SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ 
 
 
 
 
 
รหัสวิชา ง33201 ชือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร 5 
ปการศึกษา 2562 
 
 
 
 
 
 
ชือโครงงาน 
JELLYFISH 
 
 
 
 
 
ชือผู้ทําโครงงาน 
ชือ ธนรัตน์ คําภิละ เลขที 15 ชัน ม.6/10 ห้อง 10 
 
 
 
ชืออาจารย์ทีปรึกษาโครงงาน ครูเขือนทอง มูลวรรณ์ 
 
 
 
ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที 1-2 ปการศึกษา 62 
 
 
 
​โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ 
สํานักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 34   
 
2
ใบงาน 
การจัดทําข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ 
 
สมาชิกในกลุ่ม   
นายธนรัตน์ คําภิละ เลขที 15   
 
คําชีแจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี 
 
ชือโครงงาน (ภาษาไทย) 
แมงกะพรุน 
 
ชือโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)   
JELLYFISH 
 
ประเภทโครงงาน โครงงานเพือการศึกษา 
 
ชือผู้ทําโครงงาน นายธนรัตน์ คําภิละ 
 
ชือทีปรึกษา ครูเขือนทอง มูลวรรณ์ 
ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที1-2 ปการศึกษา 62 
 
ทีมาและความสําคัญของโครงงาน (อธิบายถึงทีมา แนวคิด และเหตุผล ของ
การทําโครงงาน) 
โครงงานนีจัดทําขึนเพือให้ผู้คนได้เรียนรู้เกียวกับสิงมีชีวิตทีเรียกว่า 
แมงกะพรุน และตระหนักถึงภัยอันตรายเกียวกับแมงกะพรุน วิธีการปองกัน 
ซึงศึกษาได้จากสายพันธุ์ ถินทีอยู่ และลักษณะนิสัยของมันในแต่ละสายพันธุ์ 
รวมไปถึงวิธีการรักษาเบืองต้นหากโดนพิษแมงกะพรุน จากข้อมูลของสํานัก
ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคระบุว่าในช่วง 15 ปทีผ่านมา มีนักท่องเทียวได้
รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษขณะเล่นนาในทะเลไทยเข้ารับการรักษาทีโรง
พยาบาลจํานวนกว่า 900 ราย ในจํานวนนีเสียชีวิต 12 ราย   
ดร. ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ ระบุว่า หากสัมผัสกับแมงกะพรุนพิษ อย่าใช้มือปดปายไปมา 
เพราะจะยิงทําให้มือและแขนโดนหนวดแมงกะพรุนมากขึน ควรตังสติ เดิน
ขึนฝงและรีบจัดการกับบริเวณร่างกายทีเกิดปญหา 
 
"การนําเศษหนวดและเซลล์เข็มพิษออกจากผิวหนังเปนเรืองสําคัญสุด เซลล์
เข็มพิษพวกนีอาจติดอยู่ตามเสือผ้าชุดว่ายนาและยิงพิษไปเรือย เพราะฉะนัน 
3
หาทางถอดชุดพวกนันออก อย่าทิงไว้คาตัวผู้ปวย หากมีเศษหนวดติดอยู่ ต้อง
รีบเอาออก แต่อย่าใช้มือสัมผัสโดยเด็ดขาด ใช้นาสาดใส่ หรือใช้กิงไม้เศษไม้
เขียออก หรือหากมีเครดิตการ์ด จะใช้ขูดออกก็ได้ ต้องทําอย่างระมัดระวัง" 
 
คําถามทีหลายคนสงสัยคือ นาส้มสายชูใช้แก้พิษแมงกะพรุนได้จริงหรือ 
ดร.ธรณ์บอกว่า นาส้มสายชูมีฤทธิเปนกรด เข็มพิษของเเมงกะพรุนทีติดอยู่
ตามตัวจะหยุดทํางานเมือเจอนาส้มสายชู ทังนีห้ามใช้นาจืดหรือนายาอะไร
ก็ตามโดยเด็ดขาด ฤทธินาส้มสายชูจะไปสกัดไม่ให้เซลล์ยิงเข็มพิษ ทีผ่านมามี
การใช้นาส้มสายชูจัดการกับพิษแมงกะพรุนมานานกว่า 30 ป แต่ปญหาคือ 
ล่าสุดเมือปทีแล้วมีงานวิจัยข้างเคียงออกมาระบุว่า แม้นาส้มสายชูจะหยุดการ
ทํางานของเข็มพิษทียังไม่ยิงออกมา แต่จะทําให้พิษของเข็มทียิงออกมาแล้ว
ยิงรุนแรงขึนไปอีก นีเปนประเด็นทีถกเถียงกันมาอยู่ ฉะนันหากเอาให้ชัวร์
ทีสุดคือ ใช้นาทะเลล้าง แม้นาทะเลจะไม่มีคุณสมบัติในการยับยังเข็มพิษ แต่ก็
สามารถชะล้างเข็มออกจากตัวเราได้ 
 
