SlideShare a Scribd company logo
1 of 144
เทพเจ้าอียิปต์ องค์ไหน
    คุ้มครองคุณอยู...
                    ่

     
     ชาวอียิปต์ทั้งในอดีตและชาวอียิปต์ใน
    ปัจจุบันต่างนับถือเทพเจ้า โดยมีความ
    เชื่อว่าเทพเจ้าทั้งหลายล้วนต่างมี
    ลักษณะรูปร่าง การก่อกำาเนิดหน้าที รับ
                                      ่
    ผิดชอบ รวมถึงลักษณะของการคุ้มครอง
    ชาวอียปต์แตกต่างกันออกไป
             ิ
The Nile
วันที่ 1 - 7 มกราคม, 19 - 28 มิถุนายน,
1 - 7 กันยายน และ 18 - 26
พฤศจิกายน
 ลักษณะ ของชาวไนล์คือ มีความยืดหยุ่น
 มากเป็นพิเศษ เป็นคนใจดี มีนำ้าใจ และ
 เป็นผู้ฟงที่ดี รวมถึงเป็นคนยุติธรรม น่าเชื่อ
         ั
 ถือ คุณมักจะเป็นที่พึ่งพาของเพือนๆ 
                                  ่
 เสมอ เป็นผู้ให้คำาแนะนำา อดทน และ
 คิดถึงคนอื่นเสมอ คุณชอบช่วยเหลือคน
 อื่นโดยไม่หวังซึงผลตอบแทน อย่างไร
                   ่
 ก็ตาม เมื่อถูกเอาเปรียบ คุณก็พร้อมจะลุก
Amon-Ra
วันที่ 8 - 21 มกราคม และ 1 - 11
กุมภาพันธ์
คน ที่อยู่ภายใต้การควบคุม
  ของเทพเอมุน รา? เรียกได้ว่า
  เป็นคนท้าทายอย่างมาก เสน่ห์
  ของพวกเขาเด่นชัด เป็นพวก
  ดึงดูดคน และไม่ชอบอยู่คน
  เดียว เป็นคนชอบเข้าสังคม
  สมำ่าเสมอ ชอบสังสรรค์ คุณ
Mut
วันที่ 22 - 31 มกราคม และ 8 - 22
กันยายน
 คน กลุ่มนี้อ่อนไหวง่ายมาก และมัก
 ขาดศรัทธาในตัวเอง คุณเป็นคน
 ลึกลับ มีอะไรให้น่าค้นหามากมาย 
 และเป็นคนเข้าถึงยาก กว่าจะไว้ใจใคร 
 ก็ใช้เวลานาน แต่เมื่อไว้ใจใครแล้ว ก็
 จะทุ่มเททุกความรู้สกให้ สำาหรับใครที่
                     ึ
 คุณรัก คุณจะทุ่มเททุกอย่างให้พวก
 เขามีความสุข และทั้งๆ เป็นคนลึกลับ
Geb
วันที่ 12 - 29 กุมภาพันธ์ และ 20 - 31
สิงหาคม

 พวก คนขีอาย อ่อนไหว และจู้จี้
          ้
  จุกจิกไม่เบา คุณเป็นคนระมัดระวัง
  ในทุกย่างก้าวของ ตัวเอง แต่ก็
  เป็นคนฉลาด และรักษาความลับ
  ได้ดี เชื่อใจ ไว้ใจได้ คุณมีมุมมอง
  ที่ดต่อทุกคน ทำาให้เป็นเสน่ห์น่า
      ี
  ประทับใจ ดึงดูดให้คนรัก และรู้สก ึ
Osiris
วันที่ 1 - 10 มีนาคม และ 27
พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม
 คนทีกระตือรือร้นอยู่เสมอ ไม่เคยมี
          ่
   ชีวตที่ธรรมดาเลย? พวกเขาเป็นคน
        ิ
   มั่นใจในตัวเอง และมองโลกในแง่ดี
   เสมอ ใช้ชีวตแต่ละวันด้วยความเต็มที 
               ิ                       ่
   ไม่เคยกลัวอะไร คุณเป็นคนกล้าหาญ 
   และเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาใน
   สิงที่ลงมือทำา คุณคิดเสมอว่าทุกอย่าง
      ่
   คือโอกาส ทอง และคุณควรก้าวออก
Isis
วันที่ 11 - 31 มีนาคม, 18 - 29 ตุลาคม
 และ 19 - 31 ธันวาคม
 กลุ่ม คนที่ฉลาด เต็มไปด้วยมุมมองที่
  น่าสนใจ และหัวใจทีเปิดกว้าง คุณใช้
                      ่
  ชีวตอย่างกระตือรือร้นเสมอ  มีนำ้าใจ 
     ิ
  และเป็นคนน่ารัก ทำาให้คุณเป็นทีรัก
                                   ่
  ของทุกๆ คน คุณยังเป็นคนโรแมนติ
  กมากๆ ความรักเป็นเรื่องสำาคัญ
  สำาหรับชีวิตคุณ แต่แน่นอนว่ามิตรภาพ
Thoth
วันที่ 1 - 19 เมษายน และ 8 - 17
พฤศจิกายน
 เต็ม ไปด้วยความรู้ และปัญญาที่
   มากล้น มีลักษณะของความเป็น
   ผูนำา และมีพรสวรรค์อย่างสูง คุณ
     ้
   สามารถเข้าถึงทุกคนได้ง่ายมาก 
   และพร้อมทำาให้ทุกคนรู้สกถึง
                          ึ
   อำานาจได้โดยไม่ต้องบังคับ หรือ
   บงการใดๆ คุณพร้อมจะเป็นผู้
   บริหาร และรู้ในศักยภาพของตัว
Horus
วันที่ 20 เมษายน - 7 พฤษภาคม และ 
12 - 19 สิงหาคม

