SlideShare a Scribd company logo
1 of 37
Download to read offline
• ในการสมัครให้ได้Account ของ Google adsense ก็ไม่ยากครับ
ลองมาดูขั้นตอนการสมัครซึ่งก็มีข้อจํากัดอยู่หลายอย่าง เช่น
ตอนนี้ทาง google ยังไม่มีนโยบายรับ เว็บไซต์ที่มีความ
สลับซับซ้อนหรือ graphics มากๆส่วนใหญ่จะไม่ผ่าน สําหรับ
web master หรือ blogger มือใหม่ ทั้งหลายที่ยังไม่อยากลงทุน
มากนัก ก็สามารถใช้บริการบล๊อคฟรีได้
ที่ http://www.blogger.com ซึ่งเป็นบริการฟรีของ google โดยที่
• เราไม่ต้องไปจดโดเมนเนมในราคาปีละ 300-500 บาท และก็ไม่ต้องเสีย
ค่าเช่า hosting อีกเป็นหลักพันกว่าบาทต่อปี หรือถ้าหากใครอยากได้
โดเมนที่มีชื่อเป็น .com,.net,etc ก็สามารถไปเลือกจดได้ตามใจชอบ ส่วน
ชื่อโดเมนที่ได้จากเจ้า blogger นั้นจะเป็นนามสกุล .blogspot.com ลอง
มาดู 3 ขั้นตอนสุดง่ายให้ได้บัญชีของ google adsense กันเลยดีกว่า
1. สมัครใช้ฟรีบล๊อค
2. ลงมือเขียนเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ
3. สมัครขอบัญชี google adsense
• มาเริ่มสมัคร blogger กันเลยดีกว่าครับ หรือใครจะใช้ฟรีบล๊อคตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน แต่ที่ผมเลือกใช้
blogger เพราะจะได้เครดิตจาก google และโอกาสที่จะสมัครได้บัญชี adsense ก็สูงไปด้วยนี่สิ
สําคัญเลยล่ะในขั้นแรก…สําหรับผู้ที่มีบัญชีของ gmail อยู่แล้วสามารถ login เข้าไปใช้blogger ได้
ทันทีที่หน้าเว็บไซต์http://www.blogger.com หรือจะสมัครขอบัญชีของ blogger เองก็ได้เมื่อได้
บัญชีมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะลงมือเขียน blog กันซะที! ขั้นตอน
การสมัครสมาชิกกับ Google Adsense
Google Adsense คือบริการจาก Google เป็นระบบโฆษณาบนเว็บไซต์ซึ่งจะทําให้ผู้ผลิต
เว็บไซต์หรือเจ้าของเว็บไซต์สามารถนําโฆษณาจะระบบของ Google Adsense มาติดใน
เว็บไซต์เพื่อเพิ่มรายได้ให้เว็บไซต์ครับ โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะ
เป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของ
คุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจ
• เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น
รูปแบบการสร้างรายได้ของ Google Adsense ก็คือ ระบบที่เรียกว่า Pay Per Click หรือจ่ายเมื่อมี
ผู้คลิกโฆษณา โดยเมื่อมีผู้เยี่ยมชมคลิกที่โฆษณาของ Google Adsense ที่ติดอยู่ในเว็บ หรือ
บล็อกของคุณ นั่นเอง โดยจํานวนเงินที่ได้ในแต่ละครั้งนั้นอาจจะไม่เท่ากัน โดยจะแตกต่างกัน
ไปตามราคาที่ผู้โฆษณายอมจ่ายไว้นั่นเอง
• รูปแบบจะเป็นคร่าว ๆ แบบนี้
ผู้โฆษณาซื้อโฆษณาใน Google เช่นราคา 10 เซ็นต์แต่เมื่อมีโฆษณานี้มาแสดงอยู่ใน Blog ของเรา แล้วมีคนคลิก
เราอาจจะได้เงิน 5 เซ็นต์ต่อคลิก ส่วนต่างนั้นก็จะเป็นรายได้ของ Google การจ่ายเงินของกูเกิ้ลที่จะให้เรานั้น จะจ่าย
เมื่อยอดสะสมครบ 100 เหรียญสหรัฐฯ โดยจะส่งเป็นเช็คมาที่ ที่อยู่ที่เราให้ไว้กูเกิ้ลสามารถส่งเช็คมาให้เราที่
เมืองไทยได้ขณะนี้ Google Adsense เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับบล็อกของคุณ อย่าลืมสมัครใช้กันดู
นะครับ สามารถคลิกสมัครที่ปุ่ม Google Adsense ทางด้านล่างของแถบเมนูได้เลย
• โฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก
นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของ
คุณโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทํา Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่
ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน
Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นํา Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณา
ของตนเองอยู่ในตําแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการ
ค้นหา
• และจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 เลือกสถานที่และภาษา ซึ่งเราสามารถเลือกประเทศเป้าหมายของเราได้
ว่าเราต้องการจะทําตลาดที่ประเทศไหนทั่วโลก และเลือกภาษาที่ใช้เขียนโฆณา
• ส่วนขั้นตอนที่ 2 เป็นหน้าให้ใส่ (Display URL) ของเราลงไป เป็นหน้าที่จะส่งลูกค้าของเราไปสู่เว็ปของเรา และ
ข้อความที่เราจะใช้โฆษณา โดยจะมี 3 บรรทัด
• บรรทัดที่ 1 เป็นหัวโฆษณา เขียนได้25 ตัวอักษร (เป็นข้อความที่ใช้ดึงดูด)
• บรรทัดที่ 2 เป็นข้อความโฆษณาข้อความแรก ความยาว 35 ตัวอักษร
• บรรทัดที่ 3 เป็นข้อความโฆษณาข้อความที่สอง ความยาว 35 ตัวอักษร (สองบรรทัดเขียนให้คนอยากซื้อสินค้า)
• ขั้นตอนที่ 3 เป็นขั้นตอนการใส่ Keyword เป็นคําที่คนจะใช้ค้นหาสินค้า
การใส่เครื่องหมาย “-” และ [-] นี้เป็นการใช้ประโยชน์จากเทคนิค Matching Option
เพื่อให้ Keywords ที่ เราใช้สามารถจํากัดเป้าหมายที่ชัดเจนได้
• จากนั้นขั้นตอนที่ 4 เลือกสกุลเงินที่เราจะใช้ในการจ่ายค่าโฆษณากับ Aword ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ใช้
จะเลือกนะครับ แต่สําหรับผมเลือก USD เพราะสะดวกต่อการคํานวนต้นทุน
• ขั้นตอนที่ 5 เป็นการตั้งงบโฆษณาต่อเดือน ว่าเราจะจ่ายเงินเป็นค่าโฆษณาเป็นจํานวนเงินไม่
เกินเท่าไหร่ต่อเดือน ซึ่งทําให้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต
• แล้วก็กดดําเนินการต่อไป
วิธีการลงโฆษณา Google Adword
• ใช้เครื่องมือวัด Conversion
• ไม่ว่าเป้ าหมายของคุณจะเป็นการเพิ่มยอดขาย สร้างโอกาสในการขาย หรือเพิ่มจํานวนผู้ลงทะเบียน
หากไม่มีการวัดประสิทธิภาพแคมเปญอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยากที่จะทราบได้ว่าแคมเปญบนเครือข่าย
ดิสเพลย์ของคุณนั้นทํางานได้ตามที่ต้องการหรือไม่ และนี่ก็คือสิ่งที่เครื่องมือวัด Conversion ฟรีของ
Google สามารถช่วยคุณได้
• เครื่องมือวัด Conversion ช่วยให้คุณสามารถวัดได้ว่า แคมเปญใหม่ทําให้เกิดยอดขายหรือไม่ และช่วย
ให้สามารถดูข้อมูลนี้ได้จากบัญชี AdWords หากใช้ข้อมูลนี้ คุณจะสามารถปรับราคาเสนอในภายหลัง
ได้โดยดูตามประสิทธิภาพโฆษณาของคุณ
• ตัวอย่างเช่น หากคุณทราบแล้วว่าแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์ของคุณมีจํานวนคลิกเท่าใด คุณอาจ
อยากทราบด้วยว่ามีการคลิกจํานวนเท่าใดจากจํานวนทั้งหมดที่แปรเปลี่ยนไปเป็นยอดขาย ด้วย
เครื่องมือวัด Conversion ระดับพื้นฐาน คุณจะสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ได้
• ตรวจสอบว่า Conversion ของคุณมีมูลค่าเท่าใด
• ด้วยเครื่องมือวัด Conversion ที่กําหนดค่าเอง และการตั้งค่าที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย คุณสามารถดู
รายงานมูลค่ายอดขายแต่ละครั้ง และเรียกดูรายได้รวมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากคําหลักแต่ละคําได้โดย
เทียบกับค่าใช้จ่ายรวมของคําหลักนั้น
• ดูวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ทีละขั้นตอน
• ใช้ข้อมูลประสิทธิภาพในการปรับปรุงโฆษณา
• ผลลัพธ์จะดีขึ้นเมื่อคุณวัดประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และใช้ข้อมูล
ดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนแปลงบัญชีของคุณ ด้านล่างนี้ คุณสามารถดูวิธีที่คุณจะใช้ข้อมูล
ประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุงโฆษณาของคุณ
• ลองใช้เนื้อหาโฆษณาที่แตกต่างกัน
• เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสําหรับแคมเปญของคุณ คุณควรดําเนินการดังนี้
• สร้างข้อความโฆษณาที่แตกต่าง: การสร้างโฆษณาหลายรายการในแต่ละกลุ่มโฆษณาจะช่วยให้คุณสามารถ
ดูว่าโฆษณารายการใดที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่า
• ลองใช้รูปแบบโฆษณาที่แตกต่าง: คุณสามารถโฆษณาโดยใช้รูปแบบโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากโฆษณาแบบข้อความ เรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนที่ 10 ที่ด้านล่าง
• ในแต่ละกลุ่มโฆษณาในแคมเปญอุปกรณ์เทนนิสของคุณ ให้ทําตามคําแนะนําด้านบน จากนั้นสร้างโฆษณา
รูปแบบต่างๆ เพื่อดูว่าข้อความโฆษณาใดได้รับการตอบรับดีที่สุด ต่อมา สร้างกลุ่มโฆษณาใหม่สําหรับชุด
เทนนิสสําหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ที่มีข้อความโฆษณาที่ตรงเป้าหมายในแต่ละกลุ่มโฆษณา
• ดูเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีสร้างโฆษณาแบบข้อความที่ประสบความสําเร็จ
• ใช้ข้อมูลประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อพิจารณาการปรับเปลี่ยนของคุณ
• สมมติว่า การใช้ข้อมูล Conversion ในการตัดสินใจช่วยให้คุณเห็นว่า แม้โฆษณาที่มี
บรรทัดแรกว่า "ชุดเทนนิสราคาประหยัด" จะมีผู้คลิกมากที่สุด แต่คุณกลับพบว่าผู้เข้า
ชมเหล่านั้นจะซื้อสินค้าน้อยกว่าผู้ที่คลิกโฆษณาชื่อ "ชุดเทนนิสคุณภาพเยี่ยม"
• ถ้าไม่มีเครื่องมือวัด Conversion คุณก็คงไม่รู้ข้อมูลในส่วนนี้ ด้วยข้อมูลนี้ คุณจะ
สามารถตัดสินใจลบโฆษณาที่มีประสิทธิภาพตํ่าได้ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้
งบประมาณกับโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเท่านั้น
• ทําความเข้าใจว่าไซต์ใดนําไปสู่ยอดขาย และไซต์ใดไม่ใช่
• ด้วยเครือข่ายดิสเพลย์คุณสามารถดูรายการของไซต์ต่างๆ ที่แสดงโฆษณาของคุณได้อย่าง
ง่ายดาย คลิกแท็บ เครือข่ายดิสเพลย์เพื่อดูตําแหน่งและราคาเสนอของคุณ เมื่อใช้ร่วมกับ
เครื่องมือวัด Conversion คุณจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าไซต์ใดทําให้เกิดการขายบ้าง และ
สามารถทําการตัดสินใจโดยพิจารณาจากข้อมูลนี้ได้
• ตรวจสอบประสิทธิภาพในระดับไซต์
• ในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มของคุณ ให้ตรวจสอบประสิทธิภาพของไซต์ต่างๆ ในเครือข่ายดิส
เพลย์ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นว่าไซต์ใดมีประสิทธิภาพตรงกับเป้าหมายของคุณบ้าง อีกทั้งคุณยัง
สามารถดูประสิทธิภาพระดับหน้าเว็บภายในไซต์ต่างๆ ได้ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติม
บางส่วน
• เน้นไปที่ไซต์ที่ทําให้เกิดค่าใช้จ่ายในเครือข่ายดิสเพลย์มากที่สุดในกลุ่มโฆษณากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เพื่อช่วยประหยัดเวลา และในขณะเดียวกันก็ให้เน้นไปที่ส่วนที่สําคัญที่สุด
• ดําเนินการเฉพาะกับไซต์ที่มีจํานวนการแสดงผลและจํานวนคลิกมากพอเพื่อให้การตัดสินใจของ
คุณนั้นถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากไซต์ใดไซต์หนึ่งมีจํานวนคลิกเพียงเล็กน้อย เราขอแนะนําให้คุณรอ
จนกว่าจะได้รับจํานวนคลิกเพิ่มขึ้น เพื่อให้การประเมินประสิทธิภาพนั้นแม่นยํามากขึ้น
• อ่านเกี่ยวกับการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์
• ยกเว้นไซต์และคําหลัก
• คุณสามารถยกเว้นไซต์ที่ไม่มีประสิทธิภาพออกจากแคมเปญของคุณอย่างสมบูรณ์เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการกําหนดเป้าหมาย สมมติว่าคุณสังเกตเห็นด้วยว่า บางครั้งโฆษณาของคุณปรากฏ
ในหน้าเว็บเกี่ยวกับอาการเจ็บศอกจากการเล่นเทนนิส ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่ดีด้วยเช่นกัน คุณจึง
ตัดสินใจยกเว้นไซต์เหล่านั้นและยกเว้นคําหลักอย่างคําว่า "ศอก" และ "เจ็บศอกจากเทนนิส" จาก
แคมเปญเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต
• ดูวิธียกเว้นไซต์ทีละขั้นตอน
• อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเว้นคําหลัก
• อ่านเกี่ยวกับการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์
• ยกเว้นไซต์และคําหลัก
• คุณสามารถยกเว้นไซต์ที่ไม่มีประสิทธิภาพออกจากแคมเปญของคุณอย่างสมบูรณ์เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการกําหนดเป้ าหมาย สมมติว่าคุณสังเกตเห็นด้วยว่า บางครั้งโฆษณาของคุณ
ปรากฏในหน้าเว็บเกี่ยวกับอาการเจ็บศอกจากการเล่นเทนนิส ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่ดีด้วย
เช่นกัน คุณจึงตัดสินใจยกเว้นไซต์เหล่านั้นและยกเว้นคําหลักอย่างคําว่า "ศอก" และ "เจ็บ
ศอกจากเทนนิส" จากแคมเปญเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต
• ดูวิธียกเว้นไซต์ทีละขั้นตอน
• อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเว้นคําหลัก
• ปรับราคาเสนอของคุณตามความจําเป็น
• เพิ่มราคาเสนอสําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูง สําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพ คุณ
สามารถเพิ่มราคาเสนอเพื่อเพิ่มการแสดงโฆษณาในไซต์เหล่านั้นให้มากที่สุด
• ลดราคาเสนอสําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพไม่ดี สําหรับไซต์ไม่บรรลุเป้าหมายของคุณ
คุณสามารถลดราคาเสนอเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
• ใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion
• คุณลักษณะนี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาโดยการคอยตรวจสอบประสิทธิภาพของโฆษณาให้กับคุณ
โดยจะทําการปรับราคาเสนอของคุณในแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่ม Conversion ที่แคมเปญของคุณ
ได้รับไปพร้อมๆ กับบรรลุเป้ าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
• เมื่อคุณติดตั้งเครื่องมือวัด Conversion แล้ว ก็สามารถเปิดใช้งานเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ
Conversion สําหรับแคมเปญของคุณได้ในคลิกเดียว
• เรียนรู้วิธีตั้งค่าเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion ทีละขั้นตอน
• ติดตามประสิทธิภาพของคุณ
• รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพบัญชีของคุณ
• ลองใช้โฆษณาแบบดิสเพลย์
