กลองสะบัดชัย
- 2. กลองสะบัดชัย เป็ นกลองพืนเมืองภาคเหนือ สั นนิษฐานว่ าเป็ นกลองที่
้
ย่ อส่ วนดัดแปลงมาจากกลองปูจา หรือกลองบูชา โดยมีลูกตุบเป็ นกลองขนาด
เล็กอยู่ 3 ลูก ติดกับตัวกลองใบใหญ่ ถือว่ าเป็ นกลองศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ใช้ ใน
การออกศึกสงคราม และประกอบพิธีกรรมต่ างๆ มีวธีการตีอยู่หลายทานอง ส่ วน
ิ
ใหญ่ ใช้ ตีในทางการศึก แต่ ในการตีทานองชนะศึกนั้นไม่ ต้องมีลูกตุบ ภายหลังจึง
ได้ เอาลูกตุบออกกลายมาเป็ น กลองสะบัดชัยแบบไม่ มลูกตุบ ครั้นหลังจากหมด
ี
ศึกสงคราม กลองส่ วนใหญ่ จะถูกเก็บรักษาไว้ ทวด ในสมัยต่ อมามีคนนามาใช้ ตี
ี่ ั
ในโอกาสต่ างๆ เพือเป็ นพุทธบูชาด้ วย
่
- 3. เนื่องจากตัวกลองมีขนาดใหญ่ และมีนาหนักมาก ภายหลังเมือมีการนาไปเข้ า
้
่
ในขบวนแห่ จึงได้ ลดขนาดให้ สามารถใช้ คนหามได้ 2 คน โดยย่ อขนาดให้ ลดลง
ประมาณ 1 ใน 3 ส่ วน อย่ างทีเ่ ห็นใช้ ในปัจจุบน หน้ ากลองสะบัดชัย โดยทัวไปมีเส้ น
ั
่
ผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 60 ซม. ความกว้ างของตัวกลองประมาณ 30 ซม. ขึงหนังสอง
หน้ า รั้งด้ วยเส้ นเชือกหรือเส้ นหนัง ไม้ ที่ใช้ ตีมี 2 ข้ าง
- 4. สาหรับลูกตุบปัจจุบนยังมีการใช้ งานอยู่ ซึ่งทั้ง 3 ใบ มีขนาดแตกต่ างกันไป ลูกใหญ่ สุดหน้ า
ั
กลองมีเส้ นผ่ านศูนย์ กลางประมาณ 25 ซม. ลูกรองลงมาประมาณ 22 ซม. และลูกเล็กประมาณ
20 ซม. ความยาวของหุ่นลูกตุบประมาณ 26 ซม. ขึนหนังหน้ าเดียว โดยการตอกหมุดซึ่งทาด้ วย
้
ไม้ เป็ นลิมเล็กๆ ตอกยึดไว้ ให้ เหลือปลายหมุดยืนออกมาในลักษณะสลับฟันปลา ตั้งแต่ อดีตจนถึง
่
่
ปัจจุบนพัฒนาการของกลองสะบัดชัยพอสรุ ปได้ เป็ น 3 ยุค คือ
ั
- 5. •
ยุคแรก เป็ นกลองสองหน้ าขนาดใหญ่ มีลูกตุบ ทีมกเรียกว่ า กลองปูจาหรือกลองบูชา
่ ั
แขวนอยู่ในหอกลองของวัดต่ างๆ ลักษณะการตีมจังหวะหรือทานองทั้งช้ าและเร็ว ใช้ ประกอบ
ี
ศาสนกิจของสงฆ์
•
ยุคหลังสงคราม ระหว่ างไทยกับพม่ า เป็ นกลองสองหน้ า มีลูกตุบ แต่ มการย่ อส่ วนตัวกลอง
ี
ใหญ่ ให้ เล็กลง มีคานหามเพือสะดวกในการเคลือนย้ ายเรียกว่ า กลองสะบัดชัยลูกตุบ เวลาตีมอ
่
่
ื
ข้ างหนึ่งจะถือ ไม้ แสะ ซึ่งทาจากหวายขนาดเล็กคล้ ายไม้ เรียวยาวประมาณ 40 ซม. อีกข้ างหนึ่ง
จะถือไม้ ตีกลอง อาจมีฉาบและฆ้ องประกอบด้ วยหรือไม่ กได้ ปัจจุบนเกือบสู ญหายไปแล้ ว มีผู้ทตี
็
ั
ี่
ได้ อยู่เพียงไม่ มากนัก
- 6. ยุคปัจจุบน เป็ นกลองสองหน้ า ไม่ มลูกตุบ ใช้ คนหาม 2 คน มีฉาบและฆ้ องตีประกอบ
ั
ี
จังหวะ และมักจะใช้ ไม้ แกะเป็ นรูปพญานาคทาสี สวยงามประดับไว้ ทตัวกลองด้ วย ส่ วนลีลาใน
ี่
การตีมลกษณะโลดโผน เร้ าใจ มีการใช้ อวัยวะหรือส่ วนต่ างๆของร่ างกาย เช่ น ศอก เข่ า ศีรษะ
ีั
ประกอบในการตีด้วย ซึ่งเป็ นทีนิยมแพร่ หลายมากในปัจจุบน
่
ั
- 7. โอกาสในการใช้ กลองสะบัดชัย ยังมีปรากฏให้ เห็นในวรรณกรรมต่ างๆ
มากมาย เช่ น ใช้ ตีบอกสั ญญาณ, ใช้ แสดงเป็ นมหรสพ, ใช้ เป็ นเครื่องประโคมฉลองชัยชนะ และใช้
เป็ นเครื่องประโคมเพือความสนุกสนาน ในปัจจุบนศิลปะการตีกลองสะบัดชัย ได้ นาชื่อเสี ยงมาสู่
่
ั
วัฒนธรรมพืนบ้ านล้ านนา อยู่ในฐานะตัวแทนทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถพบเห็นได้ ในโอกาส
้
ต่ างๆ เช่ น งานขันโตก งานพิธีต้อนรับแขกเมือง ขบวนแห่ เป็ นต้ น