SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
หน้า ๑๐๔
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
พระราชกฤษฎีกา
กําหนดเขตอํานาจศาลมณฑลทหาร
พ.ศ. ๒๕๕๘
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหาร
และศาลมณฑลทหาร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลมณฑลทหาร
พ.ศ. ๒๕๕๘”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(๑) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๓๓
(๒) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๗
(๓) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๒
หน้า ๑๐๕
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
มาตรา ๔ ศาลมณฑลทหารมีเขตอํานาจ ดังต่อไปนี้
(๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก
และจังหวัดฉะเชิงเทรา
(๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท
จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง
(๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง
(๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
(๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม
และจังหวัดสมุทรสาคร
(๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี
(๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี
และจังหวัดตราด
(๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดชัยภูมิ
(๑๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอํานาจเจริญ
(๑๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกาฬสินธุ์
(๑๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย
(๑๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ
(๑๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดมหาสารคาม
(๑๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร
(๑๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเลย และจังหวัดหนองบัวลําภู
(๑๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดบึงกาฬ
(๑๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร
(๑๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกําแพงเพชร
และจังหวัดอุทัยธานี
(๒๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดลําปาง
(๒๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
และจังหวัดลําพูน
(๒๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดพะเยา
(๒๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดแพร่
(๒๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิจิตร
หน้า ๑๐๖
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
(๒๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเชียงราย
(๒๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดน่าน
(๒๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดสุโขทัย
(๒๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑๐ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดตาก
(๒๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจาก
อําเภอทุ่งสง และจังหวัดภูเก็ต
(๓๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง
และจังหวัดสตูล
(๓๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่อําเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง
(๓๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง
(๓๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดพังงา
(๓๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส
และจังหวัดยะลา
มาตรา ๕ บรรดาคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑลทหารบกใดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้คงพิจารณาพิพากษาในศาลมณฑลทหารบกนั้น
มาตรา ๖ บรรดาคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกใดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้
(๑) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกราชบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๑๖
(๒) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๑๗
(๓) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๑๘
(๔) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสระแก้ว ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๑๙
(๕) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๕
(๖) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๗
(๗) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกพะเยา ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๔
หน้า ๑๐๗
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
(๘) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๕
(๙) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๖
(๑๐) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๗
(๑๑) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๙
(๑๒) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกตาก ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๓๑๐
(๑๓) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกทุ่งสง ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๔๓
(๑๔) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกชุมพร ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๔๔
(๑๕) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๔๕
(๑๖) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกปัตตานี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๔๖
มาตรา ๗ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ และศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดมหาสารคามด้วย
บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์หรือจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ ให้คงพิจารณา
พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ แล้วแต่กรณี
บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑
หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๖ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับ
การขังระหว่างสอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖
มาตรา ๘ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดเลย และศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดหนองบัวลําภูด้วย
หน้า ๑๐๘
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดเลยหรือจังหวัดหนองบัวลําภู ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ ให้คงพิจารณา
พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ แล้วแต่กรณี
บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓
หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘
ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่าง
สอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘
มาตรา ๙ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดบึงกาฬด้วย
บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดสกลนครหรือจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๔
บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔
มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔
มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้น ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙
มาตรา ๑๐ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดมุกดาหาร และศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดนครพนมด้วย
บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดมุกดาหารหรือจังหวัดนครพนม ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล
ทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ ให้คงพิจารณา
พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ แล้วแต่กรณี
บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒
หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐
ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่าง
สอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐
มาตรา ๑๑ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้
ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดน่านด้วย
บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดน่าน ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ ในวันเปิดทําการ
ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒
บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒
มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒
มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้น ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘
หน้า ๑๐๙
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
มาตรา ๑๒ บรรดากฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งอื่นใดที่อ้างถึงศาลจังหวัด
ทหารบกตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๓๓
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ถือว่ากฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งนั้นอ้างถึงศาลมณฑลทหารบก
ตามพระราชกฤษฎีกานี้ แล้วแต่กรณี ดังนี้
(๑) ศาลจังหวัดทหารบกราชบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๖
(๒) ศาลจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๗
(๓) ศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๘
(๔) ศาลจังหวัดทหารบกสระแก้ว ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๙
(๕) ศาลจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๕
(๖) ศาลจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖
(๗) ศาลจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๗
(๘) ศาลจังหวัดทหารบกเลย ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘
(๙) ศาลจังหวัดทหารบกสกลนคร ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙
(๑๐) ศาลจังหวัดทหารบกนครพนม ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐
(๑๑) ศาลจังหวัดทหารบกพะเยา ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๔
(๑๒) ศาลจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๕
(๑๓) ศาลจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๖
(๑๔) ศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๗
(๑๕) ศาลจังหวัดทหารบกน่าน ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘
(๑๖) ศาลจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๙
(๑๗) ศาลจังหวัดทหารบกตาก ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑๐
(๑๘) ศาลจังหวัดทหารบกทุ่งสง ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๓
(๑๙) ศาลจังหวัดทหารบกชุมพร ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๔
(๒๐) ศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๕
(๒๑) ศาลจังหวัดทหารบกปัตตานี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๖
มาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
หน้า ๑๑๐
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มีการกําหนดให้มณฑลทหารบก
เป็นส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคเพิ่มขึ้นและยกเลิกจังหวัดทหารบกทุกแห่ง รวมทั้งกําหนดหน้าที่และ
เขตพื้นที่ของมณฑลทหารขึ้นใหม่ จึงสมควรยกเลิกเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารบก และกําหนดเขตอํานาจศาลมณฑล
ทหารบกเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่และเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจําเป็นต้อง
ตราพระราชกฤษฎีกานี้

