1. การเลือกซือเครือง Scanner และ การเลือกชือ
้ ่ ่
เครื่องมัลติฟังก์ชั่น
การเลือกซื้อเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ในระดับมืออาชีพ
(Performance)
วิธีการเลือกซื้อเครื่อง Scanner สำาหรับผูใช้ระดับสูง เครื่อง สแกนเนอร์ ทีแนะกับผู้
้ ่
ใช้ในระดับนี้ จะต้องเป็นเครื่อง สแกนเนอร์ ที่มีความละเอียดที่สูง มีบิตสีในการสแกน
ทีมาก มีความเร็วในการสแกนที่พอเหมาะไม่ช้าจนเกินไป สามารถสแกนได้ทั้ง
่
กระดาษธรรมดา และแผ่นฟิล์ม มีขนาดและรูปร่างที่ไม่ใหญ่มากนัก
ในส่วนแรกเลยก็คงจะต้องมาเลือกกันที่วาหัวสแกนของเครื่อง สแกนเนอร์ หรือ Sc
่
anner ต้องการหัวสแกนแบบใด แบบ CCD Flatbed หรือแบบ CIS Flatbed ซึ่งหัว
สแกนทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันตรงที่ แบบ CCD Flatbed จะมีความละเอียดใน
การสแกนรูปภาพ และความเร็วในการสแกนที่สูงกว่าหัวสแกนแบบ CIS Flatbed ส่วน
ขนาดของเครื่องหัวสแกนแบบ CCD Flatbed จะมีความหนาและใหญ่กว่าเครื่องทีใช้ ่
หัวสแกนแบบ CIS Flatbed ความละเอียดสำาหรับเครื่อง Scanner ในระดับมืออาชีพ
นี้ควรจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1200 x 1200 จุดต่อตารางนิวขึ้นไป ยิงมีความละเอียดที่
้ ่
สูงก็จะทำาให้ภาพที่ได้มีความละเอียดสูงขึ้น แต่ในเครื่อง สแกนเนอร์ (Scanner) ใน
ปัจจุบันจะสามารถปรับความละเอียดในการสแกนเพิ่มขึ้นได้อีกโดยใช้โปรแกรมหรือ
ซอฟต์แวร์เข้าช่วย ความละเอียดที่ได้จากโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์จะอยู่ที่ 9600 จุด
ต่อตารางนิ้วขึ้นไป
ต่อมาเป็นจำานวนบิตสีในการสแกนควรจะอยูที่ 48 บิตสี จะอยู่ในโหมด สี 48 บิต
่
Input/ 24 บิต Output ส่วนโหมดสีเท่า 16 บิต Input/ 8 บิต Output ส่วนความเร็ว
ในการพรีวิวสแกนควรจะอยู่ที่ 7 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น ส่วนพื้นที่ในการสแกนส่วน

2. ใหญ่จะอยู่ที่ 216 x 197 มิลลิเมตร หรือกระดาษขนาด A4 ความสามารถของเครื่อง
Scanner (สแกนเนอร์) บางรุนจะสามารถสแกนรูปภาพหรือข้อความถูกบันทึกลงบน
่
แผ่นฟิล์มได้ นับว่าเป็นตัวเลือกของผู้ใช้ที่ต้องการคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างอื่นอีก
ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ใน
ปัจจุบันเครื่อง สแกนเนอร์ (Scanner) ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อผ่านทาง USB 1.1/2.0
อันนี้แล้วแต่เครื่องของผู้ใช้กับว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ใช้พอร์ต USB เวอร์ชันใด
ถ้าเป็น USB 1.1 ก็จะมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลน้อยกว่า USB 2.0 แต่ผู้ใช้ไม่
ต้องกังวลว่าถ้า USB ของผู้ใช้เป็น USB 2.0 แล้วจะไม่สามารถใช้ USB 1.1 ได้
สามารถใช้ได้ครับแต่ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลจะช้าลงเพียงเท่านั้น ส่วนในเรื่อง
พลังไฟที่ใช้ในเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) บางรุ่นจะมี Adapter ในการเชื่อมต่อ
เพื่อจ่ายพลังงานให้กับเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) แต่ในบางรุ่นจะสามารถใช้
กระแสไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงได้ นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่จะทำาผู้ใช้ไม่
จำาเป็นต้องหาปลั๊กไฟเพิ่มเติม แต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่หาก Power Supply ของเครื่อง
คอมพิวเตอร์มีกำาลังไฟไม่เพียงพอแล้วอาจจะทำาให้เครื่อง Scanner (สแกนเนอร์)
หรืออุปกรณ์บางอย่างไม่สามารถทำางานได้ ในส่วนระบบใช้ก็จะเป็น Windows
98/98SE/ME/2000/XP หรือ Mac OS 8.6-9.x ส่วนในด้านเทคโนโลยีหรือโปรแกรม
ทีแถมมากับเครื่อง Scanner นั้น อันนี้แล้วแต่ผู้ใช้วามีความถนัดหรือใช้งานได้งาย
่ ่ ่
หรือไม่
การเลือกซื้อเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ในระดับประสิทธิภาพคุ้มค่า (Value)
การเลือกซื้อ Scanner (สแกนเนอร์) ในแบบมีประสิทธิสมราคา อย่างแรกก็คงเป็น
เทคโนโลยีการสแกน มีทั้งแบบ CCD และแบบ CIS แล้วแต่จะเลือกครับ แบบ CCD มี
ข้อดีตรงที่สามารถสแกนวัตถุได้ทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ (วัตถุ 2 มิติ คือ วัตถุที่มีเพียง
ด้านเดียว ส่วนวัตถุ 3 มิติ คือ วัตถุที่มีทงด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง) แบบ CIS ก็
ั้
สามารถในการสแกนได้เหมือนกับ CCD แต่จะด้อยกว่าในด้านประสิทธิภาพของภาพที่
ได้จากการสแกน ส่วนตัวเครื่อง CCD จะมีขนาดและนำ้าหมักทีมากกว่า CIS ลำาดับต่อ
่
มาคือ ความละเอียดในการสแกนควรจะเลือกเครื่องสแกนที่มีความละเอียดในการ
สแกน 1200 x 1200 จุดต่อตารางนิวขึ้นไปครับ แต่เครื่อง Scanner (สแกนเนอ
้
ร์) บางรุ่นยังสามารถเพิ่มความละเอียดได้ด้วยโปรแกรม (Software)
ตัวอย่างเช่น Up to 4800 Optimized หมายความว่า สามารถปรับความละเอียดโดย
ใช้โปรแกรมที่มาพร้อมกับเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ทำาให้ได้ความละเอียด
สูงสุดที่ 4800 จุดต่อตารางนิ้ว ส่วนความละเอียดในการสแกนส่วนใหญ่จะเป็นแบบ
48 บิตสีอยู่แล้ว จะทำาให้ได้ประสิทธิภาพในการสแกนความคมชัดที่สูงขึ้นครับ ต่อไป
เป็นการเชื่อมต่อเครื่อง สแกนเนอร์ (Scanner) มีการเชื่อมต่อหลายแบบครับ ได้แก่

3. Parallel เป็นการเชื่อมต่อแบบธรรมดาที่สุด, USB 1.1/2.0 ทำาให้การส่งผ่านข้อมูลได้
รวดเร็วกว่า Parallel สะดวกในการติดตั้ง, SCSI คล้ายๆ กับ Parallel แต่มีความเร็วใน
การส่งผ่านข้อมูลสูงกว่า Parallel และสุดท้าย FireWire มีเครื่อง Scanner (สแกน
เนอร์) น้อยรุ่นที่จะใช้พอร์ตนี้ในการเชื่อมต่อ เมื่อนำามาติดตั้งไว้ในเครื่อง Scanner
(สแกนเนอร์) จะทำาให้มีราคาที่สูงขึ้น ผู้ใช้ต้องเลือกด้วยว่าจะใช้พอร์ตอะไรในการ
