SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน คาสันธาน (Conjunction)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม น.ส.ธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
คาสันธาน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Conjunction
ประเภทโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
น.ส.ธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
14 มกรคม 2559 – 31 มกราคม 2559
3
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
Conjunction แปลว่า “สันธาน” หมายถึง คาที่ใช้เชื่อมคา (words), กลุ่มคา (phrases) หรือประโยค
(sentences) เข้าด้วยกัน และคาที่จะใช้ conjunction เชื่อมได้นั้นต้องเป็นคาชนิดเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน
ในปัจจุบันมนุษย์ ต้องการความรู้ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น ด้านการเรียน ด้านการสื่อสาร เป็นต้น
ฉะนั้น เรื่อง คาสันธาน นี้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เพราะนอกจากจะนาไปใช้ใน
ด้านการศึกษาแล้ว มนุษย์ต้องมีการสื่อสารกับคนอื่นๆ ดังนั้น การใช้คาเชื่อมประโยคอย่างถูกต้องจะทาให้คาหรือ
ข้อความที่เราสื่อสารนั้นติดต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ประโยคจะมีความกระชับ และสละสลวยขึ้น ทาให้ง่ายต่อการฟัง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนในสาระวิชาภาษาอังกฤษได้
2. เพื่อทาให้ประโยคในการสื่อสารกระชับรัดกุมง่ายต่อการสนทนา
ขอบเขตโครงงาน
1. ชนิดของคาสันธาน
2. ลักษณะการใช้คาสันธาน
3. การนาไปใช้ของคาสันธาน
หลักการและทฤษฎี
คาสันธาน คือคาที่ใช้เชื่อมความ ซึ่งได้แก่ คาสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคที่สมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกัน
(coordinating conjunction) คาสันธานที่ใช้นาหน้าประโยคย่อยไม่อิสระใน complex sentence
(subordinating conjunction) และคาสันธานแบบคาคู่ (paired conjunction)
6.2.1 Coordinating Conjunction
คือคาสันธานที่ใช้เชื่อมเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคา กลุ่มคา หรือเชื่อมประโยคย่อยอิสระที่อยู่ใน
compound sentence เช่น and, but, yet, or, nor, neither, for, so เป็นต้น โดยหากเป็นการเชื่อมประโยคย่อย
อิสระใน compound sentence คาเชื่อมเหล่านี้จะอยู่ระหว่าง clause ทั้งสองและมีเครื่องหมายจุลภาค ,
(comma) คั่น ในกรณีที่ประโยคที่เชื่อมต่อกันค่อนข้างสั้น สามารถละเครื่องหมายจุลภาคได้
1) and ใช้แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เสริมกัน
My husband and I are going to Rayong this weekend.
January is the first month of the year, and December is the last.
2) but, yet ใช้แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ขัดแย้งกัน
These shoes are old but comfortable.
William is tired, yet happy.
4
3) or ใช้แสดงความสัมพันธ์ประเภทเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง (showing alternatives)
You can have the black kitten or the white dog.
You can email or fax us the details of the program
4) nor, neither ใช้ในความหมายตรงข้ามกับ กล่าวคือใช้แสดงความสัมพันธ์
ในเชิงปฏิเสธ หมายถึง ไม่ทั้งสองอย่าง (showing no alternatives) ขอให้สังเกตว่าเมื่อใช้คาว่า nor และ
neither ซึ่งมีความหมายเชิงปฏิเสธนาหน้าประโยค จะมีการสลับที่ประธานกับกริยา
กล่าวคือ จะวางกริยาไว้หน้าประธาน
Laura has not left, nor is she planning to leave.
These people are not insane, nor are they fools.
I was not happy, and neither were they.
She doesn’t drink, and neither does she smoke.
5) for ใช้แสดงสาเหตุหรือเหตุผล (showing causes or reasons)
I went to bed, for I was tired.
I’m taking an English class, for I want to improve my English skills.
The little girl hid behind her mother, for she was afraid of the dog.
6) so ใช้แสดงผล (showing results)
Victor liked the necktie, so he bought it.
She felt hungry, so she took a lunch break.
John’s car is in the repair shop, so he has to take a taxi to work.
My daughter studies very hard, so she always gets good grades.
6.2.2 Subordinating Conjunction
คือคาสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคย่อยไม่อิสระ/ประโยคใจความรอง (dependent/subordinate clause)
ประเภท adverb clause เข้ากับประโยคย่อยอิสระ/ประโยคใจความหลัก (independent/main clause) ใน
complex sentence เพื่อแสดงความสัมพันธ์ในลักษณะต่าง ๆ อาทิ กิริยาอาการ สถานที่ เวลา เหตุผล ผล
จุดประสงค์ การขัดแย้งหรือแตกต่างกัน การเปรียบเทียบ คาสันธานในกลุ่มนี้ เช่น as if, in a way that, where,
wherever, when, before, because, since, so that, so, although, whereas, as … as, more … than, if,
unless เป็นต้น โดยคาเชื่อมเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของประโยคย่อยไม่อิสระและมีเครื่องหมายจุลภาค , (comma)
คั่นระหว่างประโยคทั้งสอง
5
1) ข้อความแสดงลักษณะอาการ (manner) เป็นการอธิบายลักษณะอาการหรือเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับ
ลักษณะการกระทาในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น as (ตามที่), in a/the way that (แบบ/ตามวิธีการ
แบบ), like (เหมือนกับ), unlike (ไม่เหมือนกับ), as if/as though (ราวกับว่า) เป็นต้น
Please submit the report by January 16 as I requested earlier.
He handled the situation in the way that I like.
Like every other student, Ladda had difficulty with tenses.
It looks as if it will rain tonight.
Mary acted as though she saw a ghost.
2) ข้อความแสดงสถานที่ (place) เป็นการอธิบายขยายความการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความ
หลัก เพื่อให้ทราบว่าเกิดขึ้นที่ใด คาสันธานที่ใช้ เช่น where (ที่ที่), wherever (ที่ใดก็ตามที่) เป็นต้น
Put this document where it belongs.
We will accompany you wherever you go.
3) ข้อความแสดงเวลา (time) เป็นการอธิบายขยายความการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก
เพื่อให้ทราบว่าการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ก่อนหรือหลังการกระทา/เหตุการณ์ใน adverb
clause คาสันธานที่ใช้ เช่น as/while (ขณะที่), as soon as (ทันทีที่), since (ตั้งแต่), until/till (จนกระทั่ง), when
(เมื่อ), whenever (เมื่อใดก็ตามที่), before (ก่อนที่), after (หลังจากที่), soon after (ภายหลังไม่นาน) เป็นต้น
The woman slipped as she was getting off the train.
While we are considering your request, you should prepare all necessary
documents.
I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends.
The ASEAN summit has been postponed until the present crisis is over.
When the rain stops, we’ll go out.
Before you make your payment, you should contact our finance office.
You’ll feel better after you’ve had some rest.
I’ll come soon after I’ve finished my work.
4) ข้อความแสดงเหตุผล (reason) เป็นการอธิบายขยายความเกี่ยวกับเหตุผลของการกระทา/
เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น as/since/because (เพราะว่า) เป็นต้น
As I was feeling tired, I went to bed early.
I see my parents quite often as they live near me.
Since we had nothing better to do, we watched television the whole evening.
We decided to go out for a meal since there wasn’t anything to eat in the house.
6
Because it was raining heavily, I had to take a taxi home.
I’m taking the English Grammar in Use course this semester because I want to be
able to communicate in English more correctly and fluently.
5) ข้อความแสดงจุดประสงค์ (purpose) เป็นการอธิบายขยายความว่าการกระทา/
เหตุการณ์ในประโยคใจความหลักมีจุดประสงค์ใด คาสันธานที่ใช้ เช่น so that/in order that (เพื่อที่) เป็นต้น
I’ll give her my email address so that she can contact me.
I spoke very slowly in order that the students could understand what I said.
6) ข้อความแสดงผล (result) เป็นการอธิบายผลของการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความ
หลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น so (ดังนั้น), so … that/ such … that (มากจนกระทั่ง) เป็นต้น
I have too much work to do, so I can’t go to my friend’s birthday party tonight.
He worked so hard that he became ill.
It was such lovely weather that we spent the whole day in the garden.
7) ข้อความแสดงความแย้งหรือตรงกันข้ามกัน (concession/contrast) เป็นการให้ข้อมูลที่แย้งหรือ
ตรงกันข้ามกับการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น although/though/even though
(ถึงแม้ว่า), while/whilst/whereas (ในขณะที่) เป็นต้น
Although/Though/Even though it was cold, I went swimming.
I like coffee while/whereas my husband likes tea.
8) ข้อความแสดงการเปรียบเทียบ (comparison) เป็นการอธิบายเปรียบเทียบความต่างระหว่างการ
กระทา/เหตุการณ์ใน adverb clause กับประโยคใจความหลัก คาที่ใช้ เช่น as … as (เท่ากับ), not as … as (ไม่
เท่ากับ), -er/more … than (มากกว่า), -er/less … than (น้อยกว่า) เป็นต้น
There’s plenty of food, so please eat as much as you like.
Jane isn’t as old as she looks.
The government has taken this current crisis more seriously than ever.
I have fewer friends here than in my own country because I have less time to
socialize (here than in my own country).
9) ข้อความแสดงเงื่อนไข (condition) เป็นการอธิบายว่าการกระทา/เหตุการณ์หนึ่งเป็นผลมาจากอีกการ
กระทา/เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเงื่อนไข โดย adverb clause เป็นส่วนที่แสดงเงื่อนไข และประโยคใจความหลักเป็น
ส่วนที่แสดงผลของการกระทา คาที่ใช้แสดงเงื่อนไข เช่น if (ถ้า), unless (ถ้าไม่), as long as (ตราบเท่าที่) เป็นต้น
ซึ่งประโยคเงื่อนไขและประโยคที่แสดงผลของเงื่อนไขมีโครงสร้างประโยคหลายแบบ
Please do not hesitate to call me if you have further questions.
If I could afford it, I would buy a house.
7
Unless Tim hurries, he will miss the bus.
You can use my car as long as you drive carefully.
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อโครงงาน
2. เลือกหัวข้อโครงงาน
3. รวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการทาโครงงาน
4. ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อการเรียนรู้ต่างๆ
5. สรุปและจัดทาโครงงาน
6. ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด
7. นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
100 บาท
8
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ
บ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน -
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
-
3 จัดทาโครงร่างงาน -
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
-
5 ปรับปรุงทดสอบ -
6 การทาเอกสารรายงาน -
7 ประเมินผลงาน -
8 นาเสนอโครงงาน -
ผลที่คาดว่าจะ
1. สามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนในสาระวิชาภาษาอังกฤษได้
2. สามารถสื่อสารได้อย่างกระชับรัดกุมทาให้ง่ายต่อการสนทนา
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
9
แหล่งอ้างอิง
(1) Connectors. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.stou.ac.th/
(วันที่ค้นข้อมูล: 22 มกราคม 59)
(2) Conjunction. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.myfirstbrain.com/
(วันที่ค้นข้อมูล: 22 มกราคม 59)
(3) ชาญชัย บุญเฮ้า. สูตรสำเร็จ grammar. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ B.E.C

More Related Content

Similar to 2558 project tthanch

English conversation
English conversationEnglish conversation
English conversationPinyaphat29
 
โครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseโครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseJitti Jaikham
 
Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Aj Muu
 
Parts of speech
Parts of speechParts of speech
Parts of speechkrupeatie
 
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)Nongkran Jarurnphong
 
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษsakaratyo
 
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษ
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษเอกสารประกอบวิชาอังกฤษ
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษnaaikawaii
 
สรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษสรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษwisita42
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยHansa Srikrachang
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยHansa Srikrachang
 

Similar to 2558 project tthanch (18)

English conversation
English conversationEnglish conversation
English conversation
 
โครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tenseโครงสร้างของ Past continuous tense
โครงสร้างของ Past continuous tense
 
Brands eng
Brands engBrands eng
Brands eng
 
Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013Cause effect essaysjune2013
Cause effect essaysjune2013
 
Grammar
GrammarGrammar
Grammar
 
Parts of speech
Parts of speechParts of speech
Parts of speech
 
Unit 1
Unit 1Unit 1
Unit 1
 
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)
งานนำเสนอ1ภาษาไทย(ประโยคความรวม) (2)
 
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
 
Te500 10
Te500 10Te500 10
Te500 10
 
Sentence
SentenceSentence
Sentence
 
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษ
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษเอกสารประกอบวิชาอังกฤษ
เอกสารประกอบวิชาอังกฤษ
 
Present tense
Present tensePresent tense
Present tense
 
Present tense
Present tensePresent tense
Present tense
 
สรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษสรุปภาษาอังกฤษ
สรุปภาษาอังกฤษ
 
Unit 6
Unit 6Unit 6
Unit 6
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทย
 
ประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทย
 

2558 project tthanch

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน คาสันธาน (Conjunction) ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม น.ส.ธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) คาสันธาน ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Conjunction ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.ธัญชนก ไชยศรี ม.6/3 เลขที่ 21 ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน 14 มกรคม 2559 – 31 มกราคม 2559
  • 3. 3 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน Conjunction แปลว่า “สันธาน” หมายถึง คาที่ใช้เชื่อมคา (words), กลุ่มคา (phrases) หรือประโยค (sentences) เข้าด้วยกัน และคาที่จะใช้ conjunction เชื่อมได้นั้นต้องเป็นคาชนิดเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน ในปัจจุบันมนุษย์ ต้องการความรู้ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น ด้านการเรียน ด้านการสื่อสาร เป็นต้น ฉะนั้น เรื่อง คาสันธาน นี้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เพราะนอกจากจะนาไปใช้ใน ด้านการศึกษาแล้ว มนุษย์ต้องมีการสื่อสารกับคนอื่นๆ ดังนั้น การใช้คาเชื่อมประโยคอย่างถูกต้องจะทาให้คาหรือ ข้อความที่เราสื่อสารนั้นติดต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ประโยคจะมีความกระชับ และสละสลวยขึ้น ทาให้ง่ายต่อการฟัง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนในสาระวิชาภาษาอังกฤษได้ 2. เพื่อทาให้ประโยคในการสื่อสารกระชับรัดกุมง่ายต่อการสนทนา ขอบเขตโครงงาน 1. ชนิดของคาสันธาน 2. ลักษณะการใช้คาสันธาน 3. การนาไปใช้ของคาสันธาน หลักการและทฤษฎี คาสันธาน คือคาที่ใช้เชื่อมความ ซึ่งได้แก่ คาสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคที่สมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกัน (coordinating conjunction) คาสันธานที่ใช้นาหน้าประโยคย่อยไม่อิสระใน complex sentence (subordinating conjunction) และคาสันธานแบบคาคู่ (paired conjunction) 6.2.1 Coordinating Conjunction คือคาสันธานที่ใช้เชื่อมเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคา กลุ่มคา หรือเชื่อมประโยคย่อยอิสระที่อยู่ใน compound sentence เช่น and, but, yet, or, nor, neither, for, so เป็นต้น โดยหากเป็นการเชื่อมประโยคย่อย อิสระใน compound sentence คาเชื่อมเหล่านี้จะอยู่ระหว่าง clause ทั้งสองและมีเครื่องหมายจุลภาค , (comma) คั่น ในกรณีที่ประโยคที่เชื่อมต่อกันค่อนข้างสั้น สามารถละเครื่องหมายจุลภาคได้ 1) and ใช้แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เสริมกัน My husband and I are going to Rayong this weekend. January is the first month of the year, and December is the last. 2) but, yet ใช้แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ขัดแย้งกัน These shoes are old but comfortable. William is tired, yet happy.
  • 4. 4 3) or ใช้แสดงความสัมพันธ์ประเภทเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง (showing alternatives) You can have the black kitten or the white dog. You can email or fax us the details of the program 4) nor, neither ใช้ในความหมายตรงข้ามกับ กล่าวคือใช้แสดงความสัมพันธ์ ในเชิงปฏิเสธ หมายถึง ไม่ทั้งสองอย่าง (showing no alternatives) ขอให้สังเกตว่าเมื่อใช้คาว่า nor และ neither ซึ่งมีความหมายเชิงปฏิเสธนาหน้าประโยค จะมีการสลับที่ประธานกับกริยา กล่าวคือ จะวางกริยาไว้หน้าประธาน Laura has not left, nor is she planning to leave. These people are not insane, nor are they fools. I was not happy, and neither were they. She doesn’t drink, and neither does she smoke. 5) for ใช้แสดงสาเหตุหรือเหตุผล (showing causes or reasons) I went to bed, for I was tired. I’m taking an English class, for I want to improve my English skills. The little girl hid behind her mother, for she was afraid of the dog. 6) so ใช้แสดงผล (showing results) Victor liked the necktie, so he bought it. She felt hungry, so she took a lunch break. John’s car is in the repair shop, so he has to take a taxi to work. My daughter studies very hard, so she always gets good grades. 6.2.2 Subordinating Conjunction คือคาสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคย่อยไม่อิสระ/ประโยคใจความรอง (dependent/subordinate clause) ประเภท adverb clause เข้ากับประโยคย่อยอิสระ/ประโยคใจความหลัก (independent/main clause) ใน complex sentence เพื่อแสดงความสัมพันธ์ในลักษณะต่าง ๆ อาทิ กิริยาอาการ สถานที่ เวลา เหตุผล ผล จุดประสงค์ การขัดแย้งหรือแตกต่างกัน การเปรียบเทียบ คาสันธานในกลุ่มนี้ เช่น as if, in a way that, where, wherever, when, before, because, since, so that, so, although, whereas, as … as, more … than, if, unless เป็นต้น โดยคาเชื่อมเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของประโยคย่อยไม่อิสระและมีเครื่องหมายจุลภาค , (comma) คั่นระหว่างประโยคทั้งสอง
  • 5. 5 1) ข้อความแสดงลักษณะอาการ (manner) เป็นการอธิบายลักษณะอาการหรือเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับ ลักษณะการกระทาในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น as (ตามที่), in a/the way that (แบบ/ตามวิธีการ แบบ), like (เหมือนกับ), unlike (ไม่เหมือนกับ), as if/as though (ราวกับว่า) เป็นต้น Please submit the report by January 16 as I requested earlier. He handled the situation in the way that I like. Like every other student, Ladda had difficulty with tenses. It looks as if it will rain tonight. Mary acted as though she saw a ghost. 2) ข้อความแสดงสถานที่ (place) เป็นการอธิบายขยายความการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความ หลัก เพื่อให้ทราบว่าเกิดขึ้นที่ใด คาสันธานที่ใช้ เช่น where (ที่ที่), wherever (ที่ใดก็ตามที่) เป็นต้น Put this document where it belongs. We will accompany you wherever you go. 3) ข้อความแสดงเวลา (time) เป็นการอธิบายขยายความการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก เพื่อให้ทราบว่าการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ก่อนหรือหลังการกระทา/เหตุการณ์ใน adverb clause คาสันธานที่ใช้ เช่น as/while (ขณะที่), as soon as (ทันทีที่), since (ตั้งแต่), until/till (จนกระทั่ง), when (เมื่อ), whenever (เมื่อใดก็ตามที่), before (ก่อนที่), after (หลังจากที่), soon after (ภายหลังไม่นาน) เป็นต้น The woman slipped as she was getting off the train. While we are considering your request, you should prepare all necessary documents. I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends. The ASEAN summit has been postponed until the present crisis is over. When the rain stops, we’ll go out. Before you make your payment, you should contact our finance office. You’ll feel better after you’ve had some rest. I’ll come soon after I’ve finished my work. 4) ข้อความแสดงเหตุผล (reason) เป็นการอธิบายขยายความเกี่ยวกับเหตุผลของการกระทา/ เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น as/since/because (เพราะว่า) เป็นต้น As I was feeling tired, I went to bed early. I see my parents quite often as they live near me. Since we had nothing better to do, we watched television the whole evening. We decided to go out for a meal since there wasn’t anything to eat in the house.
  • 6. 6 Because it was raining heavily, I had to take a taxi home. I’m taking the English Grammar in Use course this semester because I want to be able to communicate in English more correctly and fluently. 5) ข้อความแสดงจุดประสงค์ (purpose) เป็นการอธิบายขยายความว่าการกระทา/ เหตุการณ์ในประโยคใจความหลักมีจุดประสงค์ใด คาสันธานที่ใช้ เช่น so that/in order that (เพื่อที่) เป็นต้น I’ll give her my email address so that she can contact me. I spoke very slowly in order that the students could understand what I said. 6) ข้อความแสดงผล (result) เป็นการอธิบายผลของการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความ หลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น so (ดังนั้น), so … that/ such … that (มากจนกระทั่ง) เป็นต้น I have too much work to do, so I can’t go to my friend’s birthday party tonight. He worked so hard that he became ill. It was such lovely weather that we spent the whole day in the garden. 7) ข้อความแสดงความแย้งหรือตรงกันข้ามกัน (concession/contrast) เป็นการให้ข้อมูลที่แย้งหรือ ตรงกันข้ามกับการกระทา/เหตุการณ์ในประโยคใจความหลัก คาสันธานที่ใช้ เช่น although/though/even though (ถึงแม้ว่า), while/whilst/whereas (ในขณะที่) เป็นต้น Although/Though/Even though it was cold, I went swimming. I like coffee while/whereas my husband likes tea. 8) ข้อความแสดงการเปรียบเทียบ (comparison) เป็นการอธิบายเปรียบเทียบความต่างระหว่างการ กระทา/เหตุการณ์ใน adverb clause กับประโยคใจความหลัก คาที่ใช้ เช่น as … as (เท่ากับ), not as … as (ไม่ เท่ากับ), -er/more … than (มากกว่า), -er/less … than (น้อยกว่า) เป็นต้น There’s plenty of food, so please eat as much as you like. Jane isn’t as old as she looks. The government has taken this current crisis more seriously than ever. I have fewer friends here than in my own country because I have less time to socialize (here than in my own country). 9) ข้อความแสดงเงื่อนไข (condition) เป็นการอธิบายว่าการกระทา/เหตุการณ์หนึ่งเป็นผลมาจากอีกการ กระทา/เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเงื่อนไข โดย adverb clause เป็นส่วนที่แสดงเงื่อนไข และประโยคใจความหลักเป็น ส่วนที่แสดงผลของการกระทา คาที่ใช้แสดงเงื่อนไข เช่น if (ถ้า), unless (ถ้าไม่), as long as (ตราบเท่าที่) เป็นต้น ซึ่งประโยคเงื่อนไขและประโยคที่แสดงผลของเงื่อนไขมีโครงสร้างประโยคหลายแบบ Please do not hesitate to call me if you have further questions. If I could afford it, I would buy a house.
  • 7. 7 Unless Tim hurries, he will miss the bus. You can use my car as long as you drive carefully. วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. กาหนดหัวข้อโครงงาน 2. เลือกหัวข้อโครงงาน 3. รวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการทาโครงงาน 4. ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อการเรียนรู้ต่างๆ 5. สรุปและจัดทาโครงงาน 6. ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด 7. นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. คอมพิวเตอร์ งบประมาณ 100 บาท
  • 8. 8 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ บ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน - 2 ศึกษาและค้นคว้า ข้อมูล - 3 จัดทาโครงร่างงาน - 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน - 5 ปรับปรุงทดสอบ - 6 การทาเอกสารรายงาน - 7 ประเมินผลงาน - 8 นาเสนอโครงงาน - ผลที่คาดว่าจะ 1. สามารถนาไปเป็นสื่อการเรียนการสอนในสาระวิชาภาษาอังกฤษได้ 2. สามารถสื่อสารได้อย่างกระชับรัดกุมทาให้ง่ายต่อการสนทนา สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
  • 9. 9 แหล่งอ้างอิง (1) Connectors. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.stou.ac.th/ (วันที่ค้นข้อมูล: 22 มกราคม 59) (2) Conjunction. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.myfirstbrain.com/ (วันที่ค้นข้อมูล: 22 มกราคม 59) (3) ชาญชัย บุญเฮ้า. สูตรสำเร็จ grammar. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ B.E.C