1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน เทคโนโลยีกับชีวิตประจาวันของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1…นางสาว ณัฐพร นวพงศ์ไพบูลย์…เลขที่ …18…ชั้น …ม.6…ห้อง...11....
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1………………………………….. เลขที่……… 2…………………………………เลขที่ ……….
3………………………………….. เลขที่………
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เทคโนโลยีกับชีวิตประจาวันของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Artificial Intelligence in Globalization
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ณัฐพร นวพงศ์ไพบูลย์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันโลกได้มีการพัฒนาและที่เห็นชัดที่สุดก็คือการพัฒนาด้านเทคโนโลยี คนเราต้องการความ
สะดวกสบายในการใช้ชีวิตดังนั้นจึงต้องประดิษฐ์สิ่งที่สามารถอานวยความสะดวก จึงเป็นAIที่สามารถทาให้การใช้ชีวิต
ของเราสะดวกยิ่งขึ้น และ AI ก็มีบทบาทอย่างมากในโลกปัจจุบัน โครงงานเรื่องนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับ
ชีวิตประจาวันของเราและจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ เทคโนโลยีที่ทาให้
คอมพิวเตอร์มีลักษณะเสมือนมนุษย์หรือจักรกลอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความคิด การวิเคราะห์ หรือ
แม้กระทั่งการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ต่าง ๆ โดยใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่มนุษย์นั้นได้เขียนหรือ
จัดทาชุดคาสั่งขึ้นมา แล้วนามาประมวลผลหรือนามาฝังไว้กับอุปกรณ์ส่วนใดส่วนหนึ่งนั้น ๆ เพื่อที่จะสามารถทาให้
เกิดระบบจักรกลอัจฉริยะนั้น ๆ หรืออุปกรณ์นั้น ๆ สามารถที่จะสื่อสารกับมนุษย์เองด้วยกันได้ ประโยชน์ของ AI นั้นมี
มากมาย ทั้งทาให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นยังมีความปลอดภัยอีกด้วย แต่มีดีก็ต้องมีโทษ เพราะ AI เป็น
เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายคนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงจึงทาให้ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และบางคนอาจะนาไปใช้ผิดวิธี อีกทั้งยัง
มีเรื่องของบทบาทของมนุษย์ที่มีน้อยลง ดังนั้นจึงอยากศึกษาเรื่องนี้เพื่อที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับAIและหาแนวทางในการ
อยู่ร่วมกับมัน
3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.หาความหมายของ AI
2.ข้อดี-ข้อเสียของ AI
3.ประโยชน์
4.ผลกระทบ
5.การแก้ปัญหา
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.วัตถุประสงค์ในการดาเนินงาน
2.รูปแบบการนาเสนอ
3.ระยะเวลาตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
Appreciative Inquiry (Coopperrider D. L. and Whitney D., 1999)ที่ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์กล่าวไว
คือกระบวนการศึกษาค้นหาร่วมกันเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคน ในองค์กร หรือของโลกที่อยู่รอบตัวของเขา สุนทรีย
สาธกคือกระบวนการค้นหาอย่างเป็นระบบว่าอะไรเป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้ระบบดาเนินไปอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อ
ระบบนั้นสามารถบรรลุซึ่งประสิทธิผลสูงสุดไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านนิเวศวิทยา หรืออะไรที่เกี่ยวกับมนุษย์ก็
ตาม สุนทรียสาธก เป็นศิลปะของการถามคาถาม ที่นาไปสู่การส่งเสริมให้ระบบมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาไปสู่
ศักยภาพสูงสุด สุนทรียสาธก เป็นกระบวนการที่ขับเคลื่อนให้เกิดการถามคาถามในเชิงบวกแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ซึ่ง
มักเกิดขึ้นกับคนตั้งแต่ไม่กี่คน จนถึงเป็นล้านคน ในกระบวนการการทา สุนทรียสาธก จะเปิดโอกาสให้กับจินตนาการ
และนวัตกรรม แทนที่จะเป็นความคิดด้านลบ หรือการวิพากษ์วิจารณ์ สุนทรียสาธก ยืนอยู่บนสมมติฐานที่ว่าในทุก
ระบบล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวด้านบวกที่สร้างแรงบันดาลใจที่ยังไม่มีใครนามาขยายผล และมีมากพอ เราสามารถ