• โฆษณาแบบรูปภาพและวิดีโอเรียกได้อีกอย่างว่า "โฆษณาแบบดิสเพลย์" คุณสามารถ
เพิ่มโฆษณาแบบดิสเพลย์ลงในแคมเปญที่มีอยู่หรือสร้างแคมเปญใหม่ก็ได้โฆษณา
แบบดิสเพลย์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการเข้าชมเว็บและการมีส่วนร่วมของลูกค้า
สําหรับไซต์หรือธุรกิจของคุณ
• คุณทราบหรือไม่ว่า...
• หนึ่งในห้าของผู้บริโภคที่เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์จะทําการค้นหาที่เกี่ยวข้อง และหนึ่ง
ในสามจะไปที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับโฆษณา ที่มา: Online Publishers Association, “The
Silent Click: Building Brands Online" มิถุนายน 2009
• จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์แล้ว
ผู้ที่เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์มีแนวโน้มที่จะเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณามากกว่าถึง
268% และดูหน้าเว็บโดยเฉลี่ยในจํานวนที่มากกว่าถึง 355% ที่มา: comScore online
panel, Overall pool of studies: 67 studies
• ในการสร้างแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ให้ทําตามขั้นตอนเดียวกัน
ทั้งหมดที่คุณทําสําหรับแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์โดยมีข้อแตกต่างเดียว
คือ คุณจะสร้างโฆษณาประเภทอื่น จากนั้นคุณสามารถเลือกวิธีการกําหนด
เป้าหมายที่ต้องการเพิ่ม เช่น คําหลักหรือตําแหน่ง
• ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถทําสําหรับแคมเปญอุปกรณ์เทนนิสบนเครือข่าย
ดิสเพลย์
• เลือกแคมเปญที่มีอยู่สําหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์: เนื่องจากคุณมีโฆษณา
แบบข้อความบนเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google อยู่แล้ว คุณจึงสร้างกลุ่ม
โฆษณาใหม่สําหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์ในแคมเปญเหล่านั้นได้เลย
• จัดผลิตภัณฑ์และเนื้อหาโฆษณาลงในกลุ่มโฆษณา: เช่นเดียวกับที่คุณทําเมื่อสร้างกลุ่มโฆษณาสําหรับ
โฆษณาแบบข้อความ คุณสามารถจัดโฆษณาแบบรูปภาพลงในกลุ่มโฆษณาต่างๆ ในแคมเปญของคุณ
คุณมีรูปภาพผลิตภัณฑ์เทนนิสเป็นจํานวนมาก ฉะนั้น สมมติว่าคุณตัดสินใจที่จะเน้นผลิตภัณฑ์เทนนิสใน
แคมเปญแบบดิสเพลย์นี้ คุณดําเนินการเช่นเดียวกับที่ทํากับโฆษณาแบบข้อความทุกประการ
• สร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์ (โฆษณาแบบรูปภาพหรือวิดีโอ):
– การใช้เทมเพลตเครื่องช่วยสร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์: เครื่องช่วยสร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นแกลเลอรีเทม
เพลตแบบสร้างล่วงหน้าที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างโฆษณาแบบกําหนดเองในเวลาไม่กี่นาที โดยมีโลโก้และ
รูปภาพผลิตภัณฑ์ของคุณประกอบ
– อัปโหลดโฆษณาแบบรูปภาพดั้งเดิม: คุณสามารถอัปโหลดโฆษณาแบบรูปภาพที่คุณสร้างเองไปยังกลุ่ม
โฆษณาได้โดยตรง
• เรียนรู้วิธีสร้างโฆษณาแบบรูปภาพทีละขั้นตอน
• เรียนรู้วิธีสร้างโฆษณาวิดีโอทีละขั้นตอน
• เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาโฆษณา: เช่นเดียวกับโฆษณาแบบข้อความ คุณจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา
แบบดิสเพลย์โดยการเปลี่ยนสี แบบอักษร และรูปลักษณ์โดยรวมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเรียนรู้เกี่ยวกับวิธี
สร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่ประสบความสําเร็จ
• เลือกกลยุทธ์ในการกําหนดเป้ าหมาย: คุณสามารถเริ่มต้นโดยใช้การกําหนดเป้าหมายตามบริบทสําหรับกลุ่ม
โฆษณาแบบดิสเพลย์เลือกคําหลักที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงในเว็บไซต์ที่
เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ คุณสามารถใช้รายการคําหลักและราคาเสนอชุดเดียวกันกับที่ใช้กับโฆษณาแบบ
ข้อความได้
• การเพิ่มตําแหน่ง: คุณสามารถเพิ่มการกําหนดเป้าหมายจาก ตําแหน่ง ลงในกลุ่มโฆษณาได้ซึ่งจะช่วยให้คุณ
สามารถเลือกเว็บไซต์และหน้าเว็บในเครือข่ายดิสเพลย์ที่จะให้โฆษณาของคุณปรากฏได้คุณสามารถใช้
เครื่องมือวางแผนแคมเปญดิสเพลย์เพื่อดูแนวคิดเรื่องตําแหน่งที่จะกําหนดเป้าหมาย นอกจากนี้ คุณยัง
สามารถทดสอบการตั้งค่าราคาเสนอระดับตําแหน่งแต่ละรายการสําหรับแคมเปญ เช่นเดียวกับราคาเสนอ
ระดับคําหลักได้อีกด้วยดูวิธีเพิ่มตําแหน่งทีละขั้นตอน
• ดูวิธีเปลี่ยนราคาเสนอสําหรับคําหลักและตําแหน่งทีละขั้นตอน
รายงานเรื่อง Google adsense

