SlideShare a Scribd company logo
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน แนวที่ใช่...เพลงที่ชอบ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิก
นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
แนวที่ใช่ เพลงที่ชอบ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Styles of music
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม นางสาวชลธิชา ทาคาฟู
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบันที่เทคโนโลยี สารสนเทศ และวิทยาศาสตร์ ต่างก็ล้วนได้เข้ามามีอิทธิพลต่อลักษณะการ
ดารงชีวิตของเรา และ พลโลกมากขึ้น ทาให้นานาประเทศเกิดความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการ
รับประทานอาหาร การแต่งกาย หรือความนิยมใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือ ดนตรี ซึ่งเกิดความหลากหลายทางแนวเพลงมาก
ขึ้น เช่น ร็อค แจ๊ส บลู อาร์แอนบี คันทรี่ เป็นต้น ทาให้บทเพลงมีความน่าสนใจ และได้รับความนิยม ต่อทั้งผู้แต่งเพลง
และผู้ฟัง เพราะแนวเพลงแต่ละแนวล้วนแต่เสน่ห์ที่น่าดึงดูดแตกต่างกันไป และไม่มีความซ้าซาก ขึ้นอยู่กับว่าผู้ฟังจะ
นิยมแนวเพลงแบบไหน
ดังนั้นดิฉันจึงได้จัดทาโครงงานเรื่องนี้ขึ้น เพื่อแหล่งความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ ต้องการศึกษาวิชาศิลปะ สาขาดนตรี
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวเพลงต่างๆ ที่มีความหลากหลาย และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนเป็นแนวทางในการค้นหา
ว่าเรานั้นนิยมแนวเพลงแบบใด
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับลักษณะของแนวเพลง
2. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของแนวเพลง
3. เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาทางบทเพลงของยุคนั้นๆ
4. เพื่อช่วยในการแยกแยะประเภทของแนวเพลง
5. เพื่อนาไปใช้ในการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึก
ขอบเขตโครงงาน
จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ แนวที่ใช่ เพลงที่ชอบ เป็นโครงงานเพื่อการศึกษา ในการศึกษาเกี่ยวกับแนวเพลง
หลักการและทฤษฎี
แนวเพลง เป็นการจาแนกเพลงที่มีลักษณะพื้นฐานต่าง ๆ ร่วมกัน โดยอาจไม่ได้คานึงถึงเกี่ยวกับด้านดนตรี
อย่างเดียว (เช่น ที่มาของเพลง และ เนื้อหาของเพลง เป็นต้น) อาจพูดได้ว่า แนวเพลงนั้นพิจารณาจาก เทคนิค รูปแบบ
บริบท ที่มา และเนื้อหาของเพลง เป็นต้น
ประเภทของแนวเพลง แบ่งได้หมวดใหญ่ๆ ดังนี้
ดนตรีคลาสสิก (Classical music)
เป็นรูปแบบหนึ่งของดนตรี ซึ่งมักจะหมายถึงดนตรีที่เป็นศิลปะของตะวันตก
กอสเปล (Gospel music
คือแนวเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลัก กอสเปลจะมีลักษณะการร้องประสานเสียง การร้องเฉลิมฉลอง
และใส่ความเชื่อทางศาสนาในเนื้อร้อง โดยกอสเปลได้ซึมเข้าไปดนตรีหลายๆประเภท
แจ๊ส (Jazz)
เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนดาในสหรัฐอเมริกา (African Americans)
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีลักษณะพิเศษคือโน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะสวิง การโต้และตอบ
ทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิกชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
บลูส์ (Blues)
เป็นรูปแบบของดนตรีประเภทหนึ่ง เกิดจากสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนดาที่หลั่งไหลเข้าสู่
สหรัฐอเมริกาเพื่อการเป็นทาส
โซล (Soul music)
เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่งที่รวมกันระหว่างอาร์แอนด์บีและกอสเปล
ริทึมแอนด์บลูส์ (Rhythm and Blues , R&B , R'n'B , RnB)
เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยม โดยผสมผสานระหว่างเพลงแนว แจ๊ส กอสเปล และบลูส์ โดย
เริ่มแรกจะเล่นโดยศิลปินแอฟริกัน-อเมริกัน
พังก์ (Punk)
เป็นดนตรีร็อกประเภทหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 พังก์ร็อกได้
พัฒนาระหว่างปี 1974 และ 1977 ในสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย : เป็นดนตรีร็อก
ประเภทหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 พังก์ร็อกได้พัฒนาระหว่างปี 1974
