11. Server ทำหน้ำที่อะไร
Server ทาหน้าที่เป็นเหมือนผู้ให้บริการต่าง ๆ ในโครงข่ายอินเตอร์เน็ต
หรือโครงข่ายที่มีลูกข่าย เมื่อมีผู้ใช้งานมาขอใช้บริการ Server เครื่อง
Server จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ในเครื่องเพื่อให้บริการในทันที
ซึ่งบริการของ Server นั้นมีหลากหลายอย่างด้วยกัน
12. โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 หน้าที่หลักๆ ดังต่อไปนี้
1. Web server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านการจัดการ
เว็บไซต์ โดยส่วนมากโปรแกรมที่นิยมใช้เป็น Web server จะเป็น
Apache web server
2. Mail server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้าน E-mail
โปรแกรมที่ใช้ในด้าน Mail server มีอยู่หลายโปรแกรมด้วยกันแต่ที่
นิยมกันจะมีอยู่ 3 โปรแกรมคือPostfix, qmail, courier
3. DNS server คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ให้บริการด้านโดเมนเนมที่จะ
ค่อยเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการให้เป็น IP Address โปรแกรมที่
นิยมใช้คือ bind9
13. 4. Database server คือโปรแกรมที่ทาหน้าที่
ให้บริการด้านการจัดการดูแลข้อมูลต่างๆภายในเว็บไซต์
โปรแกรมที่มีการใช้งานส่วนใหญ่จะเป็น mysql,
postgresql, DB2
โดยการทางานของ Server จะทางานพร้อมกันหลาย ๆ
อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากความสามารถของเครื่อง
Server ส่วนใหญ่จะมีความสามารถที่สูง โดยการทางาน
แต่ละอย่างของ Server จะทางานใน Port ที่ต่างกันไป
14. Server มีประโยชน์อย่ำงไร
Server เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการให้บริการ
ที่สูงมาก โดยประโยชน์หลัก ๆของ Server นั้นเป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการกับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เข้ามาขอใช้บริการ
นอกจากที่เครื่อง Server ยังสามารถนามาใช้ในสานักงานได้อีกด้วย
โดยประโยชน์ในการใช้เครื่อง Server ในสานักงาน คือ ช่วยให้
ประหยัดทรัพยากรต่าง ๆได้ เพราะว่าคอมพิวเตอร์ทุกตัวสามารถใช้งาน
ทรัพยากรนั้น ๆ ได้เช่น เครื่องพิมพ์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
15. Server มีกี่ประเภท
Server สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน โดยแบ่งตามลักษณะการ
ทางานเป็นหลัก
1. File Server มีหน้าที่ในการจัดเก็บไฟล์เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งผู้ใช้งาน
สามารถที่จะนาไฟล์มาฝากไว้ใน File Server ได้
2. Print Server มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อเครื่องปริ้นท์ให้สามารถใช้งานกับ
คอมพิวเตอร์ลูกข่าย เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรนั่นเอง ซึ่งส่วนมากจะมีใช้ใน
องค์กรขนาดใหญ่
3. Database Server มีหน้าที่ในการรันระบบที่เป็นฐานข้อมูล
DBMS (Database Management System ) ซึ่งเป็น
โปรแกรมฐานข้อมูลและตัวจัดการฐานข้อมูล เช่น SQL , Informix
16. 4. Application Server มีหน้าที่ในการรันโปรแกรม
ประยุกต์ โดยมีการทางานที่สอดคล้องกับผู้ใช้งาน
Server เป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสาคัญมากในระบบอินเตอร์เน็ตและ
ในระบบเครือข่าย ซึ่งความสามารถของ Server นั้นเราสามารถ
ประยุกต์ใช้ได้ตามหน้าที่และลักษณะงานให้เข้ากับ Server
ประเภทต่าง ๆเพื่อประสิทธิภาพในการทางานที่ดีที่สุดนั่นเอง
17. สวิตซ์ (Switch)
เป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาการต่อจากฮับอีกทีหนึ่งมีความสามารถ
มากกว่า Hub โดยการทางานของสวิตซ์จะส่งข้อมูลออกไปเฉพาะพอร์ตที่
ใช้ในการติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีปลายทางเท่านั้น ไม่ส่งกระจาย
ข้อมูลไปยังทุกพอร์ตเหมือนอย่างฮับ ทาให้ในสวิตซ์ไม่มีปัญหาการชนของ
ข้อมูล สวิตซ์จะทางานอยู่ในชั้น Data Link Layer คือจะรับผิดชอบ
ในการเชื่อมโยงของข้อมูล
23. 1.Bus มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 MB/s จะเชื่อมต่อกันบน
สายสัญญาณเส้นเดียวกัน
2.Star เป็นระบบที่มีเป็นการต่อแบบรวมศูนย์
3.Ring เป็นระบบที่มีการส่งข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีเครื่อง
Server หรือ Switch ในการปล่อย Token
ข้อดี ของระบบ LAN
-เนื่องจาผู้ใช้คอมพิเตอร์ในวง LAN เดียวกันสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในวง
LAN ร่วมกันได้ ทาให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสาหรับอุปกรณ์ที่
สามารถใช้งานร่วมกันได้
ข้อเสีย ของระบบ LAN
-ถ้าสายเคเบิ้ลขาดจะไม่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้
24. ระบบเครือข่ายแบบ WAN
ระบบเครือข่ายแบบ WAN หรือระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง จะเป็น
ระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงเครือข่ายแบบท้องถิ่นตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไป
เข้าด้วยกันผ่านระยะทางที่ไกลมาก
ประเภทของเครือข่าย WAN
เครือข่าย WAN สามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ
1 . เครือข่ายส่วนตัว (private network)
2. เครือข่ายสาธารณะ (PDN: public data network) /เครือข่าย
มูลค่าเพิ่ม (VAN: Value Added Network)
26. Metropolitan Area Network(MAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์
มักจะขยายวิทยาเขตหรือเมืองซึ่งโดยปกติจะเชื่อมต่อไม่กี่ระบบ
เครือข่ายท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีหลักความเร็วสูงAMAN often
provides efficientconnections to a wide area network
(WAN). MAN มักจะให้การเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่
กว้าง (WAN) มีสามคุณสมบัติที่สาคัญซึ่งเห็นความแตกต่าง
จาก Mans LANs หรือ WANs