 
   
วัตถุประสงค์ (สิงทีต้องการในการทําโครงงาน ระบุเปนข้อ) 
1.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกียวกับแมงกะพรุน 
2.ผู้ศึกษารู้จักการปองกันอันตรายจากแมงกะพรุน 
3.ผู้ศึกษารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบืองต้นเมือถูกพิษแมงกะพรุน หรือช่วยเหลือ
ผู้อืนจากพิษของแมงกะพรุน 
 
 
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงือนไขและข้อจํากัดของการทํา
โครงงาน) 
เผยแพร่ความรู้เกียวกับแมงกะพรุน และวิธีการปฐมพยาบาลทีถูกต้องแก่ผู้
ปวยทีโดนพิษแมงกะพรุน ทีจะนํามาซึงการพักฟนตัวของผู็ปวยในระยะเวลา
อันสัน และหายเปนปกติในทีสุด 
 
 
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีทีสนับสนุนการทําโครงงาน
) 
แมงกะพรุน หรือ กะพรุนจัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมไนดา
เรีย ไฟลัมย่อยเมดูโซซัว แบ่งออกเปนอันดับได้ 5 อันดับ ลักษณะลําตัวใสและ
นิมมีโพรงทําหน้าทีเปนทางเดินอาหารมีเข็มพิษทีบริเวณหนวดทีอยู่ด้านล่าง 
ไว้ปองกันตัวและจับเหยือ เมือโตเต็มวัย ส่วนประกอบหลักในลําตัวเปนนา
4
ร้อยละ 94-98 ด้านบนเปนวงโค้งคล้ายร่ม ด้านล่างตอนกลางเปนอวัยวะทํา
หน้าทีกินและย่อยอาหาร พบได้ในทะเลทุกแห่งทัวโลก 
แมงกะพรุนส่วนใหญ่จัดอยู่ในอันดับไซโฟซัว แต่ก็บางประเภททีอยู่ในอันดับ
ไฮโดรซัว อาทิ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส (Physalia physalis) ซึงเปน
แมงกะพรุนทีมีพิษร้ายแรงทีสุดในโลก และแมงกะพรุนอิรุคันจิ (Malo kingi) 
ทีอยู่ในอันดับคูโบซัว ก็ถูกเรียกว่าแมงกะพรุนเช่นกัน 
แมงกะพรุนพวกนีมีลักษณะรูปร่างเหมือนรูปถ้วนควา มีสีสันแตกต่างกันไป
แล้วแต่ชนิด ตังแต่สีขาวไปจนถึงสีเข้มและหลากสี มีหนวดหลายเส้นอยู่ส่วน
ล่างของลําตัวรูปถ้วยควา หนวดยาวสันแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของมัน 
แมงกะพรุนไฟ บางชนิดมีหนวดยาวเกือบ 10 เมตร พวกทีมีพิษร้ายแรงสังเกต
ดูได้ง่ายคือ ส่วนมากมักจะมีหนวดยาวรุ่มร่ามพบทัวไปทังบริเวณชายฝงและ
ทะเลลึก ปกติแมงกะพรุนจะต้องลอยตามกระแสนาไปเรือยๆ ว่ายนาได้ช้า
มาก ผู้ทีโดนมันส่วนมากมักจะว่ายนาไปถูกตัวมันเอง อันตรายทีได้รับจากสัตว์
พวกนีอยู่ทีเข็มพิษ หรือ เหล็กใน แต่ทีเกาะทะลุจะไม่ค่อยมีตัวเท่าไหร่ 
 
แมงกะพรุนทุกชนิดมีเหล็กไนทีมีนาพิษ (Venom) ฝงอยู่ตามผิวหนัง
ของหนวด (และลําตัวสําหรับบางชนิด) แต่ความร้ายแรงของนาพิษนันขึนอยู่
กับชนิดของมัน บางชนิดก็มีพิษน้อยไม่ถึงกับเปนอันตรายต่อมนุษย์ แต่บาง
ชนิดพิษร้ายแรงสามารถทําอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้โดยเฉพาะอย่างยิงพวก
แมงกะพรุนไฟ (Portuguese Man of War: Physalia sp.) 
พิษทีได้รับจากแมงกะพรุนจะมีอาการมากน้อยแค่ไหนขึนอยู่กับชนิด
ของสัตว์และบริเวณผิวหนังทีถูกเข็มพิษนันด้วย อาการทีเกิดขึนตอนทีถูกเข็ม
พิษคือ ทําให้บริเวณดังกล่าวเปนผืนแดงปวดแสบปวดร้อนตกเลือด เกิด
อาการชา รวมไปถึงอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นหน้าอกและเปนไข้ด้วย 
แม้ว่าบริเวณทีถูกเข็มพิษห่างจากบริเวณท้องก็ตาม บางรายอาจมีอาการท้อง
ร่วงสําหรับบริเวณทีถูกเข็มพิษนันมักจะเปนรอยแผลไหม้เหมือนไฟลวก ถ้าถูก
พิษมากบางคนร้ายแรงอาจจะมีอาการชักจนหมดสติได้ แต่ในจุดดํานาเกาะ
ทะลุ จะไม่ค่อยมีแมงกะพรุน 
เมือรู้ว่าถูกเข็มพิษของสัตว์พวกนีเข้าแล้ว ควรรีบขึนจากนาทะเลโดย
เร็วทีสุด ถ้าหากว่าถูกพิษมากจนไม่สามารถว่ายนาได้ จงควบคุมสติไว้แล้ว
พยายามพยุงตัวขึนฝง เสร็จแล้วเอานาจืดชะล้างบาดแผลโดยเร็วเพือให้นาจืด
ชะล้างเอาพวกพิษออกไป บางครังจะมีหนวดของมันขาดคิดมากับผิวหนังของ
ผู้เคราห์ร้าย อย่าใช้มือเปล่าหยิบออกเพราะพิษอาจจะถูกทีมืออีกก็ได้ ให้ใช้ 
ผ้า กระดาษ หรือใบไม้หยิบเอาหนวดออกทิงไป หรืออาจจะใช้ทรายถูออกก็ได้
เพราะว่าถ้าหากหนวดของมันยังติดอยู่ทีผิวหนัง มันจะยังคงยิงเข็มพิษออกมา
เรือยๆยิงทําให้อาการรุนแรงขึน ขึนต่อไปก็เอาอัลกอฮอล์หรือนามัน ทา
บริเวณบาดแผลเพียงเพือบรรเทาความปวดลง อาจะใช้ นาตาล สบู่ เหล้า 
5
นาส้มคัน แอมโมเนีย หรือ ใบผักบุ้งทะเลบดโปะลงบนบาดแผลก็ใช้ได้เช่นกัน 
การบําบัดรักษาจะได้ผลดีเมือกระทําโดยเร็วและถูกวิธี ควรรีบปรึกษาแพทย์ 
เพราะถ้ารักษาไม่ถูกวิธีแผลอาจจะเกิดการเน่าเปอยและติดเชือโรคจาก
ภายนอกได้ 
ตามทีเราทราบแล้วว่าพิษทีเกิดจากพวกนีก็เนืองมาจากถูกเข็มพิษ
ของมันทิมเข้าสู่ผิวหนังฉนันการปองกันทีดีก็คือการสวมเสือผ้าให้มิดชิดใน
ขณะทีเล่นนา หรือยู่ในนาทะเล เพราะว่าเข็มพิษของพวกนีมีโอกาสทีจะทิม
ทะลุเสือผ้าได้ยาก ตามธรรมดาจะพบพวกนีมากตอนช่วงปลายฤดูร้อนถึงต้น
ฤดูฝน โดยเฉพาะอย่างยิงตอนหลังฝนตกใหม่ๆ แม้ว่าหนวดของมันจะขาด
ออกจากตัวนานแล้วก็ตาม แม้กระทังในบางครังทีมันถูกคลืนซัดขึนมาบน
ชายหาดเปนเวลาหลายชัวโมงแต่เข้มพิษทีหนวดยังคงมีฤทธิอยู่ ดังนันจึงไม่
ควรทีจะไปแตะต้องตัวหรือหนวดของมันด้วยมือเปล่า การเตรียมยาพวกอัล
กอฮอล์ แอมโมเนียติดตัวไปด้วยขณะเดินทางไปเทียวชายทะเลเกาะทะลุจะ
เปนการดีอย่างยิง 
วิธีปองกันอันตรายจากแมงกะพรุนเบืองต้นสามารถทําได้ ดังนี 
1.เลือกเวลาทีเหมาะสมในการเล่นนาทะเล 
ตามสถิติแล้วมักพบแมงกะพรุนในช่วงเย็นหรือพลบคาถึงกลางคืน และช่วง
ฝนตกใหม่ๆ ดังนัน ควรงดการลงเล่นนาทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว 
2.ระมัดระวังสิงแปลกปลอมบนชายหาด 
บ่อยครังทีเรามักจะพบซากแมงกะพรุนเกยตืนอยู่บนพืนทรายชายหาด ซึงจะ
ดูคล้ายถุงพลาสติกมากๆ และแม้ตัวแมงกะพรุนอาจจะตายแล้ว แต่เซลเข็ม
พิษของมันยังคงทํางานได้ต่อไปอีกหลายชัวโมง ดังนัน ขณะเดินเล่นอยู่บน
ชายหาด พึงระมัดระวังการเหยียบโดนซากเหล่านี รวมทังคอยเตือนเด็กๆ 
ด้วย 
3.ใส่ชุดทีแนบสนิท คลุมร่างกายให้มิดชิด ใช้ผ้าเนือแน่น 
เพือปองกันทังแมงกะพรุนและหนวดแมงกะพรุน รวมถึงแตนทะเลทีอาจจะ
ลอยมาสัมผัสผิวหนังของเราได้ จึงมีคําแนะนําว่าชุดทีจะสวมใส่ในกิจกรรม
ทางทะเล ควรเปนชุดทีมีแขนขายาวมิดชิดปดคลุมร่างกายมากทีสุด แนบสนิท
กับร่างกายมากทีสุด (เพราะแม้แขนขาจะยาว แต่ถ้าหลวมมาก ก็จะมีช่องว่าง
ให้สิงต่างๆ ไหลผ่านเข้ามาได้อยู่ดี) และมีเนือผ้าแน่น 
 
 
 
 
 
 
 
6
วิธีดําเนินงาน  
 
แนวทางการดําเนินงาน 
ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในอินเทอร์เน็ตจากหลายๆแหล่งโดยใช้คอมพิวเตอร์
หรือโทรศัพท์มือถือ แล้วรวบรวมข้อมูลทีได้นํามาสรุป และนําไปเผยแพร่ต่อ
ไป 
 
เครืองมือและอุปกรณ์ทีใช้ 
-คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทีสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้ 
-ตัวกลางในการเผยแพร่ เช่น Facebook เปนต้น 
 
 
งบประมาณ 
- 
 
ขันตอนและแผนดําเนินงาน 
 
ลํา
ดับ 
ที 
ขันตอน  สัปดาห์ที  ผู้รับผิด
ชอบ 
1  2  3  4  5  6  7  8  9 
1
0 
1
1 
1
2 
1
3 
1
4 
1
5 
1
6 
1
7 
 
1  คิดหัวข้อโครง
งาน 
                                   
2  ศึกษาและ
ค้นคว้าข้อมูล 
                                   
3  จัดทําโครงร่าง
งาน 
                                   
4  ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน 
                                   
5  ปรับปรุงทดสอบ                                     
6  การทําเอกสาร
รายงาน 
                                   
7  ประเมินผลงาน                                     
8  นําเสนอโครง
งาน 
                                   
 
 
7
 
ผลทีคาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ทีต้องการให้เกิดขึนเมือสินสุดการทําโครงงาน) 
1. ผู้ศึกษาได้รับความรู้เกียวกับแมงกะพรุน  
2. ผู้ศึกษาตระหนักถึงความอันตรายของมัน  
3. ผู้ศึกษารู้วิธีการปองกัน และการปฐมพยาบาลจากพิษแมงกะพรุนทีถูกต้อง
และมีประสิทธิภาพ 
 
​สถานทีดําเนินการ 
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ทีเกียวข้อง 
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 
 
 
 
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทีนํามาใช้การทําโครงงาน) 
 
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%
87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8
%B8%E0%B8%99 
 
https://www.posttoday.com/politic/report/379991 

More Related Content

More from Pichnaree Suta (13)