และ 1977 ในสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย
ดิสโก้ (Disco)
เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่ง สาขาย่อยของดนตรีแดนซ์ ที่ผสมผสานแนวฟังก์กับโซลเข้าด้วยกัน
ร็อก(Rock)
เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในกระแสหลักในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 มีต้นกาเนิดจากดนตรี
ร็อกแอนด์โรล ริทึมแอนด์บลูส์ ดนตรีคันทรีในคริสต์ทศวรรษ 1940 และ 1950 รวมถึงเพลงแนวโฟล์ก แจ๊ซ
และดนตรีคลาสสิก
เฮฟวีเมทัล (Heavy metal)
เป็นแนวเพลงร็อกประเภทหนึ่งที่พัฒนาในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ด้วย
รากฐานของดนตรี บลูส์-ร็อก และ ไซเคเดลิกร็อก โดยมีหลายวงได้พัฒนาเฮฟวีเมลทัล ให้มีความหนา, หนัก,
ดนตรีที่เน้นกีตาร์และกลอง และลักษณะเฉพาะตัวที่มีการโซโล่กีตาร์ที่รวดเร็ว
ดนตรีคันทรี (Country music)
เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมเกิดในแถบสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้และทางภูเขาแอพพาลาเชียน มี
ต้นกาเนิดจากดนตรีโฟล์ก, ดนตรีเคลติก, ดนตรีกอสเปล และดนตรีโอลด์-ไทม์ และพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ในช่วงทศวรรษ 1920
สกา (Ska)
เป็นแนวเพลงที่เกิดในประเทศจาไมก้า ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ซึ่งต่อมามีการพัฒนาเป็น
rocksteady และ เร้กเก้
ดนตรีป็อป หรือ เพลงป็อป (Pop music หรือ Pop song)
เป็นแนวเพลงซึ่งมีลักษณะของโมโลดี้ที่ฟังง่าย ฟังสบาย และมีท่วงทานองที่พริ้วไหว สามารถสร้าง
ความสนุกสนานให้กับผู้ฟังได้ดนตรีป็อบมักถูกนามาผสมผสานกับกลิ่นอายของดนตรีแนวอื่น ๆ เช่น ร็อก,
แจ๊ส, ฮิปฮอป, เร้กเก้, ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์, อาร์แอนด์บี, ฟังก์ หรือแม้แต่โฟล์ก
เร้กเก้ (reggae)
เป็นแนวดนตรีแอฟริกัน-แคริบเบียน ซึ่งพัฒนาขึ้นบนหมู่เกาะจาไมก้า และมีความชิดใกล้เชื่อมต่อกับ
ลัทธิรัสตาฟาเรียน (Rastafarianism) รากดั้งเดิมของเร้กเก้สามารถค้นหาได้จากดนตรีเทรดิชั่นหรือประเพณี
นิยมของแอฟริกัน-แคริบเบียนที่มีพอๆ กับดนตรีริธึ่มแอนด์บลูส์ของอเมริกัน
ฮิปฮอป (Hip Hop)
มีความหมายถึงในด้านดนตรีแนวฮิปฮอป
เวิลด์มิวสิก (World music)
มีความหมายถึงเพลงท้องถิ่นหรือเพลงโฟล์กในวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์และเล่นโดยนักดนตรี
ท้องถิ่น
เพลงลูกทุ่ง
คือเพลงที่สะท้อนวิถีชีวิต สภาพสังคมอุดมคติและวัฒนธรรมไทย โดยมีท่วงทานอง คาร้อง สาเนียง
และลีลาการร้องการบรรเลงที่เป็นแบบแผน มีลักษณะเฉพาะซึ่งให้บรรยากาศ ความเป็นลูกทุ่ง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อ
2.ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3.จัดทาโครงร่างโครงงาน
4.ตรวจสอบงาน
5.ปรับปรุงแก้ไข
6.นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.กระดาษ
3.ดินสอ ยางลบ
งบประมาณ -
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.เข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของแนวเพลงมากขึ้น
2.ได้รู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาของแนวเพลง
3.ได้รู้และเข้าใจประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาทางบทเพลงของยุคนั้นๆ
4.สามารถแยกแยะประเภทของแนวเพลงได้
5.ใช้เพลงในการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึกได้ถูกต้อง
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้ดนตรี
2.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
3.กลุ่มสาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
แหล่งอ้างอิง
https://sites.google.com/site/webphelnghimphelngkeaphelnghit/phelng-him-phelng-kea-
phelng-hit/naew-phelng
http://www.forwardmag.com/webboard/topic-1129432.html
https://th.wikipedia.org/wiki/
www.soompi.com
http://devikekepek.blogspot.com/2013/07/png-music.html
http://songkhlatoday.com/paper/88790
http://missqb123.deviantart.com/art/SNSD-Png-by-M-iuSeo-339236321
http://realmofheaven.deviantart.com/art/Music-PNG-Background-265799227

