SlideShare a Scribd company logo
0
รายงาน
เรื่อง อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
เสนอ
คุณครูณัฐพล บัวพันธ์
จัดทาโดย
นางสาวจิราวรรณ สุดใจ
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6/2 เลขที่ 28
โรงเรียนส้มป่ อยพิทยาคม
ตาบลส้มป่ อย อาเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28
รายงานเล่มนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชคอมพิวเตอร์
1
คานา
รายงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี จึงจัดขึ้น
เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งในรายงานเล่มนี้มีทั้ง
เนื้อหาและความรู้ สาระต่างๆมากมาย หากรายงานเล่มนี้ผิดพลาดประการใด
ต้องขออภัยไว้ณ ที่นี้
จัดทาโดย
นางสาวจิราวรรร สุดใจ
(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2)
2
สารบัญ
เรื่อง หน้า
ประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 3
รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไป 5
อาชญากรคอมพิวเตอร์ 6
พระราชบัญญัติการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ ๒๕๕๐ 10
อ้างอิง 13
3
ประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
1.พวกมือใหม่หรือมือสมัครเล่นอยากทดลองความรู้ และส่วนใหญ่จะไม่ใช่ผู้ที่เป็น
อาชญากรโดยนิสัย ไม่ได้ดารงชีพ โดยการกระทาความผิด
2.นักเจาะข้อมูล ผู้ที่เจาะข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นพยายามหาความท้าทายทาง
เทคโนโลยีเข้าไปในเครือข่ายของผู้อื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
3.อาชญากรในรูปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเช่นพวกลักเล็กขโมยน้อยที่
พยายามขโมยบัตรเอทีเอ็ม ของผู้อื่น
4.อาชญากรมืออาชีพ คนพวกนี้จะดารงชีพจากการกระทาความผิด เช่น พวกที่มักจะใช้
ความรู้ทางเทคโนโลยีฉ้อโกง สถาบันการเงิน หรือการจารกรรมข้อมูลไปขาย เป็นต้น
5.พวกหัวรุนแรงคลั่งอุดมการณ์หรือลัทธิมักก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เพื่อ
อุดมการณ์ทางการเมืองเศรษฐกิจศาสนาหรือสิทธิมนุษยชนเป็นต้นความเสียหายที่
เกิดขึ้นจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์นั้นคงจะไม่ใช่มีผลกระทบเพียงแต่ความ
มั่นคงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงเท่านั้นแต่ยังมีผลกระทบไปถึงเรื่องความมั่นคงของ
ประเทศชาติเป็นการส่วนรวมทั้งความมั่นคงภายใน และภายนอกประเทศโดยเฉพาะ
ในส่วนที่เกี่ยวกับข่าวกรองหรือการจารกรรมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับความมั่นคงของ
ประเทศซึ่งในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิม เช่น
1.ในปัจจุบันความมั่นคงของรัฐนั้นมิใช่จะอยู่ในวงการทหารเพียงเท่านั้นธรรมดาก็
สามารถป้องกัน หรือทาลาย ความมั่นคงของประเทศได้
2.ในปัจจุบันการป้องกันประเทศอาจไม่ได้อยู่ที่พรมแดนอีกต่อไปแล้วแต่อยู่ที่ทา
อย่างไรจึงจะไม่ให้มีการคุกคามหรือทาลายโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ3.การทาจาร
กรรมในสมัยนี้มักจะใช้วิธีการทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเกี่ยวกับเทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์บนโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ ความผิดต่างๆล้วน
แต่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นการจารกรรมการก่อการร้ายการค้ายาเสพติดการแบ่งแยก
ดินแดนการฟอกเงินการโจมตีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศที่มีระบบ
คอมพิวเตอร์ควบคุมเช่นระบบจราจรหรือระบบรถไฟฟ้าเป็นต้นซึ่งทาให้เห็นว่า
4
ความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ความมั่นคงของประเทศและ
โครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศของชาติเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกจากกันได้อย่าง
เด็ดขาดการโจมตีผ่านทางระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศสามารถทาได้ด้วย
ความเร็วเกือบเท่ากับการเคลื่อนที่ความเร็วแสงซึ่งเหนือกว่าการเคลื่อนทัพทางบกหรือ
การโจมตีทางอากาศ
การลักลอบเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
การลักลอบนาเอาข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการสร้างความเสียหายต่อ
บุคคลและสังคมสารสนเทศโดย “ผู้ไม่ประสงค์ดี” ที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกนี้ ทาให้
เกิดปัญหาที่เรียกว่าอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime) ขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่
ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการขาด “จริยธรรมที่ดี” ซึ่ง
นอกจากเป็นการกระทาที่ขาดจริยธรรมที่ดีแล้ว ยังถือว่าเป็นการกระทาที่ผิดกฎหมาย
อีกด้วยหลายประเทศมีการออกกฎหมายรองรับเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรคอมพิวเตอร์
ขึ้นแล้วแต่อาจแตกต่างกันไปในประเด็นของเนื้อหาที่กระทาผิดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมและระดับความร้ายแรงของการก่ออาชญากรรมที่กระทาขึ้น
ด้วยสาหรับประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสาคัญเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
เช่นเดียวกับนานาประเทศและได้ออกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทาง
คอมพิวเตอร์ ซึ่งผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 23กันยายน 2546ใช้เป็นกฎหมายที่กา
หนดฐานความผิดเกี่ยวกับการกระทาต่อระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูล คอมพิวเตอร์
5
รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไป มีดังนี้
1. การลักลอบเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกลุ่มคนที่ลักลอบเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้
รับอนุญาตสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกันคือ
· แฮกเกอร์ (Hacker) คือกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถและต้องการทดสอบ
ความสามารถของตนเอง โดยไม่มีประสงค์ร้าย
· แครกเกอร์ (Cracker) คือกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถคล้ายกับ Hacker แต่กลุ่มนี้
จะเป็นผู้ที่ประสงค์จะทาลายและสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น
· สคริปต์คิดดี้ (Script Kiddy) คือกลุ่มเด็กหรือนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ โดยกลุ่มนี้จะมี
ความต้องการอยากทดลอง อยากรู้อยากเห็น โดยหลังจะก่อกวนผู้อื่น
2. การขโมยและทาลายอุปกรณ์ (Hardware Theft and Vandalism)
3. การขโมยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software Theft)
4. การก่อกวนระบบด้วยโปรแกรมประสงค์ร้าย (Malicious Code)
เช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ หนอนอินเตอร์เน็ต ม้าโทรจัน
5. การก่อกวนระบบด้วยสปายแวร์ (Spyware) สร้างความราคาญ
6. การก่อกวนระบบด้วยสแปมเมล์ (Spam Mail) เมล์โฆษณา
7. การหลอกลวงเหยื่อเพื่อล้วงเอาข้อมูลส่วนตัว (Phishing)
การรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์
1. การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส (Antivirus Program)
2. การใช้ระบบไฟล์วอลล์ (Firewall System)
3. การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
4. การสารองข้อมูล (Back Up)
6
"อาชญากรคอมพิวเตอร์"
เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่าห้องสมุดน่าจะเป็นแหล่งความรู้ที่มีข้อมูลมากมาย
มหาศาลที่สุดแต่ในปัจจุบันทุกอย่างได้เปลี่ยนไปอินเตอร์เน็ตเข้ามาแทนที่เป็น
แหล่งข้อมูลที่มหาศาลเพราะข้อมูลทั่วโลกถูกเก็บรวบรวมไว้ในอินเตอร์เน็ตโดย
จัดเก็บในรูปของเว็บไซต์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตการเปิดประตูบ้านออกสู่ถนนสาธารณะ
ย่อมเสี่ยงต่อผู้แปลกปลอมที่จะลักลอบเข้ามาในระบบดังนั้นระบบรักษาความปลอดภัย
ของเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสาคัญภายในเครือข่ายถ้ามีการเปิดประตูให้
บุคคลภายนอกเข้าได้ หรือเปิดช่องทางไว้ ย่อมเสี่ยงต่อการรักษาความปลอดภัยเช่นนา
เครือข่ายขององค์กรเชื่อมกับอินเทอร์เน็ตหรือมีช่องทางให้ใช้ติดต่อผ่านทางโมเด็มได้
ถึงแม้ว่าบางระบบอาจจะวางมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างดีแล้วมีผู้ดูแลระบบ
ที่เรียกว่า System Admin ระบบดังกล่าวก็ยังไม่วายที่จะมีผู้ก่อกวนที่เรียกว่า แฮกเกอร์
(Hacker) แฮกเกอร์ คือ ผู้ที่พยายามหาวิธีการ หรือหาช่องโหว่ของระบบ เพื่อแอบ
ลักลอบเข้าสู่ระบบ เพื่อล้วงความลับ หรือแอบดูข้อมูลข่าวสาร บางครั้งมีการทาลาย
ข้อมูลข่าวสาร หรือทาความเสียหายให้กับองค์กร เช่น การลบรายชื่อลูกหนี้การค้า การ
ลบรายชื่อผู้ใช้งานในระบบ ยิ่งในปัจจุบันระบบเครือข่ายเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ปัญหา
ในเรื่องอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในเรื่องแฮกเกอร์ก็มีให้เห็นมากขึ้น
ผู้ที่แอบลักลอบเข้าสู่ระบบจึงมาได้จากทั่วโลก และบางครั้งก็ยากที่จะดาเนินการใดๆ
ได้เว็บไซต์เป็นแหล่งรวบรวมความรู้มีทั้งของรัฐ บริษัท หน่วยงานเอกชน เว็บไซต์
ส่วนบุคคล ในแต่ละประเทศมีมากมายเป็นหมื่นๆ เว็บไซต์ แล้วทั่วโลกจะมีกี่เว็บไซต์?
การค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์เหล่านี้ จะต้องเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งตาม
บ้านเรือน บริษัท หน่วยงานต่างๆ จะมีการจัดหาคอมพิวเตอร์ไว้บริการ การศึกษาหา
ความรู้จึงเป็นสิ่งจาเป็น สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากอินเตอร์เน็ตได้ เทคโนโลยี
ทุกอย่างนั้น ให้ทั้งคุณและโทษสาหรับผู้ใช้ทั้งสิ้น ทั้งที่มาจากตัวเทคโนโลยีเอง และ
จากมนุษย์ที่ใช้เทคโนโลยี
7
ปัจจัยอย่างหลังนี่เอง ที่ก่อให้เกิดปัญหา"อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์" (Computer
Crime) อันเป็นปัญหาหลักที่นับว่ากาลังทวีความรุนแรงกว่าปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์
เสียด้วยซ้า ซึ่งแหล่งที่เป็นจุดโจมตีมากที่สุดอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ "อินเทอร์เน็ต" ที่เป็น
เช่นนี้เกิดจากความต้องการเก็บข้อมูลต่างๆทั้งในวงการธุรกิจและแวดวงราชการไว้ใน
คอมพิวเตอร์ แล้วสามารถติดต่อเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ จนกลายเป็นระบบ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกจานวนมาก และเปิดโอกาส
ให้สมาชิกคนหนึ่งในเครือข่ายนั้น นาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาก่อให้เกิดปัญหา
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์มากขึ้น
8
อาชญากรคอมพิวเตอร์ คือ ผู้กระทาผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็น
ส่วนสาคัญ มีการจาแนกไว้ดังนี้
1.Novice เป็นพวกเด็กหัดใหม่(newbies)ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้คอมพิวเตอร์มาได้ไม่นาน หรือ
อาจหมายถึง
พวกที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
2.Darnged person คือ พวกจิตวิปริต ผิดปกติ มีลักษณะเป็นพวกชอบความรุนแรง
และอันตรายมักเป็นพวกที่ชอบทาลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นบุคคลสิ่งของหรือ
สภาพแวดล้อม
3.Organized Crime พวกนี้เป็นกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกันทาผิดในลักษณะของ
องค์กรใหญ่ๆ ที่มีระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ที่ต่างกัน โดยส่วนหนึ่งอาจใช้เป็น
เครื่องหาข่าวสาร เหมือนองค์กรธุรกิจทั่วไป ส่วนหนึ่งก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัว
ประกอบสาคัญในการก่ออาชญากรรม หรือใช้เทคโนโลยี
กลบเกลื่อนร่องร่อย ให้รอดพ้นจากเจ้าหน้าที่
4.Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่
มาก กลุ่มนี้น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากนับวันจะทวีจานวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจับผิด
แล้วจับผิดเล่า บ่อยครั้ง
5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็นพวกที่ชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์
เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทนี้จะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับ
ระบบคอมพิวเตอร์ และความรู้ของเพื่อหาเงินมิชอบทางกฎหมาย
6.Dreamer พวกบ้าลัทธิ เป็นพวกที่คอยทาผิดเนื่องจากมีความเชื่อถือสิ่งหนึ่งสิ่งใด
อย่างรุ่นแรง
7.Cracker หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี จนสามารถ
ลักลอบเข้าสู่ระบบได้ โดยมีวัตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มัก
เข้าไปทาลายหรือลบไฟล์ หรือทาให้คอมพิวเตอร์ใช้การไม่ได้ รวมถึงทาลาย
ระบบปฏิบัติการ
9
คาว่า"อาชญากรคอมพิวเตอร์"นี้ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจร่างกฎหมายอาชญากรรม
คอมพิวเตอร์ให้คาจากัดความไว้ว่าคือการกระทาผิดทางกฎหมายโดยใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับ "การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล" อาทิ การ
นาเอาข้อมูลของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือขโมยเอา Passwords ของคนอื่น
มาเพื่อใช้กระทากิจกรรมอะไรต่างๆที่ไม่ดี
10
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ ๒๕๕๐ ซึ่งมีผล
บังคับใช้แล้วน่าจะเป็นความหวังของบรรดาเหยื่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในการใช้
เพื่อต่อสู้กับการถูกกระทาย่ายีโดยโจรคอมพิวเตอร์ได้๕ฐานความผิดอาชญากร
คอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ "ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดิอน
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ"
มาตรา๖ "ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทาขึ้นเป็น
การเฉพาะ ถ้านามาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความ
เสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
หรือทั้งจาทั้งปรับ"
มาตรา ๗ " ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี
หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ"
มาตรา ๘ "ผู้ใดกระทาด้วยประการใดๆ โดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิคส์เพื่อ
ดักรับไว้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์
และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไป
ใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือ
ทั้งจา ทั้งปรับ" คาอธิบาย ในกลุ่มความผิดนี้ เป็นเรื่องของแฮกเกอร์ (Hacker) คือ การ
เจาะเข้าไปใน"ระบบ"คอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติ
บุคคล ซึ่งระดับความร้ายแรงของโทษ ไล่ขึ้นไปจากการใช้ mail ของคนอื่น เข้าไปใน
ระบบ หรือเผยแพร่ mail ของคนอื่น การเข้าไปใน "ข้อมูล" คอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่น
จนกระทั่งการเข้าไปจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล โดยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์ เช่น
ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการค้า (Corporate Eepionage) ๒.ทาลายซอฟท์แวร์
11
มาตรา ๙ "ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด
หรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน
ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ"
มาตรา ๑๐ "ผู้ใดกระทาด้วยประการใดๆ โดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบ
คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทางาน
ตามปกติได้ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจา
ทั้งปรับ" คาอธิบาย เป็นลักษณะความผิดเช่นเดียวกับ ความผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ใน
ประมวลกฎหมายอาญา แต่กฎหมายฉบับนี้หมายถึงซอฟท์แวร์ หรือโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ ๓ ปกปิด หรือปลอมชื่อส่ง Mail
มาตรา ๑๑ "ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดย
ปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้
ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินไม่เกินหนึ่ง
แสนบาท" คาอธิบาย เป็นการส่งข้อมูล หรือ Mail โดยปกปิดหรือปลอมแปลงชื่อ
รบกวนบุคคลอื่น เช่น จดหมายลูกโซ่ ข้อมูลขยะต่างๆ ๔.ผู้ค้าซอฟท์แวร์ สนับสนุน
การทาผิด
มาตรา ๑๓ "ผู้ใดจาหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคาสั่งที่จัดทาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนาไปใช้เป็น
เครื่องมือ ในการกระทาความผิดตามมาตรา ๕ -๖ -๗ -๘ -๙ -๑๐ และ ๑๑ ต้องระวาง
โทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ"
คาอธิบาย เป็นความผิดที่ลงโทษผู้ค้าซอฟท์แวร์ ที่นาไปใช้เป็นเครื่องมือกระทา
ความผิดตาม มาตรา ๕ -๑๑ ๕.ตัดต่อ เผยแพร่ ภาพอนาจาร
12
มาตรา๑๖"ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้าง
ขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดย
ประการที่น่าจะทาให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความ
เสียหาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้ง
ปรับถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่ง เป็นการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทา
ไม่มีความผิด คาอธิบาย เป็นเรื่องของการตัดต่อ หรือตกแต่งภาพดารา ภาพบุคคลอื่น
ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในลักษณะอนาจาร และเผยแพร่ไปยังบุคคลที่สาม คาว่า
ประการที่น่าจะทาให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความ
เสียหายนั้น เพียงเห็นภาพก็น่าเชื่อแล้ว ไม่จาเป็นต้องยืนยันด้วยหลักฐาน หรือบุคคล
โดยทั่วไปจะต้องเข้าใจในทันทีว่าบุคคลที่สามนั้นจะต้องได้รับความเสียหายอย่าง
แน่นอน จากการเผยแพร่ภาพนั้น สาหรับผู้ที่ได้รับภาพ ไม่มีความผิด ยกเว้นจะ
Forward หรือเผยแพร่ต่อ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้ถึงแม้จะมี
กฎหมายที่ตราขึ้นไว้เฉพาะความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้วก็ตาม แต่ความผิดใน
ลักษณะนี้ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าซึ่งสามารถรู้ตัวผู้กระทาความผิดได้ในฉับพลัน
เช่นเดียวกับความผิดอาญาโดยทั่วไป นอกจาก "รอยเท้าอิเล็กทรอนิกส์" (electronic
footprints) อันได้แก่ IP หรือร่องรอยที่ทิ้งไว้ในซอฟท์แวร์
13
อ้างอิง
http://noopor1991.blogspot.com/p/8_10.html

More Related Content

What's hot

อรอนงค์ จันทร์โอ
อรอนงค์  จันทร์โออรอนงค์  จันทร์โอ
อรอนงค์ จันทร์โอmonly2monly
 
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์monly2monly
 
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้นความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
พัน พัน
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
Junjira Karaket
 
รายงานเอิน
รายงานเอินรายงานเอิน
รายงานเอิน
0827485895
 
รายงาน1111
รายงาน1111รายงาน1111
รายงาน1111
witch_4994
 
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
Ittidate Pepea
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
พัน พัน
 

What's hot (8)

อรอนงค์ จันทร์โอ
อรอนงค์  จันทร์โออรอนงค์  จันทร์โอ
อรอนงค์ จันทร์โอ
 
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้นความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
รายงานเอิน
รายงานเอินรายงานเอิน
รายงานเอิน
 
รายงาน1111
รายงาน1111รายงาน1111
รายงาน1111
 
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2
 
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์ประเภทของคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
 

Similar to รายงานOil

รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
4971
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
thidarat3333
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
พัน พัน
 
รายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรมรายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรมmonly2monly
 
รายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรมรายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรม
monly2monly
 
รายงาน1
รายงาน1รายงาน1
รายงาน1BenzLoveNok
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องJumBum
 
อาชญากรรม
อาชญากรรมอาชญากรรม
อาชญากรรม
Thidarat603
 
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์Tom-Eve Jutamat
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์Tom-Eve Jutamat
 
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์Tom-Eve Jutamat
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์suwinee8390
 
รายงานO
รายงานOรายงานO
รายงานO
Ig Suwadeenam
 
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์Thunyaluk
 
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์Thunyaluk
 
รายงานออม
รายงานออมรายงานออม
รายงานออม
monly2monly
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องkhag601
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องkook603
 
นายธนาวัตร นวลละออง
นายธนาวัตร นวลละอองนายธนาวัตร นวลละออง
นายธนาวัตร นวลละอองSirisak Promtip
 

Similar to รายงานOil (20)

รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
 
อาชญากรรมคอมจ
อาชญากรรมคอมจอาชญากรรมคอมจ
อาชญากรรมคอมจ
 
รายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรมรายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรม
 
รายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรมรายงานอาชญญากรรม
รายงานอาชญญากรรม
 
รายงาน1
รายงาน1รายงาน1
รายงาน1
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
อาชญากรรม
อาชญากรรมอาชญากรรม
อาชญากรรม
 
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์อาชญากรรมคอมพิเตอร์
อาชญากรรมคอมพิเตอร์
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
รายงานO
รายงานOรายงานO
รายงานO
 
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
 
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
รายงานอาชญากรรม ธัญลักษณ์
 
รายงานออม
รายงานออมรายงานออม
รายงานออม
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ 4 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
นายธนาวัตร นวลละออง
นายธนาวัตร นวลละอองนายธนาวัตร นวลละออง
นายธนาวัตร นวลละออง
 

รายงานOil

  • 1. 0 รายงาน เรื่อง อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เสนอ คุณครูณัฐพล บัวพันธ์ จัดทาโดย นางสาวจิราวรรณ สุดใจ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6/2 เลขที่ 28 โรงเรียนส้มป่ อยพิทยาคม ตาบลส้มป่ อย อาเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28 รายงานเล่มนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชคอมพิวเตอร์
  • 2. 1 คานา รายงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี จึงจัดขึ้น เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งในรายงานเล่มนี้มีทั้ง เนื้อหาและความรู้ สาระต่างๆมากมาย หากรายงานเล่มนี้ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ณ ที่นี้ จัดทาโดย นางสาวจิราวรรร สุดใจ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2)
  • 3. 2 สารบัญ เรื่อง หน้า ประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 3 รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไป 5 อาชญากรคอมพิวเตอร์ 6 พระราชบัญญัติการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ ๒๕๕๐ 10 อ้างอิง 13
  • 4. 3 ประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 1.พวกมือใหม่หรือมือสมัครเล่นอยากทดลองความรู้ และส่วนใหญ่จะไม่ใช่ผู้ที่เป็น อาชญากรโดยนิสัย ไม่ได้ดารงชีพ โดยการกระทาความผิด 2.นักเจาะข้อมูล ผู้ที่เจาะข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นพยายามหาความท้าทายทาง เทคโนโลยีเข้าไปในเครือข่ายของผู้อื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 3.อาชญากรในรูปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเช่นพวกลักเล็กขโมยน้อยที่ พยายามขโมยบัตรเอทีเอ็ม ของผู้อื่น 4.อาชญากรมืออาชีพ คนพวกนี้จะดารงชีพจากการกระทาความผิด เช่น พวกที่มักจะใช้ ความรู้ทางเทคโนโลยีฉ้อโกง สถาบันการเงิน หรือการจารกรรมข้อมูลไปขาย เป็นต้น 5.พวกหัวรุนแรงคลั่งอุดมการณ์หรือลัทธิมักก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เพื่อ อุดมการณ์ทางการเมืองเศรษฐกิจศาสนาหรือสิทธิมนุษยชนเป็นต้นความเสียหายที่ เกิดขึ้นจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์นั้นคงจะไม่ใช่มีผลกระทบเพียงแต่ความ มั่นคงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงเท่านั้นแต่ยังมีผลกระทบไปถึงเรื่องความมั่นคงของ ประเทศชาติเป็นการส่วนรวมทั้งความมั่นคงภายใน และภายนอกประเทศโดยเฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวกับข่าวกรองหรือการจารกรรมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับความมั่นคงของ ประเทศซึ่งในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิม เช่น 1.ในปัจจุบันความมั่นคงของรัฐนั้นมิใช่จะอยู่ในวงการทหารเพียงเท่านั้นธรรมดาก็ สามารถป้องกัน หรือทาลาย ความมั่นคงของประเทศได้ 2.ในปัจจุบันการป้องกันประเทศอาจไม่ได้อยู่ที่พรมแดนอีกต่อไปแล้วแต่อยู่ที่ทา อย่างไรจึงจะไม่ให้มีการคุกคามหรือทาลายโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ3.การทาจาร กรรมในสมัยนี้มักจะใช้วิธีการทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเกี่ยวกับเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์บนโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ ความผิดต่างๆล้วน แต่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นการจารกรรมการก่อการร้ายการค้ายาเสพติดการแบ่งแยก ดินแดนการฟอกเงินการโจมตีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศที่มีระบบ คอมพิวเตอร์ควบคุมเช่นระบบจราจรหรือระบบรถไฟฟ้าเป็นต้นซึ่งทาให้เห็นว่า
  • 5. 4 ความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ความมั่นคงของประเทศและ โครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศของชาติเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกจากกันได้อย่าง เด็ดขาดการโจมตีผ่านทางระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศสามารถทาได้ด้วย ความเร็วเกือบเท่ากับการเคลื่อนที่ความเร็วแสงซึ่งเหนือกว่าการเคลื่อนทัพทางบกหรือ การโจมตีทางอากาศ การลักลอบเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การลักลอบนาเอาข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการสร้างความเสียหายต่อ บุคคลและสังคมสารสนเทศโดย “ผู้ไม่ประสงค์ดี” ที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกนี้ ทาให้ เกิดปัญหาที่เรียกว่าอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime) ขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการขาด “จริยธรรมที่ดี” ซึ่ง นอกจากเป็นการกระทาที่ขาดจริยธรรมที่ดีแล้ว ยังถือว่าเป็นการกระทาที่ผิดกฎหมาย อีกด้วยหลายประเทศมีการออกกฎหมายรองรับเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรคอมพิวเตอร์ ขึ้นแล้วแต่อาจแตกต่างกันไปในประเด็นของเนื้อหาที่กระทาผิดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมและระดับความร้ายแรงของการก่ออาชญากรรมที่กระทาขึ้น ด้วยสาหรับประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสาคัญเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับนานาประเทศและได้ออกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทาง คอมพิวเตอร์ ซึ่งผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 23กันยายน 2546ใช้เป็นกฎหมายที่กา หนดฐานความผิดเกี่ยวกับการกระทาต่อระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูล คอมพิวเตอร์