More Related Content

Similar to รายงานเรื่อง Google adsense

S E O S S
S E O  S SS E O  S S
S E O S S
ss-th
 
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ตเจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
jakwarl parmsub
 
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
School
 
wordpress คือ อะไร
 wordpress คือ อะไร wordpress คือ อะไร
wordpress คือ อะไร
Naruk Naendu
 

Similar to รายงานเรื่อง Google adsense (8)

S E O S S
S E O  S SS E O  S S
S E O S S
 
S E O S S
S E O  S SS E O  S S
S E O S S
 
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ตเจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
เจาะลึก 4 ขั้นตอนการสร้างชื่อบนโลกอินเตอร์เน็ต
 
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
บทที่1 ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
 
wordpress คือ อะไร
 wordpress คือ อะไร wordpress คือ อะไร
wordpress คือ อะไร
 
Social Media in business practice
Social Media in business practiceSocial Media in business practice
Social Media in business practice
 
Measurement Techniques V1.01 S
Measurement Techniques V1.01 SMeasurement Techniques V1.01 S
Measurement Techniques V1.01 S
 
Seo tips
Seo tipsSeo tips
Seo tips
 

รายงานเรื่อง Google adsense

  • 1.
  • 2.
  • 3.
  • 4.
  • 5.
  • 6.
  • 7.
  • 8.
  • 9. • ในการสมัครให้ได้Account ของ Google adsense ก็ไม่ยากครับ ลองมาดูขั้นตอนการสมัครซึ่งก็มีข้อจํากัดอยู่หลายอย่าง เช่น ตอนนี้ทาง google ยังไม่มีนโยบายรับ เว็บไซต์ที่มีความ สลับซับซ้อนหรือ graphics มากๆส่วนใหญ่จะไม่ผ่าน สําหรับ web master หรือ blogger มือใหม่ ทั้งหลายที่ยังไม่อยากลงทุน มากนัก ก็สามารถใช้บริการบล๊อคฟรีได้ ที่ http://www.blogger.com ซึ่งเป็นบริการฟรีของ google โดยที่
  • 10. • เราไม่ต้องไปจดโดเมนเนมในราคาปีละ 300-500 บาท และก็ไม่ต้องเสีย ค่าเช่า hosting อีกเป็นหลักพันกว่าบาทต่อปี หรือถ้าหากใครอยากได้ โดเมนที่มีชื่อเป็น .com,.net,etc ก็สามารถไปเลือกจดได้ตามใจชอบ ส่วน ชื่อโดเมนที่ได้จากเจ้า blogger นั้นจะเป็นนามสกุล .blogspot.com ลอง มาดู 3 ขั้นตอนสุดง่ายให้ได้บัญชีของ google adsense กันเลยดีกว่า 1. สมัครใช้ฟรีบล๊อค 2. ลงมือเขียนเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ 3. สมัครขอบัญชี google adsense
  • 11. • มาเริ่มสมัคร blogger กันเลยดีกว่าครับ หรือใครจะใช้ฟรีบล๊อคตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน แต่ที่ผมเลือกใช้ blogger เพราะจะได้เครดิตจาก google และโอกาสที่จะสมัครได้บัญชี adsense ก็สูงไปด้วยนี่สิ สําคัญเลยล่ะในขั้นแรก…สําหรับผู้ที่มีบัญชีของ gmail อยู่แล้วสามารถ login เข้าไปใช้blogger ได้ ทันทีที่หน้าเว็บไซต์http://www.blogger.com หรือจะสมัครขอบัญชีของ blogger เองก็ได้เมื่อได้ บัญชีมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะลงมือเขียน blog กันซะที! ขั้นตอน
  • 13. Google Adsense คือบริการจาก Google เป็นระบบโฆษณาบนเว็บไซต์ซึ่งจะทําให้ผู้ผลิต เว็บไซต์หรือเจ้าของเว็บไซต์สามารถนําโฆษณาจะระบบของ Google Adsense มาติดใน เว็บไซต์เพื่อเพิ่มรายได้ให้เว็บไซต์ครับ โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะ เป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของ คุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจ
  • 14. • เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น รูปแบบการสร้างรายได้ของ Google Adsense ก็คือ ระบบที่เรียกว่า Pay Per Click หรือจ่ายเมื่อมี ผู้คลิกโฆษณา โดยเมื่อมีผู้เยี่ยมชมคลิกที่โฆษณาของ Google Adsense ที่ติดอยู่ในเว็บ หรือ บล็อกของคุณ นั่นเอง โดยจํานวนเงินที่ได้ในแต่ละครั้งนั้นอาจจะไม่เท่ากัน โดยจะแตกต่างกัน ไปตามราคาที่ผู้โฆษณายอมจ่ายไว้นั่นเอง
  • 15. • รูปแบบจะเป็นคร่าว ๆ แบบนี้ ผู้โฆษณาซื้อโฆษณาใน Google เช่นราคา 10 เซ็นต์แต่เมื่อมีโฆษณานี้มาแสดงอยู่ใน Blog ของเรา แล้วมีคนคลิก เราอาจจะได้เงิน 5 เซ็นต์ต่อคลิก ส่วนต่างนั้นก็จะเป็นรายได้ของ Google การจ่ายเงินของกูเกิ้ลที่จะให้เรานั้น จะจ่าย เมื่อยอดสะสมครบ 100 เหรียญสหรัฐฯ โดยจะส่งเป็นเช็คมาที่ ที่อยู่ที่เราให้ไว้กูเกิ้ลสามารถส่งเช็คมาให้เราที่ เมืองไทยได้ขณะนี้ Google Adsense เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับบล็อกของคุณ อย่าลืมสมัครใช้กันดู นะครับ สามารถคลิกสมัครที่ปุ่ม Google Adsense ทางด้านล่างของแถบเมนูได้เลย