 คน ร่าเริงใจดี และติดดินมากๆ 
  คุณเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ง่ายๆ 
  เข้ากับคนได้ดี และพร้อมจะเสีย
  สละตัวเองเพื่อกลุ่มเสมอ คุณมัก
  ต้องใช้ชวิตอยู่กบความรับผิดชอบ
          ี       ั
  ที่ยงใหญ่ คุณเป็นคนอดทน และ
      ิ่
  มั่นใจในตัวเองอย่างมาก พยายาม
  สร้างทุกสิ่งอย่างด้วยมือของตัว
Anubis
วันที่ 8 - 27 พฤษภาคม และ 29
มิถุนายน - 13 กรกฎาคม

 กลุ่ม คนที่ซบซ้อนเสมอ และลึกลับ 
              ั
 สิงนี้ทำาให้ทกคนสนใจใครรู้ทกอย่าง
     ่        ุ              ุ
 เกี่ยวกับคุณ แต่ตรงกันข้าม คุณกลับ
 เป็นคนชอบหลีกหนีสงคมปลีกตัวออก
                      ั
 ห่างจากคนอื่น คุณยังเป็นคนอ่อนไหว 
 และซื่อสัตย์มากๆ คุณจะภูมิใจ และ
 รูสึกดีตอคนคนนั้นมากเป็นพิเศษ คุณ
   ้      ่
Seth
วันที่ 28 พฤษภาคม - 18 มิถุนายน
 และ 28 กันยายน - 2 ตุลาคม
 เต็มไปด้วยอารมณ์ ความ
 ทะเยอทะยาน และอยากจะก้าวขึนไป   ้
 สูความยิงใหญ่ และความสำาเร็จ คุณ
   ่      ่
 ไม่เชื่อในเรืองการปล่อยไปตามดวง
              ่
 ชะตา แต่พร้อมจะต่อสูด้วยตัวเอง และ
                       ้
 พร้อมจะใช้ทุกสิงทีมีต่อสูมาเพื่อสิ่งที่
                 ่ ่      ้
 ต้องการ เมื่อพบอุปสรรค แทนที่จะ
Bastet
วันที่ 14 - 28 กรกฎาคม, 23 - 27
กันยายน 
และ 3 - 17 ตุลาคม
 กลุ่ม คนที่มีบุคลิกชัดเจนมาก คุณเป็น
  คนระมัดระวังตัวมาก คุณเป็นคนขี้อาย 
  และคิดมาก อย่างไรก็ตาม มันถูกซ่อน
  อยู่ภายใต้ทาทางมีเสน่ห น่ารัก และ
              ่            ์
  รอยยิมของคุณ คุณมีลักษณะทีเป็น
        ้                       ่
  มิตร และมีนำ้าใจดี ทำาให้คณดึงดูดคน
                             ุ
  อืนได้ง่าย นอกจากนี้ พรสวรรค์พิเศษ
    ่
Sekhmet
วันที่ 29 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 
และ 30 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายน

เป็นคนที่ยึดเรื่องของอารมณ์เป็น
 หลัก คุณเป็นคนฉลาด คุณเป็นคน
 ตรงต่อเวลามาก ทำางานละเอียด 
 และยากที่จะสร้างความผิดพลาด 
 ซึงนั่นทำาให้คุณค่อนข้างเครียดกับ
   ่
 ตัวเอง และตั้งความหวังกับตัวเอง
คุณเห็นภาพนี้คุณ
 นึกถึงอะไรบ้าง
มัมมี่กลุ่มใหม่ซงถูกขุดค้นพบที่เมืองลิมา เมืองหลวงของเปรู  
                 ึ่
ชุมชนแออัดชือ ทูปัคอามารู คณะสำารวจเริ่มการขุดค้นแหล่ง
               ่
โบราณคดีแห่งนี้เมื่อ ค.ศ 1999
 สุสานนี้อยู่ในยุคฮอไรซอนตอนปลาย(ระหว่างปีค.ศ.
1438-1532)
ซึงนักโบราณคดีและชาวบ้านได้ร่วมกันกู้หอมัมมี(ซึงในนั้นจะ
  ่                                       ่    ่ ่
ห่อด้วยผ้าหลายชัน   ้
และมีทรัพย์สมบัติส่วนตัวซึงเป็นเสบียงเตรียมไว้ใช้โลกหน้า)
                           ่
นี่กเป็นมัมมี่พบที่ ทูปัคอา
    ็
           มารู 
มัมมี่พบที่อเมริกาแถบ
รัฐอริโซน่า 
มัมมี่อีกร่างหนึ่งที่พบที่ ทูปัคอามารู บ่งบอก
ว่าเป็นชนชั้นสูง เนื่องจากมีเครื่องหมายขน
นกติดประดับอยู่ที่ศีรษะ(มัมมี่ที่ทูปัคอามารู 
      นิตยสาร เนชั่นเเนล จีโอกราฟฟิก 
มัมมี่ทองคำาและผู้ขุดพบสุสานมัมมี่
ทองคำา 
ช่างภาพพากันถ่ายภาพมัมมี่อายุราว 3000 ปี   ที่เชือ  ่
ว่าเป็นมัมมีของฟาโรห์ รามเสสที่1 ที่เพิ่งถูกส่งกลับ
            ่
มาอียิปต์ หลังถูกลักลอบนำาออกนอกประเทศไปทวีป
อเมริกาเหนือ 140 ปี 
นักสำารวจชาวอิตาลี จิโอวานนี บาตติสตา เบโลนิ 
เป็นผู้พบสุสานเมื่อตุลาคม 2360 (หนังสือพิมพ์
                                     