  • 6. 5 รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไป มีดังนี้ 1. การลักลอบเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกลุ่มคนที่ลักลอบเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้ รับอนุญาตสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกันคือ · แฮกเกอร์ (Hacker) คือกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถและต้องการทดสอบ ความสามารถของตนเอง โดยไม่มีประสงค์ร้าย · แครกเกอร์ (Cracker) คือกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถคล้ายกับ Hacker แต่กลุ่มนี้ จะเป็นผู้ที่ประสงค์จะทาลายและสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น · สคริปต์คิดดี้ (Script Kiddy) คือกลุ่มเด็กหรือนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ โดยกลุ่มนี้จะมี ความต้องการอยากทดลอง อยากรู้อยากเห็น โดยหลังจะก่อกวนผู้อื่น 2. การขโมยและทาลายอุปกรณ์ (Hardware Theft and Vandalism) 3. การขโมยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software Theft) 4. การก่อกวนระบบด้วยโปรแกรมประสงค์ร้าย (Malicious Code) เช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ หนอนอินเตอร์เน็ต ม้าโทรจัน 5. การก่อกวนระบบด้วยสปายแวร์ (Spyware) สร้างความราคาญ 6. การก่อกวนระบบด้วยสแปมเมล์ (Spam Mail) เมล์โฆษณา 7. การหลอกลวงเหยื่อเพื่อล้วงเอาข้อมูลส่วนตัว (Phishing) การรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ 1. การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส (Antivirus Program) 2. การใช้ระบบไฟล์วอลล์ (Firewall System) 3. การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) 4. การสารองข้อมูล (Back Up)
  • 7. 6 "อาชญากรคอมพิวเตอร์" เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่าห้องสมุดน่าจะเป็นแหล่งความรู้ที่มีข้อมูลมากมาย มหาศาลที่สุดแต่ในปัจจุบันทุกอย่างได้เปลี่ยนไปอินเตอร์เน็ตเข้ามาแทนที่เป็น แหล่งข้อมูลที่มหาศาลเพราะข้อมูลทั่วโลกถูกเก็บรวบรวมไว้ในอินเตอร์เน็ตโดย จัดเก็บในรูปของเว็บไซต์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตการเปิดประตูบ้านออกสู่ถนนสาธารณะ ย่อมเสี่ยงต่อผู้แปลกปลอมที่จะลักลอบเข้ามาในระบบดังนั้นระบบรักษาความปลอดภัย ของเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสาคัญภายในเครือข่ายถ้ามีการเปิดประตูให้ บุคคลภายนอกเข้าได้ หรือเปิดช่องทางไว้ ย่อมเสี่ยงต่อการรักษาความปลอดภัยเช่นนา เครือข่ายขององค์กรเชื่อมกับอินเทอร์เน็ตหรือมีช่องทางให้ใช้ติดต่อผ่านทางโมเด็มได้ ถึงแม้ว่าบางระบบอาจจะวางมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างดีแล้วมีผู้ดูแลระบบ ที่เรียกว่า System Admin ระบบดังกล่าวก็ยังไม่วายที่จะมีผู้ก่อกวนที่เรียกว่า แฮกเกอร์ (Hacker) แฮกเกอร์ คือ ผู้ที่พยายามหาวิธีการ หรือหาช่องโหว่ของระบบ เพื่อแอบ ลักลอบเข้าสู่ระบบ เพื่อล้วงความลับ หรือแอบดูข้อมูลข่าวสาร บางครั้งมีการทาลาย ข้อมูลข่าวสาร หรือทาความเสียหายให้กับองค์กร เช่น การลบรายชื่อลูกหนี้การค้า การ ลบรายชื่อผู้ใช้งานในระบบ ยิ่งในปัจจุบันระบบเครือข่ายเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ปัญหา ในเรื่องอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะในเรื่องแฮกเกอร์ก็มีให้เห็นมากขึ้น ผู้ที่แอบลักลอบเข้าสู่ระบบจึงมาได้จากทั่วโลก และบางครั้งก็ยากที่จะดาเนินการใดๆ ได้เว็บไซต์เป็นแหล่งรวบรวมความรู้มีทั้งของรัฐ บริษัท หน่วยงานเอกชน เว็บไซต์ ส่วนบุคคล ในแต่ละประเทศมีมากมายเป็นหมื่นๆ เว็บไซต์ แล้วทั่วโลกจะมีกี่เว็บไซต์? การค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์เหล่านี้ จะต้องเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งตาม บ้านเรือน บริษัท หน่วยงานต่างๆ จะมีการจัดหาคอมพิวเตอร์ไว้บริการ การศึกษาหา ความรู้จึงเป็นสิ่งจาเป็น สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากอินเตอร์เน็ตได้ เทคโนโลยี ทุกอย่างนั้น ให้ทั้งคุณและโทษสาหรับผู้ใช้ทั้งสิ้น ทั้งที่มาจากตัวเทคโนโลยีเอง และ จากมนุษย์ที่ใช้เทคโนโลยี
  • 8. 7 ปัจจัยอย่างหลังนี่เอง ที่ก่อให้เกิดปัญหา"อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์" (Computer Crime) อันเป็นปัญหาหลักที่นับว่ากาลังทวีความรุนแรงกว่าปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ เสียด้วยซ้า ซึ่งแหล่งที่เป็นจุดโจมตีมากที่สุดอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ "อินเทอร์เน็ต" ที่เป็น เช่นนี้เกิดจากความต้องการเก็บข้อมูลต่างๆทั้งในวงการธุรกิจและแวดวงราชการไว้ใน คอมพิวเตอร์ แล้วสามารถติดต่อเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ จนกลายเป็นระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกจานวนมาก และเปิดโอกาส ให้สมาชิกคนหนึ่งในเครือข่ายนั้น นาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาก่อให้เกิดปัญหา อาชญากรรมคอมพิวเตอร์มากขึ้น
  • 9. 8 อาชญากรคอมพิวเตอร์ คือ ผู้กระทาผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็น ส่วนสาคัญ มีการจาแนกไว้ดังนี้ 1.Novice เป็นพวกเด็กหัดใหม่(newbies)ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้คอมพิวเตอร์มาได้ไม่นาน หรือ อาจหมายถึง พวกที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2.Darnged person คือ พวกจิตวิปริต ผิดปกติ มีลักษณะเป็นพวกชอบความรุนแรง และอันตรายมักเป็นพวกที่ชอบทาลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นบุคคลสิ่งของหรือ สภาพแวดล้อม 3.Organized Crime พวกนี้เป็นกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกันทาผิดในลักษณะของ องค์กรใหญ่ๆ ที่มีระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ที่ต่างกัน โดยส่วนหนึ่งอาจใช้เป็น เครื่องหาข่าวสาร เหมือนองค์กรธุรกิจทั่วไป ส่วนหนึ่งก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัว ประกอบสาคัญในการก่ออาชญากรรม หรือใช้เทคโนโลยี กลบเกลื่อนร่องร่อย ให้รอดพ้นจากเจ้าหน้าที่ 4.Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ มาก กลุ่มนี้น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากนับวันจะทวีจานวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจับผิด แล้วจับผิดเล่า บ่อยครั้ง 5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็นพวกที่ชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทนี้จะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับ ระบบคอมพิวเตอร์ และความรู้ของเพื่อหาเงินมิชอบทางกฎหมาย 6.Dreamer พวกบ้าลัทธิ เป็นพวกที่คอยทาผิดเนื่องจากมีความเชื่อถือสิ่งหนึ่งสิ่งใด อย่างรุ่นแรง 7.Cracker หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี จนสามารถ ลักลอบเข้าสู่ระบบได้ โดยมีวัตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มัก เข้าไปทาลายหรือลบไฟล์ หรือทาให้คอมพิวเตอร์ใช้การไม่ได้ รวมถึงทาลาย ระบบปฏิบัติการ
  • 10. 9 คาว่า"อาชญากรคอมพิวเตอร์"นี้ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจร่างกฎหมายอาชญากรรม คอมพิวเตอร์ให้คาจากัดความไว้ว่าคือการกระทาผิดทางกฎหมายโดยใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับ "การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล" อาทิ การ นาเอาข้อมูลของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือขโมยเอา Passwords ของคนอื่น มาเพื่อใช้กระทากิจกรรมอะไรต่างๆที่ไม่ดี
  • 11. 10 พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ ๒๕๕๐ ซึ่งมีผล บังคับใช้แล้วน่าจะเป็นความหวังของบรรดาเหยื่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในการใช้ เพื่อต่อสู้กับการถูกกระทาย่ายีโดยโจรคอมพิวเตอร์ได้๕ฐานความผิดอาชญากร คอมพิวเตอร์ มาตรา ๕ "ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดิอน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ" มาตรา๖ "ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทาขึ้นเป็น การเฉพาะ ถ้านามาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ" มาตรา ๗ " ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง โดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ" มาตรา ๘ "ผู้ใดกระทาด้วยประการใดๆ โดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิคส์เพื่อ ดักรับไว้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไป ใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือ ทั้งจา ทั้งปรับ" คาอธิบาย ในกลุ่มความผิดนี้ เป็นเรื่องของแฮกเกอร์ (Hacker) คือ การ เจาะเข้าไปใน"ระบบ"คอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติ บุคคล ซึ่งระดับความร้ายแรงของโทษ ไล่ขึ้นไปจากการใช้ mail ของคนอื่น เข้าไปใน ระบบ หรือเผยแพร่ mail ของคนอื่น การเข้าไปใน "ข้อมูล" คอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่น จนกระทั่งการเข้าไปจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล โดยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์ เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการค้า (Corporate Eepionage) ๒.ทาลายซอฟท์แวร์
  • 12. 11 มาตรา ๙ "ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ" มาตรา ๑๐ "ผู้ใดกระทาด้วยประการใดๆ โดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบ คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทางาน ตามปกติได้ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ" คาอธิบาย เป็นลักษณะความผิดเช่นเดียวกับ ความผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ใน ประมวลกฎหมายอาญา แต่กฎหมายฉบับนี้หมายถึงซอฟท์แวร์ หรือโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ๓ ปกปิด หรือปลอมชื่อส่ง Mail มาตรา ๑๑ "ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดย ปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินไม่เกินหนึ่ง แสนบาท" คาอธิบาย เป็นการส่งข้อมูล หรือ Mail โดยปกปิดหรือปลอมแปลงชื่อ รบกวนบุคคลอื่น เช่น จดหมายลูกโซ่ ข้อมูลขยะต่างๆ ๔.ผู้ค้าซอฟท์แวร์ สนับสนุน การทาผิด มาตรา ๑๓ "ผู้ใดจาหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคาสั่งที่จัดทาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนาไปใช้เป็น เครื่องมือ ในการกระทาความผิดตามมาตรา ๕ -๖ -๗ -๘ -๙ -๑๐ และ ๑๑ ต้องระวาง โทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ" คาอธิบาย เป็นความผิดที่ลงโทษผู้ค้าซอฟท์แวร์ ที่นาไปใช้เป็นเครื่องมือกระทา ความผิดตาม มาตรา ๕ -๑๑ ๕.ตัดต่อ เผยแพร่ ภาพอนาจาร
  • 13. 12 มาตรา๑๖"ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้าง ขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดย ประการที่น่าจะทาให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความ เสียหาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้ง ปรับถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่ง เป็นการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทา ไม่มีความผิด คาอธิบาย เป็นเรื่องของการตัดต่อ หรือตกแต่งภาพดารา ภาพบุคคลอื่น ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในลักษณะอนาจาร และเผยแพร่ไปยังบุคคลที่สาม คาว่า ประการที่น่าจะทาให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความ เสียหายนั้น เพียงเห็นภาพก็น่าเชื่อแล้ว ไม่จาเป็นต้องยืนยันด้วยหลักฐาน หรือบุคคล โดยทั่วไปจะต้องเข้าใจในทันทีว่าบุคคลที่สามนั้นจะต้องได้รับความเสียหายอย่าง แน่นอน จากการเผยแพร่ภาพนั้น สาหรับผู้ที่ได้รับภาพ ไม่มีความผิด ยกเว้นจะ Forward หรือเผยแพร่ต่อ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้ถึงแม้จะมี กฎหมายที่ตราขึ้นไว้เฉพาะความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้วก็ตาม แต่ความผิดใน ลักษณะนี้ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าซึ่งสามารถรู้ตัวผู้กระทาความผิดได้ในฉับพลัน เช่นเดียวกับความผิดอาญาโดยทั่วไป นอกจาก "รอยเท้าอิเล็กทรอนิกส์" (electronic footprints) อันได้แก่ IP หรือร่องรอยที่ทิ้งไว้ในซอฟท์แวร์