SlideShare a Scribd company logo
1 of 52
โครงงานคอมพิว เตอร์
เรื่อ ง
การพัฒ นาเว็บ บล็อ ก (WebBlog) ด้ว ย Wordpress
กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ก ารงานอาชีพ และเทคโนโลยี

จัด ทำา โดย
นางสาวอัญ ชิส า พงศ์ช ะนะ เลขที่ 26
ชั้น มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 5/2

รายวิช า (ง 32102)
ภาคเรีย นที่ 2 ปีก ารศึก ษา 2556
กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ก ารงานอาชีพ และเทคโนโลยี
(คอมพิว เตอร์)
โรงเรีย นส้ม ป่อ ยพิท ยาคม ตำา บลส้ม ป่อ ย อำา เภอราษีไ ศล
จัง หวัด ศรีส ะเกษ
สำา นัก งานเขตพื้น ที่ก ารศึก ษามัธ ยมศึก ษา เขต 28
หัว ข้อ โครงงาน
: เรื่อง การพัฒ นาเว็บ บล็อ ก
(WebBlog) ด้ว ย Wordpress
ประเภทของโครงงาน
: โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ผู้เ สนอโครงงาน
: นางสาวอัญชิสา พงศ์ชะนะ ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เลขที่ 26
ครูท ี่ป รึก ษาโครงงาน
: นายณัฐพล บัวพันธ์ ตำาแหน่ง ครู
( ค.ศ. 3 )
ปีก ารศึก ษา
: 2556
บทคัด ย่อ
โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ นี้ จัดทำาขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อนำาเอารูปแบบการเรียนรู้ยุคใหม่ที่ใช้สื่อสังคม
หรือ Social Media ซึ่งเป็นสื่อที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยม
ในปัจจุบัน มาประยุกต์เข้ากับการเรียนรู้ โดยได้ศึกษารูปแบบและ
พัฒนาการเรียนรู้ในการจัดสร้างเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์สำาเร็จรูป
ชื่อว่า Wordpress ทั้งนี้ได้ทำาการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู้ที่
สนใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ
ประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยผู้จดทำาโครงงานสามารถพัฒนารูป
ั
แบบของเว็บบล็อกจาก Wordpress ได้ด้วยตนเองและนำามา
ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น และนำาได้
นำาเสนอบทเรียนผ่านเว็บบล็อก ที่
http://nuttapongko.wordpress.com ทั้งนี้ ทำาให้สามารถ
ติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผู้สนใจทั่วไปได้เป็นอย่าง
ดี
บทที่ 1
บทนำา

แนวคิด ที่ม า และ

ความสำา คัญ
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่อ
ทุกวงการทั่วโลก รวมทั้งวงการศึกษาไทยด้วย และผลพวงที่
ติดตามมาในแง่เทคนิควิธีการเกี่ยวกับ
กระบวนการเรียนรู้คือแนวโน้มในการเรียนรู้แบบโต้ตอบสองทาง
(Interactive) ที่กาลังก้าวเข้ามา
แทนที่กระบวนการเรียนรู้แบบเดิม ที่ผู้รับได้แต่ “รับเอา” โดยไม่
อาจ “เลือก” แต่อย่างใด จาก
แนวคิดดังกล่าว ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจใน
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แก่ผู้เรียนในทุกระดับ มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ผู้เรียนรุ่นใหม่จะเป็นผู้เรียนที่มีความคิดรัก
การเรียนรู้ มีหลักในการศึกษา
ค้นคว้าอย่างเป็นระบบมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีความ
รู้ทักษะที่จาเป็นในการแสวงหา
ความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์, 2539: 122)
จึงเป็นที่ยอมรับว่า เทคโนโลยี
สารสนเทศ ได้กลายเป็นปัจจัยที่สำาคัญในการพัฒนาประเทศการ
จัดการศึกษาจึงต้องมีการปรับตัวใน
การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน โดย
เฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการจัดการเรียน
การสอนนั้น ได้มีข้อกำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่ง
ชาติ พ.ศ. 2542 ว่า รัฐต้องส่งเสริม
และสนับสนุนให้มีการผลิตสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งให้
มีการพัฒนาบุคลากรด้านการ
ผลิตและผู้ใช้ให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะตลอดจนผู้เรียนให้
มีสิทธิที่จะได้รับการพัฒนา
เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ได้
ประกาศชัดให้ประชากรทุกคน
สามารถเข้าถึงการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อ
เนื่อง และสาระทั้งปวงในกฎหมาย
ต้องการให้คนไทยมี “ชีวิตแห่งการเรียนรู้” ทาแผ่นดินไทยให้เป็น
“สังคมแห่งภูมิปัญญา” อย่าง
แท้จริง (ปัญญาพล, 2542: 100)
เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้เกิดสังคมยุคสารสนเทศที่มีสรรพสิ่ง
มากมายให้ได้เรียนรู้ไม่
รู้จักหมดสิ้น การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศด้วยระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์สร้างการเรียนรู้ให้
เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางและกระจายไปทุกระดับ ทั้งในระบบ
นอกระบบและตามอัธยาศัย
(บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์, 2544: 7)
จะเห็นได้ว่าการจัดการศึกษาในยุคของการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศสามารถ
เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้และความต้องการของการศึกษา
ในอนาคต สือและอุปกรณ์
่
การศึกษารูปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่สื่อแบบเก่า มีแหล่ง
ทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลายนับเป็น
สิ่งที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบ
ใหม่ (รุ่ง แก้วแดง, 2543) ทาให้
การเรียนการสอนไม่จากัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนและอยู่ภายใต้
การควบคุมของผู้สอนเท่านั้น แต่
ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย โดย
เฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งโลกใน
ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารจะเป็นปัจจัยหลักในการดาเนินกิจกรรม
ต่างๆ ผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล
ข่าวสารได้เร็วจะได้เปรียบกว่าผู้ที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ช้า
อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นแหล่งรวบรวม
สารสนเทศต่างๆจากทั่วโลกจะเป็นเสมือนขุมทรัพย์ ข้อมูลข่าวสาร
ที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันหันมา
ให้ความสนใจ (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2539 : 7) และ
กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนจัดว่าสาคัญ
อย่างยิ่งในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการ
เรียนรู้ โดยแนวคิดมุ่งเน้นในเรื่อง
การคิดและแก้ปัญหาเป็น และผู้เรียนสามารถถ่ายโยงความรู้ที่
เรียนไปใช้ในชีวิตจริง ซึ่งแนวคิดนี้
จะต้องอาศัยเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่มีทั่วโลก
มาพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน มา
ปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนรู้ใหม่จากแนวทางและวิธีการสั่งสอน
มาเป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ แหล่งการเรียนรู้ใหม่ทาง
สารสนเทศ ซึ่งเป็นการจัดสภาพแวดล้อมใหม่ในการเรียนรู้ที่เน้น
ให้ผู้เรียน มีส่วนร่วมคิดแก้ปัญหาและนาความรู้ที่ได้มานั้นไปถ่าย
โยงใช้จริงในชีวิตประจาวันที่ทันยุคทันสมัย ต่อเหตุการณ์
(ปรัชนันนท์ นิลสุข, 2545:19) เรียนการสอน เพื่อให้เป็นบท
เรียนที่เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นผู้เรียน
เป็น สำาคัญ ขณะเดียวกันผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาทักษะการ
เรียนรู้แบบทีมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการ เรียนรู้ และยัง
สามารถเป็นแนวทางในการสร้างบทเรียนผ่านเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตในเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้
วัต ถุป ระสงค์
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog)
ด้วยWordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์
2. เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทของ
คอมพิวเตอร์
3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก
จากWordpressได้ด้วยตนเองและนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ
เรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
4. เพื่อให้สามารถติดต่อสือสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผู้สนใจ
่
ทั่วไป

ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog)
ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์
2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต
2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com
2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเช่น
www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.co
m 2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพเช่นAdobe
Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0
ผลที่ค าดว่า จะได้ร ับ
1. ได้รับความรู้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
Wordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2. ได้รับความรู้เกี่ยว
กับเรื่องที่นำามาเป็นบทเรียนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่องประเภท
ของคอมพิวเตอร์
3. ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจาก
Wordpressได้ด้วยตนเองและนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ
เรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
4. สามารถติดต่อสือสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป
่
เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ผ่านเว็บบล็อกได้
5. ได้นำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า
และสร้างสรรค์
บทที่ 2
เอกสารที่เ กี่ย วข้อ ง
ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้
จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ดังต่อไปนี้
2.1 ความสำาคัญของคอมพิวเตอร์
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับของคอมพิวเตอร์
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.1 ความสำา คัญ ของคอมพิว เตอร์
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีความก้าวหน้าอย่าง
รวดเร็ว ขนาดเล็กลง ราคาถูกลงแต่ประสิทธิภาพหรือความ
สามารถในการทางานสูงขึ้น ทาให้หน่วยงาน องค์กร ตลอดจน
บุคลได้นาคอมพิวเตอร์มาใช้งานกันอย่างกว้างขวาง เช่น การ
พิมพ์เอกสารต่าง ๆ การออกแบบงานด้านศิลปะ การสร้างภาพ
กราฟิก การเล่นเกม การดูหนังฟังเพลง การสร้างเว็บส่วนตัว การ
นาคอมพิวเตอร์มาใช้งานในลักษณะเครือข่าย เช่น เครือข่าย
อินเทอร์เน็ต การติดต่อสื่อสาร การเลือกซื้อสินค้า การสืบค้น
ข้อมูล ด้านการศึกษา เป็นต้น
2.2 ข้อ มูล เกี่ย วกับ คอมพิว เตอร์
2.2.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คืออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic
device)ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่
อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความ
หมายในสิ่งต่าง ๆโดยคุณสมบัติที่สำาคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่
สามารถกำาหนดชุดคำาสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้
(programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำางานได้หลาก
หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับชุดคำาสั่งที่เลือกมาใช้งานทำาให้สามารถนำา
คอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่นใช้ในการ
ตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก -ถอนเงินในธนาคารการ
ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ
เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความ
ถูกต้องและมีความรวดเร็วอย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใด
ก็ตามเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำางานพื้นฐาน 4 อย่าง
(IPOS cycle) คือ
1. รับ ข้อ มูล (Input)เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการรับข้อมูลจาก
หน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ดหรือ เมาส์
2. ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการ
ประมวลผลกับข้อมูลเพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
3. แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการ
ประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น
เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
4. เก็บ ข้อ มูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการเก็บ
ผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถ
นำามาใช้ใหม่ได้ในอนาคต
2.2.2 ประวัต ิค วามเป็น มาและพัฒ นาการของคอมพิว เตอร์
 [ ประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ]ชาวจีนได้ประดิษฐ์เครื่อง
มือเพื่อใช้ในการคำานวณขึ้นมาชนิดหนึ่ง เรียกว่า ลูกคิด
( Abacus)

ลูก คิด ( Abacus)
 [ พ.ศ. 2158 ] นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John
Napier ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้ช่วยในการคำานวณขึ้นมาเรียกว่า
Napier’s Bones เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกับตารางสูตรคูณ
ในปัจจุบัน
 [ พ.ศ.2173 ] วิลเลียมออตเทรต( William Oughtred) นัก
คณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์ไม้บรรทัดคำานวณ ( Slide
Rule) ซึ่งต่อมากลายเป็นพื้นฐานของการสร้างคอมพิวเตอร์แบบอ
นาลอก
 [ พ.ศ.2185 ] เบลส์ ปาสคาล ( Blaise Pascal) นัก
คณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้ประดิษฐ์เครื่องบวกลบขึ้น โดยใช้หลัก
ารหมุนของฟันเฟืองและการทดเลขเมื่อฟันเฟืองหมุน ไปครบรอบ
โดยแสดงตัวเลขจาก 0-9 ออกที่หน้าปัด