  • 16. • โฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของ คุณโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทํา Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นํา Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณา ของตนเองอยู่ในตําแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการ ค้นหา
  • 17. • และจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 เลือกสถานที่และภาษา ซึ่งเราสามารถเลือกประเทศเป้าหมายของเราได้ ว่าเราต้องการจะทําตลาดที่ประเทศไหนทั่วโลก และเลือกภาษาที่ใช้เขียนโฆณา
  • 18. • ส่วนขั้นตอนที่ 2 เป็นหน้าให้ใส่ (Display URL) ของเราลงไป เป็นหน้าที่จะส่งลูกค้าของเราไปสู่เว็ปของเรา และ ข้อความที่เราจะใช้โฆษณา โดยจะมี 3 บรรทัด • บรรทัดที่ 1 เป็นหัวโฆษณา เขียนได้25 ตัวอักษร (เป็นข้อความที่ใช้ดึงดูด) • บรรทัดที่ 2 เป็นข้อความโฆษณาข้อความแรก ความยาว 35 ตัวอักษร • บรรทัดที่ 3 เป็นข้อความโฆษณาข้อความที่สอง ความยาว 35 ตัวอักษร (สองบรรทัดเขียนให้คนอยากซื้อสินค้า)
  • 19. • ขั้นตอนที่ 3 เป็นขั้นตอนการใส่ Keyword เป็นคําที่คนจะใช้ค้นหาสินค้า การใส่เครื่องหมาย “-” และ [-] นี้เป็นการใช้ประโยชน์จากเทคนิค Matching Option เพื่อให้ Keywords ที่ เราใช้สามารถจํากัดเป้าหมายที่ชัดเจนได้
  • 20. • จากนั้นขั้นตอนที่ 4 เลือกสกุลเงินที่เราจะใช้ในการจ่ายค่าโฆษณากับ Aword ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ใช้ จะเลือกนะครับ แต่สําหรับผมเลือก USD เพราะสะดวกต่อการคํานวนต้นทุน • ขั้นตอนที่ 5 เป็นการตั้งงบโฆษณาต่อเดือน ว่าเราจะจ่ายเงินเป็นค่าโฆษณาเป็นจํานวนเงินไม่ เกินเท่าไหร่ต่อเดือน ซึ่งทําให้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต • แล้วก็กดดําเนินการต่อไป
  • 22. • ใช้เครื่องมือวัด Conversion • ไม่ว่าเป้ าหมายของคุณจะเป็นการเพิ่มยอดขาย สร้างโอกาสในการขาย หรือเพิ่มจํานวนผู้ลงทะเบียน หากไม่มีการวัดประสิทธิภาพแคมเปญอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยากที่จะทราบได้ว่าแคมเปญบนเครือข่าย ดิสเพลย์ของคุณนั้นทํางานได้ตามที่ต้องการหรือไม่ และนี่ก็คือสิ่งที่เครื่องมือวัด Conversion ฟรีของ Google สามารถช่วยคุณได้ • เครื่องมือวัด Conversion ช่วยให้คุณสามารถวัดได้ว่า แคมเปญใหม่ทําให้เกิดยอดขายหรือไม่ และช่วย ให้สามารถดูข้อมูลนี้ได้จากบัญชี AdWords หากใช้ข้อมูลนี้ คุณจะสามารถปรับราคาเสนอในภายหลัง ได้โดยดูตามประสิทธิภาพโฆษณาของคุณ
  • 23. • ตัวอย่างเช่น หากคุณทราบแล้วว่าแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์ของคุณมีจํานวนคลิกเท่าใด คุณอาจ อยากทราบด้วยว่ามีการคลิกจํานวนเท่าใดจากจํานวนทั้งหมดที่แปรเปลี่ยนไปเป็นยอดขาย ด้วย เครื่องมือวัด Conversion ระดับพื้นฐาน คุณจะสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ได้ • ตรวจสอบว่า Conversion ของคุณมีมูลค่าเท่าใด • ด้วยเครื่องมือวัด Conversion ที่กําหนดค่าเอง และการตั้งค่าที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย คุณสามารถดู รายงานมูลค่ายอดขายแต่ละครั้ง และเรียกดูรายได้รวมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากคําหลักแต่ละคําได้โดย เทียบกับค่าใช้จ่ายรวมของคําหลักนั้น • ดูวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ทีละขั้นตอน
  • 24. • ใช้ข้อมูลประสิทธิภาพในการปรับปรุงโฆษณา • ผลลัพธ์จะดีขึ้นเมื่อคุณวัดประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และใช้ข้อมูล ดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนแปลงบัญชีของคุณ ด้านล่างนี้ คุณสามารถดูวิธีที่คุณจะใช้ข้อมูล ประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุงโฆษณาของคุณ • ลองใช้เนื้อหาโฆษณาที่แตกต่างกัน • เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสําหรับแคมเปญของคุณ คุณควรดําเนินการดังนี้
  • 25. • สร้างข้อความโฆษณาที่แตกต่าง: การสร้างโฆษณาหลายรายการในแต่ละกลุ่มโฆษณาจะช่วยให้คุณสามารถ ดูว่าโฆษณารายการใดที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่า • ลองใช้รูปแบบโฆษณาที่แตกต่าง: คุณสามารถโฆษณาโดยใช้รูปแบบโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่หลากหลาย นอกเหนือจากโฆษณาแบบข้อความ เรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนที่ 10 ที่ด้านล่าง • ในแต่ละกลุ่มโฆษณาในแคมเปญอุปกรณ์เทนนิสของคุณ ให้ทําตามคําแนะนําด้านบน จากนั้นสร้างโฆษณา รูปแบบต่างๆ เพื่อดูว่าข้อความโฆษณาใดได้รับการตอบรับดีที่สุด ต่อมา สร้างกลุ่มโฆษณาใหม่สําหรับชุด เทนนิสสําหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ที่มีข้อความโฆษณาที่ตรงเป้าหมายในแต่ละกลุ่มโฆษณา • ดูเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีสร้างโฆษณาแบบข้อความที่ประสบความสําเร็จ
