Swimming
- 3. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• กีฬาว่ายน้า (Swimming) ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์สามารถว่าย
น้าได้ตั้งแต่สมัยดึกดาบรรพ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ตั้งภูมิลาเนาอยู่ตาม
ชายทะเล แม่น้า ลาคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์กรีก
และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ากันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เพราะมีผู้พบ
ภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้าในถ้าบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน
- 4. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• การว่ายน้าในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้าข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้
หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้าท่วมป่าและที่อยู่อาศัยก็สามารถพาตัวไปในที่น้า
ท่วมไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย
- 5. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• การว่ายน้าได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มี
หลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้าที่มนุษย์
ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้
พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้าอีกแบบหนึ่ง
โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้าคล้ายกบว่ายน้า หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก
(Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทาให้ว่ายน้าได้ไม่เร็ว
นัก
- 6. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• การแข่งขันว่ายน้าครั้งแรกได้จัดขึ้น วูลวิช บาร์ท (Woolwich Baths) ใกล้
กับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2416 การแข่งขันครั้งนั้นมี
การแข่งขันเพียงแบบเดียวคือ แบบฟรีสไตล์ (Freestyle) โดยผู้ว่ายน้าแต่
ละคนจะว่ายแบบใดก็ได้ในการแข่งขันครั้งนี้ J. Arhur Trudgen เป็นผู้
ได้รับชัยชนะ โดยเขาได้ว่ายแบบเดียวกับพวกอินเดียแดงในอเมริกาใต้
คือแบบยกแขนกลับเหนือน้า ซึ่งเป็นวิธีการว่ายน้าของเขาได้กลายเป็น
แบบที่ได้รับความนิยมมากจนได้ชื่อว่า ท่าว่ายน้าแบบทรัดเจน
(Trudgen stroke)
- 7. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• ประชาชนชาวโลกได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการว่ายน้าเพิ่มมากขึ้น เมื่อ
เรือเอก Mathew Webb ได้ว่ายน้าข้ามช่องแคบอังกฤษจากเมืองโดเวอร์
คาเลียส เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2418 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45
นาที ด้วยการว่ายแบบกบ(Breast stroke) ข่าวความสาเร็จอันนี้ได้สร้าง
ความพิศวงและตื่นเต้นไปทั่วโลก ต่อมาเด็กชาวอเมริกันชื่อ Gertude
Ederle ได้ว่ายน้าข้ามช่องแคบอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2469 ทา
เวลาได้14 ชั่วโมง 31 นาที โดยว่ายน้าแบบท่าวัดวา(Crawa stroke) จะ
เห็นได้ว่าในชั่วระยะเวลา50 ปี
- 8. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• การว่ายน้าได้วิวัฒนาการก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก ถ้าหากได้
พิจารณาถึงเวลาของคนทั้งสองที่ทาได้ แบบและวิธีว่ายน้าได้รับการ
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความเร็วขึ้นเสมอ ในบรรดานักว่าย
น้าทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวแลนเคเชียร ์์และออสเตรเลีย ได้
ดัดแปลงวิธีว่ายน้าแบบทรัดเจนซึ่งก็ได้รับผลดีในเวลาต่อมา
กล่าวคือ Barney Kieran ชาวออสเตรเลียและ T. S. Battersby ชาว
อังกฤษ ได้ว่ายน้าแบบที่ปรับปรุงมาจากทรัดเจน เป็นผู้ครอง
ตาแหน่งชนะเลิศของโลกเมื่อปี พ.ศ.2449-2415
- 9. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• Alex Wickham ชาวเกาะโซโลมอนเป็นผู้ริเริ่มการว่ายน้าแบบ
ท่าวัดวาและเป็นผู้ครองตาแหน่งชนะเลิศของโลก ระยะทาง 50 หลา
เขาได้กล่าวว่าเด็กโซโลมอนทุกคนว่ายน้าแบบนี้ทั้งนั้น ต่อมาท่าว่ายน้า
แบบวัดวาจึงเป็นที่นิยมฝึกหัดกันโดยทั่วไป
- 10. กีฬาว่ายน้า : Swimming
• กีฬาว่ายน้าได้จัดเข้าไว้ในการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี พ.ศ.2436 และ
ได้จัดการแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุดังกล่าวกีฬาว่ายน้าก็ได้รับ
ความสนใจจากคนทั่วไป และถือเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬา
โอลิมปิก มีการพัฒนากีฬาว่ายน้าให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นเป็นลาดับ โดยมีผู้คิด
แบบและประเภทของการว่ายน้าเพื่อความสนุกสนาน และความตื่นเต้น
ในการแข่งขันมากขึ้น
- 14. การว่ายแบบกบ
• การว่ายแบบกบ จะต้องอยู่ในลักษณะคว่าหน้า แขนทั้ง 2 ข้างจะต้อง
เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน มือทั้ง 2 ต้องพุ้งไปข้างหน้าพร้อมกันส่วน
ข้อศอกอยู่ใต้ผิวน้าเมื่อดึงมือไปข้างหน้าพร้อมกันจะต้องอยู่ใต้ผิวน้า ขา
ทั้ง 2 ต้องเคลื่อนที่พร้อมกัน การเตะเท้า เตะไปด้านหลัง การกลับตัว
การเข้าเส้นชัยต้องแตะด้วยมือทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน การดึงแขน 1 ครั้ง
และการเตะขา 1 ครั้ง จะต้องมีบางส่วนของศีรษะโผล่พ้นระดับให้เห็น
ยกเว้นการกลับตัวให้ดาน้าได้1 ครั้ง
- 18. ประโยชน์ของกีฬาว่ายน้า
• ด้านกิจกรรมพิเศษ (Special ) ช่วยบาบัดจิตใจและร่างกายให้กับบุคคลที่
ไม่สมบูรณ์ทางกาย เช่น ตาบอด อัมพาต เป็นง่อย พิการ และคนที่
บาดเจ็บที่จะต้องใช้การว่ายน้าเข้าช่วยเหลือแก้ไข เพื่อฟื้นฟูสภาพ
ผิดปกติเหล่านั้นให้กลับสู่สภาพที่ดีขึ้น
• ด้านการแข่งขัน ( Competitive ) ว่ายน้าจะมีการแข่งขันกันเพื่อ
เปรียบเทียบทักษะระหว่างสมาชิกด้วยกัน มีความรู้สึกว่ามีความ
สนุกสนานเพลิดเพลินเกิดแรงจูงใจ ที่จะนาไป สู่การเข้าร่วมการแข่งขัน
ในรายการต่างๆ
- 19. ประโยชน์ของกีฬาว่ายน้า
• ด้านสติปัญญาของมนุษย์ และพัฒนาขึ้นเมื่อได้มีการเรียนรู้ หรือมี
ประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านเข้ามา และมนุษย์ได้ใช้ความคิดในการวินิจ
วิเคราะห์ เพื่อพัฒนาทักษะให้ดีขึ้น ว่ายน้าเป็นกีฬาที่ต้องอาศัย ความรู้
ความเข้าใจ และทักษะหลายๆอย่างประกอบกัน
• ด้านอารมณ์ ทาให้สนุกสนานเพลิดเพลิน ในขณะว่ายน้าก็ทาให้ผู้เล่นมี
สมาธิอยู่กับการเคลื่อนไหวในน้า ทาให้สบายใจ หากว่ายน้าเป็นระยะ
เวลานาน จนร่างกายมีสมรรถภาพดีแล้ว ก็ทาให้อารมณ์มั่นคงไปด้วย