More Related Content Similar to ระบบปฏิบัติการ Similar to ระบบปฏิบัติการ (18) ระบบปฏิบัติการ3. DOS เป็นซอฟต์แวร์จัดระบบงานที่พัฒนามานานแล้ว การใช้งานจึงใช้คำสั่งเป็นตัวอักษร ดอสเป็นซอฟต์แวร์ที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ Windows ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อจากดอส เพื่อเน้นการใช้งานที่ง่ายขึ้น สามารถทำงานหลายงานพร้อมกันได้ โดยงานแต่ละงานจะอยู่ใน กรอบช่องหน้าต่างที่แสดงผลบนจอภาพ การใช้งานเน้นรูปแบบกราฟิก 4. OS/2 เป็นระบบปฏิบัติการแบบเดียวกับวินโดวส์ แต่บริษัทผู้พัฒนาคือ บริษัท ไอบีเอ็ม เป็นระบบปฏิบัติการที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้ทำงานได้หลายงานพร้อมกัน และการใช้งานก็เป็นแบบกราฟิกเช่นเดียวกับวินโดวส์ ปัจจุบันไม่มีการใช้งานกันแล้ว Unix ระบบปฏิบัติการที่พัฒนามาตั้งแต่ครั้งใช้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานได้หลายงานพร้อมกัน และทำงานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ส่วนประกอบต่างๆของ Windows 1.Start - คลิกปุ่มนี้ จะมีเมนูแสดงขึ้นมา 2.Desktop - บริเวณพื้นที่ของ Windows เพื่อแสดงไอคอน หรือโปรแกรมที่เราเรียกใช้งาน 3.Task Bar - บริเวณที่แสดงว่ามีโปรแกรมใดทำงานค้างอยู่ 4. Icons - รูปภาพแทนคำสั่ง สำหรับไอคอนพื้นฐาน 6. ทำความรู้จัก Control Panel Control Panel ที่เป็นที่เก็บโปรแกรมสำคัญๆ ของ Windows เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวกับการควบคุมการทำงานของ Windows ทั้งหมด ดังนั้นถ้าต้องการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมอุปกรณ์อะไรก็ตาม หรือจัดการอะไรเกี่ยวกับ Windows ก็จำเป็นจะต้องใช้บริการในส่วนของ Control Panel เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม บางโปรแกรมอาจสามารถเรียกโดยไม่ต้องผ่าน Control Panel ก็ได้ การเรียกใช้ Control Panel 1. คลิกปุ่ม Start 2. คลิกเมนู Settings 3. คลิกเลือก Control Panel จะได้ดังภาพประกอบด้านบน 7. การจัดการไฟล์ ด้วย Windows Explorer Windows Explorer เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการเข้าถึงไฟล์ โฟลเดอร์ และไดร์ฟต่างๆ ภายในเครื่องคอมฯ ของเรา โดยหน้าต่างทางซ้ายมือจะแสดงรายชื่อ ไดร์ฟ และโฟลเดอร์ ส่วนหน้าต่างทางขวามือจะแสดงรายชื่อโฟลเดอร์ และรายละเอียดของชื่อไฟล์แต่ละไฟล์ นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดให้แสดงรายละเอียดในรูปแบบต่างๆ กันได้ เช่น แสดงรายละเอียดเป็นตัวอักษร เป็นไอคอน ก็ได้ 8. การเรียนใช้ Windows Explorer 1. เรียกจากเมนู Start 2. คลิกเมนู Programs 3. คลิกเลือก Accessories เลือก Windows Explorer ( สำหรับ Windows ME) 4. หรือสามารถเรียกได้จาก คลิกไอคอนที่ My Computer 5. คลิกขวา เลือก Explore 6. กรณีต้องการปรับเปลี่ยนการดูรายชื่อ ไฟล์และโฟลเดอร์ ให้คลิกเมนู View เลือก Large Icons , Small Icons, List, Details ทั้งนี้จะแสดงรายละเอียดต่างกันบ้างเล็กน้อย สำหรับ Windows แต่ละเวอร์ชั่น 9. วิธีการปรับแต่งไอคอน 1. เปลี่ยนชื่อไอคอน ให้คลิกเลือกไอคอน จากนั้นกดปุ่ม F2 พิมพ์ชื่อใหม่ตามต้องการ สามารถพิมพ์ชื่อภาษาไทยได้ด้วย 2. ลบไอคอน ให้คลิกเลือกไอคอน จากนั้นกดปุ่ม Del 3. จัดเรียงไอคอน ให้คลิกขวาบริเวณว่าง ๆ บนหน้าจอ เลือก Arrange Icons ดังภาพประกอบ จากนั้นเลือกว่าจะให้เรียงตามอะไร เช่น Name, Type, Size, Date แต่ถ้าต้องการให้เรียงอัตโนมัติให้คลิก Auto Arrange 4. เปลี่ยนไอคอน ให้คลิกเลือกไอคอนนั้นๆ จากนั้นคลิกขวา เลือก Properties เลือก Change Icon เลือกรูปแบบที่ต้องการ 10. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความสำคัญของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน เมื่อมนุษย์มีความจำเป็นที่จะติดต่อสื่อสารระหว่างกัน พัฒนาการ ทางด้านคอมพิวเตอร์จึงต้องตอบสนองเพื่อให้ใช้งานได้ตามความต้องการ แรกเริ่มมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์แบบ รวมศูนย์นั้น ต่อมามีการพัฒนาไมโครคอมพิวเตอร์ที่ทำให้สะดวกต่อการใช้งานส่วนบุคคล จนมีการเรียกไมโครคอมพิวเตอร์ ว่า พีซี ( Personal 11. การพัฒนาเรื่อยมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ได้แก่ เมนเฟรม มินิคอมพิวเตอร์ มาเป็นไมโครคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไมโครคอมพิวเตอร์ก็ได้รับ การพัฒนาให้มีขีดความสามารถและทำงานได้มากขึ้น จนกระทั่งคอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาให้คอมพิวเตอร์ทำงานในรูปแบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ในที่สุดระบบเครือข่ายก็จะเข้ามาแทนระบบคอมพิวเตอร์เดิมที่เป็นแบบรวมศูนย์ได้ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทวีความสำคัญและได้รับความนิยมมากขึ้น 12. เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีบทบาทที่สำคัญต่อหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ 1. ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และสามารถทำงานพร้อมกัน 2. ให้สามารถใช้ข้อมูลต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งทำให้องค์การได้รับประโยชน์มากขึ้น 3. ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า เช่น ใช้เครื่องประมวลผลร่วมกัน แบ่งกันใช้แฟ้มข้อมูล ใช้เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์ที่มีราคาแพงร่วมกัน 4. ทำให้ลดต้นทุน เพราะการลงทุนสามารถลงทุนให้เหมาะสมกับหน่วย งานได้ 13. ชนิดของเครือข่าย เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งแยกตามสภาพการเชื่อมโยงได้ 2 ชนิด - เครือข่ายแลน ( Local Area Network : LAN) - เครือข่ายแวน ( Wide Area Network : WAN เครือข่ายแลน หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้องถิ่นเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในท้องที่ บริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น ภายในอาคาร หรือภายในองค์การที่มีระยะทางไม่ไกลมากนัก 14. เครือข่ายแวน เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในระยะไกล เช่น เชื่อมโยงระหว่างจังหวัด ระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่ายระยะไกล จึงต้องอาศัยระบบบริการข่ายสายสาธารณะ เทคโนโลยีเครือข่ายแลน การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่ายแลนนั้น มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสื่อสาร ข้อมูลระหว่างกันได้ทั้งหมดหากนำเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่องต่อสายสัญญาณเข้าหากันจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งสอง นั้นส่งข้อมูลถึงกันได้ เครือข่ายแลนที่น่าสนใจ เช่น อีเทอร์เน็ต ( Ethernet) โทเก็นริง (Token Ring) และ สวิตชิง ( Switching) 15. อีเทอร์เน็ต ( Ethernet) อีเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่พัฒนามาจากโครงสร้างการเชื่อมต่อแบบสายสัญญาณร่วมที่เรียกว่า บัส ( Bus) ใช้สายสัญญาณแบบแกนร่วม คือ สายโคแอกเชียล เป็นตัวเชื่อม สำหรับระบบบัส และมีการพัฒนาระบบการรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์กลางที่เรียกว่า ฮับ ( Hub) และเรียกระบบใหม่นี้ว่า เทนเบสที ( 10 base t) โดยใช้สายสัญญาณที่มีขนาดเล็กลงและราคาถูกซึ่งเรียกว่า สายคู่บิตเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน ( Unshielded twisted pair : UTP) ทำให้การเชื่อมต่อนี้ มีลักษณะ แบบดาว 16. โทเก็นริง โทเก็นริง เป็นเครือข่ายที่บริษัท ไอบีเอ็ม พัฒนาขึ้น รูปแบบการเชื่อมโยงจะเป็น วงแหวน โดยด้านหนึ่งเป็นตัวรับสัญญาณและอีกด้านหนึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณ การเชื่อมต่อแบบนี้ทำให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ โดยผ่านเส้นทางวงแหวนนี้ สวิตชิง สวิตชิง เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างสถานีทำได้เร็วยิ่งขึ้น การคัดเลือกชุดข้อมูล ที่ส่งมาและส่งต่อไปยังสถานีปลายทาง จะกระทำที่ชุมสายกลาง ที่เรียกว่า สวิตชิง 17. การใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 1. การใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน 2. การติดต่อสื่อสารระหว่างกันบนเครือข่าย 3. สำนักงานอัตโนมัติ ตัวอย่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตพัฒนามาตั้งแต่ปี พ . ศ . 2512 โดยกระทรวงกลาโหมประเทศสหรัฐอเมริกาให้ทุนกับมหาวิทยาลัย ชั้นนำในสหรัฐฯ เพื่อเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยเข้าเป็นเครือข่าย และใช้ทรัพยากรเพื่อทำงานวิจัย เกี่ยวกับการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ร่วมกัน ซึ่งสมัยแรกใช้ชื่อว่า อาร์ปาเน็ต และจึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น อินเทอร์เน็ตในภายหลัง เครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนาให้เป็นมาตรฐาน โดยมาตรฐานการรับส่งข้อมูลมีชื่อว่า ทีซีพี / ไอพี ( TCP/IP) ต่อมามีการเชื่อมเครือข่ายออกสู่องค์กรเอกชน และแพร่ขยายไปทั่วโลก 18. อินทราเน็ต เมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนามาจนเป็นที่ยอมรับและแพร่หลาย จึงมีผู้ต้องการสร้างเครือข่ายใช้งานเฉพาะในองค์กร โดยนำวิธีการในอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้กับเครือข่ายของตนเอง เครือข่ายที่ใช้งานเฉพาะในองค์การนี้จึงเรียกว่า เครือข่ายอินทราเน็ต การประยุกต์ใช้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตใช้หลักการที่มีสถานีให้บริการ และสถานีผู้ใช้บริการ สถานีผู้ใช้บริการมีโปรแกรมเชื่อมต่อที่ทำให้ใช้งานระบบฐานข้อมูลได้ง่าย อินทราเน็ตจึงใช้วิธีการเดียวกันนี้ เพราะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้การพัฒนาขึ้น และพร้อมที่จะเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต