IoT : Internet of Things (บางทีเรียก IoE : Internet of Everything) หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ
IoT : Internet of Things (บางทีเรียก IoE : Internet of Everything) หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ตอนที่ 1 - Internet of things part i maruay songtanin
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT)
คือเครือข่ายของวัตถุทางกายภาพ (อุปกรณ์ ยานพาหนะ อาคาร และอื่น ๆ) ที่มีการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟแวร์ เซ็นเซอร์ และมีการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ทำให้วัตถุเหล่านี้ สามารถเก็บรวบรวม และแลกเปลี่ยนข้อมูลได้
IoT เป็นการเชื่อมต่อขั้นสูงของ อุปกรณ์ ระบบ และบริการ ที่นอกเหนือไปจากการสื่อสารระหว่างเครื่อง (machine-to-machine: M2M) และครอบคลุมความหลากหลายของ protocols, domains, และ applications
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า IoT จะมีในวัตถุเกือบ 50,000 ล้านชิ้น (50 billion objects) ในปี ค.ศ. 2020
Internet of Things (IoT) is the network of physical objects, devices, vehicles, buildings and other items which are embedded with electronics, software, sensors, and network connectivity, which enables these objects to collect and exchange data.
1. Internet of Things (IoT)
นางสาว มะลิวรรณ หมินหมัน
เลขที่ 2 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ รุ่น 5
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ
2. อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (อังกฤษ: Internet of Things) หรือ ไอโอที (IoT) หมายถึงเครือข่ายของวัตถุ
อุปกรณ์ พาหนะ สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งของอื่นๆ ที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการ
เชื่อมต่อกับเครือข่าย ฝังตัวอยู่ และทาให้วัตถุเหล่านั้นสามารถเก็บบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้[1]
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งทาให้วัตถุสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและถูกควบคุมได้จากระยะไกลผ่าน
โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว[2] ทาให้เราสามารถผสานโลกกายภาพกับระบบคอมพิวเตอร์ได้แนบ
แน่นมากขึ้น ผลที่ตามมาคือประสิทธิภาพ ความแม่นยา และประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น
[3][4][5][6][7][8]
Internet of Things (IoT) คืออะไร
3. แนวนิด Internet of Things นั้นถูกคิดขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเขาเริ่มต้นโครงการ
Auto-ID Center ที่มหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT
จากเทคโนโลยี RFID ที่จะทาให้เป็นมาตรฐานระดับโลกสาหรับ RFID Sensors ต่างๆที่จะเชื่อมต่อกันได้
ต่อมาในยุคหลังปี 2000 โลกมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นจานวนมากและมีการใช้คาว่า Smart ซึ่งในที่นี้
คือ smart device, smart grid, smart home, smart network, smart intelligent
transportation ต่างๆเหล่านี้ล้วนมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งการเชื่อมต่อ
เหล่านั้นเองก็เลยมาเป็นแนวคิดที่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นก็ย่อมสามารถสื่อสารกันได้ด้วยเช่นกันโดยอาััยตัว Sensor
ในการสื่อสารถึงกัน นั่นแปลว่านอกจาก Smart devices ต่างๆจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้วมันยังสามารถ
เชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ตัวอื่นได้ด้วยโดย Kevin นิยามมันไว้ตอนนั้นว่าเป็น “internet-like” หรือพูดง่ายๆก็
คืออุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสื่อสารพูดคุยกันเองได้ ซึ่งััพท์คาว่า “Things” ก็แทนอุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่
กล่าวมาก่อนหน้านี้นั่นเอง
4. A wireless sensor network (WSN)
