1. แนวข้อสอบ พระราชกำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำานาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
1. พระราชบัญญัติกำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำานาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 18 พฤษภาคม 2542
ข. 28 พฤษภาคม 2542
ค. 18 พฤศจิกายน 2542
ง. 28 พฤศจิกายน 2542
มาตรา พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัเจากวัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17
พฤศจิกายน 2542 จึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.
2542
2. ใครเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระ
จายอำานาจฯ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
3. “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่าอย่างไร
ก. องค์การบริหารส่วนจังหวัด ข. องค์กรบริหารส่วนตำาบล
ค. เมืองพัทยา ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 4 “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การ
บริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำาบล
กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี
กฎหมายจัดตั้ง
4. บุคคลใดเป็นประธาน “คณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. อธิบดีกรมการปกครอง
ค. นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
เป็นประธาน
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบ
หมายเป็นประธาน
มาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกรรมการ
การกระจายอำานาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย

2. 1) นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบ
หมายเป็นประธาน
5. คณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้อง
ถิ่น ที่มาจากผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเลือกกันเองมี
จำานวนกี่คน
ก. 6 คน ข. 9 คน
ค. 12 คน ง. 14 คน
ตอบ ค. 12 คน
มาตรา 6 (3) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำานวน 12
คน
6. ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น มีกี่คน
ก. 6 คน ข. 9 คน
ค. 10 คน ง. 12 คน
ตอบ ง. 12 คน
มาตรา 6 (4) ผู้ทรงคุณวุฒิจำานวน 12 คน ประกอบด้วยบุคคลซึ่ง
มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารแผ่นดิน ด้านการพัฒนาท้อง
ถิ่น ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น ในสาขา
รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์และด้านกฎหมาย
7. บุคคลใดสามารถเป็นเลขานุการคณะกรรมการการกระจายอำานาจ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
ก. หัวหน้าสำานักงานคณะกรรมการ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. หัวหน้าสำานักงานคณะกรรมการ
มาตรา 6 ให้หัวหน้าสำานักงานคณะกรรมการการกระจายอำา
นาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเลขานุการคณะกรรมการ
8. ข้อใดไม่ได้เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรง
คุณวุฒิใน พ.ร.บ. นี้
ก. มีสัญชาติไทย
ข. เป็นข้าราชการซึ่งมีตำาแหน่งหรือเงินเดือนประจำา
ค. เป็นผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง
ง. เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
ตอบ ก. มีสัญชาติไทย
มาตรา 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้าม ดังนี้
1) สัญชาติไทย

3. 2) มีอายุไม่ตำ่ากว่า 35 ปีบริบูรณ์
3) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำาแหน่งหรือเงินประจำา
4) ไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
5) ไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
6) ไม่เป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้มีตำาแหน่งใดๆ ในพรรคการเมือง
9. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีอายุไม่ตำ่ากว่ากี่ปี
ก. 25 ปี ข. 30 ปี
ค. 35 ปี ง. 45 ปี
ตอบ ค. 35 ปี
มาตรา 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ (2) มีอายุไม่ตำ่ากว่า 35 ปีบริบูรณ์
10. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้
แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีวาระอยู่ในตำาแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ข. 4 ปี
ค. 6 ปี ง´ 8 ปี
ตอบ ข. 4 ปี
มาตรา 9 กรรมการตามมาตรา 6 (4) มีวาระอยู่ในตำาแหน่ง
คราวละสี่ปีและอาจได้รับการสรรหาเป็นกรรมการอีกได้ไม่เกินสองวาระ
ติดต่อกัน
11. การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการเท่าใดมาประชุมจึง
เป็นองค์ประชุม
ก. ไม่น้อยกว่า หนึ่งในสามของกรรมการทั้งหมด
ข. ไม่น้อยกว่าสองในสามของกรรมการทั้งหมด
ค. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
มาตรา 11 การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมมาประชุม
ไม่น้อย กว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนกรรมการทั้งหมดจึงจะองค์ประชุม
12. ข้อใดเป็นอำานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
ก. จัดทำาแผนการกระจายอำานาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. ปรับปรุงสัดส่วนภาษีและอากร
ค. เร่งรัดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกา
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 12
13. สำานักคณะกรรมการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น มีที่ตั้งสำานักงานอยู่ที่ใด
ก. สำานักงานปลัดสำานักนายกรัฐมนตรี