เชื่อมโยงการค้นพบด้านบวกนี้เข้ากับเรื่องใดก็ได้ วงจร Appreciative Inquiry สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการสนทนา
แบบเร็วๆสั้นๆกับเพื่อน หรือนามาใช้เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กรก็ได้ วงจรสุนทรียสาธก จะเริ่มจาก
การค้นหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด (Peak Experience) จากนั้นเอาประสบการณ์ที่ได้ไปสานต่อเป็นความฝัน หรือ
วิสัยทัศน์ (Dream) วางแผนทาให้วิสัยทัศน์เป็นจริง (Design) และเริ่มต้นทา (Destiny)
หลักการที่เป็นพื้นฐานของทฤษฎี Appreciative Inquiry
สุนทรียสาธก ยืนอยู่บนหลักการห้าประการ (Coopperrider D. L. and Whitney D., 1999) ดังนี้
The Constructionist Principle เป็นหลักการพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังแนวคิด Appreciative Inquiry ทั้งหมด
หลักการคือ เรากาหนดชะตากรรมเราเองได้ เราสร้าง และร่วมสร้างหนทางใหม่ให้ตนเองได้ The Poetic Principle
อดีต ปัจจุบัน อนาคตของเราเปิดกว้างต่อการตีความ และความเป็นไปได้ที่ไม่มีขีดจากัดอะไรทั้งสิ้น เราสามารถพบสิ่ง
ดีๆในตัวบุคคล ในตัวองค์กรใดๆก็ตาม ในใครก็ตาม สิ่งที่เราเลือกที่จะสนใจจะสร้างสิ่งที่เป็นจริงขึ้นมา ถ้าเราให้ความ
สนใจอะไรเป็นพิเศษมันจะเติบโตเป็นประสบการณ์จริงๆของเรามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ The Simulteneity Principle การ
เปลี่ยนแปงใดๆเริ่มต้นเมื่อเราถามThe Anticipatory Principle ภาพในอนาคตที่เราสร้างขึ้นในใจ จะเป็นสิ่งนาทาง
เราในการแก้ปัญหาของเราในปัจจุบัน และสร้างสรรอนาคตแก่เรา ภาพมีความหมายมากกว่าคาพูด ยิ่งภาพท้าทาย
และชัดเพียงใด เราก็มีแนวโน้มจะเติบโตไปเส้นทางนั้นมากยิ่งขึ้น The Positive Principle การที่จะทาให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืนได้นั้น มีเงื่อนไขว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของการคิดบวก อารมณ์ดี มีความสัมพันธ์ที่ดี มี
ความรู้สึกว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันก็มีควาสนุกสนานอยู่ในตัว การมีอารมณ์ที่ดีมีส่วน
สาคัญต่อการทางานและการเติบโต กล่าวคือหากเรามีความสุข เราจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
4
Appreciative Inquiry มีกี่รูปแบบ
ปัจจุบันมีการทา Appreciative Inquiryในรูปแบบต่างๆดังนี้ (Whitney and Troston-Bloom, 2003)
1.Whole-system 4-D Dialogue: สมาชิกในองค์กร และผู้มีส่วนได้เสีบบางราย เข้าร่วมกระบวนการ 4-D ซึ่งจะ
เกิดขึ้นในหลายๆสถานที่ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
2.Appreciative Inquiry Summit: คนจานวนมากเข้าร่วมในกระบวนการ 4-D พร้อมๆกัน ใช้เวลาสองถึงสี่วัน
3.Mass-mobilized Inquiry: มีการสัมภาษณ์คนจานวนมาก (พันคนถึงล้านคน) ในหัวข้อเรื่องความรับผิดชอบต่อ
สังคม ทั่วเมือง ทั่วชุมชน หรือทั่วโลก
4.Positive Change Consortium: องค์กรหลายองค์กรร่วมมือกันในกระบวนการ 4-D เพื่อสารวจและพัฒนาเรื่องที่
เป็นความสนใจร่วมกัน
5.Core group inquiry: กลุ่มคนจานวนน้อยเลือกหัวข้อที่สนใจ ออกแบบสอบถาม และสัมภาษณ์
6.Positive change network: สมาชิกในองค์กรได้รับการฝึกอบรมเรื่อง AI พร้อมได้รับการสนับสนุนเรื่องทรัพยากร
ในการพัฒนาโครงการ และแบ่งปันเอกสาร เรื่องราว และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดแก่กัน
7.AI Learning Teams: คนจานวนไม่มาก ที่มีหัวข้อที่สนใจอยู่แล้ว เช่นทีมประเมิน ทีมพัฒนากระบวนการ ทีมศึกษา
ความต้องการผู้บริโภค ทีมพัฒนาระบบงาน หรือกลุ่มนักศึกษาที่ศึกษาและดาเนินโครงการตาม 4-D
8.Progressive AI Meetings: องค์กร หรือทีมงาน ดาเนินการประชุมตาม 4-D โดยใช้ระยะเวลาการประชุม 10-12
ครั้งแต่ละครั้งใช้เวลา 2-4 ชั่วโมง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- เลือกหัวข้อ
- ตั้งสมมุติฐานและข้อสงสัย
- รวบรวมข้อมูลจากที่ต่างๆ
- นาข้อมูลมาเปรียบเทียบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ AI
- สรุปผลแล้วนาเสนอ
- ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- อินเทอร์เน็ต
