Download free for 30 days
Sign in
Upload
Language (EN)
Support
Business
Mobile
Social Media
Marketing
Technology
Art & Photos
Career
Design
Education
Presentations & Public Speaking
Government & Nonprofit
Healthcare
Internet
Law
Leadership & Management
Automotive
Engineering
Software
Recruiting & HR
Retail
Sales
Services
Science
Small Business & Entrepreneurship
Food
Environment
Economy & Finance
Data & Analytics
Investor Relations
Sports
Spiritual
News & Politics
Travel
Self Improvement
Real Estate
Entertainment & Humor
Health & Medicine
Devices & Hardware
Lifestyle
Change Language
Language
English
Español
Português
Français
Deutsche
Cancel
Save
Submit search
EN
คค
Uploaded by
ครูพัฒวิทย์ ครูพัฒวิทย์
PPT, PDF
50,317 views
ประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี
ประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี สาระประวัติศาสตร์ ม.3
Education
◦
Read more
9
Save
Share
Embed
Embed presentation
Download
Downloaded 435 times
1
/ 71
2
/ 71
3
/ 71
Most read
4
/ 71
5
/ 71
6
/ 71
7
/ 71
8
/ 71
9
/ 71
10
/ 71
11
/ 71
12
/ 71
13
/ 71
14
/ 71
15
/ 71
16
/ 71
17
/ 71
18
/ 71
19
/ 71
20
/ 71
21
/ 71
22
/ 71
23
/ 71
24
/ 71
25
/ 71
26
/ 71
27
/ 71
28
/ 71
29
/ 71
30
/ 71
31
/ 71
32
/ 71
33
/ 71
34
/ 71
35
/ 71
36
/ 71
37
/ 71
38
/ 71
39
/ 71
40
/ 71
41
/ 71
42
/ 71
43
/ 71
44
/ 71
45
/ 71
46
/ 71
47
/ 71
48
/ 71
49
/ 71
50
/ 71
51
/ 71
52
/ 71
53
/ 71
54
/ 71
55
/ 71
56
/ 71
57
/ 71
58
/ 71
59
/ 71
60
/ 71
61
/ 71
Most read
62
/ 71
63
/ 71
64
/ 71
Most read
65
/ 71
66
/ 71
67
/ 71
68
/ 71
69
/ 71
70
/ 71
71
/ 71
More Related Content
PDF
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
PPTX
ประวัติและผลงาน 9 รัชกาลของไทย
by
Sukanda Panpetch
PDF
สรุปรัตนโกสินทร์ตอนต้น
by
Kunnai- เบ้
PDF
07อาณาจักรอยุธยา
by
JulPcc CR
PPTX
ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ม.3
by
Oae Butrawong Skr
PDF
เศรษฐกิจในสมัยสุโขทัย อยุธยา และธนบุรี
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PDF
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์-pdf
by
Kunnai- เบ้
PDF
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญ
by
Princess Chulabhon's College Chonburi
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
ประวัติและผลงาน 9 รัชกาลของไทย
by
Sukanda Panpetch
สรุปรัตนโกสินทร์ตอนต้น
by
Kunnai- เบ้
07อาณาจักรอยุธยา
by
JulPcc CR
ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ม.3
by
Oae Butrawong Skr
เศรษฐกิจในสมัยสุโขทัย อยุธยา และธนบุรี
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์-pdf
by
Kunnai- เบ้
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์และการวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญ
by
Princess Chulabhon's College Chonburi
What's hot
PDF
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
by
Pracha Wongsrida
PDF
6การปกครองประเทศสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PDF
Key of sheet 8 56x
by
Pracha Wongsrida
PPTX
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
by
sudoooooo
PDF
ใบงานกฎหมาย
by
พจีกานต์ หว่านพืช
PPTX
ประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ ประถมศึกษาปีที่6
by
ARM ARM
PPTX
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
by
O'Orh ChatmaNee
PDF
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
by
Sukanya Nak-on
PDF
สงครามโลกครั้งที่ 1
by
Taraya Srivilas
PDF
สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1
by
วีระยศ เพชรภักดี
PDF
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
by
SAKANAN ANANTASOOK
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
by
นิตยา ทองดียิ่ง
PDF
หน่วย 1
by
ศิวากรณ์ บุญนิล
PDF
ประโยคที่ซับซ้อน
by
พัน พัน
PDF
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
by
พัน พัน
PDF
ใบงาน
by
นายสมหมาย ฉิมมาลี
PPT
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)51
by
Krusupharat
PDF
ใบความรู้เรื่องคำซ้อน
by
Kroo R WaraSri
PPTX
ปัจจัยที่ทำให้เกิดรัฐชาติ
by
Patt Thank
PDF
หลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ส16103 ประวัติศาสตร์ ป.6
by
Thanawut Rattanadon
Key of 2 อาณาจักรโบราณ-57
by
Pracha Wongsrida
6การปกครองประเทศสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
Key of sheet 8 56x
by
Pracha Wongsrida
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
by
sudoooooo
ใบงานกฎหมาย
by
พจีกานต์ หว่านพืช
ประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ ประถมศึกษาปีที่6
by
ARM ARM
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
by
O'Orh ChatmaNee
ใบงานที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอน
by
Sukanya Nak-on
สงครามโลกครั้งที่ 1
by
Taraya Srivilas
สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1
by
วีระยศ เพชรภักดี
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
by
SAKANAN ANANTASOOK
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
by
นิตยา ทองดียิ่ง
หน่วย 1
by
ศิวากรณ์ บุญนิล
ประโยคที่ซับซ้อน
by
พัน พัน
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
by
พัน พัน
ใบงาน
by
นายสมหมาย ฉิมมาลี
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)51
by
Krusupharat
ใบความรู้เรื่องคำซ้อน
by
Kroo R WaraSri
ปัจจัยที่ทำให้เกิดรัฐชาติ
by
Patt Thank
หลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ส16103 ประวัติศาสตร์ ป.6
by
Thanawut Rattanadon
Similar to ประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี
PDF
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
by
Pracha Wongsrida
PDF
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
PDF
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
PDF
การสถาปนา..
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PDF
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
by
Pracha Wongsrida
PDF
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PPTX
กษัตริย์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์กับการพัฒนาชาติไทย
by
คุณครูเกตุชัย ปิ่นทอง
PPTX
กษัตริย์ไทยสมัยธนบุรีกับการพัฒนาชาติไทย
by
คุณครูเกตุชัย ปิ่นทอง
PDF
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
PDF
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
PDF
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
PPTX
งานนำเสนอ1
by
fah472
PDF
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
PDF
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
PDF
สไลด์ พระเจ้าตากสินมหาราช+552+dltvp3+55t2his p03 f12-1page
by
Prachoom Rangkasikorn
PDF
ประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี+552+55t2his p03 f12-1page
by
Prachoom Rangkasikorn
PDF
ประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี+552+55t2his p03 f12-4page
by
Prachoom Rangkasikorn
PDF
สไลด์ พระเจ้าตากสินมหาราช+552+dltvp3+55t2his p03 f12-4page
by
Prachoom Rangkasikorn
PDF
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
PDF
พันธิวา หารัญดา 5/4
by
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
by
Pracha Wongsrida
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
การสถาปนา..
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
by
Pracha Wongsrida
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
กษัตริย์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์กับการพัฒนาชาติไทย
by
คุณครูเกตุชัย ปิ่นทอง
กษัตริย์ไทยสมัยธนบุรีกับการพัฒนาชาติไทย
by
คุณครูเกตุชัย ปิ่นทอง
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
09กรุงรัตนโกสินทร์ร.1 ร
by
JulPcc CR
งานนำเสนอ1
by
fah472
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
สไลด์ พระเจ้าตากสินมหาราช+552+dltvp3+55t2his p03 f12-1page
by
Prachoom Rangkasikorn
ประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี+552+55t2his p03 f12-1page
by
Prachoom Rangkasikorn
ประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี+552+55t2his p03 f12-4page
by
Prachoom Rangkasikorn
สไลด์ พระเจ้าตากสินมหาราช+552+dltvp3+55t2his p03 f12-4page
by
Prachoom Rangkasikorn
08กรุงธนบุรี
by
JulPcc CR
พันธิวา หารัญดา 5/4
by
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี
1.
2.
3.
พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เรียกอีกพระนามหนึ่งว่า
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ท่านเป็นบุตรชาวจีนนายอากรบ่อนเบี้ย ชื่อ นายไหฮอง แซ่แต้ มารดาชื่อนางนกเอี้ยง ( พระพันปีหลวง กรมพระเทพามาตย์ ) สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล จ . ศ . 1096 ตรงกับ วันที่ 17 เมษายน 2277 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
4.
เจ้าพระยาจักรีได้ขอบุตรชายของนายไหฮองไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม นับตั้งแต่รับบุตรของนายไหฮองมาเลี้ยงไว้ เจ้าพระยาจักรี
เจ้าพระยาจักรีก็มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยลาภยศเงินทองมากขึ้นกว่าแต่เดิมเป็นอย่างมาก จึงตั้งชื่อบุตรบุญธรรมว่า " สิน " พ . ศ . 2286 เมื่อเด็กชาย สิน อายุได้ 9 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำไปฝากเรียนหนังสือ ในสำนักของพระอาจารย์ทองดี วัดโกษาวาส พ . ศ . 2290 อายุ 13 ปี ก็นำเข้าถวายตัวรับราชการเป็นมหาดเล็ก ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พ . ศ . 2398 อายุ 21 ปี อุปสมบท อยู่ในสมณเพศ 3 พรรษา ได้ลาสิกขาบท ออกมารับราชการ ในตำแหน่งมหาดเล็กรายงาน ครั้นถึงสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาสอมรินทร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกบัตรเมืองตาก เมื่อเจ้าเมืองตากถึงแก่กรรม ก็ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาตากขึ้นครองเมืองตาก ( ระแหง ) พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
5.
พ . ศ
. 2309 เมื่อพม่ายกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา พระยาตากได้ถูกเรียกเข้ามาช่วยราชการในกรุงศรีอยุธยา ทำการสู้รบกับพม่าได้ชัยชนะหลายครั้ง มีความดีความชอบ ได้เลื่อนยศขึ้นเป็น พระยาวชิรปราการ ว่าที่เจ้าเมืองกำแพงเพชร ระหว่างทำหน้าที่ป้องกันรักษาพระนครอยู่นั้น พระยาตากมีความเห็นว่า กรุงศรีอยุธยาคงเสียแก่พม่าแน่ จึงตัดสินใจ พาสมัครพรรคพวก หนีไปตั้งมั่นอยู่ที่เมืองจันทบูรณ์ ( จันทบุรี ) พ . ศ . 2310 ยกทัพกลับมาตีกรุงธนบุรีและค่ายโพธิ์สามต้นได้ สามารถกอบกู้เอกราชได้ เมื่อ 6 พฤศจิกายน 2310 ขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 34 พรรษา ครองราชย์นาน 15 ปี มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 29 พระองค์ สวรรคตเมื่อ 6 เมษายน 2325 รวมพระชนมายุได้ 48 พรรษา พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
6.
สภาพทั่วไปก่อนการก่อตั้งกรุงธนบุรี
กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของไทยอยู่ 417 ปี ( พ . ศ . 1893-2310) ในระยะเวลาอันยาวนานนี้กรุงศรีอยุธยาได้ก้าวจากการเป็นอาณาจักรเล็กๆ มาเป็นอาณาจักรใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่างๆ ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยาเริ่มเสื่อมลงตามลำดับตั้งแต่ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง เกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันขึ้นระหว่างพระราชวงศ์และขุนนาง เจ้านายและขุนนางชั้นผู้ใหญ่แตกความสามัคคีแย่งชิงอำนาจกันเอง ทำให้กำลังทหารแยกออกเป็นกลุ่มๆ ยิ่งบ้านเมืองว่างศึกสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นเวลานาน กองทัพก็ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะสู้รบ พระมหากษัตริย์เองโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าเอกทัศ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา ก็ไม่ทรงพระปรีชาสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่ศัตรูของไทยคือ พม่ามีกำลังและอำนาจมากขึ้นภายใต้พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์อลองพญา
7.
