โบสถ์ฮาเจีย โซเฟี ย ( Aya Sopia) ปัจจุบนเป็ นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ใน
                                       ั
อดีตเป็ นโบสถ์ทางศาสนาคริ สต์ พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเป็ นผูสร้าง เมื่อ
                                                                   ้
ประมาณคริ สต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็ นโบสถ์ของศาสนาคริ สต์
สาหรับคริ สเตียน ทั้งนิกาย Orthodox และ Greek Catholic แต่ถูกผูก่อการร้ายบุก
                                                               ้
ทาลายเผาเสี ยวอดวายหลายครั้ง เพราะเกิดการขัดแย้งระหว่าง พวกที่นับถือศาสนา
           ั
คริ สต์กบศาสนาอิสลาม
จนถึงสมัยพระเจ้าจัสตินเนียน มีอานาจเหนือตุรกี จึงได้สร้างโบสถ์เซนต์โซเฟี ยขึ้น
ใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ
1435) พระองค์ตองการให้เป็ นสิ่ งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่ งของมีค่าต่างๆ มา
                 ้
ประดับไว้มากมาย สร้างเสร็ จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬาร ต่อมาเกิด
แผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทาให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่ อมจนเรี ยบร้อยในสภาพเดิม เมื่อสิ้ น
สมัยของจักรพรรดิจสตินเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเม็ดที่ 2 มีอานาจเหนือตุรกี และ
                     ั
เป็ นผูนบถือศาสนา อิสลามได้ดดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็ นสุ เหร่ าอิสลาม แต่ยงคง
       ้ ั                     ั                                          ั
ความงามไว้เช่นเดิม

โบสฮาเจีย

  • 1.
    โบสถ์ฮาเจีย โซเฟี ย( Aya Sopia) ปัจจุบนเป็ นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ใน ั อดีตเป็ นโบสถ์ทางศาสนาคริ สต์ พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเป็ นผูสร้าง เมื่อ ้ ประมาณคริ สต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็ นโบสถ์ของศาสนาคริ สต์ สาหรับคริ สเตียน ทั้งนิกาย Orthodox และ Greek Catholic แต่ถูกผูก่อการร้ายบุก ้ ทาลายเผาเสี ยวอดวายหลายครั้ง เพราะเกิดการขัดแย้งระหว่าง พวกที่นับถือศาสนา ั คริ สต์กบศาสนาอิสลาม จนถึงสมัยพระเจ้าจัสตินเนียน มีอานาจเหนือตุรกี จึงได้สร้างโบสถ์เซนต์โซเฟี ยขึ้น ใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ตองการให้เป็ นสิ่ งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่ งของมีค่าต่างๆ มา ้ ประดับไว้มากมาย สร้างเสร็ จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬาร ต่อมาเกิด แผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทาให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่ อมจนเรี ยบร้อยในสภาพเดิม เมื่อสิ้ น สมัยของจักรพรรดิจสตินเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเม็ดที่ 2 มีอานาจเหนือตุรกี และ ั เป็ นผูนบถือศาสนา อิสลามได้ดดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็ นสุ เหร่ าอิสลาม แต่ยงคง ้ ั ั ั ความงามไว้เช่นเดิม