การทา LAB วันที่ 10 ธันวาคม 2554




รูปที่ 1 : LAB PLC Digital Practices               รูปที่ 2 : LAB PLC Analog Practices




                           รูปที่ 3 : LAB Forward-Reward Motor




รูปที่ 4 : LAB Star-Delta Motor Starter          รูปที่ 5 : LAB Cabinet Equipments Practices
รูปที่ 6 : Circuit Diagram
LAB Star-Delta Motor Starter




  รูปที่ 7 : Circuit Diagram
 LAB PLC Digital Practices




 รูปที่ 8 : Circuit Diagram
LAB PLC Analog Practices
รูปที่ 9 : Circuit Diagram
LAB Cabinet Equipments Practices




     รูปที่ 10 : Circuit Diagram
   L A B F o rw a rd -R e v e r se M o to r
วันนี้ได้ทา LAB ทั้ง 5 LAB ดังนี้
- LABORATORY 1 : STAR-DELTA MOTOR STARTER
- LABORATORY 2 : FORWARD-REVERSE MOTOR
- LABORATORY 3 : PLC DIGITAL PRACTICES
- LABORATORY 4 : PLC ANALOG PRACTICES
- LABORATORY 5 : CABINET EQUIPMENTS PRACTICES

     การทา LAB ในวันนี้เป็นการทา LAB Wiring ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์วงจรเพื่อเดิน
สายไฟ และการเดินสายไฟในวงจรรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นระบบ ระเบียบ เพื่อให้เกิด
ความเรียบร้อยและรู้จักการเดินสายไฟอย่างถู กต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และ
ความเสียหายต่ออุปกรณ์และเกิดอั นตรายกับผู้ใช้




            รูปที่ 11 และ 12 : ภาพตัวอย่างของวงจรขณะยัง ไม่เดินสายไฟ
โดยมีขั้นตอนการทางานดังนี้
        1. อ่านคู่มือการทา LAB ของแต่ละ LAB ที่ตนเองทา และทาความเข้าใจใน
คาสั่งของ LAB นั้น
        2. ศึกษาอุปกรณ์การทดลอง ดูตาแหน่งของการติดตั้ง และตรวจดูความ
เรียบร้อย ดูอุปกรณ์ว่าครบตามลิสต์หรือไม่
               อุ     ว่
        3. ศึกษา Circuit Diagram ของการทดลอง ดูสัญลักษณ์ต่างๆในวงจร ตาแหน่ง
ของอุปกรณ์แต่ละตัว และวิเคราะห์การเดินสายไฟในวงจร
        4. ทาการติดตั้ง Tag Name ของสายไฟ ประจาตาแหน่งนั้นๆของอุปกรณ์ ซึ่งดู
ชื่อของ Tag Name ได้จาก Circuit Diagram
        5. เริ่มจากต่อสายไฟในส่วนหลักของวงจร โดยการเลือกใช้สายไฟขนาดใหญ่
ตาม Circuit Diagram และต่อสายไฟขนาดเล็ก เข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ตาม Circuit
Diagram (ควรทาทีละส่วน และควรทามาร์คในส่วนที่ต่อสายไฟแล้ว)
        - การเดินสายไฟต้องเดินตามราง โดยต้องไม่เดินลัดลากผ่านในส่วนของวงจร
และสายไฟที่ต่อกับอุปกรณ์นั้นจะต้องไม่สั้นและยาวเกินไป ในการเดินสายไฟไป
ตามรางนั้นจะต้องมีส่วนของการหักมุมตามมุมของราง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
        6. ตรวจสอบความถูกต้องของการเดินสายไฟ และความเรียบร้อย เช่น สายไฟ
ที่ต่อเข้ากับอุปกรณ์มีส่วนของทองแดงโผล่มาหรือไม่ ส่วนของทองแดงที่ปลอกนั้น
         ากั                             มาหรื
ต้องใส่หางปลา และสายไฟที่ต่อเข้ามี Tag Name ตรงกับชื่ออุปกรณ์หรือเปล่า




        รูปที่ 13 และ 14 : ภาพตัวอย่างของวงจรขณะเดินสายไฟเสร็ จ
          ปที
สัญลักษณ์อุปกรณ์ในวงจร