Com
ComCom
Com
 
Computer project01
Computer project01Computer project01
Computer project01
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
J (1)
J (1)J (1)
J (1)
 
Work 3
Work 3Work 3
Work 3
 
2562 final-project 34-610
2562 final-project  34-6102562 final-project  34-610
2562 final-project 34-610
 
J
JJ
J
 
Work 2
Work 2Work 2
Work 2
 
Ohkjtg (1)
Ohkjtg (1)Ohkjtg (1)
Ohkjtg (1)
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
Ohkjtg
OhkjtgOhkjtg
Ohkjtg
 
2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22
 
Work
WorkWork
Work
 

2562 final-project 15-610

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์            รหัสวิชา ง33201 ชือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร 5  ปการศึกษา 2562              ชือโครงงาน  JELLYFISH            ชือผู้ทําโครงงาน  ชือ ธนรัตน์ คําภิละ เลขที 15 ชัน ม.6/10 ห้อง 10        ชืออาจารย์ทีปรึกษาโครงงาน ครูเขือนทอง มูลวรรณ์        ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที 1-2 ปการศึกษา 62        ​โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่  สํานักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 34     
  • 2. 2 ใบงาน  การจัดทําข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์    สมาชิกในกลุ่ม    นายธนรัตน์ คําภิละ เลขที 15      คําชีแจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี    ชือโครงงาน (ภาษาไทย)  แมงกะพรุน    ชือโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)    JELLYFISH    ประเภทโครงงาน โครงงานเพือการศึกษา    ชือผู้ทําโครงงาน นายธนรัตน์ คําภิละ    ชือทีปรึกษา ครูเขือนทอง มูลวรรณ์  ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที1-2 ปการศึกษา 62    ทีมาและความสําคัญของโครงงาน (อธิบายถึงทีมา แนวคิด และเหตุผล ของ การทําโครงงาน)  โครงงานนีจัดทําขึนเพือให้ผู้คนได้เรียนรู้เกียวกับสิงมีชีวิตทีเรียกว่า  แมงกะพรุน และตระหนักถึงภัยอันตรายเกียวกับแมงกะพรุน วิธีการปองกัน  ซึงศึกษาได้จากสายพันธุ์ ถินทีอยู่ และลักษณะนิสัยของมันในแต่ละสายพันธุ์  รวมไปถึงวิธีการรักษาเบืองต้นหากโดนพิษแมงกะพรุน จากข้อมูลของสํานัก ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคระบุว่าในช่วง 15 ปทีผ่านมา มีนักท่องเทียวได้ รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษขณะเล่นนาในทะเลไทยเข้ารับการรักษาทีโรง พยาบาลจํานวนกว่า 900 ราย ในจํานวนนีเสียชีวิต 12 ราย    ดร. ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ระบุว่า หากสัมผัสกับแมงกะพรุนพิษ อย่าใช้มือปดปายไปมา  เพราะจะยิงทําให้มือและแขนโดนหนวดแมงกะพรุนมากขึน ควรตังสติ เดิน ขึนฝงและรีบจัดการกับบริเวณร่างกายทีเกิดปญหา    "การนําเศษหนวดและเซลล์เข็มพิษออกจากผิวหนังเปนเรืองสําคัญสุด เซลล์ เข็มพิษพวกนีอาจติดอยู่ตามเสือผ้าชุดว่ายนาและยิงพิษไปเรือย เพราะฉะนัน 
