More Related Content
Similar to อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์38
Similar to อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์38 (20)
อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์38
- 3. ชนิดของไมโครโฟน
1.ไมโครโฟนแบบไดนามิกมูฟวิ่งคอล์ย (Dynamic Movie Coil Microphone) หรือที่เรียกสั้นๆว่า
ไดนามิกไมโครโฟน เป็นไมโครโฟนที่ใช้หลักการของการเคลื่อนที่ของขดลวดตามเสียงที่มากระทบ และ
เมื่อขดลวดตัดผ่านสนามแม่เหล็กถาวร ก็จะเกิดเป็นแรงเคลื่อนไฟฟ้าตามคลื่นเสียงนั้น ไมโครโฟนชนิดนี้
เป็นที่นิยมแพร่หลาย ครอบคลุมการใช้งานเกือบ
ทุกประเภท เพราะสามารถรับเสียงในย่านกว้างทั้งความถี่ต่าและความถี่สูงได้
2.ไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone) เป็นไมโครโฟนที่ออกแบบโดยใช้
หลักการเปลี่ยนแปลงค่าความจุ ตามเสียงที่มากระทบแผ่นฉนวนที่อยู่ระหว่างแผ่นเพลทสองแผ่น โดย
ส่วนใหญ่ไมโครโฟนประเภทนี้จะต้องมีแหล่งจ่ายไฟเลี้ยงเช่น ถ่านไฟฉายอยู่ด้วย สามารถตอบสนอง
ความถี่สูงได้ดีมาก
3.ไมโครโฟนแบบไร้สาย (Wireless Microphone) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไมค์ลอย “ ซึ่งความ
จริงก็คือไมโครโฟน 2 แบบแรก เพียงแต่เพิ่มวงจรเครื่องส่งให้สามารถส่งสัญญาณออกมาเป็นคลื่นวิทยุ
ได้นั่นเอง
- 6. ลาโพง (Loudspeaker)
ลาโพงที่เรามักพบเห็นกันทั่วไปมี 2 แบบคือ
1. ลาโพงแบบตู้ปิด จะเป็นลาโพงที่ใช้ตามบ้าน โดยภายในจะประกอบด้วยตัวลาโพง หลาย
ตัว โดยแต่ละตัว จะมีความสามารถ ในการตอบสนองความถี่ต่างๆกัน
2. ลาโพงฮอร์น (Horn) ส่วนใหญ่มักใช้กับงานกระจายเสียงกลางแจ้ง เพราะเป็นลาโพงที่
มีประสิทธิภาพสูง แต่คุณภาพเสียงไม่ค่อยดีนัก โดยด้านหลังจะมีตัวขับเสียงซึ่งสามารถ
ถอดเปลี่ยนได้ มักเรียก
ทับศัพท์ว่า “ยูนิตฮอร์น” (Unit Horn)
- 7. หลักการทางาน
ลาโพงแบบตู้ปิดส่วนใหญ่ จะเป็นลาโพงแบบ ไดนามิกมูฟวิ่งคอล์ย (Dynamic Moving Coil) โดยจะมีโครงสร้างดังนี้
1.ขอบลำโพง จะมีลักษณะเป็นลอน มีทั้งแบบขอบกระดาษ,ขอบยาง หรือขอบที่ทาจากพลาสติกโพลีเมอร์ ขอบ
ลาโพง มีหน้าที่ในการยึดกรวยลาโพงเข้ากับเฟรม
2.กรวยลำโพง (Cone) ส่วนใหญ่มักทาด้วยกระดาษอาจจะมีบางบริษัททาด้วยสารพลาสติก กรวยลาโพงจะ
ยึดติดกับขดลวดเสียง (Voice Coil) โดยจะมีการเคลื่อนตัวเข้าออกตามขดลวดทาให้เกิดเป็นคลื่นเสียง
ออกมา
3.แผ่นเพลทด้ำนบน (Top Plate) เป็นโลหะที่แม่เหล็กไม่ดูดใช้กั้นด้านบน เพื่อกันเส้นแรง
แม่เหล็กให้อยู่ภายในช่องว่าง (Gap) ภายในลาโพงไม่ให้เล็ดลอดออกมาด้านนอก
4.แผ่นเพลทส่วนกลำง (Pole Piece) ทาหน้าที่เช่นเดียวกัน คือ กันไม่ให้สนามแม่เหล็กกระจายออกมา
ทาให้สนามแม่เหล็กรวมตัวกันอยู่ภายในช่องว่างที่สอดขดลวดเสียง
5.แท่งแม่เหล็ก (Magnet) อาจทาเป็น แม่เหล็กอัลนิโค (Alnico Magnet) ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่าง
อะลูมิเนียม กับ โคบอลท์ หรือแบบ แม่เหล็กเฟอร์ไรท์ (Ferrite) สร้างสนามแม่เหล็กภายในลาโพง ส่วนใหญ่
ลาโพงที่มีราคาแพงมักใช้แม่เหล็กอัลนิโคขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กปริมาณมากๆภายในช่องว่าง
6.โครงเหล็ก (Frame) ก็คือส่วนที่เป็นโครงโลหะของลาโพงนั่นเอง
7.ขดลวดเสียง (Voice Coil) หรือที่เรียกทับศัพท์ว่า “วอยซ์คอล์ย” คือขดลวดที่วางในช่องแคบ ๆ(Gap)
ภายในลาโพง และยึดติดกับกรวยลาโพง ส่วนปลายทั้งสองข้างเชื่อมกับขั้วต่อด้านนอกที่จะไปต่อกับเครื่องขยาย
เสียง
8.สไปเดอร์ (Spider) มีลักษณะเป็นลอนอยู่ด้านหลังของกรวยลาโพง โดยทาหน้าที่เหมือนสปริง เพื่อช่วยให้
เกิดการยืดหยุ่นในการคืนตัวกลับของกรวยลาโพง
- 8. สแกนเนอร์ (Scanner)
สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์จับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพ จากรูปแบบของแอนาลอก
เป็นดิจิตอล ซึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถแสดง, เรียบเรียง, เก็บรักษาและผลิต
ออกมาได้ ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสาม
มิติ
สแกนเนอร์แบ่งป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. สแกนเนอร์ดึงกระดาษ (Sheet - Fed Scanner)
2. สแกนเนอร์แท่นเรียบ (Flatbed Scanner)
3. สแกนเนอร์มือถือ (Hand - Held Scanner)