SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
Download to read offline
APPRECIATIVE
INQUIRY
FROM MOVIES
“เรียนรู้ APPRECIATIVE INQUIRY (AI)
ศาสตร์การพัฒนาองค์กรเชิงบวก
จากหนังดัง”
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
www.aithailand.org
Starwars: ไม่มีหนังอะไรอธิบาย Appreciative Inquiry (AI )
ได้ดีไปกว่าเรื่อง Starwars เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะตอนไหน
ก็จะเป็นการค้นพบพลัง ที่ซ่อนเร้นอยู่ในคนที่ดูจะธรรมดาคน
หนึ่ง แต่แล้วก็มีใครช่วยขยายผล สร้างโอกาส จนสามารถ
พลิกจักรวาลได้ AI คือการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
คล้ายๆ การค้นพบพลังอัศวินเจได ในหนัง Starwars ...AI
เริ่มจากการตั้งโจทย์ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร Affirmative
Choice จากนั้นก็มาออกแบบคำถามว่าจะค้นหาอะไร
(Discovery) เมื่อค้นพบก็เอามาสร้างฝันร่วมกัน (Dream) แล้ว
มาออกแบบร่วมกันว่าจะทำฝันให้เป็นจริงอย่างไร (Design)
จากนั้นก็หาคนทำ หาวิธีวัดผล กลยุทธ์เปลี่ยนแปลง แล้วก็ทำ
จริง แล้วก็มีการประเมินเป็นระยะ ทำเป็นวงจรจนกระทั่งฝัน
เป็นจริง เช่นเดียวกับ Starwars ที่เชื่อว่าภายใต้การครอบงำ
ของด้านมืด จักรวาลยังมีพลังด้านสว่างอยู่ และมักเจอเสมอ
AI ก็เช่นกัน เราเชื่อว่าในทุกคน ทุกระบบ มีเรื่องราวดีๆ ช่อน
เร้น รอการค้นพบ ไปขยายผลสร้างการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
ลองดูตัวอย่าง การค้นพบวิถีแห่งพลังในบริบทของไทยได้ที่
www.aithailand.org ครับ แล้วคุณจะรู้ว่า “พลังอยู่กับท่าน”
May the force be with you จริงๆ
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
James Bond 007: เจมศ์ บอนด์เป็นเรื่องของสายลับที่ทำ
หน้าที่ช่วยประเทศชาติอย่างมี Style มาตลอด แต่เก่งปาน
ไหน ก็ต้องเริ่มจากการสืบหาร่องรอยของศัตรู บอนด์เริ่ม
ค้นพบร่องรอยเล็กๆก่อน จากนั้นค่อยขยายผลจนโค่นล้ม
อาชญากรตัวเอ้ได้ในที่สุด การกระทำของบอนด์ก็คล้ายๆ
กับการทำ AI ครับ เอาง่ายๆ ถ้าคุณจะเป็น AI Practitioner
ได้ดีแล้ว คุณต้องทำแบบเจมส์ บอนด์ครับ ที่ค่อยๆ พาคน
สืบหาเรื่องราวลับๆ จะคนเดียวก็ยังได้ แต่เราสืบหาเรื่อง
ดีๆ เรื่องดีๆเล็กๆ จะนำไปสู่เรื่องดีๆ ขนาดใหญ่ได้เอง เช่น
ธนาคารแห่งหนึ่งต้องการขายประกันให้ชาวต่างชาติ แต่
พนักงานจำนวนมากไม่ค่อยถนัดภาษอังกฤษ เลยลอง
สืบหา ถามกันเลยว่ามีใครขายประกันให้ชาวตางชาติ
เก่งๆ บ้าง เลยไปเจออยู่คนหนึ่ง ไม่เก่งมากเรื่องภาษา แต่
ขายได้ นี่เองครับเราเอามาถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้คนอื่น
ต่อได้
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Batman Vs Superman: เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชาวโลกที่
แบ่งเป็นสองขั้วคือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการมีซูเปอร์ฮีโร่จาก
ต่างดาว กับกลุ่ม FC นำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่ตามมา
อย่างมากมาย องค์กรเช่นกัน Appreciative Inquiry เป็น
ศาสตร์ที่ใช้ในการพัฒนาองค์กร และแม้คุณจะเป็นสุดยอดใน
ฟีลล์ AI ก็ตาม ก็จะมีคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับการเข้ามา
ของที่ปรึกษาด้าน AI เรียกว่าเจอแรงต้านแน่นอน ไม่อยาก
เศร้าอย่างซุปเปอร์แมนก็ต้องวางแผนลดแรงต้านก่อน ด้วย
การถามคำถามเชิงบวกว่าองค์กรนี้เคยเปลี่ยนแปลงได้ผล
ด้วยวิธีการอะไรมาก่อน ดึงตรงนั้นมาใช้ได้ เพราะขนาดลูก
เถ้าแก่ ลูกศิษย์ผมอยากทำอะไรดีๆ ให้ที่ร้านยังไม่ได้เลย บอก
ว่า “พ่อไม่เชื่อ” เลยถามว่าตอนที่พ่อเชื่อคุณ คุณทำอย่างไร
ลูกศิษย์บอกว่า “เคยทำอะไรเล็กๆ ให้สำเร็จก่อนพ่อจะเชื่อ”
เท่านั้นเองเลยลองทำซ้ำ ตอนนี้พ่อยกธุรกิจให้ทั้งหมดเลย นี่
ครับ เป็นเทคนิกหนึ่งของการทำ AI จะทำในครอบครัว Family
Business หรือองค์กรขนาดใหญ่ เราก็ต้องค้นหาวิธีการ
ยุทธวิธีสร้างการเปลี่ยนแปลงก่อนเสนอ จึงจะราบรื่นมากขึ้น
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
สามก๊ก: ดูสามก๊กแล้วทำให้นึกถึงเรื่องของ AI คือ การ
เลือก Change Agent ที่เหมาะสม สามก๊กจริงๆ แล้ว ให้
ข้อคิดทุกมิติของการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะการใช้คน
จะเห็นว่าสามก๊ก คือการค้นหาคนเก่ง เข้าหา ดึงมาเป็น
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของตน AI เช่นกัน เรามีขั้นตอน
หนึ่งคือการเลือกคนที่เหมาะสมมาช่วยในการสร้างความ
สำเร็จ จะว่าไปสามก๊ก ก็ดึงคนมามีส่วนร่วม แต่ด้วย
บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบที่ต่างกันไป AI เช่นกัน ทุก
คนในองค์กรต้องมีส่วนร่วม ในขณะเดียวก็ต้องมี Change
Agent ด้วย ขงเบ้งคนเดียว ทำให้เล่าปี่ทำงานง่ายขึ้นมาก
เช่นกันในการทำ AI ก็ต้องมองหาคนที่จะช่วยผลักดัน
ความเปลี่ยนแปลงให้ เช่นในรัฐวิสาหกิจหนึ่งมีการสร้าง
การเปลี่ยนแปลง ที่อาจต้องกระทบกับสหภาพแรงงาน เรา
ก็เลยถามว่าใครที่จะสื่อสารความคิดของพวกเราให้
สหภาพแรงงานได้ดีที่สุด ที่สุดเราก็ได้ Change Agent ที่มา
ช่วยเราให้สามารถสื่อสารความคิดได้ราบรื่นขึ้น
