3. การควบคุมความเร็วรอบ เสื้อฟายเวทจะหมุนและเร่งโดยเฟืองของเพลาขับผ่านทางยางกันกระแทก ส่วนบนสุดของชุดกาวานาคือยาเทนชั่นสปริงกาวานาจะสอดเกี่ยวอยู่โดยมีสลักดึงกลับเกี่ยวอยู่ด้วย แรงดึงของสปริงกาวานาจะทำให้เปลี่ยนไปเพื่อตอบสนองต่อตำแหน่งของขาคันเร่งที่เปลี่ยนไป ปริมาณจะถูกควบคุมโดยกาวานา โดยการร่วมกันระหว่างแรงเหวี่ยงของฟายเวทกับสปริงกาวานาที่ตั้งเอาไว้

4. การควบคุมจังหวะการฉีด ทางด้านแรงดันต่ำของลูกสูบไทม์เมอร์จะมีสปริงไทม์เมอร์อยู่แรงดันของน้ำมันในห้องปั๊มจะทำหน้าที่อยู่ทางตรงกันข้าม ตำแหน่งของลูกสูบไทม์เมอร์จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาขึ้นอยู่กับความสมดุลย์ระหว่างแรง 2 แรงนี้ แผ่นรอลเลอร์จะหมุนย้อนทางกับทางหมุนของปั๊ม

5. ฟีดปั๊ม ฟีดปั๊ม ประกอบด้วย ตัวโรเตอร์ ใบโรเตอร์และเสื้อฟีดปั๊ม แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางของการหมุนโรเตอร์จะเหวี่ยงให้ใบโรเตอร์เลื่อนออกมาแตะอยู่กับผิวภายในวงรีของเสื้อโรเตอร์ ทำให้เกิดห้องน้ำมันขึ้น 4 ห้อง และเพิ่มแรงดูดน้ำมันมากจากถังน้ำมัน ในทางกลับกัน เมื่อปริมาตรของห้องทั้ง 4 ห้องลดลงน้ำมันก็จะเกิดแรงดันสูงขึ้น

6. วาล์วควบคุมแรงดัน ปริมาณน้ำมันที่ฉีดป้อนให้กับเครื่องยนต์มีน้อยกว่าปริมาณน้ำมันที่ฟีดปั๊มส่งเข้ามาในห้องน้ำมันของตัวเรือนปั๊ม ในการป้องกันไม่ให้แรงดันมีค่าสูงมากเกินไปในห้องน้ำมันก็จะมีการติดตั้งวาล์วไหลกลับเอาไว้ที่ตัวเรือนปั๊ม เพื่อปรับค่าแรงดันน้ำมันในห้องปั๊มให้อยู่ในค่ากำหนดใช้งานตามปกติ ซึ่งการควบคุมแรงดันของน้ำมันนี้ก็ทำโดยวาล์วควบคุมแรงดัน

7. การทำงานของลูกปั๊ม ลูกปั๊มจะเคลื่อนที่ขึ้นลงได้โดยการเคลื่อนที่ของจานลูกเบี้ยวหมุนเคลื่อนที่ขึ้นลงบนรอลเลอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแผ่นรอลเลอร์ เมื่อช่องทางดูดของลูกปั๊มและช่องทางดูดของเสื้อลูกปั๊มที่ติดอยู่กับหัวเรือนจ่ายหมุนมาตรงกันแล้วมันก็จะวิ่งเข้ามาบรรจุอยู่ในห้องแรงดัน ต่อจากนั้นลูกปั๊มเด้งขึ้นเรื่อยๆ ช่องทางออกจะไปตรงกับช่องทางออกของเครื่องลูกปั๊ม น้ำมันแรงสูงที่อยู่ในห้องแรงดันก็จะพุ่งออกไปตามท่อส่ง

8. จังหวะดูด การทำงานในจังหวะที่ลูกปั๊มถูกดันกลับโดยแรงของสปริง เมื่อรูช่องทางดูดของเสื้อลูกปั๊มมาตรงกับช่องทางดูดของลูกปั๊มน้ำมันที่มีแรงดันในห้องก็จะดันไหลเข้ามาบรรจุในห้องแรงดัน

9. จังหวะส่งน้ำมัน เมื่อลูกปั๊มหมุนและเลื่อนขึ้นโดยจานลูกเบี้ยว ผิวด้านข้างของลูกปั๊มจะทำการปิดรูช่องทางดูดของเสื้อลูกปั๊มและการอัดน้ำมันก็จะเริ่มขึ้นเกือบจะเป็นเวลาเดียวกันนี้ร่องทางส่งของลุกปั๊มก็จะมาตรงกับช่องทาง

10. จังหวะสิ้นสุดการฉีดน้ำมัน เมื่อส่วนบนสุดของคอนโทรลสลีปมาตรงกับรูตัดน้ำมันของลูกปั๊มน้ำมันในตัวลูกปั๊ม (ออกมาจากห้องแรงดันบนหัวลูกปั๊ม) ซึ่งมีแรงดันสูงมากกว่าแรงดันของน้ำมันในห้องปั๊มมาก ก็จะไหลผ่านรูตัดน้ำมันเข้ามายังห้องนั้น

11. จังหวะการจัดน้ำมัน ลูกปั๊มหมุนไปมุม 180° และช่องทางส่งของเสื้อลูกปั๊มก็จะมาตรงกับร่องจัดน้ำมันของลูกปั๊ม ต่อจากนั้นน้ำมันก็จะมีการไหลผ่านระหว่างช่องทางออกของเสื้อลูกปั๊มและดีลิเวอรีวาล์ว แรงดันของน้ำมันจะลดลงโดยระบายเข้าไปยังห้องปั๊ม

12. การป้องกันการหมุนกลับของเครื่องยนต์ ขณะที่ลูกปั๊มหมุนตามปกติตามทางหมุน ช่องทางดูดก็จะเปิด ในขณะที่ลูกปั๊มเลื่อนตัวลงและจะมีประสิทธิภาพในการดูดเอาน้ำมันเข้ามาบรรจุในห้องแรงดันสูง เมื่อในจังหวะอัดช่องทางดูดจะถูกปิดการฉีดก็จะเริ่มเกิดขึ้น

13. การควบคุมปริมาณการฉีดน้ำมัน EFFECTIVE STROKE นี้เป็นระยะที่รูตัดน้ำมันของลูกปั๊มเคลื่อนที่จากจุดต่ำสุดในคอนโทรลสลีปมาถึงจุดผิวหน้าบนสุดของคอนโทรลสลีป ในช่วงระยะการส่งน้ำมัน หลังจากนั้นรูทางดูดของเสื้อลูกปั๊มและช่องทางดูดของลูกปั๊มก็จะผิด เมื่อคอนโทรลสลิปเลื่อนไปทางซ้ายมือเป็นการลด EFFECTIVE STROKE ให้น้อยลง และในทางกลับกันถ้าคอนโทรลสลีปเลื่อนไปทางขวามือเป็นการเพิ่ม EFFECTIVE STROKE และทำให้ปริมาณที่ฉีดออกไปเพิ่มขึ้น