                           
มัมมี่เด็กอียิปต์อายุ 2000 ปี 
เธอถูกตั้งชือว่า "เชอริท" ซึง
              ่                   ่
เป็นภาษา
อียิปต์โบราณแปลว่า ตัวเล็ก 
คาดว่าเธอเสียชีวตราวอายุ 5 
                      ิ
ขวบ
(หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 12 
•   ร่างมัมมี่เจ้าชายซานโช เดอ คาสติล วัย 7 
    ชันษา ซึ่งเจ้าชายพระองค์นี้ได้วิทยาการ
    ก้าวหน้าทางการแพทย์มาช่วยพิสจน์สาเหตุการ
                                     ู
    สินพระชนม์ของพระองค์ ว่าพระองค์ไม่ได้ถูก
      ้
    พระปิตุฉาวางยาพิษอย่างที่รำ่าลือกันมาแต่
    เป็นการสินพระชนม์ตามธรรมชาติ หลังจากการ
               ้
• มัมมี่จีนเชื่อว่าน่าจะมีอายุมากกว่า2000ปี มีการ
  ขุดพบมัมมี่ดังกล่าวตั้งแต่ป2546แล้วคาดว่า
                               ี
  มัมมี่ร่างนี้จะเป็นร่างของพระในชนเผ่าโบราณ
• (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จันทร์ 25 ธันวาคม 2549) 
เป็นมัมมี่จากประเทศ
อินโดนีเซีย มัมมี่อยู่ในหมู่บาน
                              ้
เล็กๆแห่งหนึ่ง ชือว่าหมู่บานจิวิ
                 ่        ้
กา  วิธการทำามัมมี่ คือ เมื่อ
       ี
หัวหน้าอันเป็นที่รักและเคารพ
ของพวกเขาเสียชีวิตลง ลูก
บ้านจะนำาร่างของหัวหน้ามาไว้
บนแคร่สูง รมควันด้วยสมุนไพร
สูตรพิเศษ จนกระทั่งศพนั้น
แห้งดำาเป็นตอตะโก 

