Isปัญหาสังคมไทย1
- 4. วางแผนการสืบค้นความรู้
ผลการสารวจของสานักงานสถิติแห่งชาติ
จากข้อมูลของ สานักงาน สถิติแห่งช าติที่ทาการสารวจในเดือน กุมภาพันธ์ 2558
ปรากฏว่ามีกาลังแรงงานประมาณ 38.52 ล้านคน เป็นผู้มีงานทา 37.93 ล้านคน ผู้ว่างงานจานวน 3.16
แ ส น ค น (คิ ด เ ป็ น อั ต ร า ก า ร ว่า ง ง า น ร้ อ ย ล ะ 0.82) แ ล ะ ผู้ ร อ ฤ ดู ก า ล 2.70
แสนคนเมื่อพิจารณาผู้ว่างงานจากประสบการณ์การทางาน พบว่าเป็นผู้ที่ไม่เคยทางานมาก่อน 1.52
แ ส น ค น แ ล ะ เ ค ย ท า ง า น มา ก่อ น 1.64 แ ส น ค น ใ น จ า น ว น ผู้ที่ เ ค ย ท า ง า น มาก่อน
เคยทางานอยู่ในภาคการบริการและการค้ามากที่สุดจานวน 0.86แสนคน รองลงมาอยู่ในภาคการผลิต
จานวน 0.53 แสนคนและภาคเกษตรกรรมน้อยที่สุด จานวน 0.25 แสนคน
สถิติอัตราการว่างงานรายเดือน ปี 2555-2558
เมื่อพิจารณาสถิติอัตราการว่างงานรายเดือนเปรียบเทียบปี พ.ศ. 2555–2558 จะเห็นได้ว่าในช่วงต้นปี
อัตราการว่างงานจะสูงที่สุดและปรับตัวลดลงต่าสุดในช่วงปลายปี เนื่องจากโครงสร้างการมีงานทาของ
แ ร ง ง า น ยัง อ ยู่ใ น ภ า ค เ ก ษ ต ร ก ร ร ม ซึ่ ง ช่ว ง ต้น ปี เ ป็ น ช่ว ง น อ ก ฤ ดู ก า ร เ ก ษ ต ร
ท า ใ ห้ มี ผู้ ว่ า ง ง า น จ า ก ภ า ค เ ก ษ ต ร เ พิ่ ม ขึ้ น
ส่วนช่วงปลายปีอัตราการว่างงานลดลงเนื่องจากเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตในภาคเกษตรกรรม
และสถานประกอบการจะเร่งผลิตสินค้าและบริการเพื่อจาหน่ายให้ทันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาล
ปี ใ ห ม่ ท า ใ ห้ มี ก า ร จ้ า ง ง า น เ พิ่ ม ม า ก ขึ้ น
จานวนผู้ว่างงานจึงลดต่าลงกว่าช่วงต้นปีและกลางปีสาหรับผู้ว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2558
มีผู้ว่า ง ง า น จ า น ว น 3.16 แ ส น ค น ห รื อ คิ ด เ ป็ น อัต ร า ก า ร ว่า ง ง า น ร้ อ ย ล ะ 0.82
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจานวนผู้ว่างงานลดลง 1.5 หมื่นคนคิดเป็นร้อยละ 4.59
ส่วนอัตราการว่างงานลดลง ร้อยละ 0.1 (จากร้อยละ 0.9 เป็นร้อยละ 0.8)
แนวโน้มการว่างงานเดือนเมษายน 2558
กรมการจัดหางานได้นาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาทาการวิเคราะห์ในเชิงสถิติแล้วเห็นว่าในเดือนเมษายน2
558 จะมีผู้ว่างงานประมาณ 360,000 คน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.9 ของกาลังแรงงาน
ซึ่งจานวนผู้ว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.0 หมื่นคน อัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลง (จากร้อยละ
0.9 เ ป็ น ร้อยละ 0.9) ใ น จาน วน ผู้ว่าง งานนี้ เ ป็ นผู้ที่ไม่เ คยทาง านมาก่อน 1.80 แสน คน
- 5. และผู้ที่เคยทางานมาก่อน 1.80แสนคน โดยทางานอยู่ในภาคบริการและการค้ามากที่สุดจานวน 9.33
หมื่นคน รองลงมาอยู่ในการผลิตจานวน 6.90 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.74 หมื่นคน ตามลาดับ
สถานการณ์การเลิกจ้าง
สถิติผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเดือนกุมภาพันธ์2558
มีจานวน 54,081 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าเพิ่มขึ้น จานวน 5,810
คนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.03 โดยผู้ถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้น จานวน 468 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.05
