีคุณภาพครบวงจรบนพื้นฐานของความโปร่งใสและเป็นธรรม เคารพในสิทธิการดาเนิน ชีวิตขั้นพื้นฐานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • นอกจากนี้บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ยังให้ความสาคัญต่อการดาเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนกระบวนการผลิต พร้อมทั้ง ขยายผลสู่สาธารณะภายนอกผ่านการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายมิติ โดยมีเป้าหมายในการร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมไทยให้ เกิดการพัฒนาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป
  • 12. นโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม • บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสาคัญในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยเสมอมา • บริษัทจึงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการบริหารจัดการทางด้านคุณภาพสิิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างรู้คุณค่า ตลอดการ ดาเนินธุรกิจของเรา พร้อมๆ กับการป้องกันไม่ให้ ก่อมลภาวะต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย เราจะปฏิบัติงานบนพื้นฐานของการมีจิตสานึกด้าน สิ่งแวดล้อมเพื่อให้สมกับเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจาหน่ายเครื่องดื่ม ครบวงจรที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของคนไทย
  • 13. BRAND PERSONALITY • ตัวแทนวัยรุ่นยุคสะท้อน DNA ความสุดขั้วในทุกองศาชีวิตไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอย่างสุดขั้วอย่างมี ไสต์ในด้านดนตรี กีฬา ไลฟ์ สไตล์ บันเทิง
  • 14. BRAND POSITIONING • เจ้าแห่งน้าอัดลมที่รักในสิ่งแวดล้อม และมีความล้าหน้าในด้านนวัตกรรม
  • 19. CSR เอส เป็นผู้สนับสนุนด้านการศึกษาให้กับโครงการ ก้าวแรกสู้เส้นทางความฝัน Discovery of Thailand's Astronauts Scholarship Program ซึ่งจัดโดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจากัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยไปศึกษาฟรีที่ U.S. Space & Rocket Center ประเทศ สหรัฐอเมริกา และในนามบริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน) ยังให้ความสาคัญต่อการดาเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนกระบวนการผลิต พร้อมทั้งขยายผลสู่สาธารณะภายนอกผ่านการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายมิติ โดยมี เป้าหมายในการร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมไทยให้เกิดการพัฒนาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป จนได้รับ รางวัล CSR – DIW ปี 2556 เป็นรางวัลของโครงการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมี ส่วนร่วม ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอเป็นหน่วยงานที่ปรึกษา ซึ่งโรงงานของเสริมสุขได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2552 และได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน (2552 – ปัจจุบัน) โดย เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CSR – DIW ครบถ้วนทั้ง 5 โรงงาน
  • 20. SPONSOR หากเปรียบเทียบตัวเลขงบโฆษณาในปี 2554 ที่ผ่านมา เป๊ปซี่ ใช้ไปราว 462 ล้านบาท เชื่อว่าทั้งปีของแบรนด์ เอส โคล่า จะใช้มากกว่า 2-3 เท่าตัว เพื่อเร่งแจ้งเกิดแบรนด์ให้เร็วที่สุด เพราะว่าตลาดน้าดา เป็นการแข่งขันของแบรนด์ที่ แข็งแกร่งในระดับโลก ปีแรกของการสร้างแบรนด์ของ เอส โคล่า ไม่น่าต่ากว่าหลักพันล้านบาทอย่างแน่นอน เพื่อที่จะทาให้ คนไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในประเทศให้ รู้จักในวงกว้างก่อน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ไทยเบฟ ทุ่มงบประมาณเป็นสปอนเซอร์ หลัก โดยใช้แบรนด์ "ช้าง" เป็นสปอนเซอร์ โดยที่ “ช้าง” อาจจะหลีกทางด้วยการส่งแบรนด์ เอส เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ใน กิจกรรม หรือการแข่งขันกีฬาลีกดังที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เพื่อเร่งสร้างแบรนด์เอสในตลาด ขณะเดียวกัน ภายใต้ เครือข่ายธุรกิจข้ามชาติของไทยเบฟ ที่มีเป้าหมายบุกตลาดอาเซียนด้วยนั้น การเปิดตัวน้าดา เอส โคล่า ของเสริมสุขในครั้งนี้ อาจจะเป็นการเปิดตัวเพื่อทาตลาดในระดับภูมิภาคอาเซียน ไปพร้อมกัน โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านไทยเป็นกลุ่ม แรก เป็นการสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นที่จดจาของกลุ่มเป้าหมาย
  • 21.
  • 22. การแข่งขันในตลาดน้าอัดลม แม้ว่าเอสจะพยายามเดินเกมอัดฉีดงบเพื่อทาตลาดทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง และสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ที่ ถือเป็นสูตรการตลาดน้าอัดลมใช้เจาะตลาดวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมาตลอด โดยใช้งบถึง 100 ล้านบาท ในการเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แต่ดูเหมือนว่ายังไม่สามารถ เพิ่มดีกรีความน่าสนใจให้แบรนด์เอสแตกต่างอย่าง “สุดขั้ว” จากคู่แข่งได้ และยังมีเรื่องของ “รสชาติ” ที่ยัง เป็นจุดอ่อนของเอสอยู่ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของเอสที่เคยขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในช่วงแรกของการทาตลาด ผ่านไปปีครึ่งส่วนแบ่งตลาดของเอสกลับหล่นลงมาเหลือ 12% กลายเป็นอันดับ 3 ตามหลังเป๊ปซี่ ที่เร่งสปีด ไต่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 29%
  • 23. • สัดส่วนการตลาดของ Est ประมาณ 12% ซึ่งเป็นอันดับที่สามของตลาด ข้อมูลจากปี พ.ศ.2557
  • 25. PURPOSE ปรัชญาการทางานของเรา เสริมสุข เติมสุขทุกโอกาสให้กับสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้กับ ผู้คนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น
  • 30. FUNCTIONAL ATTRIBUTES - มีการผลิตที่ทันสมัยเหมาะสมกับคนที่รักในสิ่งแวดล้อม - ประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์เมื่อรับประทานเสร็จ
  • 31. บุกตลาดต่างประเทศ AEC ขณะเดียวกันเป็นจังหวะที่เอสเตรียมขยายเข้าไปทาตลาดอาเซียนแล้ว ตามยุทธศาสตร์ ที่ ต้องการเป็นที่หนึ่งตลาดเครื่องดื่มในอาเซียน โดยมุ่งสร้างการเติบโตกลุ่ม Non-Alcohol Beverage ซึ่งเอส คือ หนึ่งในแบรนด์หลัก และ โฟกัสแรกในตลาดต่างประเทศของเอส คือ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมาร์ แล้วต่อด้วยเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
  • 32. เศรษฐกิจของลาว สถานภาพทั่วไปทางด้านเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลาดับ โดยในช่วง 20 ปีนับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมสู่ระบบ เศรษฐกิจเสรีการตลาดเมื่อปี 2529 ประเทศลาวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.2 ต่อปี ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2529 เป็น 491 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราไม่ต่ากว่า ร้อยละ 10 ต่อปี อาชีพ หลักของชาวลาว คือเกษตรกร รวมถึงประมงและป่าไม้ รองลงมาคืองานบริการและอุตสาหกรรม เมืองสาคัญด้านเศรษฐกิจ เวียงจันทน์ เป็นเมืองหลวงของสปป.ลาว เดิมเรียกว่ากาแพงนครเวียงจันทน์ตั้งอยู่ตอน กลางของประเทศ มีพื้นที่ 3.9 พันตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบ ลุ่มน้าท่วมถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้าโขงตรงข้ามกับอาเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์กลางด้านการเมือง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจของ ประเทศ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย มีย่านไชน่าทาวน์ และห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นตลาดสินค้าจากไทย จีนและเวียดนามวางจาหน่ายเป็นจานวน มาก ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสาคัญทางธุรกิจของสปป.ลาวตอนกลาง
  • 33. กลยุทธ์ที่จะบุกตลาดต่างประเทศ กลยุทธ์ที่ 1 ขยายตลาด - เสริมสุขขยายตลาดสินค้าตัวเองให้กว้างขึ้นด้วยการส่งออกสินค้าไปยังตลาด AEC ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวียดนาม) รวมถึงตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย และยังมีตลาด ‘ยูนาน’ ในประเทศจีน สินค้าที่ส่งออกจะเน้นที่ เอส, 100พลัส, โออิชิ และจะเริ่มปัดฝุ่นพัฒนาแบรนด์เครื่องดื่มชูกาลังอย่าง ‘แรงเยอร์’ ที่เพิ่งซื้อมาได้ประมาณ 2 ปี ไปสู้ใน ตลาดต่างประเทศ - อีกทั้งเสริมสุขยังลงทุนขยายสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเพิ่มสายการผลิตที่ขอนแก่นภายในปีนี้และที่สุราษฎร์ ธานีในปีหน้า
  • 34. กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาทีมขายและกระบวนการทางาน - เสริมสุขเน้นการขยายโปรแกรมพรีเซลในพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ เพื่อเข้าให้ถึงพื้นที่ขายที่มี ร้านค้าหนาแน่นและแก้ไขปัญหา traffic เพื่อให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - และยังโฟกัสที่ศักยภาพของทีมขาย และการบริหารสต็อกสินค้า ที่น่าสนใจคือเสริมสุขกาลังจะวาง ระบบ E-Banking มาอานวยความสะดวกในการชาระเงินให้ลูกค้าแทนการเก็บเงินสด ระหว่างนี้อยู่ ในช่วงศึกษาและพัฒนาระบบ เป็นการนาเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการชาระเงินที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ เสริมสุขได้ในระยะยาว
  • 35. กลยุทธ์ที่ 3 บริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ - เสริมสุขวางแผนและหา solution ใหม่ๆที่จะมาประหยัดการใช้วัตถุดิบในการผลิต บรรจุภัณฑ์ ด้วยการลดการใช้พลาสติกและลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง สินค้า ปัจจัยภายนอกมีส่วนช่วย เพราะในช่วงที่ผ่านมาน้ามันมีราคาถูกลง และสุดท้ายที่ เสริมสุขให้ความสาคัญคือการบริหารคลังสินค้าให้มีกาไร
  • 36. สิ่งที่ทาให้ เอส ประสบความสาเร็จ จุดแข็งของ เสริมสุข คือระบบการผลิตและโลจิสติกที่แข็งแกร่ง ด้วยโรงงานผลิต 7 แห่ง คลังสินค้า 51 แห่ง และเครือข่ายในการจัดจาหน่ายที่เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ด้วยรถลาเลียงและ หน่วยรถขายกว่า 1,000 คน รวมถึงมี 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการของ ผู้บริโภคกว่า 90%