More Related Content

Viewers also liked

Charo D Domingo CV_rev 05042015
Charo D  Domingo CV_rev 05042015Charo D  Domingo CV_rev 05042015
Charo D Domingo CV_rev 05042015
Charo Domingo
 
Practica 2
Practica 2Practica 2
Practica 2
Jose Gomez
 
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
Andrzej Syguła
 
UH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
UH Interaksi MH terhadap LingkungannyaUH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
UH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
-Yuniati Said
 
Adolecent pregnancy
Adolecent pregnancyAdolecent pregnancy
Adolecent pregnancy
Valentina Restrepo Hernandez
 
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
Yayasan Rumah Peneleh
 
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hayKhuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
Lm. An Thanh, CSsR
 
Tetrology of Fallot (TOF) - A Review
Tetrology of Fallot (TOF) - A ReviewTetrology of Fallot (TOF) - A Review
Tetrology of Fallot (TOF) - A Review
Vivek Rana
 
Srčane mane
Srčane maneSrčane mane
Srčane mane
dr Šarac
 
Šest grupa vaginalnog sekreta
Šest grupa vaginalnog sekreta Šest grupa vaginalnog sekreta
Šest grupa vaginalnog sekreta
dr Šarac
 

Viewers also liked (10)

Charo D Domingo CV_rev 05042015
Charo D  Domingo CV_rev 05042015Charo D  Domingo CV_rev 05042015
Charo D Domingo CV_rev 05042015
 
Practica 2
Practica 2Practica 2
Practica 2
 
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
2012 Smartfony jako narzędzie w procesie edukacji w szkole wyższej - możliwos...
 
UH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
UH Interaksi MH terhadap LingkungannyaUH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
UH Interaksi MH terhadap Lingkungannya
 
Adolecent pregnancy
Adolecent pregnancyAdolecent pregnancy
Adolecent pregnancy
 
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
(Emansipasi) Wanita (Salah Kaprah): Memperingati 108 Tahun Perjuangan Tjoet N...
 