ในภาพเป็นมัมมี่ ซึ่งมีอายุกว่า2
รูปตอน โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ พบโลง
พระศพของฟาโรห์
ตุตันคามุนและกำาลังทำาความ
าออกจากโลงพระศพ
ดร.ซาฮี กำาลังนำามัมมี่ฟาโรห์ตุ
ตันคามุนไปscanเพื่อหาพระพักต์
ที่แท้จริงตอนยังมีชีวตอยู่
                     ิ
กำาลังนำาร่างมัมมี่เข้าเครื่องscan
และผลสรุปพระพักตร์ที่แท้
จริงขณะที่มีชีวิตใบหน้า
ประมาณนี้
นี่คือพระเศียรของ
ฟาโรห์ตุตันคามุน เอา
มาให้ดูเป็นอุทาหรณ์
สำาหรับคนที่อยากเป็น
นักโบราณคดีเพราะการ
ที่พระเศียรของฟาโรห์ตุ
ตันคามุนต้องหลุดออก
จากร่าง เกิดจากนัก
โบราณคดีค่ะ เพราะ
เนื่องจากตอนอาบนำ้ายา
ศพคาดว่านำ้ายาคงจะ
เยิ้มเลยทำาให้ส่วนพระ
ราชินีที่นักโบราณคดี
ยกย่องให้เป็นราชินี
อียิปต์โบราณที่สวย
ที่สุด คือ ราชินีเนเฟอร์
ตีติค่ะ ในรูปคือมัมมี่ของ
พระนาง 
รูปสลักเหมือนพระนางเนเฟอ
-สิ่งที่คนเป็นทำาให้คนตายในความเชื่อถือ
ของอียปต์โบราณก็คือ “คนใช้” 
         ิ
-เพราะคิดว่าถึงแม้คนตายจะมีเครืองใช้
                                  ่
ไม้สอยทีจัดทำาไว้ให้แล้วมากมาย แต่ถ้าขาด
           ่
คนรับใช้ชวตก็คงไม่สขสบายเท่าที่ควร 
             ี ิ        ุ
-ดังนั้นในพิธีศพสิ่งทีขาดไม่ได้ก็คือจัดหา
                      ่
คนใช้ให้กบผูจากไปด้วย 
              ั ้
สิ่งทีขาดไม่ได้ก็คือคำา
       ่
 จารึกคำาสวดทีพอจะแปล
                 ่
 ได้ตามความหมายว่า
“โอ..ชาวับติเจ้าเอ๋ย ถ้า
 นาย..(ออกชือคนตาย)
              ่
 เรียกใช้เจ้าเมื่อไรไม่วาจะ
                        ่
 ให้ทำาไร่ไถนา ทดนำ้า
 -ในตอนแรก ๆ ก็ใช้วิธีการวาดภาพเอาต่อมา
  ก็จดทำาเป็นรูปปั้นซึ่งอาจจะทำาด้วยดินเหนียว
     ั
  สีผง หรือแกะสลักด้วยไม้
       ึ้
 -ต่อมาในราวยุคราชวงศ์ที่ 12 แห่งอียิปต์
  โบราณ ตัวแทนที่จะส่งไปเป็นคนรับใช้ของผู้
  ตาย ก็ทำาเป็นรูปมัมมี่ด้วย มีการพันด้วยผ้า
  ลินินและบรรจุไว้ในหีบศพจำาลองขนาดเล็ก ๆ
  รูปลักษณ์เหล่านีมีชื่อเรียกว่า “ชาวับติ”
                     ้
  (Chawabti) ซึ่งมีความหมายว่า “ผูขานรับ”
                                      ้
 -เพื่อที่ว่ายามใดทีตองการใช้เมื่อเรียกขึ้นมา
                       ่ ้
  แล้ว ผูรับใช้นก็จะขานรับคำาสั่ง
           ้      ี้
"โถคาโนปิก" โถทั้งสี่นี้มีการ
ออกแบบโดยนำารูปศรีษะบุตรของ
เทพเจ้าฮอรัสมาใช้ เพราะเชือว่าเทพ
                              ่
ทั้งสีนี้จะช่วยปกป้องอวัยวะของมัมมี่
      ่
ศรีษะเป็น
 เหยี่ยว ใช้
 บรรจุลำาไส้
   ของมัมมี่
บุตรของฮรัส
ทีมศรีษะเป็น
  ่ ี
เหยี่ยวชือว่า
         ่
Qebhsenu
      ef
ศรีษะเป็น
  สุนข ใช้
     ั
    บรรจุ
  กระเพาะ
 บุตรของฮ
  อรัสซึ่งมี
 ศรีษะเป็น
สุนัขมีชอว่า
         ื่
Duamutef
ศรีษะ
 เป็นลิง
 บาบูน
ใช้บรรจุ
  ปอด
 มีชื่อว่า
 Hapy
ศรีษะ
  เป็น
 มนุษย์
ใช้บรรจุ
ตับ มีชื่อ
   ว่า
Imsety
ตัวทีดึงสมองออกมา โดย
      ่
 สอดเข้าไปทางรูจมูกก่อนที่
 จะเอาเจ้านี่สอดเข้าไปต้อง
 ใส่สารเคมีใส่นำาไปก่อนเพือ
                          ่
 ให้เนื้อสมองนั้นเหลว เพราะ
 เขามีการทดลองแล้วว่าถ้า
 ไม่ใส่สารเคมีตัวนีเข้าไป
                   ้
มัมมี่ของเซติที่
1พระองค์
เก่งกาจทางด้าน
การรบเป็นอย่าง
มาก
มัมมีฟาโรห์เซติท2
     ่          ี่
TUTMOSIS ที่ 3 พระองค์เชี่ยวชาญ
ทางด้านการรบเป็นอย่างมากจนได้
รับฉายาว่า "นโปเลียนแห่งอียิปต์"
เป็นมัมมี่รายแรกที่ได้ปรากฎโฉมต่อ
หน้าสาธารณะชน
TUTMOSIS ที่ 4 คู่แก่งแย่งบัลลังค์
ของฮัทเซพซุท
รามเสสที่ 1
รามเสสที่2 ถือว่าเป็นฟาโรห์ที่ยิ่ง
ใหญ่ที่สุดของอียิปต์
รามเสสที่ 3 เป็นมัมมี่
ฟาโรห์พระองค์แรกที่มี
การทำาตาปลอม และ
เปลี่ยนท่านอนโดยเอามือ
สองข้างวางไขว้ไว้ที่
หน้าอกและแบมือออก
TIYIเสด็จย่าของฟาโรห์ตุตันคา
มุน
หลักการทำามัมมี่
การทำามัมมี่มีวิวัฒนาการมาเป็น
 ลำาดับ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
 ของอียิปต์โบราณ ร่างของคน
 ตายจะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยผ้าหรือ
 เสือ อย่างลวกๆ และถูกฝังไว้ใน
    ่
 หลุมแคบๆภายในพื้นทรายซึ่งลึก
 ลงไปไม่กฟุต ทังนี้เพราะความ
           ี่   ้
ในยุคราชวงศ์แรกของอียิปต์
 หรือราว 3,000 ปีกอนคริสต์
                    ่
 ศักราช ศพของชาวอียิปต์
 ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าลินินซึ่งอาบ
 นำ้ายาและมัดไว้ อยางแน่น
 หนา
ช่วงปลายราชวงศ์ที่ 3 แห่ง 
 อียิปต์โบราณ มีการผ่าพระศพ
 ของกษัตริย์หรือองค์ฟาโรห์
 และพระราชวงศ์ เพื่อนำาเอา
 อวัยวะภายใน อันเป็นสาเหตุที่
 สำาคัญที่ทำาให้ศพเน่าเปื่อย 
 ออกมาดองไว้ต่างหากด้วยตัว
 ยาที่เชื่อว่าสามารถป้องกันการ
ในช่วงประวัติศาสตร์ของ
 ราชวงศ์อยิปโบราณที่ 4-5 
           ี
 หรือราว 2570-2450 ก่อ
 นคริสศักราช เทคนิคการทำา
 มัมม ีีี่ได้วิวัฒนาการใช้
 ยางสนแสดงรูปลักษณ์
 ภายนอกของมัมมี่ซึ่งมี 
 วิธีการทำามัมมี่ในอียิปต์โบราณมีความ
  เชือเกี่ยวกับเรืองของชีวิตหลังความ
     ่            ่
  ตาย เกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของ
  วิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อ
  วิญญาณออกจากร่าง ไปชั่วระยะเวลา
  หนึ่งจะหวนกลับคืนสู่รางเดิมของผู้
                        ่
  เป็นเจ้าของ จึงต้องมีการถนอมและ
  รักษาสภาพของร่างเดิม โดยการแช่
  และดองด้วยนำ้ายาบีทูมิน ซึ่งจะช่วย
 นำาศพของผูตายมาทำาความ
            ้
 สะอาด ล้วงเอาอวัยวะภายในออก
 โดยการใช้ ตะขอ ทีทำาด้วย สำาริด 
                       ่
 เกี่ยวเอา สมอง ออกทาง โพรง
 จมูก แล้วใช้ มีด ทีทำาจาก
                     ่
 หินเหล็กไฟซึ่งมีความคมมาก กรีด
 ข้างลำาตัว เพื่อล้วงเอา ตับ ไต 
 กระเพาะอาหาร ปอด และ ลำาไส้ 
 สาเหตุที่ไม่เอาหัวใจออกจากร่าง
 ด้วยเพราะเชื่อกันว่าหัวใจเป็นศูนย์
 รวมแห่งจิตวิญญาณ อวัยวะ
 ภายในเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วย
 วัสดุประเภทขี้เลื่อย เศษ ผ้าลินิน 
 โคลน และเครืองหอม จากนัน
                ่            ้
 อวัยวะทั้งหมดจะถูกนำาไปล้างด้วย
 ไวน์ปาล์ม เสร็จแล้วก็จะถูกนำาลง
เมื่อศพแห้งสนิทแล้ว ก็จะ
 ถูกนำามาเคลือบด้วยนำ้ามัน
 สน จากนั้นจะมีการตกแต่ง
 และพันศพด้วยผ้าลินินสีขาว
 ชุบ เรซิน มัมมี่ที่เสร็จ
 สมบูรณ์แล้วจะถูกนำาบรรจุลง
 ในหีบศพ พร้อมกับ
 เครื่องรางของขลังต่างๆ 
ขั้นตอนที 1.
          ่
 ศพถูกนำาไปยังเต๊นท์พิเศษ 
 ทีเรียกว่า อีบู ซึ่งมีความ
   ่
 หมายว่า สถานที่ชำาระศพให้
 บริสทธิ์ ผู้ทำามัมมี่จะอาบศพ
      ุ
 ด้วยเหล้าทีทำาจากนำ้าตาล
              ่
 สด และชำาระล้างด้วยนำ้าจาก
ขั้นตอนที่ 2. 
 ช่างก็จะผ่าช่องท้องด้านซ้าย
 เพื่อเอาอวัยวะภายในออก 
 เนื่องด้วยอวัยวะภายใน ซึ่งมี
 ความชื้นสูง จะเป็นสิ่งแรกที่
 เน่าสลายอย่างรวดเร็ว จึงต้อง
 เอาออก เหลือไว้แต่หัวใจที่จะ
ขั้นตอนที 3. 
          ่

