SlideShare a Scribd company logo
เชอร์ล็อก โฮลมส์ (อังกฤษ: Sherlock Holmes) เป็นนวนิยายสืบสวนหรือรหัสคดี ประพันธ์โดยนักเขียนและนายแพทย์ชาวส
ก็อต คือ เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตัวละคร เชอร์ล็อก โฮลมส์
เป็นนักสืบชาวลอนดอนผู้ปราดเปรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการประมวลเหตุและผล โดยอาศัยหลักฐานและการสังเกต
อันคาดไม่ถึงเพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ

โคนัน ดอยล์ แต่งเรื่องเชอร์ล็อก โฮลมส์ ไว้ทั้งสิ้นเป็นเรื่องยาว 4 เรื่อง และเรื่องสั้น 54 เรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นการบรรยาย
โดยเพื่อนคู่หูของโฮลมส์ คือ ดร. จอห์น เอช. วัตสัน หรือ หมอวัตสัน ในจานวนนี้ มี 2 เรื่องที่โฮลมส์เป็นผู้เล่าเรื่องเอง และอีก
2 เรื่องเล่าโดยบุคคลอื่น เรื่องสั้นสองเรื่องแรกตีพิมพ์ใน Beeton's Christmas Annual ในปี ค.ศ. 1887 และ Lippincott's
Monthly Magazine ในปี ค.ศ. 1890 แต่หลังจากที่ชุดเรื่องสั้นลงพิมพ์เป็นคอลัมน์ประจาใน นิตยสารแสตรนด์ เมื่อปี ค.ศ.
1891 นิยายเรื่องนี้ก็โด่งดังเป็นพลุ เหตุการณ์ในนิยายอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1878 ถึง ค.ศ. 1903 และคดีสุดท้ายเกิดในปี ค.ศ.
1914

เมื่อถูกถามว่า เชอร์ล็อก โฮลมส์มีตัวตนจริงหรือไม่ โคนัน ดอยล์ มักตอบว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเชอร์ล็อก โฮ
ลมส์ มาจากนายแพทย์โจเซฟ เบลล์ ผู้ซึ่งดอยล์เคยทางานด้วยที่โรงพยาบาลเอดินเบิร์กรอยัล นายแพทย์เบลล์มีความสามารถ
ในการหาข้อสรุปจากความสามารถในการสังเกตราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับเชอร์ล็อก โฮลมส์ นอกจากนี้นายแพทย์
เบลล์ยังมีความสนใจในอาชญากรรมและเคยช่วยเหลือตารวจในการคลี่คลายคดีต่างๆ ด้วย[1]

ความโด่งดังของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ทาให้ผู้อ่านจานวนมากเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหา มี พิพิธภัณฑ์
เชอร์ ล็อก โฮลมส์ ตั้งขึ้นในตาแหน่งที่น่าจะเป็นบ้านในนวนิยายของเขาในกรุงลอนดอน นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่สร้างขึ้น
สาหรับตัวละครในนิยาย เรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮลมส์ มีการนาไปดัดแปลงและแต่งเพิ่มเติมขึ้นใหม่อีกโดยนักเขียนคนอื่น ทั้ง
ที่เขียนร่วมกับทายาทของโคนัน ดอยล์ และเขียนขึ้นใหม่เป็นเอกเทศ บทประพันธ์ของโคนัน ดอยล์ และนวนิยายที่แต่งขึ้นใหม่
ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ และสื่ออื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเชอร์ล็อก โฮลมส์
ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊คว่า เป็น "ตัวละครที่มีผู้แสดงมากที่สุด" ภาพลักษณ์ของโฮลมส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบ
และส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมและการแสดงในประเภทรหัสคดีจานวนมาก

นิสัยและบุคลิก

เชอร์ล็อก โฮลมส์ มีชื่อเต็มว่า วิลเลียม เชอร์ล็อก สก๊อต โฮลมส์ เป็นชาวอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1854 มีนิสัยรัก
สันโดษ แต่ก็ยังไม่สันโดษเท่าพี่ชาย คือ ไมครอฟต์ โฮลมส์ ที่คอยช่วยเหลือเขาในบางคดี โฮลมส์มีรูปร่างสูง ผอม จมูกโด่งเป็น
สันเหมือนเหยี่ยว มีความรู้รอบตัวในหลาย ๆ ด้านทั้ง เคมี ฟิสิกส์ และความรู้เกี่ยวกับพืชมีพิษตระกูลต่าง ๆ แต่เขาไม่รู้เรื่อง
เกี่ยวกับดาราศาสตร์เลย และเขายังเก่งเรื่องเล่นไวโอลิน