Circuit Breaker                      Ventilation Fan



Control Fuse                         Limit Switch NC



Contactor NO                         Limit Switch NO




Contactor NC                         Transfomer



Push Button NC                       Lighting




Push Button NO                       Motor 3 Phase



Selector Switch
3 Position
ภาพการทางาน

Lab Wiring 10/12/54

  • 1.
    การทา LAB วันที่10 ธันวาคม 2554 รูปที่ 1 : LAB PLC Digital Practices รูปที่ 2 : LAB PLC Analog Practices รูปที่ 3 : LAB Forward-Reward Motor รูปที่ 4 : LAB Star-Delta Motor Starter รูปที่ 5 : LAB Cabinet Equipments Practices
  • 2.
    รูปที่ 6 :Circuit Diagram LAB Star-Delta Motor Starter รูปที่ 7 : Circuit Diagram LAB PLC Digital Practices รูปที่ 8 : Circuit Diagram LAB PLC Analog Practices
  • 3.
    รูปที่ 9 :Circuit Diagram LAB Cabinet Equipments Practices รูปที่ 10 : Circuit Diagram L A B F o rw a rd -R e v e r se M o to r
  • 4.
    วันนี้ได้ทา LAB ทั้ง5 LAB ดังนี้ - LABORATORY 1 : STAR-DELTA MOTOR STARTER - LABORATORY 2 : FORWARD-REVERSE MOTOR - LABORATORY 3 : PLC DIGITAL PRACTICES - LABORATORY 4 : PLC ANALOG PRACTICES - LABORATORY 5 : CABINET EQUIPMENTS PRACTICES การทา LAB ในวันนี้เป็นการทา LAB Wiring ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์วงจรเพื่อเดิน สายไฟ และการเดินสายไฟในวงจรรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นระบบ ระเบียบ เพื่อให้เกิด ความเรียบร้อยและรู้จักการเดินสายไฟอย่างถู กต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และ ความเสียหายต่ออุปกรณ์และเกิดอั นตรายกับผู้ใช้ รูปที่ 11 และ 12 : ภาพตัวอย่างของวงจรขณะยัง ไม่เดินสายไฟ
  • 5.
    โดยมีขั้นตอนการทางานดังนี้ 1. อ่านคู่มือการทา LAB ของแต่ละ LAB ที่ตนเองทา และทาความเข้าใจใน คาสั่งของ LAB นั้น 2. ศึกษาอุปกรณ์การทดลอง ดูตาแหน่งของการติดตั้ง และตรวจดูความ เรียบร้อย ดูอุปกรณ์ว่าครบตามลิสต์หรือไม่ อุ ว่ 3. ศึกษา Circuit Diagram ของการทดลอง ดูสัญลักษณ์ต่างๆในวงจร ตาแหน่ง ของอุปกรณ์แต่ละตัว และวิเคราะห์การเดินสายไฟในวงจร 4. ทาการติดตั้ง Tag Name ของสายไฟ ประจาตาแหน่งนั้นๆของอุปกรณ์ ซึ่งดู ชื่อของ Tag Name ได้จาก Circuit Diagram 5. เริ่มจากต่อสายไฟในส่วนหลักของวงจร โดยการเลือกใช้สายไฟขนาดใหญ่ ตาม Circuit Diagram และต่อสายไฟขนาดเล็ก เข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ตาม Circuit Diagram (ควรทาทีละส่วน และควรทามาร์คในส่วนที่ต่อสายไฟแล้ว) - การเดินสายไฟต้องเดินตามราง โดยต้องไม่เดินลัดลากผ่านในส่วนของวงจร และสายไฟที่ต่อกับอุปกรณ์นั้นจะต้องไม่สั้นและยาวเกินไป ในการเดินสายไฟไป ตามรางนั้นจะต้องมีส่วนของการหักมุมตามมุมของราง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย 6. ตรวจสอบความถูกต้องของการเดินสายไฟ และความเรียบร้อย เช่น สายไฟ ที่ต่อเข้ากับอุปกรณ์มีส่วนของทองแดงโผล่มาหรือไม่ ส่วนของทองแดงที่ปลอกนั้น ากั มาหรื ต้องใส่หางปลา และสายไฟที่ต่อเข้ามี Tag Name ตรงกับชื่ออุปกรณ์หรือเปล่า รูปที่ 13 และ 14 : ภาพตัวอย่างของวงจรขณะเดินสายไฟเสร็ จ ปที
  • 6.
    สัญลักษณ์อุปกรณ์ในวงจร Circuit Breaker Ventilation Fan Control Fuse Limit Switch NC Contactor NO Limit Switch NO Contactor NC Transfomer Push Button NC Lighting Push Button NO Motor 3 Phase Selector Switch 3 Position
  • 7.