  • 3. 3 หาทางถอดชุดพวกนันออก อย่าทิงไว้คาตัวผู้ปวย หากมีเศษหนวดติดอยู่ ต้อง รีบเอาออก แต่อย่าใช้มือสัมผัสโดยเด็ดขาด ใช้นาสาดใส่ หรือใช้กิงไม้เศษไม้ เขียออก หรือหากมีเครดิตการ์ด จะใช้ขูดออกก็ได้ ต้องทําอย่างระมัดระวัง"    คําถามทีหลายคนสงสัยคือ นาส้มสายชูใช้แก้พิษแมงกะพรุนได้จริงหรือ  ดร.ธรณ์บอกว่า นาส้มสายชูมีฤทธิเปนกรด เข็มพิษของเเมงกะพรุนทีติดอยู่ ตามตัวจะหยุดทํางานเมือเจอนาส้มสายชู ทังนีห้ามใช้นาจืดหรือนายาอะไร ก็ตามโดยเด็ดขาด ฤทธินาส้มสายชูจะไปสกัดไม่ให้เซลล์ยิงเข็มพิษ ทีผ่านมามี การใช้นาส้มสายชูจัดการกับพิษแมงกะพรุนมานานกว่า 30 ป แต่ปญหาคือ  ล่าสุดเมือปทีแล้วมีงานวิจัยข้างเคียงออกมาระบุว่า แม้นาส้มสายชูจะหยุดการ ทํางานของเข็มพิษทียังไม่ยิงออกมา แต่จะทําให้พิษของเข็มทียิงออกมาแล้ว ยิงรุนแรงขึนไปอีก นีเปนประเด็นทีถกเถียงกันมาอยู่ ฉะนันหากเอาให้ชัวร์ ทีสุดคือ ใช้นาทะเลล้าง แม้นาทะเลจะไม่มีคุณสมบัติในการยับยังเข็มพิษ แต่ก็ สามารถชะล้างเข็มออกจากตัวเราได้          วัตถุประสงค์ (สิงทีต้องการในการทําโครงงาน ระบุเปนข้อ)  1.ผู้ศึกษาได้ความรู้เกียวกับแมงกะพรุน  2.ผู้ศึกษารู้จักการปองกันอันตรายจากแมงกะพรุน  3.ผู้ศึกษารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบืองต้นเมือถูกพิษแมงกะพรุน หรือช่วยเหลือ ผู้อืนจากพิษของแมงกะพรุน      ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงือนไขและข้อจํากัดของการทํา โครงงาน)  เผยแพร่ความรู้เกียวกับแมงกะพรุน และวิธีการปฐมพยาบาลทีถูกต้องแก่ผู้ ปวยทีโดนพิษแมงกะพรุน ทีจะนํามาซึงการพักฟนตัวของผู็ปวยในระยะเวลา อันสัน และหายเปนปกติในทีสุด      หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีทีสนับสนุนการทําโครงงาน )  แมงกะพรุน หรือ กะพรุนจัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมไนดา เรีย ไฟลัมย่อยเมดูโซซัว แบ่งออกเปนอันดับได้ 5 อันดับ ลักษณะลําตัวใสและ นิมมีโพรงทําหน้าทีเปนทางเดินอาหารมีเข็มพิษทีบริเวณหนวดทีอยู่ด้านล่าง  ไว้ปองกันตัวและจับเหยือ เมือโตเต็มวัย ส่วนประกอบหลักในลําตัวเปนนา
  • 4. 4 ร้อยละ 94-98 ด้านบนเปนวงโค้งคล้ายร่ม ด้านล่างตอนกลางเปนอวัยวะทํา หน้าทีกินและย่อยอาหาร พบได้ในทะเลทุกแห่งทัวโลก  แมงกะพรุนส่วนใหญ่จัดอยู่ในอันดับไซโฟซัว แต่ก็บางประเภททีอยู่ในอันดับ ไฮโดรซัว อาทิ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส (Physalia physalis) ซึงเปน แมงกะพรุนทีมีพิษร้ายแรงทีสุดในโลก และแมงกะพรุนอิรุคันจิ (Malo kingi)  ทีอยู่ในอันดับคูโบซัว ก็ถูกเรียกว่าแมงกะพรุนเช่นกัน  แมงกะพรุนพวกนีมีลักษณะรูปร่างเหมือนรูปถ้วนควา มีสีสันแตกต่างกันไป แล้วแต่ชนิด ตังแต่สีขาวไปจนถึงสีเข้มและหลากสี มีหนวดหลายเส้นอยู่ส่วน ล่างของลําตัวรูปถ้วยควา หนวดยาวสันแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของมัน  แมงกะพรุนไฟ บางชนิดมีหนวดยาวเกือบ 10 เมตร พวกทีมีพิษร้ายแรงสังเกต ดูได้ง่ายคือ ส่วนมากมักจะมีหนวดยาวรุ่มร่ามพบทัวไปทังบริเวณชายฝงและ ทะเลลึก ปกติแมงกะพรุนจะต้องลอยตามกระแสนาไปเรือยๆ ว่ายนาได้ช้า มาก