 ส่วน ตับ ปอด กระเพาะ และ
 ลำาไส้ จะถูกนำามาชำาระล้าง
 จนสะอาด แล้วนำาไปกลบไว้
 ด้วยเกลือเม็ดทีเรียกว่า 
                ่
 Natron ซึ่งเป็นเกลือโซเดีย
แล้วเขาจะสอดตะขอ
 ผ่านเข้าทางช่องจมูก 
 เพื่อเกี่ยวเอาเนื้อสมอง
 ออกมา เพราะสมองก็
 เหมือนอวัยวะภายในทีมี  ่
 ความชื้นสูง ถ้าทิ้งไว้จะ
ขั้นตอนที 4. 
          ่

 จากนั้นก็เอาศพไปวางกลบ
 ด้วยเกลือเม็ดให้แห้ง 
 ของเหลวจากร่างกาย และ
 ผ้าที่ใช้ในการเตรียมศพทุก
 ชิ้น ก็จะเก็บรักษาไว้อย่างดี 
ขั้นตอนที 5. 
          ่

 ช่องว่างภายในก็ใส่เกลือ
 เม็ดไว้ เพื่อป้องกันการ
 เจริญเติบโตของเชื้อ
 แบคทีเรีย อันจะทำาให้
ขั้นตอนที 6. 
          ่

 ศพจะถูกแช่เกลือไว้สสิบวัน
                        ี่
 จนแห้งดี แล้วจะถูกนำามา
 ชำาระล้างด้วยนำ้าจากแม่นำ้า 
 ไนล์อีก แล้วจะเคลือบ
 ผิวหนังด้วยนำ้ามันเพื่อให้
ขั้นตอนที 7. 
          ่

