More Related Content
Similar to อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
Similar to อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ (17)
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
- 2. เครื่องพิมพ์
• เครื่องพิมพ์ (อังกฤษ: Computer printer) เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่จะผลิต
ข้อความและ/หรือกราฟิกของเอกสารที่เก็บไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ออกมาในสื่อ
ทางกายภาพเช่นกระดาษหรือแผ่นใส
• เครื่องพิมพ์ส่วนมากเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วไปและเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเครื่องพิมพ์
หรือในเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่จะเป็นสายยูเอสบี เครื่องพิมพ์บางชนิดที่เรียกกันว่า
เครื่องพิมพ์เครือข่าย(Network Printer) อินเตอร์เฟซที่ใช้มักจะเป็นแลนไร้สาย
และ/หรืออีเทอร์เน็ต
- 4. จอภาพระบบสัมผัส
• จอภาพระบบสัมผัสหรือ touch screen มีการนามาใช้กันอยู่ทั่วไปเพื่ออานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ แทนที่
จะใช้เม้าซ์ในการกาหนดตาแหน่งต่างๆ ไปยังตาแหน่งบนหน้าจอที่จะเป็นไปแนวทางให้เลือกไปทาเครือง
หมาย หรือเพื่อเป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์กระทาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ให้ใช้นิ้วหรือใช้แท่งคล้ายดินสอหรือ
ปากกาแตะไปที่ตาแหน่งนั่นแทน ก็สามารถทางานได้เหมือนกับการคลิกเม้า ขึ้นอยู่กับการออกแบบ เช่น
แตะตาแหน่งเดียวกัน 1 ครั้งเป็นการเลือก แตะ 2 ครั้งรัวๆ เหมือนคลิกเม้าซ์รัวสองครั้งเร็วๆ เป็นต้น
• เดิมที่ขอภาพแบบสัมผัสนั้นราคาแพงมาก ราคาต่างจากจอภาพปกติ 3-4 เท่า เราจึงเห็นการนาไปใช้น้อย
เฉพาะในบางที่ในห้างใหญ่ ในการโฆษณาสินค้าบางชนิด เครื่องสาอาง เครื่องมือ เป็นต้นที่ให้ลูกค้า
สามารถเลือกดูตัวอย่างสินค้าในรายละเอียดเพิ่มเติมโดยใช้จอแบบสัมผัส แต่เมื่อราคาจอสัมผัสราคาถูกลง จึง
มีการนาไปประยุกต์ใช้มากมายหลายด้าน เท่าที่เห็นเช่น ประชาสัมพันธ์องค์กรมักติดตั้งไว้ที่หน้าหน่ายงาน
ว่าหน่วยงานนี้มีอะไรที่ต้องการบอกผู้มาเยื่ยมมาติดต่อบาง ถ้าในห้างสรรพสินค้า ก็บอก รายละเอียดชั้น
ไหนมีสินค้าอะไรให้บริการ หรือไม่ก็สามารถสอบถามรายละเอียดได้จากหน้าจอภาพ เท่าที่เห็นใน
มหาวิทยาลัยเราก็มีที่หน้าศูนย์วิทยบริการก็คงใช้ประชาสัมพันธ์งานบางอย่างไม่ทราบว่าได้ผลมากน้อยแต่
ไหน
- 5. • จอแบบสัมผัสเท่าที่ทราบก็มีทั้งแบบที่ติดตั้งมาให้ในตัวเลย เช่นในคอมพิวเตอร์โน้ตบุคบางรุ่น ในพ็อกเก็ต
พีซีทุกรุ่นเป็นแบบจอสัมผัสหมดแล้ว ถือว่าพวกนี้เป็นจอสัมผัสแบบภายใน (internal touch screen)
มีอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า external touch screen นั้น จะมีแผ่นเท่ากับขนาดจอมาทาบกับจอภาพเดิม
ทาให้ใช้จอภาพเดิมเป็นจอภาพแบบสัมผัสได้ คือแตะแผ่นสาหรับสัมผัสที่ทางหน้าจอภาพเดิม เมื่อราคาจอ
สัมผัสถูกไปอีกคงไม่มีใครนิยมใช้แบบภายนอก ยกเว้นใช้ในงานพิเศษบางชนิด
• การจะใช้จอภาพแบบสัมผัสนั้นต้องใช้ร่วมกับซอพท์แวร์ที่ให้มา และสามารถเขียนโปรแกรมขึ้นมาควบคุมได้
เช่นการใช้โปรแกรมสร้างภาพเคลื่อนไหวมาจัดทาก็ได้ไม่ยากนัก ถ้าใช้จอแบบสัมผัสมาใช้แล้วก็ต้องใช้
ความสามารถที่มันมีอยู่ ถ้ายังใช้เม้าซ์อยู่อีกก็ถือว่าใช้งานไม่เหมาะสม ต้องหาคนเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งาน
เฉพาะด้านหนึ่งด้านใดให้ได้ ซึ่งที่นาไปประยุกต์ใช้มากเช่นเพื่อให้คนพิการใช้ เพื่อให้เด็กเล็กหรือปฐมวัยใช้
ได้ผลดี
• สาหรับจอแบบสัมผัสแบบพ็อกเก็ตพีซีนั้น เนื่องจากจอภาพขนาดเล็ก 3x5 นิ้วเท่านั้น การใช้มือจึงไม่
สะดวกเท่ากับการออกแบบปากกาเฉพาะใช้สัมผัสแทนมือสะดวกกว่า สาหรับแบบโน้ตบุคนั้นใช้ได้กับทั้งที่
เป็นแบบปากกาและใช้มือสัมผัส อย่างไรก็ตามสาหรับท่านที่ต้องการออฟชั่นนี้เพิ่มเติมในโน้ตบุคก็ต้องคิด
ก่อนว่าจะนามาใช้ทาอะไร มิฉะนั้นแล้วจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นบ้างโดยไม่เกิดประโยชน์
- 7. แสกนเนอร์
• สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอลซึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถแสดง, เรียบ