ตัวแปลสาคัญสาหรับ Internet of Things ที่ใช้ในการสื่อสารนั้นไม่เพียงแต่ Internet network เพียงเท่านั้นแต่ยังมีตัวแปล
อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกนั่นคือ Sensor node ต่างๆจานวนมากที่ทาให้เกิด wireless sensor network (WSN) ให้กับอุปกรณ์
ต่างๆสามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ ซึ่งเจ้า WSNs นี่เองสามารถตรวจจับปรากฏการณ์ต่างๆ (physical phenomena) ใน
เครือข่ายได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แสง อุณหภูมิ ความดัน เป็นต้น เพื่อส่งค่าไปยังอุปกรณ์ในระบบให้ทางานหรือสั่งงาน
อื่นๆต่อไป
5. Access Technology
การพัฒนา Internet of Things นั้นนอกจากจะพัฒนาเทคโนโลยีในฝั่ง Hardware ได้แก่ processors, radios
และ sensors ซึ่งจะถูกรวมเข้าด้วยกันเรียกว่า a single chip หรือ system on a chip (SoC) แล้วก็ยังพัฒนา
WSN ไปพร้อมๆกันด้วย และเมื่อพูดถึงการเชื่อมต่อปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสาหรับการ
เชื่อมต่อสาหรับ Internet of Things หรือ Access technology มีอยู่3 ตัวได้แก่
7. Gateway Sensor Nodes
เมื่อมีโครงข่าย Sensor nodes แล้วก็จาเป็นจะต้องมี Gateway Sensor Nodes เพื่อจะเชื่อมต่อไปยังโลก
อินเตอร์เน็ตด้วย โดยตัว Gateway นี้จะทาหน้าที่เชื่อมต่อไปยังเครือข่าย Internet ให้อุปกรณ์ทั้งหมดใน
โครงข่าย Sensor nodes ทั้งหมดส่งข้อมูลเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้นั่นเอง และเจ้า Gateway ที่ว่านี้ก็จะอยู่ภายใต้
Local network ซึ่งจะมีการกาหนดกันต่อไปว่า Gateway ภายใต้ Local network ที่ว่านั้นจะให้เชื่อมต่อไปยัง
Internet ได้ด้วยหรือไม่ถ้าไม่ได้อุปกรณ์ที่เชื่อมเข้ามาใน Gateway ก็อาจจะสื่อสารกันได้เฉพาะภายใน
Local network เองได้เท่านั้น
8. แบ่งกลุ่ม Internet of Things
ปัจจุบันมีการแบ่งกลุ่มInternet of Things ออกตามตลาดการใช้งานเป็น 2 กลุ่มได้แก่
IndustrialIoT
คือแบ่งจาก local network ที่มีหลายเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในโครงข่าย Sensor nodes โดยตัวอุปกรณ์ IoT
Device ในกลุ่มนี้จะเชื่อมต่อแบบIP network เพื่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ต
Commercial IoT
คือแบ่งจาก local communication ที่เป็น Bluetooth หรือ Ethernet (wired or wireless) โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device
ในกลุ่มนี้จะสื่อสารภายในกลุ่ม Sensor nodes เดียวกันเท่านั้นหรือเป็นแบบ local devices เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้
เชื่อมสู่อินเตอร์เน็ต
9.
10. IPv6 คือส่วนสำคัญของ Internet of Things
ตัวอุปกรณ์ IoT devices ต่างๆนั้นจะเป็นจะต้องมีหมายเลขระบุเพื่อให้ใช้ในการสื่อสารเปลี่ยนเสมือนที่อยู่บ้านของเรานั่นเอง และการที่
จะทาให้อุปกรณ์เหล่านั้นที่มีอยู่เป็นจานวนมาก(รวมถึงอนาคตที่จะผลิตกันออกมา) จาเป็นจะต้องใช้ IP Address vesion 6 หรือ IPv6
มากากับเพื่อให้ได้หมายเลขที่ไม่ซ้ากันและต้องใช้ได้ทั้ง
IoT network ที่เป็น LAN,PAN, และ BAN:Body Area Networkหรือการสื่อสารของตัว Sensor กับร่างกายมนุษย์
Internet network (protocols) ที่เป็น IP, UDP, TCP, SSL, HTTP, HTTPS, และอื่นๆ
และที่กล่าวมาทั้งหมดคือส่วนสาคัญต่างๆของ Internet of Things ที่กาลังเกิดขึ้นและเป็นเทรนด์ที่กาลังมาแรงอยู่ในขณะนี้
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนเข้าใจภาพของ IoT ได้ดีขึ้น สิ่งสาคัญคือศัพท์คานี้จึงไม่ได้หมายถึง Smart device อย่าง
นาฬิกาอัจฉริยะ อย่าง Apple Watch หรือสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆอีกหลากหลาย
ล้านตัวกว้างไกลไปยังหลากหลายอุตสาหกรรมอีกด้วย โดยในอนาคตคุณจะได้เห็น ไมโครเวฟคุยกับตู้เย็นให้สั่งอาหารมาเติม เครื่อง
ซักผ้าคุยกับทีวีบอกคุณว่าผ้าซักเสร็จแล้ว สายรัดข้อมือจะคุยกับรถพยาบาลแจ้งให้ไปรับตัวผู้ป่วยที่กาลังหัวใจวาย เหล่านี้คืออนาคต
ของ Internet of Things ที่สิ่งต่างๆกาลังจะคุยกันได้