4. ข. สำานักงานนายกรัฐมนตรี
ค. สำานักงานกรรมการปกครอง
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ก. สำานักงานปลัดสำานักนายกรัฐมนตรี
ข้อสอบ พรบ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำานาจ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2542
1. พรบ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น 2542 บังคบใช้วันที่
ก. 16 พฤศจิกายน 2542 ข. 17 พฤษภาคม 2542
ค. 18 พฤศจิกายน 2542 ง. 19 พฤษภาคม 2542
2. พรบ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำานาจฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2549 บังคบใช้วันที่
ก. 9 มกราคม 2549 ข. 9 มกราคม 2550
ค. 19 มกราคม 2550 ง. 18 พฤษภาคม 2542
3. .คณะกรรมการ. ตาม พรบ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำา
นาจฯ 2542 หมายความว่า
ก. คณะกรรมการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. คณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ค. กรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. กรรมการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4. ใครไม่ได้เป็นผู้รักษาการตาม พรบ. กำาหนดแผนและขั้นตอนการกระ
จายอำานาจฯ 2542
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย
5. คณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี
ทั้งหมดกี่คน
ก. 24 คน ข. 30 คน
ค. 36 คน ข. 42 คน
6. ใครเป็นประธานคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น

5. ก. นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกที่ได้รับมอบหมาย ข. รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. รัฐมนตรีประจำาสำานักนายก
รัฐมนตรี
7. ผู้ใดไม่ได้เป็นคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น
ก. ปลัดการทรวงพาณิชย์ ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
8. ผู้แทนคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นมาจาก ผู้บริหารองค์การบริหารส่วน
ตำาบลจำานวนกี่คน
ก. 2 คน ข. 3 คน
ค. 5 คน ง. ขึ้นอยู่กับจำานวน อบต. ทั่วประเทศ
9. ผู้แทนคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นมาจาก ผู้บริหารองค์การบริหารส่วน
จังหวัดจำานวนกี่คน
ก. 2 คน ข. 3 คน
ค. 5 คน ง. ขึ้นอยู่กับจำานวน อบต. ทั่วประเทศ
10. ใครเป็นผู้กำาหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้แทนองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น
ก. นายกรัฐมนตรี ข. คณะกรรมการ ก.พ.
ค.ปลัดการทรวงมหาดไทย ง. ก.พ.ร.
11. ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำานวนกี่คน
ก. 8 คน ข. 10 คน
ค. 12 คน ง. 14 คน
12. ใครเป็นเลขานุการคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น
ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. หัวหน้า สกถ. ง. บุคคลซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
แต่งตั้ง

6. 13. ใครเป็นประธานคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นคนปัจจุบัน (2551)
ก. นายสมัคร สุนทรเวช ข. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ค. นายศิวะ แสงมณี ค. รองศาสตราจารย์ นรนิติ เศรษฐบุตร
14. บุคคลใดสามารถเป็นผู้ทรงคณะวุฒิในคณะกรรมการการกระจา
ยอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
ก. อาจารย์ผู้สอนในสภาบันอุดมศึกษาของรัฐ ข. ผู้ที่มีตำาแหน่งทางการ
เมือง
ข. ผู้ที่เป็นข้าราชการ ง. บุคคลที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
15. ผู้ทรงคณะวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีอายุไม่ตำากว่ากี่ปี
ก. 30 ปี ข. 35 ปี
ค. 40 ปี ง. 45 ปี
16. ผู้ทรงคณะวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีวาระในการดำารง
ตำาแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 4 ปี วาระเดียว ข. 4 ปีแต่ไม่เกิน 2 วาระ
ค. 6 ปี วาระเดียว ง. 3 ปี วาระเดียว
17. ผู้ทรงคณะวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมาจาก
ก. การเลือกตั้ง ข. การแต่งตั้ง
ค. การสรรหา ง. การคัดเลือก
18. ข้อใดไม่ใช่อำานาจหน้าที่ของคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้
แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ก. จัดทำาแผนการกระจายอำานาจให้แก่ อปท. ข. ปรับปรุงสัดส่วนภาษี
อากรและรายได้
ข. กำาหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจ ง. กำาหนด
คุณสมบัติในการแต่งตั้งข้าราชการ
20. สำานักงานคณะกรรมการการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นสังกัดหน่วยงานใด