Pascal’s Calculato
 [ พ.ศ.2214 ] กอตฟริต วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ ( Gottfried
Wilhelm Leibniz ) นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ปรับปรุง
เครื่องคิดเลขปาสคาล ให้ทำางานได้ดีกว่าเดิมและเขายังค้นพบเลข
ฐานสอง (Binary number)

กอตฟริต วิล เฮล์ม ไลบ์น ิซ ( Gottfried Wilhelm Leibniz
)
 [ พ.ศ.2288 ] โจเซฟแมรี่ แจคคาร์ด ( Joseph Marie
Jacquard) เป็นชาวฝรั่งเศสได้คิด เครื่องทอผ้าโดยใช้คำาสั่งจาก
บัตรเจาะรูควบคุมการทดผ้าให้มีสีและลวดลายต่าง ๆ

บัต รเจาะรู

 [ พ.ศ.2365 ] ชาร์ล แบบเบจ ( Charles Babbage) นัก
คณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องหาผล
ต่าง ( Difference Engine) เพื่อใช้คำานวณและพิมพ์ค่าทาง
ตรีโกณมิติและฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ แบบเบจได้พยายามสร้าง
เครื่องคำานวณอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า Analytical Engine โดยมี
แนวคิดให้แบ่งการทำางานของเครื่องออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเก็บ
ข้อมูล (Store unit), ส่วนควบคุม (Control unit) และส่วน
คำานวณ (Arithmetic unit) ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการนำามาใช้
เป็นต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจึงยกย่องแบบเบจ
ว่าเป็นบิดาแห่งเครื่องคอมพิวเตอร์ เลดี้ เอดา ออคุสตาเลฟเลค
( Lady Ada Augusta Lovelace ) เป็นนักคณิตศาสตร์ที่เข้าใจ
ผลงานของแบบเบจได้เขียนวิธีการใช้เครื่องคำานวณของแบบเบจ
เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เล่มหนึ่ง ต่อมาเลดี้ เอดา ออคุส
ตาเลฟเลค จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของ
โลก
Differnce Engine
 [ พ.ศ.2393 ] ยอร์จบูล ( George Boole) นักคณิตศาสตร์
ชาวอังกฤษ ได้คิดระบบพีชคณิตระบบใหม่เรียกว่า Boolean
Algebra โดยใช้อธิบายหลักเหตุผลทางตรรกวิทยาโดยใช้สภาวะ
เพียงสองอย่างคือ True (On) และ False (Off) ร่วมกับ
เครื่องหมายในทางตรรกะ
พื้นฐาน ได้แก่ NOT AND และ OR ต่อมาระบบเลขฐานสอง และ
Boolean Algebra ก็ได้ถูกนำามาดัดแปลงให้เข้ากับวงจรไฟฟ้า
ซึ่งมีสภาวะ 2 แบบ คือ เปิด , ปิดจึงนับเป็นรากฐานของการ
ออกแบบวงจรในระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน (Digital
Computer)
 [ พ.ศ.2480-2481 ] ดร.จอห์น วินเซนต์อตานาซอฟ
( Dr.Jobn Vincent Atansoff) และคลิฟฟอร์ด แบรี่ ( Clifford
Berry) ได้ประดิษฐ์เครื่อง ABC ( Atanasoff-Berry) ขึนโดยได้
้
นำาหลอดสุญญากาศมาใช้งาน ABC ถือเป็นเครื่องคำานวณเครื่อง
แรกที่เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
Atansoff

ABC computer

Berry
 [ พ.ศ.2487 ] ศาสตราจารย์โอเวิร์ด ไอด์เคน (Howard
Aiken) แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ร่วมกับวิศวกรของบริษัท
ไอบีเอ็มได้สร้างเครื่อง MARK I เป็นผลสำาเร็จ แ ต่อย่างไรก็ตาม
เครื่อง MARK I นี้ยังไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่แท้จริงแต่เป็นเครื่องคิด
เลขไฟฟ้าขนาดใหญ่เท่านั้น

 [ พ.ศ.2485-2495 ] มหาวิทยาลัยเพนซิลเลเนียได้สร้าง
เครื่อง ENIAC (Electronic Numerical Integrator And
Calculator) นับได้ว่าเป็นเครื่องคำานวณอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรก
ของโลกที่ใช้หลอดสูญญากาศและควบคุมการทำางานโดยวิธีเจาะ
ชุดคำาสั่งลงในบัตรเจาะรู

ENIAC
 [ พ.ศ.2492 ] ดร.จอห์น ฟอน นิวแมนน์ ( Dr.John Von
Neumann ) ได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บคำาสั่งการ
ปฏิบัติงานทั้งหมดไว้ภายในเครื่องชื่อว่า EDVAC นับเป็น
คอมพิวเตอร์เครี่องแรกที่สามารถเก็บโปรแกรม ไว้ในเครื่องได้
EDVAC (first stored program computer)
 [ พ.ศ.2496-2497 ] บริษัทไอบีเอ็มได้สร้างคอมพิวเตอร์ชื่อ
IBM 701 และ IBM 650 โดยใช้หลอดสุญญากาศเป็นวัสดุสร้าง
ต่อมาเกิดมีการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นสารกึ่งตัวนำาขึ้นที่ห้อง
ปฏิบัติการของบริษัท Bell Telephone ได้เกิดทรานซิสเตอร์ตัว
แรกขึ้นต่อมาทรานซิสเตอร์ได้ถูกนำาไปแทนหลอดสูญญากาศจึง
ทำาให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลงและเกิดความร้อนน้อยลง
(เครื่องที่ใช้ทรานซิสเตอร์ได้แก่ IBM 1401และ IBM 1620 )

หลอดสูญ ญากาศ (Vacuum tube)
ทรานซีส เตอร์ (Transistor)
 [ พ.ศ.2508 ] วงจรคอมพิวเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงอีกมากเมื่อ
มีวงจรรวม ( Integrated Circuit: IC) เกิดขึ้น ซึ่งไอบีเอ็มนี้ได้
ถูกนำาไปแทนที่ทรานซิสเตอร์ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของระบบ
คอมพิวเตอร์อีกครั้งซึ่งผลก็คือทำาให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง

IC
 [ พ.ศ.2514 ] บริษัท Intel ได้ใช้เทคโนโลยีของการผลิต
วงจรรวมแบบ ( Large Scale Integrated Circuit :LSI )
ทำาการรวมเอาวงจรที่ใช้เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ( CPU) ของ
คอมพิวเตอร์มาบรรจุอยู่ในแผ่นไอซีเพียงตัวเดียวซึ่งไอซีนี้เรียกว่า
ไมโครโปรเซสเซอร์ ( Microprocessor)
Microprocessor
 [ พ.ศ.2506] ประเทศไทยเริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้เป็นครั้งแรก
โดยที่คอมพิวเตอร์เครื่องแรกในประเทศไทยได้ติดตั้งที่ ภาควิชา
สถิติคณะพานิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้คือ IBM 1620 ซึ่งได้รับ
มอบจากมูลนิธิเอไอดี และบริษัทไอบีเอ็ม แห่ง ประเทศไทยจำากัด
ปัจจุบันหมดอายุการใช้งานไปแล้วจึงได้มอบให้แก่ศูนย์บริภัณฑ์
การศึกษาท้องฟ้าจำาลองกรุงเทพฯ
 [ พ.ศ.2507] เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองของประเทศไทย
ติดตั้งที่สำานักงานสถิติแห่งชาติในเดือนมีนาคม 2507
ก่อกำาเนิด ไมโครโปรเซสเซอร์
เมื่อก่อนนั้น Intel เป็นบริษัทผลิตชิปไอซีแห่งหนึ่งที่ไม่ใหญ่โต
มากนักเท่าในปัจจุบันนี้ เมื่อปีค.ศ.1969 ได้สร้างความสะเทือน
ให้กับวงการอิเล็คทรอนิคส์โดยการออกชิปหน่วยความ
จำา(Memory)ขนาด 1 Kbyte มาเป็นรายแรก บริษัทบิสซิคอม
พ์(Busicomp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขของญี่ปุ่นได้ทำาการว่า
จ้างให้ Intel ทำาการผลิตชิปไอซีที่บิสซิคอมพ์เป็นคนออกแบบเอง
ที่มีจำานวน 12 ตัว โครงการนี้ถูกมอบหมายให้นาย M.E. Hoff,
Jr. ซึ่งเข้าตัดสินใจที่จะใช้วิธีการออกแบบชิปแบบใหม่โดยสร้าง
ชิปที่ให้ถูกโปรแกรมได้หมายถึงว่าสามารถนำาเอาชุดคำาสั่งของ
การคำานวณไปเก็บไว้ในหน่วยความจำาก่อนแล้วให้ไอซีตัวนี้อ่าน
เข้ามาแปล ความหมาย และทำางานภายหลัง ในปี 1971 Intel
ได้นำาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Intel 4004
ในราคา 200 เหรียญสหรัฐ และเรียกชิปนี้ว่าเป็น ไมโคร
โปรเซสเซอร์(Micro Processor) ก็เพราะว่า 4004 นี้เป็น CPU
(Central Processing Unit) ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาด 4.2 X 3.2
มิลลิเมตร ภายในประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์ จำานวน 2250 ตัว
และเป็นไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 4 บิต หลังจาก 1 ปีต่อมา
Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 8 บิตออกมาโดยใช้ชื่อ
ว่า 8008 มีชุดคำาสั่ง 48 คำาสั่ง และอ้างหน่วยความจำาได้ 16
Kbyte ซึ่งทาง Intel หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทางด้านชิป
หน่วยความจำาได้อีกทางหนึ่ง เมื่อปี 1973 ทาง Intel ได้ออก
ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ที่มีชุดคำาสั่งพื้นฐาน 74 คำาสั่งและ
สามารถอ้างหน่วยความจำาได้ 64 Kbyte
ไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกของโลก
เมื่อปี 1975 มีนิตยสารต่างประเทศฉบับหนึ่ง ชื่อว่า Popular
Electronics ฉบับเดือน มกราคม ได้ลงบทความ เกี่ยวกับเครื่อง
ไมโครโปรเซสเซอร์เครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า อัลแตร์8800
(Altair) ซึ่งทำาออกมาเป็นชุดคิทโดยบริษัท MITS (Micro
Insumentation And Telemetry Systems) ลักษณะของชุด
คิท ก็คือจะอยู่ในรูปของอุปกรณ์แต่ละชิ้นโดยให้ คุณนำาไป
ประกอบขึ้นใช้เอง บริษัท MITS ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1969 โดยมีจุดมุ่ง
หมายเพื่อทำาตลาดในด้านเครื่องคิดเลขแต่การค้าชลอตัวลง
ประธานบริษัท ชื่อ H. Edword Roberts เห็นการไกลคิดเปิด
ตลาดใหม่ซึ่งจะขายชุดคิด คอมพิวเตอร์ ประมาณเอาไว้ว่าอาจ
ขายได้ในจำานวนปีล่ะประมาณ 200-300 ชุดจึงให้ทิมงานออก
แบบบและพัฒนาแล้วเสร็จก่อนถึงคริสต์มาส ในปี 1974 แต่เพิ่ง
มาประกาศตัวในปีถัดไป สำาหรับ CPU ที่ใช้คือ 8080 และคำาว่า
ไมโครคอมพิวเตอร์จึงถูกเรียกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อชุดคิท
คอมพิวเตอร์ชุดนี้ ชุดคิทของ อัลแตร์นี้ประกอบด้วย ไมโคร
โปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลายมีแผง
หน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วย
ความจำา 256 Byte ( แหม.. เหมือนของเล่นเราในสมัยนี้ จังงง )
นอกนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำาให้
MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียวมีจดหมายส่งเข้ามาขอ
สั่งซื้อเป็นจำานวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว ด้วยชิป8080 นี่เองได้
เป็นแรงดลใจให้บริษัท ดิจิตอลรีเสิร์ช (Digital Research)
กำาเนิดระบบปฏิบัติการ(Operating System) ที่ชื่อว่า ซีพี
เอ็ม(CP/M หรือ Control Program For Microcomputer)
ขึ้นมา ในขณะที่ Microsoft ยังเพิ่งออก Microsoft Basic รุ่น
แรกเท่านั้นเอง
ถึงยุค Z80 เมื่อเดือน พฤศจิกายนปี 1974 ได้มี วิศวกรของ
Intel บางคนได้ออกมาตั้งบริษัทผลิตชิปเอง โดยมีชื่อว่า ไซล๊อก
(Zilog) เนื่องจาก วิศวกรเหล่านี้ ได้มีส่วนร่ามในการผลิต
ชิป8080 ด้วยจึงได้นำาเอาเทคโนโลยีการผลิตนี้มาสร้างตัวใหม่ที่
ดีกว่า มีชื่อว่า Z80 ยังคงเป็น ชิปขนาด 8 บิต เมื่อได้ออกสู่ตลาด
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากได้ปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง
ๆ ที่มอยู่ใน 8080 จึงทำาให้เครื่องคอมพิวเตอร์หลายต่อหลายยี่ห้อ
ี
หันมาใช้ชิปZ80 กัน แม้แต่ซีพีเอ็ม ก็ยังถูกปรับปรุงให้มาใช้กับ
Z80 นี้ด้วย *** แม้ในปัจจุบันนี้ Z80 ยังคงถูกใช้งาน และนำาไป
ใช้ ในการ
เรียนการสอนไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วย เช่น ชุดคิดหรือ Single
Board Microcomputer ของ ETT, Silaเป็นต้น และ IC ตัวนี้
ยังผลิตขาย อยู่ในปัจจุบัน ในราคา ไม่เกิน 100 บาทน่ะจะบอก
ให้) Computer เครื่องแรกของ IBM ในปี 1975 ไอบีเอ็มได้
ออกเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกออกมาแต่ทางไอบีเอ็ม
ได้เรียกเครื่องนี้ว่าเป็น เทอร์มินัลแบบชาญฉลาด ที่สามารถ
โปรแกรมได้ (Intelligent Programmable Terminal) และตั้ง
ชื่อรุ่นว่า Model 5100 มีหน่วยความจำา 16 Kbyte แล้วยังมีตัว
แปลภาษาเบสิก แบบอินเตอร์พรีทเตอร์ (Interpreter) ด้วย และมี
ไดรฟ์สำาหรับใส่คาร์ทิดจ์เทปในตัว แต่ก็ยังขายไม่ดีเอามาก ๆ เลย
เพราะว่าตั้งราคาไว้สูงมากถึง 9,000 เหรียญสหัฐ ในปลายปี
1980 บริษัทไอบีเอ็มได้เกิดแผนกเล็ก ๆ ขึ้นมาแผนกหนึ่งเรียกว่า
Entry Systems Division ภายใต้ทีมของคนชื่อว่า ดอน เอส
ทริดจ์ (Don Estridge) และนักออกแบบอีก 12 คนโดยได้รับ
มอบหมายให้พัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของ
ไอบีเอ็มโมเด็ล5100 นั้นเอง โดยนำาเอาจุดเด่นของเครื่องที่ขายดี
มารวมไว้ในการออกแบบเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็ม
และผลิตจำาหน่ายได้ภายในปีเดียวภายใต้ชื่อว่า ไอบีเอ็มพีซี (IBM
PC) ซึ่งถูกเปิดตัวในเดือน สิหาคม ปี 1981 และยอดขายของ
เครื่องพีซีก็ได้พุ่งอย่างรวดเร็ว ทำาให้บริษัทอื่น ๆ จับตามอง
กำา เนิด แอปเปิ้ล
ในปี 1976 หลังจาก Stephen Wozniak และ Steve Jobs ได้
ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer)
และได้นำาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จาก
โรงรถออกมาขายโดยใช้ชื่อว่า Apple I ในราคา 695 เหรียญ
บริษัทแอปเปิลได้ผลิตเครื่อง Apple I ออกมาไม่มากนัก ภายในปี
เดียวได้ผลิต Apple II ออกมา และรุ่นนี้เป็นรุ่นเปิดศักราชแห่ง
วงการไมโครคอมพิวเตอร์และเป็นการสร้างมาตรฐาน ที่ไมโคร
คอมพิวเตอร์ ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด
2.2.3 ประเภทของคอมพิว เตอร์
ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก
(very large scaleintegrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุ
ทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์
ในรุ่นปัจจุบันออกเป็น 4 ประเภทดังต่อไปนี้
ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์ (supercomputer)
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก
และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ
เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถ
คำานวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับ
การออกแบบ เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์
และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์
อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษ
กับสภาวะแวดล้อมซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ แก้ไขปัญหา
ประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการคำานวณหลายปีกว่าจะเสร็จ
สิ้น ในขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน
เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ จะต้องใช้
หน่วยความจำาสูง ดังนั้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจำาที่
ใหญ่มาก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วย
ประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นที่มีหน่วย
ประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซึ่งสามารถทำางานหลายอย่างได้
พร้อม ๆ กัน
เมนเฟรมคอมพิว เตอร์ (mainframe computer)
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพที่ตำ่ากว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์
มาก แต่ยังมีความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์
หรือไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการ
ผู้ใช้จำานวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน ฉะนั้น จึงสามารถใช้
โปรแกรมจำานวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้ โดยเฉพาะถ้าต่อ
เครื่องเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก
ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้
ในการทำาบัญชีลูกค้า หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอน
เงินแบบอัตโนมัติ (automatic teller machine) เนื่องจาก
เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากในการบริการผู้ใช้
พร้อม ๆ กัน เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงต้องมีหน่วยความจำาที่ใหญ่
มาก
มิน ิค อมพิว เตอร์ (minicomputer)
มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถ
บริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพ
เพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำานวนที่เทียบเท่าเมนเฟรม
คอมพิวเตอร์ได้ จึงทำาให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำาหรับองค์กร
ขนาดกลาง หรือสำาหรับแผนกหนึ่งหรือสาขาหนึ่งขององค์กร
ขนาดใหญ่เท่านั้น