- หนังสือที่เกี่ยวข้อง
- โทรศัพท์
งบประมาณ
-
5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ได้รู้ว่า AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร มีกี่รูปแบบ ใช้ทาอะไรบ้าง ข้อดีและข้อเสีย และผลกระทบเพื่อที่จะได้ปรับตัว
และอยู่ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีความสุข
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัด เชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยีในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของโลก
คณิตศาสตร์ - การคาดคะเนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์./ (2017)./ AI (เอไอ) คืออะไร - ปัญญา ประดิษฐ์ วิธีการทาให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถ
คล้ายมนุษย์./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/ จากเว็บไซต์:///////http://mindphp.com/
Matana Wiboonyasake./ (2561)./ เมื่อเราพูดถึง AI คุณนึกถึงอะไร? ./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/ จาก
เว็บไซต์: ///////https://www.aware.co.th/
PeerPower./ (2017)./ ทาความรู้จัก AI ผู้ช่วยที่จะมาเปลี่ยนโลกการลงทุน./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/
จากเว็บไซต์: ///////https://www.peerpower.co.th/blog/invest/ai-investment/

2561 project-artificial intelligence 18611

  • 1.
    1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6 ปีการศึกษา 2561 ชื่อโครงงาน เทคโนโลยีกับชีวิตประจาวันของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชื่อผู้ทาโครงงาน 1…นางสาว ณัฐพร นวพงศ์ไพบูลย์…เลขที่ …18…ชั้น …ม.6…ห้อง...11.... ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)………………………………………………… ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2.
    2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม .…… 1………………………………….. เลขที่………2…………………………………เลขที่ ………. 3………………………………….. เลขที่……… คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) เทคโนโลยีกับชีวิตประจาวันของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Artificial Intelligence in Globalization ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ณัฐพร นวพงศ์ไพบูลย์ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) ในปัจจุบันโลกได้มีการพัฒนาและที่เห็นชัดที่สุดก็คือการพัฒนาด้านเทคโนโลยี คนเราต้องการความ สะดวกสบายในการใช้ชีวิตดังนั้นจึงต้องประดิษฐ์สิ่งที่สามารถอานวยความสะดวก จึงเป็นAIที่สามารถทาให้การใช้ชีวิต ของเราสะดวกยิ่งขึ้น และ AI ก็มีบทบาทอย่างมากในโลกปัจจุบัน โครงงานเรื่องนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจาวันของเราและจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ เทคโนโลยีที่ทาให้ คอมพิวเตอร์มีลักษณะเสมือนมนุษย์หรือจักรกลอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความคิด การวิเคราะห์ หรือ แม้กระทั่งการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ต่าง ๆ โดยใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่มนุษย์นั้นได้เขียนหรือ จัดทาชุดคาสั่งขึ้นมา แล้วนามาประมวลผลหรือนามาฝังไว้กับอุปกรณ์ส่วนใดส่วนหนึ่งนั้น ๆ เพื่อที่จะสามารถทาให้ เกิดระบบจักรกลอัจฉริยะนั้น ๆ หรืออุปกรณ์นั้น ๆ สามารถที่จะสื่อสารกับมนุษย์เองด้วยกันได้ ประโยชน์ของ AI นั้นมี มากมาย ทั้งทาให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นยังมีความปลอดภัยอีกด้วย แต่มีดีก็ต้องมีโทษ เพราะ AI เป็น เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายคนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงจึงทาให้ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และบางคนอาจะนาไปใช้ผิดวิธี อีกทั้งยัง มีเรื่องของบทบาทของมนุษย์ที่มีน้อยลง ดังนั้นจึงอยากศึกษาเรื่องนี้เพื่อที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับAIและหาแนวทางในการ อยู่ร่วมกับมัน
  • 3.