โฮลมส์มีอารมณ์แปลก ๆ บางครั้งก็เศร้าซึม พูดน้อย บางครั้งก็ร่าเริง หมอวัตสัน เพื่อนคู่หูของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ได้บรรยายถึง
ลักษณะต่าง ๆ ของโฮลมส์เอาไว้ในบันทึกคดีคราวต่าง ๆ กัน เช่น ในเวลาที่กาลังครุ่นคิดเรื่องคดี โฮลมส์จะไม่ทานข้าวเช้า
(จาก ตอน ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์ (the Norwood Builder) ) โฮลมส์ชอบทาการทดลองเคมี แล้วทิ้งข้าวของในห้องกระจัด
กระจายไม่เป็นระเบียบ (จาก ตอน ปริศนาลายแทง (Musgrave Ritual) ) โฮลมส์สูบไปป์จัดมาก มักกลั่นแกล้งตารวจโดยการ
ให้ข้อมูลปลอมหรือปกปิดหลักฐานบางอย่าง แต่ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติแก่สตรีอย่างสูง (จาก ตอน นายหน้าขู่กิน
(Charles Augustus Milverton) ) แต่นิสัยที่หมอวัตสันเห็นว่าเลวร้ายและยอมรับไม่ได้เลย คือ การที่โฮลมส์ชอบเสพโคเคน
กับมอร์ฟีน ซึ่งวัตสันเห็นว่าเป็นความชั่วประการเดียวที่โฮลมส์มี[6]

โฮลมส์ยังเป็นนักแสดงที่เก่งกาจ ดังปรากฏในตอน ซ้อนกล (the Dying Detective) และ จดหมายนัดพบ (the Reigate
Squires) และตอนอื่น ๆ อีกหลายตอน เพื่อหันเหความสนใจของผู้ต้องสงสัย มิให้ตระหนักถึงความสาคัญของหลักฐาน
บางอย่าง ในตอน สัญญานาวี (the Naval Treaty) โฮลมส์ได้แสดงให้เห็นว่าเขาชื่นชมนักอาชญวิทยาชาวฝรั่งเศส คือ
Alphonse Bertillon ซึ่งเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยระบุตัวตนของอาชญากร นอกจากนี้ ยังมี
อีกหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า โฮลมส์เป็นนักอ่าน นักศึกษา มีความรู้ด้านอาชญวิทยาอย่างกว้างขวาง และให้ความนิยม
นับถือบรรดานักสืบผู้ชานาญเป็นอย่างมาก[7]

แม้โฮลมส์จะชอบกลั่นแกล้งตารวจ แต่เขาก็เป็นมิตรที่ดีของสก๊อตแลนด์ยาร์ดโดยเฉพาะสารวัตรเลสเตรด และมักยกความดี
ความชอบในคดีให้แก่ฝ่ายตารวจอยู่เสมอ ในตอน สัญญานาวี โฮลมส์เคยบอกว่า ในบรรดาคดีที่เขาสะสาง 53 คดี เขายก
ความสาเร็จให้เพื่อนตารวจไปเสีย 49 คดี คงมีแต่เพียงหมอวัตสันที่บรรยายถึงความสามารถของเขาผ่านทางบันทึกเท่านั้น

โฮลมส์มีศัตรูตัวฉกาจ ชื่อ ศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตี้ ศาสตราจารย์ผู้ มีมันสมองปราดเปรื่องในด้านอาชญากรรม อีกทั้งยัง
เป็นตัวการเบื้องหลังในบางคดีที่เกิดขึ้นอีกด้วย คาพูดของโฮลมส์ที่ติดปากกันดี คือ "ถ้าเราตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป
สิ่งที่เหลืออยู่ ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อเพียงใด แต่มันก็เป็นความจริง"



ความรู้และทักษะ

โคนัน ดอยล์ ได้บรรยายถึงพื้นฐานการศึกษาและทักษะของโฮลมส์ไว้ในนิยายตอนแรก แรงพยาบาท ว่า เขาเคยเป็นนักศึกษา
สาขาเคมี ที่มีความสนอกสนใจไปสารพัด โดยเฉพาะวิชาความรู้ที่สามารถช่วยเหลือในการคลี่คลายคดี อาชญากรรม บันทึกคดี
แรกของโฮลมส์ที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร คือ เรือบรรทุกนักโทษ (Gloria Scott) ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทาให้โฮ
ลมส์หันมายึดถืออาชีพนักสืบ เขามักใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ การสังเกตและการทดลอง มาใช้ประกอบในการ
พิจารณาคดีอาชญากรรมเสมอ แม้ว่าเขาจะชอบเก็บงาผลลัพธ์เอาไว้ และสร้างความประหลาดใจแก่ผู้อื่นโดยค่อย ๆ เผยปม
ของคดีให้ทราบทีละเล็กละน้อย

ในเรื่องยาว แรงพยาบาท (A Study in Scarlet) หมอวัตสันเคยประเมินทักษะต่าง ๆ ของโฮล์มส์ไว้ ดังนี้