ไมโครคอมพิว เตอร์ (microcomputer) หรือ พีซ ี
(personalcomputer หรือ PC)
ไมโครคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้ง
โต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น เช่น ขนาด
สมุดบันทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ
(palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปี
พ.ศ. 2518 ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่
สูง แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกระทัดรัด ไมโคร
คอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำาหรับใช้ส่วนตัว ไมโครคอมพิวเตอร์ได้
ถูกออกแบบสำาหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน และสำานักงานสำาหรับที่
บ้าน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำางบประมาณ
รายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำาการบ้านของลูกๆ การค้นคว้า
ข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic
mail หรือ E -mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet
phone) ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทาง
บันเทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำาหรับที่
โรงเรียน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน
นักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำาหรับที่สำานักงาน เรา
สามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อ
มูลอื่นๆ เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำานายยอดซื้อขายล่วง
หน้า
โน้ต บุ๊ค (notebook or laptop)
โน้ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์
ี
ถูกออกแบบไว้เพื่อนำาติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และนำ้า
หนักเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอๆกับสมุดที่ทำาด้วยกระดาษ
เน็ต บุ๊ค (netbook or laptop) เน็ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มี
ขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์และเล็กกว่าโน้ตบุ๊ค ถูกออกแบบ
ไว้เพื่อนำาติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และนำ้าหนักเบา