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
ไซอิ๋ว: เห้งเจียจะเก่งอย่างไร ก็ต้องมีครูดีช่วย ถึงจะไปที่สุดของ
ชีวิตได้ ในการพัฒนาองค์กรแนว AI หรือแนวอื่นๆก็ตาม ส่ิงสำคัญ
มากๆ คือการมี Peer Review หรือมีเพื่อนช่วยมองงานให้ หรือถ้าอ
ยังใหม่ ควรหา Mentor หรือครูช่วยให้คำปรึกษา ชี้แนะ เพราะการ
ทำงานในเชิงคุณภาพ มีสิทธิที่เราจะใช้ความเห็นส่วนตัวตีความ
จนเกินจริง ต้องให้ผู้รู้ หรือเพื่อนช่วยมองๆ งานให้ด้วย จะได้งานที่
มีคุณค่าสูงได้มากขึ้น เห้งเจียก็เช่นกันดูฉลาด ว่องไว แต่ก็ไม่ได้
หมายถึงว่าจะประสบความสำเร็จได้ การที่เห้งเจียมีครู จึงเป็นอะไร
ที่ทำให้เห้งเจียมีการพัฒนาตนเองไปไกลกว่าเดิม ผมเองก็ได้ครูดี
Dr. Rita และ Dr. Perla สมัยเรียน ABAC สองท่านเป็นสุดยอดของ
มืออาชีพ การได้ครูดี มีโอกาสไกล้ชิดกับท่าน ทำให้เห็นการ
ทำงาน ความเป็นมืออาชีพ การดำรงตนอย่างมีศีลธรรม ทำให้เรา
รู้ว่ามืออาชีพในศาสตร์นี้ต้องเดินเส้นทางไหน และต้องเดินอย่างไร
ส่วนเวลาทำงานก็ต้องหา Peer Review ผมได้คนที่ทำงานด้วยช่วย
มองงานให้ ช่วยสังเกตให้ เมื่อวานก็ได้พี่ป๋อง ที่มานั่งเรียนกับผม
นั่นเอง ลูกศิษย์ครับ แต่เป็นผู้ใหญ่หน่อย ช่วยมอง ช่วยสังเกตการ
สอนผม ทำให้ผมได้แนวคิดดีๆ จากโรงเรียนฉือจี้ โดยเฉพาะการ
ตัดเกรดที่อาจเน้นความเมตตา ตัดเกรดก่อนหนึ่งเดือน เราจะเห็น
ปัญหาของศิษย์ แล้วเราก็เชิญชวนคนเก่งให้ไปช่วยยกระดับคนไม่
เก่ง เท่านี้เองจะไม่มีใครถูกทอดทิ้ง เพราะตัดเกรดแบบเดิม คนไม่
เก่งก็ไม่เก่งอยู่ตลอดไป นี่ไงครับ ผมจะทำตามพี่ป๋อง ลูกศิษย์ผม
แนะนำ เทอมนี้เลย ชัดไหมครับ เราเองขนาดทำมาสิบกว่าปี ก็อย่า
คิดว่าเราจะสมบูรณ์แบบ เราเองต้องหาครู หากัลยาณมิตรมาช่วย
มองงานเรา เราจะดีมากขึ้น เก่งขึ้น มีความสุขขึ้น
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Allegiant: เป็นเรื่องราวของคนที่ถูกทำให้เชื่อว่าโลกภายนอก
อันตราย หนีออกไปไม่ได้ แต่ด้วยความสงสัยจึงพยายามสืบค้น
ที่สุดก็ค้นพบความจริง การค้นพบความจริงนำมาสู่การฝัน และ
การกระทำเพื่อสร้างอนาคตใหม่ นี่ทำให้เห็นอะไรชัดมากครับ
องค์กรจำนวนมากติดหล่มปัญหา คนนจำนวนมากชินกับการ
อยู่กับปัญหา โดยไม่ชินกับการค้นหาเรื่องดีๆ มาแก้ ถ้าเรา
อดทนค้นหา สังเกต สอบถามหาวิธีแก้เราจะหลุดปัญหาได้ เช่น
เกาะแห่งหนึ่งที่ผมไปทำโครงการพัฒนาเกาะก็มีการบ่นมา
ตลอดว่าเกาะนี้คนไม่รับผิดชอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล แต่พอ
ถามว่าว่าแล้วใครไม่ปล่อยน้ำเสียลงทะเล คนงงครับ แต่ก็มีคน
ตอบว่ามีโรงแรมแห่งหนึ่งไม่ปล่อยน้ำเสียลงทะเลย เลยถามต่อ
เขาทำอย่างไร เขาร่วมมือกับชาวบ้านทำบ่อบำบัดนำ้เสีย นี่ไง
ครับได้ต้นแบบเป็นคำตอบ เงียบลงคนเริ่มมองหาวิธีการและ
อนาคตใหม่ทันที มีบ่นอีก คนที่นี่ไม่ภักดีต่อองค์กร อยู่ไม่นาน
เราเลยถามเชิงบวกว่าที่ไหนอยู่นาน ก็ได้มาสองโรงแรม
ต้นแบบ อย่าบ่นอย่างเดียวครับ นั่นสะท้อนว่าคุณอยู่ในกรงกัน
ล้วจะอยู่ไปอีกนาน หาวิธีครับ ตั้งคำถามเชิงบวก หาวิธีการดีๆ
ต้นแบบดีๆ ที่เคยทำได้ ในพื้นที่ก็ได้ นอกพื้นที่ก็ได้ คนจะสนุก
เห็นโอกาสใหม่ๆ มีโอกาสแก้ปัญหาได้มากกว่า
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Vikings: เรื่องนี้ผมชอบมากครับ ติดตามมานาน เป็นเรื่องราวของกษัตริย์แร็กน่า ที่พาชาวไวกิ้งบุกยุโรป แร็กน่า
เป็นคนมีวิสัยทัศน์เห้นคนไวกิ้งฆ่ากันเองเพื่อชิงพื้นที่ทำกินที่มีอยู่จำกัดแถมทุรกันดาน เลยชวนคนเผ่าอื่นมาเป็น
พันธมิตรบุกเบิกหาพื้นที่ใหม่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาฆ่ากันเอง นี่เองเป้นจุดเริ่มของเรื่องราวการเปลี่ยนแปลง แร็กน่า
ไม่ได้สร้างวิสัยทัศน์กับสร้างการมีส่วนร่วมอย่าวเดียว แร็กน่ายังหาความรู้ด้วย ด้วยการเป็นมิตรกับคนที่เคยเป็น
บาทหลวงชาวอังกฤษ ที่มีการศึกษามีความรู้เรื่องของยุโรปเป็นอย่างดี ทำให้เห็นหาทางที่จะไปบุกยึดยุโรปอย่างดี
ชัดมากครับ ตรงนี้ในการทำ AI หนังเรื่อง Vikings ให้ข้อคิดเรื่องการสร้างโจทย์จากปัญหาหรือการสร้าง
Affirmative Choice ปัญหาเดิมคือแย่งกันเพราะทรัพยกรจำกัด แต่กษัตริย์แร็กน่า ที่สร้างกรอบใหม่ ด้วยการตีกรอบ
ใหม่ (Reframing) พอเปลี่ยนกรอบใหม่คือ “มาร่วมกันหาดินแดนใหม่กันดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาฆ่ากัน” เท่านั้นเอง
โจทย์ใหม่ นำมาซึ่งการสืบค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ จนนำมาสู่การสั่งสมความรู้ การสร้างพันธมิตร และการ
บริหารทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด สำหรับทิศทางใหม่ จนประสบความสำเร็จในที่สุด การสร้างโจทย์แบบการตีกรอบ
ใหม่ Reframing ใหม่นี้สำคัญกับ AI มากๆ เช่น องค์กรแห่งหนึ่งเป็นโรงานแกะกุ้ง มีปัญหาคนงานออกมาก เราก็
สร้างโจทย์ใหม่ว่า มาทำโรงงานที่คนอยากอยู่กัน ที่สุดก็นำมาสู่การตั้งคำถามเชิงบวก ค้นหาว่าทำไมคนดีๆ ถึงอยู่
นาน และนำมาซึ่งคำตอบที่ดี เอามาแก้ไขปัญหาปัจจับน และเพิ่มผลผลิตได้ การสร้างโจทย์ใหม่ ทำให้บรรยากาศ
การพัฒนาองค์กรดีแต่ต้น ไม่เกิดการโทษ หรือการแบ่งแยกกัน ทำให้ง่ายต่อการสร้างการมีส่วนร่วม
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