    3 วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.หาความหมายของAI 2.ข้อดี-ข้อเสียของ AI 3.ประโยชน์ 4.ผลกระทบ 5.การแก้ปัญหา ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) 1.วัตถุประสงค์ในการดาเนินงาน 2.รูปแบบการนาเสนอ 3.ระยะเวลาตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) Appreciative Inquiry (Coopperrider D. L. and Whitney D., 1999)ที่ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์กล่าวไว คือกระบวนการศึกษาค้นหาร่วมกันเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคน ในองค์กร หรือของโลกที่อยู่รอบตัวของเขา สุนทรีย สาธกคือกระบวนการค้นหาอย่างเป็นระบบว่าอะไรเป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้ระบบดาเนินไปอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อ ระบบนั้นสามารถบรรลุซึ่งประสิทธิผลสูงสุดไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านนิเวศวิทยา หรืออะไรที่เกี่ยวกับมนุษย์ก็ ตาม สุนทรียสาธก เป็นศิลปะของการถามคาถาม ที่นาไปสู่การส่งเสริมให้ระบบมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาไปสู่ ศักยภาพสูงสุด สุนทรียสาธก เป็นกระบวนการที่ขับเคลื่อนให้เกิดการถามคาถามในเชิงบวกแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ซึ่ง มักเกิดขึ้นกับคนตั้งแต่ไม่กี่คน จนถึงเป็นล้านคน ในกระบวนการการทา สุนทรียสาธก จะเปิดโอกาสให้กับจินตนาการ และนวัตกรรม แทนที่จะเป็นความคิดด้านลบ หรือการวิพากษ์วิจารณ์ สุนทรียสาธก ยืนอยู่บนสมมติฐานที่ว่าในทุก ระบบล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวด้านบวกที่สร้างแรงบันดาลใจที่ยังไม่มีใครนามาขยายผล และมีมากพอ เราสามารถ เชื่อมโยงการค้นพบด้านบวกนี้เข้ากับเรื่องใดก็ได้ วงจร Appreciative Inquiry สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการสนทนา แบบเร็วๆสั้นๆกับเพื่อน หรือนามาใช้เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กรก็ได้ วงจรสุนทรียสาธก จะเริ่มจาก การค้นหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด (Peak Experience) จากนั้นเอาประสบการณ์ที่ได้ไปสานต่อเป็นความฝัน หรือ วิสัยทัศน์ (Dream) วางแผนทาให้วิสัยทัศน์เป็นจริง (Design) และเริ่มต้นทา (Destiny) หลักการที่เป็นพื้นฐานของทฤษฎี Appreciative Inquiry สุนทรียสาธก ยืนอยู่บนหลักการห้าประการ (Coopperrider D. L. and Whitney D., 1999) ดังนี้ The Constructionist Principle เป็นหลักการพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังแนวคิด Appreciative Inquiry ทั้งหมด หลักการคือ เรากาหนดชะตากรรมเราเองได้ เราสร้าง และร่วมสร้างหนทางใหม่ให้ตนเองได้ The Poetic Principle อดีต ปัจจุบัน อนาคตของเราเปิดกว้างต่อการตีความ และความเป็นไปได้ที่ไม่มีขีดจากัดอะไรทั้งสิ้น เราสามารถพบสิ่ง ดีๆในตัวบุคคล ในตัวองค์กรใดๆก็ตาม ในใครก็ตาม สิ่งที่เราเลือกที่จะสนใจจะสร้างสิ่งที่เป็นจริงขึ้นมา ถ้าเราให้ความ สนใจอะไรเป็นพิเศษมันจะเติบโตเป็นประสบการณ์จริงๆของเรามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ The Simulteneity Principle การ เปลี่ยนแปงใดๆเริ่มต้นเมื่อเราถามThe Anticipatory Principle ภาพในอนาคตที่เราสร้างขึ้นในใจ จะเป็นสิ่งนาทาง เราในการแก้ปัญหาของเราในปัจจุบัน และสร้างสรรอนาคตแก่เรา ภาพมีความหมายมากกว่าคาพูด ยิ่งภาพท้าทาย และชัดเพียงใด เราก็มีแนวโน้มจะเติบโตไปเส้นทางนั้นมากยิ่งขึ้น The Positive Principle การที่จะทาให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืนได้นั้น มีเงื่อนไขว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของการคิดบวก อารมณ์ดี มีความสัมพันธ์ที่ดี มี ความรู้สึกว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันก็มีควาสนุกสนานอยู่ในตัว การมีอารมณ์ที่ดีมีส่วน สาคัญต่อการทางานและการเติบโต กล่าวคือหากเรามีความสุข เราจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
  • 4.