เชื่อมต่อ ในปัจจุบัน USB 1.1/2.0 เป็นพอร์ตที่ใช้งานง่ายที่สุดแล้วครับ ราคาก็ไม่แพง
มากนัก
Scanner (สแกนเนอร์) บางรุนยังมีความสามารถที่เครื่อง Scanner (สแกนเนอ
่
ร์) รุ่นอื่นไม่มีอีก คือ การสแกนแผ่นฟิล์ม หรือแผ่นสไลด์ได้ครับ นับเป็นสิ่งที่เพิ่มเติม
ขึ้นมาแล้วได้ประโยชน์อีกไม่น้อยครับ
เมื่อผู้ใช้กำาหนดสเปกของเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) แล้วว่าต้องการแบบไหน
ความละเอียดในการสแกนเท่าไหร่ เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ตอะไร คราวนี้ก็ต้องมาดูกัน
ทีเทคโนโลยีของบริษทผู้ผลิตเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ว่าผู้ใช้ใช้งานง่ายหรือ
่ ั
ไม่ การที่เราสามารถใช้งานเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ได้งาย ทำาให้เราไม่ต้อง
่
เสียเวลาในการอ่านคู่มือมากนัก นำ้าหนักกับขนาดของเครื่อง Scanner (สแกนเนอ
ร์)ส่วนใหญ่จะไม่ต่างกันมากกนัก ก็แล้วแต่ว่าผู้ใช้ชอบเครื่อง Scanner (สแกนเนอ
ร์) หน้าตาแบบไหน สีอะไรครับ
การเลือกซื้อเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ในระดับประหยัด (Budget)
สำาหรับผู้ใช้ที่มงบประมาณในการจัดซื้อน้อย Scanner (สแกนเนอร์) ระดับ Budget
ี
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดูจะเหมาะสมมากที่สุดและในตลาดบ้านเราตอนนี้ก็มีให้เลือก
อยู่หลายรุ่นเช่นเดียวกัน ในด้านของประสิทธิภาพการทำางานโดยรวมก็ยงอยู่ในเกณฑ์
ั
ดีทใช้ได้เลยครับ แต่ต้องพิจารณาจากใช้งานหลักของผู้ใช้เองด้วยนะครับ อย่างที่เคย
ี่
ได้กล่าวไปถึงวิธีการเลือกซื้อในฉบับก่อนแล้ว ครังนี้เราจะเข้ามาลึกอีกสักหน่อย
้
สำาหรับการเลือกซื้อ Scanner ระดับล่าง ทีทางผู้ใช้มีงบประมาณน้อยจะเลือกซื้อ
่
อย่างไรถึงจะใช้ได้ การเลือกซื้อ สแกนเนอร์ระดับนี้เราต้องมาพิจารณาถึงองค์
ประกอบหลักว่าเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ทีทางผู้ใช้สนใจอยู่นั้นมีรุ่นใดบ้าง ให้
่
เอาราคาทีใกล้เคียงกับงบประมาณที่มีอยู่หลังจากนั้นให้นำามาเปรียบเทียบกันว่ามีข้อ
่
แตกต่างกันในส่วนใดบ้าง ด้านเทคโนโลยีของสแกนเป็นรู้ดีอยู่วามีแบบ CIS และแบบ
่
ทีเป็น CCD ถ้าคุณต้องการเน้นประสิทธิในการสแกนวัตถุสามมิติ แนะนำาให้ใช้
่
เทคโนโลยีแบบ CCD จะดีกว่าเพราะการสแกนวัตถุที่เป็นสามมิตินั้นเทคโนโลยี CCD
จะเหนือกว่า CIS อยู่เล็กน้อย เนื่องจากระบบการทำางานจะต่างกัน หากคุณต้องการ
เน้นที่ความรวดเร็ว ประหยัดพื้นที่สามารถจัดเก็บได้สะดวกเมื่อไม่ได้ใช้งานก็ต้องเป็น

4. แบบ CIS ครับ เพราะทีรู้ๆกันว่าข้อเสียของเครื่อง สแกนเนอร์ (Scanner) แบบที่ใช้
่
เทคโนโลยีแบบ CCD ตัวเครื่องค่อนข้างหนาและมีนำ้าหนักมากกว่า เทคโนโลยีแบบ
CIS พอประมาณครับ จำานวนบิตสีควรเลือกที่เป็นมาตรฐานคือ 48 บิตสีจะดีกว่า
การเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เลือกที่คุณคิดว่าสะดวกมากที่สุด อย่างเช่น