ผู้ทีโดนมันส่วนมากมักจะว่ายนาไปถูกตัวมันเอง อันตรายทีได้รับจากสัตว์ พวกนีอยู่ทีเข็มพิษ หรือ เหล็กใน แต่ทีเกาะทะลุจะไม่ค่อยมีตัวเท่าไหร่    แมงกะพรุนทุกชนิดมีเหล็กไนทีมีนาพิษ (Venom) ฝงอยู่ตามผิวหนัง ของหนวด (และลําตัวสําหรับบางชนิด) แต่ความร้ายแรงของนาพิษนันขึนอยู่ กับชนิดของมัน บางชนิดก็มีพิษน้อยไม่ถึงกับเปนอันตรายต่อมนุษย์ แต่บาง ชนิดพิษร้ายแรงสามารถทําอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้โดยเฉพาะอย่างยิงพวก แมงกะพรุนไฟ (Portuguese Man of War: Physalia sp.)  พิษทีได้รับจากแมงกะพรุนจะมีอาการมากน้อยแค่ไหนขึนอยู่กับชนิด ของสัตว์และบริเวณผิวหนังทีถูกเข็มพิษนันด้วย อาการทีเกิดขึนตอนทีถูกเข็ม พิษคือ ทําให้บริเวณดังกล่าวเปนผืนแดงปวดแสบปวดร้อนตกเลือด เกิด อาการชา รวมไปถึงอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นหน้าอกและเปนไข้ด้วย  แม้ว่าบริเวณทีถูกเข็มพิษห่างจากบริเวณท้องก็ตาม บางรายอาจมีอาการท้อง ร่วงสําหรับบริเวณทีถูกเข็มพิษนันมักจะเปนรอยแผลไหม้เหมือนไฟลวก ถ้าถูก พิษมากบางคนร้ายแรงอาจจะมีอาการชักจนหมดสติได้ แต่ในจุดดํานาเกาะ ทะลุ จะไม่ค่อยมีแมงกะพรุน  เมือรู้ว่าถูกเข็มพิษของสัตว์พวกนีเข้าแล้ว ควรรีบขึนจากนาทะเลโดย เร็วทีสุด ถ้าหากว่าถูกพิษมากจนไม่สามารถว่ายนาได้ จงควบคุมสติไว้แล้ว พยายามพยุงตัวขึนฝง เสร็จแล้วเอานาจืดชะล้างบาดแผลโดยเร็วเพือให้นาจืด ชะล้างเอาพวกพิษออกไป บางครังจะมีหนวดของมันขาดคิดมากับผิวหนังของ ผู้เคราห์ร้าย อย่าใช้มือเปล่าหยิบออกเพราะพิษอาจจะถูกทีมืออีกก็ได้ ให้ใช้  ผ้า กระดาษ หรือใบไม้หยิบเอาหนวดออกทิงไป หรืออาจจะใช้ทรายถูออกก็ได้ เพราะว่าถ้าหากหนวดของมันยังติดอยู่ทีผิวหนัง มันจะยังคงยิงเข็มพิษออกมา เรือยๆยิงทําให้อาการรุนแรงขึน ขึนต่อไปก็เอาอัลกอฮอล์หรือนามัน ทา บริเวณบาดแผลเพียงเพือบรรเทาความปวดลง อาจะใช้ นาตาล สบู่ เหล้า 
  • 5. 5 นาส้มคัน แอมโมเนีย หรือ ใบผักบุ้งทะเลบดโปะลงบนบาดแผลก็ใช้ได้เช่นกัน  การบําบัดรักษาจะได้ผลดีเมือกระทําโดยเร็วและถูกวิธี ควรรีบปรึกษาแพทย์  เพราะถ้ารักษาไม่ถูกวิธีแผลอาจจะเกิดการเน่าเปอยและติดเชือโรคจาก ภายนอกได้  ตามทีเราทราบแล้วว่าพิษทีเกิดจากพวกนีก็เนืองมาจากถูกเข็มพิษ ของมันทิมเข้าสู่ผิวหนังฉนันการปองกันทีดีก็คือการสวมเสือผ้าให้มิดชิดใน ขณะทีเล่นนา หรือยู่ในนาทะเล เพราะว่าเข็มพิษของพวกนีมีโอกาสทีจะทิม ทะลุเสือผ้าได้ยาก ตามธรรมดาจะพบพวกนีมากตอนช่วงปลายฤดูร้อนถึงต้น ฤดูฝน โดยเฉพาะอย่างยิงตอนหลังฝนตกใหม่ๆ แม้ว่าหนวดของมันจะขาด ออกจากตัวนานแล้วก็ตาม แม้กระทังในบางครังทีมันถูกคลืนซัดขึนมาบน ชายหาดเปนเวลาหลายชัวโมงแต่เข้มพิษทีหนวดยังคงมีฤทธิอยู่ ดังนันจึงไม่ ควรทีจะไปแตะต้องตัวหรือหนวดของมันด้วยมือเปล่า การเตรียมยาพวกอัล กอฮอล์ แอมโมเนียติดตัวไปด้วยขณะเดินทางไปเทียวชายทะเลเกาะทะลุจะ เปนการดีอย่างยิง  วิธีปองกันอันตรายจากแมงกะพรุนเบืองต้นสามารถทําได้ ดังนี  1.เลือกเวลาทีเหมาะสมในการเล่นนาทะเล  ตามสถิติแล้วมักพบแมงกะพรุนในช่วงเย็นหรือพลบคาถึงกลางคืน และช่วง ฝนตกใหม่ๆ ดังนัน ควรงดการลงเล่นนาทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว  2.