ในปีพ . ศ
. 2309 พระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่ายกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา แต่ถูกปืนลั่นถอยทัพกลับไป ต่อมาพระเจ้ามังระพระราชโอรสบัญชาให้ทหารล้อมอยุธยาบุกเผาทำลายเสียหาย กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในเดือนเมษายน พ . ศ . 2310 พม่ากวาดต้อนคนไทยไปยังพม่าจำนวนมาก สภาพทั่วไปก่อนการก่อตั้งกรุงธนบุรี
8.
เหตุการณ์ตอนต้นสมัยธนบุรี ก่อนพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก
พระยาตากเข้ามาช่วยราชการ รักษากรุงศรีอยุธยา เห็นว่ารักษากรุงไว้ไม่ได้ จึงนำทหาร 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกไปในเดือนยี่ พ . ศ . 2309 ไปยังหัวเมืองตะวันออก กรุงศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ( ตั้งตัวเป็นเจ้า ) แล้วเข้าโจมตี จันทบุรี
9.
แผนที่แสดง การเดินทางของ พระยาตาก
10.
หลังกรุงศรีอยุธยาแตกบรรดาเมืองต่างๆ ตั้งตนเป็นใหญ่
มีกลุ่มที่มี อำนาจ 5 ชุมนุม 1 ชุมนุมเจ้าตาก ตั้งมั่นที่เมืองจันทบุรี มีพระเจ้าตากสิน เป็นหัวหน้า 2 ชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลก ( เรือง ) 3 ชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช ( หนู ) 4 ชุมนุมเจ้าพิมาย กรมหมื่นเทพพิพิธ เป็นหัวหน้า ชุมนุมเจ้าพระฝาง อยู่ที่เมืองสวางคบุรี ( อุตรดิตถ์ ) บรรพชิต ภิกษุเรือนเป็นหัวหน้า
11.
พระยาตากตีเมืองจันทบุรีได้แล้วใช้เป็นฐาน ที่มั่นรวบรวมกำลังผู้คน อาวุธและเสบียงเพื่อ
ยกทัพกลับมากอบกู้เอกราชต่อไป อธิบาย เหตุผลพระยาตากให้ทหารทุบหม้อข้าวหม้อแกงก่อนเข้าตีจันทบุรี
12.
ผลดีในการที่พระเจ้าตากสินเดินทางไปตั้งมั่นที่ หัวเมืองชายทะเล 1
เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยจากกองทัพพม่า 2 เมืองในเส้นทางที่ผ่านเป็นแหล่งกำลังผู้คนและเสบียงอาหาร 3 หัวเมืองชายทะเลมีการค้าสำเภาเป็นแหล่งอาวุธ ยุทธปัจจัย 4 จันทบุรีเป็นเมืองท่า มีไม้ดีๆเหมาะแก่การต่อเรือ 5 ได้กำลังลี้พลที่ชำนาญในการเดินเรือ
13.
การกู้เอกราชของพระเจ้าตากสิน พระเจ้าตากสินทรงรวบรวมรี้พลได้
5 , 000 คนเดินทาง จากจันทบุรีถึงปากน้ำเจ้าพระยาในเดือนพฤศจิกายน 2310 ยึดค่ายโพธิ์สามต้น 6 พฤศจิกายน พ . ศ . 2310 ผลดีที่ใช้ทางเรือ คือ 1. ปลอดภัยจากการโจมตีของพม่า 2. เข้าถึงกองทัพพม่าโดยพม่าไม่ทันตั้งตัว กองทัพเข้าถึงค่าย โพธิ์สามต้นตีทัพพม่าแตก สุกี้นายกองตายในที่รบ ทหารพม่าแตกพ่าย
14.
พระเจ้าตากสินได้อำนาจปกครองประเทศกลับคืน การกู้เอกราชของพระเจ้าตากสินสามารถทำสำเร็จในเวลารวดเร็วคือใช้เวลาเพียง
7 เดือนทรงปราบดาภิเษก วันที่ 28 ธันวาคม พ . ศ . 2311 ( ถือเป็นวันพระเจ้าตากสิน ) ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาที่ 4
15.
การสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี เหตุผลที่ต้องย้ายราชธานี 1
กรุงศรีอยุธยาถูกทำลายยากแก่การบูรณะ 2 กรุงศรีอยุธยามีบริเวณกว้างเกินกำลังกองทัพของพระองค์ 3 ข้าศึกรู้ลู่ทางภูมิประเทศและจุดอ่อนของกรุงศรีอยุธยา 4 กรุงศรีฯอยู่ห่างทะเลไม่สะดวกในการติดต่อค้าขาย
16.
เหตุผลที่เลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานี 1.
กรุงธนบุรีเป็นเมืองขนาดเล็กเหมาะแก่การป้องกันรักษา 2. ในกรณีข้าศึกมีกำลังมาก อาจย้ายไปตั้งมั่นที่จันทบุรีโดยทางเรือ 3 . กรุงธนบุรีมีป้อมปราการที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ใช้ป้องกันข้าศึกได้ 4. กรุงธนบุรีตั้งอยู่บนเกาะเหมือนกรุงศรีอยุธยา มีสภาพเป็นที่ลุ่มเป็นเครื่องกีดขวางข้าศึกมิให้โอบล้อมพระนครได้ง่าย
17.
เหตุผลที่เลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ( ต่อ
) 5. กรุงธนบุรีอยู่ใกล้ปากน้ำสะดวกแก่การค้าขายกับต่างประเทศ 6. กรุงธนบุรีเป็นเมืองเก่า มีวัดที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยอยุธยาจำนวนมากไม่ต้องสร้างวัดขึ้นมาใหม่ให้สิ้นเปลือง 7. กรุงธนบุรีเป็นแหล่งเกษตรกรรมเป็นที่ลุ่ม ดินดี มีคลองหลายสาย มีน้ำใช้ตลอดปี เหมาะทำนา ทำสวนผลไม้ 8. กรุงธนบุรีมีที่ตั้งห่างจากกรุงศรีฯไม่มากนัก พระเจ้าตากจึงมีอำนาจปกครองกรุงศรีอยุธยาด้วย
18.
