วิชาการจัดการพาณิชย์นาวี บทที่ 10 ศูนย์ศรีราชา
•Download as PPT, PDF•
2 likes•1,405 views
ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ค่าระวาง และค่าภาระ ต้นทุนค่าใช้จ่าย
Recommended
More Related Content
Featured
Featured (20)
วิชาการจัดการพาณิชย์นาวี บทที่ 10 ศูนย์ศรีราชา
- 1. บทที่ 10 ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ค่าระวาง และค่า ภาระ ต้นทุนค่าใช้จ่าย บรรยายโดย ขวัญชัย ช้างเกิด MBA Logistics Ramkhamhaeng
- 2. เอกสารอ้างอิง • เอกสารอ้างอิง กรมการขนส่งทางนำ้า และพานิชยนาวี กระทรวง คมนาคม • หนังสือการจัดการกิจการพานิชยนาวี ผศ.น.ท.สำาราญ ทองเล็ก 2551
- 3. เมื่อพิจารณาในภาพรวมของภาคการ ขนส่งโดยแบ่งตามประเภทของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะ สามารถแบ่งต้นทุนที่เกิดขึ้นได้เป็น 3 ส่วน คือ ต้นทุนผู้ประกอบการขนส่ง ต้นทุนของภาครัฐ และต้นทุนภายนอก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ค่าระวาง และค่า ภาระ ต้นทุนค่าใช้จ่าย
- 4. คือ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ขนส่งจากจุดต้นทาง ไปจนถึงจุดปลายทาง สามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น 2 ประเภท คือ 1.ต้นทุนที่ปรับตัวตามกิจกรรมการผลิต โดย เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปริมาณหน่วยการผลิต เช่น ต้นทุนแรงงานทางตรง ต้นทุนค่านำ้ามัน เชื้อเพลิงในการขนส่งแต่ละเที่ยว ต้นทุนค่า เบี้ยเลี้ยงพนักงานขับรถ ต้นทุนในการ จัดการพิธีการเอกสารในการขนส่ง เป็นต้น 2.ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการ ผลิต เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริหารอาคาร สำานักงาน ค่าเช่าโกดัง ค่าประกันภัย ฯลฯ
- 5. ต้องรับผิดชอบเพื่อให้ระบบการขนส่งของ ประเทศดำาเนินการไปอยู่อย่างมี ประสิทธิภาพ อาทิ ต้นทุนการก่อสร้างและ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์อำานวย ความสะดวกทางการขนส่ง เช่น ท่าเรือ สถานีขนส่ง ถนน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน รวมไปถึงต้นทุนในการบำารุงรักษาให้ โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำานวยความ สะดวกเหล่านี้คงประสิทธิภาพในการใช้งาน อีกด้วย
- 6. คือ ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ที่แม้จะไม่มีการ บันทึกทางบัญชี แต่เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการขนส่งที่สร้าง ภาระต่อภาคเศรษฐกิจหรือกลุ่มสังคม อาทิ ต้นทุนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการขนส่งต้นทุน ด้านการจราจรแออัด ที่ท่าขนส่ง อันก่อให้ เกิดเป็นภาระต้นทุนด้านเวลาที่ใช้ในการ เดินทาง และต้นทุนมลภาวะจากการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นเสียง เป็นต้น
- 7. วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง วิธีการคิดต้นทุนสามารถแบ่งออกได้ เป็น 2 ประเภท คือ •วิธีการคิดแบบเดิม •วิธีการคิดต้นทุนตามกิจกรรม
- 8. วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง วิธีการคิดต้นทุนแบบเดิม สามารถแบ่ง ต้นทุนออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.ต้นทุนการผลิต เป็นต้นทุนที่เกิดจากการ แปลงวัตถุดิบให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ ต้นทุนแรงงานทางตรง และค่าโสหุ้ยในการ ผลิต 2.ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวกับการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ แบ่งตามแผนกงานของธุรกิจ เช่น ต้นทุนการ ตลาด เช่น ค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ต้นทุนการวิจัยและพัฒนา และต้นทุนการ บริหารทั่วไป เช่น เงินเดือนพนักงานใน บริษัท ต้นทุนค่าวัสดุสำานักงาน ฯลฯ
- 9. การคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง •วิธีการคิดต้นทุนตามกิจกรรม Activity Based Cost (ABC) เป็นวิธีการคิดต้นทุนสมัยใหม่ที่นิยมใช้ ในธุรกิจในปัจจุบัน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ยานพาหนะ การซื้อ การขาย การกระจายสินค้า การสร้างความ สัมพันธ์กับลูกค้า ล้วนเกี่ยวข้องกับการผลิต สินค้าหรือบริการ และการดำาเนินกิจกรรม เหล่านี้ย่อมเกี่ยวข้อโดยตรงกับการใช้ “ ”ทรัพยากร ซึ่งในทางบัญชีเรียกว่า ต้นทุน ต้นทุนในการขนส่งทาง ทะเล จำาแนกเป็น 2 ประเภทคือ ต้นทุนคงที่ และ
- 10. ต้นทุนบริการทั้งหมด = ต้นทุน กิจกรรมทั้งหมด จำานวนครั้งของการบริการ รคิดต้นทุนตามกิจกรรม Activity Based Cos
- 11. การคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง ต้นทุนคงที่ หมายถึง ต้นทุนซึ่งเกิดขึ้นไม่ว่า เรือจะถูกใช้งานหรือไม่ก็ตาม และจะเกิดขึ้นทั้ง ขณะที่เรืออยู่ในทะเลและอยู่ที่ท่าเรือ ค่าใช้จ่ายปฏิบัติการ ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมบำารุง ค่าโสหุ้ยของผู้ประกอบ การ
- 12. วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่เกิดขึ้นขณะที่เรือ เดินทางและจอด ไม่ว่าในขณะนั้นเรือจะ บรรทุกสินค้าหรือไม่ก็ตาม สามารถจำาแนกได้ ดังนี้ 1.ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง 2.ค่าเกลี่ยและจัดวางสินค้า (สำาหรับสินค้าเทกอง ) 3.ต้นทุนการรวบรวมและนำา ส่งสินค้า 4.ค่าใช้จ่ายในการบรรทุก และสินค้าขึ้นลง
- 13. วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่เกิดขึ้นขณะที่เรือ เดินทางและจอด ไม่ว่าในขณะนั้นเรือจะ บรรทุกสินค้าหรือไม่ก็ตาม สามารถจำาแนกได้ ดังนี้5.ค่าใช้จ่ายในการใช้ท่าเรือ 1.ค่าธรรมเนียมท่าเรือ 2.ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง 3.ค่าใช้จ่ายสำาหรับระยะ เวลาที่จอดอยู่ที่ท่าเรือ 6.ค่าใช้จ่ายผ่านคลอง
- 14. 7.ค่าใช้จ่ายคอนเทนเนอร์ 1.สามารถจำาแนกออกได้เป็น 2 ส่วน คือ ต้นทุนในการจัดหาตู้คอนเทนเนอร์ และ ต้นทุนในการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ผู้ประกอบ การจะมีวิธีการจัดหาตู้คอนเทนเนอร์ได้ 2 วิธี โดยการซื้อและการเช่าซึ่งการชำาระค่า เช่าอาจกระทำาเป็นรายปีหรือตามช่วงเวลา ที่กำาหนดก็ได้ วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่เกิดขึ้นขณะที่เรือ เดินทางและจอด ไม่ว่าในขณะนั้นเรือจะ บรรทุกสินค้าหรือไม่ก็ตาม สามารถจำาแนกได้ ดังนี้
