สัญญากรณ์เชิงวัตถุจาวาสคริปต์ (JSON : JavaScript Object Notation) เจสันเป็นไวยากรณ์ที่ใช้สำหรับจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อความเหมือนกับเอ็กซ์เอ็มแอล(XML) มีขนาดเล็ก เร็ว และจำแนกได้ง่ายกว่าเอ็กซ์เอ็มแอล เป็นไวยากรณ์การรับส่งข้อความที่ไม่ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม(Independent Platform) หมายความว่า ทุกๆภาษาสามารถใช้ไวยากรณ์นี้ในการแลกเปลี่ยนข้อความระหว่างกันได้ ตัวอย่างของไวยากรณ์เจสันแสดงดังรูปต่อไปนี้ จากรูปแสดงถึงออปเจ็ค(Object) "employees" ที่เป็นอาร์เรย์(Array) ซึ่งภายในออปเจ็ค "employees" ประกอบไปด้วยระเบียน(Record) 3 ระเบียนหรือออปเจ็ค 3 ออปเจ็ค ใน 1 ออปเจ็คจะประกอบไปด้วยคู่ของคีย์กับค่าข้อมูล ("Key" : "Value") การเข้าถึงข้อมูลในแต่ละระเบียนนั้นเราจะอ้างผ่านคีย์ของระเบียนนั้นๆ

1. By IamUser773

2. JSON ย่อมาจาก JavaScrip Object Notation หรือสัญญากรณ์เชิงวัตถุจาวาสคิป
โดยjsonใช้สาหรับจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อความเหมือนภาษา xml โดยข้อดีของ
มันก็คือ มีขนาดเล็ก รวดเร็ว และจาแนกได้ง่าย โดยไม่ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มใด
แพลตฟอร์มหนึ่ง (ใช้ได้กับทุกแพลตฟอร์มนั่นเอง)

3. เราลองมาสร้างข้อความแบบ json ง่ายๆกันดูนะครับ โดยให้เรานึกถึง
Array และ hashmap เอาไว้นะครับ โดยArray ก็คือการที่เราเอาข้อมูล
มาเก็บไว้ในตารางอาเรย์ใช่ไหมครับ ตัวอย่างเช่น
String[] normalArray = {“A”,”B”,”C”,”D”}

4. ส่วน hashmap ก็คือข้อมูลแบบ Array ที่ถูกขยายด้วย keyใช่ไหมครับ
Map = new HashMap<String,String>;
Map.put(“A”,”A”);
Map.put(“B”,”B”);
Map.put(“C”,”C”);
Key หมายความว่าเมื่อมีการอ้างถึง key ให้ทาการอ้างถึงValueของมัน

5. โดย json ก็คือการนาทั้ง 2 อย่างมาผสมกันนั่นเองโดยใช้ [] (ก้ามปู) แทน Array
และใช้{}(ปีกกา) แทน HashMap

6. โดยตัวอย่างของ json จะเป็นแบบนี้
{
“image”:[
“image1”,
“image2”,
“image3”
]
}
{
“image”:{
“image1”:”image1”,
“image2”: “image2”,
“image3”: “image3”
}
}
เก็บแบบ Array เก็บแบบ HashMap

7. หรือจะเก็บแบบ Array + HashMap ก็ได้
{"employees":[
{"firstName":"John", "lastName":"Doe"},
{"firstName":"Anna", "lastName":"Smith"},
{"firstName":"Peter", "lastName":"Jones"}
]}

8. ส่วนวิธีการเรียกใช้งานก็แล้วแต่ภาษาที่เพื่อนๆเขียนนะครับ

9. จบแล้วนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ^^