Blue jeans & momotaro
- 4. — ต่อมาระหว่างที่เรือขนส่งสินค้าเดินทางจากอิตาลีมาอังกฤษ
ต้องผ่าน!
ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคนเมืองเรียกเมืองเจนัวว่า แชน
(Gênes) และเรียกสินค้าจากเจนัวว่า ชีน (Jene) ซึ่ง
ภายหลังเปลี่ยนมาเป็น ชอง (Jean) พอมาถึงอังกฤษ ชาว
อังกฤษจะอ่านคำว่า Jean ว่า จีน หรือยีน เช่นเดียวกับคน
อเมริกันที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเมื่อคนนำผ้ายีนส์นี้ไปตัดกางเกง
ก็ต้องเป็นคำที่เติม s จึงเรียกว่า Jeans ยีนส์!
จนกระทั่งราวปี
ค.ศ. 1850 หรือ พ.ศ. 2393 ลีวาย สเตราส์ (Levi
Strauss) ชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่ซานฟรานซิสโกได้
ผลิตกางเกงยีนส์ในชื่อ ลีวายส์ โดยตั้งชื่อกางเกงยีนส์ตามชื่อผ้า
ฝ้าย โดยผ้าฝ้ายนำมาจากผู้ผลิตที่เมืองเจนัว (Genoa)!
- 6. Momotaro Jeans
ใน ฤดูใบไม้ผลิของปี 2007 "Momotaro
Jeans" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจ ของ
Hisao Manabe ประธานบริษัท
RAMPUYA ในเครือ Japan Blue
Group(RAMPUYA เป็นหนึ่งในบริษัทที่
ผลิตผ้ายีนส์ได้ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นซึ่ง 80%
ของแบรนด์ญี่ปุ่นจะใช้บริการโรงงานนี้ให้ผลิตผ้า
และยังมีชื่อเสียงใน เรื่องย้อม Natural
Indigo Blue อีกด้วย)!
- 8. ผ้า ยีนส์ของ Momotaro ผลิตด้วยเทคโนโลยี
ที่ได้รับการพัฒนากระบวนการต่างๆจน ทำให้ผ้ายีนส์
คุณภาพสูง ด้วยการศึกษาและติดตามเรื่องยีนส์มา
หลายทศวรรษManabe จึงเลือกฝ้ายซิมบับเวเป็น
วัตถุดิบ(RAMPUYA เป็นเจ้าแรกๆของโลก ที่นำ
Zimbabwe Cotton มาใช้ทอผ้า
Jeans)!
- 9. — ทุก เส้นด้ายจาก ยีนส์ Momotaro ผลิตจาก
Zimbabwe Cottonฝ้ายที่มีเส้นใยที่ มี
คุณภาพและให้ความเงาสูง เนื่องจากไม่มีสิ่งสกปรก
เจือปนเครื่องมือเก็บ เกี่ยวที่ไม่ก่อให้เกิดความเสีย
หายต่อความสมบูนณ์ของฝ้ายดินในแอฟริกา ยัง
ช่วยให้ผ้าสะอาดมาก ทำให้คงความขาว ซึ่งช่วย
ให้การดูดซึมสีดีมากและ จากการประเมิน การใช้
งานจริงทั่วโลกต่างยอมรับว่ามันเป็นเส้นใยที่เหมาะ
สำหรับการผลิตผ้ายีนส์คุณภาพสูงจริงๆ!
- 11. Momotaro เลือกการย้อมสีแบบแฮนด์เมด คือใช้มือ
ในการย้อมสีโดยตรง ซึ่งทำโดยช่างเทคนิคผู้ชำนาญในห้องที่
เรียกว่า ห้องศิลปะ ในโรงงานของเขาเท่านั้นโดยจะจุ่มเส้นด้าย
แต่ละเส้น ในของเหลวสีครามธรรมชาติ (Nature
Indio Blue)โดยค่อยๆ ใช้มือถูเส้นด้ายเพื่อให้สีย้อม
เส้นใยแต่ละเส้น จากนั้นก็นำไปล้างด้วยน้ำ และตากแห้งใน
ดวงอาทิตย์!
- 13. หลัง จากนั้น ก็นำไปทอกับเครื่องทอแบบโบราณ ซึ่ง
เรียกว่ากระสวยเครื่องทอผ้าและ ในแต่ละวัน จะสามารถ
ทอผ้ายีนส์ชนิดนี้ได้แค่ 3 หลา นั่นหมายความว่า 1วัน
ทำได้แค่1ตัวเท่านั้นแต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เพราะผ้าที่ได้
จะเนื้อดี มีผิวเนียนเรียบ นุ่นสวมใส่สบาย สีไม่ตก!
- 14. จากนั้นจะตัดเย็บด้วย "Union Special
Sewing Machine”ซึ่ง เป็นจักรเก่าแก่ และหาได้
ยากมากในปัจจุบันนี้หลังจากการตัดเย็บเสร็จจน ได้ยีนส์ที่
ต้องการแล้ว ก็จะนำไปล้างด้วยน้ำจากทะเลเซโตะซึ่งมีเกลือ
จาก ธรรมชาติอีกหลายครั้ง ที่ช่วยให้กางเกงหดถึงขีดสุด
ก่อนที่จะนำออกมาจำหน่าย(ว่า กันว่าน้ำทะเลจากเกาะเซโตะ
เป็นน้ำที่มีแร่ธาติที่ช่วยรักษาสภาพสี Indigo ได้ดีที่สุด
ในญี่ปุ่น)และซึ่งการล้างหลายครั้งนี้ จะช่วยทำให้ผ้าสามารถ
สะท้อนสีต่างๆ จากโคมไฟที่แตกต่างอีกด้วย!
- 15. จัดทำโดย
— นาย ณัฐพงษ์
มีป้อม
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 1!
— นาย เปรมยศ
นิวะบุตร
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 3!
— นางสาว ปิ่นมนัส แจ้งจันทร์
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 25!
— นาย ชยังกูร
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 28!
— นางสาว วรรณพร เล็กมั่นคง
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 30!
— นางสาว ปลิตา
ชั้น ม .5/4
เลขที่ 33!
สิทธิประเวช
มณีรักษ์