- 15. 8.ต้นทุนชดใช้กรณีสินค้าเสียหาย เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในกรณีที่สินค้าที่เรือเดิน ประจำาเส้นทางรับขนเกิดการเสียหายหรือ สูญหายในขณะทำาการขนส่งโดยสาเหตุที่ ความเสียหายนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของ เรือเดินประจำาเส้นทางนั้น 9.ค่าเงินตอบแทนพิเศษ/เงินชดเชย แต่ถ้าขนสินค้าช้ากว่ากำาหนดไว้ในสัญญา เช่าเรือ ผู้ใช้เรือจะต้องรับผิดชอบและเสีย ค่าปรับให้เจ้าของเรือ เรียกว่า demurrage ถ้าผู้ขนส่งหรือผู้รับสินค้าสามารถทำาได้เร็ว กว่าที่กำาหนด บริษัทเรือจะจ่ายเงิน ตอบแทนพิเศษให้เรียกว่า dispatch วิธีการคำานวณต้นทุนของผู้ ประกอบการขนส่ง ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่เกิดขึ้นขณะที่เรือ เดินทางและจอด ไม่ว่าในขณะนั้นเรือจะ บรรทุกสินค้าหรือไม่ก็ตาม สามารถจำาแนกได้ ดังนี้
- 20. องค์ประกอบของ ค่าระวางเรือ ระวางพื้นฐาน (Basic Rate) อัตรานี้จะขึ้นกับต้นทุนประกอบการขนส่ง ทางเรือ ซึ่งชมรมการเดินเรือจะประกาศขึ้น อัตรานี้ เมื่อต้นทุนสูงขึ้นโดยคิดเป็นอัตราร้อย ละของค่าระวางพื้นฐานปรับอัตราค่าระวางสูง ขึ้นหรือลดลงมาจากปัจจัย 3 ประการ คือ 1.อุปสงค์ในตลาดสินค้า ถ้าเศรษฐกิจ รุ่งเรืองและเกิดการเก็บกำาไรสินค้า จะส่งผล ให้อุปสงค์ในตลาดสินค้าเพิ่มขึ้นอย่าง รวดเร็ว 2.อุปทานของเรือ มีผลในทิศทางตรงกัน ข้ามกับอุปสงค์ในตลาดสินค้า 3.ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ภาวะ สงคราม ค่าของเงิน เป็นต้น
- 21. องค์ประกอบของ ค่าระวางเรือ รรมเนียมพิเศษ (Surcharge)อัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มพิเศษใช้เป็นการขึ้น ค่าระวางเรือทางอ้อม เมื่อต้นทุนของบริษัทเพิ่ม ขึ้นอย่างกะทันหัน ค่าธรรมเนียมพิเศษนี้ประกอบ ด้วย 3 ส่วนคือ1.ค่าธรรมเนียมพิเศษที่ชมรมเรือประกาศให้ สมาชิกใช้เรียกเก็บในอัตราเดียวแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.ปรับค่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 2.ปรับราคานำ้ามัน
- 23. องค์ประกอบของ ค่าระวางเรือ 3.ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เป็นค่าธรรมเนียมที่ เกิดขึ้นในลักษณะค่าภาระเสริมซึ่งมี 2 ประเภท คือ 1.ค่าธรรมเนียมค่าภาระหน้าท่า ค่า ธรรมเนียมเกี่ยวกับการขนถ่ายสินค้า บริเวณท่าเรือ 2.ค่าธรรมเนียมเอกสาร (B/L Charge) ได้แก่ ค่าใบตราส่งสินค้าออก รรมเนียมพิเศษ (Surcharge)
- 24. การคิดค่าระวางเรือ Container การขนส่งสินค้าด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ ได้รับการยอมรับเป็นรูปแบบการขนส่ง มาตรฐานตู้คอนเทนเนอร์ เป็นลักษณะตู้ทำา ด้วยเหล็กหรือ อลูมิเนียมมีขนาดมาตรฐาน 20 ฟุต 40 ฟุต บริษัทเรือจะต้องเป็นผู้เตรียมตู้ คอนเทนเนอร์โดยผู้ที่จะใช้ตู้จะต้องทำาเอกสาร การจองตู้ก่อน ในการซื้อขายสินค้าระหว่าง ประเทศคู่ค้า จะต้องมีการตกลงว่า ผู้ซื้อหรือผู้ ขายสินค้า จะเป็นคนจ่ายค่าระวางเรือที่เรียก ว่า Freight Charge หากผู้ขายสินค้าเป็นผู้ ชำาระก็เรียกว่า Freight Prepaid หากจะให้ผู้
- 25. การคิดค่าระวางเรือ (Freight Charge Basic)1) Weight Ton คำานวณจากนำ้าหนักสินค้าที่ บรรทุก และจะมีอัตราการคิดที่แตกต่างกันตาม แต่ละประเภทของสินค้า 2) Measurement คำานวณจากปริมาตรของ สินค้า คือ เป็นการวัดขนาดของสินค้า กว้าง x ยาว x สูง คำานวณออกมาเป็น ลูกบาศก์เมตร (M3 หรือ CBM) มักจะใช้กับสินค้าที่มีลักษณะ Bulk คือ มีลักษณะเป็น Size Insentive เช่น เสื้อผ้า , ฝ้าย แต่ทั้งที่จะต้องมีการชั่งนำ้าหนัก โดยเปรียบเทียบว่า หากนำ้าหนัก (Weight Ton) สูงกว่า ก็จะคิดค่าระวางจากนำ้าหนัก
- 26. การคิดค่าระวางเรือ (Freight Charge Basic) 3) V (Ad Valorem Goods) คำานวณจาก Degree สินค้ามีราคาสูง ถึงแม้ว่าจะมีปริมาตร น้อย นำ้าหนักไม่มาก แต่ต้องได้รับการดูแลเป็น พิเศษ การคิดค่าระวางก็จะคิดเพิ่มอีก 3-5 เท่า ตามมูลค่าสินค้า 4) ค่าระวาง พิเศษ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทั้งหลายที่ บริษัทเรือ คิดเพิ่มเติมจากค่าระวางพื้นฐาน ซึ่ง ประกอบด้วย
- 27. การคิดค่าระวางเรือ (Freight Charge Basic)(1) ค่าระวาง Surcharge เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ ที่มีการเรียกเก็บ เนื่องในกรณีต่างๆ เช่น ภัย สงคราม หรือในช่วงที่มีการ Peak Season (2) Terminal Handling Charge : THC เป็น ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการ ขนถ่ายสินค้าทั้ง ต้นทางและปลายทาง ได้แก่ การใช้เครนที่ เรียกว่า Top คือ ค่าภาระ , ค่าลากตู้สินค้า (3) Bunker Adjustment Factor : BAF เป็น ค่าระวางพิเศษ ชดเชนภาระค่านำ้ามันเชื้อ เพลิงที่มีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิด วิกฤติการณ์ด้านนำ้ามัน ซึ่งทำาให้บริษัทเรือมี ต้นทุนที่สูงขึ้นกว่าต้นทุนปกติ ก็จะมีการเรียก เก็บค่า BAF หรือที่เรียกง่ายๆว่า Bunker 4) ค่าระวาง พิเศษ
- 28. (4) Currency Adjustment Factor : CAF เป็นค่าปรับอัตราแลก เปลี่ยนเงินตรา โดยค่า ระวางเรือส่วนมาก จะเรียกเก็บเป็นเงินสกุล ดอลล่าห์สหรัฐฯ หากกรณีอัตราแลกเปลี่ยนมี การผกผัน ทางบริษัทเรือก็จะมีการเรียกเก็บ (5) Congestion Surcharge เป็นค่าใช้จ่าย พิเศษเนื่องจากความแออัดในท่าเรือ เป็นค่า ใช้จ่ายที่เรียกเก็บเนื่องจากบางท่าเรืออาจมี การบริหารจัดการไม่ดี ทำาให้มีการขนย้ายตู้ ขึ้นและลงล่าช้ากว่าเกณฑ์ที่ทางบริษัทเรือ กำาหนดไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากเหตุอื่น เช่น การ การคิดค่าระวางเรือ (Freight Charge Basic) 4) ค่าระวาง พิเศษ
- 29. การคิดค่าระวางเรือ (Freight Charge Basic) 4) ค่าระวาง พิเศษ (6) Bill of Lading Charge : B/L Charge ค่าออกใบตราส่ง เป็นค่าธรรมเนียมในการที่บริษัทเรือต้องจัดพิมพ์ใบ Bill of Lading ซึ่งเป็นเอกสารสำาคัญที่ใช้ในการแสดงสถานะภาพ (Status) ว่าสินค้าได้มีการขนส่งไปกับบริษัทเรือ ซึ่ง B/L หรือ ที่เรียกว่าใบตราส่งจะมีออกเป็นหลายฉบับ เช่น ฉบับที่เรียก ว่า Original , Duplicate Original , Triple Original และ Copy Non-Negotiate ทั้งหมดนี้ทางบริษัทเรือจะเรียกเก็บ เป็นค่าใช้จ่ายในการทำาเอกสาร (7) AMSC : Advance Manifest Security Charge เป็นค่าใช้ จ่ายในการที่บริษัทเรือต้อง Input Data 24 ชั่วโมงก่อนการ ขนถ่ายสินค้า ที่เรียกว่า 24 Hour Rules ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ มาตรการความร่วมมือ การป้องกันผู้ก่อการร้ายที่เรียกว่า C- TPAT (Customs Trade Partnerships Against Terrorism) ซึ่งประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำาดับสุดท้ายของ Top Twenty Mega Port ในการขนส่งสินค้า จึงต้องเสียค่า AMSC Charge รวมถึงการแก้ไขเอกสาร