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hayKhuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
Khuôn mẫu cho một kịch bản phim hay
 
Tetrology of Fallot (TOF) - A Review
Tetrology of Fallot (TOF) - A ReviewTetrology of Fallot (TOF) - A Review
Tetrology of Fallot (TOF) - A Review
 
Srčane mane
Srčane maneSrčane mane
Srčane mane
 
Šest grupa vaginalnog sekreta
Šest grupa vaginalnog sekreta Šest grupa vaginalnog sekreta
Šest grupa vaginalnog sekreta
 

Similar to 2558 project

งานคอมโฟน
งานคอมโฟนงานคอมโฟน
งานคอมโฟนChatika Ruankaew
 
คอม
คอมคอม
แบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมแบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมNing Sirikanya
 
แบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมแบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมNing Sirikanya
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sirikanya Pota
 
เสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
เสียงต่อการพัฒนาของเด็กเสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
เสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
Chayapon Wangsoonthorn
 
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8  สาระที่ 2 หน่วยที่ 8
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8 khomkrit2511
 
2562 final-project_31
2562 final-project_312562 final-project_31
2562 final-project_31
nutnichaphandet
 
ทฤษฎีของสี
ทฤษฎีของสีทฤษฎีของสี
ทฤษฎีของสี
Bam Hattamanee
 
นักแต่งเพลง
นักแต่งเพลงนักแต่งเพลง
นักแต่งเพลงNing Rommanee
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Baimon Sirapasson
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yaiแผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
jutatip3059
 
Ppp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วPpp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วUbonpan Sornsakul
 
Ppp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วPpp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วUbonpan Sornsakul
 
Music and Human
Music and HumanMusic and Human
Music and Human
spirite01
 
โดรงร่างงานคอม
โดรงร่างงานคอมโดรงร่างงานคอม
โดรงร่างงานคอม
fearlo kung
 
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากลการประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
Thanakrit Muangjun
 

Similar to 2558 project (20)

งานคอมโฟน
งานคอมโฟนงานคอมโฟน
งานคอมโฟน
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
Musicprogram
MusicprogramMusicprogram
Musicprogram
 
รายการเพลง
รายการเพลงรายการเพลง
รายการเพลง
 
แบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมแบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอม
 
แบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอมแบบโครงร่างงานคอม
แบบโครงร่างงานคอม
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
เสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
เสียงต่อการพัฒนาของเด็กเสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
เสียงต่อการพัฒนาของเด็ก
 
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8  สาระที่ 2 หน่วยที่ 8
สาระที่ 2 หน่วยที่ 8
 
2562 final-project_31
2562 final-project_312562 final-project_31
2562 final-project_31
 
ทฤษฎีของสี
ทฤษฎีของสีทฤษฎีของสี
ทฤษฎีของสี
 
นักแต่งเพลง
นักแต่งเพลงนักแต่งเพลง
นักแต่งเพลง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yaiแผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 i live in bua yai
 
Ppp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วPpp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้ว
 
Ppp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้วPpp ผ่านแล้ว
Ppp ผ่านแล้ว
 
Music and Human
Music and HumanMusic and Human
Music and Human
 
โดรงร่างงานคอม
โดรงร่างงานคอมโดรงร่างงานคอม
โดรงร่างงานคอม
 
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากลการประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
การประยุกต์ดนตรีไทยกับดนตรีสากล
 