แท็บ เล็ต คอมพิว เตอร์ (tablet computer)
แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แท็บเล็ต คือเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ ขนาดกลางและใช้
หน้าจอสัมผัสในการทำางานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริง
หรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมี
ความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบconvertible ที่มีหน้าจอ
แบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุน
หรือแบบสไลด์ก็ตาม [21]
2.3 เว็บ บล็อ ก (WebBlog)
2.3.1 ความหมายของเว็บ บล็อ ก (WebBlog)
เว็บ ล็อ ก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์
ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน
ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะ
ประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า
เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับ
เว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถ
แสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน
ซึ่งทำาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำาว่า "บล็อก"
ยังใช้เป็นคำากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้
ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก
โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การ
แสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร
การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียน
เฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารี
ออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจาก
นี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำาบล็อกของทางบริษัท
ขึ้น เพื่อเสนอ
แนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาใน
ลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่
แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
2.3.2 ประเภทของเว็บ บล็อ ก
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่
1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็น
บล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจำาผู้
ให้กำาเนิดคำาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะ
ครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ
linklog นั่นเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์
เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของ
บล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ
ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำา
บล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทำาบล็อก
ได้เป็นอย่างดี
1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้
เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อก
อยากนำาเสนอ และมัก
จะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดย
เจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ
1.2 Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้
ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำากัน
มากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต
หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ
เคลื่อนไหว movie
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่
2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นำาแสนอความคิดเห็น
กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็นหลัก
2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นก
ลุ่ม เช่น blognone.com
2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ
2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราว
ของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม
2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ
สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black
ของสุทธิชัย หยุ่น
2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นำาเสนอเรื่อง
ราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย
ฯลฯ
2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือ
มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ
แลกเปลี่ยนความคิดกัน
2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำาเสนอวิธีการ
ต่าง
2.3.3 เว็บ ไซต์ท ี่ใ ห้บ ริก ารเว็บ บล็อ ก
www.blogger.com
www.exteen.com
www.mapandy.com
www.buddythai.com
www.imigg.com
www.5iam.com
www.blogprathai.com
www.ndesignsblog.com
www.idatablog.com
www.inewblog.com
www.onblogme.com
www.freeseoblogs.com
www.sumhua.com
www.diaryi.net
www.istoreblog.com
www.skypream.com
www.thailandspace.com
www.sungson.com
www.gujaba.com
www.sabuyblog.com
www.ugetblog.com
www.jaideespace.com
www.maxsiteth.com
www.my2blog.com
2.3.4 ประวัต ิข องเว็บ ไซต์ Wordpress wordpress
หลายคนรู้จักกันดีและบางคนก็อาจจะกำาลังใช้งานอยู่ก็ได้แต่จะมี
สักกี่คนที่รู้ว่า wordpress มีประวัติความเป็นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้
กันครับ ความเป็นมาของ wordpress เริ่มจาก B2 หรือ cafelog
คือผู้ที่ให้กำาเนิดการทำางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อว่า wordpress
ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมี
บล็อก wordpress อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า
wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กับ MySQL
โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighiเป็นผู้
ร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น wordpress ยังอยู่ใน
B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็น
ความพยายามของ MattMullenweg และ Mike little ในปี
2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทำาให้มีผู้งาน
wordpress จำานวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิดแบรนด์wp หรือ
wordpress ขึนมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่าง
้
ต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัล
ชนะเลิศในเรื่องของ Packt opensource CMS award
เว็บไซต์นี้ จะแนะนำาถึงวิธี การใช้ WordPressตั้งแต่พื้นฐานเริ่ม
ต้น ไปจนถึงการเพิ่มเทคนิคลูกเล่นต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้กัน
เราควรมารู้จักก่อนว่า
WordPress คือ อะไร
WordPress คือ โปรแกรมสำำเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอำไว้สำำสำำหรับ
สร้ำง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สำมำรถใช้งำนได้ฟรี ถูกจัดอยู่ใน
ประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมำย
ถึง โปรแกรมสำำเร็จรูปที่มีไว้สำำหรับสร้ำงและบริหำรจัดกำรเนื้อหำ
และข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับกำรพัฒนำและเขียนชุด
คำำสั่งมำจำกภำษำ PHP (เป็นภำษำโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทำำงำน
บนฐำนข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสำำหรับจัดกำรฐำนข้อมูล
มีหน้ำที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล กำรใช้งำน
WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภำยใต้สัญญำอนุญำตใช้งำน
แบบ GNU General Public License
WordPress ปรำกฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546
(2003) เป็นควำมร่วมมือกันระหว่ำง MattMullenwegและ
Mike Littlejมีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และ
ยังมีบริกำร Free Hosting (พื้นที่สำำหรับเก็บทุกอย่ำงของเว็บ/
บล็อก) โดยขอใช้บริกำรได้ที่ http://wordpress.com
ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับควำมนิยมเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็ว จนมี
ผู้ใช้งำนมำกกว่ำ 200 ล้ำนเว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้ำ CMS ตัว
อื่น ๆ ไม่ว่ำจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomlaสำเหตุเป็น
เพรำะ ใช้งำนง่ำย ไม่จำำเป็นต้องมีควำมรู้ในเรื่อง Programing มี
รูปแบบที่สวยงำม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนำ Theme (รูปแบบกำรแสดง
ผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่ำงมำกมำย
นอกจำกนี้ สำำหรับนักพัฒนำ WordPress ยังมี Codex เอำไว้ให้
เรำได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษำองค์ประกอบส่วนต่ำง ๆ ทีอยู่ภำยใน
่
สำำหรับพัฒนำต่อยอด หรือ นำำไปสร้ำง Theme และ Plugins
ขึ้นมำเองได้อีกด้วย หนำำซำ้ำ ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU
สำำหรับไว้ให้ผู้นำำไปใช้ สำมำรถเปิดให้บริกำรพื้นที่ทำำเว็บบล็อก
เป็นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมำสมัครขอร่วมใช้บริกำรในกำรสร้ำง
ู้
เว็บบล็อก ภำยใต้ชื่อโดเมนของเขำ หรือที่เรียกว่ำ Sub-Domain
จำกที่ได้เกริ่นนำำไปในบทควำมนี้ คงจะทำำให้รู้จัก และได้ทรำบ
ประวัติควำมเป็นมำ รวมถึงควำมหมำยกันไปบ้ำงแล้วว่ำ
WordPressคือ อะไร ในบทควำมหน้ำ เรำจะได้เริ่มเรียนรู้ถึงรูป
แบบ และวิธีกำรใช้งำน ไปจนถึงกำรเพิ่มลูกเล่นต่ำง ๆ ต่อไป
บทที่ 3
วิธ ีด ำำ เนิน งำนโครงงำน
ในกำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์ กำรพัฒนำเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้
จัดทำำโครงงำนมีวิธีดำำเนินงำนโครงงำน ตำมขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 วัส ดุ อุป กรณ์ เครื่อ งมือ หรือ โปรแกรมหรือ ที่ใ ช้ใ นกำร
พัฒ นำ
3.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ำย
อินเทอร์เน็ต
3.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริกำรเว็บบล็อก คือ
www.wordpress.com 3.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในกำรติดต่อ
สื่อสำร เช่น www.facebook.com www.hotmail.com
www.google.com 3.1.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภำพ
เช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0
3.2 ขั้น ตอนกำรดำเนิน งำน
3.2.1 คิดหัวข้อโครงงำนเพื่อนำำเสนอครูที่ปรึกษำโครงงำน
3.2.2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่อง
ประเภทของคอมพิวเตอร์ ว่ำมีเนื้อหำมำกน้อยเพียงใด และต้อง
ศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมเพียงใดจำกเว็บไซต์ต่ำงๆ และเก็บข้อมูลไว้
เพื่อจัดทำำเนื้อหำต่อไป
3.2.3 ศึกษำกำรสร้ำงเว็บบล็อกที่สร้ำงจำกเว็บไซต์ Wordpress
จำกเอกสำรที่ครูประจำำวิชำกำำหนด และจำกเว็บไซต์ต่ำงๆ ที่นำำ
เสนอเทคนิค วิธีกำรสร้ำงเว็บบล็อก
3.2.4 จัดทำำโครงร่ำงโครงงำนคอมพิวเตอร์เพื่อนำำเสนอครูที่
ปรึกษำผ่ำนเว็บบล็อกของตัวเอง โดยได้นำำไฟล์ข้อมูลไปฝำกไว้ที่
เว็บไซต์ชื่อ http://www.slideshare.net
3.2.5 ปฏิบัติกำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์
โดยกำรสมัครสมำชิก และสร้ำงบทเรียนที่สนใจตำมแบบเสนอ
โครงร่ำงที่เสนอไว้แล้ว
3.2.6 นำำเสนอรำยงำนควำมก้ำวหน้ำเป็นระยะๆ โดยแจ้งให้ครูที่
ปรึกษำโครงงำนเข้ำไปตรวจควำมก้ำวหน้ำของโครงงำนผ่ำน
เว็บไซต์ http://www.facebook.com/อัศวินปุตตำปวน ซึ่งครู
ที่ปรึกษำจะให้ข้อเสนอแนะต่ำงๆ เพื่อให้จดทำำเนื้อหำและกำรนำำ
ั
เสนอที่น่ำสนใจต่อไป ทั้งนี้เมื่อได้รับคำำแนะนำำก็จะนำำมำปรับปรุง
แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สร้ำงเครือข่ำยสังคมโดยใช้
เว็บไซต์ Facebook เพื่อให้เพื่อนๆ มำช่วยให้ข้อเสนอแนะ และ
สื่อสำรกันหำกมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกำรสร้ำงและพัฒนำเว็บบล็อกดัง
กล่ำว
บทที่ 4
ผลกำรดำำ เนิน งำนโครงงำน
กำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog)
ด้วย Wordpress เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ มีวัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpress และค้นคว้ำ
เรื่องที่สนใจเกี่ยวกับประเภทของคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้จดทำำโครง
ั
งำนสำมำรถนำำมำประยุกต์ใช้ให้เข้ำกับกำรเรียนรู้ของตนเองมำก
ยิ่งขึ้น ตลอดจนสำมำรถติดต่อสื่อสำรกันได้ระหว่ำงครูเพื่อนและผู้
สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลกำรดำำเนินงำนโครงงำน ดังนี้
ผลกำรพัฒ นำเว็บ บล็อ ก
กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
Wordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้จดทำำได้เริ่มดำำเนิน
ั
งำนตำมขั้นตอนกำรดำำเนินงำนที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้
สมัครเป็นสมำชิกเว็บบล็อกที่ชื่อhttp://www.wordpress.com
จำกนั้นได้นำำเสนอเผยแพร่ผลงำนผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต ที่
สำมำรถเข้ำถึงได้ทุกที่ทุกเวลำ โดยได้นำำเผยแพร่ที่เว็บบล็อก
ชื่อhttp://nuttapongko.wordpress.comซึ่งสำมำรถเชื่อม
ต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภท
เว็บไซต์facebook ของผู้จัดทำำที่ชื่อ
http://www.facebook.com/อัศวินปุตตำปวนทั้งนี้เว็บบล็อก
ดังกล่ำว สำมำรถจัดกำรและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่ำง
ดีโดยทั้งครูที่ปรึกษำ เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้ำไปมีส่วนร่วมใน
กำรจัดกำรเรียนรู้ โดยแสดงควำมเห็นในเนื้อหำและรูปแบบของ
กำรนำำเสนออย่ำงหลำกหลำย ซึ่งทำำให้เกิดกำรเรียนรู้และเป็น
แหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่ำงหลำกหลำยและรวดเร็ว
ตัว อย่ำ งกำรนำเสนอหน้ำ เว็บ บล็อ ก
บทที่ 5 สรุป ผลกำรดำเนิน งำน และข้อ เสนอแนะ
กำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog)
ด้วย Wordpress เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ สำมำรถสรุป
ผลกำรดำำเนินโครงงำน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 กำรดำเนิน งำนจัด ทำโครงงำน
5.1.1 วัต ถุป ระสงค์ข องโครงงำน
5.2.2 วัส ดุ อุป กรณ์ เครื่อ งมือ หรือ โปรแกรมหรือ ที่ใ ช้ใ น
กำรพัฒ นำ
5.2.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ำย
อินเทอร์เน็ต
5.2.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริกำรเว็บบล็อก คือ
www.wordpress.com
5.2.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในกำรติดต่อสื่อสำรเช่น
www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.co
m
5.2.2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภำพเช่นAdobe
Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0
5.2 สรุป ผลกำรดำเนิน งำนโครงงำน
กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่องประเภท
ของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้จดทำำได้เริ่มดำำเนินงำนตำมขั้นตอนกำร
ั
ดำำเนินงำนที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมำชิกเว็บ
บล็อกที่ชื่อhttp://www.wordpress.com จำกนั้นได้นำำเสนอ
เผยแพร่ผลงำนผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต ที่สำมำรถเข้ำถึงได้ทุก
ที่ทุกเวลำ โดยได้นำำเผยแพร่ที่เว็บบล็อก
ชื่อhttp://nuttapongko.wordpress.com ซึ่งสำมำรถเชื่อม
ต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภท
เว็บไซต์facebook ของผู้จัดทำำที่ชื่อ
http://www.facebook.com/อัศวิน ปุตตำปวนทั้งนี้เว็บบล็อก
ดังกล่ำว สำมำรถจัดกำรและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่ำง
ดีโดยทั้งครูที่ปรึกษำ เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้ำไปมีส่วนร่วมใน
กำรจัดกำรเรียนรู้ โดยแสดงควำมเห็นในเนื้อหำและรูปแบบของ
กำรนำำเสนออย่ำงหลำกหลำย ซึ่งทำำให้เกิดกำรเรียนรู้และเป็น
แหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่ำงหลำกหลำยและรวดเร็ว
5.3ข้อ เสนอแนะ
(ข้อเสนอแนะนี้ นักเรียนสำมำรถคิดเสนอแนะเพิ่มเติมได้ ครูแค่ยก
ตัวอย่ำงให้ดูค่ะ ถ้ำมีเพิ่ม หรือกำรเรียนรู้แบบนี้ไม่ดี ไม่เหมำะสม
นักเรียนแจ้งหรือเสนอแนะตรงนี้ได้เลย)
5.3.1 ข้อ เสนอแนะทั่ว ไป
5.3.1.1 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ Wordpressเป็นเว็บ
บล็อกสำาเร็จรูปที่ใช้ทำาเว็บไซต์ได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ถ้าเราใช้
ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการ
ละเมิดลิขสิทธิ์และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผู้จัดทำา
ควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้
และสิ่งดี ๆ นำาไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นมาศึกษาความรู้ ที่เป็น
ประโยชน์ต่อไป
5.3.1.2 ควรมีการจัดทำาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้
ครบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้
5.3.1.3 ควรมี
การจัดทำาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม
5.3.2 ปัญ หา อุป สรรค และแนวทางในการพัฒ นา
5.3.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำาโครงงาน และ
บางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา เข้าพร้อมกันก็จะทำาให้ช้า จึงทำาให้
การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย
5.3.2.2 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกค่อน
ข้างช้า ทำาให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ เพราะครูผู้สอนไม่
สามารถสอนเนื้อหาเพิ่มเติมได้
บรรณานุก รม
WordPressคือ
อะไรhttp://www.nampheung.com/1032/%E0%B8%84
%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B
8%9B
%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B
8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-wordpress.html
ที่มาของ
wordpresshttp://wordpress.9supawat.com/10/whatis-wordpress.html
ความสำาคัญของ
คอมพิวเตอร์http://www.thaigoodview.com/node/9166
4
ความหมายของคอมพิว เตอร์
http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/intro.ht
m
ประวัต ิค วามเป็น มาและพัฒ นาการของ คอมพิวเตอร์
http://www.sanambin.com
http://www.wikipedia.com
ประเภทของคอมพิวเตอร์
http://th.wikipedia.org/wiki/
%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E
%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%
E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C
เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก
http://book.manacomputers.com/free-make-bloglist-and-adsense/
ประเภทของเว็บบล็อก
http://jingjai21.blogspot.com/2007/09/blog_7483.html
ความหมายของเว็บบล็อก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A
%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81
ภาคผนวก
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์

More Related Content

What's hot

อินทุอร
อินทุอรอินทุอร
อินทุอรMiw Inthuorn
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Sitanan Norapong
 
Random 110910233939-phpapp01
Random 110910233939-phpapp01Random 110910233939-phpapp01
Random 110910233939-phpapp01Jp Eternally
 