ถ้าคุณใช้เครื่องพรินเตอร์ที่ต่อกับสาย Parallel อยู่ก็ควรเลือกซื้อ Scanner (สแกน
เนอร์) ที่เชื่อมต่อแบบ USB หรือไม่ก็ FireWire แทนจะได้ทำาให้การทำางาน
สอดคล้องกัน ทำางานร่วมกันได้ไม่ต้องมีปัญหาเปลียนไปเปลี่ยนมาให้เสียเวลา หาก
่
เครื่องพรินเตอร์ใช้เป็น USB และถ้าคุณมีช่อง USB เหลือก็ตามสะดวกได้เลยครับ
เพราะการเชื่อมต่อแบบ USB นั้นจะรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ Paralle อยู่พอสมควร
หรือถ้าหากว่าอยากลองการเชื่อมต่อแบบใหม่อย่าง FireWire ก็ไม่วากันครับ แต่ต้อง
่
ดูด้วยว่าเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) รุ่นที่คุณต้องการสนับสนุนการเชื่อมต่อแบบนี้
หรือไม่ เพราะที่เห็นกันในตลาดบ้านเราตอนนี้แบบราคาระดับล่างมีอยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่
มีการเชื่อมต่อแบบ FireWire ด้วย แถมไม่ทราบว่าจะมีการ์ด PCI ที่ไว้ต่อกับตัวเชื่อม
ต่อ FireWire มาให้ด้วยหรือเปล่าในบ้างรุ่น จากการที่ได้ไปสำารวจมาในบางร้านมีแถม
มาให้ บางร้านก็ไม่มีต้องเพิ่มเงินซื้อถึงจะได้ ทังๆ ที่นาแถมมาให้พร้อมเครื่อง สแกน
้ ่
เนอร์ (Scanner) อยู่แล้ว ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำาไมลองคิดดูเล่นๆก็แล้วครับว่าทำาไม
ส่วนของค่าความละเอียดในการสแกนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เครื่อง Scanner
(สแกนเนอร์) ทีมีค่าความละเอียดสูงๆ แต่ก็ถือว่าเป็นค่าความละเอียดที่ใช้งานกันใน
่
ระดับปกติเป็นมาตรฐานอยูแล้วครับ ไม่ต้องเสียใจไปว่าเรามีงบประมาณน้อยไม่
่
สามารถซื้อเครื่อง Scanner (สแกนเนอร์) ทีมีค่าความละเอียดสูงๆได้ เพียงแค่คุณ
่
ก็ใช้ทำางานได้ในระดับหนึ่งแล้ว
การเลือกชื่อเครื่องมัลติฟังก์ชั่น
เครื่องมัลติฟังก์ชั่นคืออะไร?
เครื่องมัลติฟังก์ชั่น (Multi-function Centre) คือ เครื่องที่สามารถใช้
งานได้ครบทุกประเภทภายในเครื่องเดียว All-in-one ความสามารถ
ใช้งานนี้ หมายถึง การพิมพ์ การรับส่งโทรสาร การสแกน การทำา

5. สำาเนา การส่งโทรสารด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบ Photo
Capture Centre พร้อมช่องใส่มีเดียการ์ดชนิดต่างๆ การแยกการใช้
งานแต่ละอย่างออกจากกันจะต้องใช้พื้นที่การวางเครื่องที่มากกว่า
และรวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเครื่องทีรวมทุกการใช้งานไว้ในเครื่อง
่
เดียว ด้วยการรวบรวมเอาเทคโนโลยีลาสุดที่มี บราเดอร์ได้บรรจุเอา
่
ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานลงไว้ในเครื่องเพียงเครื่องเดียวทีแสนกะทัดรัด
่
เครื่องมัลติฟังก์ชั่นของบราเดอร์แต่ละรุ่นสามารถรองรับความต้องการ
ไม่วาจะเป็นบ้าน สำานักงานขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดเล็กและในหน่วย
่
งาน
ทำาไมต้องเป็นเครื่องมัลติฟังก์ชั่น?