 อวัยวะภายในทีแห้งแล้วจาก
               ่
 การแช่เกลือ ก็จะถูกนำากลับ
 มาบรรจุในช่องท้องและช่อง
 อกตามเดิม 
ขั้นตอนที 8. 
          ่

 แล้วจะเติมด้วยของแห้ง
 อย่างอื่นให้เต็ม เช่นขี้เลือย
                            ่
 หรือใบไม้และผ้าลินิน เพื่อ
 ให้ดูเหมือนยามมีชีวิตอยู่ ไม่
 ยุบตัวลงไปตามกาลเวลาใน
ขั้นตอนที 9. 
          ่

 จากนั้นก็จะชำาระศพด้วย
 นำ้ามันหอมอีกครั้งหนึ่ง ก่อน
 ทีจะนำาไปพันผ้าลินินในขั้น
    ่
 ต่อไป 
ชาวอียิปต์แบ่งช่วงแม่นำ้า
 ไนล์เป็น 2 ช่วง คือ 
 ต้นนำ้าทางตอนใต้เรียกว่า 
 “อียิปต์บน” (Upper
 Egypt) และปลายแม่นำ้า
 ในดินแดนสามเหลี่ยม
White Nile
Blue Nile
White & Blue Nile Meet in Sudan
88
อาณาจักรชาวอียิปต์ Egyptian
    Kingdoms
  นักวิทยาศาสตร์ถือเอาวัตถุ
  จากซาก อนุสรณ์สถาน
  และหลุมศพ โดยเฉพาะ
  จารึกอักษรภาพในการ
  บรรยายรายละเอียด
  ประวัติศาสตร์อจิปต์
                ี
  โบราณ ปกติทั่วไปประวัติ
  อารยธรรมสามารถแบ่ง
  ออกเป็น
 อาณาจักร
  เก่า(2686-2181 BC)
 อาณาจักร
  กลาง(1991-1786 BC)
  และ                             89
นักประวัติศาสตร์กรีกท่านหนึ่งคือ 
เฮโรโดตัส กล่าวถึงอียิปต์ว่าเป็น a 
gift of the Nile เพราะถือว่าแม่นำ้า
ไนล์นั้นคือหัวใจสำาคัญที่หล่อเลี้ยง
ประเทศอียิปต์ เพราะตามปกติ
อียิปต์เป็นดินแดนกันดารฝน มี
อากาศร้อนและแห้งแล้ง เพราะ
ล้อมรอบด้วยทะเลทราย มีฝนตก
ในราวกลางเดือนสิงหาคมจนถึง
ตุลาคมทุกปี ทำาให้สองฝั่งแม่นำ้า
ไนล์จมอยู่ใต้นำ้าเป็นบริเวณกว้าง 
เมื่อนำ้าลดโคลนตมที่นำ้าพัดพามา
ไว้บริเวณสองฟากฝั่งแม่นำ้า จะตก
ตะกอนเป็นดินที่อดมสมบูรณ์
                   ุ
เหมาะแก่การเพาะปลูก ความ
อุดมสมบูรณ์ ลุ่มแม่นำ้าไนล์ได้มา
จากตะกอนโคลนตมอันอุดมด้วย
92
อียิปต์โบราณ หรือ ไอยคุปต์
เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่
 เก่าแก่ที่สดในโลก ตังอยู่
            ุ        ้
 ทางตอนตะวันออกเฉียง
 เหนือของทวีปแอฟริกา มี
 พื้นที่ตงแต่ตอนกลาง
         ั้
 จนถึงปากแม่นำ้าไนล์
Writing




  Making paper from papyrus
เรือโซล่าร์
"เรือโซล่าร์"  (Solar Boat) หรือ
 เรือแห่งแสงอาทิตย์ที่เชื่อกันว่า
 จะเป็นพาหนะที่นำาพาวิญญาณ
 ขององค์กษัตริย์ไปหาเทพเจ้า
 แห่งแสงอาทิตย์บนสวรรค์ได้
 เรือโซล่าร์นี้สร้างขึนจากไม้
                      ้
 มากกว่า 1,200 ชิ้น สันนิษฐาน
เฮียโรกลิฟฟิค (Hiero Glyphic)