7. ก. สำานักนายกรัฐมนตรี ข. สำานักงานปลัดสำานักนายกรัฐมนตรี
ค. สำานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ค. สำานักงานปลัดกระทรวงการ
คลัง
21.ข้อใดเป็นอำานาจหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะ ของเทศบาล
พัทยา และ อบต
ก. จัดให้มีระบบรักษาความปลอดภัยใจจังหวัด ข. ปรับปรุงชุมชนแออัด
และที่อยู่อาศัย
ค. ประสานความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของ อปท. อื่น ง. แบ่งสรร
เงินให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
22.ข้อใดเป็นอำานาจหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะ ขององค์การ
บริหารส่วนจังหวัด
ก. การจัดตั้งแลดูแลตลาดกลาง ข. การส่งเสริม การฝึก และการ
ประกอบอาชีพ
ค. การสาธารณูปโภค ง. การควบคุมอาคาร
23. เทศบาล พัทยา และ อบต. อาจมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อได้รับ
จัดสรรแล้วร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 40 ง. ร้อยละ 50
24. เทศบาล พัทยา และ อบต. อาจมีรายได้ออกข้อบัญญัติจัดเก็บภาษี
ธุรกิจเฉพาะ ไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 40 ง. ร้อยละ 50
25. เทศบาล พัทยา และ อบต. อาจมีรายได้จากค่าภาคหลวงแร่ เมื่อหัก
ส่งแล้วได้รับไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 40 ง. ร้อยละ 50
26. เทศบาล พัทยา และ อบต. อาจมีรายได้จากค่าภาคหลวงปิโตรเลียม
อบต. หรือ เทศบาล ที่อยู่ในพื้นที่ครอบ
คลุมตามประธานบัตร จะได้รับจัดสรรแล้วไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 15
ค. ร้อยละ 20 ง. ร้อยละ 30

8. 27. องค์การบริหารส่วนจังหวัด อาจมีรายได้ออกข้อบัญญัติจัดเก็บภาษี
ธุรกิจเฉพาะ ไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 35 ง. ร้อยละ 40
28. องค์การบริหารส่วนจังหวัด อาจมีรายได้จากค่าภาคหลวง
ปิโตรเลียม โดยได้รับจัดสรรแล้วไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 15
ค. ร้อยละ 20 ง. ร้อยละ 30
29. กรุงเทพมหานคร อาจออกข้อบัญญัติจัดเก็บภาษีบำารุง
กรุงเทพมหานครจากนำ้ามันไม่เกินเท่าใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ลิตรละ 10 สตางค์
ค. กิโลกรัมละ 10 สตางค์ ง. 10 บาท
30. กรุงเทพมหานคร อาจออกข้อบัญญัติจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบ
อนุญาตขายสุราไม่เกินร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 30 ง. ร้อยละ 40
31. รายรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้อใดต้องได้รับความเห็น
ชอบจากคณะรัฐมนตรี
ก. รายได้จากการจำาหน่ายพันธบัตร ข. เงินช่วยเหลือหรือเงินค่า
ตอบแทน
ค. รายได้จากสาธารณูปโภค ง. ค่าบริการ
32. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำาเนินถ่ายโอนภารกิจที่เป็นการซำ้า
ซ้อนภายในกี่ปี
ก. ภายใน 4 ปี ข. ภายใน 5 ปี
ค. ภายใน 6 ปี ง. ภายใน 10 ปี
32. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำาเนินถ่ายโอนภารกิจที่รัฐจัดให้
บริหารในเขต อปท. ภายในกี่ปี
ก. ภายใน 4 ปี ข. ภายใน 6 ปี
ค. ภายใน 8 ปี ง. ภายใน 1 ปี นับแต่ที่ พรบ. บังคับ

