More Related Content
More from Tanapon Wannachai (7)
ช้าง
- 1. ช้าง สัตว์ที่ได้ขึ้นว่าเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย แต่ปัจจุบันสถานการณ์ช้างไทยกาลังอยู่ในภาวะ
วิกฤติย่าแย่ เนื่องจากปัญหาการฆ่าช้างเอางาที่นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และเนื่องในวันที่ 13มีนาคมซึ่ง
เป็น "วันช้างไทย" นี้ เรามาร่วมอนุรักษ์และตระหนักถึงภัยของช้างกันค่ะ
ที่มาของวันช้างไทย
วันช้างไทย เกิดจากการริเริ่มของคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงาน
ประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ทางานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของ
ชาติ สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่า หากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น ก็จะช่วยให้
ประชาชนคนไทย หันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสาคัญต่อการให้ความช่วยเหลือ
อนุรักษ์ช้างมากขึ้น
- 2. คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอา วันที่สมเด็จพระนเรศวร
มหาราชทายุทธหัตถี มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้
พิจารณาวันอื่น และเห็นว่า วันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจาชาติ มีมติให้
ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นาเสนอมติตามลาดับขั้นเข้าสู่
คณะรัฐมนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกทางหนึ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรี
เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคม เป็นวันช้างไทย และได้ประกาศสานักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541
ผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นสัตว์ที่มี
ความสาคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือ
ช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์
- 3. ความสาคัญของช้างไทย
ช้างเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทย
ช้างเป็นสัตว์ที่ดารงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สยามประเทศเคยใช้ธงชาติเป็น รูปช้างเผือก ชาวไทยเชื่อกันว่า
ช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการยกย่องเสมือนเจ้านายชั้นเจ้าฟ้า
ช้างเป็นผู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย
ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ จารึกไว้ว่าช้างได้เข้ามามีส่วนในการปกป้องเอกราชและความเป็นชาติให้แก่
ชาว ไทยหลายยุคหลายสมัย ในสมัยกรุงธนบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ทรงรวบรวม
ชายไทยให้เป็น ปึกแผ่นและมั่นคงบนหลังช้างทรงพระที่นั่ง และในสมัยพระบาทสมเด็จพระนเรศวร
มหาราชก็ได้ทรงประกาศเอกราชและความเป็นชาติ ของคนไทยบนหลังช้างทรงพระที่นั่งด้วยเช่นกัน ซึ่งช้าง
ทรงในสมเด็จพระนเรศวรนับว่าเป็นช้างไทยที่ได้รับเกียรติอันสูงสุด โดยจากความกล้าหาญในสมรภูมิรบ
ทาให้ช้างไทยเชือกนี้ได้รับพระราชทานยศให้เป็นถึง “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี”
- 5. ความสาคัญของช้างต่อประวัติศาสตร์ ชาติไทย
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในศิลาจารึก สุโขทัยหลักที่หนึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยที่กรุง
สุโขทัยเป็นราชธานีนั้น “ช้าง” คือขุนพลที่ร่วมรบอยู่ในสมรภูมิจนมีชัยชนะ อีกทั้งพระมหากษัตริย์ทรง
ประทับช้างนา ราษฎรไปบาเพ็ญกุศลตามพระอารามในอรัญญิก จะเห็นได้ว่าทั้งในยามศึกและยามสงบช้าง
อยู่คู่แผ่นดินสุโขทัยเรื่อยมา ช้างมีความสาคัญมากถึงเพียงนี้ จึงมีการสอนวิชาขับขี่ช้างซึ่งเป็นวิชาสาคัญ
สาหรับเจ้านายและลูกผู้ดีเพื่อ ยังประโยชน์ในการใช้ช้างเป็นพาหนะและเตรียมการเพื่อศึกสงคราม
ช้างใช้ในการศึกสงครามในอดีต ในสมัยโบราณ ช้างเป็นยุทธปัจจัยสาคัญของกองทัพเปรียบได้กับ
รถถังประจัญบานของนักรบในปัจจุบัน ทว่าชัยชนะทีสง่างามกว่าหลายเท่า เพราะมนุษย์ที่นั่งอยู่บนคอช้าง
ต้องเชี่ยวชาญอาวุธของ้าว ใช้ความกล้าหาญไสช้างแต่ละเชือกพุ่งตรงเข้ารบปะทะกันตัวต่อตัว ช้างต่อช้างเข้า
ชนกันนั้น หากช้างของผู้ใดมีความสามารถมากกว่าก็จะงัดช้างศัตรูขึ้นด้วยงาจนแหงนหงาย หรือเบนบ่ายจน
ได้ที เพื่อให้แม่ทัพบนคอช้างส่งอาวุธเข้าจ้วงฟันคู่ต่อสู้ ช้างกับนักรบบนคอช้างจึงต้องมีกาลังแข็งแรงฝีมือ
เข้มแข็ง ทั้งคู่จึงจะได้ชัยชนะมาประดับเป็นเกียรติยศพระเจ้าแผ่นดิน
- 6. การรบบนช้างหรือที่เรียกว่า ยุทธหัตถี นั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประวัติศาสตร์ไทย แต่ครั้งสาคัญ
ที่สุด ซึ่งคนไทยยังกล่าวขวัญจดจาไม่รู้ลืมคือ การยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรี
อยุธยาและพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี ที่ตาบลหนองสาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณบุรี เมื่อปีพุทธศักราช
2135 หรือกว่า 400 ปีล่วงมาแล้ว
สถานการณ์ช้างไทยในปัจจุบัน
ปัจจุบันได้มีกลุ่มไล่ล่าฆ่าช้างเพื่อเอางาแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีกลุ่มฆ่า
ช้าง ยิงแม่ช้างตายในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าแดง ตาบลป่าเด็ง อาเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งมีการคาดเดา
จุดประสงค์ของคนร้ายว่า ต้องการฆ่าแม่ช้างเพื่อเอางา ซึ่งมีราคาแพงมากหรืออีกประเด็นหนึ่งคือ ฆ่าแม่ช้าง
เพื่อเอาลูกช้าง โดยขบวนการนาลูกช้างก็จะขายให้กับนายทุนเพื่อเลี้ยงเป็นช้างบ้านตัวละราคาหลายแสนบาท
มูลค่าช้างที่สูงเช่นนี้ ทาให้ขบวนการฆ่าช้างเหล่านี้ พยายามลักลอบฆ่าช้างมากขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องในโอกาส
วันช้างไทย 13 มีนาคม นี้ จึงเป็นโอกาสดีที่เราทุกคนจะได้ร่วมกันตระหนักถึงภัยอันตรายที่เกิดขึ้นกับช้าง
ไทย ให้ทุกคนหันมาอนุรักษ์และต่อต้านกับขบวนฆ่าช้างทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อให้ ช้าง ได้อยู่เป็นสัตว์
คู่บ้านคู่เมืองของไทยไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานของเราสืบไป