More Related Content
Similar to อุปกรณ์เครือข่าย
Similar to อุปกรณ์เครือข่าย (20)
อุปกรณ์เครือข่าย
- 2. การ์ด (
เครื่องพีซีจะเชื่อต่อกันเป็นระบบ ขึ้นมานั้น แต่ละเครื่องต้องติดตั้งการ์ด เครื่องรุ่น
ใหม่ๆอาจจะมีการ์ด ฝังตัวอยู่ในบอร์ดให้แล้ว ( หรือในโน๊ตบุ๊คใหม่ๆก็
มักจะมีพอร์ต มาให้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100 เมกกะบิต (ถ้าเป็น
รุ่นเก่าจะมีความเร็วเพียง 10 เมกกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น) เรียกว่าเป็น และบาง
แบบก็อาจใช้ได้ทั้ง 2 ความเร็วโดยสามารถปรับแบบอัตโนมัติแล้วแต่จะไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์
หรือ แบบใดการ์ด รุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติ หรือ มักเสียบเข้า
กับสล๊อตแบบ การ์ดรุ่นเก่าจะใช้กับสล๊อตแบบ ซึ่งไม่ค่อยพบแล้ว จึงไม่ขอกล่าวถึง)
โดยมีช่องด้านหลังเครื่องให้เสียบสายได้
- 3. ฮับ(hub) เป็นอุปกรณ์ที่รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกัน ฮับ
เปรียบเสมือนเป็นบัสที่รวมอยู่ที่จุดเดียวกัน ฮับที่ใช้งานอยู่ภายใต้มาตรฐานการรับส่งแบบ
อีเทอร์เน็ต หรือ IEEE802.3 ข้อมูลที่รับส่งผ่านฮับจากเครื่องหนึ่งจะกระจายไปยังทุก
สถานีที่ต่ออยู่บนฮับนั้น ดังนั้น ทุกสถานีจะรับสัญญาณข้อมูลที่กระจายมาได้ทั้งหมด แต่จะ
เลือกคัดลอกเฉพาะข้อมูลที่ส่งมาถึงตนเท่านั้น การตรวจสอบข้อมูลจึงต้องดูที่แอดเดรส
(address)ที่กากับมาในกลุ่มของข้อมูลหรือแพ็กเก็ต
- 4. สวิตซ์(switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายสถานี
เช่นเดียวกับฮับ แต่มีข้อแตกต่างจากฮับ กล่าวคือ การรับส่งข้อมูลจากสถานี (อุปกรณ์) ตัว
หนึ่ง จะไม่กระจายไปยังทุกสถานี (อุปกรณ์) เหมือนฮับ ทั้งนี้เพราะสวิตช์จะรับกลุ่มข้อมูล
(แพ็กเก็ต) มาตรวจสอบก่อน แล้วดูว่ามา แอดเดรสของสถานีปลายทางไปที่ใด สวิตช์จะนา
แพ็กเก็ตหรือกลุ่มข้อมูลนั้นส่งต่อไปยังสถานี (อุปกรณ์) เป้าหมายให้อย่างอัตโนมัติ สวิตช์จะ
ลดปัญหาการชนกันของข้อมูลเพราะไม่ต้องกระจายข้อมูลไปทุกสถานี และยังมีข้อดีในเรื่อง
การป้องกันการดักจับข้อมูลที่กระจายไปในเครือข่าย
- 5. เราเตอร์ (router) ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน หรือเชื่อมโยง
อุปกรณ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และ
แต่ละเส้นทางอาจใช้เทคโนโลยีเครือข่ายที่ต่างกัน อุปกรณ์จัดเส้นทางจะหาเส้นทางที่
เหมาะสมให้การที่อุปกรณ์จัดหาเส้นทางเลือกเส้นทางได้ถูกต้องเพราะแต่ละสถานีภายใน
เครือข่ายมีแอดเดรสกากับ อุปกรณ์จัดเส้นทางต้องรับรู้ตาแหน่งและสามารถนาข้อมูลออก
