More Related Content
More from WarongWonglangka
More from WarongWonglangka (20)
Drainage.pdf
- 3. การระบายน้าในบริเวณ Site Dranage
ในงานปรับระดับและงานผังบริเวณน้าผิวดิน คือกรรมวิธีแรกในงานระบาย
น้าปกติจะเป็นรูปแบบการระบายน้าฝน (Storm Drainage System) ระบบ
การระบายน้าฝนจะรวบรวม นาพา น้าฝนที่มีมากเกินขนาด ทิ้งไป โดยปกติ
ระบบการระบายน้าฝนจะช่วยให้
1. ป้องกันการกัดเซาะพังทลายโดยการลดอัตราการไหลและปริมาณของน้าลง
2. ลดปัญหาและความเสียหายในทรัพย์สินอันเกิดจากน้าท่วม และเป็นการช่วย
ให้การใช้บริเวณมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการระบายน้าที่มากเกินความ
ต้องการออกไป
3. ป้องกันน้าขังอันก่อให้เกิดการเน่าเสียและเป็นแหล่งเพาะยุงและเชื้อโรค
4. การเจริญเติบโตของต้นไม้ดีขึ้น โดยการระบายน้าที่อิ่มตัวอยู่ในดิน
5. ดินรับน้าหนักได้ดีขึ้น ทาให้บริเวณเหมาะแก่การก่อสร้างยิ่งขึ้น
- 13. หลักการออกแบบทางระบายน้า
การออกแบบทางระบายน้าที่ดี จะต้องคานึงถึงประสิทธิภาพการระบายน้า งบประมาณการ
ก่อสร้างและวิธีการบารุงรักษา โดยจะต้องออกแบบให้น้าไหลด้วยความเร็วที่สามารถล้างท่อ
ด้วยตัวเองและสามารถระบายน้าได้ตามภาวะอัตราระบายน้าออกแบบ(Design Dithery)
นอกจากนี้ในกรณีทางระบายน้าแบบท่อปิดต้องมีการออกแบบการระบายอากาศไว้ด้วยเพื่อช่วยลด
ปัญหาการสึกกร่อนของท่อและวัสดุอื่น
1 ข้อพิจารณาในการออกแบบวางโครงข่ายทางระบายน้า
ประเด็นที่ควรพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการออกแบบวางโครงข่าย
ทางระบายน้า มีดังนี้
1) สถานที่และตาแหน่ง : ตาแหน่งและแนวเขตวางทางระบายน้าเป็นส่วนสาคัญที่
มีผลกระทบต่องบประมาณการก่อสร้างและประสิทธิภาพการระบายน้า การกาหนดแนวเขตทาง
ระบายน้าที่ดีควรมีระยะสั้นและไม่ลึกมากแต่มีขีดความสามารถรับน้าจากทุกแหล่งกาเนิดและ
ระบายน้าออกไปได้โดยเร็ว
2) ขนาดทางระบายน้า : ทางระบายน้าขนาดใหญ่ มีขีดความสามารถในการระบาย
ได้มากกว่าทางระบายน้าขนาดเล็ก แต่ราคาสูงกว่า ดังนั้น เพื่อความประหยัดและความคุ้มค่า จึง
จาเป็นต้องคานวณขนาดให้เหมาะสม โดยไม่เล็กเกินไปจนไม่สามารถระบายน้าได้หรือมีขนาด
ใหญ่จนเกินความจาเป็น
- 14. 3) ความลาดของทางระบายน้า : ทางระบายน้าที่มีความลาดชันมาก จะทาให้ความ
ลึกของทางระบายน้ามากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อมิให้ทางระบายน้ามีความลึกมาก ให้พิจารณา
กาหนดบ่อสูบเป็นระยะๆ แทนการขุดดินให้ลึกเพื่อเป็นการยกระดับน้าให้สูงขึ้น
มาตรฐานทางระบายน้า
2 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการออกแบบทางระบายน้า
การออกแบบทางระบายน้า มีปัจจัยสาคัญประกอบการพิจาณา ดังนี้
1) การป้องกันการสึกกร่อน
การออกแบบทางระบายน้าแบบท่อปิด ต้องป้องกันการสึกกร่อนภายในท่อ
เพื่อป้องกันท่อชารุดเสียหายเร็วกว่ากาหนด อันจะส่งผลให้ต้องมีการขุดวางท่อใหม่แทนท่อเก่าที่
ชารุด ซึ่งจะเป็นการยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าการวางท่อให้ได้มาตรฐานตั้งแต่เริ่มต้น
2) ความลึกของทางระบายน้า
ในกรณีการขุดเปิดหน้าดินเพื่อวางทางระบายน้าซึ่งมีความลึกมากกว่า2-3 เมตร
อาจทาให้อาคารข้างเคียงเกิดการทรุดตัวและแตกร้าวเนื่องจากการไหลตัวของดินนั้นได้กรณีนี้
สามารถแก้ไขโดยการขุดเจาะระบบอุโมงค์เพื่อไม่ต้องขุดเปิดหน้าดิน
อย่างไรก็ดี ความลึกในส่วนต้นทางของท่อจะต้องมีระดับลึกพอที่ดันน้าที่
ระบายออกจากอาคารบ้านเรือนของประชาชนให้ไหลไปตามท่อหรือทางระบายน้าได้
- 15. 3) ความลาดของทางระบายน้า
ทางระบายน้าที่มีความลาดชันมาก จะทาให้ทางระบายน้ามีความลึกมากขึ้น
ตามไปด้วย กรณีนี้สามารถแก้ไขโดยการกาหนดให้มีบ่อสูบเป็นระยะๆ เพื่อเป็นการยกระดับน้าให้
สูงขึ้น แล้วปล่อยให้ไหลไปตามทางระบายน้าแทนการขุดให้ลึกได้
4) ชนิดของท่อระบายน้า
ท่อระบายน้ามีจานวนหลายชนิด เช่น ท่อคอนกรีตเสริมเหล็ก ท่อเหล็ก
ท่อ PVC ซึ่งมีความแตกต่างทั้งในเรื่องคุณสมบัติ ความคงทนและราคา ดังนั้น ควรศึกษา และ
เลือกใช้ท่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างของทางระบายน้า และสามารถรับน้าหนักได้ทั้งน้าหนัก
ถาวรและน้าหนักจร ซึ่งรวมถึงแรงกระแทกหรือการทรุดตัวที่อาจเกิดขึ้นได้
5) รอยต่อหรือรอยเชื่อม
การออกแบบทางระบายน้าต้องศึกษาวิธีการป้องกันและลดอัตราน้าไหลรั่ว
เข้าทางระบายน้าผ่านทางรอยต่อหรือรอยเชื่อม
6) การบารุงรักษา
ทางระบายน้าที่ไม่มีการบารุงรักษาอย่างต่อเนื่องจะทาให้เกิดการชารุด หรือมี
อายุการใช้งานที่สั้น ดังนั้นการออกแบบต้องคานึงถึงความสะดวกและง่ายต่อการบารุงรักษา
รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัดด้วย