The Martian: เรื่องนี้เป็นเรื่องคนที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคาร
เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต้องหาทางกลับบ้าน ทั้งที่ความหวัง
ริบหรี่ แต่พระเอกก็ใช้ความรู้ที่มีในฐานะนักพฤกษศาสตร์ ค้นหา
วิธีการปลูกพืช และเอาตัวรอด จนกระทั่งสามารถติดต่อกลับมายัง
โลก และได้รับความช่วยเหลือในที่สุด เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการ
ทำ AI จริงๆ ว่า ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสามารถเริ่มจากสิ่งที่
เรามีอยู่ เช่นความสามารถ หรืออุปกรณ์ที่มีอยู่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง
ลงทุนอะไรเพิ่มเติม หลายครั้งเพียงปรับวิธีการทำงานด้วย
ทรัพยากรที่มีอยู่ ทุกอย่างก็เปลี่ยนได้แล้ว เช่นในองค์กรของรัฐ
แห่งหนึ่งที่ผมไปทำ พนักงานรู้สึกว่าแต่ก่อนคนน้อยเลยรู้จักกัน มี
อะไรก็หารือกัน ไอ้ที่ไม่รู้เลยรู้เร็ว พี่สอนน้อง แต่ตอนนี้องค์กร
ขยายตัว มากขึ้น คนเยอะ ไม่ไกล้ชิดเกิดความเสี่ยง เพราะเด็ก
ใหม่ ไม่รู้อะไรที่ควรรู้ ทำให้เกิดความเสี่ยง เลยค้นหากันว่าเคยมี
เหตุการณ์ไหนในชีวิตที่ทำให้คนรู้จักกันแล้วสอนกัน ก็มีคนพูด
เรื่องประเพณีสายระหัสในมหาลัย ก็เลยเอาแนวคิดนี้มาใช้ใน
องค์กรชั้นนำนั้นครับ ไม่ต้องเสียเงินอะไรเพิ่ม เป็นเทคนิกดีๆ ที่
เคยทำสมัยเด็กๆ แต่เอามาใช้กับผู้ใหญ่ ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูง
ตื่นเต้นมาก เพราะมีรุ่นน้องสายระหัส ทำให้เกิดความสนิทสนม
ถ่ายทอดความรู้กัน ชัดไหมครับ ไม่ต้องลงทุนก็ได้ เอาความรู้ที่มี
อยู่นี่เองมาทำ ก็ไปได้ดีแล้วครับ
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Harry Potter: การเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่จำเป็นต้องเริ่มกับ
คนที่ดูเหมือนมีประสบการณ์สูงตลอดไปครับ คนใหม่ๆ ก็
สามารถมามีส่วนสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนกับ
Harry Potter พระเอกตัวจริงๆ เป็นเด็กๆ ทั้งนั้นครับ ลูก
ศิษย์ผมที่โรงงานแห่งหนึ่งไปถามพนักงานว่า “ภาคภูมิใจ
อะไรที่สุด” พนักงานบอก “พี่ๆ ผมเพิ่มผ่านโปร เข้างานมา
แค่สี่เดือนจะมีอะไรภาคภูมิใจเหรอ” ลูกศิษย์ผมเลยถามว่า
“เอาเท่าที่มี นิดหนึ่งก็ได้” เขาเลยเล่าว่าเขาภูมิใจที่ผ่านงาน
ได้เร็ว เลยซักต่อว่าสาเหตุที่ทำให้ผ่านเร็วคืออะไร พนักงาน
ใหม่บอกว่า “มีป้าคนหนึ่งในสายการผลิต สอนงานให้ เลย
เป็นเร็ว” เรื่องนี้คือการค้นพบเรื่องหนึ่งที่สำคัญในโรงงาน
แห่งนั้นเลย ที่สุดมีการขยายผลหาคนเก่ง สร้างโครงการ
Mentroship ขึ้นมา ช่วยลดเวลาฝึกคนได้มาก เพราะฉะนั้น
การทำ AI ก็เหมือนกับ Harry Potter ที่ใครก็ตามแม้อาวุโส
น้อยสุด ก็จะมีเรื่องดีๆ ประสบการณ์ดีๆให้เราไปดึงมาขยาย
ผลสร้างการเปลี่ยนแปลงดีๆได้เสมอ
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Lord of the Rings: ผมนึกถึง Positive Change Consortium
เป็นวิธีการทำ AI แบบหนึ่ง คือหลายองค์กรมาร่วมกันคน
หาสิ่งดีๆ แล้วเอาไปขยายผลในองค์กรของตน เช่นกลุ่ม
โรงงานหนึ่งมาค้นหาวิธีการฝึกคนงานร่วมกัน ก็ได้วิธีกลับ
ไปขยายผลกัน อยู่ต่างที่กันก็สร้างสิ่งดีๆ ร่วมกัน ได้ คล้ายๆ
กับปรากฏการณ์ใน Lord of the Rings ที่คนต่างเผ่า ต่าง
อาณาจักรมาสร้างเป้าหมายร่วมกัน แล้วเป็นพันธมิตรกัน
จนสามารถรักษาสันติภาพใน Middle Earth ได้ในที่สุด
การทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรแนว AI ก็
เช่นกัน เราสามารถไปฟอร์มพันธมิตรทำงานร่วมกันคนใน
Field อื่นๆได้ ผมเองก็ทำงานควบคู่กับ HRD หลายคน
ทำให้เห็นปัญหา พัฒนาโจทย์ร่วมกัน เกิดเป็นโครงการ
พัฒนาองค์กรที่ตรงจุดมากขึ้น สองสามปีหลังผมไปทำงาน
ร่วมกับสมาคม Thai Coach ก็มีโอกาสได้ไปพัฒนา
โครงการ AI Coaching ร่วมกัน ทำให้ผมเองก็พัฒนาตนเอง
ในขณะที่ไปพัฒนาคนอื่นด้วย ดังนั้นการทำงานร่วมกัยบ
คนต่างองค์กร ต่างแผนกจึงทำให้ได้พันธมิตร กัลยาณมิตร
มากขึ้น ทำให้เกิดความรู้และสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น
ไปด้วย
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Top Secret วัยรุ่นพันล้าน: เรื่องนี้เป็นชีวประวัติของเถ้าแก่
น้อย ที่สร้างความสำเร็จด้วยการถามครับ ผมชอบเรื่องนี้ใน
ประเด็นที่ว่า การถามนี่ไม่ใช่จะถามคนในองค์กรอย่างเดียว
อยากสร้างการเปลี่ยนแปลง ถามคนภายนอกเช่นลูกค้า
ซัพพลายเออร์ด้วยก็ได้ หรือในบางเรื่องที่เป็นความ
เชี่ยวชาญเฉพาะ เราสามารถดึงการมีส่วนร่วมจากผู้รู้ข้าง
นอกองค์กรได้ ตอนหนึ่งที่น่าสนใจคือเถ้าแก่น้อย ติดปัญหา
ว่าทำอย่างไรจะรักษาความกรอบของสาหร่ายได้นานขึ้น ก็
เลยสืบหาใครช่วยได้ ก็ไปเจออาจารย์ในมหาวิทยาลัย
เกษตร ที่สุดท่านก็แนะนำวิธีการดีๆให้ทำให้สาหร่ายเถ้าแก่
น้อยสามารถคงความกรอบได้นาน ลูกศิษย์ผมที่ธนาคาร
แห่งหนึ่งมีคนมาขอกู้เงินเพื่อทำซิตี้มอลล์ ก็ไม่มีความรู้เลย
ไปขอคำแนะนำจากลูกค้าที่มีประสบการณ์ ก็ได้แนวคิดมา
เป็น Checklist มา 6-7 ข้อ เอามากรอง ที่สุดก็ทำให้ไม่ต้อง
เสี่ยง เพราะรายนี้ไม่ให้กู้ เลยไปกู้ธนาคารอื่น ธนาคารอื่น
ให้กู้แต่ไปไม่รอด ...การค้นหาเรื่องดีๆ ถามเรื่องดีๆ จาก