และผู้ที่ลาออกเพิ่มขึ้น จานวน 5,342 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.58
สาเหตุการเลิกจ้างและการลาออกจากงาน
เมื่อพิจารณาผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้าง สาเหตุเนื่องมาจากนายจ้างปิดกิจการมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ
49.83 รองลงมาได้แก่นายจ้างลดจานวนพนักงาน คิดเป็นร้อยละ 30.28 สาเหตุอื่นๆเช่น สุขภาพไม่ดี
หยุดกิจการชั่วคราว คิดเป็นร้อยละ 15.89 ไม่ผ่านการประเมิน/ทดลองงาน คิดเป็นร้อยละ2.98 มีความผิด
- 6. คิดเป็นร้อยละ 0.86 นายจ้างใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย คิดเป็นร้อยละ 0.16สาหรับผู้ที่ลาออกจากงาน
สาเหตุเนื่องมาจากต้องการเปลี่ยนงานมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ88.31 รองลงมาได้แก่สาเหตุอื่นๆ เช่น
ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบอาชีพอิสระ ค้าขาย ทาไร่/ทานาดูแลคนในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 5.07
ต้องการพักผ่อน คิดเป็นร้อยละ 4.85 สิ้นสุดโครงการ/หมดสัญญาจ้าง คิดเป็นร้อยละ 1.61 และเกษียณอายุ
คิดเป็นร้อยละ 0.07 และไม่ระบุ ร้อยละ 0.09
ที่มาของแหล่งข้อมูล
กองวิจัยตลาดแรงงานกรมการจัดหางาน(2558).สถานการณ์การว่างงานการเลิกจ้างและความต้องการ
แรงงาน.8กันยายน2559
บันทึกย่อการสืบคน
- 7. บันทึกย่อการสืบคน
สรุปองค์ความรู้
การว่างงานเกิดจาก ที่บุคคลในวัยแรงงานที่พร้อมจะทางานแต่ไม่สามารถหางานทาได้
ซึ่งขนาดของบุคคลในวัยแรงงานเล็กกว่าขนาดของประชากรของประเทศ ประเภทของการว่างงาน
มีการว่างงานชั่วคราว การว่างงานตามฤดูกาล การว่างงานเนื่องจากโครงสร้างของเศรษฐกิจ
ก า ร ว่ า ง ง า น เ นื่ อ ง จ า ก วั ฐ จั ก ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ก า ร ว่ า ง ง า น แ ฝ ง
สาเหตุของการว่างานเกิดจากจานวนผู้สาเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้นจานวนมากไม่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน
, ผู้สมัครจะคาดหวังกับค่าตอบแทนที่สูงและงานมีความสะดวกสบายแก่ตนจึงทาให้เกิดการเลือกงาน,
ส ภ า ว ะ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ใ น ส ภ า พ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ
ในสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจึงทาให้เป็นสาเหตุแก่ผู้ที่ประกอบการส่งผลให้เกิดการปลดพนัก
งานออกเป็นบางส่วนเพื่อให้เกิดความสมดุลผลกระทบจากการว่างงานคือทาให้เสียสุขภาพจิตและร่างกาย
ก่อให้เกิดปัญหาครอบครัว ก่อให้เกิดปัญหาความยากจน ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรร ม
เ ป็ น ผ ล เ สี ย ต่ อ ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ
ปัญหาการว่างงานจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศมากเพราะสิ่งสาคัญในการพัฒนาประเทศก็คือประ
ช า ช น
หากพื้นฐานความเป็นอยู่ของประชาชนนั้นไม่ดียังมีปัญหาการว่างงานเกิดขึ้นอยู่การพัฒนาประเทศก็จะช้าลง
ไ ป ด้ ว ย
การฝึกอบรมหรือฝึกอาชีพอาจยังไม่เพียงพอเพราะประชาชนเหล่านี้ขาดเงินทุนในการประกอบอาชีพฉะนั้น
รัฐต้องสร้างอาชีพและให้เงินทุนเพื่อการพัฒนาศักยภาพของคนว่างงานให้มีอาชีพที่มั่นคงและจะไม่เป็นปัญ
หาของสังคมต่อไป