แผนที่กรุงธนบุรีสมัยพระเจ้าตากสิน
19.
การปกครองสมัยกรุงธนบุรี
20.
การปกครองสมัยกรุงธนบุรี ส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง
สมุหนายก สมุหพระกลาโหม 3 หัวเมืองประเทศราช 2 หัวเมืองชั้นนอกหรือ เมืองพระยามหานคร 1 หัวเมืองชั้นใน จตุสดมภ์ 1 เวียง 2 วัง 3 คลัง 4 นา ดูแลฝ่ายทหาร ดูแลฝ่ายพลเรือน
21.
การปกครองภายในราชธานี มีกรุงธนบุรีเป็นศูนย์กลางพระมหากษัตริย์ มีอำนาจเด็ดขาด
มีตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง คือ สมุหนายก เป็นอัครมหาเสนาบดี ฝ่ายพลเรือน ดูแลด้านพลเรือน แต่ยามมีศึกสงครามก็เป็น แม่ทัพบังคับบัญชาการรบได้ และมีหน้าที่ดูแลบังคับบัญชา หัวเมืองฝ่ายเหนือ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนี้ คือ เจ้าพระยาจักรี สมุหพระกลาโหม เป็นอัครมหาเสนาบดี ฝ่ายทหาร ดูแลด้านกิจการทหาร มีหน้าที่ดูแลและบังคับบัญชา หัวเมืองฝ่ายใต้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนี้ เจ้าพระยากลาโหม
22.
*** ตำแหน่งรองลงมาจากอัครมหาเสนาบดี
ได้แก่ เสนาบดีจตุสดมภ์ มี 4 ตำแหน่ง คือ เสนาบดีกรมเวียง มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ในบ้านเมือง เ สนาบดีกรมวัง มีหน้าที่ดูแลภายในวัง จัดการเรื่องราชพิธีต่างๆและ พิจารณาคดีต่างพระเนตรพระกรรณ เสนาบดีกรมคลัง มีหน้าที่ดูแลพระราชทรัพย์ ติดต่อกับต่างประเทศ บังคับบัญชากรมท่า เสนาบดีกรมนา มีหน้าที่ดูแลนาหลวง จัดเก็บเสบียงอาหารยามมีศึก สงคราม เก็บภาษีหางข้าว ดูแลเรื่องการชลประทาน การปกครองสมัยกรุงธนบุรี
23.
การปกครองหัวเมือง ( ส่วนภูมิภาค
) หัวเมืองชั้นใน เป็นเมืองที่อยู่รายรอบราชธานี เป็น เมืองชั้นจัตวา ผู้ปกครองดูแลเรียกผู้รั้ง อยู่ในบังคับบัญชาของเสนาบดีจตุสดมภ์ เช่นราชบุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี หัวเมืองชั้นนอก เป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลราชธานี เรียก อีกอย่างว่า เมืองพระยามหานคร มีเจ้าเมืองและกรมการเมือง ปกครองดูแล แบ่งเป็นเมืองชั้น เอก โท ตรี เจ้าเมือง มีตั้งแต่ระดับพระยาขึ้นไป เช่น พระยาสีหราชเดโช เจ้าเมืองพิชัย ( แต่ผู้คนมักเรียกว่า พระยาพิชัย ) เป็นต้น การปกครองสมัยกรุงธนบุรี
24.
เมืองประเทศราช
หรือ เมืองขึ้น ให้ปกครองตนเอง เช่น ลาว เขมร นครศรีธรรมราช ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการ มาถวายตามกำหนด ต้องส่งทัพและเสบียงอาหารมาช่วย เมืองหลวงยามเกิดศึกสงคราม ในสมัยกรุงธนบุรียกเมือง นครศรีธรรมราชขึ้นเป็นประเทศราชอีกเมืองหนึ่งดังนั้น เจ้าเมืองนี้จึงมีฐานะเป็นพระเจ้านครศรีธรรมราช พระเจ้าตากสิน มีพระบรมราโชบายที่จะให้เมืองนครศรีธรรมราชนี้ เป็นที่ตั้งกองกำลัง ส่วนใหญ่ในหัวเมืองฝ่ายใต้
25.
กฎหมายในสมัยกรุงธนบุรี 1.
กฎหมายสักเลก บังคับให้ไพร่ต้องสักข้อมือเพื่อแสดงสังกัดที่ อยู่เพื่อป้องกันการหลบหนีเมื่อยามศึกสงคราม ผู้ใดหลบเลี่ยง จะมีโทษหนัก คำว่า เลก หมายถึง ไพร่ 2. ยกเลิกกฎหมายว่าด้วย การจุกช่องล้อมวง การเข้าเฝ้ากษัตริย์ 3. ออกกฎหมายบังคับคาดโทษประหารหญิงที่มีสามีเป็นต่างชาติ 4. มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการพนัน
26.
ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในสมัยกรุงธนบุรี
1 . ปัญหาความอดอยากของราษฎร 2 . การค้าระหว่างประเทศ 3 . การเก็บภาษีอากร
27.
การแก้ไขปัญหาความอดยากของราษฎร ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการซื้อข้าวสาร
อาหาร เสื้อผ้า แจกราษฎร โปรดให้ข้าราชการผู้ใหญ่น้อย ทำนา ปีละ 2 ครั้ง ( นาปีกับนาปรัง ) ทรงให้เพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวใกล้พระนคร ให้ข้าราชการและประชาชนทั้งหลายจับหนูส่งกรมพระนครบาล ( กรมเวียง ) ทุกวันปัญหาหนูจึงสงบลงไป ทรงปราบปรามโจรผู้ร้ายที่ปล้นสะดม
28.
