SlideShare a Scribd company logo
1 of 52
Download to read offline
Money Fitness Class 
Saving Plan
หลังจากที่เรารู้วิธีหาเงิน และควบคุมการใช้เงินแล้ว ส่วนต่อไป คือ การเก็บออม เพื่อขยาย ฐานทุนให้ใหญ่ขึ้น !
ก่อนจะออมอะไร.... ก่อนอื่น เราต้องทาความเข้าใจเรื่อง “เงิน” ก่อนว่าจริงๆแล้ว เงินคืออะไร ? 
เริ่มแรก มนุษย์ แลกสิ่งของกันไปมา 
เฉยๆ ไม่มีตัวกลาง
Timeline ประวัติระบบการซื้อขายตั้งแต่โบราณ มาจนถึงปัจจุบัน ดูชัดๆได้ที่: http://chip.in.th/public/img/posts/timeline/payment-timeline-full.jpg
แต่จากประวัติศาสตร์ พบว่าทั่วทุกทวีปในโลก มีตัวกลางที่ใช้ในการ แลกเปลี่ยน ที่เป็นที่ยอมรับของทุกชนชาติ และนิยมมากคือ ‘ทองคา’
ตอนนี้เรารู้แล้วว่า Moneyหรือเงิน จริงๆแล้วคือ ทองคา ซึ่งเป็นสกุลเงินสากล
ปัญหา ของทองคา และ การเกิดขึ้นของ ธนบัตร
การขาดสภาพคล่องใน การแลกเปลี่ยนสินค้า และการพกพาไปไหน มาไหนจานวนมากๆ หรือเกิดปัญหาเรื่อง การเก็บรักษา
การเกิดขึ้น ของ ธนาคาร โดยมีจุดประสงค์เพื่อ บริการรับฝากทองคา โดยคิด ค่าธรรมเนียม ในการรับฝาก โดยรับประกัน ความปลอดภัย ของทรัพย์สิน ของลูกค้า
จุดเริ่มต้นนวัตกรรมทางการเงินชนิดแรกคือ ‘เงินกระดาษ’ เริ่มมีการใช้ ‘ตั๋วแลกเงิน’(Bill of Exchange) โดยที่ตั๋วนั้น ต้องมีทองคา ค้าอยู่เท่ากับมูลค่าที่ตราบนตั๋ว
เนื่องจาก ปัญหาในการพกเหรียญทองจานวนมาก ไม่สะดวกอย่างยิ่ง ผู้คนจึงเริ่มมีการแลกเปลี่ยนตั๋วเงินกันแทนเงินเหรียญ จริงๆ หลังจากนั้นค่อยไปแลกเหรียญทองกลับจากธนาคารนานไปคนเหล่านี้ จึงเริ่มรู้สึกว่า ไม่มีความจาเป็น ที่จะต้องไปเบิกเงิน (เงินเหรียญ)จากธนาคารอยู่ตลอด ตั๋วเงินเหล่านั้นจึงพัฒนา กลายมาเป็น ‘ธนบัตร’ จนถึงทุกวันนี้
สิ่งที่ตามมาหลังจาการ เกิดขึ้นของ ธนาคาร คือ Fractional reserve systemตัวการแรก ที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ !
นานไป นายธนาคารหัวใสยุดแรกๆ เริ่มพบว่าปริมาณคนที่มาถอนทองคาออกไป ในแต่ละวันนั้น น้อยมาก จึงเกิดแนวคิดการปล่อยเงินกู้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินชิ้นต่อมา โดยการสารองเงินให้แค่ เพียงพอ ต่อคนที่จะมาถอนเงินในแต่ละวันก็พอ เช่นสารองไว้แค่ 20%ที่เหลือปล่อยกู้กินดอกเบี้ยแทน
สิ่งที่ตามมาคือการเกิด ระบบสารองเงินของธนาคาร ( Fractional reserve) ซึ่งคือ พลังทวี (Leverage) ที่ทาให้อานาจของเงินจาก 100 เพิ่มเป็น 900 ได้ !
Fractional reserve system คือจุดเริ่มต้นของ ‘ระบบหนี้’ หรือ Credit system
แล้วอะไรคือ เงินเฟ้อ ?
เงินเฟ้อ (Inflation) เกิดจากการเพิ่มปริมาณ (Supply) ของเงินเข้ามาในระบบ ทาให้อานาจซื้อ ของเงินลดลง
ย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ.330 ยุคอาณาจักรโรมัน
การพิมพ์เงิน มีมานานแล้วตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมัน โดยใช้วิธีลดส่วนผสมของแร่เงิน ในเหรียญเงิน จากปกติมี 3.50กรัมกว่าๆ ส่วนผสมนี้ลดลงไปเรื่อยๆ จนไม่มีแร่เงินอยู่เลย พอประชาชนรู้เข้าก็เลิกใช้ ที่จริงโรมก็มี เหรียญ 3 ประเภทใช้ คือเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง เรียกว่า ‘เดนาริอุส’ แน่นอนเหรียญทองมีค่ามากที่สุด รองลงมาคือเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดงไม่ได้มีค่าหรือเป็นที่ยอมรับเหมือนทองและเงิน เหรียญทองโรมันแต่มีการหมุนเวียนน้อยมาก ส่วนมากโรมใช้เหรียญทองสาหรับการซื้อสินค้าหรู หรือของฟุ่มเฟือยจากจีน หรืออินเดีย เช่นผ้าไหม เครื่องเทศ ธูปฯลฯ เวลาโรมซื้อสินค้าจาก 2ประเทศนี้ จะจ่ายเป็นเหรียญทองคาออกไป และเหรียญทองจะไม่ไหลกลับไปที่โรมอีก เพราะว่าโรมเป็นรัฐทหาร ไม่ได้ผลิตอะไรอยู่ได้ด้วยการเก็บส่วย ปล้นสะดม โรมไม่ได้ผลิตสินค้าอะไร ที่จีนหรืออินเดียต้องการ แม้จะถลุงแร่ทองได้จากเสปน ในปริมาณที่ไม่ลดลง แต่ก็ไม่พอใช้ โรมจึงมีการใช้เหรียญเงินมากกว่า แต่การใช้จ่ายเกินตัว ทาให้ต้องมาใช้เหรียญทองแดง ทาให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ การคลังที่ล้มละลาย
ตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในโลก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ‘อภิมหาเงินเฟ้อ’(Hyper Inflation) ที่ประเทศ ซิมบับเว ประเทศที่ทุกคนมีเงินเป็นล้านๆ ย้า ล้านๆ แต่ไม่มีข้าวกิน !
ธนบัตร ที่มีค่าอยู่ได้ เพราะคนให้ความเชื่อถือ เชื่อมั่นในมัน
จุดเริ่มต้นของการ ยกเลิก Gold Backupวันที่เราถูกทาให้เชื่อว่า กระดาษเปล่าๆ มีค่า! แบงค์ชาติพิมพ์เงินออกมา มากกว่าทุนสารองที่มี ก่อให้เกิดการลดลงของ’อานาจซื้อ’ ในอัตราเร่ง !
ในอดีตตั้งแต่ช่วงต้น ศตวรรษที่ 19 (ราวปี 1875-1914) ทั่วโลกใช้มาตรฐาน Gold Standard system 
ถูกใช้เป็นมาตรฐานระบบการเงิน ซึ่งกาหนดความแตกต่างด้วยปริมาณทองคาสารองระหว่างสกุลเงินของ 2 ประเทศ ประเทศสมาชิก จะต้องใช้ทองคาเป็นทุนสารองเงินตราและกาหนดค่าของเงินเทียบไว้ กับทองคา นาเข้าและส่งออกทองคาได้อย่างเสรี ปรับปริมาณให้เป็นสัดส่วนเกี่ยวกับทองคา และอนุญาตให้ประชาชนนาเงินมาแลกเปลี่ยนเป็นทองคาได้โดยไม่จากัดจานวน 
***สมมติให้เงิน 1 บาทเทียบค่าเท่ากับทองคาบริสุทธิ์หนัก 0.036833 กรัม และดอลลาร์สหรัฐฯ 1 ดอลลาร์เทียบค่าเท่ากับทองคาหนัก 0.73666 กรัม 
จะคานวณอัตราแลกเปลี่ยนภายใต้ระบบมาตรฐานทองคาได้เท่าไร ทองคาหนัก 0.036833กรัม เท่ากับ เงิน 1บาท ทองคาหนัก 0.736666 กรัม เท่ากับ เงิน (0.73666)/(0.036833) = 20 บาท 
ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 20 บาท 
ด้วยการกาหนดอัตราแลกเปลี่ยนขนานไปกับ จานวนทองคาที่มีสารอง การจะพิมพ์เงิน (หรือจริงๆ คือตั๋วเงิน ตัวแทนของทอง ) ออกมามากย่อยเป็นไปไม่ได้ เพราะทองคามันพิมพ์ออกมาไม่ได้ง่ายเหมือนกระดาษ !