คู่มือ Wordpress
คู่มือ Wordpressคู่มือ Wordpress
คู่มือ WordpressPhuwit Innma
 
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpress
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpressเอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpress
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpresssuree189
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์New Tomza
 

What's hot (12)

อินทุอร
อินทุอรอินทุอร
อินทุอร
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Random 110910233939-phpapp01
Random 110910233939-phpapp01Random 110910233939-phpapp01
Random 110910233939-phpapp01
 
ัะีร
ัะีรัะีร
ัะีร
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
คู่มือ Wordpress
คู่มือ Wordpressคู่มือ Wordpress
คู่มือ Wordpress
 
กนกพร5 1
กนกพร5 1กนกพร5 1
กนกพร5 1
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpress
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpressเอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpress
เอกสารประกอบการอบรมการสร้างเว็บบล็อกด้วย Wordpress
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 5 ทวีชัย
บทที่ 5 ทวีชัยบทที่ 5 ทวีชัย
บทที่ 5 ทวีชัย
 

Viewers also liked

โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57Chok Ke
 
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผงตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผงkasetpcc
 
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดพัน พัน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดพัน พัน
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บทSittidet Nawee
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทchaipalat
 

Viewers also liked (6)

โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย  57
โครงงานวิทยาศาสตร์ กระติบข้าวเก็บความร้อน 17 ก.ย 57
 
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผงตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
 
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
 
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
 

Similar to การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์

ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์Wachiraya Thasnapanth
 
อร ส่วนนำ
อร ส่วนนำอร ส่วนนำ
อร ส่วนนำPloyko Stawbery
 
57100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-11104057100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-111040supakeat
 
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์sarun_ss
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์Scii Circular
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์Jim Root
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์pattarawee
 

Similar to การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ (20)

ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ปก
ปกปก
ปก
 
อร ส่วนนำ
อร ส่วนนำอร ส่วนนำ
อร ส่วนนำ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
00 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ100 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ1
 
00 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ100 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ1
 
3
33
3
 
3
33
3
 
บทนำ
บทนำบทนำ
บทนำ
 
Saarbay
Saarbay Saarbay
Saarbay
 
3
33
3
 
ปก 1
ปก 1ปก 1
ปก 1
 
ปก 1
ปก 1ปก 1
ปก 1
 
57100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-11104057100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-111040
 
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างของโครงงงานคอมพิวเตอร์
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
57100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-11104057100962 1 20130206-111040
57100962 1 20130206-111040
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์

  • 1. โครงงานคอมพิว เตอร์ เรื่อ ง การพัฒ นาเว็บ บล็อ ก (WebBlog) ด้ว ย Wordpress กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ก ารงานอาชีพ และเทคโนโลยี จัด ทำา โดย นางสาวอัญ ชิส า พงศ์ช ะนะ เลขที่ 26 ชั้น มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 5/2 รายวิช า (ง 32102) ภาคเรีย นที่ 2 ปีก ารศึก ษา 2556 กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ก ารงานอาชีพ และเทคโนโลยี (คอมพิว เตอร์) โรงเรีย นส้ม ป่อ ยพิท ยาคม ตำา บลส้ม ป่อ ย อำา เภอราษีไ ศล จัง หวัด ศรีส ะเกษ สำา นัก งานเขตพื้น ที่ก ารศึก ษามัธ ยมศึก ษา เขต 28 หัว ข้อ โครงงาน : เรื่อง การพัฒ นาเว็บ บล็อ ก (WebBlog) ด้ว ย Wordpress ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ผู้เ สนอโครงงาน : นางสาวอัญชิสา พงศ์ชะนะ ชั้น
  • 2. มัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เลขที่ 26 ครูท ี่ป รึก ษาโครงงาน : นายณัฐพล บัวพันธ์ ตำาแหน่ง ครู ( ค.ศ. 3 ) ปีก ารศึก ษา : 2556 บทคัด ย่อ โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ นี้ จัดทำาขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์เพื่อนำาเอารูปแบบการเรียนรู้ยุคใหม่ที่ใช้สื่อสังคม หรือ Social Media ซึ่งเป็นสื่อที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยม ในปัจจุบัน มาประยุกต์เข้ากับการเรียนรู้ โดยได้ศึกษารูปแบบและ พัฒนาการเรียนรู้ในการจัดสร้างเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์สำาเร็จรูป ชื่อว่า Wordpress ทั้งนี้ได้ทำาการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู้ที่ สนใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยผู้จดทำาโครงงานสามารถพัฒนารูป ั แบบของเว็บบล็อกจาก Wordpress ได้ด้วยตนเองและนำามา ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น และนำาได้ นำาเสนอบทเรียนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://nuttapongko.wordpress.com ทั้งนี้ ทำาให้สามารถ ติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผู้สนใจทั่วไปได้เป็นอย่าง ดี
  • 3. บทที่ 1 บทนำา แนวคิด ที่ม า และ ความสำา คัญ ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่อ ทุกวงการทั่วโลก รวมทั้งวงการศึกษาไทยด้วย และผลพวงที่ ติดตามมาในแง่เทคนิควิธีการเกี่ยวกับ กระบวนการเรียนรู้คือแนวโน้มในการเรียนรู้แบบโต้ตอบสองทาง (Interactive) ที่กาลังก้าวเข้ามา แทนที่กระบวนการเรียนรู้แบบเดิม ที่ผู้รับได้แต่ “รับเอา” โดยไม่ อาจ “เลือก” แต่อย่างใด จาก แนวคิดดังกล่าว ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจใน การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ผู้เรียนในทุกระดับ มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และสื่อ อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ผู้เรียนรุ่นใหม่จะเป็นผู้เรียนที่มีความคิดรัก การเรียนรู้ มีหลักในการศึกษา ค้นคว้าอย่างเป็นระบบมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีความ รู้ทักษะที่จาเป็นในการแสวงหา ความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์, 2539: 122) จึงเป็นที่ยอมรับว่า เทคโนโลยี สารสนเทศ ได้กลายเป็นปัจจัยที่สำาคัญในการพัฒนาประเทศการ จัดการศึกษาจึงต้องมีการปรับตัวใน การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน โดย เฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการจัดการเรียน การสอนนั้น ได้มีข้อกำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่ง ชาติ พ.ศ. 2542 ว่า รัฐต้องส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการผลิตสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งให้ มีการพัฒนาบุคลากรด้านการ ผลิตและผู้ใช้ให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะตลอดจนผู้เรียนให้ มีสิทธิที่จะได้รับการพัฒนา เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
  • 4. ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ได้ ประกาศชัดให้ประชากรทุกคน สามารถเข้าถึงการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อ เนื่อง และสาระทั้งปวงในกฎหมาย ต้องการให้คนไทยมี “ชีวิตแห่งการเรียนรู้” ทาแผ่นดินไทยให้เป็น “สังคมแห่งภูมิปัญญา” อย่าง แท้จริง (ปัญญาพล, 2542: 100) เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้เกิดสังคมยุคสารสนเทศที่มีสรรพสิ่ง มากมายให้ได้เรียนรู้ไม่ รู้จักหมดสิ้น การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศด้วยระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์สร้างการเรียนรู้ให้ เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางและกระจายไปทุกระดับ ทั้งในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย (บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์, 2544: 7) จะเห็นได้ว่าการจัดการศึกษาในยุคของการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศสามารถ เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้และความต้องการของการศึกษา ในอนาคต สือและอุปกรณ์ ่ การศึกษารูปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่สื่อแบบเก่า มีแหล่ง ทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลายนับเป็น สิ่งที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบ ใหม่ (รุ่ง แก้วแดง, 2543) ทาให้ การเรียนการสอนไม่จากัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนและอยู่ภายใต้ การควบคุมของผู้สอนเท่านั้น แต่ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย โดย เฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งโลกใน ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารจะเป็นปัจจัยหลักในการดาเนินกิจกรรม ต่างๆ ผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้เร็วจะได้เปรียบกว่าผู้ที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ช้า อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นแหล่งรวบรวม สารสนเทศต่างๆจากทั่วโลกจะเป็นเสมือนขุมทรัพย์ ข้อมูลข่าวสาร ที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันหันมา ให้ความสนใจ (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2539 : 7) และ กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนจัดว่าสาคัญ
  • 5. อย่างยิ่งในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการ เรียนรู้ โดยแนวคิดมุ่งเน้นในเรื่อง การคิดและแก้ปัญหาเป็น และผู้เรียนสามารถถ่ายโยงความรู้ที่ เรียนไปใช้ในชีวิตจริง ซึ่งแนวคิดนี้ จะต้องอาศัยเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่มีทั่วโลก มาพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน มา ปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนรู้ใหม่จากแนวทางและวิธีการสั่งสอน มาเป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ แหล่งการเรียนรู้ใหม่ทาง สารสนเทศ ซึ่งเป็นการจัดสภาพแวดล้อมใหม่ในการเรียนรู้ที่เน้น ให้ผู้เรียน มีส่วนร่วมคิดแก้ปัญหาและนาความรู้ที่ได้มานั้นไปถ่าย โยงใช้จริงในชีวิตประจาวันที่ทันยุคทันสมัย ต่อเหตุการณ์ (ปรัชนันนท์ นิลสุข, 2545:19) เรียนการสอน เพื่อให้เป็นบท เรียนที่เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นผู้เรียน เป็น สำาคัญ ขณะเดียวกันผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาทักษะการ เรียนรู้แบบทีมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการ เรียนรู้ และยัง สามารถเป็นแนวทางในการสร้างบทเรียนผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ตในเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้ วัต ถุป ระสงค์ 1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2. เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องประเภทของ คอมพิวเตอร์ 3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก จากWordpressได้ด้วยตนเองและนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ เรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น 4. เพื่อให้สามารถติดต่อสือสารกันได้ระหว่างครูเพื่อนและผู้สนใจ ่ ทั่วไป ขอบเขตของโครงงาน
  • 6. 1. จัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ 2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต 2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเช่น www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.co m 2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพเช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0 ผลที่ค าดว่า จะได้ร ับ 1. ได้รับความรู้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2. ได้รับความรู้เกี่ยว กับเรื่องที่นำามาเป็นบทเรียนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่องประเภท ของคอมพิวเตอร์ 3. ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อกจาก Wordpressได้ด้วยตนเองและนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ เรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น 4. สามารถติดต่อสือสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ่ เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ผ่านเว็บบล็อกได้ 5. ได้นำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
  • 7. บทที่ 2 เอกสารที่เ กี่ย วข้อ ง ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้ จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสำาคัญของคอมพิวเตอร์ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับของคอมพิวเตอร์ 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสำา คัญ ของคอมพิว เตอร์ ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีความก้าวหน้าอย่าง รวดเร็ว ขนาดเล็กลง ราคาถูกลงแต่ประสิทธิภาพหรือความ สามารถในการทางานสูงขึ้น ทาให้หน่วยงาน องค์กร ตลอดจน บุคลได้นาคอมพิวเตอร์มาใช้งานกันอย่างกว้างขวาง เช่น การ พิมพ์เอกสารต่าง ๆ การออกแบบงานด้านศิลปะ การสร้างภาพ กราฟิก การเล่นเกม การดูหนังฟังเพลง การสร้างเว็บส่วนตัว การ นาคอมพิวเตอร์มาใช้งานในลักษณะเครือข่าย เช่น เครือข่าย อินเทอร์เน็ต การติดต่อสื่อสาร การเลือกซื้อสินค้า การสืบค้น ข้อมูล ด้านการศึกษา เป็นต้น 2.2 ข้อ มูล เกี่ย วกับ คอมพิว เตอร์ 2.2.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์คืออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device)ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่ อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความ หมายในสิ่งต่าง ๆโดยคุณสมบัติที่สำาคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่ สามารถกำาหนดชุดคำาสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้ (programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำางานได้หลาก หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับชุดคำาสั่งที่เลือกมาใช้งานทำาให้สามารถนำา คอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่นใช้ในการ ตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก -ถอนเงินในธนาคารการ ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความ
  • 8. ถูกต้องและมีความรวดเร็วอย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใด ก็ตามเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำางานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ 1. รับ ข้อ มูล (Input)เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการรับข้อมูลจาก หน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ดหรือ เมาส์ 2. ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการ ประมวลผลกับข้อมูลเพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ 3. แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการ ประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ 4. เก็บ ข้อ มูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำาการเก็บ ผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถ นำามาใช้ใหม่ได้ในอนาคต 2.2.2 ประวัต ิค วามเป็น มาและพัฒ นาการของคอมพิว เตอร์  [ ประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ]ชาวจีนได้ประดิษฐ์เครื่อง มือเพื่อใช้ในการคำานวณขึ้นมาชนิดหนึ่ง เรียกว่า ลูกคิด ( Abacus) ลูก คิด ( Abacus)  [ พ.ศ. 2158 ] นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John Napier ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้ช่วยในการคำานวณขึ้นมาเรียกว่า Napier’s Bones เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกับตารางสูตรคูณ ในปัจจุบัน  [ พ.ศ.2173 ] วิลเลียมออตเทรต( William Oughtred) นัก คณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์ไม้บรรทัดคำานวณ ( Slide Rule) ซึ่งต่อมากลายเป็นพื้นฐานของการสร้างคอมพิวเตอร์แบบอ
  • 9. นาลอก  [ พ.ศ.2185 ] เบลส์ ปาสคาล ( Blaise Pascal) นัก คณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้ประดิษฐ์เครื่องบวกลบขึ้น โดยใช้หลัก ารหมุนของฟันเฟืองและการทดเลขเมื่อฟันเฟืองหมุน ไปครบรอบ โดยแสดงตัวเลขจาก 0-9 ออกที่หน้าปัด Pascal’s Calculato  [ พ.ศ.2214 ] กอตฟริต วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ ( Gottfried Wilhelm Leibniz ) นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ปรับปรุง เครื่องคิดเลขปาสคาล ให้ทำางานได้ดีกว่าเดิมและเขายังค้นพบเลข ฐานสอง (Binary number) กอตฟริต วิล เฮล์ม ไลบ์น ิซ ( Gottfried Wilhelm Leibniz )
  • 10.  [ พ.ศ.2288 ] โจเซฟแมรี่ แจคคาร์ด ( Joseph Marie Jacquard) เป็นชาวฝรั่งเศสได้คิด เครื่องทอผ้าโดยใช้คำาสั่งจาก บัตรเจาะรูควบคุมการทดผ้าให้มีสีและลวดลายต่าง ๆ บัต รเจาะรู  [ พ.ศ.2365 ] ชาร์ล แบบเบจ ( Charles Babbage) นัก คณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องหาผล ต่าง ( Difference Engine) เพื่อใช้คำานวณและพิมพ์ค่าทาง ตรีโกณมิติและฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ แบบเบจได้พยายามสร้าง เครื่องคำานวณอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า Analytical Engine โดยมี แนวคิดให้แบ่งการทำางานของเครื่องออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเก็บ ข้อมูล (Store unit), ส่วนควบคุม (Control unit) และส่วน คำานวณ (Arithmetic unit) ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการนำามาใช้ เป็นต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจึงยกย่องแบบเบจ ว่าเป็นบิดาแห่งเครื่องคอมพิวเตอร์ เลดี้ เอดา ออคุสตาเลฟเลค ( Lady Ada Augusta Lovelace ) เป็นนักคณิตศาสตร์ที่เข้าใจ ผลงานของแบบเบจได้เขียนวิธีการใช้เครื่องคำานวณของแบบเบจ เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เล่มหนึ่ง ต่อมาเลดี้ เอดา ออคุส ตาเลฟเลค จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของ โลก
  • 11. Differnce Engine  [ พ.ศ.2393 ] ยอร์จบูล ( George Boole) นักคณิตศาสตร์ ชาวอังกฤษ ได้คิดระบบพีชคณิตระบบใหม่เรียกว่า Boolean Algebra โดยใช้อธิบายหลักเหตุผลทางตรรกวิทยาโดยใช้สภาวะ เพียงสองอย่างคือ True (On) และ False (Off) ร่วมกับ เครื่องหมายในทางตรรกะ พื้นฐาน ได้แก่ NOT AND และ OR ต่อมาระบบเลขฐานสอง และ Boolean Algebra ก็ได้ถูกนำามาดัดแปลงให้เข้ากับวงจรไฟฟ้า ซึ่งมีสภาวะ 2 แบบ คือ เปิด , ปิดจึงนับเป็นรากฐานของการ ออกแบบวงจรในระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน (Digital Computer)  [ พ.ศ.2480-2481 ] ดร.จอห์น วินเซนต์อตานาซอฟ ( Dr.Jobn Vincent Atansoff) และคลิฟฟอร์ด แบรี่ ( Clifford Berry) ได้ประดิษฐ์เครื่อง ABC ( Atanasoff-Berry) ขึนโดยได้ ้ นำาหลอดสุญญากาศมาใช้งาน ABC ถือเป็นเครื่องคำานวณเครื่อง แรกที่เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
