Recommended
More Related Content
Viewers also liked
Similar to Reflection
Similar to Reflection (20)
More from Ariaty KiKi Sang
Reflection
- 1. ชื่อ นางสาวพรพิศ แพงสุ่ย ชื่อเล่น เก๋ เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2534 เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่6จากโรงเรียน เสลภูมิ สีที่ชอบ เขียว+ชมพู ที่อยู่ 55 หมู่7 ตาบล นาเมือง อาเภอ เสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 45120 E-mail: fatima_gae@admin.in.th เบอร์โทร 082-1715597 ปัจจุบัน กาลังศึกษา สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม คติ : ทา ในสิ่งที่รัก คือ อิสระ รัก ในสิ่งที่ทา คือ ความสุข
- 2. เป็นการฝึกให้นักศึกษาได้ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง และสามารถที่จะ เช่า Host มาทาเว็บไซต์ให้เป็นของตัวเองได้ บางคนรวมทั้งตัวดิฉันเองก็ได้เรียนรู้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกสาหรับการเช่าด้วยตนเอง เพื่อให้ทราบว่าถ้าเราต้องการมีพื้นที่ เว็บไซต์ของตัวเองเราต้องทาอย่างไรบ้าง ต้องไปจ่ายเงินที่ไหน และต้องรอรับข้อมูล ที่ทางบริษัทเขาจะส่งมาให้เราเพื่อให้เราสามารถจัดการเว็บไซต์ของเราได้ เป็นเรื่องที่ ดีมากค่ะที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีพื้นที่สาหรับทาเว็บหรืออะไรก็ได้ตามที่เรา ต้องการ
- 3. การวิเคราะห์และออกแบบเว็บไซต์ จากที่อาจารย์ให้ศึกษาค้นคว้าได้ด้วย ตนเอง ทาให้ดิฉันเข้าใจถึงการออกแบบเว็บไซต์ของแต่ละมหาลัยเพิ่มมากขึ้น และมากๆ จริงๆค่ะ เพราะว่าจากที่พูดตามตรงค่ะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ก่อนนี้ เวลาที่จะทาเว็บไซต์คือการเน้นไปที่หัวเว็บองค์ประกอบอื่นๆ ก็ทาตามที่ได้ดู มาจากเว็บไซต์ทั่วๆไปแต่ไม่เคยศึกษาถึงการวิเคราะห์เว็บไซต์จริงๆ จนได้วิชา นี้ที่เราสามารถศึกษาหลักการวิเคราะห์เว็บไซต์แบบเจาะลึกและเข้าใจ ความหมายเป็นอย่างดี การวางตาแหน่งของสิ่งต่างๆบนหน้าเว็บอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความสวยงามและน่าติดตาม
- 4. ดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับเว็บของมหาลัยต่างประเทศ และแบ่งกันศึกษากับ เพื่อนๆคนละ 5 เว็บไซต์แต่เว็บไซต์ที่ดิฉันศึกษาส่วนมากเป็นเว็บของประเทศ จีน ซึ่งการออกแบบเว็บไซต์ก็ไม่ต่างกันมากเน้นสีแดง และสาหรับแนวคิดที่ได้จาก การศึกษาในครั้งนี้คือ การทาเว็บไซต์อะไรก็ตามเราไม่ควรที่จะเน้นที่ความสวยงาม เพียงอย่างเดียว เราต้องจัดองค์ประกอบของเว็บไซต์ให้เหมาะสมเพราะ จะมีส่วนที่ ทาให้เว็บไซต์ของเราน่าติดตามและน่าที่จะเข้ามาศึกษามากขึ้น ไม่ควรจัดทาเว็บที่ เวลาจะเข้าดูข้อมูลก็หายาก ยากต่อการเข้าชม จะทาให้ไม่มีความน่าสนใจที่จะ ศึกษา ควรดูที่ความเหมาะสมว่าผู้เข้าชมส่วนมากเป็นใคร และเขามุ่งเน้นถึงการ เข้าถึงข้อมูลพวกไหนบ้าง เราเป็นคนจัดการเว็บไซต์เราก็จะนาไปปรับปรุงได้ เพราะให้ตรงใจกับความต้องการของผู้เข้าชม
- 5. การจัดทาหนังสือเล่มเล็ก เกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ รวบรวมเนื้อหาทุกอย่างเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ เมื่อดิฉันเปิดอ่านดู หนังสือเล่มเล็กแล้วทาให้เข้าใจถึงเนื้อหา หรือหลักการออกแบบเว็บไซต์มากขึ้น เมื่อเราไม่เข้าใจถึงเนื้อหาส่วนไหนเราก็สามารถที่จะเปิดอ่าน หรือดูได้ เพราะ เป็นหนังสือขนาดกะทัดรัด และรวบรวมเนื้อหาที่เรากลั่นรองมาสรุปไว้ใน หนังสือเล่มเล็ก สะดวกในการพกพาไปไหนก็ได้ เราต้องการเมื่อไหร่เราก็หยิบ ขึ้นมาอ่าน อีกประการหนึ่งได้เรียนรู้การออกแบบหน้าปกหนังสือ ว่าต้อง ออกแบบอย่างไรที่จะทาให้น่าสนใจเมื่อผู้คนมองเห็นแล้วจามารถดึงดูดให้หยิบ ขึ้นมาศึกษาได้
- 6. สาหรับการคัดเลือกเว็บไซต์เพื่อนาเสนอให้เพื่อนๆ ได้ดูกันไป ดิฉัน ได้ใช้เหตุผลที่ว่ากลุ่มของเราได้รับผิดชอบมหาลัยที่เป็นของต่างประเทศ แต่มี เพียง 1 มหาลัยที่เป็นมหาลัยของประเทศไทย ชื่อ กิ่งบงกฎ กลุ่มของเรา เล็งเห็นว่าเป็นมหาลัยที่มีความสมบูรณ์ในเรื่องขององค์ประกอบทุกอย่าง ไม่ ว่าจะเป็นการวางตาแหน่งของ โลโก้ การวางตาแหน่งของเนื้อหา หรือเป็นการวางตาแหน่งของลิขสิทธิ์ ก็ เหมาะสม รวมทั้งเนื้อหาของเว็บนี้ก็ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ เราจึงมั่นใจที่จะ เสนอแนะมหาลัยนี้ขึ้นมากนาเสนอ
- 8. การอ่านหนังสือ วิถีการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์หนังสือเล่มนี้เป็น หนังสือที่ดีมาก สอนทุกอย่างที่เกี่ยวกับครู มีแนวคิดให้เราได้เรียนรู้เมื่อ เราจะไปเป็นครู เราควรมีหลักการสอนอย่างไรบ้างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ ในเนื้อหา และสนใจที่จะเรียนกับเราได้อย่างมีความสุข หนังสือเล่มนี้สอน ให้เราเป็นครูที่ดีให้กับนักเรียนได้ มีหลักการสอนที่ล้วนแล้วแต่เป็น ประโยชน์ที่เราสามารถนาไปใช้ได้ในระยะเวลาที่เราเป็นครู ว่าเราจะสอน ศิษย์เราได้อย่างไรให้ได้ตามที่เราต้องการจะให้เป็น
- 9. เป็นสิ่งที่ดีมากที่ทาราให้นักศึกษาได้ทาเว็บไซต์ เพราะว่าถ้าเราไปเป็นครูสิ่งแรกที่ ทางโรงเรียนจะมอบหมายให้เราทาคือเว็บไซต์ของทางโรงเรียนนั้นๆ แน่นอน ถ้าเราไม่ทา ตั้งแต่การเช่า host เวลาที่เราไปที่โรงเรียนเราก็จะไม่รู้อะไรเลย แต่ตอนนี้เราได้วิชานี้มา เรียนมาศึกษาและลงมือในการทาเว็บไซต์แล้ว เราก็สามารถนาความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับการทา เว็บไซต์นี้ ไปพัฒนาเว็บไซต์ให้ทางโรงเรียนที่เราทาการสอนอยู่ได้อย่างง่ายดาย ส่วนการที่ให้ทาเป็นรายบุคคลก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะว่าถ้าให้ทากลุ่มละ 1 เว็บไซต์ ก็เหมือนกับงานกลุ่มเป็นงานเดี่ยวงานเดี่ยวเป็นงานกลุ่มคนที่ทาได้ก็ทาคนที่ไม่สนใจทา ไม่ได้ก็ไม่ทา สุดท้ายก็ทาไม่เป็นการที่ให้ทาเป็นรายบุคคลก็เพื่อที่จะฝึกฝนตนเอง จะได้ทา เป็นทุกคนถ้าทาไม่เป็นก็สามารถที่จะถามเพื่อนได้
- 10. สาหรับการวางแผนในการเรียนของดิฉันคือ การเรียนให้จบชั้นปริญญา ตรีสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา แล้วสามารถบรรจุครูได้ จากนั้นดิฉันก็จะหาทาง หรือ ย้ายไปอยู่บนดอยเพราะชอบการที่จะต้องดูแลเด็กที่ด้อยโอกาสไม่ว่าจะการ เดินทางหรือการศึกษา จากนั้นก็จะเรียนต่อปริญญาโท ควบคู่กับการทางาน ดิฉันชอบที่จะไปอยู่กับธรรมชาติที่มีผู้คนแม้จะไม่มากนักแต่ก็สบายใจค่ะ ไม่ต้อง อยู่กับชีวิตการเรียนหรือการทางานที่หรูหราขอแค่มีพออยู่พอใช้ไม่เดือดร้อน พอเรียนจบปริญญาโทแล้วก็จะตั้งใจทางานเละดูแลลูกศิษย์ของดิฉันให้เขารักเรา ที่เราเป็นตัวเราเอง
- 11. การวางแผนในการดาเนินชีวัตของดิฉันคือ การไปใช้ชีวิตบนดอยกับ เพื่อนและลูกศิษย์ที่น่ารัก แม้ว่าจะลาบากแต่ถ้าเราอยู่ด้วยใจที่รักก็ไม่น่าจะมี ปัญหาค่ะ เงินที่ได้จากตาแหน่งก็จะแบ่งเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งให้ตัวเองใช้ อีกส่วน แบ่งย่อยออกเป็นอีกสองส่วน 1 ส่วนส่งกลับบ้านให้พ่อแม่ดีใจ อีกส่วนดิฉันว่าจะ เอามาพัฒนาโรงเรียนและดูแลลูกศิษย์ ทาให้เขารักเราในสิ่งที่เราใส่ใจเขา ทาให้ เขามีความหวังที่จะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ถ้าไม่มีโอกาสได้เรียนเพราะที่บ้าน ไม่มีหรือว่าห่างไกลความเจริญเราก็จะสอนเขาในสิ่งที่เขาอยากรู้แม้ภาระจะหนัก แต่เราอยู่ด้วยใจค่ะ
- 12. สิ่งนี้ยังไม่ได้จัดทาค่ะ และยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย เลยยังตอบไม่ได้ ค่ะว่า จะต้องมีอะไรในเว็บไซต์นั้นๆ บ้าง ส่วนการให้นักศึกษาจัดทาเว็บหลักของแต่ละศูนย์แต่ละสาขาก็เป็นสิ่ง ที่ดีค่ะถ้าเราทาเป็นเราก็สามารถที่จะทาให้กับมหาลัยของเราได้แทนที่มหาลัย จะไปจ้างคนมาทาให้แต่อยากให้อาจารย์ในแต่ละภาคส่วนให้ความร่วมมือใน การที่จะให้ข้อมูลเพราะตัวตัวดิฉันเองได้จัดทาเว็บไซต์ของศูนย์แห่งหนึ่งมาแล้ว พอเราไปขอข้อมูลก้อโยนไปทางนั้นทางนี้ทาให้ในเว็บไซต์ไม่ค่อยมีอะไร นาเสนอเลยค่ะ