    1.    ความรู้ด้านวรรณกรรม — น้อยมาก
    2.    ความรู้ด้านปรัชญา — ไม่มี
    3.    ความรู้ทางดาราศาสตร์ — ไม่มี
    4.    ความรู้ด้านการเมือง — น้อยมาก
    5.    ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ — ไม่แน่นอน ชานาญพิเศษด้านพืชมีพิษและฝิ่น แต่ไม่รู้ด้านการทาสวน
    6.    ความรู้ด้านธรณีวิทยา — ชานาญ แต่มีข้อจากัด สามารถบอกความแตกต่างระหว่างดินแต่ละชนิด เช่นหลังจาก
          ออกไปเดินเล่น สามารถระบุตาแหน่งที่ได้รับรอยเปื้อนดินบนกางเกงได้ว่ามาจากส่วนไหนของ ลอนดอน โดยดูจากสี
          และลักษณะของดิน
    7.    ความรู้ด้านเคมี — ยอดเยี่ยม โฮลมส์ได้รับตาแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์จากสมาคมเคมีแห่งราชสานักอังกฤษ[8]
    8.    ความรู้ด้านกายวิภาค — แม่นยา แต่ไม่เป็นระบบ สันนิษฐานได้ว่ามาจากการศึกษาด้วยตนเอง[9]
    9.    ความรู้ด้านอาชญวิทยา — กว้างขวาง ดูเหมือนจะรู้จักเหตุสะเทือนขวัญอย่างละเอียดทุกเรื่องในรอบศตวรรษ[7]
    10.   เล่นไวโอลินได้ดีมาก และยังเป็นเจ้าของไวโอลินสตราดิวาเรียส อันมีชื่อเสียง[10]
    11.   เป็นนักมวยและนักดาบ
    12.   มีความรู้กฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี

ในตอน ความลับที่หุบเขาบอสคูมบ์ (The Boscombe Valley Mystery) โฮลมส์ได้แสดงให้เห็นถึงความรู้เกี่ยวกับยาสูบเป็น
อย่างดี นอกจากนี้ ในตอน รหัสตุ๊กตาเต้นรา (The Dancing Man) โฮลมส์ได้แสดงถึงทักษะและไหวพริบในการถอดรหัส ส่วน
ความสามารถในการปลอมแปลงตัวของโฮลมส์ได้ใช้ประโยชน์หลายครั้ง เช่น การปลอมเป็น กะลาสีในตอน จัตวาลักษณ์ (The
Sign of the Four) เป็นนักบวชผู้ถ่อมตนใน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย (A Scandle in Bohemie) เป็นคนติดยาใน ชายปากบิด
(The Man with the Twisted Lip) เป็นพระชาวอิตาลีใน ปัจฉิมปัญหา (The Final Problem) หรือแม้แต่ปลอมเป็นผู้หญิง
ในตอน เพชรมงกุฎ (The Mazarin Stone) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี มีบางเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า หมอวัตสันประเมินโฮลมส์ผิดไปบ้าง เช่น เหตุการณ์ในตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย
ซึ่งโฮลมส์สามารถตระหนักถึงความสาคัญของเคานท์ฟอนแครมได้ทันที หรือในหลาย ๆ คราวที่โฮลมส์มักเอ่ยอ้างถึงถ้อยคาใน
พระคัมภีร์ไบเบิล เชกสเปียร์ หรือเกอเธ่ แต่กระนั้น โฮลมส์กลับเคยบอกกับหมอวัตสันว่า เขาไม่สนใจเลยว่าโลกหรือดวง
อาทิตย์จะหมุนรอบใครกันแน่ เพราะมันไม่มีประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดีสักนิด

โฮลมส์มีความสามารถในการวิเคราะห์หลักฐานทางกายภาพอย่างถูกต้องแม่นยา กระบวนการตรวจสอบหลักฐานของเขามี
หลายกรรมวิธี เช่น การเก็บรอยรองเท้า รอยเท้าสัตว์ หรือรอยล้อรถจักรยาน เพื่อวิเคราะห์การกระทาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นใน
ระหว่างการเกิดอาชญากรรม (เช่น ตอน แรงพยาบาท หรือ หมาผลาญตระกูล) หรือการวิเคราะห์ประเภทของยาสูบเพื่อระบุ
ตัวตนของอาชญากร (เช่น ตอน จองเวร (The Resident Patient) หรือ หมาผลาญตระกูล) โฮลมส์เคยตรวจสอบร่องรอยผง
ดินปืน และเปรียบเทียบกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ ทาให้แยกแยะได้ว่าฆาตกรมีสองคน (จาก ตอน จดหมายนัดพบ และ บ้าน
ร้าง (The Empty House) ) นอกจากนี้ โฮลมส์ยังเป็นคนแรก ๆ ที่มีแนวคิดในการตรวจสอบลายนิ้วมืออีกด้วย (จาก ตอน
ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์)