9. 33. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำำเนินถ่ำยโอนภำรกิจที่ดำำเนินงำน
ตำมนโยบำยรัฐบำล ภำยในกี่ปี
ก. ภำยใน 4 ปี ข. ภำยใน 5 ปี
ค. ภำยใน 6 ปี ง. ภำยหลังที่ได้มีกำรจัดตัง สกถ.
34. กำรกำำหนดขอบเขตควำมรับผิดชอบในกำรให้บริหำรสำธำรณะ
ต้องดำำเนินกำรให้แล้วเสร็จภำยในกี่ปี
ก. ภำยใน 4 ปี ข. ภำยใน 5 ปี
ค. ภำยใน 6 ปี ง. ภำยใน 10 ปี
35. กำรกำำหนดขอบเขตควำมรับผิดชอบในกำรให้บริหำรสำธำรณะ
ต้องพิจำรณำจำกอะไรบ้ำง
ก. รำยได้ ข. บุคลำกร
ค. จำำนวนประชำกร ง. ถูกทุกข้อ
36. ตำม พรบ. กำำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำยอำำนำจฯ 2542 ใน
ช่วงระยะเวลำไม่เกิน พ.ศ. 2544 ให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีรำยได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่ำเท่ำใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 25 ง. ร้อยละ 35
37. ตำม พรบ. กำำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำยอำำนำจฯ 2542 ใน
ช่วงระยะเวลำไม่เกิน พ.ศ. 2549 ให้องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีรำยได้เพิ่มขึ้นต่อรำยได้ของรัฐบำลไม่น้อยกว่ำ
เท่ำใด
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 25 ง. ร้อยละ 35
38. ให้ทบทวนกำรกำำหนดอำำนำจและหน้ำที่และกำรจัดสรรรำยได้ของ
อปท. ทุกระยะเวลำกี่ปี
ก. 3 ปี ข. 1 ปี
ค. 4 ปี ง. 5 ปี
39. ตำม พรบ. กำำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำยอำำนำจฯ (ฉบับที่ 2)
2549 กำำหนดว่ำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
เป็นต้นไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรำยได้เพิ่มขึ้นต่อรำยได้สุทธิ
ของรัฐบำลไม่น้อยกว่ำเท่ำใด

10. ก. ร้อยละ 15 ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 25 ง. ร้อยละ 35
40. ตำม พรบ. กำำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำยอำำนำจฯ (ฉบับที่ 2)
2549 มีจุดมุ่งหมำยที่จะให้องค์กรปก
ครองส่วนท้องถิ่นมีรำยได้เพิ่มขึ้นต่อรำยได้สุทธิของรัฐบำลไม่น้อยกว่ำ
เท่ำใด
ก. ร้อยละ 15 ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 25 ง. ร้อยละ 35
เฉลยข้อสอบ พรบ. กำำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำยอำำนำจ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2542
1. ค. 18 พฤศจิกำยน 2542
2. ข. 9 มกรำคม 2550
3. ข. คณะกรรมกำรกำรกระจำยอำำนำจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น
4. ค. รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม
5. ค. 36 คน
6. ก. นำยกรัฐมนตรี หรือรองนำยกที่ได้รับมอบหมำย
7. ก. ปลัดกำรทรวงพำณิชย์
8. ค. 5 คน
9. ก. 2 คน
10. ก. นำยกรัฐมนตรี
11. ค. 12 คน
12. ค. หัวหน้ำ สกถ.
13. ข. นำยมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
14. ก. อำจำรย์ผู้สอนในสภำบันอุดมศึกษำของรัฐ
15. ข. 35 ปี
16. ข. 4 ปีแต่ไม่เกิน 2 วำระ
17. ค. กำรสรรหำ
18. ง. กำำหนดคุณสมบัติในกำรแต่งตั้งข้ำรำชกำร
20. ข. สำำนักงำนปลัดสำำนักนำยกรัฐมนตรี
21. ข. ปรับปรุงชุมชนแออัดและที่อยู่อำศัย
22. ก. กำรจัดตั้งแลดูแลตลำดกลำง
23. ข. ร้อยละ 30
24. ข. ร้อยละ 30

