More Related Content
Similar to ความรู้เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต1
Similar to ความรู้เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต1 (20)
ความรู้เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต1
- 3. การเชื่อมโยงเครือข่ายจะใช้เครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม เช่น สายสัญญาณโทรศัพท์ ใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)สัญญาณไมโครเวฟ สัญญาณจากดาวเทียม ทำให้การส่งผ่านข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อินเทอร์เน็ตเป็น แหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นที่รวมทั้งบริการและเครื่องมือสืบค้นข้อมูลหลายประเภท จนกระทั่งกล่าวได้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร
- 4. ประวัติความเป็นมา อินเทอร์เน็ต (Internet)เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเริ่มก่อตั้งโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา อินเทอร์เน็ตในยุคแรกๆ ประมาณปี พ.ศ. 2512 เป็นเพียงการนำคอมพิวเตอร์จำนวนไม่กี่เครื่องมาเชื่อมต่อกัน โดยสายส่งสัญญาณเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ภารกิจหลัก เพื่อใช้ในงานวิจัยทางทหาร โดยใช้ชื่อว่า "อาร์ปา" (ARPA : Advanced Research Project Agency) รูปแบบเครือข่ายอาร์พาเน็ตไม่ได้ต่อเชื่อมโฮสต์( Host ) คอมพิวเตอร์เข้าถึงกันโดย ตรง หากแต่ใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่า IMP ( Interface Message Processors ) ต่อเชื่อมถึงกันทางสาย โทรศัพท์เพื่อทำหน้าที่ด้านสื่อสารโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละIMP สามารถเชื่อมได้หลายโฮสต์
- 5. อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ในครั้งนั้นยังเป็นการเชื่อมต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้ช้า และไม่เป็นการถาวร
- 6. บริการบนอินเทอร์เน็ต บริการบนอินเทอร์เน็ต อภิมหาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายของเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก ในแต่ละเครือข่ายก็จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ ซึ่งอาจเรียกว่าเป็น เซิร์ฟเวอร์ (Server)หรือ โฮสต์(Host) เชื่อมต่ออยู่เป็นจำนวนมาก ระบบคอมพิวเตอร์เหล่านี้จะให้บริการต่างๆ แล้วแต่ลักษณะและจุดประสงค์ที่เจ้าของเครือข่ายนั้นหรือเจ้าของระบบคอมพิวเตอร์นั้นตั้งขึ้น ในอดีตมักมีเฉพาะบริการเรื่องข้อมูลข่าวสารและโปรแกรมที่ใช้ในแวดวงการศึกษาวิจัยเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันก็ได้ขยายเข้าสู่เรื่องของการค้าและธุรกิจแทบจะทุกด้าน บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ บริการด้านการสื่อสาร บริการด้านข้อมูลต่างๆ
- 7. บริการด้านข้อมูล การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล หรือบริการ FTP (File Transfer Protocol) เป็นบริการของอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง วีดิโอ หรือโปรแกรมต่างๆ ซึ่งการถ่ายโอนข้อมูลนั้นมีอยู่ 2 ลักษณะคือ การถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องของเราไปยังคอมพิวเตอร์ที่เป็นโฮสต์ (Host) เรียกว่า การอัปโหลด (Upload) ทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นสามารถใช้งานจากข้อมูลของเราได้ การที่เราถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากโฮสต์อื่นมายังคอมพิวเตอร์ของเราเรียกว่า การดาวน์โหลด (Download)
- 9. อนาคตของอินเทอร์เน็ต อนาคตของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง จากเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊กไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาที่เรียกกันว่า Palmtopและโทรศัพท์มือถือ
- 10. การรับ-ส่ง E-mail วิธีการรับ-ส่ง Electronic Mail(E-Mail) ในการรับ – ส่ง E- Mail ในปัจจุบันเราสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับว่าเราใช้บริการ E-Mail ของ Site ใด เช่น ของ Hotmail.com , ของ Excite.com Thaimail.com และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ ทาง Site ที่เราใช้บริการอยู่จะมีบริการในการจัดส่ง E-Mail ให้ ซึ่งแต่ละ Site ก็จะมีรูปแบบการส่ง และวิธีการที่ต่างกันไป
- 11. การรับ E -Mail การรับ E -Mail พิมพ์ User Nameที่ หมายเลข 1 พิมพ์ Passwordที่ หมายเลข 2 จากนั้นใช้ Mouse คลิกที่ Loginที่ หมายเลข 3 หลังจากที่เราใส่ User Name และ Password ที่ถูกต้องลงไปแล้วกดปุ่ม จะปรากฏหน้าจอดังรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า ไม่มี Mail ใหม่ ๆ เข้ามา กรณีที่มี Mail ใหม่ ๆ เข้ามาจะปรากฏในหน้าจอนี้เองโดยอัตโนมัติในทุก ๆ ครั้งที่เราเข้ามาดู
- 12. การส่ง E- Mail ขั้นที่ 1 นำ Mouse ไป Click ที่เมนู เขียนจดหมาย จากหน้าจอในรูปที่ 2 ขั้นที่ 2 หลังจากเลือกเมนูเขียนจดหมายแล้วจะปรากฏหน้าจอดังรูปที่ 3 หลังจากนั้นมีวิธีการดังนี้ หลังคำว่า ถึง : ให้ใส่ชื่อ E-Mail ของคนที่เราต้องการจะส่ง Mail ไปหา หากต้องการส่ง ไปให้หลายคนให้ใช้เครื่องหมาย Comma (,) คั่นระหว่าง E-Mail address ของแต่ละคน ในช่อง สำเนา : เป็นการทำสำเนา (Carbon Copy ) ของ Mail ไปถึงผู้รับโดยการใส่ชื่อ E-Mail ของคนที่เราต้องการส่ง Mail ไปให้ (เพิ่มเติมจากใน ถึง : )
- 13. ในช่อง สำเนาซ่อน :เป็นการทำสำเนาแบบ Blind Carbon Copy ใช้ในกรณีที่ต้องการส่ง E-Mail ถึงบุคคลอื่น โดยบุคคลที่เราส่ง E-Mail ไปให้ใน ถึง : และ สำเนา :จะไม่ทราบว่าเราส่งไปให้บุคคลนี้ด้วย ในช่องหัวเรื่อง : เป็นช่องสำหรับพิมพ์ชื่อเรื่องที่จะส่ง กล่องใหญ่ในส่วนล่างจะเป็นพื้นที่ในการเขียนข้อความที่เราต้องการที่จะส่ง เมื่อเขียนข้อความเสร็จแล้วให้นำ Mouse ไป Click ที่ปุ่ม “ส่งเมล์” ส่งข้อความเสร็จเรียบร้อยแล้วทาง thaimail.com ก็จะแจ้งให้ทราบว่า จดหมายส่งถึงผู้รับ เรียบร้อยแล้วดังรูป หรือบางครั้งก็จะแจ้งกลับไปที่หน้าจดหมายเข้าเลย