2558 project

  • 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน แนวที่ใช่...เพลงที่ชอบ ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิก นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6 ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) แนวที่ใช่ เพลงที่ชอบ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Styles of music ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพาขวัญ รุ่งเสรีชัย ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม นางสาวชลธิชา ทาคาฟู ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือน ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เนื่องจากในปัจจุบันที่เทคโนโลยี สารสนเทศ และวิทยาศาสตร์ ต่างก็ล้วนได้เข้ามามีอิทธิพลต่อลักษณะการ ดารงชีวิตของเรา และ พลโลกมากขึ้น ทาให้นานาประเทศเกิดความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการ รับประทานอาหาร การแต่งกาย หรือความนิยมใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือ ดนตรี ซึ่งเกิดความหลากหลายทางแนวเพลงมาก ขึ้น เช่น ร็อค แจ๊ส บลู อาร์แอนบี คันทรี่ เป็นต้น ทาให้บทเพลงมีความน่าสนใจ และได้รับความนิยม ต่อทั้งผู้แต่งเพลง และผู้ฟัง เพราะแนวเพลงแต่ละแนวล้วนแต่เสน่ห์ที่น่าดึงดูดแตกต่างกันไป และไม่มีความซ้าซาก ขึ้นอยู่กับว่าผู้ฟังจะ นิยมแนวเพลงแบบไหน ดังนั้นดิฉันจึงได้จัดทาโครงงานเรื่องนี้ขึ้น เพื่อแหล่งความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ ต้องการศึกษาวิชาศิลปะ สาขาดนตรี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวเพลงต่างๆ ที่มีความหลากหลาย และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนเป็นแนวทางในการค้นหา ว่าเรานั้นนิยมแนวเพลงแบบใด
  • 3. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับลักษณะของแนวเพลง 2. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของแนวเพลง 3. เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาทางบทเพลงของยุคนั้นๆ 4. เพื่อช่วยในการแยกแยะประเภทของแนวเพลง 5. เพื่อนาไปใช้ในการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึก ขอบเขตโครงงาน จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ แนวที่ใช่ เพลงที่ชอบ เป็นโครงงานเพื่อการศึกษา ในการศึกษาเกี่ยวกับแนวเพลง หลักการและทฤษฎี แนวเพลง เป็นการจาแนกเพลงที่มีลักษณะพื้นฐานต่าง ๆ ร่วมกัน โดยอาจไม่ได้คานึงถึงเกี่ยวกับด้านดนตรี อย่างเดียว (เช่น ที่มาของเพลง และ เนื้อหาของเพลง เป็นต้น) อาจพูดได้ว่า แนวเพลงนั้นพิจารณาจาก เทคนิค รูปแบบ บริบท ที่มา และเนื้อหาของเพลง เป็นต้น ประเภทของแนวเพลง แบ่งได้หมวดใหญ่ๆ ดังนี้ ดนตรีคลาสสิก (Classical music) เป็นรูปแบบหนึ่งของดนตรี ซึ่งมักจะหมายถึงดนตรีที่เป็นศิลปะของตะวันตก กอสเปล (Gospel music คือแนวเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลัก กอสเปลจะมีลักษณะการร้องประสานเสียง การร้องเฉลิมฉลอง และใส่ความเชื่อทางศาสนาในเนื้อร้อง โดยกอสเปลได้ซึมเข้าไปดนตรีหลายๆประเภท แจ๊ส (Jazz) เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนดาในสหรัฐอเมริกา (African Americans) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีลักษณะพิเศษคือโน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะสวิง การโต้และตอบ ทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิกชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริกา บลูส์ (Blues) เป็นรูปแบบของดนตรีประเภทหนึ่ง เกิดจากสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนดาที่หลั่งไหลเข้าสู่ สหรัฐอเมริกาเพื่อการเป็นทาส โซล (Soul music) เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่งที่รวมกันระหว่างอาร์แอนด์บีและกอสเปล