  • 12. Atansoff ABC computer Berry  [ พ.ศ.2487 ] ศาสตราจารย์โอเวิร์ด ไอด์เคน (Howard Aiken) แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ร่วมกับวิศวกรของบริษัท
  • 13. ไอบีเอ็มได้สร้างเครื่อง MARK I เป็นผลสำาเร็จ แ ต่อย่างไรก็ตาม เครื่อง MARK I นี้ยังไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่แท้จริงแต่เป็นเครื่องคิด เลขไฟฟ้าขนาดใหญ่เท่านั้น   [ พ.ศ.2485-2495 ] มหาวิทยาลัยเพนซิลเลเนียได้สร้าง เครื่อง ENIAC (Electronic Numerical Integrator And Calculator) นับได้ว่าเป็นเครื่องคำานวณอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรก ของโลกที่ใช้หลอดสูญญากาศและควบคุมการทำางานโดยวิธีเจาะ ชุดคำาสั่งลงในบัตรเจาะรู ENIAC  [ พ.ศ.2492 ] ดร.จอห์น ฟอน นิวแมนน์ ( Dr.John Von Neumann ) ได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บคำาสั่งการ ปฏิบัติงานทั้งหมดไว้ภายในเครื่องชื่อว่า EDVAC นับเป็น คอมพิวเตอร์เครี่องแรกที่สามารถเก็บโปรแกรม ไว้ในเครื่องได้
  • 14. EDVAC (first stored program computer)  [ พ.ศ.2496-2497 ] บริษัทไอบีเอ็มได้สร้างคอมพิวเตอร์ชื่อ IBM 701 และ IBM 650 โดยใช้หลอดสุญญากาศเป็นวัสดุสร้าง ต่อมาเกิดมีการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นสารกึ่งตัวนำาขึ้นที่ห้อง ปฏิบัติการของบริษัท Bell Telephone ได้เกิดทรานซิสเตอร์ตัว แรกขึ้นต่อมาทรานซิสเตอร์ได้ถูกนำาไปแทนหลอดสูญญากาศจึง ทำาให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลงและเกิดความร้อนน้อยลง (เครื่องที่ใช้ทรานซิสเตอร์ได้แก่ IBM 1401และ IBM 1620 ) หลอดสูญ ญากาศ (Vacuum tube)
  • 15. ทรานซีส เตอร์ (Transistor)  [ พ.ศ.2508 ] วงจรคอมพิวเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงอีกมากเมื่อ มีวงจรรวม ( Integrated Circuit: IC) เกิดขึ้น ซึ่งไอบีเอ็มนี้ได้ ถูกนำาไปแทนที่ทรานซิสเตอร์ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของระบบ คอมพิวเตอร์อีกครั้งซึ่งผลก็คือทำาให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง IC  [ พ.ศ.2514 ] บริษัท Intel ได้ใช้เทคโนโลยีของการผลิต วงจรรวมแบบ ( Large Scale Integrated Circuit :LSI ) ทำาการรวมเอาวงจรที่ใช้เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ( CPU) ของ คอมพิวเตอร์มาบรรจุอยู่ในแผ่นไอซีเพียงตัวเดียวซึ่งไอซีนี้เรียกว่า ไมโครโปรเซสเซอร์ ( Microprocessor)
  • 16. Microprocessor  [ พ.ศ.2506] ประเทศไทยเริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้เป็นครั้งแรก โดยที่คอมพิวเตอร์เครื่องแรกในประเทศไทยได้ติดตั้งที่ ภาควิชา สถิติคณะพานิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้คือ IBM 1620 ซึ่งได้รับ มอบจากมูลนิธิเอไอดี และบริษัทไอบีเอ็ม แห่ง ประเทศไทยจำากัด ปัจจุบันหมดอายุการใช้งานไปแล้วจึงได้มอบให้แก่ศูนย์บริภัณฑ์ การศึกษาท้องฟ้าจำาลองกรุงเทพฯ  [ พ.ศ.2507] เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองของประเทศไทย ติดตั้งที่สำานักงานสถิติแห่งชาติในเดือนมีนาคม 2507 ก่อกำาเนิด ไมโครโปรเซสเซอร์ เมื่อก่อนนั้น Intel เป็นบริษัทผลิตชิปไอซีแห่งหนึ่งที่ไม่ใหญ่โต มากนักเท่าในปัจจุบันนี้ เมื่อปีค.ศ.1969 ได้สร้างความสะเทือน ให้กับวงการอิเล็คทรอนิคส์โดยการออกชิปหน่วยความ จำา(Memory)ขนาด 1 Kbyte มาเป็นรายแรก บริษัทบิสซิคอม พ์(Busicomp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขของญี่ปุ่นได้ทำาการว่า จ้างให้ Intel ทำาการผลิตชิปไอซีที่บิสซิคอมพ์เป็นคนออกแบบเอง ที่มีจำานวน 12 ตัว โครงการนี้ถูกมอบหมายให้นาย M.E. Hoff, Jr. ซึ่งเข้าตัดสินใจที่จะใช้วิธีการออกแบบชิปแบบใหม่โดยสร้าง ชิปที่ให้ถูกโปรแกรมได้หมายถึงว่าสามารถนำาเอาชุดคำาสั่งของ การคำานวณไปเก็บไว้ในหน่วยความจำาก่อนแล้วให้ไอซีตัวนี้อ่าน เข้ามาแปล ความหมาย และทำางานภายหลัง ในปี 1971 Intel ได้นำาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Intel 4004 ในราคา 200 เหรียญสหรัฐ และเรียกชิปนี้ว่าเป็น ไมโคร โปรเซสเซอร์(Micro Processor) ก็เพราะว่า 4004 นี้เป็น CPU (Central Processing Unit) ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาด 4.2 X 3.2 มิลลิเมตร ภายในประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์ จำานวน 2250 ตัว และเป็นไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 4 บิต หลังจาก 1 ปีต่อมา Intel ได้ออก ไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 8 บิตออกมาโดยใช้ชื่อ ว่า 8008 มีชุดคำาสั่ง 48 คำาสั่ง และอ้างหน่วยความจำาได้ 16 Kbyte ซึ่งทาง Intel หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดทางด้านชิป หน่วยความจำาได้อีกทางหนึ่ง เมื่อปี 1973 ทาง Intel ได้ออก
  • 17. ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ที่มีชุดคำาสั่งพื้นฐาน 74 คำาสั่งและ สามารถอ้างหน่วยความจำาได้ 64 Kbyte ไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกของโลก เมื่อปี 1975 มีนิตยสารต่างประเทศฉบับหนึ่ง ชื่อว่า Popular Electronics ฉบับเดือน มกราคม ได้ลงบทความ เกี่ยวกับเครื่อง ไมโครโปรเซสเซอร์เครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า อัลแตร์8800 (Altair) ซึ่งทำาออกมาเป็นชุดคิทโดยบริษัท MITS (Micro Insumentation And Telemetry Systems) ลักษณะของชุด คิท ก็คือจะอยู่ในรูปของอุปกรณ์แต่ละชิ้นโดยให้ คุณนำาไป ประกอบขึ้นใช้เอง บริษัท MITS ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1969 โดยมีจุดมุ่ง หมายเพื่อทำาตลาดในด้านเครื่องคิดเลขแต่การค้าชลอตัวลง ประธานบริษัท ชื่อ H. Edword Roberts เห็นการไกลคิดเปิด ตลาดใหม่ซึ่งจะขายชุดคิด คอมพิวเตอร์ ประมาณเอาไว้ว่าอาจ ขายได้ในจำานวนปีล่ะประมาณ 200-300 ชุดจึงให้ทิมงานออก แบบบและพัฒนาแล้วเสร็จก่อนถึงคริสต์มาส ในปี 1974 แต่เพิ่ง มาประกาศตัวในปีถัดไป สำาหรับ CPU ที่ใช้คือ 8080 และคำาว่า ไมโครคอมพิวเตอร์จึงถูกเรียกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อชุดคิท คอมพิวเตอร์ชุดนี้ ชุดคิทของ อัลแตร์นี้ประกอบด้วย ไมโคร โปรเซสเซอร์ 8080 ของบริษัท Intel มี เพาเวอร์ซัพพลายมีแผง หน้าปัดที่ติดหลอดไฟ เป็นแถวมาให้เพื่อแสดงผล รวมถึงหน่วย ความจำา 256 Byte ( แหม.. เหมือนของเล่นเราในสมัยนี้ จังงง ) นอกนั้น ยังมี สล๊อต (Slot) ให้เสียบอุปกร์อื่น ๆ เพิ่มได้ แต่ก็ทำาให้ MITS ต้องผิดคาด คือ ภายใน เดือนเดียวมีจดหมายส่งเข้ามาขอ สั่งซื้อเป็นจำานวนถึง 4,000 ชุดเลยทีเดียว ด้วยชิป8080 นี่เองได้ เป็นแรงดลใจให้บริษัท ดิจิตอลรีเสิร์ช (Digital Research) กำาเนิดระบบปฏิบัติการ(Operating System) ที่ชื่อว่า ซีพี เอ็ม(CP/M หรือ Control Program For Microcomputer) ขึ้นมา ในขณะที่ Microsoft ยังเพิ่งออก Microsoft Basic รุ่น แรกเท่านั้นเอง ถึงยุค Z80 เมื่อเดือน พฤศจิกายนปี 1974 ได้มี วิศวกรของ Intel บางคนได้ออกมาตั้งบริษัทผลิตชิปเอง โดยมีชื่อว่า ไซล๊อก (Zilog) เนื่องจาก วิศวกรเหล่านี้ ได้มีส่วนร่ามในการผลิต ชิป8080 ด้วยจึงได้นำาเอาเทคโนโลยีการผลิตนี้มาสร้างตัวใหม่ที่ ดีกว่า มีชื่อว่า Z80 ยังคงเป็น ชิปขนาด 8 บิต เมื่อได้ออกสู่ตลาด ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากได้ปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง
  • 18. ๆ ที่มอยู่ใน 8080 จึงทำาให้เครื่องคอมพิวเตอร์หลายต่อหลายยี่ห้อ ี หันมาใช้ชิปZ80 กัน แม้แต่ซีพีเอ็ม ก็ยังถูกปรับปรุงให้มาใช้กับ Z80 นี้ด้วย *** แม้ในปัจจุบันนี้ Z80 ยังคงถูกใช้งาน และนำาไป ใช้ ในการ เรียนการสอนไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วย เช่น ชุดคิดหรือ Single Board Microcomputer ของ ETT, Silaเป็นต้น และ IC ตัวนี้ ยังผลิตขาย อยู่ในปัจจุบัน ในราคา ไม่เกิน 100 บาทน่ะจะบอก ให้) Computer เครื่องแรกของ IBM ในปี 1975 ไอบีเอ็มได้ ออกเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกออกมาแต่ทางไอบีเอ็ม ได้เรียกเครื่องนี้ว่าเป็น เทอร์มินัลแบบชาญฉลาด ที่สามารถ โปรแกรมได้ (Intelligent Programmable Terminal) และตั้ง ชื่อรุ่นว่า Model 5100 มีหน่วยความจำา 16 Kbyte แล้วยังมีตัว แปลภาษาเบสิก แบบอินเตอร์พรีทเตอร์ (Interpreter) ด้วย และมี ไดรฟ์สำาหรับใส่คาร์ทิดจ์เทปในตัว แต่ก็ยังขายไม่ดีเอามาก ๆ เลย เพราะว่าตั้งราคาไว้สูงมากถึง 9,000 เหรียญสหัฐ ในปลายปี 1980 บริษัทไอบีเอ็มได้เกิดแผนกเล็ก ๆ ขึ้นมาแผนกหนึ่งเรียกว่า Entry Systems Division ภายใต้ทีมของคนชื่อว่า ดอน เอส ทริดจ์ (Don Estridge) และนักออกแบบอีก 12 คนโดยได้รับ มอบหมายให้พัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของ ไอบีเอ็มโมเด็ล5100 นั้นเอง โดยนำาเอาจุดเด่นของเครื่องที่ขายดี มารวมไว้ในการออกแบบเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็ม และผลิตจำาหน่ายได้ภายในปีเดียวภายใต้ชื่อว่า ไอบีเอ็มพีซี (IBM PC) ซึ่งถูกเปิดตัวในเดือน สิหาคม ปี 1981 และยอดขายของ เครื่องพีซีก็ได้พุ่งอย่างรวดเร็ว ทำาให้บริษัทอื่น ๆ จับตามอง กำา เนิด แอปเปิ้ล ในปี 1976 หลังจาก Stephen Wozniak และ Steve Jobs ได้ ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer) และได้นำาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จาก โรงรถออกมาขายโดยใช้ชื่อว่า Apple I ในราคา 695 เหรียญ บริษัทแอปเปิลได้ผลิตเครื่อง Apple I ออกมาไม่มากนัก ภายในปี เดียวได้ผลิต Apple II ออกมา และรุ่นนี้เป็นรุ่นเปิดศักราชแห่ง วงการไมโครคอมพิวเตอร์และเป็นการสร้างมาตรฐาน ที่ไมโคร คอมพิวเตอร์ ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด
  • 19. 2.2.3 ประเภทของคอมพิว เตอร์ ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scaleintegrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุ ทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ ในรุ่นปัจจุบันออกเป็น 4 ประเภทดังต่อไปนี้ ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์ (supercomputer) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถ คำานวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับ การออกแบบ เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์ และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์ อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษ กับสภาวะแวดล้อมซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ แก้ไขปัญหา ประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการคำานวณหลายปีกว่าจะเสร็จ สิ้น ในขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ จะต้องใช้ หน่วยความจำาสูง ดังนั้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจำาที่ ใหญ่มาก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วย ประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นที่มีหน่วย ประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซึ่งสามารถทำางานหลายอย่างได้ พร้อม ๆ กัน เมนเฟรมคอมพิว เตอร์ (mainframe computer) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพที่ตำ่ากว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มาก แต่ยังมีความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการ ผู้ใช้จำานวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน ฉะนั้น จึงสามารถใช้ โปรแกรมจำานวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้ โดยเฉพาะถ้าต่อ เครื่องเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ ในการทำาบัญชีลูกค้า หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอน เงินแบบอัตโนมัติ (automatic teller machine) เนื่องจาก
  • 20. เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากในการบริการผู้ใช้ พร้อม ๆ กัน เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงต้องมีหน่วยความจำาที่ใหญ่ มาก มิน ิค อมพิว เตอร์ (minicomputer) มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถ บริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพ เพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำานวนที่เทียบเท่าเมนเฟรม คอมพิวเตอร์ได้ จึงทำาให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำาหรับองค์กร ขนาดกลาง หรือสำาหรับแผนกหนึ่งหรือสาขาหนึ่งขององค์กร ขนาดใหญ่เท่านั้น ไมโครคอมพิว เตอร์ (microcomputer) หรือ พีซ ี (personalcomputer หรือ PC) ไมโครคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้ง โต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น เช่น ขนาด สมุดบันทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปี พ.ศ. 2518 ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่ สูง แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกระทัดรัด ไมโคร คอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำาหรับใช้ส่วนตัว ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ ถูกออกแบบสำาหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน และสำานักงานสำาหรับที่ บ้าน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำางบประมาณ รายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำาการบ้านของลูกๆ การค้นคว้า ข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail หรือ E -mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet phone) ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทาง บันเทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำาหรับที่ โรงเรียน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน นักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำาหรับที่สำานักงาน เรา สามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อ
  • 21. มูลอื่นๆ เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำานายยอดซื้อขายล่วง หน้า โน้ต บุ๊ค (notebook or laptop) โน้ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ ี ถูกออกแบบไว้เพื่อนำาติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และนำ้า หนักเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอๆกับสมุดที่ทำาด้วยกระดาษ
  • 22. เน็ต บุ๊ค (netbook or laptop) เน็ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มี ขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์และเล็กกว่าโน้ตบุ๊ค ถูกออกแบบ ไว้เพื่อนำาติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และนำ้าหนักเบา แท็บ เล็ต คอมพิว เตอร์ (tablet computer) แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แท็บเล็ต คือเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ ขนาดกลางและใช้ หน้าจอสัมผัสในการทำางานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริง หรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมี ความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบconvertible ที่มีหน้าจอ แบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุน หรือแบบสไลด์ก็ตาม [21] 2.3 เว็บ บล็อ ก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บ บล็อ ก (WebBlog) เว็บ ล็อ ก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะ ประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับ เว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถ แสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำาว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์" บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การ แสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียน เฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารี ออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจาก
  • 24. แนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาใน ลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่ แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.3.2 ประเภทของเว็บ บล็อ ก 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่ 1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็น บล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจำาผู้ ให้กำาเนิดคำาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะ ครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์ เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของ บล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำา บล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทำาบล็อก ได้เป็นอย่างดี 1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้ เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อก อยากนำาเสนอ และมัก จะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดย เจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ 1.2 Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำากัน มากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ เคลื่อนไหว movie 2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่ 2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นำาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
  • 25. 2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็นหลัก 2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นก ลุ่ม เช่น blognone.com 2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ 2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราว ของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม 2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชัย หยุ่น 2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นำาเสนอเรื่อง ราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ 2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน 2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำาเสนอวิธีการ ต่าง 2.3.3 เว็บ ไซต์ท ี่ใ ห้บ ริก ารเว็บ บล็อ ก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com
  • 26. www.skypream.com www.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com www.my2blog.com 2.3.4 ประวัต ิข องเว็บ ไซต์ Wordpress wordpress หลายคนรู้จักกันดีและบางคนก็อาจจะกำาลังใช้งานอยู่ก็ได้แต่จะมี สักกี่คนที่รู้ว่า wordpress มีประวัติความเป็นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้ กันครับ ความเป็นมาของ wordpress เริ่มจาก B2 หรือ cafelog คือผู้ที่ให้กำาเนิดการทำางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมี บล็อก wordpress อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กับ MySQL โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighiเป็นผู้ ร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น wordpress ยังอยู่ใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็น ความพยายามของ MattMullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทำาให้มีผู้งาน wordpress จำานวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิดแบรนด์wp หรือ wordpress ขึนมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่าง ้ ต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัล ชนะเลิศในเรื่องของ Packt opensource CMS award เว็บไซต์นี้ จะแนะนำาถึงวิธี การใช้ WordPressตั้งแต่พื้นฐานเริ่ม ต้น ไปจนถึงการเพิ่มเทคนิคลูกเล่นต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้กัน เราควรมารู้จักก่อนว่า WordPress คือ อะไร
  • 27. WordPress คือ โปรแกรมสำำเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอำไว้สำำสำำหรับ สร้ำง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สำมำรถใช้งำนได้ฟรี ถูกจัดอยู่ใน ประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมำย ถึง โปรแกรมสำำเร็จรูปที่มีไว้สำำหรับสร้ำงและบริหำรจัดกำรเนื้อหำ และข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับกำรพัฒนำและเขียนชุด คำำสั่งมำจำกภำษำ PHP (เป็นภำษำโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทำำงำน บนฐำนข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสำำหรับจัดกำรฐำนข้อมูล มีหน้ำที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล กำรใช้งำน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภำยใต้สัญญำอนุญำตใช้งำน แบบ GNU General Public License WordPress ปรำกฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นควำมร่วมมือกันระหว่ำง MattMullenwegและ Mike Littlejมีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และ ยังมีบริกำร Free Hosting (พื้นที่สำำหรับเก็บทุกอย่ำงของเว็บ/ บล็อก) โดยขอใช้บริกำรได้ที่ http://wordpress.com ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับควำมนิยมเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็ว จนมี ผู้ใช้งำนมำกกว่ำ 200 ล้ำนเว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้ำ CMS ตัว อื่น ๆ ไม่ว่ำจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomlaสำเหตุเป็น เพรำะ ใช้งำนง่ำย ไม่จำำเป็นต้องมีควำมรู้ในเรื่อง Programing มี รูปแบบที่สวยงำม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนำ Theme (รูปแบบกำรแสดง ผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่ำงมำกมำย นอกจำกนี้ สำำหรับนักพัฒนำ WordPress ยังมี Codex เอำไว้ให้ เรำได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษำองค์ประกอบส่วนต่ำง ๆ ทีอยู่ภำยใน ่ สำำหรับพัฒนำต่อยอด หรือ นำำไปสร้ำง Theme และ Plugins ขึ้นมำเองได้อีกด้วย หนำำซำ้ำ ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU สำำหรับไว้ให้ผู้นำำไปใช้ สำมำรถเปิดให้บริกำรพื้นที่ทำำเว็บบล็อก เป็นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมำสมัครขอร่วมใช้บริกำรในกำรสร้ำง ู้ เว็บบล็อก ภำยใต้ชื่อโดเมนของเขำ หรือที่เรียกว่ำ Sub-Domain จำกที่ได้เกริ่นนำำไปในบทควำมนี้ คงจะทำำให้รู้จัก และได้ทรำบ ประวัติควำมเป็นมำ รวมถึงควำมหมำยกันไปบ้ำงแล้วว่ำ WordPressคือ อะไร ในบทควำมหน้ำ เรำจะได้เริ่มเรียนรู้ถึงรูป แบบ และวิธีกำรใช้งำน ไปจนถึงกำรเพิ่มลูกเล่นต่ำง ๆ ต่อไป
  • 28. บทที่ 3 วิธ ีด ำำ เนิน งำนโครงงำน ในกำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์ กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้ จัดทำำโครงงำนมีวิธีดำำเนินงำนโครงงำน ตำมขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.1 วัส ดุ อุป กรณ์ เครื่อ งมือ หรือ โปรแกรมหรือ ที่ใ ช้ใ นกำร พัฒ นำ 3.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ำย อินเทอร์เน็ต 3.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริกำรเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 3.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในกำรติดต่อ สื่อสำร เช่น www.facebook.com www.hotmail.com www.google.com 3.1.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภำพ เช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0 3.2 ขั้น ตอนกำรดำเนิน งำน 3.2.1 คิดหัวข้อโครงงำนเพื่อนำำเสนอครูที่ปรึกษำโครงงำน 3.2.2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์ ว่ำมีเนื้อหำมำกน้อยเพียงใด และต้อง ศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมเพียงใดจำกเว็บไซต์ต่ำงๆ และเก็บข้อมูลไว้ เพื่อจัดทำำเนื้อหำต่อไป 3.2.3 ศึกษำกำรสร้ำงเว็บบล็อกที่สร้ำงจำกเว็บไซต์ Wordpress จำกเอกสำรที่ครูประจำำวิชำกำำหนด และจำกเว็บไซต์ต่ำงๆ ที่นำำ เสนอเทคนิค วิธีกำรสร้ำงเว็บบล็อก 3.2.4 จัดทำำโครงร่ำงโครงงำนคอมพิวเตอร์เพื่อนำำเสนอครูที่ ปรึกษำผ่ำนเว็บบล็อกของตัวเอง โดยได้นำำไฟล์ข้อมูลไปฝำกไว้ที่ เว็บไซต์ชื่อ http://www.slideshare.net
  • 29. 3.2.5 ปฏิบัติกำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยกำรสมัครสมำชิก และสร้ำงบทเรียนที่สนใจตำมแบบเสนอ โครงร่ำงที่เสนอไว้แล้ว
  • 30. 3.2.6 นำำเสนอรำยงำนควำมก้ำวหน้ำเป็นระยะๆ โดยแจ้งให้ครูที่ ปรึกษำโครงงำนเข้ำไปตรวจควำมก้ำวหน้ำของโครงงำนผ่ำน เว็บไซต์ http://www.facebook.com/อัศวินปุตตำปวน ซึ่งครู ที่ปรึกษำจะให้ข้อเสนอแนะต่ำงๆ เพื่อให้จดทำำเนื้อหำและกำรนำำ ั เสนอที่น่ำสนใจต่อไป ทั้งนี้เมื่อได้รับคำำแนะนำำก็จะนำำมำปรับปรุง แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สร้ำงเครือข่ำยสังคมโดยใช้ เว็บไซต์ Facebook เพื่อให้เพื่อนๆ มำช่วยให้ข้อเสนอแนะ และ สื่อสำรกันหำกมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกำรสร้ำงและพัฒนำเว็บบล็อกดัง กล่ำว
  • 31. บทที่ 4 ผลกำรดำำ เนิน งำนโครงงำน กำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpress และค้นคว้ำ เรื่องที่สนใจเกี่ยวกับประเภทของคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้จดทำำโครง ั งำนสำมำรถนำำมำประยุกต์ใช้ให้เข้ำกับกำรเรียนรู้ของตนเองมำก ยิ่งขึ้น ตลอดจนสำมำรถติดต่อสื่อสำรกันได้ระหว่ำงครูเพื่อนและผู้ สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลกำรดำำเนินงำนโครงงำน ดังนี้ ผลกำรพัฒ นำเว็บ บล็อ ก กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้จดทำำได้เริ่มดำำเนิน ั งำนตำมขั้นตอนกำรดำำเนินงำนที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้ สมัครเป็นสมำชิกเว็บบล็อกที่ชื่อhttp://www.wordpress.com จำกนั้นได้นำำเสนอเผยแพร่ผลงำนผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต ที่ สำมำรถเข้ำถึงได้ทุกที่ทุกเวลำ โดยได้นำำเผยแพร่ที่เว็บบล็อก ชื่อhttp://nuttapongko.wordpress.comซึ่งสำมำรถเชื่อม ต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภท เว็บไซต์facebook ของผู้จัดทำำที่ชื่อ http://www.facebook.com/อัศวินปุตตำปวนทั้งนี้เว็บบล็อก ดังกล่ำว สำมำรถจัดกำรและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่ำง ดีโดยทั้งครูที่ปรึกษำ เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้ำไปมีส่วนร่วมใน กำรจัดกำรเรียนรู้ โดยแสดงควำมเห็นในเนื้อหำและรูปแบบของ กำรนำำเสนออย่ำงหลำกหลำย ซึ่งทำำให้เกิดกำรเรียนรู้และเป็น แหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่ำงหลำกหลำยและรวดเร็ว
  • 33.
  • 34.
  • 35.
  • 36.
  • 37. บทที่ 5 สรุป ผลกำรดำเนิน งำน และข้อ เสนอแนะ
  • 38. กำรจัดทำำโครงงำนคอมพิวเตอร์กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์นี้ สำมำรถสรุป ผลกำรดำำเนินโครงงำน และข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.1 กำรดำเนิน งำนจัด ทำโครงงำน 5.1.1 วัต ถุป ระสงค์ข องโครงงำน
  • 39. 5.2.2 วัส ดุ อุป กรณ์ เครื่อ งมือ หรือ โปรแกรมหรือ ที่ใ ช้ใ น กำรพัฒ นำ 5.2.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ำย อินเทอร์เน็ต 5.2.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริกำรเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 5.2.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในกำรติดต่อสื่อสำรเช่น www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.co m 5.2.2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภำพเช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0 5.2 สรุป ผลกำรดำเนิน งำนโครงงำน กำรพัฒนำเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่องประเภท ของคอมพิวเตอร์นี้ ผู้จดทำำได้เริ่มดำำเนินงำนตำมขั้นตอนกำร ั ดำำเนินงำนที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมำชิกเว็บ บล็อกที่ชื่อhttp://www.wordpress.com จำกนั้นได้นำำเสนอ เผยแพร่ผลงำนผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต ที่สำมำรถเข้ำถึงได้ทุก ที่ทุกเวลำ โดยได้นำำเผยแพร่ที่เว็บบล็อก ชื่อhttp://nuttapongko.wordpress.com ซึ่งสำมำรถเชื่อม ต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภท เว็บไซต์facebook ของผู้จัดทำำที่ชื่อ http://www.facebook.com/อัศวิน ปุตตำปวนทั้งนี้เว็บบล็อก ดังกล่ำว สำมำรถจัดกำรและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่ำง ดีโดยทั้งครูที่ปรึกษำ เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้ำไปมีส่วนร่วมใน กำรจัดกำรเรียนรู้ โดยแสดงควำมเห็นในเนื้อหำและรูปแบบของ กำรนำำเสนออย่ำงหลำกหลำย ซึ่งทำำให้เกิดกำรเรียนรู้และเป็น แหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่ำงหลำกหลำยและรวดเร็ว 5.3ข้อ เสนอแนะ (ข้อเสนอแนะนี้ นักเรียนสำมำรถคิดเสนอแนะเพิ่มเติมได้ ครูแค่ยก ตัวอย่ำงให้ดูค่ะ ถ้ำมีเพิ่ม หรือกำรเรียนรู้แบบนี้ไม่ดี ไม่เหมำะสม นักเรียนแจ้งหรือเสนอแนะตรงนี้ได้เลย) 5.3.1 ข้อ เสนอแนะทั่ว ไป
  • 40. 5.3.1.1 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ Wordpressเป็นเว็บ บล็อกสำาเร็จรูปที่ใช้ทำาเว็บไซต์ได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ถ้าเราใช้ ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการ
  • 41. ละเมิดลิขสิทธิ์และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผู้จัดทำา ควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้ และสิ่งดี ๆ นำาไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นมาศึกษาความรู้ ที่เป็น ประโยชน์ต่อไป 5.3.1.2 ควรมีการจัดทำาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ ครบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้ 5.3.1.3 ควรมี การจัดทำาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม 5.3.2 ปัญ หา อุป สรรค และแนวทางในการพัฒ นา 5.3.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำาโครงงาน และ บางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา เข้าพร้อมกันก็จะทำาให้ช้า จึงทำาให้ การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย 5.3.2.2 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกค่อน ข้างช้า ทำาให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ เพราะครูผู้สอนไม่ สามารถสอนเนื้อหาเพิ่มเติมได้
  • 42. บรรณานุก รม WordPressคือ อะไรhttp://www.nampheung.com/1032/%E0%B8%84 %E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B 8%9B %E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B 8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-wordpress.html ที่มาของ wordpresshttp://wordpress.9supawat.com/10/whatis-wordpress.html ความสำาคัญของ คอมพิวเตอร์http://www.thaigoodview.com/node/9166 4 ความหมายของคอมพิว เตอร์ http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/intro.ht m ประวัต ิค วามเป็น มาและพัฒ นาการของ คอมพิวเตอร์ http://www.sanambin.com http://www.wikipedia.com ประเภทของคอมพิวเตอร์ http://th.wikipedia.org/wiki/ %E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E %E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95% E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก