More Related Content
Similar to พรบ.คอมพิวเตอร์2560 (20)
More from NichapatJaikam (8)
พรบ.คอมพิวเตอร์2560
- 1. cr. https://www.google.co.th
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คืออะไร
ก่อนอื่นเรามาทาความเข้าใจกันก่อนดีกว่าค่ะว่า พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ที่กาลังจะพูดถึงนี้คืออะไร
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็คือพระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทาผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ค่ะ
ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้ก็เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน รวมถึงระบบต่างๆ
ที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน
ควบคุมการกระทาผิดที่จะเกิดขึ้นได้จากการใช้คอมพิวเตอร์ หากใครกระทาความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้
ก็จะต้องได้รับการลงโทษตามที่พ.ร.บ.กาหนดไว้ค่ะ
ปัจจุบันมีคนใช้คอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ตโฟนเป็นจานวนมาก บางคนก็อาจจะใช้ในทางที่เป็นประโยชน์
แต่บางคนก็อาจใช้สิ่งนี้ทาร้ายคนอื่นในทางอ้อมด้วยก็ได้
เราอาจจะได้ยินข่าวเรื่องการกระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ซึ่งบางเหตุการณ์ก็สร้างความเสียหายไม่น้อยเลย
เพื่อจัดการกับเรื่องพวกนี้ เลยต้องมีพ.ร.บ.ออกมาควบคุม ในเมื่อการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวเรา
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวเราเช่นกันค่ะ หากเราไม่รู้เอาไว้ เราอาจจะเผลอไปทาผิด โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจก็ได้
- 2. บทลงโทษ
ถ้าส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และถ้าส่งโดยไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธตอบรับได้โดยงาน
ต้องได้รับโทษจาคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
ข้อมูลจาก : https://contentshifu.com
cr.https://www.google.co.th
สรุป 13 ข้อ สาระสาคัญจาง่ายๆ พ.ร.บ.คอมพ์ 60 มีผลบังคับใช้แล้ว
- 3. 1. การฝากร้านใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
2. ส่ง SMS โฆษณาโดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000
บาท
3. ส่ง Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ยกเว้นการกดไลค์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112
หรือมีความผิดร่วม
5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ
โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3
6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทาเอง
สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น
ความเห็นในเว็บไซต์ต่าง ๆรวมไปถึงเฟซบุ๊ก ที่ให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย
เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด
7.สาหรับ แอดมินเพจที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแลแล้ว
จะถือเป็นผู้พ้นผิด
8. ไม่โพสต์สิ่งลามกอนาจาร ที่ทาให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้
9. การโพสเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชม อย่างให้เกียรติ
10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทาให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่น เกลียดชัง
ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
11. การโพสต์ด่าว่าผู้อื่น มีกฏหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้โพสต์ได้
และมีโทษจาคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
12. ไม่ทาการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
13. ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิดถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้
ข้อมูลจาก : https://www.marketingoops.com
- 5. cr. https://www.tlhr2014.com
“โพสต์ไม่คิด… ชีวิตอาจพัง” ถ้อยคาที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ของกองทัพบก @armypr_news เมื่อวันที่ 21 พ.ย.
2560 แม้ปัจจุบันอาจจะถูกลบไปแล้ว
แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวต่อการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ของประชาชน
ด้วยการสื่อสารผ่านรูปว่าการแสดงความเห็นนั้นอาจนาไปสู่การติดคุกได้ เช่นเดียวกับที่ทวิตเตอร์ของกองทัพบกเคยส่ง
‘ความปรารถนาดี’ เกี่ยวกับการแชร์เนื้อหาออนไลน์ก่อนหน้านี้
- 6. cr. https://www.tlhr2014.com
เมื่อเดือนมกราคม 2560 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นฉบับที่ 2 ของ พ.ร.บ.
นี้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระบุเจตนารมณ์ของการแก้ไขส่วนหนึ่งว่า เดิมพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยเฉพาะมาตรา 14
(1) มักถูกพ่วงไปฟ้องกับการกระทาผิดใด ๆ ทางอินเตอร์เน็ต ทั้งที่มาตรานี้กาหนดให้ใช้กับการกระทาผิดในเรื่องฉ้อโกง
หรือหลอกลวงกันทางออนไลน์
เพราะเดิมกฎหมายฉบับนี้ถูกนามาใช้ตั้งข้อหากับคนที่โพสต์ด่าทอกันทางออนไลน์
รวมถึงดาเนินคดีต่อผู้แสดงความเห็นทางการเมือง เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน องค์กรภาคประชาสังคม
และสื่อมวลชน ในลักษณะที่เรียกว่า ‘ฟ้องปิดปาก’ หรือ SLAPPs (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SLAPPs ที่นี่ )
คลิปความรู้เพิ่มเติม