หากพื้นที่การใช้งานเป็นกลายข้อจำากัดที่สำาคัญในการตัดสินใจเลือก
ซื้อเครื่อง การเลือกเครื่องมัลติฟังก์ชั่นสำาหรับบ้านหรือสำานักงานนับ
เป็นความคิดทีถูกต้องในการบริหารพื้นที่ของคุณได้มากที่สุด หมด
่
สมัยทีบ้านหรือสำานักงานต้องซื้อเครื่องเพื่อความต้องการใช้
่
เครื่องพิมพ์ รับส่งโทรสาร ทำาสำาเนาและสแกนแบบแยกเครื่องเพื่อ
ทำางานแต่ละอย่าง นอกจากการประหยัดพื้นที่แล้ว เครื่องมัลติฟัง
ก์ชั่นยังช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าการซื้อ 3 หรือ 4 เครื่องสำาหรับ
แยกงานแต่ละประเภท ทังยังให้พื้นทีทำางานบนโต๊ะคุณยังเหมือนเดิม
้ ่
ด้วยการเชื่อมต่อเพียงจุดเดียวสำาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
เท่านั้น

6. ข้อคิดก่อนการเลือกซื้อ
คุณสมบัติกับความต้องการ - การเลือกซื้อคงต้องคำานึงถึงความ
ต้องการนำาไปใช้เป็นหลัก ว่าต้องการรุ่นที่สามารถทำางานได้มากน้อย
เพียงใด คุณสมบัติหลักๆ ของเครื่อง Mulit-Function แบ่งออกได้
หลายลักษณะ ดังนี้
1.ทำาหน้าที่เป็น Printer, Scanner, Fax, Copier
2.ทำาหน้าที่เป็น Printer, Scanner, Copier
3.ทำาหน้าที่เป็น Printer, Fax
4.ทำาหน้าที่เป็น Printer, Copier
ความสามารถในส่วนของ Printer - Mulit-Function ในส่วนของ
Printer บางยี่ห้อจะมีให้เลือกว่าต้องการแบบ Laser หรือ Inkjet (ถ้า
เป็น Inkjet จะสามารถพิมพ์สีได้) ส่วนเรื่องความเร็วในการพิมพ์ก็
เป็นสิ่งสำาคัญในการพิจารณา ความสามารถในส่วนของ Scanner -
Mulit-Function ในส่วนของ Scanner ควรดูในส่วนของความ
ละเอียด ความคมชัดของภาพที่ได้จากการ Scan โดยปกติทั่วๆ ไป
ประมาณ 600 x 1200 dpi ความลึกของสี 48 bit ความสามารถใน
ส่วนของ Fax - Mulit-Function ในส่วนของ FAX ควรตรวจสอบ
คุณสมบัติกับการใช้งานกับเครื่อง Fax ทัวๆ ไป เช่น Fax
่
Transmission Speed ควรไม่ตำ่ากว่า 3 ขึ้นไป เป็นต้น ความสามารถ
ในส่วนของ Copier - Mulit-Function ในส่วนของ Copier ควรดูใน
ส่วนของความเร็วในการถ่ายสำาเนา ระบบย่อ-ขยาย บางรุ่น บางยี่ห้อ
สามารถ่ายในระบบ AutoFix และไร้ขอบ ได้อีกด้วย

7. นาย จักรี โคตพจน์ 53011220030 Is พิเศษ กลุ่ม 2
นาย นพนันท์ จันทสิทธิ์ 53011220047 Is พิเศษ กลุ่ม 2