ลูกค้า หรือผู้รู้ก็ทำให้องค์กรได้เทคโนโลยีความคิดดีๆ มา
มากครับ อย่าลืมตั้งประเด็ยแล้วไปถามมาด้วย
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Cloud Atlas: ทำอะไรดีๆไว้ ดูเหมือนเล็กน้อยแต่จริงๆ
สร้างผลกระทบมหาศาล Cloud Atlas เป็นหนังโปรดของ
ผมที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมดูหลายรอบๆ พอๆกับ Starwars
เป็นเรื่องราวของการสร้างความเปลี่ยนแปลงของคนที่ไม่
ได้รับตวามยุติธรรมของคนในยุคต่างๆ รวมถึงการพลิก
ผันของชีวิตของมนุษย์ด้วยเหตุการณ์ทั้งดีๆไม่ดี ผมชอบ
วลีเด็ดที่ว่า “ชีวิตนี้ไม่ใช่เป็นของเราเพียงคนเดียว จาก
ครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน อดีต ปัจจุบัน และด้วยการการก
ระทำที่ชั่วร้าย หรือด้วยความเมตตา เราได้ให้กำเนิด
อนาคตของเรา” เรื่องนี้อธิบายการทำ AI ไว้ดีมากๆ AI
เน้นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกไม่ว่าจะทำอะไรเล็กๆก็ตาม
ขอให้ดี ขอให้เมตตา เราจะสร้างอนาคตที่ดีได้เสมอ แต่
หากเน้นแต่เรื่องลบมาก แต่ไม่พายามเอามาเป็นโจทย์
แล้วหาทางออก องค์กรก็จะย่ำอยู่กับที่ เช่น
ลูกศิษย์เล่าว่าเคยบริจาคเสื้อบอลเก่าๆให้เด็กติดยา ไม่
นานเด็กคนนั้นหันไปเล่นบอล จนกลายเป็นนักกีฬา เลิก
เสพยา มีอนาคตไปเลย ...
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
มหาภารตะ: หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องตามมหาคำภีร์สำคัญ
ของโลก ผมว่าคนเราควรดูนะครับ ได้เรยนรู้วัฒนธรรม
ดีๆของชาวฮินดู ผมชอบเรื่องนี้มากตรงที่พอเรื่องดำเนิน
ไปสักพักก็จะมีเทพเจ้าของชาวฮินดู ปรากฏตัวออกมาสั่ง
สอนด้วยข้อคิดดีๆ ที่ผมฟังแล้วทึ่งเลย เพราะสอนดีมากๆ
มีตอนหนึ่งที่เป็นความขัดแย้งในครอบครัว เมื่อไกล้จบก็
จะมีพระกฤษณะออกมาให้ข้อคิดดีๆ เรื่องการเลี้ยงลูก ทัน
สมัยม๊ากๆ.. เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการทำ AI ครับ เวลา
คุณทำงานไปคุณต้องหันกลับมาทบทวนสิ่งที่คุณทำ
พฤติกรรม วิธีการว่าอะไรได้ผลไม่ได้ผล เราเรียกว่า
Reflection หรือการใคร่ครวญครับ การใคร่ครวญนี้ถือ
เป็นสิ่งที่คนในสายการพัฒนาองค์กรต้องทำครับ เพราะ
จะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการทำงานได้อย่างดี หนัง
เรื่องมหาภารตะให้ข้อคิดดีมากๆ ว่าคนเราไม่ใช่ใช้ชีวิต
ไปวันๆ ต้องหมั่นทบทวนตัวเองด้วย ไม่งั๊นเราจะไปตาม
บุญตามกรรม แนะนำคนไทยทุกคนต้องดูครับ เราจะได้
ข้อคิดดีๆ และเราจะรู้สึกชื่นชมอารยธรรมอินเดีย และคน
อินเดียมากขึ้นอย่างไม่เป็นก่อนครับ
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Jiro Dreams of Sushi: เป็นเรื่องราวของร้านอาหารดังระดับ
โลกของญี่ปุ่นที่มีที่นั่งสิบที่ แต่ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาว หนัง
ถ่ายความเป็นมา ของร้านในทุกแง่มุมตั้งแต่การพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ที่ทำอย่างตั้งใจ ที่ชอบมากๆคือเรื่องการฝึกคน เชฟที่
นี่ก็จะเป็นเชฟใหญ่ก็ฝึก 10 ปี แม้กระทั้งเรื่องง่ายๆแค่พักผ้า แล่
ปลา หุงข้าวทุกอย่างล้วนทำอย่างมีศิลปะ เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าจะ
เป็นสุดยอดระดับโลกได้ ต้องตั้งใจฝึกผน พัฒนาฝีมืออย่างต่อ
เนื่อนับสิบปี สุดยอดมากๆ ...นึกถึงทำ AI ครับ จะทำ AI เรียน
ในห้องเรียนไม่พอต้องฝึก ฝึกง่ายๆ ด้วยการถามเรื่องดีๆ ในทุก
หัวข้อ ใครพูดลบถามบวก เจอเรื่องไม่ดี ไปค้นหาข้อมูลดีๆ แล้ว
เอามาขยายผลจะดีมาก เท่าที่ผมสังเกต คนที่ทำ AI ถ้าถามหรือ
สักเกตเรื่องดีๆ สัก 30 ครั้ง จะเห็นโอกาส แล้วเอาเรื่องดีๆไป
ขยายผล แล้สถ้าขยายผลได้สัก 5 เรื่องจะเก่งเลย ผมเองสังเกต
ตัวเองตอนสอน Fail คนไม่ชอบ ก็ไปนั่งนึกว่าตอนสอนแล้วคน
ชอบเป็นอย่างไร สิ่งที่ต่างคือต่อให้สอนมา 10 ปีในเรื่อง
เดียวกัน แต่ก่อนสอนไม่ทำ Mindmap ไปก่อน หรือนั่งคิดว่าจะ
พูดอะไรสัก 10-20 นาทีจะไม่ดีทุกครั้ง ตั้งแต่นั่นมาก็เอามาคิด
ทำก่อนสอนทำ Mindmap ก่อน การสอนจะออกมาดี ผมทำอย่าง
นี้กับหลายเรื่องๆ การทำ AI ในสนามจริงก็จะคล่อง มั่นใจขึ้น
เรื่อย ฝึกเยอะ ทำเยอะจะเก่งเองครับ เรียนมาจากอาจารย์ดังแค่
ไหน ไม่เอามาทำ ไม่สังเกตเพิ่มก็เท่านั้นครับ ต้องทำมากๆ จะดี
เอง
©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
➤ อาจารย์ประจำ MBA KKU
➤ สอน/วิจัย/Consulting การพัฒนาองค์กร
แนว Appreciative Inquiry
➤ เป็นผู้ก่อตั้ง Thailand Appreciative
Inquiry Network หรือ AI Thailand
➤ เป็น Thai Coach Master ให้กับสมาคม
Thai Coach สอน AI Coaching
➤ Website: www.aithailand.org
➤ LINE: aithailand
➤ มีความสุขกับการค้นคว้า สอน เผยแพร่ AI
มากว่า 10 ปี
➤ “ชอบดูหนังมากพอๆกับทำ AI ดูแล้วชอบ
เชื่อมโยงมาอธิบายการทำ AI ให้ลูกศิษย์/ผู้
สนใจได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานมากขึ้น”

More Related Content

Featured

How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
ThinkNow
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 

Featured (20)

2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by Hubspot2024 State of Marketing Report – by Hubspot