เรียง, เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ สามารถใช้สแกนเนอร์
ทางานต่างๆได้ดังนี้
- ในงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร
- บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์
- แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ เวิร์ดโปรเซสเซอร์
- เพิ่มเติมภาพและจินตนาการต่าง ๆ ลงไปในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง ๆ โดยพื้นฐานการ
ทางานของสแกนเนอร์, ชนิดของสแกนเนอร์ และความสามารถในการทางานของสแกนเนอร์แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
• ชนิดของเครื่องสแกนเนอร์
สแกนเนอร์สามารถจัดแบ่งตามลักษณะทั่วๆ ไป ได้ 2 ชนิด คือ
Flatbed scanners, ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่าง ๆ สแกนเนอร์ ชนิดนี้มีพื้นผิวแก้วบนโลหะที่เป็น
ตัวสแกน เช่น Scan Maker III Transparency and slide scanners, ซึ่งถูกใช้สแกนโลหะโปร่ง เช่น ฟิล์มและ สไลด์
• การทางานของสแกนเนอร์
การจับภาพของสแกนเนอร์ ทาโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะสแกน แสงจะผ่านกลับไปมาและภาพ จะถูกจับโดย
เซลล์ที่ไวต่อแสง เรียกว่า charge-couple device หรือ CCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและ
พื้นที่ที่สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ
จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็นข้อมูลดิจิตอล หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับการ
สแกนภาพก็จะแปลงเอาสัญญาณเหล่านั้นกลับมาเป็นภาพ บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
- 8. • สิ่งที่จาเป็นสาหรับการสแกนภาพมีดังนี้
- สแกนเนอร์
- สาย SCSI สาหรับต่อจากสแกนเนอร์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์สาหรับการสแกนภาพ ซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางาน
ของสแกนเนอร์ให้ สแกนภาพตามที่กาหนด
- สแกนเอกสารเก็บไว้เป็นไฟล์ที่นากลับมาแก้ไขได้อาจต้องมี
ซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนด้าน OCR
- จอภาพที่เหมาะสมสาหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจาก
สแกนเนอร์
- เครื่องมือสาหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบ
เลเซอร์หรือสไลด์โปรเจคเตอร์
- 9. • ประเภทของภาพที่เกิดจากการสแกน แบ่งเป็นประเภทดังนี้
1. ภาพ Single Bit
ภาพ Single Bit เป็นภาพที่มีความหยาบมากที่สุดใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล น้อยที่สุดและ นามาใช้
ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แต่ข้อดีของภาพประเภทนี้คือ ใช้ทรัพยากรของเครื่องน้อยที่สุดใช้พื้นที่ ในการเก็บข้อมูลน้อยที่สุด ใช้
ระยะเวลาในการสแกนภาพน้อยที่สุด Single-bit แบ่งออกได้สองประเภทคือ
- Line Art ได้แก่ภาพที่มีส่วนประกอบเป็นภาพขาวดา ตัวอย่างของภาพพวกนี้ ได้แก่ ภาพที่ได้จากการส
เก็ต
- Halftone ภาพพวกนี้จะให้สีที่เป็นโทนสีเทามากกว่า แต่โดยทั่วไปยังถูกจัดว่าเป็นภาพประเภท
Single-bit เนื่องจากเป็นภาพหยาบๆ
2. ภาพ Gray Scale
ภาพพวกนี้จะมีส่วนประกอบมากกว่าภาพขาวดา โดยจะประกอบด้วยเฉดสีเทาเป็นลาดับขั้น ทาให้เห็น
รายละเอียดด้านแสง-เงา ความชัดลึกมากขึ้นกว่าเดิมภาพพวกนี้แต่ละพิกเซลหรือแต่ละจุดของภาพอาจประกอบด้วยจานวนบิตมากกว่า
ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
3. ภาพสี
หนึ่งพิกเซลของภาพสีนั้นประกอบด้วยจานวนบิตมหาศาล และใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมาก ควาามสามารถในการ
สแกนภาพออกมาได้ละเอียดขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่าใช้สแกนเนอร์ขนาดความละเอียดเท่าไร
4. ตัวหนังสือ
ตัวหนังสือในที่นี้ ได้แก่ เอกสารต่างๆ เช่น ต้องการเก็บเอกสารโดยไม่ต้อง พิมพ์ลงในแฟ้มเอกสารของ
เวิร์ดโปรเซสเซอร์ ก็สามารถใช้สแกนเนอร์สแกนเอกสาร ดังกล่าว และเก็บไว้เป็นแฟ้มเอกสารได้ นอก จากนี้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
สามารถใช้ โปรแกรมที่สนับสนุน OCR (Optical Characters Reconize) มาแปลงแฟ้มภาพเป็น เอกสารดังกล่าวออกมา
เป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถแก้ไขได้