More Related Content

What's hot

Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdf
Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdfQuran chapter-28-surah-al-qasas-pdf
Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdfQuran Pak
 
Curso prático de desenho 02
Curso prático de desenho 02Curso prático de desenho 02
Curso prático de desenho 02Artes e Encantos
 
Resumão Jurídico - Processo Penal
Resumão Jurídico - Processo PenalResumão Jurídico - Processo Penal
Resumão Jurídico - Processo PenalIohanna Moura
 
TF.ROTF.OMA.02
TF.ROTF.OMA.02TF.ROTF.OMA.02
TF.ROTF.OMA.02Arcee327
 
Dok holidej 181 emerson dodz - u paklu brazosa
Dok holidej 181   emerson dodz - u paklu brazosaDok holidej 181   emerson dodz - u paklu brazosa
Dok holidej 181 emerson dodz - u paklu brazosazoran radovic
 
0499. eksploziv a z 119
0499. eksploziv a z 1190499. eksploziv a z 119
0499. eksploziv a z 119Tompa *
 
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!Stripovizijacom
 
TF.ROTF.OMA.01
TF.ROTF.OMA.01TF.ROTF.OMA.01
TF.ROTF.OMA.01Arcee327
 
Zagor ras 002 - Povratak kući
Zagor ras 002 - Povratak kućiZagor ras 002 - Povratak kući
Zagor ras 002 - Povratak kućiStripovizijacom
 
Once in a red moon piano+violin
Once in a red moon piano+violinOnce in a red moon piano+violin
Once in a red moon piano+violinSuni Aguado
 
DibujArte-book-nº (13)
DibujArte-book-nº (13) DibujArte-book-nº (13)
DibujArte-book-nº (13) Adrian Gonzalez
 
LUD MAX 032 - Tajna Druida
LUD MAX 032 - Tajna DruidaLUD MAX 032 - Tajna Druida
LUD MAX 032 - Tajna DruidaBroj Jedan
 
0506. 7 neustrašivih
0506. 7 neustrašivih0506. 7 neustrašivih
0506. 7 neustrašivihTompa *
 
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdf
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdfبزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdf
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdfFaizan ali Siddiqui
 
TF.DOTM.OMA.03
TF.DOTM.OMA.03TF.DOTM.OMA.03
TF.DOTM.OMA.03Arcee327
 
692 gusari kapetana skuma
692   gusari kapetana skuma692   gusari kapetana skuma
692 gusari kapetana skumaMilenko Gavric
 

What's hot (20)

Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdf
Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdfQuran chapter-28-surah-al-qasas-pdf
Quran chapter-28-surah-al-qasas-pdf
 
Curso prático de desenho 02
Curso prático de desenho 02Curso prático de desenho 02
Curso prático de desenho 02
 
Resumão Jurídico - Processo Penal
Resumão Jurídico - Processo PenalResumão Jurídico - Processo Penal
Resumão Jurídico - Processo Penal
 
TF.ROTF.OMA.02
TF.ROTF.OMA.02TF.ROTF.OMA.02
TF.ROTF.OMA.02
 
Dok holidej 181 emerson dodz - u paklu brazosa
Dok holidej 181   emerson dodz - u paklu brazosaDok holidej 181   emerson dodz - u paklu brazosa
Dok holidej 181 emerson dodz - u paklu brazosa
 
0499. eksploziv a z 119
0499. eksploziv a z 1190499. eksploziv a z 119
0499. eksploziv a z 119
 
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!
Zagor LIB KB 045 - Zbogom, crveni brate!
 
TF.ROTF.OMA.01
TF.ROTF.OMA.01TF.ROTF.OMA.01
TF.ROTF.OMA.01
 
Dua e Aman
Dua e AmanDua e Aman
Dua e Aman
 
Zagor ras 002 - Povratak kući
Zagor ras 002 - Povratak kućiZagor ras 002 - Povratak kući
Zagor ras 002 - Povratak kući
 
Once in a red moon piano+violin
Once in a red moon piano+violinOnce in a red moon piano+violin
Once in a red moon piano+violin
 
Surah an Nahl
Surah an NahlSurah an Nahl
Surah an Nahl
 
DibujArte-book-nº (13)
DibujArte-book-nº (13) DibujArte-book-nº (13)
DibujArte-book-nº (13)
 
10TH CERTIFICATE
10TH CERTIFICATE10TH CERTIFICATE
10TH CERTIFICATE
 
Hizb 41
Hizb 41Hizb 41
Hizb 41
 
LUD MAX 032 - Tajna Druida
LUD MAX 032 - Tajna DruidaLUD MAX 032 - Tajna Druida
LUD MAX 032 - Tajna Druida
 
0506. 7 neustrašivih
0506. 7 neustrašivih0506. 7 neustrašivih
0506. 7 neustrašivih
 
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdf
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdfبزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdf
بزم شامزئی کی تقریریں۔جلد۔1.pdf
 
TF.DOTM.OMA.03
TF.DOTM.OMA.03TF.DOTM.OMA.03
TF.DOTM.OMA.03
 
692 gusari kapetana skuma
692   gusari kapetana skuma692   gusari kapetana skuma
692 gusari kapetana skuma
 

More from Saravuth Charatpinit

มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจ
มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจมาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจ
มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจSaravuth Charatpinit
 
018 แบบฟอร์ม (ระบุพยาน)
018 แบบฟอร์ม  (ระบุพยาน)018 แบบฟอร์ม  (ระบุพยาน)
018 แบบฟอร์ม (ระบุพยาน)Saravuth Charatpinit
 
017 แบบฟอร์ม (ใบแต่งทนาย)
017 แบบฟอร์ม  (ใบแต่งทนาย)017 แบบฟอร์ม  (ใบแต่งทนาย)
017 แบบฟอร์ม (ใบแต่งทนาย)Saravuth Charatpinit
 
014 แบบฟอร์ม (ท้ายคำแก้......)
014 แบบฟอร์ม  (ท้ายคำแก้......)014 แบบฟอร์ม  (ท้ายคำแก้......)
014 แบบฟอร์ม (ท้ายคำแก้......)Saravuth Charatpinit
 
013 แบบฟอร์ม (คำแก้)
013 แบบฟอร์ม  (คำแก้)013 แบบฟอร์ม  (คำแก้)
013 แบบฟอร์ม (คำแก้)Saravuth Charatpinit
 
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)Saravuth Charatpinit
 
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)Saravuth Charatpinit
 
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)Saravuth Charatpinit
 
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)Saravuth Charatpinit
 
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)Saravuth Charatpinit
 
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559Saravuth Charatpinit
 

More from Saravuth Charatpinit (11)

มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจ
มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจมาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจ
มาตรฐานการนำดีเอ็นเอมาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีอาญา 2551 พ.อ.สราวุธ จรัสพินิจ
 
018 แบบฟอร์ม (ระบุพยาน)
018 แบบฟอร์ม  (ระบุพยาน)018 แบบฟอร์ม  (ระบุพยาน)
018 แบบฟอร์ม (ระบุพยาน)
 
017 แบบฟอร์ม (ใบแต่งทนาย)
017 แบบฟอร์ม  (ใบแต่งทนาย)017 แบบฟอร์ม  (ใบแต่งทนาย)
017 แบบฟอร์ม (ใบแต่งทนาย)
 
014 แบบฟอร์ม (ท้ายคำแก้......)
014 แบบฟอร์ม  (ท้ายคำแก้......)014 แบบฟอร์ม  (ท้ายคำแก้......)
014 แบบฟอร์ม (ท้ายคำแก้......)
 
013 แบบฟอร์ม (คำแก้)
013 แบบฟอร์ม  (คำแก้)013 แบบฟอร์ม  (คำแก้)
013 แบบฟอร์ม (คำแก้)
 
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)
012 แบบ ธน.126 (ท้ายฎีกา)
 
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)
011 แบบ ธน.125 (ฎีกา)
 
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)
010 แบบ ธน.121 (ท้ายอุทธรณ์)
 
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)
007 แบบ ธน.103 (ฟ้อง)
 
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)
003 แบบ ธน.141 (คำร้องขอออกหมายจับ)
 
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559
คู่มือคำนวณวันหนีราชการด้วยตนเอง 2559
 

พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๕๘

  • 1. หน้า ๑๐๔ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ พระราชกฤษฎีกา กําหนดเขตอํานาจศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๕๘ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหาร และศาลมณฑลทหาร อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๕๘” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๓๓ (๒) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ (๓) พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๒
  • 2. หน้า ๑๐๕ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ มาตรา ๔ ศาลมณฑลทหารมีเขตอํานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดฉะเชิงเทรา (๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง (๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง (๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดสมุทรสาคร (๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี (๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด (๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดชัยภูมิ (๑๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอํานาจเจริญ (๑๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกาฬสินธุ์ (๑๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย (๑๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ (๑๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดมหาสารคาม (๑๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร (๑๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเลย และจังหวัดหนองบัวลําภู (๑๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดบึงกาฬ (๑๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร (๑๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกําแพงเพชร และจังหวัดอุทัยธานี (๒๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดลําปาง (๒๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดลําพูน (๒๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดพะเยา (๒๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดแพร่ (๒๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิจิตร
  • 3. หน้า ๑๐๖ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ (๒๕) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๗ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดเชียงราย (๒๖) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดน่าน (๒๗) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๙ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดสุโขทัย (๒๘) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑๐ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดตาก (๒๙) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๑ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจาก อําเภอทุ่งสง และจังหวัดภูเก็ต (๓๐) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๒ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสตูล (๓๑) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๓ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่อําเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง (๓๒) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๔ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง (๓๓) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๕ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดพังงา (๓๔) ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๖ มีเขตอํานาจตลอดท้องที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา มาตรา ๕ บรรดาคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑลทหารบกใดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้คงพิจารณาพิพากษาในศาลมณฑลทหารบกนั้น มาตรา ๖ บรรดาคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกใดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้ (๑) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกราชบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๑๖ (๒) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๑๗ (๓) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๑๘ (๔) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสระแก้ว ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๑๙ (๕) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๕ (๖) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๗ (๗) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกพะเยา ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๔
  • 4. หน้า ๑๐๗ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ (๘) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๕ (๙) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๖ (๑๐) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๗ (๑๑) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๙ (๑๒) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกตาก ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๓๑๐ (๑๓) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกทุ่งสง ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๔๓ (๑๔) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกชุมพร ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๔๔ (๑๕) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๔๕ (๑๖) คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดทหารบกปัตตานี ให้พิจารณาพิพากษาในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๔๖ มาตรา ๗ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ และศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดมหาสารคามด้วย บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์หรือจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ ให้คงพิจารณา พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ แล้วแต่กรณี บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๖ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับ การขังระหว่างสอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ มาตรา ๘ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดเลย และศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดหนองบัวลําภูด้วย
  • 5. หน้า ๑๐๘ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดเลยหรือจังหวัดหนองบัวลําภู ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ ให้คงพิจารณา พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ แล้วแต่กรณี บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่าง สอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ มาตรา ๙ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดบึงกาฬด้วย บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดสกลนครหรือจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๔ บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้น ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ มาตรา ๑๐ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดมุกดาหาร และศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๔ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดนครพนมด้วย บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดมุกดาหารหรือจังหวัดนครพนม ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑล ทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ ให้คงพิจารณา พิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ แล้วแต่กรณี บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๒ หรือศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่าง สอบสวนนั้น แล้วแต่กรณี ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ มาตรา ๑๑ ในระหว่างที่ยังไม่เปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ ใช้บังคับ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีเขตอํานาจตลอดถึงเขตท้องที่จังหวัดน่านด้วย บรรดาคดีของเขตท้องที่จังหวัดน่าน ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ ในวันเปิดทําการ ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ให้คงพิจารณาพิพากษาต่อไปในศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ บรรดาคดีของเขตท้องที่ตามที่กําหนดไว้ในวรรคสอง ซึ่งอยู่ระหว่างที่ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีคําสั่งขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนในวันเปิดทําการศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ ให้ศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ มีอํานาจพิจารณาเกี่ยวกับการขังระหว่างสอบสวนนั้น ส่วนการฟ้องคดีให้ยื่นฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘
  • 6. หน้า ๑๐๙ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ มาตรา ๑๒ บรรดากฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งอื่นใดที่อ้างถึงศาลจังหวัด ทหารบกตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารและศาลมณฑลทหาร พ.ศ. ๒๕๓๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ถือว่ากฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งนั้นอ้างถึงศาลมณฑลทหารบก ตามพระราชกฤษฎีกานี้ แล้วแต่กรณี ดังนี้ (๑) ศาลจังหวัดทหารบกราชบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๖ (๒) ศาลจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๗ (๓) ศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๘ (๔) ศาลจังหวัดทหารบกสระแก้ว ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๑๙ (๕) ศาลจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๕ (๖) ศาลจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๖ (๗) ศาลจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๗ (๘) ศาลจังหวัดทหารบกเลย ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๘ (๙) ศาลจังหวัดทหารบกสกลนคร ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๙ (๑๐) ศาลจังหวัดทหารบกนครพนม ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๑๐ (๑๑) ศาลจังหวัดทหารบกพะเยา ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๔ (๑๒) ศาลจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๕ (๑๓) ศาลจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๖ (๑๔) ศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๗ (๑๕) ศาลจังหวัดทหารบกน่าน ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๘ (๑๖) ศาลจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๙ (๑๗) ศาลจังหวัดทหารบกตาก ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๑๐ (๑๘) ศาลจังหวัดทหารบกทุ่งสง ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๓ (๑๙) ศาลจังหวัดทหารบกชุมพร ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๔ (๒๐) ศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๕ (๒๑) ศาลจังหวัดทหารบกปัตตานี ให้ถือว่าอ้างถึงศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๖ มาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
  • 7. หน้า ๑๑๐ เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๘๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ กันยายน ๒๕๕๘ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มีการกําหนดให้มณฑลทหารบก เป็นส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคเพิ่มขึ้นและยกเลิกจังหวัดทหารบกทุกแห่ง รวมทั้งกําหนดหน้าที่และ เขตพื้นที่ของมณฑลทหารขึ้นใหม่ จึงสมควรยกเลิกเขตอํานาจศาลจังหวัดทหารบก และกําหนดเขตอํานาจศาลมณฑล ทหารบกเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่และเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจําเป็นต้อง ตราพระราชกฤษฎีกานี้