  • 26. • ใช้ข้อมูลประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อพิจารณาการปรับเปลี่ยนของคุณ • สมมติว่า การใช้ข้อมูล Conversion ในการตัดสินใจช่วยให้คุณเห็นว่า แม้โฆษณาที่มี บรรทัดแรกว่า "ชุดเทนนิสราคาประหยัด" จะมีผู้คลิกมากที่สุด แต่คุณกลับพบว่าผู้เข้า ชมเหล่านั้นจะซื้อสินค้าน้อยกว่าผู้ที่คลิกโฆษณาชื่อ "ชุดเทนนิสคุณภาพเยี่ยม" • ถ้าไม่มีเครื่องมือวัด Conversion คุณก็คงไม่รู้ข้อมูลในส่วนนี้ ด้วยข้อมูลนี้ คุณจะ สามารถตัดสินใจลบโฆษณาที่มีประสิทธิภาพตํ่าได้ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้ งบประมาณกับโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเท่านั้น
  • 27. • ทําความเข้าใจว่าไซต์ใดนําไปสู่ยอดขาย และไซต์ใดไม่ใช่ • ด้วยเครือข่ายดิสเพลย์คุณสามารถดูรายการของไซต์ต่างๆ ที่แสดงโฆษณาของคุณได้อย่าง ง่ายดาย คลิกแท็บ เครือข่ายดิสเพลย์เพื่อดูตําแหน่งและราคาเสนอของคุณ เมื่อใช้ร่วมกับ เครื่องมือวัด Conversion คุณจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าไซต์ใดทําให้เกิดการขายบ้าง และ สามารถทําการตัดสินใจโดยพิจารณาจากข้อมูลนี้ได้ • ตรวจสอบประสิทธิภาพในระดับไซต์ • ในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มของคุณ ให้ตรวจสอบประสิทธิภาพของไซต์ต่างๆ ในเครือข่ายดิส เพลย์ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นว่าไซต์ใดมีประสิทธิภาพตรงกับเป้าหมายของคุณบ้าง อีกทั้งคุณยัง สามารถดูประสิทธิภาพระดับหน้าเว็บภายในไซต์ต่างๆ ได้ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติม บางส่วน
  • 28. • เน้นไปที่ไซต์ที่ทําให้เกิดค่าใช้จ่ายในเครือข่ายดิสเพลย์มากที่สุดในกลุ่มโฆษณากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อช่วยประหยัดเวลา และในขณะเดียวกันก็ให้เน้นไปที่ส่วนที่สําคัญที่สุด • ดําเนินการเฉพาะกับไซต์ที่มีจํานวนการแสดงผลและจํานวนคลิกมากพอเพื่อให้การตัดสินใจของ คุณนั้นถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากไซต์ใดไซต์หนึ่งมีจํานวนคลิกเพียงเล็กน้อย เราขอแนะนําให้คุณรอ จนกว่าจะได้รับจํานวนคลิกเพิ่มขึ้น เพื่อให้การประเมินประสิทธิภาพนั้นแม่นยํามากขึ้น • อ่านเกี่ยวกับการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์ • ยกเว้นไซต์และคําหลัก • คุณสามารถยกเว้นไซต์ที่ไม่มีประสิทธิภาพออกจากแคมเปญของคุณอย่างสมบูรณ์เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการกําหนดเป้าหมาย สมมติว่าคุณสังเกตเห็นด้วยว่า บางครั้งโฆษณาของคุณปรากฏ ในหน้าเว็บเกี่ยวกับอาการเจ็บศอกจากการเล่นเทนนิส ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่ดีด้วยเช่นกัน คุณจึง ตัดสินใจยกเว้นไซต์เหล่านั้นและยกเว้นคําหลักอย่างคําว่า "ศอก" และ "เจ็บศอกจากเทนนิส" จาก แคมเปญเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต • ดูวิธียกเว้นไซต์ทีละขั้นตอน • อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเว้นคําหลัก
  • 29. • อ่านเกี่ยวกับการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์ • ยกเว้นไซต์และคําหลัก • คุณสามารถยกเว้นไซต์ที่ไม่มีประสิทธิภาพออกจากแคมเปญของคุณอย่างสมบูรณ์เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการกําหนดเป้ าหมาย สมมติว่าคุณสังเกตเห็นด้วยว่า บางครั้งโฆษณาของคุณ ปรากฏในหน้าเว็บเกี่ยวกับอาการเจ็บศอกจากการเล่นเทนนิส ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่ดีด้วย เช่นกัน คุณจึงตัดสินใจยกเว้นไซต์เหล่านั้นและยกเว้นคําหลักอย่างคําว่า "ศอก" และ "เจ็บ ศอกจากเทนนิส" จากแคมเปญเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีกในอนาคต • ดูวิธียกเว้นไซต์ทีละขั้นตอน • อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเว้นคําหลัก
  • 30. • ปรับราคาเสนอของคุณตามความจําเป็น • เพิ่มราคาเสนอสําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูง สําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพ คุณ สามารถเพิ่มราคาเสนอเพื่อเพิ่มการแสดงโฆษณาในไซต์เหล่านั้นให้มากที่สุด • ลดราคาเสนอสําหรับไซต์ที่มีประสิทธิภาพไม่ดี สําหรับไซต์ไม่บรรลุเป้าหมายของคุณ คุณสามารถลดราคาเสนอเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
  • 31. • ใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion • คุณลักษณะนี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาโดยการคอยตรวจสอบประสิทธิภาพของโฆษณาให้กับคุณ โดยจะทําการปรับราคาเสนอของคุณในแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่ม Conversion ที่แคมเปญของคุณ ได้รับไปพร้อมๆ กับบรรลุเป้ าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) • เมื่อคุณติดตั้งเครื่องมือวัด Conversion แล้ว ก็สามารถเปิดใช้งานเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion สําหรับแคมเปญของคุณได้ในคลิกเดียว • เรียนรู้วิธีตั้งค่าเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion ทีละขั้นตอน • ติดตามประสิทธิภาพของคุณ • รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพบัญชีของคุณ
  • 32. • ลองใช้โฆษณาแบบดิสเพลย์ • โฆษณาแบบรูปภาพและวิดีโอเรียกได้อีกอย่างว่า "โฆษณาแบบดิสเพลย์" คุณสามารถ เพิ่มโฆษณาแบบดิสเพลย์ลงในแคมเปญที่มีอยู่หรือสร้างแคมเปญใหม่ก็ได้โฆษณา แบบดิสเพลย์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการเข้าชมเว็บและการมีส่วนร่วมของลูกค้า สําหรับไซต์หรือธุรกิจของคุณ
  • 33. • คุณทราบหรือไม่ว่า... • หนึ่งในห้าของผู้บริโภคที่เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์จะทําการค้นหาที่เกี่ยวข้อง และหนึ่ง ในสามจะไปที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับโฆษณา ที่มา: Online Publishers Association, “The Silent Click: Building Brands Online" มิถุนายน 2009 • จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์แล้ว ผู้ที่เห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์มีแนวโน้มที่จะเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณามากกว่าถึง 268% และดูหน้าเว็บโดยเฉลี่ยในจํานวนที่มากกว่าถึง 355% ที่มา: comScore online panel, Overall pool of studies: 67 studies
  • 34. • ในการสร้างแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ให้ทําตามขั้นตอนเดียวกัน ทั้งหมดที่คุณทําสําหรับแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์โดยมีข้อแตกต่างเดียว คือ คุณจะสร้างโฆษณาประเภทอื่น จากนั้นคุณสามารถเลือกวิธีการกําหนด เป้าหมายที่ต้องการเพิ่ม เช่น คําหลักหรือตําแหน่ง • ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถทําสําหรับแคมเปญอุปกรณ์เทนนิสบนเครือข่าย ดิสเพลย์ • เลือกแคมเปญที่มีอยู่สําหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์: เนื่องจากคุณมีโฆษณา แบบข้อความบนเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google อยู่แล้ว คุณจึงสร้างกลุ่ม โฆษณาใหม่สําหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์ในแคมเปญเหล่านั้นได้เลย
  • 35. • จัดผลิตภัณฑ์และเนื้อหาโฆษณาลงในกลุ่มโฆษณา: เช่นเดียวกับที่คุณทําเมื่อสร้างกลุ่มโฆษณาสําหรับ โฆษณาแบบข้อความ คุณสามารถจัดโฆษณาแบบรูปภาพลงในกลุ่มโฆษณาต่างๆ ในแคมเปญของคุณ คุณมีรูปภาพผลิตภัณฑ์เทนนิสเป็นจํานวนมาก ฉะนั้น สมมติว่าคุณตัดสินใจที่จะเน้นผลิตภัณฑ์เทนนิสใน แคมเปญแบบดิสเพลย์นี้ คุณดําเนินการเช่นเดียวกับที่ทํากับโฆษณาแบบข้อความทุกประการ • สร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์ (โฆษณาแบบรูปภาพหรือวิดีโอ): – การใช้เทมเพลตเครื่องช่วยสร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์: เครื่องช่วยสร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นแกลเลอรีเทม เพลตแบบสร้างล่วงหน้าที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างโฆษณาแบบกําหนดเองในเวลาไม่กี่นาที โดยมีโลโก้และ รูปภาพผลิตภัณฑ์ของคุณประกอบ – อัปโหลดโฆษณาแบบรูปภาพดั้งเดิม: คุณสามารถอัปโหลดโฆษณาแบบรูปภาพที่คุณสร้างเองไปยังกลุ่ม โฆษณาได้โดยตรง • เรียนรู้วิธีสร้างโฆษณาแบบรูปภาพทีละขั้นตอน • เรียนรู้วิธีสร้างโฆษณาวิดีโอทีละขั้นตอน
  • 36. • เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาโฆษณา: เช่นเดียวกับโฆษณาแบบข้อความ คุณจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา แบบดิสเพลย์โดยการเปลี่ยนสี แบบอักษร และรูปลักษณ์โดยรวมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเรียนรู้เกี่ยวกับวิธี สร้างโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่ประสบความสําเร็จ • เลือกกลยุทธ์ในการกําหนดเป้ าหมาย: คุณสามารถเริ่มต้นโดยใช้การกําหนดเป้าหมายตามบริบทสําหรับกลุ่ม โฆษณาแบบดิสเพลย์เลือกคําหลักที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงในเว็บไซต์ที่ เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ คุณสามารถใช้รายการคําหลักและราคาเสนอชุดเดียวกันกับที่ใช้กับโฆษณาแบบ ข้อความได้ • การเพิ่มตําแหน่ง: คุณสามารถเพิ่มการกําหนดเป้าหมายจาก ตําแหน่ง ลงในกลุ่มโฆษณาได้ซึ่งจะช่วยให้คุณ สามารถเลือกเว็บไซต์และหน้าเว็บในเครือข่ายดิสเพลย์ที่จะให้โฆษณาของคุณปรากฏได้คุณสามารถใช้ เครื่องมือวางแผนแคมเปญดิสเพลย์เพื่อดูแนวคิดเรื่องตําแหน่งที่จะกําหนดเป้าหมาย นอกจากนี้ คุณยัง สามารถทดสอบการตั้งค่าราคาเสนอระดับตําแหน่งแต่ละรายการสําหรับแคมเปญ เช่นเดียวกับราคาเสนอ ระดับคําหลักได้อีกด้วยดูวิธีเพิ่มตําแหน่งทีละขั้นตอน • ดูวิธีเปลี่ยนราคาเสนอสําหรับคําหลักและตําแหน่งทีละขั้นตอน