2024 State of Marketing Report – by Hubspot
 
Everything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPTEverything You Need To Know About ChatGPT
Everything You Need To Know About ChatGPT
 
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 

Appreciative Inquiry from Movies

  • 1. APPRECIATIVE INQUIRY FROM MOVIES “เรียนรู้ APPRECIATIVE INQUIRY (AI) ศาสตร์การพัฒนาองค์กรเชิงบวก จากหนังดัง” © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 2. Starwars: ไม่มีหนังอะไรอธิบาย Appreciative Inquiry (AI ) ได้ดีไปกว่าเรื่อง Starwars เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะตอนไหน ก็จะเป็นการค้นพบพลัง ที่ซ่อนเร้นอยู่ในคนที่ดูจะธรรมดาคน หนึ่ง แต่แล้วก็มีใครช่วยขยายผล สร้างโอกาส จนสามารถ พลิกจักรวาลได้ AI คือการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก คล้ายๆ การค้นพบพลังอัศวินเจได ในหนัง Starwars ...AI เริ่มจากการตั้งโจทย์ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร Affirmative Choice จากนั้นก็มาออกแบบคำถามว่าจะค้นหาอะไร (Discovery) เมื่อค้นพบก็เอามาสร้างฝันร่วมกัน (Dream) แล้ว มาออกแบบร่วมกันว่าจะทำฝันให้เป็นจริงอย่างไร (Design) จากนั้นก็หาคนทำ หาวิธีวัดผล กลยุทธ์เปลี่ยนแปลง แล้วก็ทำ จริง แล้วก็มีการประเมินเป็นระยะ ทำเป็นวงจรจนกระทั่งฝัน เป็นจริง เช่นเดียวกับ Starwars ที่เชื่อว่าภายใต้การครอบงำ ของด้านมืด จักรวาลยังมีพลังด้านสว่างอยู่ และมักเจอเสมอ AI ก็เช่นกัน เราเชื่อว่าในทุกคน ทุกระบบ มีเรื่องราวดีๆ ช่อน เร้น รอการค้นพบ ไปขยายผลสร้างการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ลองดูตัวอย่าง การค้นพบวิถีแห่งพลังในบริบทของไทยได้ที่ www.aithailand.org ครับ แล้วคุณจะรู้ว่า “พลังอยู่กับท่าน” May the force be with you จริงๆ ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 3. James Bond 007: เจมศ์ บอนด์เป็นเรื่องของสายลับที่ทำ หน้าที่ช่วยประเทศชาติอย่างมี Style มาตลอด แต่เก่งปาน ไหน ก็ต้องเริ่มจากการสืบหาร่องรอยของศัตรู บอนด์เริ่ม ค้นพบร่องรอยเล็กๆก่อน จากนั้นค่อยขยายผลจนโค่นล้ม อาชญากรตัวเอ้ได้ในที่สุด การกระทำของบอนด์ก็คล้ายๆ กับการทำ AI ครับ เอาง่ายๆ ถ้าคุณจะเป็น AI Practitioner ได้ดีแล้ว คุณต้องทำแบบเจมส์ บอนด์ครับ ที่ค่อยๆ พาคน สืบหาเรื่องราวลับๆ จะคนเดียวก็ยังได้ แต่เราสืบหาเรื่อง ดีๆ เรื่องดีๆเล็กๆ จะนำไปสู่เรื่องดีๆ ขนาดใหญ่ได้เอง เช่น ธนาคารแห่งหนึ่งต้องการขายประกันให้ชาวต่างชาติ แต่ พนักงานจำนวนมากไม่ค่อยถนัดภาษอังกฤษ เลยลอง สืบหา ถามกันเลยว่ามีใครขายประกันให้ชาวตางชาติ เก่งๆ บ้าง เลยไปเจออยู่คนหนึ่ง ไม่เก่งมากเรื่องภาษา แต่ ขายได้ นี่เองครับเราเอามาถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้คนอื่น ต่อได้ ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 4. Batman Vs Superman: เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชาวโลกที่ แบ่งเป็นสองขั้วคือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการมีซูเปอร์ฮีโร่จาก ต่างดาว กับกลุ่ม FC นำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่ตามมา อย่างมากมาย องค์กรเช่นกัน Appreciative Inquiry เป็น ศาสตร์ที่ใช้ในการพัฒนาองค์กร และแม้คุณจะเป็นสุดยอดใน ฟีลล์ AI ก็ตาม ก็จะมีคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับการเข้ามา ของที่ปรึกษาด้าน AI เรียกว่าเจอแรงต้านแน่นอน ไม่อยาก เศร้าอย่างซุปเปอร์แมนก็ต้องวางแผนลดแรงต้านก่อน ด้วย การถามคำถามเชิงบวกว่าองค์กรนี้เคยเปลี่ยนแปลงได้ผล ด้วยวิธีการอะไรมาก่อน ดึงตรงนั้นมาใช้ได้ เพราะขนาดลูก เถ้าแก่ ลูกศิษย์ผมอยากทำอะไรดีๆ ให้ที่ร้านยังไม่ได้เลย บอก ว่า “พ่อไม่เชื่อ” เลยถามว่าตอนที่พ่อเชื่อคุณ คุณทำอย่างไร ลูกศิษย์บอกว่า “เคยทำอะไรเล็กๆ ให้สำเร็จก่อนพ่อจะเชื่อ” เท่านั้นเองเลยลองทำซ้ำ ตอนนี้พ่อยกธุรกิจให้ทั้งหมดเลย นี่ ครับ เป็นเทคนิกหนึ่งของการทำ AI จะทำในครอบครัว Family Business หรือองค์กรขนาดใหญ่ เราก็ต้องค้นหาวิธีการ ยุทธวิธีสร้างการเปลี่ยนแปลงก่อนเสนอ จึงจะราบรื่นมากขึ้น ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 5. สามก๊ก: ดูสามก๊กแล้วทำให้นึกถึงเรื่องของ AI คือ การ เลือก Change Agent ที่เหมาะสม สามก๊กจริงๆ แล้ว ให้ ข้อคิดทุกมิติของการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะการใช้คน จะเห็นว่าสามก๊ก คือการค้นหาคนเก่ง เข้าหา ดึงมาเป็น ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของตน AI เช่นกัน เรามีขั้นตอน หนึ่งคือการเลือกคนที่เหมาะสมมาช่วยในการสร้างความ สำเร็จ จะว่าไปสามก๊ก ก็ดึงคนมามีส่วนร่วม แต่ด้วย บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบที่ต่างกันไป AI เช่นกัน ทุก คนในองค์กรต้องมีส่วนร่วม ในขณะเดียวก็ต้องมี Change Agent ด้วย ขงเบ้งคนเดียว ทำให้เล่าปี่ทำงานง่ายขึ้นมาก เช่นกันในการทำ AI ก็ต้องมองหาคนที่จะช่วยผลักดัน ความเปลี่ยนแปลงให้ เช่นในรัฐวิสาหกิจหนึ่งมีการสร้าง การเปลี่ยนแปลง