1. ระบบคอมพิวเตอร์

2. พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอดีตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หลอดสุญญากาศขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามากและอายุการใช้งานต่ำเปลี่ยนมาใช้ทรานซิสเตอร์ที่ทำจากชิ้นซิลิกอนเล็ก ๆเรียกว่า ไมโครชิป

3. ไมโครชิป ( Microchip) เป็นชิ้นส่วนหลักที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ทำให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลงหรอทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลการ ที่เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์

4. ไมโครโพรเซสเซอร์ หมายถึง หน่วยงานหลักในการคิดคำนวณ การบวก ลบ คูณ หาร การเปรียบเทียบ ตลอดจนการสั่งเคลื่อนย้ายข้อมูล หน่วยประมวลผลกลางนี้เรียกอีกอย่างว่า ซีพียู ( Central Processing Unit : CPU )

5. การพัฒนาไมโครชิปที่ทำหน้าที่เป็นไมโครโพรเซสเซอร์มีการกระทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่ดีกว่าเกิดขึ้นเสมอ ชนิดของคอมพิวเตอร์ตามสภาพการทำงานของระบบเทคโนโลยีที่ประกอบอยู่และสภาพการใช้งานได้ดังนี้

6. มินิคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องที่สามรถใช้งานพร้อม ๆกันได้หลายคน นำมาใช้สำหรับประมวลผลในงานสารสนเทศขององค์การขนาดกลางจนถึงองค์การขนาดใหญ่ที่มีการวางระบบเป็นเครือข่ายเพื่อใช้งานร่วมกัน มินิคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์การที่เรียกว่า เครื่องให้บริการ มินิคอมพิวเตอร์

7. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนาตั้งแต่เริ่มแรกมีราคราสูงมาก ต้องอยู่ในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ ข้อเด่นของการใช้เมนเฟรมอยู่ที่การใช้งานต้องมีระบบศูนย์กลาง และการกระจายใช้งานไปเป็นจำนวนมากเช่น ระบบเอทีเอ็ม เมนเฟรมคอมพิวเตอร์

8. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับงานคำนวณที่มีตัวเลขหลายล้านตัวภายในเวลาอันรวดเร็ว เช่น งานพยากรณ์อากาศ นอกจากนี้มีงานอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสูง เช่น งานควบคุมขีปนาวุธ งานควบคุมทางอวกาศ เป็นต้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์

9. คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถกำหนดชุดคำสั่ง เพื่อให้เกิดการรับข้อมูลจากส่วนนำเข้าแล้วนำมาทำการประมวลผลให้เกิดเป็นสารสนเทศในส่วนแสดงผลลัพธ์ เราสามารถนำกลับมาแก้ไขได้ตามต้องการ

10. ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก หรือเรียกว่า พีซี (personal computer :PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง อาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดูผลลัพธ์ โดยดำเนินการประมวลผลบนเครื่องในเครือข่าย สามารถแบ่งแยกไมโครคอมพิวเตอร์ตามขนาดได้ดังนี้

11. คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ถูกอออกแบบมาให้ตั้งบนโต๊ะ มีการแยกชิ้นส่วนประกอบ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ (Laptop Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ใช้วางบนตัก จอภาพที่ใช้เป็นแบบแบนราบชนิดจอผนึกเหลว

12. โน้ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ (Notebook Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดและความหนามากกว่าแล็ปท็อป จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบชนิดมีทั้งแบบแสดงผลสีเดียว หรือแบบหลายสี ปาล์มท็อปคอมพิวเตอร์ (Palmtop Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์สำหนรับทำงานเฉพาะอย่าง สามารถพกติดตัวไปมาได้สะดวก

13. ผู้ใช้สถานีวิศวกรรมส่วนใหญ่เป็น วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ สถาปนิก และนักออกแบบมีจุดเด่นในเรื่องกราฟิก การสร้างรูปภาพและการทำภาพเคลื่อนไหว บริษัทพัฒนาซอฟแวร์หลายบริษัทได้พัฒนาซอฟแวร์ใช้กับสถานีงานวิศวกรรมขึ้น เครื่องจักรสถานีวิศวกรรมส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์

14. ประสิทธิภาพของซีพียูของระบบอยู่ในช่วง 50-100 ล้านคำสั่งต่อวินาที หลักจากที่ใช้ซีพียูแบบบริสก์ ก็สามารถเพิ่มขีดความสามารถเชิงคำนวณของซีพียูได้มากขึ้นถึง 100 ล้านคำสั่งต่อวินาที

15. เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานได้นั้นจะต้องประกอบ ด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วนใหญ่ 1 ฮาร์ดแวร์ 2 ซอฟต์แวร์ 3 พิเพิลแวร์ นอกจากนี้เรายังสามารถเก็บสารสนเทศในส่วนสำรองข้อมูลเพื่อที่นำกลับมาใช้หรือนำกลับมาแก้ไขตามต้องการ

16. อุปกรณ์ของไมโครคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน 1 อุปกรณ์สำหรับการป้อนข้อมูล 2 หน่วยของระบบคอมพิวเตอร์ 3 หน่วยความจำสำรอง 4 อุปกรณ์สำหรับการแสดงผล 5 อุปกรณ์สำหรับการติดต่อสื่อสารข้อมูล

17. จากความหมายของคอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถกำหนดชุดคำสั่ง เพื่อให้เกิดการรับข้อมูลจากส่วนนำเข้าแล้วนำมาทำการประมวลผลให้เกิดเป็นสาระสนเทศ

18. หน้าที่การทำงานของฮาร์ดแวร์ 4 ส่วน ประกอบด้วย 1 อุปกรณ์นำเข้า ( Input Unit ) ได้รับข้อมูลหรือคำสั่งเข้ามา คอมพิวเตอร์จะไปความจำหลัก เพื่อให้ส่วนประมวลผลนำข้อมูลไปทำงานต่อ 2 ส่วนประมวลผล มีตัวโปรเซสเซอร์ ( Processor ) หรือที่เรียกว่า หน่วยประมวลผลกลาง คอยจัดการข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์เป็นสารสนเทศ

19. 3 ส่วนแดงผลลัพธ์ ( Output Unit ) โดยผ่านอุปกรณ์ 4 ส่วนสำรองข้อมูล ( Secondary Storage ) เพื่อที่จะนำกับมาแก้ไขได้ตามต้องการ

20. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ( Personal Computer Technology ) ภาพรวมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี ส่วนสำคัญหลักในเครื่องพีซีประกอบด้วย 1. แผงวงจรหลัก ( Main Board or Mother Board ) 2. ฮาร์ดแวร์ที่ใช้สำหรับการอ่านหรือเขียนข้อมูล 3. แผงวงจรไฟฟ้าเพื่อควบคุมทำงานของฮาร์ดแวร์อื่นที่มาพ่วง

21. เดิมเราเคยมองภาพของพีซีตามลักษณะของข้อมูล แต่ถ้าเรามองภาพการทำงานแล้วพีซีแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ คือ 1 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวของพีซีเอง จะมีส่วนที่สำคัญภายในเครื่อง 3 ส่วน คือ แผงวงจรหลัก ฮาร์ดแวร์สำหรับเก็บข่อมูลและแผงวงจรที่มาเสียบเพิ่มเติม 2 จะเป็นฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์รอบข้าง

22. จัดทำโดย นางสาว นริศรา ทองคำสี ม .6/2 เลขที่ 37 นางสาว สุนิสา สอนพร ม .6/2 เลขที่ 41