5. การส่งเสริมการค้ากับต่างประเทศ
มีการส่งเรือสำเภาไปค้าขายยังประเทศจีน อินเดียและประเทศใกล้เคียง สินค้าที่ส่งออก ได้แก่ ดีบุก พริกไทย ครั่ง ไม้หอม ฯลฯ ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในสมัยนั้น การค้าขายกับต่างประเทศ
29.
หลังจากที่บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รายได้ของรัฐ ที่เก็บจากราษฎรยังคงใช้อย่างอยุธยาตอนปลายดังนี้
จกอบ หมายถึง ภาษีผ่านด่านเรียกเก็บจากผู้นำสินค้าเข้ามาขาย อากร หมายถึง ภาษีที่เก็บจากราษฎรที่ประกอบอาชีพทุกชนิดยกเว้นการค้าขาย ฤชา หมายถึง ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากราษฎรที่ใช้บริการของรัฐเช่นการออกโฉนดที่ดิน ค่าปรับผู้แพ้คดี ส่วย หมายถึง เงิน หรือ สิ่งของที่เก็บแทนการเกณฑ์แรงงานของราษฎรที่ต้องเข้าเวร การเก็บภาษีอากร
30.
ด้านสังคมและวัฒนธรรมในสมัยกรุงธนบุรี
31.
ด้านสังคม สภาพสังคม
สังคมสมัยธนบุรีคล้ายกับสังคมอยุธยา คือ การแบ่งชนชั้นทางสังคมออกเป็น กลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ได้แก่ 1. พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ 2. ขุนนางข้าราชการ กลุ่มชนชั้นที่ถูกปกครอง ได้แก่ 3. ไพร่ ( มีมากที่สุด ) 4. ทาส กลุ่มชนชั้นพิเศษ ได้แก่ นักบวช เช่น พระสงฆ์และพราหมณ์
32.
เจ้านายหมายถึงเชื้อพระวงศ์ของพระมหากษัตริย์เช่นพระโอรส พระราชธิดาหรือพระญาติอื่นๆ ยศของเจ้านาย
มี 2 ประเภท * 1. สกุลยศ เจ้าฟ้า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า ( พระบรมวงศานุวงศ์ ) * 2. อิสริยยศ เป็นยศที่เจ้านายได้รับพระราชทานจากการรับราชการช่วยเหลือพระมหากษัตริย์ในการปกครองประเทศเช่นเจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ขุน หมื่น พัน ( ขุนนางข้าราชการ ) ราชทินนามเช่น จักรี ธรรมาธิบดี โกษาธิบดี
33.
ไพร่ คือราษฎรสามัญทั่วไปทั้งชายและหญิง 1.
ไพร่หลวง คือชายฉกรรจ์ขึ้นทะเบียนสังกัดพระมหากษัตริย์รับราชการปีละ 6 เดือน . เข้าเดือนออกเดือน ยามสงคราม ต้องออกรบให้ราชสำนัก ยามบ้านเมืองสงบมาเป็นแรงงาน รับราชการตั้งแต่อายุ 18 ปี ผู้หญิงก็ต้องขึ้นทะเบียนเป็นไพร่แต่ไม่ต้องถูกเกณฑ์แรงงาน 2. ไพร่สม คือชายฉกรรจ์ที่สังกัดมูลนาย รับใช้มูลนาย ยามสงครามต้องเป็น ทหาร ทำงานให้ราชสำนักปีละ 1 เดือน 3. ไพร่ส่วย คือไพร่หลวงส่วยที่ส่งเงินหรือสิ่งของแทนการรับราชการ
34.
การควบคุมคนในสมัยธนบุรีใช้ระบบศักดินาสวามิภักดิ์คล้ายกับในสมัยอยุธยาตอนปลาย คือ คนในสังคมตั้งแต่
พระมหาอุปราชลงมาจนถึงไพร่และทาส ต่างมีศักดินาลดหลั่นตามลำดับขั้น พระมหาอุปราช มีศักดินา 100 , 000 ไร่ เจ้าพระยา มีศักดินา 10 , 000 ไร่ ไพร่ มีศักดินา 25 ไร่ ทาส มีศักดินา 5 ไร่
35.
ทาส มีอยู่
7 ประเภทดังนี้ 1 ทาสสินไถ่ คือ ทาสที่ขายตัวเองหรือถูกผู้อื่นขายให้แก่นายเงินต้องทำงานจนกว่าจะหาเงินมาไถ่ค่าตัวได้ จึงจะหลุดพ้นเป็นไท 2 ทาสในเรือนเบี้ย คือ ลูกของทาสที่เกิดมาในเวลาที่พ่อ แม่กำลังเป็นทาสอยู่ 3 ทาสได้มาแต่บิดามารดา คือ ลูกทาสที่ได้จากพ่อหรือแม่ของเด็กที่เป็นทาส 4 ทาสท่านให้ คือ ทาสที่เดิมเป็นของผู้หนึ่งแล้วถูกยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอีกผู้หนึ่ง 5 ทาสที่ช่วยมาจากทัณฑ์โทษ คือ ผู้ที่ถูกต้องโทษต้องเสียค่าปรับแต่ไม่มีเงินให้ แล้วมีนายเงินเอาเงิน มาใช้แทนให้ ผู้ต้องโทษก็ต้องเป็นทาสของนายเงิน 6 ทาสที่เลี้ยงไว้เมื่อเกิดทุพภิกขภัย คือ ในเวลามีภัยธรรมชาติทำให้ข้าวยากหมากแพง ไพร่บางคน อดอยากไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ต้องอาศัยมูลนายกิน ในที่สุดก็ต้องยอมเป็นทาสของมูลนายนั้น 7 ทาสเชลยคือ ทาสที่ได้มาจากการรบทัพจับศึกหรือการทำสงคราม เมื่อได้ชัยชนะจะต้อน ผู้แพ้สงครามมาเป็นทาส
36.
สำหรับกลุ่มชนชั้นพิเศษ ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนประชาชนทั่วไป
พราหมณ์ทำหน้าที่ ด้านพิธีกรรมและกฎหมาย เป็นต้น ในสมัยธนบุรี การควบคุมกำลังคนไปอย่างเข้มงวด เนื่องจากบ้านเมืองต้องทำสงครามมาโดยตลอด ทั้งนี้จะเห็นได้จาก การสักเลก เพื่อขึ้นบัญชีไพร่พลใน พ . ศ . 2316 และ กฎมายที่มีบทลงโทษรุนแรงสำหรับผู้หลบเลี่ยงการทหาร
37.
ด้านวัฒนธรรมสมัยกรุงธนบุรี ด้านศาสนา
ด้านศิลปะและวรรณกรรม ด้านนาฏศิลป์ ด้านการศึกษา การฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม
38.
ด้านศาสนา
1 โปรดเกล้าฯแต่งตั้งพระสังฆราชและพระราชาคณะขึ้นเพื่อดูแลพระสงฆ์ 2 โปรดให้มีการชำระความบริสุทธิ์ของพระสงฆ์ทั้งหมด 3 ทรงบริจาคพระราชทรัพย์สร้างพระอุโบสถ วิหาร วัดวาอารามต่างๆ 4 โปรดให้มีการคัดลอกพระไตรปิฎก จากวัดมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นฉบับหลวงไว้ที่กรุงธนบุรี 5 อันเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่ วัดอรุณราชวราราม ( วัดแจ้ง )
39.
วัดบางหว้าใหญ่ (
วัดระฆังโฆสิตาราม ) วัดระฆังโฆสิตาราม หรือ วัดบางว้าใหญ่ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้อาราธนาพระอาจารย์ศรีขึ้นมาจากนครศรีธรรมราช ทรงสถาปนาให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช และประจำที่วัดนี้
40.
วัดอรุณราชวราราม ( วัดแจ้ง
) วัดอรุณราชวรารามหรือวัดแจ้ง เดิมชื่อวัดมะกอก เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา " วัดแจ้ง " มีความหมายถึงการที่เสด็จถึงวัดนี้ในตอนรุ่งอรุณตอนพระเจ้าตากสินเสด็จมาเพื่อหาที่ตั้งพระนคร
41.
วัดโมลีโลกยาราม (
วัดท้ายตลาด ) วัดโมลีโลกยารามเป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้างในสมัยนั้นเรียกว่า วัดท้ายตลาด เพราะอยู่ต่อจากตลาดเมืองธนบุรี แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ได้ทรงรวม อุปจาร วัดแจ้ง ( วัดอรุณราชวราราม ) และวัดท้ายตลาดเข้าไปในพระราชวัง ซึ่งเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์มาจำพรรษาตลอดรัชกาล
42.
วัดอินทารามวรวิหาร เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านเรียกว่า
" วัดบางยี่เรือนอก " หรือ " บางยี่เรือไทย " หรือ " วัดสวนพลู " ( ที่เรียกว่าวัดสวนพลู เนื่องจากแต่เดิม ที่ดินใกล้เคียงกับวัดเป็นสวนปลูกพลู ) เพราะหากล่องเรือมาจากอยุธยา จะถึงวัดอินทารามหลังสุดในบรรดาวัดที่ตั้งเรียงกันอยู่ 3 วัด ขณะที่จะเรียกวัดราชคฤห์ว่า " บางยี่เรือใน " และ วัดจันทารามว่า " บางยี่เรือกลาง " วัดอินทรารามวรวิหาร ( วัดบางยี่เรือนอก )
43.
วัดอินทารามเป็นวัดหลวงสำคัญอันดับหนึ่ง ในแผ่นดินกรุงธนบุรี จัดว่าเป็นวัดประจำรัชกาล
ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งได้ทรงบูรณะเป็นพระอารามหลวงชั้นหนึ่ง มีพระเจดีย์กู้ชาติคู่หนึ่ง ตั้งอยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า ภายในเชื่อกันว่าบรรจุพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระอัครมเหสี ส่วนพระอุโบสถหลังเก่า มีพระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นพระประธานของพระอุโบสถ บรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของพระองค์
44.
วัดราชคฤห์วรวิหาร ฝ่ายมหานิกาย เป็นวัดที่สร้างโดยนายกองมอญในสมัยอยุธยาตอนปลาย
ดังนั้นบางคราวจึงเรียก " วัดบางยี่เรือมอญ " หรือ " วัดมอญ " นอกเหนือไปจากชื่อ " บางยี่เรือใน " หรือ " บางยี่เรือเหนือ " วัดราชคฤห์ ( วัดบางยี่เรือใน )
45.
วัดอมรินทรารามราชวรวิหาร หรือ
วัดบางหว้าน้อย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดราชวรวิหารในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดฯให้บูรณะปฏิสังขรณ์ แล้วสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง ต่อมากรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ( วังหลัง ) หรือพระยาสุริยอภัยในช่วงกรุงธนบุรีได้เป็นผู้สถาปนาขึ้นใหม่หมด ทั้งพระอาราม และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้พระราชทานนามว่า " วัดอมรินทราราม " คู่กับวัดบางว้าใหญ่ ที่เปลี่ยนชื่อเป็นวัดระฆังโฆสิตาราม วัดอมรินทรารามราชวรวิหาร หรือ วัดบางหว้าน้อย
46.
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต
พระแก้วมรกตกลับคืนสู่แผ่นดินไทย ครั้งแรกเมื่ออัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมายังประเทศไทยในสมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ที่วิหารน้อยวัดอรุณราชวราราม ประดิษฐานอยู่ที่วัดอรุณฯ เป็นเวลา 5 ปี
47.
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเมื่อชนะศึกเมืองเวียงจันทน์และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมาก็เกิดความยินดี ดั่งว่าพระแก้วมรกตเป็นพระคู่บารมีคู่บ้านคู่เมือง ครั้นเมื่อสิ้นกรุงธนบุรีเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็นมหากษัตริย์ได้สำเร็จ และได้ตั้งเมืองขึ้นใหม่มีชื่อว่า กรุงรัตนโกสินทร์ นัยว่าเป็นชื่อที่มีที่มาจากพระแก้วมรกต กรุง แปลว่า เมือง รัตน แปลว่าแก้ว โกสินทร์ แปลว่าพระอินทร์ ซึ่งพระอินทร์จะมีองค์สีเขียว รวมระยะเวลาที่องค์พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ พ . ศ . 2321 จนถึงปัจจุบันนี้เป็นเวลา 227 ปี
48.
ด้านศิลปะและวรรณกรรม *
จิตรกรรม ที่จัดว่างดงามก็มี สมุดภาพไตรภูมิพระร่วง จุดมุ่งหมาย สอนเรื่องบุญ - บาป * วรรณกรรม มีผลงานสำคัญ คือ รามเกียรติ์ บางตอนเป็นพระราช นิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลิลิตเพชรมงกุฎ โดย หลวงสรวิชิต ( หน ) นิราศเมืองกวางตุ้ง โดย พระยามหานุภาพ กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ โดยพระภิกษุอินทร์ชาวเมือง - นครศรีธรรมราช และ โคลงยอพระเกียรติสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยนายสวนมหาดเล็ก
49.
ด้านนาฏศิลป์
* มีการฟื้นฟูการเล่นฉลองในพิธีสำคัญตามแบบประเพณี สมัยอยุธยา * สมโภชพระแก้วมรกตและพระบาง ซึ่งสมเด็จเจ้าพระยา มหากษัตริย์ศึกได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์เพื่อประดิษฐาน ที่กรุงธนบุรี ในครั้งนั้นมีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ใช้เวลา 7 วันมีการประชันแสดงละคร การแสดงโขน การเล่นมโหรี พิณพาทย์ การเล่นบทดอกสร้อยสักวา ฯลฯ
50.
ด้านการศึกษา
เด็กชาย อยู่ที่วัดเหมือนสมัยอยุธยา และเด็กที่จะมีโอกาสเล่าเรียนได้ จะเป็นผู้ชาย เพราะต้องไปอยู่กับพระที่วัดพระท่านจะสอนหนังสือและ อบรมความประพฤติให้ หนังสือแบบเรียนก็ยังคงใช้ แบบเรียนจินดามณี สำหรับวิชาชีพพ่อแม่มีอาชีพอะไรก็ถ่ายทอดอาชีพนั้นให้แก ลูกหลานสืบทอดกันในตระกูล เช่นวิชาแพทย์แผนโบราณวิชา ช่างปั้น ช่างถม ช่างแกะสลัก ช่างปั้นปูน ช่างเหล็ก ช่างเงิน ช่างทอง
51.
ด้านการศึกษา เด็กหญิง
ถือตามประเพณีโบราณ คือการเรียน เย็บปักถักร้อย ทำกับข้าว การจัดบ้านเรือนและ การฝึกอบรมมารยาทของ กุลสตรี สมัยนั้น ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ จึงมีน้อยคนนัก ที่อ่านออกเขียนได้
52.
อารยธรรมตะวันออกและตะวันตกในสมัยธนบุรี
อารยธรรมตะวันออก อารยธรรมตะวันตก
53.
ศาลเจ้าเกียงอันเกง ธนบุรี
54.
ที่ประทับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
55.
มัสยิดต้นสน
56.
โบสถ์ซางตาครู้ส โปรตุเกส
57.
ขนมฝรั่งกุฎีจีน โปรตุเกส
58.
กุฎีฝรั่ง
59.
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยธนบุรี ความสัมพันธ์กับพม่า
เป็นการป้องกันเอกราชจากการโจมตีของพม่า หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา มีการทำสงครามกับพม่า 10 ครั้ง ที่สำคัญ ได้แก่ 1. ศึกค่ายโพธิ์สามต้น พ . ศ .2310 เป็นสงครามกอบกู้เอกราช 2. ศึกบางกุ้ง พ . ศ .2311 สมุทรสงคราม ไทยขับพม่าออกไปได้ 3. ศึกเชียงใหม่ พ . ศ .2313, พ . ศ .2316-17( เกิดวีกรรมพระยาพิชัยดาบหัก ) ต่อมา พ . ศ .2319 ตีเชียงใหม่คืนจากพม่าทิ้งเป็นเมืองร้าง จนถึง รัชกาลที่ 1
60.
4. ศึกบางแก้ว
พ . ศ .2317 ราชบุรี ทรงใช้ยุทธวิธีปิดล้อมข้าศึกให้ อดอาหารจนยอมแพ้ สร้างขวัญกำลังใจให้คนไทยอย่างมาก 5. ศึกอะแซหวุ่นกี้ พ . ศ .2318 - 2319 เป็นสงครามครั้งใหญ่และสำคัญที่สุด ข้าศึกมีกำลังพลมากที่สุดประมาณ 35,000 คนมีแม่ทัพที่มีความสามารถมากเคยรบชนะจีนมาแล้ว เจ้าพระยาสุรสีห์ เป็นผู้รักษาเมืองพิษณุโลก เจ้าพระยาจักรี เป็นแม่ทัพ อะแซหวุ่นกี้ไม่อาจโจมตีให้ได้ชัยชนะจนขอดูตัวแม่ทัพไทยเพื่อ ขอเจรจาหยุดรบ เป็นชัยชนะที่สำคัญของไทย ( พระเจ้ามังระสวรรคต กษัตริย์องค์ต่อมาคือ พระเจ้าจิงกูจา )
61.
ความสัมพันธ์กับเขมรในสมัยธนบุรีเป็นการขยายอำนาจ เขมรซึ่งเป็นเมืองประเทศราชของไทยไม่ยอมรับพระราชอำนาจของพระเจ้าตากสิน โดยไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาการ
พระเจ้าตากสินจึงทรงยกทัพไปปราบ รวม 3 ครั้ง ในการยกทัพไปปราบเขมรครั้งที่ 3 เพราะเกิดกบฏในเขมร พระเจ้าตากสินจึงให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไป แต่ เกิดจลาจลในเมืองหลวงก่อน จึง ยกทัพกลับมาแก้ปัญหาในเมืองหลวง ความสัมพันธ์กับเขมร
62.
ความสัมพันธ์กับลาว 1.