11. 25. ค. ร้อยละ 40
26. ค. ร้อยละ 20
27. ข. ร้อยละ 30
28. ค. ร้อยละ 20
29. ข. ลิตรละ 10 สตำงค์
30. ค. ร้อยละ 30
31. ก. รำยได้จำกกำรจำำหน่ำยพันธบัตร
32. ก. ภำยใน 4 ปี
32. ก. ภำยใน 4 ปี
33. ก. ภำยใน 4 ปี
34. ง. ภำยใน 10 ปี
35 ง. ถูกทุกข้อ
36. ข. ร้อยละ 20
37. ง. ร้อยละ 35
38. ค. 5 ปี
39. ค. ร้อยละ 25
40. ง. ร้อยละ 35
สรุปสำระสำำคัญของพระรำชบัญญัติกำำหนดแผนและขั้นตอน
กำรกระจำยอำำนำจไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
(เฉพำะในส่วนที่เกี่ยวกับองค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด)

1. ลักษณะโดยทั่วไป
- ผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้ได้แก่ นำยกรัฐมนตรี รัฐมนตรี
ว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง
(มำตรำ 5)
- ให้มีคณะกรรมกำรกระจำยอำำนำจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(มำตรำ 6)
- สำำนักงำนคณะกรรมกำรกระจำยอำำนำจฯ อยู่ในสำำนักนำยกรัฐมนตรี
(มำตรำ 15)
2. คณะกรรมกำรกำรกระจำยอำำนำจฯ ประกอบด้วยผู้แทน จำก 3
ฝ่ำย ที่เกี่ยวข้องฝ่ำยละ 12 คน ในลักษณะไตรภำคีตำมบทบัญญัติ
รัฐธรรมนูญ มำตรำ 84
2.1 กรรมกำรโดยตำำแหน่ง (ตัวแทนฝ่ำยรำชกำรที่เกี่ยวข้อง)
- นำยกรัฐมนตรี หรือรองนำยกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมำยเป็น
ประธำน
- รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
- รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง

12. - ปลัดกระทรวงมหำดไทย
- ปลัดกระทรวงกำรคลัง
- ปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร
- ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
- เลขำธิกำรคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- เลขำธิกำร ก.พ.
- เลขำธิกำรคณะกรรมกำรพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ
- ผู้อำำนวยกำรสำำนักงบประมำณ
- อธิบดีกรมกำรปกครอง
2.2 ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 12 คน (ต้องเป็นผู้บริหำร)
- องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด 2 คน
- เทศบำล 3 คน
- องค์กำรบริหำรส่วนตำำบล 5 คน
- กรุงเทพมหำนคร เมือง พัทยำ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูป
แบบพิเศษอื่น ๆ รวม 2 คน
2.3 ผู้ทรงคุณวุฒิ 12 คน
2.4 หัวหน้ำสำำนักงำนคณะกรรมกำรกำรกระจำยอำำนำจ เป็น
เลขำนุกำรคณะกรรมกำร
2
3. อำำนำจหน้ำที่ของคณะกรรมกำรกำรกระจำยอำำนำจฯ
- จัดทำำแผนกำรกระจำยอำำนำจเพื่อขอควำมเห็นชอบจำกคณะ
รัฐมนตรี และรำยงำนต่อสภำฯ
- กำำหนดอำำนำจหน้ำที่กำรให้บริกำรสำธำรณะระหว่ำงรัฐกับท้องถิ่น
และท้องถิ่นด้วย กันเอง
- ปรับปรุงสัดส่วนภำษีอำกรระหว่ำงรัฐกับท้องถิ่นและท้องถิ่นด้วย
กันเอง โดยคำำนึงถึงอำำนำจหน้ำที่
- กำำหนดขั้นตอนกำรถ่ำยโอนภำระกิจจำกส่วนกลำงและส่วนภูมิภำค
ไปให้ส่วนท้องถิ่น
- ประสำนกำรถ่ำยโอนข้ำรำชกำรให้สอดคล้องกับอำำนำจหน้ำที่และ
งบประมำณของ ท้องถิ่น
- เสนอแนะต่อรัฐมนตรีให้กระจำยอำำนำจกำรอนุมัติในเรื่องต่ำง ๆ ไป
ให้ท้องถิ่น
- เสนอแนะมำตรกำรด้ำนกำรเงิน กำรคลัง กำรงบประมำณของท้อง
ถิ่น
- เสนอแนะกำรออกระเบียบ กฎหมำย เพื่อให้เป็นไปตำมแผนและขั้น
ตอนกำรกระจำยอำำนำจ