หลังปี 1945 หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐซึ่งเป็นฝ่ายที่นาชัยชนะมา เริ่มทาตัวเป็นชาติมหาอานาจ ตั้งตัวเป็นเจ้าโลกแทน อังกฤษที่เสื่อมอานาจลง และตั้งมาตรฐานใหม่ที่ประเทศต่างๆทั่วโลกต้องค้าขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุนี้ดอลล่าจึงได้กลายเป็นสกุล เงินสาคัญของโลก และเงินสกุลทั่วโลกจะผูกค่าเอาไว้นิ่งกับค่าดอลลาร์ อานาจครอบงาจากดอลลาร์จึงเกิดขึ้น แต่ การจะพิมพ์ธนบัตร ดอลลาร์ออกมาให้พอกับความต้องการ รัฐบาลสหรัฐจาเป็นต้องมีทองคาหนุนหลัง อเมริกาจึงต้องการทองคามาเพื่อพิมพ์ดอลล่า เพราะฉะนั้นประเทศใดต้องการดอลลาร์ก็ต้องเอาทองคาไปแลก แล้วจะแลกในอัตราเท่าไหร่ดี ประเทศต่างๆจึงได้ร่วมประชุมกันที่เมืองเบรตตัน วูดที่สหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1935 เรียกว่า ข้อตกลงเบรตัน วูดส์(ซึ่งจากการประชุมครั้งนี้ก็เป็นต้นกาเนิดของธนาคารโลกและกองทุนการเงิน ระหว่างประเทศในเวลาต่อมา) เพื่อตกลงกันในการกาหนดมูลค่าดอลลาร์ ในการประชุมครั้งนั้น ที่ประชุมตกลงกันว่าทองคา 1ออนซ์มีมูลค่า 35ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าถ้ารัฐบาลสหรัฐต้องการจะพิมพ์ธนบัตรออกมา 35ดอลลาร์ก็ต้องมีทองคาหนุนหลัง 1ออนซ์
ในภาวะปกติ รัฐจะพิมพ์ธนบัตร ออกมา ได้ในปริมาณ ที่ไม่มากไปกว่า เงินทุนสารอง ระหว่างประเทศ ที่มีอยู่ หากพิมพ์ออกมามากเกินไป จะทาให้ค่าเงินออนค่า และขาดความ น่าเชื่อถือ ในสายตาของประชาชน และต่างชาติ
แต่ในปี 1955 อเมริการพาตัวเองเข้าสู่สงครามเวียดนาม ภาระการเงินการคลัง ที่แบกรับมากเกินของรัฐบาลอเมริกัน ทาให้ดอลลาร์เริ่มมีค่าน้อยลงกว่าทองคา สหรัฐขาดดุลการค้ามากขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศเริ่มแคลงใจ สงสัยว่าสหรัฐพิมพ์แบงค์ ออกมาใช้มากกว่าทองคาที่เป็นทุนสารองอยู่ ประเทศต่างๆ จึงนาดอลล่าร์ไปแลกทองคากลับมา กอดไว้ก่อนดีกว่า และแน่นอน สหรัฐไม่มีปัญญา หาทองคาจานวนมหาศาล มาให้ทุกประเทศแลกคืนได้พอหรอก
ในปี 1971 ริชาร์ดนิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยนั้น ได้ยกเลิกข้อตกลง ‘เบรตัน วูดส์’ (พูดง่ายๆว่าชักดาบเอาซึ่งๆหน้า) ฉีกสัญญาเรื่อง ระบบมาตรฐานทองคายุติการซื้อขายทองคากับดอลลาร์เอาดื้อๆ เป็นการฉีกข้อตกลงเบรตันวูดส์อย่างสิ้นเยื่อใย และแน่นอน ประเทศอื่นก็ทา อะไรไม่ได้ ใน ค.ศ. 1971 รัฐบาล สหรัฐเลิกใช้ระบบเบรตตันวูดเพียงฝ่ายเดียว พูดง่ายๆก็คือต่อจากนี้ไปสหรัฐจะพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกมาโดย ไม่ต้องมีทองคา หนุนหลัง ในปีนั้นเองราคาทองคาได้พุ่งพรวดขึ้นไปเป็น 850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้เพราะมีการแอบพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ ออกมามากเกินกว่าที่กาหนดไว้ในตอนแรก ! ประเทศอื่นจะทาอะไรก็ไม่ได้ เพราะศักยภาพทางการทหารตอนนั้น ไม่มีใครเทียบอเมริการได้ และเหตุผลหลักอีกอย่างคือ ทุกประเทศได้เห็นศักยภาพของระเบิดปรมณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา นางาซากิ เสียราบไปทั้งเมือง !