แปลตามตัวว่า อักษร
 ศักดิ์สทธิ์
        ิ
อักษรฮีโรกลิฟฟิค
  อักษรภาพอียิปต์โบราณ
 หรือที่เรียกกันว่า "ฮีโร
 กริฟฟิค" (Hieroglyphs) 
 เป็นภาพอักษรทีมักจะสลัก
                   ่
 เรื่องราวเกี่ยวกับองค์ฟาโรห์ 
 ราชวงศ์ การเมืองการ
 ปกครอง และเรื่องราวทาง
หลุมฟังพระศพของ
องค์ฟาโรห์ตุตันคา
มุน (Pharaoh
Tutankhamun)
ต้องคำาสาป
เป็นทีเล่าลือกันว่า ผู้ใด
       ่
 ก็ตามทีมาเปิดหลุมฟัง
        ่
 พระศพขององค์ฟาโรห์ตุ
 ตันคามุน (Pharaoh 
 Tutankhamun) จะต้อง
 คำาสาปทีนักบวชไอย
          ่
 คุปต์บรรจงสลักไว้ภายใน
เหตุการณ์ทเกิดขึ้นกับ "ลอร์ด 
           ี่
 คาร์นาร์วอน" (Lord 
 Carnarvon) กับคณะสำารวจของ 
 "โฮเวิร์ด คาร์เตอร์" (Howard 
 Carter) ที่เขาได้ว่าจ้างให้
 ทำาการสำารวจค้นหาสุสาน
 ฟาโรห์ตุตันคามุน ซึ่งผล
การแบ่งชนชั้นในสังคมและ
ระบบการปกครอง
  การแบ่งชนชั้นในสังคม
  สังคมอียิปต์โบราณเปรียบ
  ได้กับรูปสามเหลียมจัดแบ่ง
                  ่
  ออกได้เป็น 3 ชนชั้น 
  1.ชนชั้นสูง
  2.ชนชั้นกลาง
  3. ชนชั้นตำ่า
1. ชนชั้นสูง
- กษัตริย์และราชวงศ์ถูกกำาหนดให้
  อยู่ในตำาแหน่งสูงสุด กษัตริย์
  สามารถมีมเหสีและสนมได้
  มากมาย ตลอดจนสนมอาจเป็นพี่
  สาวหรือน้องสาวร่วมบิดาหรือ
  มารดาเดียวกับมนุษย์
  - พระและขุนนาง มีบทบาททาง
2.ชนชั้นกลาง

 - พ่อค้า เสมียน ช่าง
 ฝีมือและศิลปิน
3. ชนชั้นตำ่า
- พวกชาวนา ผู้ใช้แรงงาน 
  ชาวนาซึ่งจัดเป็นชนชั้นตำ่า
  ส่วนใหญ่ของดินแดนสภาพ
  ของชาวนาอยู่ในรูปข้าติด
  ทีดิน ชาวนาเป็นกำาลังสำาคัญ
    ่
  ในกองทัพและเป็นแรงงาน
  หลักในการ
ความเชือ
       ่
อียิปต์เชือเรื่องวิญญาณ
           ่
 อมตะ จึงทำามัมมี่
แสดงถึงความเจริญด้าน
 การแพทย์
การนับถือเทพเจ้า
เริ่มแรกแต่ละท้องถิน
                    ่
 จะมีเทพเจ้าของ
 ตนเอง
ต่อมาเมื่อรวมประเทศ
 อียิปต์มีการรวม
109
รูปเทพโฮรัสตั้งอยู่ทวิหารเอ็ดฟู (Edfu)ในบริเวณนูเบียของอีจปต์
                    ี่                                    ิ


                                                                110
111
Is
is

     112
113
สถาปัตยกรรม
ในสมัยราชอาณาจักรเก่า 
 นิยมสร้างพีระมิด
ในสมัยกลางและสมัย
 จักรวรรดินิยมสร้างวัด
 มากกว่าพีระมิด
พีระมิด
พีระมิดเป็น
 เครื่องหมายของความ
 สำาคัญทางศาสนาและ
 การเมือง
การสร้างพีระมิดเป็น
วัด
การก่อสร้างทีมีชื่อสียง
              ่
 ทีสุด คือ วัดทีคาร์นัก 
   ่            ่
 และวัดทีลุกซอร์
          ่
ทางเข้ามหาวิหารคานัค
วิหารทีเมืองคาร์
       ่
นัก                118
เมืองคาร์
นัก




            119
• วิ ห ารคาร์ น ั ก (Great Temple of Karnak) : มหาวิ ห ารสี ่
พั น ปี แ ห่ ง อี ย ิ ป ต์
• สถานที่ตั้ง : เมืองลักซอร์ (ภาคกลางของอียปต์)
                                            ิ
• ผู้ทสร้าง : ฟาโรห์เซซอสตริสที1 ( Sesostris I ) และอีกหลาย
       ี่                        ่
พระองค์ต่อมา
• ปีที่สร้าง : ประมาณ 4,000 ปีมาแล้วครับ
• สร้างขึ้นเพื่อ : เป็นทีประทับของเทพเจ้าอะมอนรา (สุริยะเทพ) และ
                           ่
เพื่อเป็นสถานที่จดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียปต์โบราณ
                        ั                         ิ
• ค่าเข้าชม : 50 ปอนด์ (ประมาณ 300 บาท)
โปสไตล์ ฮอลล์ (Great Hypostyle Hall)หรือ
หอศักดิ์ใหญ่ มีเสาจำานวน 134 ต้น เรียงเป็น 4
แถว แต่ละต้นสูง 23 เมตร เส้นรอบวง 10 เมตร..
.เป็นส่วนทีสวยทีสุด สร้างในสมัยเซติที่ 1 (Seti
           ่     ่
1) แต่กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ในสมัยของรามเลสที่
2 เป็นส่วนที่ใหญ่มากของคาร์นัค มีพื้นที่ 6,000
ตารางเมตร ทุกตารางนิ้วของเสาถูกแกะสลักเป็น
รูปภาพต่าง ๆ และ อักษรเฮียโรกริฟฟิค
เสาโอเบลิสก์ภายในวิหารคานัค Obelisks at Karnak Temple
ทิวทัศน์ของวิหารคานัคจากริมทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์
View of Karnak Temple from the Sacred Lake
ภาพวาดบนกระดาษปาปิรุส