ที่อาจต้องกระทบกับสหภาพแรงงาน เรา ก็เลยถามว่าใครที่จะสื่อสารความคิดของพวกเราให้ สหภาพแรงงานได้ดีที่สุด ที่สุดเราก็ได้ Change Agent ที่มา ช่วยเราให้สามารถสื่อสารความคิดได้ราบรื่นขึ้น ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 6. ไซอิ๋ว: เห้งเจียจะเก่งอย่างไร ก็ต้องมีครูดีช่วย ถึงจะไปที่สุดของ ชีวิตได้ ในการพัฒนาองค์กรแนว AI หรือแนวอื่นๆก็ตาม ส่ิงสำคัญ มากๆ คือการมี Peer Review หรือมีเพื่อนช่วยมองงานให้ หรือถ้าอ ยังใหม่ ควรหา Mentor หรือครูช่วยให้คำปรึกษา ชี้แนะ เพราะการ ทำงานในเชิงคุณภาพ มีสิทธิที่เราจะใช้ความเห็นส่วนตัวตีความ จนเกินจริง ต้องให้ผู้รู้ หรือเพื่อนช่วยมองๆ งานให้ด้วย จะได้งานที่ มีคุณค่าสูงได้มากขึ้น เห้งเจียก็เช่นกันดูฉลาด ว่องไว แต่ก็ไม่ได้ หมายถึงว่าจะประสบความสำเร็จได้ การที่เห้งเจียมีครู จึงเป็นอะไร ที่ทำให้เห้งเจียมีการพัฒนาตนเองไปไกลกว่าเดิม ผมเองก็ได้ครูดี Dr. Rita และ Dr. Perla สมัยเรียน ABAC สองท่านเป็นสุดยอดของ มืออาชีพ การได้ครูดี มีโอกาสไกล้ชิดกับท่าน ทำให้เห็นการ ทำงาน ความเป็นมืออาชีพ การดำรงตนอย่างมีศีลธรรม ทำให้เรา รู้ว่ามืออาชีพในศาสตร์นี้ต้องเดินเส้นทางไหน และต้องเดินอย่างไร ส่วนเวลาทำงานก็ต้องหา Peer Review ผมได้คนที่ทำงานด้วยช่วย มองงานให้ ช่วยสังเกตให้ เมื่อวานก็ได้พี่ป๋อง ที่มานั่งเรียนกับผม นั่นเอง ลูกศิษย์ครับ แต่เป็นผู้ใหญ่หน่อย ช่วยมอง ช่วยสังเกตการ สอนผม ทำให้ผมได้แนวคิดดีๆ จากโรงเรียนฉือจี้ โดยเฉพาะการ ตัดเกรดที่อาจเน้นความเมตตา ตัดเกรดก่อนหนึ่งเดือน เราจะเห็น ปัญหาของศิษย์ แล้วเราก็เชิญชวนคนเก่งให้ไปช่วยยกระดับคนไม่ เก่ง เท่านี้เองจะไม่มีใครถูกทอดทิ้ง เพราะตัดเกรดแบบเดิม คนไม่ เก่งก็ไม่เก่งอยู่ตลอดไป นี่ไงครับ ผมจะทำตามพี่ป๋อง ลูกศิษย์ผม แนะนำ เทอมนี้เลย ชัดไหมครับ เราเองขนาดทำมาสิบกว่าปี ก็อย่า คิดว่าเราจะสมบูรณ์แบบ เราเองต้องหาครู หากัลยาณมิตรมาช่วย มองงานเรา เราจะดีมากขึ้น เก่งขึ้น มีความสุขขึ้น ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 7. Allegiant: เป็นเรื่องราวของคนที่ถูกทำให้เชื่อว่าโลกภายนอก อันตราย หนีออกไปไม่ได้ แต่ด้วยความสงสัยจึงพยายามสืบค้น ที่สุดก็ค้นพบความจริง การค้นพบความจริงนำมาสู่การฝัน และ การกระทำเพื่อสร้างอนาคตใหม่ นี่ทำให้เห็นอะไรชัดมากครับ องค์กรจำนวนมากติดหล่มปัญหา คนนจำนวนมากชินกับการ อยู่กับปัญหา โดยไม่ชินกับการค้นหาเรื่องดีๆ มาแก้ ถ้าเรา อดทนค้นหา สังเกต สอบถามหาวิธีแก้เราจะหลุดปัญหาได้ เช่น เกาะแห่งหนึ่งที่ผมไปทำโครงการพัฒนาเกาะก็มีการบ่นมา ตลอดว่าเกาะนี้คนไม่รับผิดชอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล แต่พอ ถามว่าว่าแล้วใครไม่ปล่อยน้ำเสียลงทะเล คนงงครับ แต่ก็มีคน ตอบว่ามีโรงแรมแห่งหนึ่งไม่ปล่อยน้ำเสียลงทะเลย เลยถามต่อ เขาทำอย่างไร เขาร่วมมือกับชาวบ้านทำบ่อบำบัดนำ้เสีย นี่ไง ครับได้ต้นแบบเป็นคำตอบ เงียบลงคนเริ่มมองหาวิธีการและ อนาคตใหม่ทันที มีบ่นอีก คนที่นี่ไม่ภักดีต่อองค์กร อยู่ไม่นาน เราเลยถามเชิงบวกว่าที่ไหนอยู่นาน ก็ได้มาสองโรงแรม ต้นแบบ อย่าบ่นอย่างเดียวครับ นั่นสะท้อนว่าคุณอยู่ในกรงกัน ล้วจะอยู่ไปอีกนาน หาวิธีครับ ตั้งคำถามเชิงบวก หาวิธีการดีๆ ต้นแบบดีๆ ที่เคยทำได้ ในพื้นที่ก็ได้ นอกพื้นที่ก็ได้ คนจะสนุก เห็นโอกาสใหม่ๆ มีโอกาสแก้ปัญหาได้มากกว่า ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 8. Vikings: เรื่องนี้ผมชอบมากครับ ติดตามมานาน เป็นเรื่องราวของกษัตริย์แร็กน่า ที่พาชาวไวกิ้งบุกยุโรป แร็กน่า เป็นคนมีวิสัยทัศน์เห้นคนไวกิ้งฆ่ากันเองเพื่อชิงพื้นที่ทำกินที่มีอยู่จำกัดแถมทุรกันดาน เลยชวนคนเผ่าอื่นมาเป็น พันธมิตรบุกเบิกหาพื้นที่ใหม่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาฆ่ากันเอง นี่เองเป้นจุดเริ่มของเรื่องราวการเปลี่ยนแปลง แร็กน่า ไม่ได้สร้างวิสัยทัศน์กับสร้างการมีส่วนร่วมอย่าวเดียว แร็กน่ายังหาความรู้ด้วย ด้วยการเป็นมิตรกับคนที่เคยเป็น บาทหลวงชาวอังกฤษ ที่มีการศึกษามีความรู้เรื่องของยุโรปเป็นอย่างดี ทำให้เห็นหาทางที่จะไปบุกยึดยุโรปอย่างดี ชัดมากครับ ตรงนี้ในการทำ AI หนังเรื่อง Vikings ให้ข้อคิดเรื่องการสร้างโจทย์จากปัญหาหรือการสร้าง Affirmative Choice ปัญหาเดิมคือแย่งกันเพราะทรัพยกรจำกัด แต่กษัตริย์แร็กน่า ที่สร้างกรอบใหม่ ด้วยการตีกรอบ ใหม่ (Reframing) พอเปลี่ยนกรอบใหม่คือ “มาร่วมกันหาดินแดนใหม่กันดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาฆ่ากัน” เท่านั้นเอง โจทย์ใหม่ นำมาซึ่งการสืบค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ จนนำมาสู่การสั่งสมความรู้ การสร้างพันธมิตร และการ บริหารทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด สำหรับทิศทางใหม่ จนประสบความสำเร็จในที่สุด การสร้างโจทย์แบบการตีกรอบ ใหม่ Reframing ใหม่นี้สำคัญกับ AI มากๆ เช่น องค์กรแห่งหนึ่งเป็นโรงานแกะกุ้ง มีปัญหาคนงานออกมาก เราก็ สร้างโจทย์ใหม่ว่า มาทำโรงงานที่คนอยากอยู่กัน ที่สุดก็นำมาสู่การตั้งคำถามเชิงบวก ค้นหาว่าทำไมคนดีๆ ถึงอยู่ นาน และนำมาซึ่งคำตอบที่ดี เอามาแก้ไขปัญหาปัจจับน