เต่ากาลาปากอส
- 2. สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง จาพวกเต่า จัดเป็นเต่าบกชนิดหนึ่งนับเป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มี
ลักษณะเด่น คือ กระดองหนา มีสีเทาเข้มจนถึงสีดา มีคอที่ยาวมากเพื่อใช้ในการหาอาหาร หัวมีขนาดเล็ก ตัวผู้มี
กระดองยาว 122 เซนติเมตร น้าหนักได้ถึง 250 กิโลกรัม ตัวเมียจะตัวเล็กกว่า กระดองยาว 91 เซนติเมตร
น้าหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 159 กิโลกรัม วางไข่ประมาณ 9-25 ฟอง
ไข่จะฟักในอุณหภูมิประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส
แต่จะเหลือลูกเต่าไม่ถึงครึ่งที่มีชีวิตรอดจากการวางไข่
แต่ละครั้งชอบอาศัยในที่พุ่มไม้เตี้ย ในบึง และเนินทรายชายฝั่ง
และมีอายุยืนได้นานมากกว่า 100 ปี หรือเกือบ ๆ 200 ปี
- 4. ปัจจุบัน มีเต่ายักษ์กาลาปาโกสอาศัยอยู่ในธรรมชาติประมาณ 20,000 ตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการอนุรักษ์
และขยายพันธุ์ จากที่เคยเหลืออยู่แค่ 3,000 ตัว เมื่อปี ค.ศ. 1974 จากการถูกรุกรานและฆ่าโดยมนุษย์ โดย
ศูนย์เพาะขยายพันธุ์ใหญ่ที่สุด คือ สถานีวิจัยชาร์ลส์ ดาร์วิน บนเกาะซานตาครูซ ของหมู่เกาะกาลาปา
โกส ซึ่งมีด้วยกันหลายจุด ครอบคลุมเต่ายักษ์กาลาปาโกสทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เกิดจนตาย เต่าวัยอ่อนอายุ
ไม่เกิน 2 ปี จะถูกดูแลเป็นอย่างดีให้พ้นจากศัตรูตามธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย โดยบนกระดองจะมีการ
แต้มสีต่าง ๆ เป็นจุด เพื่อเรียกแทนค่าหมายเลขประจาตัว ตามชนิดย่อยที่แตกต่างกันตามไปตามเกาะที่
เป็นแหล่งต้นกาเนิด ซึ่งเต่ายักษ์กาลาปาโกสจะอาศัยอยู่ที่นี่จนอายุได้ 4-6 ปี และผ่านการวัดขนาดความ
กระดองให้ได้ประมาณ 20-25 เซนติเมตร จึงถือว่าเติบโตได้ตามปกติ และนาไปปล่อยสู่แหล่งเลี้ยงที่มี
การจัดสภาวะแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด
- 5. ชื่อเสียงของหมู่เกาะนี้เริ่มต้นที่ลักษณะอันน่าแปลกของสัตว์บนเกาะต่าง ๆ นั่นเอง โดยเฉพาะเต่ายักษ์ เต่าเหล่านี้คาดว่ามี
อายุยืนที่สุดในบรรดาสัตว์โลกปัจจุบัน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้้าแทบจะไม่มีเลย สัตว์เลื้อยคลานมีน้อย ส่วนสัตว์บกท้องถิ่นมี
สัตว์ฟันแทะเพียง 7 ชนิด และค้างคาวอีก 2 ชนิด ส่วนนกบนเกาะเหล่านี้มีเพียง 80 ชนิดและชนิดย่อย นกที่พบมากที่สุด
(ไม่นับนกน้้า) คือนกฟินช์กาลาปาโกส หรือนกฟินช์ดาร์วิน นั่นเอง
สาเหตุที่สัตว์บนหมู่เกาะกาลาปาโกสเป็นที่น่าสนใจของนักวิทยาศาสตร์ ก็เพราะ 1) มีเปอร์เซ็นต์สัตว์ท้องถิ่นสูงมาก
2) สัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้พัฒนาเป็นชนิดย่อยของมันเองในแต่ละเกาะ 3) นกฟินช์กาลาปาโกสได้พัฒนาตนเองขึ้นหลายชนิด
จากบรรพบุรุษเดียวกัน โดยมีความแตกต่างส้าคัญที่จงอยปาก 4) มีสัตว์อื่นๆ อีกมากที่พัฒนาตัวเองโดยปรับตัวให้เข้ากับ
สภาพแวดล้อม เช่น อีกัวน่าทะเลที่ว่ายน้้าได้ จะกินพืชทะเลเป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีนกกาน้้าที่บินไม่ได้ 5) เต่ายักษ์ที่เคย
แพร่พันธุ์บนทวีป แต่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว เหลืออยู่เพียงบนเกาะขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ในเขตแอนตาร์
กติก เช่นเพนกวิน และแมวน้้าขนเฟอร์ ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะเหล่านี้เคียงข้างกับสัตว์เขตร้อนได้