ในช่วงปีหลัง ๆ ระหว่างที่โฮลมส์หยุดพักผ่อนที่ซัสเซกส์ดาวน์ (ในตอน รอยเปื้อนที่สอง (The Second Stain) ) เขาได้เขียน
หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งเพื่อบันทึกการสังเกตเรื่องวิถีชีวิตของผึ้ง ชื่อ "Practical Handbook of Bee Culture" นอกจากนี้ ยังมีงาน
เขียนด้านวิชาการอื่น ๆ ของโฮลมส์อีกหลายเล่ม เช่น "Upon the Distinction Between the Ashes of the Various
Tobaccos" (การแยกแยะรายละเอียดระหว่างขี้เถ้าของยาสูบชนิดต่างๆ) หรือ บทความสองเรื่องเกี่ยวกับ "หู" ที่ได้เผยแพร่ใน
Anthropological Journal

ถิ่นที่อยู่

ตามท้องเรื่อง โฮลมส์และหมอวัตสันรู้จักกันครั้งแรก เนื่องจากต่างต้องการหาผู้ร่วมเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในกรุงลอนดอนเพื่อ
ลด ค่าใช้จ่าย ห้องพักที่ทั้งสองเช่าเป็นบ้านของมิสซิสฮัดสัน ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 221 บี ถนนเบเกอร์ โดยพวกเขาเช่าพื้นที่ชั้น
สองของบ้าน ส่วนมิสซิสฮัดสันอาศัยอยู่ชั้นล่าง และทาหน้าที่จัดเตรียมอาหารเช้าให้พวกเขาด้วย หมอวัตสันเคยย้ายออกจาก
บ้านเช่านี้ไปเมื่อคราวแต่งงาน ทว่าหลังจากภริยาเสียชีวิต หมอวัตสันก็ย้ายกลับมาอยู่กับเชอร์ล็อก โฮลมส์อีก

การงานอาชีพ

โฮลมส์ทางานเพียงอย่างเดียว คือ เป็นนักสืบเชลยศักดิ์ หมายถึง เป็นนักสืบเอกชนที่ทางานตามการว่าจ้างเป็นคราว ๆ ไป
อย่างไรก็ดี มีหลายครั้งที่โฮลมส์ทาคดีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนตารวจที่สก๊อตแลนด์ยาร์ด หรือเพื่อความบันเทิงส่วนตัว ลูกค้าส่วน
ใหญ่ของโฮลมส์เป็นผู้มีสตางค์ โฮลมส์จึงได้รับค่าจ้างอย่างงามจนสามารถใช้ชีวิตอย่างสบาย หมอวัตสันเคยเล่าไว้ในตอน ซ้อน
กล เมื่อตอนที่เขาย้ายออกไปจากบ้านเช่า และโฮลมส์อาศัยอยู่เพียงลาพังว่า เงินค่าเช่าที่โฮลมส์จ่ายมิสซิสฮัดสันนั้นมากพอจะ
ซื้อตึกหลังนั้นได้เลยที เดียว

ในตอน แผนผังเรือดาน้า โฮลมส์ได้รับของรางวัลจากการคลี่คลายคดีให้แก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เป็นเข็มกลัดมรกต
คราวหนึ่งเขาได้รับเหรียญทองคาเป็นที่ระลึกจากไอรีน อัดเลอร์ (ตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย) อีกคราวหนึ่งในตอน โรงเรียน
สานักอธิการ (the Priory School) โฮลมส์ถึงกับถูมือด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นตัวเลขในเช็คที่ท่าน ดยุคสั่งจ่าย ที่
หมอวัตสันเองยังตื่นเต้นตกใจ แต่แล้วโฮลมส์ก็ตบเช็คใบนั้นแล้วร้องว่า "ยากจนกันจริงหนอ"

ครอบครัว และความรัก

โฮลมส์มีพี่ชายหนึ่งคน คือ ไมครอฟต์ โฮลมส์ ทางานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ บาลกลาง แต่ไม่มีข้อมูลอื่นเกี่ยวกับครอบครัวของเขา
นอกจากในเรื่องสั้นตอน ล่ามภาษากรีก ซึ่งโฮลมส์เอ่ยถึงย่าของตนว่าเป็นน้องสาวของเวอร์เน่ต์ (Vernet) ศิลปินชาวฝรั่งเศส
โฮลมส์ไม่ได้แต่งงาน แต่เชื่อว่าเขาเคยมีความรักกับสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมาเกิดเหตุที่ทาให้ทั้งสองไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ และโฮลมส์
ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย หญิงสาวในความทรงจาของโฮลมส์ผู้นั้นมีชื่อว่า ไอรีน อัดเลอร์
เชอร์ล็อก โฮลมส์

More Related Content

Featured

Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
Expeed Software
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Pixeldarts
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
ThinkNow
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
marketingartwork
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
Skeleton Technologies
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
SpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Lily Ray
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
Rajiv Jayarajah, MAppComm, ACC
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
Christy Abraham Joy
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
Vit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
MindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Applitools
 

Featured (20)

Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 

เชอร์ล็อก โฮลมส์

  • 1. เชอร์ล็อก โฮลมส์ (อังกฤษ: Sherlock Holmes) เป็นนวนิยายสืบสวนหรือรหัสคดี ประพันธ์โดยนักเขียนและนายแพทย์ชาวส ก็อต คือ เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตัวละคร เชอร์ล็อก โฮลมส์ เป็นนักสืบชาวลอนดอนผู้ปราดเปรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการประมวลเหตุและผล โดยอาศัยหลักฐานและการสังเกต อันคาดไม่ถึงเพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ โคนัน ดอยล์ แต่งเรื่องเชอร์ล็อก โฮลมส์ ไว้ทั้งสิ้นเป็นเรื่องยาว 4 เรื่อง และเรื่องสั้น 54 เรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นการบรรยาย โดยเพื่อนคู่หูของโฮลมส์ คือ ดร. จอห์น เอช. วัตสัน หรือ หมอวัตสัน ในจานวนนี้ มี 2 เรื่องที่โฮลมส์เป็นผู้เล่าเรื่องเอง และอีก 2 เรื่องเล่าโดยบุคคลอื่น เรื่องสั้นสองเรื่องแรกตีพิมพ์ใน Beeton's Christmas Annual ในปี ค.ศ. 1887 และ Lippincott's Monthly Magazine ในปี ค.ศ. 1890 แต่หลังจากที่ชุดเรื่องสั้นลงพิมพ์เป็นคอลัมน์ประจาใน นิตยสารแสตรนด์ เมื่อปี ค.ศ. 1891 นิยายเรื่องนี้ก็โด่งดังเป็นพลุ เหตุการณ์ในนิยายอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1878 ถึง ค.ศ. 1903 และคดีสุดท้ายเกิดในปี ค.ศ. 1914 เมื่อถูกถามว่า เชอร์ล็อก โฮลมส์มีตัวตนจริงหรือไม่ โคนัน ดอยล์ มักตอบว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเชอร์ล็อก โฮ ลมส์ มาจากนายแพทย์โจเซฟ เบลล์ ผู้ซึ่งดอยล์เคยทางานด้วยที่โรงพยาบาลเอดินเบิร์กรอยัล นายแพทย์เบลล์มีความสามารถ ในการหาข้อสรุปจากความสามารถในการสังเกตราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับเชอร์ล็อก โฮลมส์ นอกจากนี้นายแพทย์ เบลล์ยังมีความสนใจในอาชญากรรมและเคยช่วยเหลือตารวจในการคลี่คลายคดีต่างๆ ด้วย[1] ความโด่งดังของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ทาให้ผู้อ่านจานวนมากเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหา มี พิพิธภัณฑ์ เชอร์ ล็อก โฮลมส์ ตั้งขึ้นในตาแหน่งที่น่าจะเป็นบ้านในนวนิยายของเขาในกรุงลอนดอน นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่สร้างขึ้น สาหรับตัวละครในนิยาย เรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮลมส์ มีการนาไปดัดแปลงและแต่งเพิ่มเติมขึ้นใหม่อีกโดยนักเขียนคนอื่น ทั้ง ที่เขียนร่วมกับทายาทของโคนัน ดอยล์ และเขียนขึ้นใหม่เป็นเอกเทศ บทประพันธ์ของโคนัน ดอยล์ และนวนิยายที่แต่งขึ้นใหม่ ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ และสื่ออื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเชอร์ล็อก โฮลมส์ ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊คว่า เป็น "ตัวละครที่มีผู้แสดงมากที่สุด" ภาพลักษณ์ของโฮลมส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบ และส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมและการแสดงในประเภทรหัสคดีจานวนมาก นิสัยและบุคลิก เชอร์ล็อก โฮลมส์ มีชื่อเต็มว่า วิลเลียม เชอร์ล็อก สก๊อต โฮลมส์ เป็นชาวอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1854 มีนิสัยรัก สันโดษ แต่ก็ยังไม่สันโดษเท่าพี่ชาย คือ ไมครอฟต์ โฮลมส์ ที่คอยช่วยเหลือเขาในบางคดี โฮลมส์มีรูปร่างสูง ผอม จมูกโด่งเป็น สันเหมือนเหยี่ยว มีความรู้รอบตัวในหลาย ๆ ด้านทั้ง เคมี ฟิสิกส์ และความรู้เกี่ยวกับพืชมีพิษตระกูลต่าง ๆ แต่เขาไม่รู้เรื่อง เกี่ยวกับดาราศาสตร์เลย และเขายังเก่งเรื่องเล่นไวโอลิน โฮลมส์มีอารมณ์แปลก ๆ บางครั้งก็เศร้าซึม พูดน้อย บางครั้งก็ร่าเริง หมอวัตสัน เพื่อนคู่หูของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ได้บรรยายถึง ลักษณะต่าง ๆ ของโฮลมส์เอาไว้ในบันทึกคดีคราวต่าง ๆ กัน เช่น ในเวลาที่กาลังครุ่นคิดเรื่องคดี โฮลมส์จะไม่ทานข้าวเช้า (จาก ตอน ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์ (the Norwood Builder) ) โฮลมส์ชอบทาการทดลองเคมี แล้วทิ้งข้าวของในห้องกระจัด กระจายไม่เป็นระเบียบ (จาก ตอน ปริศนาลายแทง (Musgrave Ritual) ) โฮลมส์สูบไปป์จัดมาก มักกลั่นแกล้งตารวจโดยการ ให้ข้อมูลปลอมหรือปกปิดหลักฐานบางอย่าง แต่ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติแก่สตรีอย่างสูง (จาก ตอน นายหน้าขู่กิน (Charles Augustus Milverton) ) แต่นิสัยที่หมอวัตสันเห็นว่าเลวร้ายและยอมรับไม่ได้เลย คือ การที่โฮลมส์ชอบเสพโคเคน กับมอร์ฟีน ซึ่งวัตสันเห็นว่าเป็นความชั่วประการเดียวที่โฮลมส์มี[6] โฮลมส์ยังเป็นนักแสดงที่เก่งกาจ ดังปรากฏในตอน ซ้อนกล (the Dying Detective) และ จดหมายนัดพบ (the Reigate Squires) และตอนอื่น ๆ อีกหลายตอน เพื่อหันเหความสนใจของผู้ต้องสงสัย มิให้ตระหนักถึงความสาคัญของหลักฐาน บางอย่าง ในตอน สัญญานาวี (the Naval Treaty) โฮลมส์ได้แสดงให้เห็นว่าเขาชื่นชมนักอาชญวิทยาชาวฝรั่งเศส คือ Alphonse Bertillon ซึ่งเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยระบุตัวตนของอาชญากร นอกจากนี้ ยังมี
  • 2. อีกหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า โฮลมส์เป็นนักอ่าน นักศึกษา มีความรู้ด้านอาชญวิทยาอย่างกว้างขวาง และให้ความนิยม นับถือบรรดานักสืบผู้ชานาญเป็นอย่างมาก[7] แม้โฮลมส์จะชอบกลั่นแกล้งตารวจ แต่เขาก็เป็นมิตรที่ดีของสก๊อตแลนด์ยาร์ดโดยเฉพาะสารวัตรเลสเตรด และมักยกความดี ความชอบในคดีให้แก่ฝ่ายตารวจอยู่เสมอ ในตอน สัญญานาวี โฮลมส์เคยบอกว่า ในบรรดาคดีที่เขาสะสาง 53 คดี เขายก ความสาเร็จให้เพื่อนตารวจไปเสีย 49 คดี คงมีแต่เพียงหมอวัตสันที่บรรยายถึงความสามารถของเขาผ่านทางบันทึกเท่านั้น โฮลมส์มีศัตรูตัวฉกาจ ชื่อ ศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตี้ ศาสตราจารย์ผู้ มีมันสมองปราดเปรื่องในด้านอาชญากรรม อีกทั้งยัง เป็นตัวการเบื้องหลังในบางคดีที่เกิดขึ้นอีกด้วย คาพูดของโฮลมส์ที่ติดปากกันดี คือ "ถ้าเราตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป สิ่งที่เหลืออยู่ ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อเพียงใด แต่มันก็เป็นความจริง" ความรู้และทักษะ โคนัน ดอยล์ ได้บรรยายถึงพื้นฐานการศึกษาและทักษะของโฮลมส์ไว้ในนิยายตอนแรก แรงพยาบาท ว่า เขาเคยเป็นนักศึกษา สาขาเคมี