    4 Appreciative Inquiry มีกี่รูปแบบ ปัจจุบันมีการทาAppreciative Inquiryในรูปแบบต่างๆดังนี้ (Whitney and Troston-Bloom, 2003) 1.Whole-system 4-D Dialogue: สมาชิกในองค์กร และผู้มีส่วนได้เสีบบางราย เข้าร่วมกระบวนการ 4-D ซึ่งจะ เกิดขึ้นในหลายๆสถานที่ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง 2.Appreciative Inquiry Summit: คนจานวนมากเข้าร่วมในกระบวนการ 4-D พร้อมๆกัน ใช้เวลาสองถึงสี่วัน 3.Mass-mobilized Inquiry: มีการสัมภาษณ์คนจานวนมาก (พันคนถึงล้านคน) ในหัวข้อเรื่องความรับผิดชอบต่อ สังคม ทั่วเมือง ทั่วชุมชน หรือทั่วโลก 4.Positive Change Consortium: องค์กรหลายองค์กรร่วมมือกันในกระบวนการ 4-D เพื่อสารวจและพัฒนาเรื่องที่ เป็นความสนใจร่วมกัน 5.Core group inquiry: กลุ่มคนจานวนน้อยเลือกหัวข้อที่สนใจ ออกแบบสอบถาม และสัมภาษณ์ 6.Positive change network: สมาชิกในองค์กรได้รับการฝึกอบรมเรื่อง AI พร้อมได้รับการสนับสนุนเรื่องทรัพยากร ในการพัฒนาโครงการ และแบ่งปันเอกสาร เรื่องราว และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดแก่กัน 7.AI Learning Teams: คนจานวนไม่มาก ที่มีหัวข้อที่สนใจอยู่แล้ว เช่นทีมประเมิน ทีมพัฒนากระบวนการ ทีมศึกษา ความต้องการผู้บริโภค ทีมพัฒนาระบบงาน หรือกลุ่มนักศึกษาที่ศึกษาและดาเนินโครงการตาม 4-D 8.Progressive AI Meetings: องค์กร หรือทีมงาน ดาเนินการประชุมตาม 4-D โดยใช้ระยะเวลาการประชุม 10-12 ครั้งแต่ละครั้งใช้เวลา 2-4 ชั่วโมง วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน - เลือกหัวข้อ - ตั้งสมมุติฐานและข้อสงสัย - รวบรวมข้อมูลจากที่ต่างๆ - นาข้อมูลมาเปรียบเทียบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ AI - สรุปผลแล้วนาเสนอ - ปรับปรุงและแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ - คอมพิวเตอร์ - อินเทอร์เน็ต - หนังสือที่เกี่ยวข้อง - โทรศัพท์ งบประมาณ -
  • 5.
    5 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 12 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) ได้รู้ว่า AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร มีกี่รูปแบบ ใช้ทาอะไรบ้าง ข้อดีและข้อเสีย และผลกระทบเพื่อที่จะได้ปรับตัว และอยู่ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีความสุข สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัด เชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง วิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยีในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของโลก คณิตศาสตร์ - การคาดคะเนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์./ (2017)./ AI (เอไอ) คืออะไร - ปัญญา ประดิษฐ์ วิธีการทาให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถ คล้ายมนุษย์./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/ จากเว็บไซต์:///////http://mindphp.com/ Matana Wiboonyasake./ (2561)./ เมื่อเราพูดถึง AI คุณนึกถึงอะไร? ./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/ จาก เว็บไซต์: ///////https://www.aware.co.th/ PeerPower./ (2017)./ ทาความรู้จัก AI ผู้ช่วยที่จะมาเปลี่ยนโลกการลงทุน./ สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561,/ จากเว็บไซต์: ///////https://www.peerpower.co.th/blog/invest/ai-investment/