ทางเส้นทางได้ถูกต้องตามตาแหน่งแอดเดรสที่กากับอยู่ในเส้นทางนั้น รวมทั้งการจัดรูปแบบ
และนาเสนอข้อมูล โดยกาหนด
- 7. โมเด็มเราเตอร์ หรือ DSL (Digital Subscriber Line) Modem Router
คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมโยงหลายๆ เครือข่ายหรืออุปกรณ์หลายๆ ตัวเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงมีเส้น
ทางเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางอาจใช้ เทคโนโลยีเครือข่ายที่
แตกต่างกัน ซึ่งตัวอุปกรณ์จัดเส้นทางนี้ จะทาหน้าที่หาเส้นทางที่เหมาะสมให้ เพื่อให้การส่ง
ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- 9. สาย UTP (Unshield Twisted Pair) สายที่ใช้กับ LAN เรียกว่าสาย UTP
(Unshield Twisted Pair) ซึ่งใช้หัวต่อแบบ RJ-45 ซึ่งมีทั้งหมด 8 ขา สายแบบนี้ที่เข้าหัวไว้แล้ว
จะหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือจะซื้อแบบเป็นม้วนมาตัดเข้าหัวเองก็ได้ แต่ต้องมี
เครื่องมือหรือคีมเข้าหัว RJ-45 โดยเฉพาะ มีข้อจากัดคือ จะต้องยาวไม่เกิน 100 เมตร จากเครื่องไปยัง
Switch และแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามลักษณะการใช้งาน คือ
• สายตรง (Straight-through Cable) คือสายปกติที่ใช้เชื่อมระหว่างการ์ด LAN และ Hub /
Switch
• สายไขว้ (Crossover Cable) ใช้ต่อการ์ด LAN บนคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องหรือพอร์ตของ Hub
หรือ Switch 2 ตัวโดยตรง เพื่อเพิ่มขยายพอร์ต ซึ่งวิธีการเข้าหัวจะต่างจากปกติ
- 10. การต่อสาย UTP
การต่อสาย UTP จะมีวิธีต่ออยู่ 2 แบบคือ การต่อแบบไขว้ และต่อแบบตรง โดยที่การต่อแบบไขว้จะใช้สาหรับ
การต่อเครื่อง 2 เครื่องเข้าด้วยกัน และการต่อแบบตรงจะเป็นการต่อเครื่องทุกเครื่องเข้ากับ ฮับ ซึ่งจะมีวิธีการต่อสาย
แต่ละแบบดังนี้
วิธีการต่อสายแบบไขว้
การต่อสายแบบไขว้จะมีวิธีการเรียงสายอยู่ 2 วิธี คือ การต่อไขว้ขนาดความเร็ว 10 Mb และขนาดความเร็ว 100 Mb
ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างการเรียงสายแบบไขว้ขนาดความเร็ว 10 Mb จะมีวิธีการเรียงสายโดยไขว้สายที่ 1กับสายที่ 3 และ
สายที่ 2 กับสายที่ 6 ดังภาพต่อไปนี้
- 11. สาหรับการต่อแบบไขว้ขนาดความเร็ว 100 Mb การต่อแบบนี้จะต้องใช้สายระดับ CAT 5 ไม่
สามารถใช้สายที่ต่ากว่านี้ได้ วิธีการต่อสายแบบนี้สามารถนาไปใช้กับอุปกรณ์ที่มีความเร็ว 10 Mb ก็
ได้ โดยวิธีการเรียงสายแบบนี้จะคล้ายกับวิธีการเรียงสาย ขนาด 10 Mb แต่จะต้องไขว้สายที่ 4 กับสายที่ 7
และสายที่ 5 กับสายที่ 8 เพิ่มขึ้นด้วยดังภาพตัวอย่างต่อไปนี้