และเพิ่มผลผลิตได้ การสร้างโจทย์ใหม่ ทำให้บรรยากาศ การพัฒนาองค์กรดีแต่ต้น ไม่เกิดการโทษ หรือการแบ่งแยกกัน ทำให้ง่ายต่อการสร้างการมีส่วนร่วม ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 9. The Martian: เรื่องนี้เป็นเรื่องคนที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคาร เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต้องหาทางกลับบ้าน ทั้งที่ความหวัง ริบหรี่ แต่พระเอกก็ใช้ความรู้ที่มีในฐานะนักพฤกษศาสตร์ ค้นหา วิธีการปลูกพืช และเอาตัวรอด จนกระทั่งสามารถติดต่อกลับมายัง โลก และได้รับความช่วยเหลือในที่สุด เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการ ทำ AI จริงๆ ว่า ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสามารถเริ่มจากสิ่งที่ เรามีอยู่ เช่นความสามารถ หรืออุปกรณ์ที่มีอยู่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้อง ลงทุนอะไรเพิ่มเติม หลายครั้งเพียงปรับวิธีการทำงานด้วย ทรัพยากรที่มีอยู่ ทุกอย่างก็เปลี่ยนได้แล้ว เช่นในองค์กรของรัฐ แห่งหนึ่งที่ผมไปทำ พนักงานรู้สึกว่าแต่ก่อนคนน้อยเลยรู้จักกัน มี อะไรก็หารือกัน ไอ้ที่ไม่รู้เลยรู้เร็ว พี่สอนน้อง แต่ตอนนี้องค์กร ขยายตัว มากขึ้น คนเยอะ ไม่ไกล้ชิดเกิดความเสี่ยง เพราะเด็ก ใหม่ ไม่รู้อะไรที่ควรรู้ ทำให้เกิดความเสี่ยง เลยค้นหากันว่าเคยมี เหตุการณ์ไหนในชีวิตที่ทำให้คนรู้จักกันแล้วสอนกัน ก็มีคนพูด เรื่องประเพณีสายระหัสในมหาลัย ก็เลยเอาแนวคิดนี้มาใช้ใน องค์กรชั้นนำนั้นครับ ไม่ต้องเสียเงินอะไรเพิ่ม เป็นเทคนิกดีๆ ที่ เคยทำสมัยเด็กๆ แต่เอามาใช้กับผู้ใหญ่ ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูง ตื่นเต้นมาก เพราะมีรุ่นน้องสายระหัส ทำให้เกิดความสนิทสนม ถ่ายทอดความรู้กัน ชัดไหมครับ ไม่ต้องลงทุนก็ได้ เอาความรู้ที่มี อยู่นี่เองมาทำ ก็ไปได้ดีแล้วครับ ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 10. Harry Potter: การเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่จำเป็นต้องเริ่มกับ คนที่ดูเหมือนมีประสบการณ์สูงตลอดไปครับ คนใหม่ๆ ก็ สามารถมามีส่วนสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนกับ Harry Potter พระเอกตัวจริงๆ เป็นเด็กๆ ทั้งนั้นครับ ลูก ศิษย์ผมที่โรงงานแห่งหนึ่งไปถามพนักงานว่า “ภาคภูมิใจ อะไรที่สุด” พนักงานบอก “พี่ๆ ผมเพิ่มผ่านโปร เข้างานมา แค่สี่เดือนจะมีอะไรภาคภูมิใจเหรอ” ลูกศิษย์ผมเลยถามว่า “เอาเท่าที่มี นิดหนึ่งก็ได้” เขาเลยเล่าว่าเขาภูมิใจที่ผ่านงาน ได้เร็ว เลยซักต่อว่าสาเหตุที่ทำให้ผ่านเร็วคืออะไร พนักงาน ใหม่บอกว่า “มีป้าคนหนึ่งในสายการผลิต สอนงานให้ เลย เป็นเร็ว” เรื่องนี้คือการค้นพบเรื่องหนึ่งที่สำคัญในโรงงาน แห่งนั้นเลย ที่สุดมีการขยายผลหาคนเก่ง สร้างโครงการ Mentroship ขึ้นมา ช่วยลดเวลาฝึกคนได้มาก เพราะฉะนั้น การทำ AI ก็เหมือนกับ Harry Potter ที่ใครก็ตามแม้อาวุโส น้อยสุด ก็จะมีเรื่องดีๆ ประสบการณ์ดีๆให้เราไปดึงมาขยาย ผลสร้างการเปลี่ยนแปลงดีๆได้เสมอ ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 11. Lord of the Rings: ผมนึกถึง Positive Change Consortium เป็นวิธีการทำ AI แบบหนึ่ง คือหลายองค์กรมาร่วมกันคน หาสิ่งดีๆ แล้วเอาไปขยายผลในองค์กรของตน เช่นกลุ่ม โรงงานหนึ่งมาค้นหาวิธีการฝึกคนงานร่วมกัน ก็ได้วิธีกลับ ไปขยายผลกัน อยู่ต่างที่กันก็สร้างสิ่งดีๆ ร่วมกัน ได้ คล้ายๆ กับปรากฏการณ์ใน Lord of the Rings ที่คนต่างเผ่า ต่าง อาณาจักรมาสร้างเป้าหมายร่วมกัน แล้วเป็นพันธมิตรกัน จนสามารถรักษาสันติภาพใน Middle Earth ได้ในที่สุด การทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรแนว AI ก็ เช่นกัน เราสามารถไปฟอร์มพันธมิตรทำงานร่วมกันคนใน Field อื่นๆได้ ผมเองก็ทำงานควบคู่กับ HRD หลายคน ทำให้เห็นปัญหา พัฒนาโจทย์ร่วมกัน เกิดเป็นโครงการ พัฒนาองค์กรที่ตรงจุดมากขึ้น สองสามปีหลังผมไปทำงาน ร่วมกับสมาคม Thai Coach ก็มีโอกาสได้ไปพัฒนา โครงการ AI Coaching ร่วมกัน ทำให้ผมเองก็พัฒนาตนเอง ในขณะที่ไปพัฒนาคนอื่นด้วย ดังนั้นการทำงานร่วมกัยบ คนต่างองค์กร ต่างแผนกจึงทำให้ได้พันธมิตร กัลยาณมิตร มากขึ้น ทำให้เกิดความรู้และสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ไปด้วย ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 12. Top Secret วัยรุ่นพันล้าน: เรื่องนี้เป็นชีวประวัติของเถ้าแก่ น้อย ที่สร้างความสำเร็จด้วยการถามครับ ผมชอบเรื่องนี้ใน ประเด็นที่ว่า การถามนี่ไม่ใช่จะถามคนในองค์กรอย่างเดียว อยากสร้างการเปลี่ยนแปลง ถามคนภายนอกเช่นลูกค้า ซัพพลายเออร์ด้วยก็ได้ หรือในบางเรื่องที่เป็นความ เชี่ยวชาญเฉพาะ เราสามารถดึงการมีส่วนร่วมจากผู้รู้ข้าง นอกองค์กรได้ ตอนหนึ่งที่น่าสนใจคือเถ้าแก่น้อย ติดปัญหา ว่าทำอย่างไรจะรักษาความกรอบของสาหร่ายได้นานขึ้น ก็ เลยสืบหาใครช่วยได้ ก็ไปเจออาจารย์ในมหาวิทยาลัย เกษตร ที่สุดท่านก็แนะนำวิธีการดีๆให้ทำให้สาหร่ายเถ้าแก่ น้อยสามารถคงความกรอบได้นาน ลูกศิษย์ผมที่ธนาคาร แห่งหนึ่งมีคนมาขอกู้เงินเพื่อทำซิตี้มอลล์ ก็ไม่มีความรู้เลย ไปขอคำแนะนำจากลูกค้าที่มีประสบการณ์ ก็ได้แนวคิดมา เป็น Checklist มา 6-7 ข้อ เอามากรอง ที่สุดก็ทำให้ไม่ต้อง เสี่ยง เพราะรายนี้ไม่ให้กู้ เลยไปกู้ธนาคารอื่น ธนาคารอื่น ให้กู้แต่ไปไม่รอด ...