ระมัดระวังสิงแปลกปลอมบนชายหาด  บ่อยครังทีเรามักจะพบซากแมงกะพรุนเกยตืนอยู่บนพืนทรายชายหาด ซึงจะ ดูคล้ายถุงพลาสติกมากๆ และแม้ตัวแมงกะพรุนอาจจะตายแล้ว แต่เซลเข็ม พิษของมันยังคงทํางานได้ต่อไปอีกหลายชัวโมง ดังนัน ขณะเดินเล่นอยู่บน ชายหาด พึงระมัดระวังการเหยียบโดนซากเหล่านี รวมทังคอยเตือนเด็กๆ  ด้วย  3.ใส่ชุดทีแนบสนิท คลุมร่างกายให้มิดชิด ใช้ผ้าเนือแน่น  เพือปองกันทังแมงกะพรุนและหนวดแมงกะพรุน รวมถึงแตนทะเลทีอาจจะ ลอยมาสัมผัสผิวหนังของเราได้ จึงมีคําแนะนําว่าชุดทีจะสวมใส่ในกิจกรรม ทางทะเล ควรเปนชุดทีมีแขนขายาวมิดชิดปดคลุมร่างกายมากทีสุด แนบสนิท กับร่างกายมากทีสุด (เพราะแม้แขนขาจะยาว แต่ถ้าหลวมมาก ก็จะมีช่องว่าง ให้สิงต่างๆ ไหลผ่านเข้ามาได้อยู่ดี) และมีเนือผ้าแน่น               
  • 6. 6 วิธีดําเนินงาน     แนวทางการดําเนินงาน  ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในอินเทอร์เน็ตจากหลายๆแหล่งโดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ แล้วรวบรวมข้อมูลทีได้นํามาสรุป และนําไปเผยแพร่ต่อ ไป    เครืองมือและอุปกรณ์ทีใช้  -คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทีสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้  -ตัวกลางในการเผยแพร่ เช่น Facebook เปนต้น      งบประมาณ  -    ขันตอนและแผนดําเนินงาน    ลํา ดับ  ที  ขันตอน  สัปดาห์ที  ผู้รับผิด ชอบ  1  2  3  4  5  6  7  8  9  1 0  1 1  1 2  1 3  1 4  1 5  1 6  1 7    1  คิดหัวข้อโครง งาน                                      2  ศึกษาและ ค้นคว้าข้อมูล                                      3  จัดทําโครงร่าง งาน                                      4  ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน                                      5  ปรับปรุงทดสอบ                                      6  การทําเอกสาร รายงาน                                      7  ประเมินผลงาน                                      8  นําเสนอโครง งาน                                         
  • 7. 7   ผลทีคาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ทีต้องการให้เกิดขึนเมือสินสุดการทําโครงงาน)  1. ผู้ศึกษาได้รับความรู้เกียวกับแมงกะพรุน   2. ผู้ศึกษาตระหนักถึงความอันตรายของมัน   3. ผู้ศึกษารู้วิธีการปองกัน และการปฐมพยาบาลจากพิษแมงกะพรุนทีถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ    ​สถานทีดําเนินการ  โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย    กลุ่มสาระการเรียนรู้ทีเกียวข้อง  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์        แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทีนํามาใช้การทําโครงงาน)    https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8% 87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8 %B8%E0%B8%99    https://www.posttoday.com/politic/report/379991