Recommended
More Related Content
Featured
Featured (20)
Final project
- 4. ประวัติความเป็นมาของข้าว การปลูกข้าวนั้นเกิดขึ้นควบคู่ไปกับวัฒนธรรมไทยมากว่า 5,500 ปีมาแล้ว โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สาคัญ ก็คือเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นภาชนะไว้ใส่ข้าว ในสมัยสุโขทัยศิลาจารึกยังถูกบันทึกไว้ด้วยข้อมูลที่ระบุถ้อยคาว่า "ในน้ามี ปลา ในนามีข้าว" นอกจากนี้สิ่งที่สาคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คือการเปิดเสรีทางการค้ากับต่างประเทศในสมัยอยุธยา ด้วยเหตุนี้จึงทาให้ข้าวเข้ามามีบทบาทสาคัญในการเป็นสินค้าส่งออกของประเทศไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- 5. สารอาหารและความสาคัญทางโภชนาการของข้าว ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรกว่าครึ่งโลก ข้าวเป็นแหล่งพลังงานหลักของประชากรมาก ว่าว 17 ประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 9 ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และ 8 ประเทศ ในทวีปแอฟริกา ร้อยละ 20 ของแหล่งพลังงานประชากรโลกเป็นข้าว ร้อยละ 19 และ 5 เป็นข้าวสาลีและข้าวโพด
- 6. คุณค่าทางโภชนาการของข้าวแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ข้าวที่อยู่ระหว่างสีขาว, สีน้าตาล, สีแดงและสีดา (หรือสีม่วง) พันธุ์ข้าวแต่ละพื้นที่แพร่หลายใน ส่วนต่างๆของโลก นอกจากนี้คุณภาพของสารอาหารข้าวจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูกข้าว และวิธีการ แปรรูปข้าวพร้อมก่อนที่จะบริโภค
- 7. ประเภทของข้าว • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ • ข้าวขาว (ใช้เป็นวัตถุดิบในการทาแกงข้าว) • ข้าวซ้อมมือ • ข้าวกล้อง • ข้าวกล้องงอก • ข้าวหอมนิล • ข้าวเหนียว • ข้าวแดง
- 10. ข้้าวเบ๊อะ หรือในภาษาพื้นเมืองของชาวปกาเกอะญอจะเรียกว่า “ต่าพอเพาะ”ปกาเกอะญอเป็นกลุ่มย่อยของชาวกะเหรี่ยงที่อาศัย อยู่บนเทือกเข้าสูงจังหวัดเชียงราย เป็นอาหารที่มีประวัติเล่ากันว่า วันหนึ่งมีข้าวสารเหลืออยู่น้อยมาก เกรงว่าจะไม่พอกินกันจนครบคน จึงใช้วิธีการไปเก็บเอาผักสารพัด ชนิดที่มีอยู่ในสวนมาปรุงรวมกับข้าวที่ เหลือน้อยนิดนั้น ผลปรากฏ ว่าอาหารมื้อนั้นทาให้อิ่มกันทุกคน
- 11. ซึ่งมีความสาคัญต่อจิตใจในทุกครั้งที่มีงานสาคัญ เช่น ปีใหม่ พิธีเรียกขวัญ ทาบุญต่างๆ ของชาว กะเหรี่ยง ที่มักจะมี “ต่าพอเผาะ” (ข้าวเบ๊อะ) เป็นองค์ประกอบของอาหารมื้อดังกล่าวเสมอ ทั้งนี้นิยม ทานเป็นอาหารเช้ามากกว่าอาหารมื้ออื่นๆ ส่วนประกอบของข้าวเบ๊อะ นั้นขึ้นกับวัสดุที่มีอยู่ กล่าวโดย สรุปคือ มีข้าว ผักต่าง ๆ และเนื้อสัตว์ มาต้มจนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- 12. เครื่องปรุง ข้าวสาร 2 ถ้วยตวง กระดูกอ่อนหมู ½ ก.ก. พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด หอมแดง 10 หัว กระเทียม 2 ช้อนแกง ตะไคร้ 1 หัวใหญ่ ใบชะพลูหรือยอดฟักทอง
- 13. วิธีทา ล้างกระดูกหมูใส่น้าประมาณ 2/3 ของหม้อ เคี่ยวให้เปื่อยและหวาน ใส่ข้าวสารต้มต่อไป โขลกพริก หอมแดง กระเทียม ใส่ลงไปในหม้อ ส่วนตะไคร้ตัดท่อนแล้วทุบใส่ลง ตามด้วย ขมิ้นเล็กน้อย ตั้งต่อไปจนได้ที่ใส่ผัก แล้วปรุงตามใจชอบ