- 13. การจัดกระบวนการเรียนรู้แบบนี้เป็นสิ่งที่ดีค่ะที่ให้นักศึกษาได้ศึกษาหาความรู้ ด้วยตนเอง เพราะจะได้เข้าใจในเนื้อหาได้ง่ายถ้าเราศึกษาเองก็จะเข้าใจเอง แต่ว่า บางครั้งนะค่ะอาจารย์ก็ให้ศึกษาเยอะเกินเพราะว่าเทอมนี้เรียนเยอะมากค่ะอีกทั้งต้องออก นอกสถานที่เพื่อทดลองสอน 2 วันเรียนเต็มสามวันงานที่ออกมาบางครั้งมันไม่ได้ตรง ตามเป้าหมายที่วางไว้เพราะเวลาน้อยและงานเยอะ วิชานี้และวิชาอื่นๆค่ะ เรียนถึง 1 ทุ่ม ทุกวัน เลยคิดว่าถ้าได้งานน้อยลง ก็จะสามารถทางานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะว่า ถ้างานเยอะแล้วนักศึกษาเร่งทางานส่งแบบไม่ได้นอนเหมือนทุกวันนี้งานไหนส่งก่อนก็ทา ก่อนงานที่เลยทาให้งานที่ออกมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจทาเพราะการแชร์เวลาไปทางานอื่น ในรายวิชาอื่นส่งด้วยค่ะ แต่โดยรวมแล้วอะไรที่อาจารย์ให้ศึกษาก็เป็นสิ่งที่นักศึกษาก็ต้อง ทา เพื่ออนาคตของนักศึกษาเอง
- 14. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือการสัมภาษณ์ในครั้งแรกที่ส่งงาน เป็นการ กดดันมากค่ะ งานเสร็จทันส่ง 1 วัน พร้อมปริ้นก่อนนาเสนอ 1 ชั่วโมง แต่โดน รวมแล้วจาที่ได้ทาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันกับอาจารย์และเพื่อนๆใน กลุ่มก็ดี ค่ะ ใครรู้อะไรมาก็พูดให้กันฟัง เผื่อในบางเรื่องที่เราไม่รู้อาจารย์ก็ช่วยแนะนา ได้แล้วเราก็สามารถนาไปปรับใช้ได้เลย ทุกคนสามารถที่จะแสดงความคิดเห็น ได้อย่างเต็มที่เต็มความสามารถ เป็นการกล้าแสดงออกอีกอย่างหนึ่ง ที่ไม่ต้อง กลัวว่าจะผิดหรือถูก รู้แค่เพียงว่าเรารู้มากหรือรู้น้อยค่ะ เมื่อเราผิดคนที่รู้ก็ สามารถชี้แจงในสิ่งที่เราผิดให้ถูกได้ถ้าเรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นหรือ สามารถเสริมความคิดของเพื่อนหรืออาจารย์ได้
- 15. งานนี้ดิฉันชอบมากเลยค่ะ คือ สิ่งที่เราไม่รู้ทาให้เราเรียนรู้ได้หรือ ทาให้เรากระตือรือร้นที่จะศึกษาเพื่อที่จะมา REVIEW ให้เพื่อนๆได้ดูและ อาจารย์ได้ดูค่ะ ดิฉันชอบที่จะเรียนรู้ผ่านสื่อเพราะจะทาให้ได้ความรู้มาก ขึ้นและสนุกสนานในการลงมือทาได้ด้วยตนเอง แต่บางครั้งก็ยากนะค่ะ ใน สิ่งที่เราไม่รู้ และเราต้องแก้ไข นี่คือใช้เวลาและความพยายามสูงมาก แต่ ในเมื่อเราไม่รู้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคนทุกคนไม่รู้ดิฉันเลยเลือกที่จะข้า หาเพื่อนเพื่อสอบถามเพื่อนๆว่าต้องทาอย่างไรแก้ไขอย่างไรเมื่อเพื่อน แนะนามาเราก็ปฏิบัติตามทุกอย่างก็เรียบร้อยค่ะ