การค้นหาเรื่องดีๆ ถามเรื่องดีๆ จาก ลูกค้า หรือผู้รู้ก็ทำให้องค์กรได้เทคโนโลยีความคิดดีๆ มา มากครับ อย่าลืมตั้งประเด็ยแล้วไปถามมาด้วย ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 13. Cloud Atlas: ทำอะไรดีๆไว้ ดูเหมือนเล็กน้อยแต่จริงๆ สร้างผลกระทบมหาศาล Cloud Atlas เป็นหนังโปรดของ ผมที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมดูหลายรอบๆ พอๆกับ Starwars เป็นเรื่องราวของการสร้างความเปลี่ยนแปลงของคนที่ไม่ ได้รับตวามยุติธรรมของคนในยุคต่างๆ รวมถึงการพลิก ผันของชีวิตของมนุษย์ด้วยเหตุการณ์ทั้งดีๆไม่ดี ผมชอบ วลีเด็ดที่ว่า “ชีวิตนี้ไม่ใช่เป็นของเราเพียงคนเดียว จาก ครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน อดีต ปัจจุบัน และด้วยการการก ระทำที่ชั่วร้าย หรือด้วยความเมตตา เราได้ให้กำเนิด อนาคตของเรา” เรื่องนี้อธิบายการทำ AI ไว้ดีมากๆ AI เน้นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกไม่ว่าจะทำอะไรเล็กๆก็ตาม ขอให้ดี ขอให้เมตตา เราจะสร้างอนาคตที่ดีได้เสมอ แต่ หากเน้นแต่เรื่องลบมาก แต่ไม่พายามเอามาเป็นโจทย์ แล้วหาทางออก องค์กรก็จะย่ำอยู่กับที่ เช่น ลูกศิษย์เล่าว่าเคยบริจาคเสื้อบอลเก่าๆให้เด็กติดยา ไม่ นานเด็กคนนั้นหันไปเล่นบอล จนกลายเป็นนักกีฬา เลิก เสพยา มีอนาคตไปเลย ... ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 14. มหาภารตะ: หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องตามมหาคำภีร์สำคัญ ของโลก ผมว่าคนเราควรดูนะครับ ได้เรยนรู้วัฒนธรรม ดีๆของชาวฮินดู ผมชอบเรื่องนี้มากตรงที่พอเรื่องดำเนิน ไปสักพักก็จะมีเทพเจ้าของชาวฮินดู ปรากฏตัวออกมาสั่ง สอนด้วยข้อคิดดีๆ ที่ผมฟังแล้วทึ่งเลย เพราะสอนดีมากๆ มีตอนหนึ่งที่เป็นความขัดแย้งในครอบครัว เมื่อไกล้จบก็ จะมีพระกฤษณะออกมาให้ข้อคิดดีๆ เรื่องการเลี้ยงลูก ทัน สมัยม๊ากๆ.. เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการทำ AI ครับ เวลา คุณทำงานไปคุณต้องหันกลับมาทบทวนสิ่งที่คุณทำ พฤติกรรม วิธีการว่าอะไรได้ผลไม่ได้ผล เราเรียกว่า Reflection หรือการใคร่ครวญครับ การใคร่ครวญนี้ถือ เป็นสิ่งที่คนในสายการพัฒนาองค์กรต้องทำครับ เพราะ จะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการทำงานได้อย่างดี หนัง เรื่องมหาภารตะให้ข้อคิดดีมากๆ ว่าคนเราไม่ใช่ใช้ชีวิต ไปวันๆ ต้องหมั่นทบทวนตัวเองด้วย ไม่งั๊นเราจะไปตาม บุญตามกรรม แนะนำคนไทยทุกคนต้องดูครับ เราจะได้ ข้อคิดดีๆ และเราจะรู้สึกชื่นชมอารยธรรมอินเดีย และคน อินเดียมากขึ้นอย่างไม่เป็นก่อนครับ ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 15. Jiro Dreams of Sushi: เป็นเรื่องราวของร้านอาหารดังระดับ โลกของญี่ปุ่นที่มีที่นั่งสิบที่ แต่ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาว หนัง ถ่ายความเป็นมา ของร้านในทุกแง่มุมตั้งแต่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่ทำอย่างตั้งใจ ที่ชอบมากๆคือเรื่องการฝึกคน เชฟที่ นี่ก็จะเป็นเชฟใหญ่ก็ฝึก 10 ปี แม้กระทั้งเรื่องง่ายๆแค่พักผ้า แล่ ปลา หุงข้าวทุกอย่างล้วนทำอย่างมีศิลปะ เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าจะ เป็นสุดยอดระดับโลกได้ ต้องตั้งใจฝึกผน พัฒนาฝีมืออย่างต่อ เนื่อนับสิบปี สุดยอดมากๆ ...นึกถึงทำ AI ครับ จะทำ AI เรียน ในห้องเรียนไม่พอต้องฝึก ฝึกง่ายๆ ด้วยการถามเรื่องดีๆ ในทุก หัวข้อ ใครพูดลบถามบวก เจอเรื่องไม่ดี ไปค้นหาข้อมูลดีๆ แล้ว เอามาขยายผลจะดีมาก เท่าที่ผมสังเกต คนที่ทำ AI ถ้าถามหรือ สักเกตเรื่องดีๆ สัก 30 ครั้ง จะเห็นโอกาส แล้วเอาเรื่องดีๆไป ขยายผล แล้สถ้าขยายผลได้สัก 5 เรื่องจะเก่งเลย ผมเองสังเกต ตัวเองตอนสอน Fail คนไม่ชอบ ก็ไปนั่งนึกว่าตอนสอนแล้วคน ชอบเป็นอย่างไร สิ่งที่ต่างคือต่อให้สอนมา 10 ปีในเรื่อง เดียวกัน แต่ก่อนสอนไม่ทำ Mindmap ไปก่อน หรือนั่งคิดว่าจะ พูดอะไรสัก 10-20 นาทีจะไม่ดีทุกครั้ง ตั้งแต่นั่นมาก็เอามาคิด ทำก่อนสอนทำ Mindmap ก่อน การสอนจะออกมาดี ผมทำอย่าง นี้กับหลายเรื่องๆ การทำ AI ในสนามจริงก็จะคล่อง มั่นใจขึ้น เรื่อย ฝึกเยอะ ทำเยอะจะเก่งเองครับ เรียนมาจากอาจารย์ดังแค่ ไหน ไม่เอามาทำ ไม่สังเกตเพิ่มก็เท่านั้นครับ ต้องทำมากๆ จะดี เอง ©ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 16. ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ ➤ อาจารย์ประจำ MBA KKU ➤ สอน/วิจัย/Consulting การพัฒนาองค์กร แนว Appreciative Inquiry ➤ เป็นผู้ก่อตั้ง Thailand Appreciative Inquiry Network หรือ AI Thailand ➤ เป็น Thai Coach Master ให้กับสมาคม Thai Coach สอน AI Coaching ➤ Website: www.aithailand.org ➤ LINE: aithailand ➤ มีความสุขกับการค้นคว้า สอน เผยแพร่ AI มากว่า 10 ปี ➤ “ชอบดูหนังมากพอๆกับทำ AI ดูแล้วชอบ เชื่อมโยงมาอธิบายการทำ AI ให้ลูกศิษย์/ผู้ สนใจได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานมากขึ้น”