13. - เร่งรัดการออกระเบียบ กฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามแผนและขั้นตอน
การกระจายอำานาจ
- เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีให้จัดสรรเงินให้แก่ท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น
- พิจารณาหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ท้องถิ่น
- จัดระบบตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประโยชน์ในท้องถิ่น
- เสนอนายกรัฐมนตรีให้สั่งการไปยังหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่ดำาเนิน
การตามแผนกระจาย-อำานาจ
- เสนอรายงานเกี่ยวกับการกระจายอำานาจต่อคณะรัฐมนตรี อย่างน้อย
ปีละ 1 ครั้ง
- ออกประกาศตามที่กำาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ (ต้องประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา)
- หน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
4. อำานาจหน้าที่อื่น ๆ ของคณะกรรมการการกระจายอำานาจ
- แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำาเนินการในเรื่องต่าง ๆ
- กำาหนดอำานาจหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นกรณีกฎหมายบัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ประเภท
ที่มีอำานาจอย่างเดียวกัน
- เรียกให้หน่วยงานของรัฐหรือบุคคลอื่นมาชี้แจงหรือให้ข้อมูล
- ประกาศกำาหนดหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข อัตราการจัดสรร
การนำาส่งเงินรายได้และได้ส่งเงินรายได้ สำาหรับองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ติดตามผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการรวมทั้งปัญหา
อุปสรรค และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกปี
3
- พิจารณาทบทวนการกำาหนดอำานาจหน้าที่และการจัดสรรรายได้
ของท้องถิ่น ภายหลังจากที่ได้ดำาเนินการตามแผนไปแล้ว ทุกระยะไม่
เกิน 5 ปี เพื่อกระจายอำานาจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้น
- คณะกรรมการการกระจายอำานาจฯ จะต้องจัดสรรสัดส่วนภาษีให้แก่
ท้องถิ่นโดยคำานึงถึงกิจภาระหน้าที่เป็นสำาคัญ
5. สำานักงานคณะกรรมการการกระจายอำานาจฯ มีอำานาจหน้าที่ ดังนี้
- งานธุรการของคณะกรรมการ
- รวบรวมข้อมูล ศึกษา วิเคราะห์เกี่ยวกับการกระจายอำานาจให้แก่
ท้องถิ่น
- ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามพระ
ราชบัญญัตินี้

14. - ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนที่คณะกรรมการฯ มอบ
หมาย
- หน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายกำาหนด หรือคณะกรรมการฯ มอบหมาย
6. อำานาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด
- จัดทำาแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
- ประสาน และให้ความร่วมมือการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นอื่น
- แบ่งสรรเงินให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่กฎหมายกำาหนด
- คุ้มครอง ดูแลป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ
- ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ
- ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี
- กำาจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล
- จัดการสถานีขนส่งทางบก ทางนำ้า
- ดูแลตลาดกลาง
- จัดให้มีโรงพยาบาลป้องกันโรคติดต่อ
- ขนส่งมวลชนและการจราจร
- รักษาความสงบเรียบร้อย
- สนับสนุนช่วยเหลือส่วนราชการหรือท้องถิ่น
- สังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
- กิจการอื่นตามประกาศของคณะกรรมการฯ
- สนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
- จัดการศึกษา
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประโยชน์
- ดูแลระบบบำาบัดนำ้าเสียรวม
- จัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษ
- บำารุงทางบกและทางนำ้าที่เชื่อมระหว่างท้องถิ่น
4
- จัดการพิพิธภัณฑ์ และหอจดหมายเหตุ
- ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- จัดทำากิจกรรมที่ท้องถิ่นต่าง ๆ ร่วมกันจัดทำา
- การให้บริการแก่เอกชน/หน่วยงานของรัฐ
- กิจการอื่นตามที่กฎหมายกำาหนด
7. รายรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่
คณะกรรมการ การกระจายอำานาจ)
- รายได้จากทรัพย์สินของท้องถิ่น
- รายได้จากการสาธารณูปโภค