ที่มีความสนอกสนใจไปสารพัด โดยเฉพาะวิชาความรู้ที่สามารถช่วยเหลือในการคลี่คลายคดี อาชญากรรม บันทึกคดี แรกของโฮลมส์ที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร คือ เรือบรรทุกนักโทษ (Gloria Scott) ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทาให้โฮ ลมส์หันมายึดถืออาชีพนักสืบ เขามักใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ การสังเกตและการทดลอง มาใช้ประกอบในการ พิจารณาคดีอาชญากรรมเสมอ แม้ว่าเขาจะชอบเก็บงาผลลัพธ์เอาไว้ และสร้างความประหลาดใจแก่ผู้อื่นโดยค่อย ๆ เผยปม ของคดีให้ทราบทีละเล็กละน้อย ในเรื่องยาว แรงพยาบาท (A Study in Scarlet) หมอวัตสันเคยประเมินทักษะต่าง ๆ ของโฮล์มส์ไว้ ดังนี้ 1. ความรู้ด้านวรรณกรรม — น้อยมาก 2. ความรู้ด้านปรัชญา — ไม่มี 3. ความรู้ทางดาราศาสตร์ — ไม่มี 4. ความรู้ด้านการเมือง — น้อยมาก 5. ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ — ไม่แน่นอน ชานาญพิเศษด้านพืชมีพิษและฝิ่น แต่ไม่รู้ด้านการทาสวน 6. ความรู้ด้านธรณีวิทยา — ชานาญ แต่มีข้อจากัด สามารถบอกความแตกต่างระหว่างดินแต่ละชนิด เช่นหลังจาก ออกไปเดินเล่น สามารถระบุตาแหน่งที่ได้รับรอยเปื้อนดินบนกางเกงได้ว่ามาจากส่วนไหนของ ลอนดอน โดยดูจากสี และลักษณะของดิน 7. ความรู้ด้านเคมี — ยอดเยี่ยม โฮลมส์ได้รับตาแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์จากสมาคมเคมีแห่งราชสานักอังกฤษ[8] 8. ความรู้ด้านกายวิภาค — แม่นยา แต่ไม่เป็นระบบ สันนิษฐานได้ว่ามาจากการศึกษาด้วยตนเอง[9] 9. ความรู้ด้านอาชญวิทยา — กว้างขวาง ดูเหมือนจะรู้จักเหตุสะเทือนขวัญอย่างละเอียดทุกเรื่องในรอบศตวรรษ[7] 10. เล่นไวโอลินได้ดีมาก และยังเป็นเจ้าของไวโอลินสตราดิวาเรียส อันมีชื่อเสียง[10] 11. เป็นนักมวยและนักดาบ 12. มีความรู้กฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี ในตอน ความลับที่หุบเขาบอสคูมบ์ (The Boscombe Valley Mystery) โฮลมส์ได้แสดงให้เห็นถึงความรู้เกี่ยวกับยาสูบเป็น อย่างดี นอกจากนี้ ในตอน รหัสตุ๊กตาเต้นรา (The Dancing Man) โฮลมส์ได้แสดงถึงทักษะและไหวพริบในการถอดรหัส ส่วน ความสามารถในการปลอมแปลงตัวของโฮลมส์ได้ใช้ประโยชน์หลายครั้ง เช่น การปลอมเป็น กะลาสีในตอน จัตวาลักษณ์ (The Sign of the Four) เป็นนักบวชผู้ถ่อมตนใน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย (A Scandle in Bohemie) เป็นคนติดยาใน ชายปากบิด (The Man with the Twisted Lip) เป็นพระชาวอิตาลีใน ปัจฉิมปัญหา (The Final Problem) หรือแม้แต่ปลอมเป็นผู้หญิง ในตอน เพชรมงกุฎ (The Mazarin Stone) เป็นต้น
  • 3. อย่างไรก็ดี มีบางเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า หมอวัตสันประเมินโฮลมส์ผิดไปบ้าง เช่น เหตุการณ์ในตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย ซึ่งโฮลมส์สามารถตระหนักถึงความสาคัญของเคานท์ฟอนแครมได้ทันที หรือในหลาย ๆ คราวที่โฮลมส์มักเอ่ยอ้างถึงถ้อยคาใน พระคัมภีร์ไบเบิล เชกสเปียร์ หรือเกอเธ่ แต่กระนั้น โฮลมส์กลับเคยบอกกับหมอวัตสันว่า เขาไม่สนใจเลยว่าโลกหรือดวง อาทิตย์จะหมุนรอบใครกันแน่ เพราะมันไม่มีประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดีสักนิด โฮลมส์มีความสามารถในการวิเคราะห์หลักฐานทางกายภาพอย่างถูกต้องแม่นยา กระบวนการตรวจสอบหลักฐานของเขามี หลายกรรมวิธี เช่น การเก็บรอยรองเท้า รอยเท้าสัตว์ หรือรอยล้อรถจักรยาน เพื่อวิเคราะห์การกระทาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นใน ระหว่างการเกิดอาชญากรรม (เช่น ตอน แรงพยาบาท หรือ หมาผลาญตระกูล) หรือการวิเคราะห์ประเภทของยาสูบเพื่อระบุ ตัวตนของอาชญากร (เช่น