การตีจำปาศักดิ์ ในปี พ . ศ . 2319 สมเด็จพระเจ้าตากสินได้โปรดให้เจ้าพระยาจักรี ยกทัพไปตีลาว ทำให้เมืองจำปาศักดิ์ เมืองอัตตะปือ และดินแดนลาวตอนล่างตกอยู่ในอำนาจของไทย เมื่อเสร็จศึกครั้งนี้ได้แต่งตั้งให้ เจ้าพระยาจักรี เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก 2. การตีเวียงจันทน์ ในปี พ . ศ . 2321 สมเด็จพระเจ้าตากสินได้โปรดให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ ยกทัพไปตีเวียงจันทน์ เมื่อเสร็จศึกจึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาไว้ที่เมืองไทยด้วย
63.
ความสัมพันธ์กับล้านนา ไทยพยายามขับไล่พม่าออกไปจาก ล้านนา
สำเร็จ แต่ไม่สามารถรักษาล้านนาไว้ได้ เพราะเมื่อทัพกรุงธนบุรีออกจากล้านนา ทัพพม่าก็เข้ามาคุกคามล้านนาอีก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คงทรงพิจารณาเห็นว่าล้านนาเป็นเมืองซึ่ง พม่า ใช้เป็นฐานทัพเสมอ ทุกครั้งที่พม่ายกทัพมาตีเมืองไทย ทุกครั้งที่พม่ามารบไทย ก็ใช้ ล้านนา เป็นคลังเสบียงอาหาร จึงต้องทรงยกทัพไปตี เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2317 หลังจากนั้นล้านนาก็เป็นอิสระ โดยมีกรุงธนบุรีคุ้มกันอยู่
64.
ความสัมพันธ์กับจีน ไทยหวังพึ่งจีนทางเศรษฐกิจและความมั่นคง จีนยอมรับฐานะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในปีพ
. ศ .2324 ตรงกับจักรพรรดิเฉียนหลง ราชวงศ์ชิง ( แมนจู ) มีการติดต่อค้าขายกัน ชาวไทยจึงชอบทำการค้ากับจีนและแขกมากกว่าชาวยุโรป ดังจะเห็นได้จาก กรมท่า มีตำแหน่งขุนนางจีน ที่ทำหน้าที่ ติดต่อการค้ากับชาวจีนประจำกรมท่าซ้าย ชื่อ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี และมีขุนนางแขก ชื่อ พระยาจุฬาราชมนตรี ประจำกรมท่าขวา เพื่อทำหน้าที่ติดต่อการค้ากับชาวแขก มลายู ชวาและอินเดีย
65.
๐ ความสัมพันธ์กับหัวเมืองมลายู
หัวเมืองมลายู ได้แก่ ปัตตานี ไทรบุรี กลันตัน และตรังกานู เคยเป็นเมืองขึ้นของไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่มาแยกตัวเป็นอิสระเมื่อหลังกรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่าครั้งที่ 2 สมเด็จพระเจ้าตากสินเห็นว่าเกินกำลังที่จะยกไปปราบ จึงปล่อยให้หัวเมืองมลายูเป็นอิสระ
66.
พ . ศ
.2313 มีชาวฮอลันดาจากปัตตาเวีย ( จาการ์ตา ) ถวายปืน คาบศิลาจำนวน 2,200 กระบอก และต้นไม้เงินต้นไม้ทอง พ . ศ .2319 ชาวอังกฤษ ร้อยเอกฟรานซิสไลท์ ( กปิตันเหล็ก ) ขายปืน 1,400 กระบอก ได้รับพระราชทานยศเป็น พระยาราชกัปิตัน พ . ศ .2322 โปรตุเกส แขกมัวร์จากเมืองสุราต ในประเทศอินเดียนำสินค้ามาขายในกรุงธนบุรีไทยส่งสำเภาไปขายที่อินเดีย ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก
67.
ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก
ปืนนกสับ ปืนคาบศิลา กปิตันเหล็ก แขกมัวร์
68.
วิกฤติการณ์ในตอนปลายสมัยธนบุรี
ใน พ . ศ . ๒๓๒๔ เกิดเหตุการณ์สำคัญคือ นายบุญนาก บ้านแม่ลาแขวงกรุงเก่ากับขุนสระได้พาสมัครพรรคพวกเข้าปล้นจวนและจับผู้รักษาอยุธยา และกรมการเมืองบางคนฆ่าเสีย เหตุการณ์นี้ได้ลุกลามกลายเป็นวิกฤติการณ์ในตอนปลายสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทั้งนี้เพราะพระองค์โปรดเกล้าฯให้พระยาสรรค์บุรีขึ้นไปปราบกบฏ แต่ พระยาสรรค์บุรี กลับเข้ากับฝ่ายกบฏเป็นแม่ทัพยกลงมาโจมตีธนบุรี บังคับให้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงผนวช ทำให้อำนาจตกอยู่กับพระยาสรรค์บุรีผู้ซึ่งอ้างว่าจะรักษาบ้านเมืองไว้ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
69.
เหตุการณ์สำคัญภายหลังจากที่พระยาสรรค์บุรียึดธนบุรีได้แล้ว คือ เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายพระยาสรรค์บุรีกับฝ่ายพระยาสุริยอภัย
ซึ่งสู้รบกันอย่างรุนแรง โดยพระยาสุริยอภัยสามารถล้อมฝ่ายพระยาสรรค์บุรีไว้ได้ สถานการณ์เกิดขึ้นก่อนที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจะยกทัพกลับจากกัมพูชา
70.
เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพกลับมาถึงธนบุรีจึงได้มีการไต่สวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ข้าราชการทั้งปวงปรึกษาโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เห็นควรให้สำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในวันที่
7 เมษายน พ . ศ .2325 สวรรคตในวันที่ 10 เมษายน พ . ศ .2310 กรุงธนบุรีจึงสิ้นสมัยลงเมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ขึ้นครองราชย์และทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี แห่งใหม่แทนกรุงธนบุรี
71.
ขอให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จงสนุกกับการเรียน จงพากเพียรในการอ่าน
อย่าเกียจคร้านทำการบ้าน และส่งงานครูให้ทันนะจ๊ะ ( ประพันธ์โดยครูสังคม )
Download