15. - รายได้จากการพาณิชย์
- ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม
- ค่าบริการ
- เงินอุดหนุน
- เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
- จำาหน่ายพันธบัตร
- เงินกู้จากหน่วยงานราชการ /เอกชน
- เงินกู้จากต่างประเทศ
- เงิน / ทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
- เงินช่วยเหลือ/ ค่าตอบแทน
- รายได้จากทรัพย์สินของแผ่นดิน/ รัฐวิสาหกิจที่หากำาไรในเขตท้องถิ่น
8. องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้มีรายได้จากภาษีอากร ดังนี้
- ภาษีนำ้ามัน/ ก๊าซปิโตรเลียม
- ภาษียาสูบ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ภาษีค่าธรรมเนียมรถยนต์/ ล้อเลื่อน
- ภาษีการศึกษา
- อากรรังนกนางแอ่น
- ค่าภาคหลวงแร่
- ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม
5
- ค่าธรรมเนียมโรงแรม
- ค่าธรรมเนียม/ ใบอนุญาตในกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด
- ค่าธรรมเนียมจากการบริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
- รายได้อื่นที่กฎหมายบัญญัติ
9. แผนการกระจายอำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำาเนิน
การ ดังนี้
- ให้ถ่ายโอนภารกิจบริการสาธารณะที่รัฐดำาเนินการอยู่ภายใน
กำาหนด ดังนี้
- ภารกิจที่รัฐกับท้องถิ่นดำาเนินการซำ้าซ้อนกันภายใน 4 ปี
- ภารกิจที่รัฐให้บริการในท้องถิ่นและกระทบถึงท้องถิ่นอื่นด้วย
ภายใน 4 ปี
- ภารกิจตามนโยบายรัฐบาล ภายใน 4 ปี

16. - กำาหนดขอบเขตความรับผิดชอบ การให้บริการสาธารณะระหว่างรัฐ
กับท้องถิ่น และ
ท้องถิ่นด้วยกัน โดยให้เป็นไปตามความพร้อมของท้องถิ่นไม่เกิน 10 ปี
- กำาหนดแนวทางให้รัฐทำาหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือการดำาเนินงาน
ของท้องถิ่น
- กำาหนดการจัดสรรภาษีอากร เงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นให้แก่ท้องถิ่นให้
สอดคล้องกับอำานาหน้าที่ในสัดส่วนรายได้ระหว่างรัฐกับท้องถิ่น ดังนี้
- ภายใน ปี 2544 ท้องถิ่น 20 : รัฐ 80
- ภายใน ปี 2549 ท้องถิ่น 35 : รัฐ 65
- รัฐต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเงินอุดหนุนให้เป็นไปตามความจำาเป็น
และต้องการของท้องถิ่น
- หากมีกฎหมายบัญญัติทำาให้ท้องถิ่นไม่สามารถดำาเนินการตามอำานาจ
หน้าที่ได้ หรือบัญญัติให้มีอำานาจหน้าที่ซำ้าซ้อนกัน ให้คณะกรรมการฯ
รายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขกฎหมาย
10. บทเฉพาะกาล ในระยะเริ่มแรก
- ให้คณะกรรมการจัดทำาแผนการกระจายอำานาจและแผนปฏิบัติการ
ให้แล้วเสร็จ ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการฯ เริ่มปฏิบัติ
หน้าที่
- ให้นายกรัฐมนตรี จัดให้มีการเลือกผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่นและสรรหาผู้ทรง-คุณวุฒิให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่
18 พฤศจิกายน 2542
- นายกรัฐมนตรีอาจมีคำาสั่งให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือปฏิบัติงาน
ของคณะกรรมการฯ ได้