ซิมบับเว พิมพ์เงินออกมามาก จนทาให้เกิด Hyper Inflation เศรษฐกิจของประเทศล้ม แต่อเมริกา มันก็พิมพ์เงินออกมาตั้งเยอะ เหมือนกัน แล้วทาไม เงินดอลล่าห์ ยังคงมีค่าอยู่ และถูกใช้อย่างแพร่หลาย มาจนถึงทุกวันนี้ล่ะ ?
คาตอบคือ ’Petro Dollar’ ระบบ Petro Dollar+ศักยภาพทางการทหารอันเกรียงไกร คือสิ่งที่ กลุ่มAnglo American ใช้เป็นตัว Back Up$ Dollar แทนที่ระบบ Gold Standard…
กลุ่ม OPEC ที่เป็นเจ้ามือกาหนดราคาน้ามันของโลก
ซาอุดิอาระเบียคือประเทศที่ส่งออกและผลิตน้ามันได้มากที่สุด และเป็นพี่เบิ้มในกลุ่ม OPEC และเป็นประเทศที่อเมริกาได้ทาข้อตกให้กลุ่ม OPEC ขายน้ามันเป็น $ เท่านั้น แลกกับการคุ้มครองทางการทหารของอเมริกา ข้อตกลงนี้ทาในปี 1971 หลังจากยกเลิกมาตรฐานทองคานั้นเอง !
การปั่นราคาน้ามันโลกให้สูงขึ้นเพื่อสร้างความต้องการซื้อดอลลาร์ให้อยู่ในระดับเดิม ลองนึกดูซิว่า เหตุการณ์ไหนบ้างที่ทาให้ราคาน้ามันขึ้นง่ายที่สุด ใช่ สงครามไงล่ะ !
ท้ายสุด คนที่ออมเงิน จะเป็นผู้แพ้ ! 
หากอัตราเงินเฟ้อ เท่ากับ 3% ทบต้น ในระยะเวลาแค่ 17 ปี อานาจซื้อของเงินจะลดลง 50% !!!
ที่เห็นได้ชัดมากคือ ราคาข้าวของที่เพิ่มมากขึ้น สวนทางกับอานาจซื้อ ที่ลดลงของเงิน
ทุกวันนี้เราอยู่ในยุค ที่ดอกเบี้ยต่าติดดิน และประเทศมหาอานาจทั่วโลก กาลังพิมพ์เงิน เข้าสู่ระบบ ในปริมาณที่มหาศาล เกินกว่าที่ตัวน้องจะจินตนาการได้ เพื่อแก้ปัญหา วิกฤติเศรษฐกิจ ของประเทศตัวเอง ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2008จาก อเมริกา ลามไปถึงยุโรป แต่ผลกระทบนี้ มันลามไปทั่วทุกมุมโลก เพราะโลกเราทุกวันนี้ เชื่อมถึงกันหมด
ไม่ใช่แค่ ซิมบับเว ที่พิมพ์เงินเข้าสู่ระบบ อเมริการก็ทา ยุโรป ก็ทา ญี่ปุ่น ก็ทา !
ความเข้าใจที่ผิดเรื่องการออม เคยได้ยินผู้ใหญ่พูดแบบนี้ไหม ? “ทำงำนเก็บเงินเยอะๆ จะได้เอำไปฝำกธนำคำร กินดอกเบี้ย สบำยๆ” ทาไมความเชื่อที่ว่า กำรออมเงินในธนำคำร จึงเป็นเรื่องที่ผิด ?
เราอยู่กันคนละยุคสมัย กับคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่เรา ในวัฏจักร ของดอกเบี้ย
ระบบเงินกระดาษ (fiat currency system )มีอายุขัย โดยเฉลี่ย 94 ปี
การออมคืออะไร ? -คือการรักษามูลค่าของ อานาจซื้อ -คือสิ่งที่ปกป้องเราจากเงินเฟ้อ -คือการรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว การออม มี 2 แบบ แบบที่ 1. เพื่อรักษาสภาพคล่อง ยามฉุกเฉินมากๆ เช่น เก็บเงินสดในธนาคาร แบบที่ 2. เพื่อรักษามูลค่าของความมั่งคั่ง เช่น ออมใน ทอง อัญมณี หรือในที่ดิน หรือ ในหุ้นที่มีพื้นฐานกิจการที่แข็งแกร่ง เพื่อ รักษาอานาจซื้อของเราไว้ ตราบนานเท่านาน 
1.สภาคล่อง (เงินสด) 1.1 Safetyออมไว้ อย่างต่าสาหรับค่าใช้จ่าย 6เดือน เช่น น้องมีรายจ่าย/เดือน อยู่ที่ 20,000บ. ให้เก็บเป็นเงิน สารองฉุกเฉินไว้อย่างต่า 120,000เพื่อหากเวลาไหนที่น้องไม่มีรายได้ เช่น ตกงาน น้องจะได้ มีเงินใช้ ไม่ เดือดร้อน ต้องไปกู้ยืมใคร
Tip: เทคนิคการ ออมเงิน เจ๋งๆ ที่ทุกคนทาได้ ! 