  • 4. ริทึมแอนด์บลูส์ (Rhythm and Blues , R&B , R'n'B , RnB) เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยม โดยผสมผสานระหว่างเพลงแนว แจ๊ส กอสเปล และบลูส์ โดย เริ่มแรกจะเล่นโดยศิลปินแอฟริกัน-อเมริกัน พังก์ (Punk) เป็นดนตรีร็อกประเภทหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 พังก์ร็อกได้ พัฒนาระหว่างปี 1974 และ 1977 ในสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย : เป็นดนตรีร็อก ประเภทหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 พังก์ร็อกได้พัฒนาระหว่างปี 1974 และ 1977 ในสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย ดิสโก้ (Disco) เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่ง สาขาย่อยของดนตรีแดนซ์ ที่ผสมผสานแนวฟังก์กับโซลเข้าด้วยกัน ร็อก(Rock) เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในกระแสหลักในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 มีต้นกาเนิดจากดนตรี ร็อกแอนด์โรล ริทึมแอนด์บลูส์ ดนตรีคันทรีในคริสต์ทศวรรษ 1940 และ 1950 รวมถึงเพลงแนวโฟล์ก แจ๊ซ และดนตรีคลาสสิก เฮฟวีเมทัล (Heavy metal) เป็นแนวเพลงร็อกประเภทหนึ่งที่พัฒนาในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ด้วย รากฐานของดนตรี บลูส์-ร็อก และ ไซเคเดลิกร็อก โดยมีหลายวงได้พัฒนาเฮฟวีเมลทัล ให้มีความหนา, หนัก, ดนตรีที่เน้นกีตาร์และกลอง และลักษณะเฉพาะตัวที่มีการโซโล่กีตาร์ที่รวดเร็ว ดนตรีคันทรี (Country music) เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมเกิดในแถบสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้และทางภูเขาแอพพาลาเชียน มี ต้นกาเนิดจากดนตรีโฟล์ก, ดนตรีเคลติก, ดนตรีกอสเปล และดนตรีโอลด์-ไทม์ และพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในช่วงทศวรรษ 1920 สกา (Ska) เป็นแนวเพลงที่เกิดในประเทศจาไมก้า ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ซึ่งต่อมามีการพัฒนาเป็น rocksteady และ เร้กเก้ ดนตรีป็อป หรือ เพลงป็อป (Pop music หรือ Pop song) เป็นแนวเพลงซึ่งมีลักษณะของโมโลดี้ที่ฟังง่าย ฟังสบาย และมีท่วงทานองที่พริ้วไหว สามารถสร้าง ความสนุกสนานให้กับผู้ฟังได้ดนตรีป็อบมักถูกนามาผสมผสานกับกลิ่นอายของดนตรีแนวอื่น ๆ เช่น ร็อก, แจ๊ส, ฮิปฮอป, เร้กเก้, ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์, อาร์แอนด์บี, ฟังก์ หรือแม้แต่โฟล์ก
  • 5. เร้กเก้ (reggae) เป็นแนวดนตรีแอฟริกัน-แคริบเบียน ซึ่งพัฒนาขึ้นบนหมู่เกาะจาไมก้า และมีความชิดใกล้เชื่อมต่อกับ ลัทธิรัสตาฟาเรียน (Rastafarianism) รากดั้งเดิมของเร้กเก้สามารถค้นหาได้จากดนตรีเทรดิชั่นหรือประเพณี นิยมของแอฟริกัน-แคริบเบียนที่มีพอๆ กับดนตรีริธึ่มแอนด์บลูส์ของอเมริกัน ฮิปฮอป (Hip Hop) มีความหมายถึงในด้านดนตรีแนวฮิปฮอป เวิลด์มิวสิก (World music) มีความหมายถึงเพลงท้องถิ่นหรือเพลงโฟล์กในวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์และเล่นโดยนักดนตรี ท้องถิ่น เพลงลูกทุ่ง คือเพลงที่สะท้อนวิถีชีวิต สภาพสังคมอุดมคติและวัฒนธรรมไทย โดยมีท่วงทานอง คาร้อง สาเนียง และลีลาการร้องการบรรเลงที่เป็นแบบแผน มีลักษณะเฉพาะซึ่งให้บรรยากาศ ความเป็นลูกทุ่ง วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. กาหนดหัวข้อ 2.ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3.จัดทาโครงร่างโครงงาน 4.ตรวจสอบงาน 5.ปรับปรุงแก้ไข 6.นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.คอมพิวเตอร์ 2.กระดาษ 3.ดินสอ ยางลบ งบประมาณ -
  • 6. ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.เข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของแนวเพลงมากขึ้น 2.ได้รู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาของแนวเพลง 3.ได้รู้และเข้าใจประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาทางบทเพลงของยุคนั้นๆ 4.สามารถแยกแยะประเภทของแนวเพลงได้ 5.ใช้เพลงในการสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึกได้ถูกต้อง สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1.กลุ่มสาระการเรียนรู้ดนตรี 2.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 3.กลุ่มสาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์