More Related Content
Similar to กลุ่มพัฒนาศักยภาพญาติในการดูแลผู้ป่วย เพื่อลดการกำเริบซ้ำของผู้ป่วยจิตเภท (20)
กลุ่มพัฒนาศักยภาพญาติในการดูแลผู้ป่วย เพื่อลดการกำเริบซ้ำของผู้ป่วยจิตเภท
- 2. ผู้ป่วยจิตเภทส่วนใหญ่ มีอาการกำาเริบ
จากการ ไม่กินยาต่อเนื่อง ญาติขาด
ความรู้การดูแลผู้ป่วย ขาดทักษะใน
การติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยอย่าง
เหมาะสม มีความคาดหวังต่อตนเอง
และผู้ป่วยในการดูแลผู้ป่วยให้
ประสบผลดี
เนื่องจากญาติ เป็นบุคคลสำาคัญ ใน
การดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้าน การดูแลและ
พัฒนาศักยภาพของญาติ จะช่วยให้ญาติมี
ความรู้ ความเข้าใจ ในประเด็นต่างๆ เช่น
- 4. เพื่อให้ญาติผู้ป่วย
ได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ
โรคจิตเภท ในประเด็น สาเหตุ อาการ
การรักษา และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการ
กำาเริบ
ลดโอกาสกำาเริบ ทำาให้ญาติลดภาระ
ในการดูแลผู้ป่วยจิตเภท
ความสัมพันธ์ระหว่างญาติและผู้ป่วย
ดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพจิตของครอบครัว
ช่วยให้ญาติลดความเครียด ความ
คับข้องใจ เรียนรู้วิธีคลายเครียดด้วย
- 6. รูปแบบกิจกรรม มี 2 รูปแบบ
1. กลุ่มการเรียนรู้และเสริมสร้าง
กำาลังใจ
2. กิจกรรมกลุ่มเสริมพลังเครือข่าย
ญาติผู้ป่วยจิตเภท
1. กลุ่มการเรียนรู้และเสริมสร้าง
กำาลังใจ
ใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมกลุ่ม
แบบมีส่วนร่วม และมีโครงสร้าง
- 12. วัน - เวลา เข้าร่วมกิจกรรม ทุกวัน
อังคาร เวลา 11.00-12.00 น. วันละ 1
แผนกิจกรรม ดำาเนินการตั้งแต่ปี
2555 – ปัจจุบัน
สถานที่ ห้องกิจกรรมกลุ่ม กลุ่มงาน
สังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลพระ
ศรีมหาโพธิ์ ( เดิมใช้สถานที่ร่วมกับคลินิกรักษ์
จิตอุ่นใจ )
- 15. 1. ญาติมีความเข้าใจ ลดความคาดหวัง
ความกังวล มีมุมมองต่อการแก้ไขปัญหาที่
หลากหลาย ตระหนักในบทบาทการดูแลผู้
ป่วยมากขึ้น ได้ฝึกทักษะใหม่ๆ ในการดูแล
ตัวเองและผู้ป่วย ทำาให้ผู้ป่วยลดอัตรา
กำาเริบซำ้า
2. ผู้ป่วยที่ญาติเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มพัฒนา
ศักยภาพญาติฯ มีอัตราการไม่กลับมารักษา
ซำ้าภายใน 1 ปี เป็นไปตามเป้าหมาย ( ร้อย
ละ 90 ) คือ 92.31 , 90.14 , 94.11 ในปี
2555 , 2556 , 2557
94.11
90.14
92.31
- 16. ความเปลี่ยนแปลงที่พบ ( สัมภาษณ์จาก
การถอดบทเรียนและติดตามหลังจากมาเข้า
กลุ่มในแต่ละครั้ง )
ญาติ :
- มีความเข้าใจผู้ป่วย ลดความคาด
หวังที่มีต่อผู้ป่วยได้ ไม่กดดันผู้ป่วย
( จากเดิมที่ญาติต้องการให้ผู้ป่วยช่วย
ทำางาน) จนส่งผลให้บรรยากาศการ
อยู่ด้วยกันระหว่างญาติและผู้ป่วยดีขึ้น
- มีแนวทางในการดูแลผู้ป่วย โดย
เฉพาะการสนับสนุนให้ผู้ป่วย ได้รับการ
- 17. - สามารถลดความกังวลให้
แก่ญาติได้ ภายหลังจากที่ญาติมี
ความรู้และ มีทักษะในการจัดการ
กับอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย
รู้จักสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
- มีทักษะในการสื่อสารกับผู้ป่วย
เหมาะสมมากขึ้น เช่น ไม่ตะคอกใส่ผู้
ป่วยจนผู้ป่วยรู้สึกอับอายเพื่อนบ้าน
ไม่ด่าทอ สามารถบอกดีๆ พูดคุยถึง
ความต้องการของตนได้อย่างตรงไป
ตรงมา
- มีความรู้สึกที่ดีต่อผู้ป่วยมากขึ้น
- 19. ผู้ป่วยมีอาการทางจิตสงบ ช่วย
เหลืองานได้ เช่น ล้างถ้วยชาม ปัด
กวาดบ้าน เก็บดอกมะลิให้แม่ร้อย
มาลัยขาย เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เป็น
พนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำา
ทางอยู่ต่างจังหวัด ขายผัก ขายผ้า
ที่ตลาดนัด ขายต้นไม้ จัดเตรียม
ร้านก๋วยเตี๋ยวช่วยแม่ ช่วยพ่อขับรถ
แม็คโคร ช่วยกรีดยาง เป็นต้น
ผู้ป่วยได้รับกำาลังใจ จากการที่ญาติ
- 20. ญาติ…. “เดี๋ยวนี้ฉันดูแลเขาให้สะอาด
จัดยาให้เขากินไม่เคยลืม ถ้าเขาโมโหก็
พยายามไม่ดุด่าเขา พูดกับเขาดีๆ เขาก็
อ่อนลง หลังจากอบรมไป เขาดีขึ้นมาก ไม่
โมโหแม่อีก ฉันว่าฉันเป็นคนดี
( ไม่ป่วย ) ฉันต้องเข้าใจคน
ป่วย”
พยาบาลประจำาตึกผู้ป่วยใน
ที่ส่งญาติเข้ากลุ่ม…. “ทำาให้
ญาติลดทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ป่วย
ญาติเข้าใจสาเหตุของการป่วย ร่วม
มือในการดูแลรักษาผู้ป่วย ด้าน
อารมณ์ของญาติ ผ่อนคลาย ไม่
เครียด ด้านการพยาบาล ลดภาระ
การสอนรายบุคคล แพทย์จำาหน่ายผู้
- 21. ได้ Psychoeducation เป็นกลุ่ม
ถ้าเป็นกลุ่มปกติจะไม่กล้าถาม ในกลุ่ม
ญาติจะกล้าถามมากกว่า ญาติมีความ
มั่นใจในการดูแล นิ่งขึ้น สามารถ
ดูแลไม่ให้ผู้ป่วยก้าวร้าว มีวิธีการพา
ผู้ป่วยมารับการรักษาหลายช่องทาง
ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ไม่มีการบาดเจ็บ มีกลุ่มที่
คอยSupportจิตใจ ประคับประคอง
กันได้ มีโอกาสพูดในสิ่งที่ไม่สบายใจ
ในการดูแลผู้ป่วย มีกลุ่ม Support
และ Ventilation และญาติมีทักษะ
การสื่อสาร ลดการตำาหนิผู้ป่วย รู้ว่า
ตัวกระตุ้น