                        ภาพต้นปาปิรุส
• วิหารลักซอร์ (Luxor Temple)
• วิหารลักซอร์สร้างโดยฟาโรห์อเมโนฟิสที่3
  วิหารแห่งนี้ดูสมบูรณ์แบบสวยงามนั้นเป็นฝีมือของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่นี่เปรียบ เหมือน
บ้านหลังทีสองเพื่อการพักผ่อนของเทพอะมอนราและครอบครัว
          ่
วิหาร Luxor มองจากด้านทิศใต้   127
128
วิหารลักซอร์ เปิดให้เข้าชมตอนกลางคืนจนถึง ๓ ทุ่มในฤดูหนาว และ ๔ทุมในฤดูร้อน
                                                                 ่
ช่วงกลางคืนนี้จะเป็นช่วงทีมคนเข้าชมมากทีสุด
                          ่ ี           ่
เสาโอเบลิสก์ทวิหารลักซอร์อันนี้เป็นคู่แฝดของ
                 ี่
เสาโอเบลิสก์ทปลาซ เดอ ลา คองคอร์ด
                    ี่
ใจกลางกรุงปารีส โมฮัมเหม็ด อาลี ผู้ปกครอง
อียิปต์ในสมัยศตวรรษที่ ๑๘ ได้มอบเสาโอเบลิสก์
ที่วิหารลักซอร์ ๒ เสาให้กับฝรั่งเศสเพื่อตอบแทน
ที่นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสทุ่มเทให้กบวิชา
                                     ั
อียิปต์โบราณจนสามารถถอดรหัสอักษรภาพ
อียิปต์โบราณได้
(อีกต้นอยูที่ฝรั่งเศส)
           ่
วรรณคดีที่เกี่ยวกับ
ศาสนา
บทละครแห่งเมมฟิส (
 เพิ่มพูนศรัทธาที่มีต่อ
 เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์)
บทเพลงสรรเสริญโอรส
 แห่งอิคนาตัน
ทางด้านวิทยาศาสตร์
ชาวอียิปต์สนใจด้าน
 ดาราศาสตร์และ
 คณิตศาสตร์
มีการคำานวณเวลาที่แม่นำ้า
 ไนล์จะท่วม
ด้านการแพทย์ มีการนำา
 ความคิดทางด้านวิทยา
 ศาตร์มารักษาและวินิจฉัย
 โรค 
มีแพทย์เชี่ยวชาญหลาย
ทางด้านปรัชญา
ปรัชญาส่วนใหญ่จะเน้น
 ไปทางศีลธรรมและ
 การเมือง
ความคิดดังกล่าวปรากฎ
 อยู่ในงานเขียนของคณะ
วรรณกรรม
Book  of    the    dead 
คัมภีร์ผู้วายชนม์
เป็นการให้คนตายรู้วาต้องทำา
                    ่
 อะไรในยมโลก  
หนึ่งจากหนังสือโบราณ คัมภีร์มรณะ 'Book of the D
                                            137
138
ราชวงศ์สุดท้ายที่
ปกครองอียิปต์
คือ ราชวงศ์ 
 Ptolemy
ผู้ปกครองคนสุดท้าย
ของอียิปต์
พระนางคลีโอพัตราที่ 7
คลีโอพัตรา(Cle
    opatra)      141
Cleopatra VI
คลีโอพัตราที่ 7 ฟิโลปาตอร์ (
หรือรู้จกทั่วไปในนาม คลีโอพัต
        ั
รา) เป็นราชินีแห่งอียิปต์โบราณ
และเชื้อพระวงศ์องค์สุดท้ายของ
ราชวงศ์ปโตเลมีแห่งมาเซโดเนีย 
ดังนั้นจึงเป็นผูปกครองอียิปต์ที่มี
                ้
เชื้อสายกรีกคนสุดท้าย
ท้ายที่สุดอียิปต์ตกเป็น
เมืองขึ้น
ของจักรวรรดิโรมัน  ปี  
30 B.C.

More Related Content

Similar to อารยธรรมอียิปต์

ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรniralai
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์Gob_duangkamon
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ponderingg
 
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณ
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณ
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณCoffeePlus Mike
 
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก นายศิวา เหมือนฟู 5219101329
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก  นายศิวา เหมือนฟู 5219101329พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก  นายศิวา เหมือนฟู 5219101329
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก นายศิวา เหมือนฟู 5219101329Siwa Muanfu
 
นิติศักดิ์
นิติศักดิ์นิติศักดิ์
นิติศักดิ์gutonzabza191
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์Gob_duangkamon
 
อาจเคยมองข้าม
อาจเคยมองข้ามอาจเคยมองข้าม
อาจเคยมองข้ามniralai
 

Similar to อารยธรรมอียิปต์ (10)

ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณ
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณ
ลักษณะธาตุจีนบอกนิสัยของตัวคุณ
 
กลอน
กลอนกลอน
กลอน
 
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก นายศิวา เหมือนฟู 5219101329
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก  นายศิวา เหมือนฟู 5219101329พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก  นายศิวา เหมือนฟู 5219101329
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก นายศิวา เหมือนฟู 5219101329
 
นิติศักดิ์
นิติศักดิ์นิติศักดิ์
นิติศักดิ์
 
ฮารีรายอ
ฮารีรายอฮารีรายอ
ฮารีรายอ
 
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
อาจเคยมองข้าม
อาจเคยมองข้ามอาจเคยมองข้าม
อาจเคยมองข้าม
 

อารยธรรมอียิปต์