- 15. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ในปัจจุบันนี้การที่แต่ละครอบครัวจะทาอาการกินเองที่บ้านนั้นมีน้อยมาก ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะไปซื้อตามร้านข้าวแกง หรือหรู ขึ้นมาหน่อยก็พากันไปกินที่ร้านอาหาร เพราะมันทั้งสะดวก รวดเร็ว และยังอร่อยอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าราคาของอาหารตาม ร้านอาหารนั้นย่อมแพงตามวัตถุดิบ เครื่องปรุง รวมไปถึงอุปกรณ์ในการทาอาหาร ถ้าหากว่าเราสามารถทาอาหารที่ทั้งง่าย รวดเร็ว และราคาถูกเองที่บ้านได้คงจะดีไม่น้อย ทางครธผู้จัดทาจึงได้ไปเสาะหาสูตรอาหารที่ทั้งทาง่ายและอร่อย มาให้ท่าน ผู้อ่านได้ไปลองทาแองที่บ้าน นั่นก็คือ “แกงข้าวเบ๊อะหรือต่าพอเผาะ”
- 16. โดยแกงข้าวเบ๊อะนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง ถ้าใครหากได้คุ้นเคยหรือใกล้ชิดกับพวกเขาก็จะได้รับเกียรติ ในการชิมแกงข้าวเบ๊อะนี้ ซึ่งพวกเขาจะทาเป็นอาหารสาหรับเลี้ยงต้อนรับแขกเลยทีเดียว โดยแกงข้าวเบ๊อะนี้มี ประวัติเล่ากันมาว่า มีอยู่ครอบครัวหนึ่งพวกเขามีข้าวสารเหลือกันอยู่น้อยมาก กลัวว่าจะไม่พอกินกันครบทุกคน จึง ไปเก็บผักที่อยู่ในสวนมาปรุงรวมกับข้าวที่เหลือจึงทาให้ทุกคนอิ่มท้องกันได้ จึงเป็นที่มาของแกงข้าวเบ๊อะซึ่งมี ความสาคัญต่อจิตใจในทุกครั้งที่มีงานสาคัญ เช่น ปีใหม่ พิธีเรียกขวัญ ทาบุญต่างๆ ของชาวกะเหรี่ยงที่มักจะมี “แกงข้าวเบ๊อะ” เป็นองค์ประกอบของอาหารมื้อดังกล่าวเสมอ ทั้งนี้ยังนิยมทานเป็นอาหารเช้ามากกว่าอาหารมื้อ อื่นๆ ส่วนประกอบของแกงข้าวเบ๊อะนั้นขึ้นกับวัสดุที่มีอยู่ กล่าวโดยสรุปคือ มีข้าว ผักต่าง ๆ และเนื้อสัตว์ มาต้ม จนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- 18. หลักการและทฤษฎี ส่วนผสมและอุปกรณ์ 1. หม้อต้มอาหาร 2. ข้าวสาร ประมาณ 1 กามือ 3. เนื้อหรือกระดูกหมู 4. ผักชนิดต่างๆ เช่น ยอดฝักทอง และอื่น ๆ 5. เครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น เกลือ พริก ต้นหอม ผักชี เส่อหลื่อส่า(ผลตะไคร้ต้น) และอื่น ๆ ตามที่ชอบ
- 19. ขั้นตอนในการประกอบอาหาร 1. นาน้าสะอาดเทลงหม้อแล้วต้มในเตาไฟให้เดือด 2. นาข้าวสารใส่ลงหม้อที่ตั้งไว้ ปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง 3. นากระดูกหมูเทตามลงไป รอจนกว่าข้าวสารและเนื้อจะเปื่อย 4. นายอดผักที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อข้าวสารและเนื้อ คอยทาการคนเป็นระยะ ๆ กับควบคุมความร้อนให้ได้ระดับ ระวังอย่าให้ไหม้ก้นหม้อ 5. ใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ ตามลงไปในหม้อ ต้มและคอยคนให้เข้ากันจนข้นเป็นเนื้อเดียวกัน 6. ตักข้าวเบ๊อะใส่จานแล้วรับประทานได้เลย โอกาสและระยะเวลาในการทา การทาข้าวเบ๊อะหรือ “ต่าพอเผาะ” สามารถ ทาเมื่อใดก็ได้ แต่ชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่จะนิยมทาตอนที่มีพิธีกรรมในชุมชนหรือในครอบครัว กับทา เมื่อมีแขกมาเยี่ยมบ้าน เพื่อเลี้ยงสู่แขก อย่างไรก็ตาม “ต่าพอเผาะ” นิยมทานตอนเช้าเพราะเป็นช่วงที่มีเวลาทากับข้าวมาก ข้อห้าม ข้อปฏิบัติ และความเชื่ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของชาวกะเหรี่ยงอีกชนิดหนึ่ง ไม่มีข้อห้ามใด ๆ ทั้งนี้ นอกจากอร่อยแล้วยังมีความเชื่อว่าแกงข้าวเบอะนี้จะเพิ่มสารอาหารให้ร่างกายด้วย
- 22. ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) คนส่วนมากได้รู้จักแกงข้าวเบ๊อะ และสามารถนาสูตรอาหารไปทาในชีวิตประจาวันเองได้ สถานที่ดาเนินการ -โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่ -บ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู ้ที่เกี่ยวข้อง -การงานอาชีพฯ