1. แบงค์ 50 ห้ามใช้ -เวลาซื้อของแม่ค้าทอนเงินมา เป็นแบงค์ 50 เมื่อไหร่ ท่องไว้เลยไว้ ห้ามใช้ 
2. ก็บเข้ากระปุกเท่ากับข้าวกลางวันทุกมื้อ 
3.แบ่งเงินใส่ถุง 
วิธีนี้ หลายคนน่าจะเคยเห็น แต่ยังไม่เคยลงมือทา แต่มันเป็นวิธี ที่ได้ผลจริงๆ !! จะทาให้เรารู้ลิมิตการใช้เงิน ในแต่ละวัน และวางแผนล่วงหน้า แบบปลายเดือน ไม่มีทางช๊อตแน่นอน !!! 
4. แยกกระปุก ถ้าเป็นคนชอบเที่ยว แนะนาวิธีนี้เลย มีหลายๆกระปุกแล้วแปะป้ายชื่อ เช่น มัลดีฟ ญี่ปุ่น เชียงใหม่ 
5. เก็บ เหรียญ แต่ละวันเหลือเหรียญเท่าไหร่ หยอดออมสินคอนโด ให้หมด
คุณสมบัติ ของทรัพย์สิน ที่จะสะสมเพื่อ ออม เพื่อรักษาระดับความมั่งคั่ง 1.ต้องเป็นสิ่งที่ ผลิตเพิ่มไม่ได้ หรือได้ ก็ทายาก และมีต้นทุนสูง 2.ต้องเป็น สิ่งที่ไม่เสื่อมค่าตามกาลเวลา 3.ต้องเป็นสิ่งที่ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน ‘คน’ ก็ยังต้องการและให้มูลค่า กับมันอยู่เสมอ มี ‘ปริมาณ’น้อยกว่า ‘ความต้องการ‘เสมอ 4.คนที่เห็นค่า ต้องเป็นคนกลุ่มใหญ่ (Mass ) ไม่ใช่แค่คนกลุ่มเล็กๆ
ข้อดีของ เงินเฟ้อ คือ ทาให้ Asset ราคาสูงขึ้น !
2.สินทรัพย์ เพื่อรักษาความมั่งคั่ง (ด้วยการออม)
หลักการเหล่านี้ มันพื้นฐานมาก เป็นความรู้ที่หาได้ง่ายๆ ทั่วไป เป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ก็รู้ แต่ทาไมคนเหล่านั้น ถึงทาไม่ได้ คาตอบคือ คนเหล่านั้น ติด ‘กับดักของ ชนชั้นกลาง’ !
กรณีศึกษา ตระกูลจิราธิวัฒน์ 
Land Lord แห่งเมืองไทย ซึ่งมีนโยบายประจาตระกูลว่า ที่ดินของตระกูล ถ้าลูกหลานคนไหนขาย ให้ไล่ออกจากกองมรดก !
ห้างเซ็นทรัลก่อตั้งในปี พ.ศ. 2490 โดย เตียง จิราธิวัฒน์ (นี่เตียง แซ่เจ็ง) และ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ (ฮกเส่ง แซ่เจ็ง) บุตรชายคนโต
เวลาแค่ 60กว่าปี แค่ช่วงอายุคน รุ่นเดียว สามารถสร้าง ความแตกต่าง ทางฐานะ ให้กับคนเรา ราวฟ้ากับเหว...
ชีวิตคนเรา ยาวนานเพียงพอ ที่จะทาให้ ลูกคนจน คนหนึ่ง กลายเป็มหาเศรษฐี และทาให้ลูกเศรษฐี กลายเป็น คนจนได้ ตัวอย่างเช่น ตระกูลจิราธิวัฒน์

More Related Content

Featured

2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by Hubspot2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by HubspotMarius Sescu
 
Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTExpeed Software
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsPixeldarts
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthThinkNow
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfmarketingartwork
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsKurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summarySpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentLily Ray
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best PracticesVit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementMindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...RachelPearson36
 

Featured (20)

2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by Hubspot2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by Hubspot
 
Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 

04 aom+invest 6.2 v.4