ตอน จองเวร (The Resident Patient) หรือ หมาผลาญตระกูล) โฮลมส์เคยตรวจสอบร่องรอยผง ดินปืน และเปรียบเทียบกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ ทาให้แยกแยะได้ว่าฆาตกรมีสองคน (จาก ตอน จดหมายนัดพบ และ บ้าน ร้าง (The Empty House) ) นอกจากนี้ โฮลมส์ยังเป็นคนแรก ๆ ที่มีแนวคิดในการตรวจสอบลายนิ้วมืออีกด้วย (จาก ตอน ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์) ในช่วงปีหลัง ๆ ระหว่างที่โฮลมส์หยุดพักผ่อนที่ซัสเซกส์ดาวน์ (ในตอน รอยเปื้อนที่สอง (The Second Stain) ) เขาได้เขียน หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งเพื่อบันทึกการสังเกตเรื่องวิถีชีวิตของผึ้ง ชื่อ "Practical Handbook of Bee Culture" นอกจากนี้ ยังมีงาน เขียนด้านวิชาการอื่น ๆ ของโฮลมส์อีกหลายเล่ม เช่น "Upon the Distinction Between the Ashes of the Various Tobaccos" (การแยกแยะรายละเอียดระหว่างขี้เถ้าของยาสูบชนิดต่างๆ) หรือ บทความสองเรื่องเกี่ยวกับ "หู" ที่ได้เผยแพร่ใน Anthropological Journal ถิ่นที่อยู่ ตามท้องเรื่อง โฮลมส์และหมอวัตสันรู้จักกันครั้งแรก เนื่องจากต่างต้องการหาผู้ร่วมเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในกรุงลอนดอนเพื่อ ลด ค่าใช้จ่าย ห้องพักที่ทั้งสองเช่าเป็นบ้านของมิสซิสฮัดสัน ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 221 บี ถนนเบเกอร์ โดยพวกเขาเช่าพื้นที่ชั้น สองของบ้าน ส่วนมิสซิสฮัดสันอาศัยอยู่ชั้นล่าง และทาหน้าที่จัดเตรียมอาหารเช้าให้พวกเขาด้วย หมอวัตสันเคยย้ายออกจาก บ้านเช่านี้ไปเมื่อคราวแต่งงาน ทว่าหลังจากภริยาเสียชีวิต หมอวัตสันก็ย้ายกลับมาอยู่กับเชอร์ล็อก โฮลมส์อีก การงานอาชีพ โฮลมส์ทางานเพียงอย่างเดียว คือ เป็นนักสืบเชลยศักดิ์ หมายถึง เป็นนักสืบเอกชนที่ทางานตามการว่าจ้างเป็นคราว ๆ ไป อย่างไรก็ดี มีหลายครั้งที่โฮลมส์ทาคดีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนตารวจที่สก๊อตแลนด์ยาร์ด หรือเพื่อความบันเทิงส่วนตัว ลูกค้าส่วน ใหญ่ของโฮลมส์เป็นผู้มีสตางค์ โฮลมส์จึงได้รับค่าจ้างอย่างงามจนสามารถใช้ชีวิตอย่างสบาย หมอวัตสันเคยเล่าไว้ในตอน ซ้อน กล เมื่อตอนที่เขาย้ายออกไปจากบ้านเช่า และโฮลมส์อาศัยอยู่เพียงลาพังว่า เงินค่าเช่าที่โฮลมส์จ่ายมิสซิสฮัดสันนั้นมากพอจะ ซื้อตึกหลังนั้นได้เลยที เดียว ในตอน แผนผังเรือดาน้า โฮลมส์ได้รับของรางวัลจากการคลี่คลายคดีให้แก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เป็นเข็มกลัดมรกต คราวหนึ่งเขาได้รับเหรียญทองคาเป็นที่ระลึกจากไอรีน อัดเลอร์ (ตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย) อีกคราวหนึ่งในตอน โรงเรียน สานักอธิการ (the Priory School) โฮลมส์ถึงกับถูมือด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นตัวเลขในเช็คที่ท่าน ดยุคสั่งจ่าย ที่ หมอวัตสันเองยังตื่นเต้นตกใจ แต่แล้วโฮลมส์ก็ตบเช็คใบนั้นแล้วร้องว่า "ยากจนกันจริงหนอ" ครอบครัว และความรัก โฮลมส์มีพี่ชายหนึ่งคน คือ ไมครอฟต์ โฮลมส์ ทางานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ บาลกลาง แต่ไม่มีข้อมูลอื่นเกี่ยวกับครอบครัวของเขา นอกจากในเรื่องสั้นตอน ล่ามภาษากรีก ซึ่งโฮลมส์เอ่ยถึงย่าของตนว่าเป็นน้องสาวของเวอร์เน่ต์ (Vernet) ศิลปินชาวฝรั่งเศส โฮลมส์ไม่ได้แต่งงาน แต่เชื่อว่าเขาเคยมีความรักกับสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมาเกิดเหตุที่ทาให้ทั้งสองไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ และโฮลมส์ ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย หญิงสาวในความทรงจาของโฮลมส์ผู้นั้นมีชื่อว่า ไอรีน อัดเลอร์